ลำดับตอนที่ #5
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : ไม่อ่านก็ได้ไม่เป็นไร
เขียนมาเพื่อระบายอารมณ์ ไม่อ่านก็ได้ค่ะ
ความจริงแล้วฉันไม่ควรเผาเพื่อนนะ
แต่ขอสักครั้งก็ยังดี
วันนี้ฉันนั่งอยู่บนห้อง อยู่ๆก็มีเพื่อนคนหนึ่งร้องไห้โฮขึ้นมาบนห้อง ฉันมองหน้าเขาสักพักแต่ก็อดที่จะถามไม่ได้
\" เป็นอะไรเหรอ ( ชื่ออะไรดีล่ะเอาเป็นว่า ลีลี่ก็แล้วกัน ) ลีลี่ ( นามสมมุติ ) \"
\" มีแต่คนด่าเรา \"
\" ด่าอะไรแกล่ะ \" แล้วฉันก็ไปหยอกกับเพื่อนบริเวณนั้น โอเค ฉันไม่ค่อยใส่ใจเพื่อนคนนี้สักเท่าไหร่ เพราะเขาร้องไห้บ่อยมากๆ
\" แกดูแมะ เขาน่ะจ่ายตังค์ค่ากีฬาสีเป็นร้อยเพื่อซื้อน้ำไปให้พวกมันกิน( ฉันก็ยังงงว่ามันจะจ่ายอะไรนักหนา ) แล้วน้องเขามาเทน้ำทิ้ง บีบแก้วเล่น พอเขาด่ามัน พวกไอ้ มา ( นามสมมุติ ) ก็มารุมด่าเรามันมาบอกว่าเราไม่จ่าย เราจนเสียเงินวันหนึ่งเกือบสองร้อยแกดูมัน \"
อย่างนี้เขาเรียกว่าด่าไม๊นี่
\" ช่างมันเถอะเรื่องแค่นี้ไม่เห็นต้องหงุดหงิดเลย \" แล้วเพื่อนข้างๆมันก็พยักหน้าเป็นเชิงเห็นด้วย
\" ก็เราไม่ชอบให้ใครมาด่า ถ้ามีคนมาด่าแก แกจะรู้สึกยังไง \"
ขอบคุณมันมั๊ง ( เคยแล้วครั้งนึง ไอ้คนที่ด่าเงียบไปเลย )
\" ก็เฉยๆคิดว่าหมามันด่า \"
\" แกเฉยๆแต่เราไม่ชอบ เราสู้อุตส่าห์ซื้ออะไรให้มันกิน ออกอะไรตั้งเยอะแยะแล้วแกดูมันออกอะไรบ้าง แล้วมันมาด่า แกเจ็บใจบ้างไม๊ล่ะ \"
แค่มันพูดแค่นั้นฉันนิ่งไปชั่งครู่ย้อนนึกถึงเรื่องราวเมื่อนานมาแล้ว ทำไมจะไม่เคยล่ะ เราโดนด่าเละกว่าแกอีก อย่างแกไม่ได้เรียกว่าด่าด้วยซ้ำ
เมื่อชั่วโมงวิทยาศาสตร์เอาเป็นว่านานมาแล้ว ( น่าจะประมาณ ป. 5 ได้ ) คุณครูแจกแจงให้ทำรายงานเป็นรายงานกลุ่ม เราค่อยๆแยกแยะกันว่าจะหาข้อมูลเรื่องอะไรกัน ฉันได้หาข้อมูลเรื่องเด็กวัยแรกเกิด ฉันตั้งใจทำอย่างเต็มที่ พยายามทำให้ดีที่สุด และฉันรู้ว่าต้องมีใครลืมทำมาแน่ๆฉันก็เลยเตรียมมาให้ ปรากฎว่าที่ฉันคาดไว้ถูกเผง แต่หัวหน้ากลุ่มมองงานของฉันมองหน้าฉันก็ที่จะ
\" ไอ้โง่ \" ฉันอึ้ง
เอ๊ะ มันอะไรกัน
\" เรื่องแค่นี้ไม่มีปัญญาคิดเองเหรอ ทำไมไม่ทำใส่กระดาษลวดลาย ดูคนอื่นเขาทำหน่อย \"
พูดเป็นเล่น คนอื่นเขาขอกระดาษแก รูปภาพฉันไม่ใช่เหรอ
\" โง่จริงๆโง่เหมือน ... \" แล้วมันก็ด่าสารพัด ความจริงแล้วฉันมันก็คนอ่อนไหวง่ายอยู่แล้ว แต่หูชาก็เสียงด่า พอมีคนด่าก็แค่ยักไหล่เฉยๆ
แล้วไอ้คนที่ฉันอุตส่าห์เตรียมรูปมาให้ ฉันลืมไปว่าไอ้นี่ปากหมา ถ้าฉันรู้คงเอานิคยาสารที่ให้มันไปเผาแล้ว มันมาร่วมจนยับเยิน
คุณเดาถูกรึเปล่า ฉันร้องไห้... แต่กลายเป็นว่าฉันสำออย
\"  อย่าสำออยนักเลยน่า แค่นี้ก็ร้องไห้แล้ว \" อย่างที่ฉันบอกฉันเป็นคนอ่อนไหวง่าย
อย่างน้อยฉันก็ไม่ร้องไห้โฮเท่ายัยลีลี่ และไม่คิดมาทำแบบมันด้วย
เพื่อนเกือบทั้งห้องพากันถาม
\" ร้องไห้ทำไม \" มันก็ยังอดทนเล่าซ้ำๆอย่างนี้ตั้งหลายรอบ พอมีคนมาปลอบใจ มันก็เริ่มเล่าวกไปวกมาให้ยืดเยื้อเป็นครึ่งชั่วโมงอยู่ๆมันก็ถาม
\"มีใครมีคัตเตอร์ไม๊ \" มันชักยังไง ยังไง
จะเอาคัตเตอร์มาทำป่ะเหรอ ฉันก็คิดอะไรติดตลกอย่างนี้แหละ
ที่ฉันคิดอันดับแรก
1. คงเอาไปทำงานประดิษฐิ์ ( 30 เปอร์เซน )
2. คงจะเอาไปขีดโต๊ะระบายอารมณ์ ( 50 เปอร์เซน )
3. กรีดข้อมือตัวเอง ( ชอบคิดอะไรเหมือนในหนัง 20 เปอร์เซน )
แล้วมันก็คุ้ยโต๊ะไอ้ ปัน ( นามสมมุติ ) เพื่อจะเอาคัตเตอร์ให้ได้
เหมือนหมาคุ้ยถังขยะหาของกินไม่มีผิด
ฉันเริ่มงง ว่ามันจะรีบร้อนเอาคัตเตอร์อะไรนักหนา บังเอิญวันนี้ไอ้ปันไม่ได้เอาคัตเตอร์มา มันก็ยิ่งร้องให้โฮมากขึ้น
\" ขอร้องเถอะใครก็ได้เอาคัตเตอร์ให้เค้าที \"
แล้วก็มีเพื่อนคนหนึ่งยื่นคัตเตอร์ไปให้ ความจริงแล้วฉันควรจะจับตาลีลี่ แต่ฉันกลับไปหยอก เพื่อนคนนั้นเล่น
\" มีอะไรเหรอ ยัยตะแคงรั่ว \" ( ฉันชอบเรียกเพื่อนคนนี้อย่างนี้ เพราะเขาเป็นคนที่ชอบเก็บคำนินทาไปเล่าให้เจ้าตัวฟังจนเกิดเหตุทะเลาะกัน )
แค่มันพูดประโยคต่อไปนี้ล่ะ ฉันเริ่มรู้สึกว่าเพื่อนคนนี้เป็นคนเก็บกดเกินกว่าที่จะคบได้ ความคิดที่ 3 ของฉันถูงเผง
\" เค้าอยากออกจากโรงเรียนนี้ ไม่อยากอยู่ห้องนี้ อยากไปจากโลกนี้ \" แล้วมันก็เอาคัตเตอร์ดันเข้าที่ข้อมือตัวแต่
แทนที่ฉันก็ตกใจ กลายเป็นว่าฉันยิ้มค้าง ( ก็ฉันมันเป็นคนที่อารมณ์ดีได้ตลอดเวลานี่นา ) เพื่อนคนอื่นๆรีบดึงคัตเตอร์ออกกันจ้าระหวั่น
\" ลืมไปบอกครูเร็ว \" ฉันพูดแค่นั้นแหละ ฉันมองเพื่อนคนนี้
\" อย่างไอ้ลีลี่มันไม่ตายหรอก เพราะคัตเตอร์มันไม่คม \"
และหนังมันก็เหนียวด้วย ฉันคิดในใจ แต่ก็มีอีกหลายอย่างที่ฉันคิด
1. ฉันเอือมระอามันสุดจะทน
2. มันเรียกร้องความสนใจมากเกินไป
3. ถ้าฉันอยากตายจริงๆคงกระโดดหน้าต่างเรียบร้อยแล้ว ทำไมไม่ทำเสียล่ะ
4.ไม่เจ็บบ้างหรือไง
ขอระบายแค่นี้แหละค่ะ ขอบคุณที่อ่านจนจบ
ความจริงแล้วฉันไม่ควรเผาเพื่อนนะ
แต่ขอสักครั้งก็ยังดี
วันนี้ฉันนั่งอยู่บนห้อง อยู่ๆก็มีเพื่อนคนหนึ่งร้องไห้โฮขึ้นมาบนห้อง ฉันมองหน้าเขาสักพักแต่ก็อดที่จะถามไม่ได้
\" เป็นอะไรเหรอ ( ชื่ออะไรดีล่ะเอาเป็นว่า ลีลี่ก็แล้วกัน ) ลีลี่ ( นามสมมุติ ) \"
\" มีแต่คนด่าเรา \"
\" ด่าอะไรแกล่ะ \" แล้วฉันก็ไปหยอกกับเพื่อนบริเวณนั้น โอเค ฉันไม่ค่อยใส่ใจเพื่อนคนนี้สักเท่าไหร่ เพราะเขาร้องไห้บ่อยมากๆ
\" แกดูแมะ เขาน่ะจ่ายตังค์ค่ากีฬาสีเป็นร้อยเพื่อซื้อน้ำไปให้พวกมันกิน( ฉันก็ยังงงว่ามันจะจ่ายอะไรนักหนา ) แล้วน้องเขามาเทน้ำทิ้ง บีบแก้วเล่น พอเขาด่ามัน พวกไอ้ มา ( นามสมมุติ ) ก็มารุมด่าเรามันมาบอกว่าเราไม่จ่าย เราจนเสียเงินวันหนึ่งเกือบสองร้อยแกดูมัน \"
อย่างนี้เขาเรียกว่าด่าไม๊นี่
\" ช่างมันเถอะเรื่องแค่นี้ไม่เห็นต้องหงุดหงิดเลย \" แล้วเพื่อนข้างๆมันก็พยักหน้าเป็นเชิงเห็นด้วย
\" ก็เราไม่ชอบให้ใครมาด่า ถ้ามีคนมาด่าแก แกจะรู้สึกยังไง \"
ขอบคุณมันมั๊ง ( เคยแล้วครั้งนึง ไอ้คนที่ด่าเงียบไปเลย )
\" ก็เฉยๆคิดว่าหมามันด่า \"
\" แกเฉยๆแต่เราไม่ชอบ เราสู้อุตส่าห์ซื้ออะไรให้มันกิน ออกอะไรตั้งเยอะแยะแล้วแกดูมันออกอะไรบ้าง แล้วมันมาด่า แกเจ็บใจบ้างไม๊ล่ะ \"
แค่มันพูดแค่นั้นฉันนิ่งไปชั่งครู่ย้อนนึกถึงเรื่องราวเมื่อนานมาแล้ว ทำไมจะไม่เคยล่ะ เราโดนด่าเละกว่าแกอีก อย่างแกไม่ได้เรียกว่าด่าด้วยซ้ำ
เมื่อชั่วโมงวิทยาศาสตร์เอาเป็นว่านานมาแล้ว ( น่าจะประมาณ ป. 5 ได้ ) คุณครูแจกแจงให้ทำรายงานเป็นรายงานกลุ่ม เราค่อยๆแยกแยะกันว่าจะหาข้อมูลเรื่องอะไรกัน ฉันได้หาข้อมูลเรื่องเด็กวัยแรกเกิด ฉันตั้งใจทำอย่างเต็มที่ พยายามทำให้ดีที่สุด และฉันรู้ว่าต้องมีใครลืมทำมาแน่ๆฉันก็เลยเตรียมมาให้ ปรากฎว่าที่ฉันคาดไว้ถูกเผง แต่หัวหน้ากลุ่มมองงานของฉันมองหน้าฉันก็ที่จะ
\" ไอ้โง่ \" ฉันอึ้ง
เอ๊ะ มันอะไรกัน
\" เรื่องแค่นี้ไม่มีปัญญาคิดเองเหรอ ทำไมไม่ทำใส่กระดาษลวดลาย ดูคนอื่นเขาทำหน่อย \"
พูดเป็นเล่น คนอื่นเขาขอกระดาษแก รูปภาพฉันไม่ใช่เหรอ
\" โง่จริงๆโง่เหมือน ... \" แล้วมันก็ด่าสารพัด ความจริงแล้วฉันมันก็คนอ่อนไหวง่ายอยู่แล้ว แต่หูชาก็เสียงด่า พอมีคนด่าก็แค่ยักไหล่เฉยๆ
แล้วไอ้คนที่ฉันอุตส่าห์เตรียมรูปมาให้ ฉันลืมไปว่าไอ้นี่ปากหมา ถ้าฉันรู้คงเอานิคยาสารที่ให้มันไปเผาแล้ว มันมาร่วมจนยับเยิน
คุณเดาถูกรึเปล่า ฉันร้องไห้... แต่กลายเป็นว่าฉันสำออย
\"  อย่าสำออยนักเลยน่า แค่นี้ก็ร้องไห้แล้ว \" อย่างที่ฉันบอกฉันเป็นคนอ่อนไหวง่าย
อย่างน้อยฉันก็ไม่ร้องไห้โฮเท่ายัยลีลี่ และไม่คิดมาทำแบบมันด้วย
เพื่อนเกือบทั้งห้องพากันถาม
\" ร้องไห้ทำไม \" มันก็ยังอดทนเล่าซ้ำๆอย่างนี้ตั้งหลายรอบ พอมีคนมาปลอบใจ มันก็เริ่มเล่าวกไปวกมาให้ยืดเยื้อเป็นครึ่งชั่วโมงอยู่ๆมันก็ถาม
\"มีใครมีคัตเตอร์ไม๊ \" มันชักยังไง ยังไง
จะเอาคัตเตอร์มาทำป่ะเหรอ ฉันก็คิดอะไรติดตลกอย่างนี้แหละ
ที่ฉันคิดอันดับแรก
1. คงเอาไปทำงานประดิษฐิ์ ( 30 เปอร์เซน )
2. คงจะเอาไปขีดโต๊ะระบายอารมณ์ ( 50 เปอร์เซน )
3. กรีดข้อมือตัวเอง ( ชอบคิดอะไรเหมือนในหนัง 20 เปอร์เซน )
แล้วมันก็คุ้ยโต๊ะไอ้ ปัน ( นามสมมุติ ) เพื่อจะเอาคัตเตอร์ให้ได้
เหมือนหมาคุ้ยถังขยะหาของกินไม่มีผิด
ฉันเริ่มงง ว่ามันจะรีบร้อนเอาคัตเตอร์อะไรนักหนา บังเอิญวันนี้ไอ้ปันไม่ได้เอาคัตเตอร์มา มันก็ยิ่งร้องให้โฮมากขึ้น
\" ขอร้องเถอะใครก็ได้เอาคัตเตอร์ให้เค้าที \"
แล้วก็มีเพื่อนคนหนึ่งยื่นคัตเตอร์ไปให้ ความจริงแล้วฉันควรจะจับตาลีลี่ แต่ฉันกลับไปหยอก เพื่อนคนนั้นเล่น
\" มีอะไรเหรอ ยัยตะแคงรั่ว \" ( ฉันชอบเรียกเพื่อนคนนี้อย่างนี้ เพราะเขาเป็นคนที่ชอบเก็บคำนินทาไปเล่าให้เจ้าตัวฟังจนเกิดเหตุทะเลาะกัน )
แค่มันพูดประโยคต่อไปนี้ล่ะ ฉันเริ่มรู้สึกว่าเพื่อนคนนี้เป็นคนเก็บกดเกินกว่าที่จะคบได้ ความคิดที่ 3 ของฉันถูงเผง
\" เค้าอยากออกจากโรงเรียนนี้ ไม่อยากอยู่ห้องนี้ อยากไปจากโลกนี้ \" แล้วมันก็เอาคัตเตอร์ดันเข้าที่ข้อมือตัวแต่
แทนที่ฉันก็ตกใจ กลายเป็นว่าฉันยิ้มค้าง ( ก็ฉันมันเป็นคนที่อารมณ์ดีได้ตลอดเวลานี่นา ) เพื่อนคนอื่นๆรีบดึงคัตเตอร์ออกกันจ้าระหวั่น
\" ลืมไปบอกครูเร็ว \" ฉันพูดแค่นั้นแหละ ฉันมองเพื่อนคนนี้
\" อย่างไอ้ลีลี่มันไม่ตายหรอก เพราะคัตเตอร์มันไม่คม \"
และหนังมันก็เหนียวด้วย ฉันคิดในใจ แต่ก็มีอีกหลายอย่างที่ฉันคิด
1. ฉันเอือมระอามันสุดจะทน
2. มันเรียกร้องความสนใจมากเกินไป
3. ถ้าฉันอยากตายจริงๆคงกระโดดหน้าต่างเรียบร้อยแล้ว ทำไมไม่ทำเสียล่ะ
4.ไม่เจ็บบ้างหรือไง
ขอระบายแค่นี้แหละค่ะ ขอบคุณที่อ่านจนจบ
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น