ผู้เข้าชมรวม
1,330
ผู้เข้าชมเดือนนี้
3
ผู้เข้าชมรวม
แท็กนิยาย
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
Behind the maze
Pairing : Minho x Thomas
From : maze runner
“โทมัสสส เร็วเข้า!!”
ผมตะโกนสุดเสียงเหมือนเด็กตัวเล็กๆ ความรคู้สึกเหมือนหัวใจกำลังเต้นจนมันกำลังจะกระเด็นออกมาจากอก พร้อมภาพเหลือเชื่อตรงหน้าที่พึ่งจะเกิดขึ้นเมื่อไม่กี่วินาทีที่ผ่านมา
ผมมินโฮ
หัวหน้าทีมสำรวจเขาวงกต
ผมมองภาพโทมัสวิ่งผ่านกำแพงที่กำลังเคลื่อนที่เข้าหากันมันแคบลงลงเรื่อยๆจนพอดีตัวเขา ภาพทุกอย่างเหมือนภาพสโลว์โมชั่น เส้นผมของเขาปลิวไปทิศทางตรงกันข้ามที่เขาวิ่งมาทางผม เรียวขายาวสาวเท้าวิ่งอย่างสุดฝีเท้าโดยมีสัตว์ประหลาดที่พวกผมเรียกมันว่า กรีฟเวอร์ ไล่ตามมาติดๆ ทุกอย่างมันกระชั้นชิด ทั้งกำแพงที่กำลังจะแนบสนิทกัน ทั้งกรีฟเวอร์ที่วิ่งไล่โทมัสมา มันทำให้ผมไม่สามารถลืมตาได้ต่อ
“โทมัสสสสสสสส”
ตัวของผมแข็งถือเกรงไปทุกส่วน หัวใจเต้นพร้อมกับความกลัวในการจะต้องลืมตาขึ้นมา แต่ก่อนที่ผมจะได้ทันทำอะไร เสียงกำแพงก็ปิดตัวลงตามมาก้วยเสียงดังแกรกเหมือนกระดูกหักหรืออะไรหักซักอย่าง มันให้ความรู้สึกผวาและน่าขนลุกมากพอจะทำให้ผมคิดว่า ‘มีใครตายรึเปล่านะ?’ ขึ้นมาเลยทีเดียว
ด้วยคำถามนั้น...ผมลืมตาขึ้น
สิ่งแรกที่ผมเห็นคือซากกรีฟเวอร์ เนื่องจากว่ามันเป็นเมมือนยมฑูตลึกลับที่พรากชีวิตทุกคนที่เห็นมันทำให้ไม่มีใคร
รอดชีวิตกลับมาเล่า ทำให้นี่เป็นครั้งแรกที่ผมเห็นมันแบบชัดๆเต็มตา
กรีฟเวอร์ที่ผมเห็นตอนนี้เละเทะไม่เหลือเค้าเดิมของอสูรกายที่วิ่งไล่ล่าผมกับโทมัสเลยแม้แต่น้อย สภาพของมันเหมือนกับแมงมุมที่โดนประตูหนีบตายคาที่จนแบนเพียงแต่มันใหญ่กว่ามากและมีเครื่องในและน้ำเมือเหนียวหนืดสีเขียวเอเลี่ยนทะลักออกมาร่วมด้วย
ผมมองภาพตรงหน้าด้วยความรู้สึกสะอิดสะเอียน
แต่ทว่ามีความภูมิใจปะปนอยู่มากกว่า....
โทมัส...คนที่ผมเรียกเมื่อกี้ เขาปลอดภัยดี แถมไม่บาดเจ็บด้วย มันฟังเหมือนนิยายที่ว่าเขาพึ่งเข้ามาในค่ายนี้ไม่ถึงเดือนแต่เขากลับเอาตัวรอดได้ขนาดนี้ ผมบอกตามตรงว่าผมทึ่งจนพูดไม่ออก แต่บางทีผมก็นึกสงสัยว่าเขานั้นเป็นคนกล้าหาญ หรือบ้าดีเดือดกันแน่?
โทมัสไม่พูดอะไร เขาเพียงแต่ยืนหอบตัวโยนพลางมองผลงาน ศพกรีฟเวอร์ที่เขาฆ่าเองกับมือ เสื้อแขนยาวสีฟ้าเทาของเขาเต็มไปด้วยคราบดินโคลนเหมือนกับผม เขาพ่นลมออกทางปากอย่างโล่งอกและสะใจไปพร้อมๆกันแล้วหันมามองหน้าผม ผมเองก็มองเขาตอบ
“วิ่งเร็วดีนี่ น้องใหม่”ผมยิ้มพลางตบบ่าเขาเบาๆ “สนใจเป็นนักวิ่งมั้ยล่ะ”
“เรียกฉัยว่าโทมัสเถอะ”โทมัสส่ายหน้าแล้วยิ้มก่อนจะเท้าสะเอวมองผมราวกับต้องการจะย้ำความคิดของเขา
“แล้วก็หวังว่าที่นายชวนฉัน..จะไม่ได้ล้อเล่นนะ”
ผมกลอกตาไปทางเขาเป็นเชิงว่าแน่นอนสิ แล้วเราก็หัวเราะออกมาพร้อมกันก่อนที่ผมจะมองขึ้นไปยังท้องฟ้ายามค่ำคืนแล้วกวาดตามองไปรอบๆ ทั้งกำแพงคอนกรีตสูงเสียดฟ้าที่เต็มไปด้วยวัชพืชใบหนาสีเขียวเข้ม ที่นี่เต็มไปด้วยกลิ่นของปูน ความท้าทาย และความตาย
ต้องดิ้นรน....
แต่ยิ่งดิ้นมันก็ยิ่งบีบคั่น
ผมรู้สึกสิ้นหวังอย่างบอกไม่ถูก
มีคนในค่ายเคยบอกผมว่า..ไม่มีใครเคยรอดจากค่ำคืนในเขาวงกต...
ตอนผมกับโทมัสก็เหมือนตายไปแล้ว..
นี่ผมต้องมาตายที่นี่อย่างนั้นหรอ?..
กึก...กึก
ผมหันไปตามเสียงประหลาดนั่นก่อนจะเห็นโทมัสกำลังปีนขึ้นไปตามกำแพง
“เฮ้”ผมตะโกนเรียกเขาให้ดังพอจะเรียกเขาให้หันมาก่อนจะอ้าแขนออกแล้วย่นคิ้ว "นายทำอะไรน่ะ?"
“ฉันก็แค่ไม่อยาก...”เขาเว้นคำระหว่างเพ่งสมาธิไปยังเถาวัลย์ที่เขาเกาะแล้วปีนสูงขึ้นไปก่อนจะพูดต่อ“ไม่อยาก
ระแวงพวกกรีฟเวอร์เวลานอนน่ะ.
เมื่อเขาพูดจบเขาก็ปีนต่อไป
พูดได้คำเดียวว่าหมอนี่มันแปลกดีจริงๆ
-----------------------------------
ไม่รู้เวลาผ่านไปนานเท่าไหร่หรือว่าใกล้เช้ารึยัง
ผมกับโทมัสนั่งอยู่บนจุดสูงสุดของกำแพงเขาวงกต
ความเงียบที่น่าอึดอัดเข้าครอบงำระหว่างเราอยูพักใหญ่จนกระทั้ง...
“มินโฮ”
“หืม??”
โทมัสจ้องหน้าผมแวบนึงก่อนจะพูดต่อ “อัลบี้..จะโอเคมั้ย?”
ผมกัดริมฝีปากเมื่อได้ยินคำถามนั้น แน่นอนว่าผมเป็นห่วงอัลบี้พอๆกับที่โทมัสเป็นห่วงเขา แต่ผมเองก็ไม่แน่ใจนักว่าสถานการณ์ตอนนี้มันเป็นยังไง
“ก็หวังว่าเขาจะโอเคนะ”
โทมัสพ่นลมออกมาเล็กน้อยก่อนจะยักไหล่เป็นเชิงว่านั่นสินะ ผมมองเขาอีกครั้ง ดวงตาค้นั้นของเขามองขั้นไปบนท้องฟ้า มันเต็มไปด้วยความสงสัยใคร่รู้และเต็มเปี่ยมไปด้วยพลังและความกระตือรือร้น
ไม่รู้ทำไม..แต่เขาทำให้ผมหวัง...
บางที..พวกเราอาจะรอดออกไปจากที่นี่พรุ่งนี้ก็ได้
“นี่..โทมัส”
“ว่างมินโฮ”
“ถ้าพรุ่งนี้เราไม่รอดไปจากที่นี่...”
ผมเว้นคำให้เขาได้คิดก่อนจะพูดต่อ“ถ้าวันนี้เป็นวันสุดท้ายของชีวิต นายจะทำอะไร”
โทมัสหัวเราะเบาๆก่อนจะส่ายหวัแล้วตบบ่าผม เขามองตาผมแพลางฉีกยิ้มบางๆ
“พวกเราต้องตาย”เขาว่าด้วยรอยยิ้ม
รอยยิ้มที่ความกระตือรือร้นฆ่าความกลัวจนหมดสิ้น...
“แต่ไม่ใช่พรุ่งนี้”
มือเล็กๆของเขาบีบไหล่ของผมเบาๆคล้ายกำลังปลอบโยนและปลุกใจไปพร้อมๆกัน
เราสองคนมองหน้ากันอีกครั้ง ผมมีความรู้สึกมันจะแตกต่างจากทุกครั้งที่ผ่านมา ผมรู้ตัวว่ามองหน้าเขานานเกินไปแล้วแต่ผมก็ยังมองเขาอยู่แบบนั้น แม้นี่จะไม่ใช่ครั้งแรกที่เรามองหน้ากัน แต่ผมไม่เคยเห็นหน้าเขาใกล้ขนาดนี้มาก่อนเลย ผมไล่มองใบหน้าของเขาไล่ลงไปเรื่อยๆ..
ทำไมดวงตาของผู้ชายคนนึถึงน่ามองได้ขนาดนี้?
ทำไมผิวของเขาถึงได้ขาวเนียนขนาดนี้?
ทำไมร่างของอรชรของเขาถึงแข็งแกร่งได้เพียงนี้?
“มินโฮ?”
เสียงของมินโฮปลุกผมจะภวังค์ความติดทำเอาผมสะดุ้งแบบสุดๆ
“อ่ะ..หา..ห้ะ?”
“นายโอเคนะ?.
“อ่อ..อืม..ฉันโอเค”
ตึกจัก..ตึกตัก...
ให้ตายเหอะ..ทำไมมันร้อนขนาดนี้นะ..
ผมเหล่ไปมองโทมัส เขาเลิ่กคิดขึ้นประมานว่าแน่ใจหรอว่านายโอเค ผมพยายามเมินความร้อนที่ใบหน้าและความรู้สึกหน้าอายนั่นแล้วยิ้มพลางตบที่ต้นแขนเขาอย่างจัง
“โอ้ย”โทมันร้องลั่นพลางนิ่วหน้าด้วยความเจ็บปวด ผมมองเขาด้วยความตกใจ มือทั้งสองลอยอยู่บนอากาสแต่ทำอะไรไม่ได้ และแล้วผมก็นึกได้ว่าผมหนีกรีฟเวอรืออกมาตอนแรกโดยปล่อยเขาทิ้งไว้ตรงนั้น ไม่แน่ว่าอาจจะมีอะไรเกิดขึ้นกับเขาก้ได้
“เฮ้..โทษทีนะ..นายเจ็บมากรึเปล่า”ผมจับต้นแขนเขาอย่างเบามือแล้วลูบมันเบาๆ พลางมองหน้าเพื่อสังเกตอาการเขาว่าเขาโอเครึเปล่า
“อืม..นิดหน่อยน่ะ..ช่างมันเถอะ”เขายิ้มก่อนจะพยายามดึงแขนของเขาออกจากผมแต่ว่าผมรั้งเอาไว้ทัน
”ไม่เอาน่า..นายอย่าพึ่งดื้อได้มั้ยโทมัส”ผมจ้องหน้าเขาพลางปรามเขาเสียงเข้มก่อนจะก้มดูต้นแขนเขาอีกครั้ง“...ไหนๆดูสิว่าเป็นอะไรรึเปล่า...”
“เถอะน่ามินโฮ..ฉันโอเค...!!”
โทมัสดิ้นไปมาก่อนที่เขาจะหลุดจากมือผม ร่างเขาเขาเสียสมโดนทำให้หงายไปด้านหลังจนแทบตกจากกำแพง ผมเห็นดังนั้นก็รีบสไลด์ตัวไปรับเขาเอาไว้ในอ้อมแขนในท่าเจ้าชายประคองเจ้าหญิงได้อย่างหวุดหวิด ดวงตาของเราประสาน ณ ตำแน่งของร่างกาย
ความรู้สึกแปลกๆตอนแรกปะทุขึ้นในอกผมอีกครั้ง..แต่ทว่าแรงกว่าเดิมมาก
หัวใจมันเต้นเร็วและแรงมากจนผมหายใจลำบาก
ยิ่งโทมัสเบียดตัวผมแบบนี้มันก็ยิ่งหนักขึ้น
นี่ผมเป็นอะไรไปนะ...
“ขอบใจนะมินโฮ”โทมัสยิ้มก่อนจะค่อยๆพาร่างของเขาหันกลับเขามาให้ห่างจากขอบกำแพงคอนกรีต เขาทำท่าจะผละออกจากผมแต่ว่าไม่สำเร็จ นั่นทำให้เขาเงยหน้ามองผมอีกครั้งก่อนจะยิ้มราวกับผมเป็นเด็กเล็กๆ
“อะไรของนายน่ะมินโฮ..ปล่อยฉันได้แล้ว”
“โทมัส”
“อะไรเล่า”เขาเงยหน้าขึนมา เป็นตอนที่จูมกของเราชนกันพอดี ผมรู้สึกได้ถึงลมหายใจอุ่นๆที่ใบหน้าของผม มือของผมที่ประคองเอวเขาเปลี่ยนเป็นการโอบแน่นโดยอัติโนมัติ
ผมไม่รู้ว่าทำไมผมถึงทำ..ผมแค่ทำมันไป...
“โทมัส..ฉันไม่รู้นะว่าความรู้สึกนี้คืออะไรหรือควรทำยังไงกับมัน”
“......”
“แต่ฉันจะไม่เก็บมันอีกแล้ว”
สิ้นคำนั้น ผมก็ค่อยๆโน้มตัวลงไปประกบริมฝีปากกับร่างตรงหน้า ความรู้สึกหวิวๆที่อกก่อตัวขึ้นพร้อมกับเลือดที่สูบฉีดอย่างบ้าคลั่งไปทั่วทั้งร่าง ผมรู้สึกว่าตัวเองขาดสติไปชั่วขณะกอ่นจะรู้สึกตัวว่าตัวเองทำอะไรลงไป ผมผละออก ก่อนจะเห็นใบหน้าของโทมัสที่ดูจะตกใจไม่น้อยที่ผมทำแบบนั้นลงไป ทำให้ผมรู้สึกเลย
ว่าผมได้ทำอะไรโง่ๆลงไปเข้าให้แล้ว...
“โทมัส..ฉันขอโทษนะ..คือฉัน..อือ..แบบว่า..”
ไม่ทันที่ผมจะได้พูดอะไรจบ โทมัสก็ประกบริมฝีปากผมกลับบ้าง ความร้อนของมันทำให้ผมกรหายมันมากกว่าเมื่อกี้จึงเพิ่มความหนักหน่วงเขาไปในจูบของผมมากขึ้น แขนบางคล้องคอผมเป็นเวลาเดียวกับที่ผมดึงร่างของเขาเขามาใกล้อีก มือเล็กๆอุ่นๆของเขาประคองใบหน้าของผมเอาไว้ ผมหยุดจูบเขาแล้วผละออกเล็กน้อยพลางทาบมือของผมลงบนมือของเขา
“สัญญากับฉันมินโฮ”เขากระซิบ“สัญญาสิว่าพรุ่งนี้เราจะกลับไปหาทุกคนด้วยกัน”
ผมใช้นิ้วโป้งเกลี่ยด้ยใบหน้าของเขาแล้วยิ้มบางๆ “อืม..ฉันสัญญา..โทมัส”
เราสองคนจูบกันอีกครั้ง มันเนิ่นนานจนไม่รู้ว่านานเท่าไหร่ที่เราอยู่กันแบบนี้ จากความแผ่วเบาค่อยๆหนักหน่วงและเพิ่มความร้อนแรงขึ้นเรื่อยๆ ผมผละจากริมฝีปากของเขาแล้วเริ่มไซร้ลงมาตามซอกคอขาว เสียงเดียวที่ผมได้ยินคือเสียงโทมัสที่เรียกชื่อผมด้วยเสียงขาดหวง มือของเขาค่อยๆดันผมลงไปนอนกับพื้นคอนกรีตช้าๆแล้วขึ้นคร่อมผม มือเล็กมือเดิทนั้นค่อยๆปลดเข็มขัดผมออกพร้อมกับร่ากเล็กที่ก้มลงมากระซิบข้างหูผมว่า
“ห้ามทิ้งฉันล่ะ..คุณหัวหน้านักวิ่ง”
คงรู้นะ...ว่าเราจะทำอะไรกันต่อจากนี้
ตอนนี้ผมไม่สนใจแล้วว่าผมจะออกไปจะเขาวงกตนี้ได้รึเปล่า
เพราะตอนนี้ผมมีเขา
ตราบใดที่เขาและทุกคนยังอยู่ตรงนี้..
ผมก็ไม่มีอะไรต้องกลัวอีกต่อไป..
ถ้านายไม่ทิ้งฉัน..ฉันก็จะไม่ทิ้งนายไปไหนเลย..โทมัส
จบ...
.
.
.
แถม
“มินโฮ”
“มินโฮ!!!”
เสียงคล้ายคนร้องดังมาจากในเขาวงกตทำเอาชัค เด็กอ้วนผมหยิกเพื่อนของโทมัสสะดุ้งตื่นขึ้นมากลางดึก ครั้งแรกที่ได้ยินเขามั่นใจว่าต้องเป็นเสียงโทมัสแน่ๆ คิดได้ดังนั้นเขาจึงรีบสะกิดนิวต์ เด็กหนุ่มผมทองรองหัวหน้าค่ายที่นอนอยู้ข้างๆเขาทันที
“นิวต์!! ฉันได้ในเสียงร้องจากเขาวงกต ต้องเป็นโทมัสแน่ๆเลย ตื่นเร็ว นิวต์ ตื่น!!”
“อะไรวะชัค”นิวต์ชันกายลุกขึ้นนั่งมามอง
“ฉันได้ในเสียงร้องจากเขาวงกตเรียกมินโฮ ต้องเป็นโทมัสแน่ๆเลย แปลว่ามินโฮอาจจะปลอดภัยด้วยก็ได้นะ”
“นายหูฝาดไปแล้วชัค รีบนอนดีกว่า พรุ่งนี้ต้องตื่นแต่เช้านะ”
นิวต์ตัดบททันทีก่อนจะล้มตัสลงนอนแล้วพลิกตัวไปอีกฝั่งนึง ชัดเห็นดังนั้นก็ถอนหายใจเบาๆก่อนจะมองไปยังเขาวงกตอีกครั้ง เขารู้ดีว่าคนที่เขาไปในเขาวงกตตอนกลางนั้นชะตากรรมเป็นเช่นไร
แต่เขามั่นใจ ว่าเสียงที่เขาได้ยินนั้นเป็นเสียงของโทมัสแน่นอน
บางทีโทมัสกับมินโฮอาจะรอดกลับมาพรุ่งนี้ก็ได้นี่นะ
ชัคยิ้มให้กับความหวังเล็กๆในใจของเขาก่อนจะล้มตัวลงนอนท่ามกลางความเงียบของทุ่งหญ้ายามค่ำคืน
แต่หารู้ไม่....ในเขาวงกตคงไม่เงียบจนถึงเช้า-///-
The End
//เม้นด้วยน้า ขอบคุณล่วงหน้าค่าา
ผลงานอื่นๆ ของ leolighter ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ leolighter
ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้
ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้
ความคิดเห็น