NC

คำเตือนเนื้อหา

เนื้อหาของเรื่องนี้อาจมีฉากหรือคำบรรยายที่ไม่เหมาะสม

เยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ควรใช้วิจารณญานในการอ่าน

กดยอมรับเพื่อเข้าสู่เนื้อหา หรือ อ่านเงื่อนไขเพิ่มเติม
ปิด
ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    คู่แท้อยู่หนใด 1

    ลำดับตอนที่ #9 : เที่ยวทะเล

    • อัปเดตล่าสุด 20 ธ.ค. 66


    ตอนที่ 9 เที่ยวทะเล

     

    “เด็ก ๆ ใกล้ปิดเทอมแล้ว เราไปเที่ยวที่ไหนสักที่กันดีไหมคะพี่สิงหา ต่างคนต่างเหนื่อยกันมาแทบทั้งปี เราก็ถือโอกาสลาพักร้อนด้วยเลยดีมั้ยเด็ก ๆ”

     

    เอมเอ่ยขึ้นขณะที่ทุกคนกำลังรับประทานอาหารเย็นพร้อมกัน นี่เวลาก็ล่วงเลยผ่านมาจนจะหมดอีกเทอมแล้ว โอมจะขึ้นชั้นมัธยมปีที่ 5 ส่วนเขตแดนก็จะเป็นรุ่นพี่ใหญ่ชั้นมัธยมปีที่ 6 พวกเขาก็โตเป็นผู้ใหญ่ขึ้นอีกหน่อยแล้ว

     

    “ถ้าปิดเทอมหน้าร้อนก็คงต้องไปทะเลสินะ อืม ว่าแต่ไปทะเลที่ไหนดีนะ”

     

    “ไปทะเลใกล้ ๆ ก็ได้ครับพ่อ แถวสัตหีบดีไหมครับหาดใส ๆ สวย ๆ ก็พอมีอยู่จะได้เดินทางสะดวกด้วยไม่ไกลมาก”

     

    เขตแดนเสนอความคิดเห็น พลางก็ตักกับข้าวนั่นนี่ใส่จานให้น้องที่นั่งอยู่ข้างกัน ซึ่งคนน้องเองก็ยิ้มทำท่าพึงพอใจที่มีคนคอยเอาใจ ทุกวันนี้แค่สะกิดและส่งสายตา เขตแดนก็รู้แล้วว่าน้องต้องการอะไร

     

    “อืม เอางั้นก็ได้ เดี๋ยวพ่อกับน้าเอมจะทำเรื่องลาพักร้อนอีกที ดูว่าจะได้วันไหนเดี๋ยวเราค่อยไปกันนะ”

     

    ทุกคนต่างพยักหน้าเห็นด้วย นั่งทานข้าวพูดคุยกันสัพเพเหระหลายเรื่อง รวมทั้งเรื่องเรียนของทั้งสองคนด้วย ทุกอย่างถือว่าเป็นไปด้วยดีและค่อนข้างลงตัว ทำให้ไม่มีปัญหาอะไรในบ้าน ส่วนความสัมพันธ์ของเขตแดนกับโอมเพี้ยงก็ยิ่งมีความรู้สึกผูกพันกันมากขึ้น

     

    โอมเพี้ยงแทบจะหอบตัวเองไปนอนกับพี่ทุกคืน ไม่ใช่ว่าคนน้องขาดพี่ไม่ได้นะ แต่กลายเป็นว่าคนพี่เองก็ขาดน้องไม่ได้เช่นกัน หากนอนแล้วไม่ได้กลิ่นกันก็แทบจะข่มตาหลับไม่ได้ ทำให้ทุกวันนี้ต้องนอนกอดกันทุกคืน

     

    ถามว่าสิงหากับเอมรู้เรื่องนี้ไหม พวกเขาทั้งสองคนรู้แค่ว่าพี่น้องรักและเอ็นดูกัน พวกเขาก็สบายใจไม่ได้คิดอะไรมากไปกว่านั้น ต่างคนต่างตั้งใจทำงานหาเลี้ยงลูกทั้งสองแค่นั้นเอง

     

    “เย้!!! ถึงแล้วทะเลที่สดใส”

     

    เมื่อมาถึงที่พักที่จองไว้ โดยอยู่ติดกับทะเลเลยก็ทำให้โอมเพี้ยงรีบวิ่งลงไปหน้าบ้านพักพร้อมกับตะโกนเสียงดังอย่างดีใจ

     

    “แม่ครับ โอมอยากเล่นน้ำทะเล”

     

    พูดพร้อมกับวิ่งกลับขึ้นมาที่บ้านพัก ซึ่งตอนนี้ทุกคนกำลังหอบหิ้วสัมภาระเพื่อเข้าไปเก็บในห้องพัก ส่วนกระเป๋าเสื้อผ้าของโอมเอง จะเป็นใครไปไม่ได้ที่ต้องรับภาระแทน ก็พี่ชายสุดที่รักของเขานั่นเอง

     

    “แดดยังจัดอยู่เลย แดดอ่อน ๆ ค่อยลงไปก็ได้นี่ลูกเดี๋ยวจะไม่สบายเอา ผิวก็จะไหม้ด้วยนะ”

     

    พอได้ยินแม่พูดแบบนั้นโอมเพี้ยงก็พึ่งจะนึกได้ เขาเองเป็นคนที่ดูแลผิวพรรณตัวเองเป็นอย่างดี จนขาวใสละเอียดลออนุ่มนิ่ม ใครได้สัมผัสก็เป็นต้องอิจฉาทุกราย

     

    “แหะ ๆ จริงสิ เดี๋ยวผิวโอมจะเสีย ไม่คุ้มค่าครีมบำรุงเลยนะ งั้นไปนอนพักในห้องก่อนดีกว่า ตอนเย็นค่อยไปเล่นน้ำกันนะ นะ พี่เขตต้องเล่นกับโอมนะ”

     

    พูดจบก็หันไปออดอ้อนคนพี่ ซึ่งกำลังจะเปิดประตูเอากระเป๋าเข้าไปเก็บในห้อง ซึ่งมีห้องเพียงสองห้อง เขากับโอมเพี้ยงต้องนอนด้วยกันอยู่แล้วและมันก็กลายเป็นเรื่องปกติไปเสียแล้วสำหรับทุกคนในครอบครัว

     

    ถึงคนพี่จะไม่ได้พูดอะไร แต่โอมเพี้ยงก็รู้ดีว่าเขาไม่เคยขัดใจน้องอยู่แล้ว ว่าแล้วก็เดินตามพี่เข้าไปในห้องกะว่าจะนอนพักผ่อนกันสักงีบก่อน

     

    ตุ้บ....

    “โอมรักพี่เขตที่สุดเลย”

     

    ในขณะที่เขตแดนเก็บข้าวของเรียบร้อยจึงมานอนเล่นบนที่นอน พร้อมกับเอาโทรศัพท์มาเขี่ยดูนั่นนี่ไปเรื่อย อยู่ดี ๆ โอมเพี้ยงก็กระโดดตุ้บลงมานอนแนบอกคนพี่พร้อมกับวาดแขนโอบรอบตัวพี่ไว้ จนเขตแดนสะดุ้งเฮือก พอน้องพูดแบบนั้นจึงได้วางโทรศัพท์ลงข้างตัว

     

    ฟอดด จุ๊บ....

    ด้วยความเคยชิน เขตแดนก็หอมหัวน้องไปหนึ่งที พร้อมกับจรดริมฝีปากบนหน้าผากมนด้วยความรักที่เขามีอยู่ในอก แต่ก็ไม่เคยบอกน้องออกมาตรง ๆ เพราะเขาเองกลัวว่าโอมเพี้ยงจะคิดกับเขาคนละอย่าง

     

    “อะไร อ้อนจะเอาอะไรอีกล่ะเรา”

     

    เขตแดนเอ่ยถามน้องเสียงนุ่ม พร้อมกับโอบกอดน้องไว้เช่นกัน

     

    “ไม่อยากได้อะไรแล้ว ขอแค่มีพี่เขตอยู่กับโอมแบบนี้ก็พอแล้ว”

     

    พูดพร้อมกับซุกหน้าลงกับอกแน่นของพี่ พลางแขนก็กอดรัดอีกคนแน่นขึ้นจนเขตแดนรู้สึกได้

     

    “หืมม พี่ก็อยู่ตรงนี้กับโอมอยู่แล้ว ทำไมล่ะเป็นอะไรเด็กดื้อ”

     

    จู่ ๆ โอมเพี้ยงก็ทำหน้าเศร้าเหมือนมีเรื่องอะไรในใจ ทั้ง ๆ ที่เมื่อกี้ยังกระดี๊กระด๊าอยู่เลยทำให้เขตแดนค่อนข้างที่จะไม่เข้าใจเหมือนกัน

     

    “ไม่รู้สิ พี่เขตอย่าหนีไปไหนนะ อยู่กับโอมไปตลอดชีวิตเลยนะ”

     

    พอได้ยินน้องพูดแบบนั้น เขตแดนก็อดที่จะขำไม่ได้ พอโอมเพี้ยงได้ยินเสียงพี่ขำ ก็เงยหน้าขึ้นจากอกมองพี่ด้วยแววตาค้อน ๆ พร้อมกับทำหน้างอ

     

    เขตแดนก้มมองหน้าคนตัวเล็ก พร้อมกับเอามือลูบผมเบา ๆ เป็นการปลอบใจ โอมเพี้ยงคงจะติดเขามากจนคิดว่าไม่อยากให้เขาไปไหนล่ะสิ ซึ่งอีกแค่ปีเดียวพอเขาจบชั้นมัธยมปีที่ 6 ยังไงเขาก็ต้องแยกจากโอมเพี้ยงอยู่ดีเพราะต้องเข้าเรียนในระดับมหาวิทยาลัยแล้ว พอน้องคิดถึงเรื่องนั้นคงจะรู้สึกเหงาไม่น้อยเลยต้องมานอนออดอ้อนเขาอยู่แบบนี้

     

    พอโอมเพี้ยงเงยหน้าขึ้นสบตากับคนพี่ ซึ่งพี่ก็จ้องมองลงมาพอดี มันทำให้ทั้งสองคนได้มองตากันอยู่พักหนึ่ง จนเหมือนกำลังอ่านความในใจของกันและกันซึ่งต่างฝ่ายต่างมีสิ่งที่ไม่กล้าจะบอกกัน

     

    จู่ ๆ เขตแดนก็ค่อย ๆ ก้มหน้าลงมาจนแทบรู้สึกถึงลมหายใจของกันและกัน โอมเพี้ยงรีบหลับตาปี๋ไม่กล้ามองสบตาอีกคน จนกระทั่งเขารู้สึกถึงอะไรนุ่ม ๆ สัมผัสลงบนริมฝีปากของตัวเองจึงได้ลืมตาขึ้น ก่อนจะพบว่าตอนนี้เขตแดนได้ประกบริมฝีปากตัวเองลงบนปากของโอมเพี้ยงอยู่

     

    โอมเพี้ยงตกตะลึง ไม่คิดว่าพี่ชายจะทำเช่นนี้จนไม่กล้าขยับไปไหน เขตแดนค่อย ๆ ดูดและเลียริมฝีปากบางเล็กจนสัมผัสได้ถึงความหวานหอม แต่เขาก็ไม่กล้าทำอะไรมากไปกว่านี้จึงได้แต่ค่อย ๆ ผละริมฝีปากออกจากปากบางหวาน ๆ นั่น

     

    “ก็น้องพี่น่ารักขนาดนี้ พี่จะหนีไปไหนได้ล่ะจริงมั้ย”

     

    เขตแดนพูดพร้อมกับดึงตัวคนน้องเข้ามากอดรัดแนบอกอย่างแรง เสียงหัวใจของทั้งสองคนเต้นระรัวจนทั้งคู่สามารถรับรู้ได้ ก่อนที่ทั้งสองจะนิ่งเงียบและกอดกันอยู่อย่างนั้นจนเผลอหลับไป

     

    ...............................

     

    งุ้ยยยย เขารักกันและเขาไม่กล้าบอกกันเพราะกลัวว่ามันจะไม่ถูกต้อง มาเอาใจช่วยทั้งสองคนกันหน่อยนะคะ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    นักเขียนปิดการแสดงความคิดเห็น
    ×