ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic.] SHINEE - In my heart แรงรักในรอยแค้น

    ลำดับตอนที่ #16 : EP.13 เพราะอะไร

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 421
      0
      24 พ.ย. 53

             ความรัก...มันเกิดขึ้นมาได้ยังไงกัน.....ใครเป็นคนสร้างสิ่งนี้ขึ้นมาหรอ.....ความรักน่ะ...มีกี่รูปแบบกันหล่ะเพราะว่าทั้งชีวิตที่เกิดมา   คิมจงฮยอนคนนี้จักคำว่าความรักเป็นอยู่ 2 อย่าง คือ ความรักที่มีให้กับครอบครัวและการรักแค่ตัวเอง.....

                    จงฮยอนตอนนี้ที่กำลังนั่งอยู่ตรงโซฟาตัวเดียวกับคู่กรณีของเขาที่กำลังหลับอยู่อย่างไม่รู้เรื่องอะไรเลยซักนิดเดียว....ไม่รู้ว่าเขามานั่งตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่....ได้แต่นั่งมองดูอย่างนิ่งๆแต่ก็อดขำคนตรงหน้านี้ไม่ได้ ของเล่นชิ้นนี้หน้าสนใจดีแฮะ ไม่เหมือนกับคนที่ผ่าน ๆ มา เพราะของเล่นชิ้นนี้ คือ ของเล่นที่จะต้องรับใช้เขาไปตลอดชีวิต....ที่จะต้องเล่นเกมกับเขาจนกว่าใครคนใดคนหนึ่งจะแพ้กันไปข้าง แต่ว่าที่แน่ๆคนที่แพ้คงจะไม่ใช่คิมจงฮยอนคนนี้แน่นอน...

     

    ~จูเลียต! ยอง-ฮน-นึล บา-ชิล-เก-โย

    จูเลียต! เช-บัล นัล บัด-ดา จวอ-โย~

    จงฮยอนควานหาโทรศัพท์มือถือในกระเป๋ากางเกงตัวเก่งของเขาพรางกับหยิบขึ้นมาดูหมายเลขที่โทรเข้ามาและก็ต้องทำหน้าเบื่อหน่ายทันที

    “โยบอเซโย”

    “วันนี้ฉันไม่ว่าง..ออกไปไม่ได้”

    “ฉันต้องบอกเธอด้วยหรือไง ว่าฉันอยู่กับใคร เธอไม่ใช่เจ้าของฉันนะโคมิ”

    “นี่ฟังฉันนะโคมิ ฉันไม่ได้มีเธอแค่คนเดียวและอีกอย่างเธอก็เป็นได้แค่คู่นอนที่ผ่านมาแล้วก็ผ่านไปเท่านั้น เธอเองก็รู้ดีไม่ใช่หรือไง”

    [คุณทำแบบนี้กับฉันไม่ได้นะจงฮยอน] เสียงปลายสายดังออกมากว่าเก่า จนทำให้จงฮยอนต้องเอาโทรศัพท์มือถือออกห่างจากเขาโดยอัตโนมัติก่อนจะหันไปใส่อารมณ์กับปลายสาย

    “ทำไมฉันจะทำไม่ได้   ก็เธอเองไม่ใช่หรือไงที่มาเสนอให้ฉันเองถึงที่น่ะห๊ะ ส่วนฉันก็มีหน้าที่สนองให้ก็เท่านั้นเอง  ถ้าเธอคิดว่าฉันจะจริงจังกับเธอล่ะก็.....คิดใหม่ได้เลยโคมิ”

    “ถ้าไม่มีอะไรแล้วก็แค่นี้แล้วกัน ฉันไม่ว่าง” จงฮยอนปิดโทรศัพท์ของตนเองอย่างแรงก่อนจะหันหน้ากลับไปมองร่างเล็กที่หลับอยู่พร้อมกับเอนหลังไปพิงกับโซฟาตัวนุ่ม

    “แอบฟังคนอื่นคุยกันมันไม่ดีนะลีจีมิน” จงฮยอนเปลี่ยนเสียงจากเมื่อครู่นี้ทันทีแต่ก็ยังคงเจือความเบื่อหน่ายอยู่บ้างก็ตามที

    “ฉันไม่ได้แอบฟัง แต่นายมานั่งพูดให้ฉันได้ยินเองต่างหาก” จีมินยังหลับตาอยู่และเถียงออกมาแต่ก็ไม่ได้ใส่อารมณ์กับจงฮยอนมากนัก ก่อนจะลืมตามาสบตากับร่างสูงเพื่อที่จะคุยกันอย่างซึ่ง ๆ หน้า

    “แล้ว....ตั้งแต่เมื่อไหร่ล่ะ...ถ้ารู้สึกตัวแล้วทำไมไม่ลุกออกไปล่ะ....ไม่รู้หรือไงว่าทำแบบนี้มันเสียมารยาท” จงฮยอนทำน้ำเสียงที่เล่นที่จริงใส่คนตัวเล็ก  ที่จริงก็สมควรตื่นอยู่หรอกก็เขาเล่นคุยโทรศัพท์เสียงดังซะขนาดนั้นแถมยังมานั่งคุยใกล้ๆจีมินในตอนหลับเสียอีก

    “ตกลงว่าตื่นเมื่อไหร่” จงฮยอนเปลี่ยนเสียงเป็นจริงจังทันทีบวกกับทำหน้าเรียบเฉย เพราะคนตัวเล็กกว่าไม่ยอมตอบแต่กลับจ้องหน้าจงฮยอนนิ่งเฉกเช่นเดียวกันก่อนจะหันหน้าไปทางกระจกใสบานใหญ่ที่มองออกไปก็ยังคงเห็นหิมะตกลงมาอย่างไม่มีทีท่าว่าจะหยุดหย่อน

     

    “ตั้งแต่ได้ยินเสียงโทรศัพท์”

    “แล้ว...ได้ยินอะไรบ้างล่ะ”จงฮยอนเอียงคอถาม(หน้ารักตายแหละแก:ไรเตอร์)

    “ทุกอย่าง...ตั้งแต่ต้นจนจบ  นายคิดว่านายพูดซะเสียงดังขนาดนั้นใครเขาจะไม่ได้ยินหรือไง”

    “นั่นสินะ...จะไม่ได้ยินมันก็ยังไงอยู่”จงฮยอนตอบมาอย่างยิ้มๆโดยที่ไม่สนใจในคำตอบอะไรนัก

    “นายนี่มันอารมณ์ไหนกันแน่เนี่ย ตอนคุยโทรศัพท์กับตอนนี้ต่างกันเหมือนหน้ามือกับหลังมือ” จีมินลุกจากโซฟาแล้วทำท่าจะตรงขึ้นไปยังห้องนอน และก็ดูเหมือนว่าจงฮยอนจะรู้ทันจึงรีบพูดดักออกมาทันที

     

    “ถ้าจะขึ้นไปบนห้องล่ะก็ฉันให้เวลาเธอไปอาบน้ำแต่งตัวใหม่ให้เรียบร้อยนะ เพราะวันนี้เธอต้องไปกับฉัน” จีมินหลุดเดินขึ้นบันไดสู้ชั้นสองของบ้านทันทีก่อนจะหันมาถามด้วยความสงสัย

    “ไปไหน...แล้วทำไมฉันต้องไปกับนายด้วยล่ะ”

    “ไปที่ทำงานของฉันกับพี่อนยู” จงฮยอนตอบกับร่างบางและเพิ่มเติมรอยยิ้มที่กรุ่มกริ่มลงไปตามันคงจะไม่ใช่รอยยิ้มแห่งความหวังดีซักเท่าไหร่ในสายตาของร่างเล็ก

    “แล้วทำไมฉันต้องไป”

    “เพราะฉันอยากให้เธอไปด้วย”จงฮยอนก็ยังคงยิ้มกับคำพูดของตนเองอยู่เหมือนเดิมผิดกับคนตรงข้ามที่ไม่ได้ขึ้นไปบนห้อง เพราะมัวแต่สงสัยกับคนตรงหน้า

    “เหตุผลนายไม่เพียงพอ”

    “ถ้าอย่างนั้น...วันนี้ฉันว่าง” จงฮยอนให้เหตุผลง่ายๆ

    “แล้วตอนที่นายโทรศัพท์ นายยังบอกไม่ว่าง..ออกไปด้วยไม่ได้”

    “ก็ตอนนี้ฉันว่างแล้ว....ว่างกับ ลีจีมิน คนเดียว”

    “เก็บไว้พูดกับคนของนายเถอะ คิมจงฮยอน” จีมินเดินขึ้นบันไดต่อไปแต่ก็หยุดอีกครั้งหนึ่ง ก่อนจะเดินขึ้นไปอย่างไม่สนใจในประโยคหลังของคุณชายคนที่2ของบ้าน

    “เธอนั่นแหละ..คนของฉัน...ถ้าไม่เชื่อก็คอยดูแล้วกัน”


    -------------------------------------------------------------


      รถเบนซ์คันหรูสีดำขับมาจอดหน้าสถานที่เลื่อนเริงใจกลางกรุงโซล ซึงแน่นอนว่าต้องใช้เวลานานอยู่ไม่นอนกว่าจะมาถึงสถานบันเทิงที่อนยูและน้องชายของเขาเป็นเจ้าของ แต่ใช่ว่าพวกเขาจะมีธุรกิจนี่เพียงอย่างเดียวเสียเมื่อไหร่กัน ยังมีอีกมากมายนักที่ตระกูลคิมได้สร้างขึ้นมาให้เพื่อทายาททั้ง5ของพวกเขา แต่หลักๆของกิจการของตระกูลคิมก็คงจะไม่พ้น คิมกรุ๊ป บริษัท อสังหาริมทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดในเกาหลีใต้เสียมากกว่า

    “ลงมาได้แล้ว...จะให้ฉันคอยบอกไปถึงเมื่อไหร่กันห๊ะ!ฮยอนจา” อนยูที่ลงจากรถมาก่อนหน้านี้แล้วหันมาพูดจาตำหนิฮยอนจาที่ยังคงนั่งอยู่ที่เบาะหลังไม่ขยับไปไหน

    “ฉันต้องลงไปด้วยหรอคะ? ไม่ยักจะทราบมาก่อนว่าคุณพาฉันมาด้วย” สีหน้าเรียบเฉย คำตอบที่ให้ไว้แฝงด้วยไร้ความรู้สึกของร่างบาง วาจาที่ประชดประชันแฝงด้วยความอวดดีของฮยอนจา ทำให้อนยูถลึงตาใส่คู้สนทนาของเขาพร้อมแววตาที่ดูแคลนเสียเหลือเกิน

    “โง่! หรือว่าแกล้งโง่กันแน่ฮยอนจา หรือว่าสมองเธอมันฟั่นเฟือนจนลืมไปว่าเธอไม่มีสิทธิ์ยอกย้อนใส่ฉัน”

    “......”

    “ฉันบอกให้ลงมา.....หรือว่าจะให้ฉันลากเธอลงมา.....ฉันไม่มีเวลาจะมาเอ่ยปากเชิญเธอหรอกนะ...เพราะฉะนั้นลงมาซะ!

    สิ้นสุดประโยคของอนยูนั้น ฮยอนจาเองก็ต้องลงมาอย่างจำใจ ไม่ใช้ว่าเธอซื่อซะจนไม่รู้ว่าเธอเองก็ต้องลงไปกับเขา แต่เธอแค่ทำเป็นไม่รู้เรื่องเพราะไม่อยากไปกับอนยูเท่านั้นเอง แต่เธอก็ต้องทำกับตรงกันข้ามกับสิ่งที่อยากทำเพราะไอ้คำพูดที่ไม่เข้าหูของเธอเอาซะเลย เพราะอะไรรู้ไหม  เพราะเธอไม่อยากจะมีปากเสียงกับคนตรงหน้าที่บริเวณนี้...ใครมันอยากจะไปมีเรื่องกันตรงนี้ล่ะ คนพลุกพล่านจะตายไป

     

     

    ฮยอนจาเดินตามคนที่เดินนำหน้าไปเรื่อยๆ พลางกับสำรวจตามไปด้วยถึงแม้ว่าจะสงสัยอะไรไปบ้างแต่ก็ไม่ได้เอ่ยปากถามอนยูเลยซักคำ แต่ใช่ว่าเธอจะเดินมากับอนยูเพียงแค่สองคนเสียเมื่อไหร่  เปล่าเลย..ไม่ใช่ซักนิดเดียว เพราะรอบๆข้างแล้วมีแต่บอดี้การ์ดเดิมล้อมหน้าล้อมหลังเต็มไปหมด.....นี่ขนาดว่าเป็นผับของตัวเอง....ที่ก็ที่ของตัวเอง...ยังต้องมีคนมาคอยคุ้มกันมากขนาดนี้เลยหรือไงกัน..หรือไม่ก็กลัวว่าจะถูกลอบฆ่าล่ะมั๊ง..

     

    “ออกไปได้แล้ว...วันหลังแค่หน้าประตูทางเข้าหรือไม่ก็ประตูหลังร้านก็พอ”  อนยูหรือจินกิหยุดเดินทันทีพร้อมกับเอ่ยปากบอกลูกน้องทันที ส่วนลูกน้องของเขาทั้งหลายก็ได้แต่ก้มหัวเหมือนเป็นเชิงว่ารับรู้กันแล้วทั้งหมด ก่อนจะถอยหลังเดินออกไป

     

    “จะเงียบอีกนานไหม..หรือว่าใบ้กินไปแล้ว”

    “...”

    “ฉันถามไม่ได้ยินหรือไงฮยอนจา..หรือว่าต้องให้ฉันง้างปากเธอก่อนหรือไง ถึงจะยอมพูด” อนยูหัวเสียทันทีเมื่อคนตัวเล็กเล่นไม่ตอบคำถามของเขาเองอีกแล้ว ซึ่งมันแถบจะเป็นแบบนี้ตลอดเมื่ออยู่บนลงจนถึงมาถึงที่นี่

    “ฉันได้ยินทุกคำถามที่คุณถามฉันค่ะ คุณอนยู  แต่ฉันไม่ต้องการที่จะตอบมันเพราะคุณเองก็ไม่ได้ตอบคำถามฉันเหมือนกันว่าคุณพาฉันมาที่นี่ทำไม”  คำตอบที่ไม่ตรงคำถามของฮยอนจาพร้อมกับคำถามที่เธอแสนจะต้องการคำตอบเสียเหลือเกินจนทำให้คุณชายคนโตของบ้านถึงกับเค่นหัวเราะออกมาเสียให้ได้

    “หึหึ คิดว่าฉันมีเวลาทั้งวันเพื่อที่จะพอเธอไปหาคุณนายลีที่สุสานทั้งวันหรือไงกัน...มองอะไรต่อมิอะไรในแง่ดีเกินไปหรือเปล่า ลีฮยอนจา”

    “แล้วทำไมคุณไม่ให้ฉันกลับบ้านล่ะ”

    “ฉันคงไม่มานั่งเสียเวลาไปส่งเธอที่บ้านหรอกนะฮยอนจา...เพราะเวลาของฉันมันมีค่ากว่าชีวิตของเธอกับน้องสาวของเสียอีก”

    “ฉัน...เข้าใจแล้วล่ะ” ฮยอนจาตอบรับอย่างง่ายดายเสียจนผิดังเกตุ บวกกับใบหน้าที่แสนจะเรียบเฉยแต่ภายในใจมันกลับตรงกันข้ามไปเสียแทบทุกอย่าง

     

    ไม่เข้าใจ.... แต่ก็ต้องทำเหมือนว่าเข้าใจ

    ทำสีหน้าให้เรียบเฉย...แต่จริงๆแล้วมันอยากจะร้องไห้ออกมาสิ้นดี

     

    เพราะถ้าลองฟังดีดีแล้ว คำพูดของอนยูนั้น   มันชั่งทำร้ายจิตใจตัวเองเหลือเกิน

    คำพูดและการกระทำที่เห็นเธอเป็นดั่ง...สัตว์เลี้ยง

    สัตว์เลี้ยงที่ต้องทำตามคำสั่งที่เจ้าของของมันสั่ง....

    ถ้าไม่ใช้สัตว์เลี้ยงก็เหมือนสิ่งของนั่นแหละ....ทีได้มาเพื่อจะทำลายอย่างเดียวสินะ


    "จะเข้ามาได้หรือยัง...ยืนเซ่ออยู่ได้"  อนยูที่ยืนอยู่ห้องทำงานของเขา ถามหญิงสาวที่อยู่ข้างนอกห้องอย่างเหม่อลอย จนทำให้ร่างบางสะดุ้งทันที แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะ ฮยอนจาก็ต้องเข้าไปในห้องทำงานของอนยูอยู่ดี
        ฮยอนจาหันไปมองรอบๆห้องอย่างไม่ได้สนใจเท่าไหร่นัก เพราะว่าที่ทำงานที่เป็นทั้งห้องส่วนตัวของเขานั้นก็ไม่ได้แตกต่างไปจากห้องทำงานของประธานหรือผุ้บริหารคนไหนเลยที่เธอเคยไปเห็นมา แต่ก็คงจะแปลกก็ตรงสถานที่เสียมากกว่า
    "จะสังเกตุห้องทำงานของฉันอีกนานมั๊ย" อนยูเอ่ยถามคนตัวเล็กที่ตอนนี้หันไปสำราจภายในห้องอย่างไม่มองหน้าเธอเพราะกำลังจดจ่ออยู่กับการเซ็นเอกสารกองโตที่อยุ่บนโต๊ะทำงาน
    "แปลกจัง" ฮยอนจาพูดออกมาเหมือนกระซิบ แต่ว่า...
    "อะไรแปลก" อนยูถามขึ้นมาอย่างทันควัน
    "ห้องของคุณ...มีเปียโนด้วย" ฮยอนจาเอียงคอถามอย่างสงสัย
    "ห้องทำงานทุกที่ของฉันมันก็มีเปียโนอยู่แล้ว ก็ไม่เห็นจะแปลกตรงไหน" ร่างสูงที่ตอนนี้กำลังเซ็นเอกสารก็ตอบอย่างไม่ได้ใส่ใจอะไรนัก
    "ว่าแต่ว่า..อีกไม่นานแล้วนี่ ที่เราจะได้ดองกันซะที" อนยูเปลี่ยนประเด็นทันที มะ...หมายความยังไงกัน
    "เธอเองก็ไม่ได้โง่อะไรมากมายนะฮยอนจา...ลืมจริงๆหรือว่าแกล้งลืมกันแน่"
    "ฉันคิดว่าเราไม่ควรพูดคำว่า 'เรา' และคำว่าดองกัน" ฮยอนจาเปลี่ยนจากน้ำเสียงที่แสดงออกมาถึงความสงสัยมาเป็นความเรียบเฉยแต่จริงๆแล้วอนยูกับคิดว่าเธอกำลังกร้าวร้าวและไม่พอใจในคำพูดของเขาเองมากกว่า... แต่อนยูก็ได้แค่ยิ้มที่มุมปากและปล่อยให้เธอแสดงการกระทำทางคำพูดเพียงเท่านั้น
    ~เพราะอะไรนั้นหรอ...
    เพราะต่อให้เธอพูดไปเท่าไหร่
    เธอก็ทำอะไรคนอย่างเข้าไม่ได้อยู่ดี...~
    "รู้อะไรมั๊ยลีฮยอนจา"อนยูหนไปสนใจเอกสารของเขาอีกครั้งหนึ่งบวกกับพูดกับเธอไปพร้อมๆกัน
    "ฉันเองก้ไม่ได้อยากจะใช้คำว่า'เรา'กับตระกูลของพวกเธอซักเท่าไหร่หรอกนะ"
    "แล้วคิดว่าฉันต้องการ?"ฮยอนจาพยายามพูดให้เป้นน้ำเสียงที่ปกติที่สุดเท่าที่เธอจะทำได้พร้อมกับสายตาที่สนใจที่เจ้าเปียโนสีขาวสะอากตาที่ตั้งอยู่มุมหนึ่งของห้อง
    "พวกเธอก็ไม่ได้ต้องการ...แต่พวกเธอมีทางเลือกด้วยหรือไง?"
    "...."
    "คำตอบก็คือ...เหมือนจะมีแต่มันก็ไม่มี"
    ฮยอนจาเลิกที่จะเดินสำรวจห้องแต่ก็ยังคงเก็บอารมส์และความรู้สึกต่างๆเอาไว้ก่อนจะพุดจาอย่างตัดพ้อต่อคนที่อยุ่ในห้องกับเธอในตอนนี้
    "นั่นสินะ....เหมือนจะมีแต่มันก้ไม่มี...ไม่มีเลยจริงๆ"
    อนยูได้ยินคำพูดของฮยอนจาทั้งหมด ถึงแม้จะอดแปลกใจในการที่เธอคล้อยตามในคำพูดของเของเองแต่ก็อดยิ้มมุมปากและสายตาที่เจ้าเล่ห์ไม่ได้ แต่มันก็ได้แค่นิดเดียวเท่านั้น
    "แต่ใครมันจะไปรู้ละคะ...มันก้อาจจะมีอยู่บ้างก็ได้จริงมั๊ย??"
    "..............."
    "ทางเลือกที่ฉันเป็นคนเลือก.......ทางเลือกที่มันไม่มีอยู่ในทางที่คุณหรือใครให้ฉันได้เลือก"
    อนยูไม่คิดจะใส่ใจในคำพูดของฮยอนจาเท่าไหร่นัก แต่ก้ใช่ว่ามันจะไม่ขัดใจคนอย่างเขาเสียเมื่อไหร่ เพราะไอ้ประโยคที่เธอพูดมาซะอย่างยาวยืด มันยิ่งอยากทำให้อนยูไปตบหน้าหรือตบปากเธอยิ่งนัก แต่ก็ไม่ได้ทำตามอย่างที่ใจคิดเพราะว่าถ้าทำลงไปมันก็เท่ากับว่า "เขารังแกเธอหรือไม่ก็ซื้อตัวเธอให้มาบอบช้ำจนเกินงาม" อนยูจึงได้แค่กำหมัดเอาไว้เท่านั้น
    ~Hello, hello
    นา-รึม-แด-โร ยง-กิล แร-ซอ-โย
     Hello, hello
    ชัม-ชี-เย-กี ฮัล-แร-โย ~
    "มีอะไรจงฮยอน"
    "มาถึงแล้วหรือไง ปกติจะเดินเข้ามาเองเลยแล้วคราวนี้ทำไมต้องโทรมาหาพี่เนี่ย"
    "อะไร!!! จำทางเข้าไม่ได้...ไอ้บ้า มาก้ออกจะบ่อยกว่าเข้าบริษัทแล้วมาบอกว่าจำทางไม่ได้" อนยูตวาดใส่น้องชายของเขาอย่างทีเล่นทีจริงพร้อมกับรอยยิ้มที่เปลี่ยนไปเป็นคนละคน
    ...............................................
    70%
    อย่าถีบไรเตอร์นะ ว่าหายไป1ปีกว่า แกมาอัพแค่นี้

    แหะๆ พรุ่งนี้100%แน่นอนค่ะ ไรเตอร์สัญญา



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×