ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [EXO FIC] Marry me? รักผมก็บอก [KrisYeol]

    ลำดับตอนที่ #4 : Marry me? : 3 (100%)

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 4.51K
      23
      12 เม.ย. 56







    Marry me
    3
     






     







     
    (Kris’s part)


     
                    หลังจากที่ผมเพิ่งยอมเซ็นต์จ่ายค่าอาหารนั่นไป ผมก็ลากตัวแสบมาที่รถทันที  ผมไม่ได้โกรธหรอกนะ แค่ไม่คิดว่าไอ้หูกางนั่นจะกล้าทำกับผมขนาดนี้ (แล้วทำไมมันจะไม่กล้าล่ะเฮีย) ผมไม่น่าหลวมตัวให้กระเป๋าสตางค์มันไปเลยจริงๆนะครับ ให้ตายสิ ไม่ใช่ถูกๆนะครับ ถึงจะเป็นบุฟเฟ่ห์แล้วมีบัตรลดก็เถอะ แต่ไอ้แสบนั่นมันใช้บัตรลดที่ไหนล่ะครับ อยู่ๆก็หยิบบัตรเครดิตของผมออกมาเนี่ย แสดงว่ารู้ตั้งแต่แรกสินะ ว่าผมพาไป กินข้าว ไม่ใช่ เลี้ยงข้าว น่ะ เฮ้อออออ ทำไมคนหล่อโง่แบบนี้ครับ ประเมินปาร์คชานยอลต่ำไปนิด แต่ช่างมันเถอะครับ คิดว่าเงินแค่นี้กระทบเงิงผมหรอ ไม่หร๊อกกกกก ปลายขี้เล็บยังไม่ถึงเลย สถาปัตย์หล่อโลกละลายขนาดนี้  เอิ่ม เหมือนจะไม่เกี่ยวนะครับ ผมว่าผมเพ้อแล้วล่ะ กลับเข้าโหมดโหดดีกว่า หึหึ -..-
     

    “ขึ้นรถไป” ผมใช้มืออีกข้างเปิดประตูรถแล้วดันตัวไอ้โย่งเข้าไปในรถแล้วปิดประตู เพื่อไม่ให้อีกคนเปิดปากเถียงทัน 
     

    “อะไรๆๆๆ แพ้แล้วอย่าพาลสิ แบร่ๆๆๆ” โหยยยย เสียงดังออกมาข้างนอกเลยครับ ถ้าอยู่ในรถผมไม่แก้วหูแตกไปแล้วหรอ = = ผมเดินอ้อมไปขึ้นรถฝั่งคนขับ 
     

    “อย่ามาเงียบ เถียงไม่ออกล่ะสิ แบร่ๆๆๆๆ” ไอ้หูกางมันจะพูดอีกนานมั้ยครับ จ่ายเงินแค่นี้มันไม่กระทบซอกเล็บผมหรอกครับ แต่เข้าใจมั้ยว่าคนมันไม่อยากจะเลี้ยงข้าวไอ้เด็กโง่ที่ไม่ได้เจอกันมาหลายปีน่ะ


    “หุบปากไปเลย เงินแค่นี้นายไม่มีปัญญาจ่ายเองรึไง”
     

    “โห่ยยยยย จ้าพ่อคนรวย”
     

    “หึ”
     

    “เฮ้ยคริส ถอยรถดีๆสิ” ดูเหมือนมันจะจริงจังขึ้นมานะ หน้าตาเปลี่ยนไปจากเมื่อกี้เลย
     

    “ทำไม ไม่มีรถมาสักคัน” อู๋อี้ฟานขับรถโปรขนาดนี้ โธ่..... จริงๆคือผมเปลี่ยนรถมา8คันละครับ = =
     

    “เฮ้ยยยยยยยย บอกให้ถอยดีๆไงเล่า เดี๋ยวก็ไปชนรถคันอื่นอ่ะ”
     

    “จะไปชนได้ไงเล่า มีตาก็ดูบ้างว่าตอนนี้ไม่มีรถวิ่งมาสักคัน”
     

    “ไอ้บ้า นายจะไม่ฟังฉันเรื่องอื่นก็ได้ แต่เรื่องนี้ขอเหอะ” หมอนั่นเอามือมาตบพวงมาลัย ทำท่าเหมือนจะเอาไปขับเอง นี่ถ้าพวงมาลัยมันดึงออกมาได้ผมจะเอาฟาดหัวหมอนั่นเลย -___-
     
     
    “แล้วนายไม่ไว้ใจให้ฉันถอยรถรึไง”
     

    “ไม่”
     


     













     
     
    โครมมมมมมม








     
     

    “โอ้ยยย” ไม่ใช่เสียงผมครับ เสียงไอ้คนนั่งข้างคนขับ ..ว่าแต่...รถชนจริงๆหรอเนี่ยยย นี่ผมเพิ่งถอยคันใหม่มานะ มีหวังโดนพ่อดุแน่ นี่ถ้าไอ้เด็กหูกางนั่นไม่เอามือมาตบพวงมาลัยผมก็คงจะไม่เป็นแบบนี้ แล้วนี่ผมไปขูดรถใครเข้าล่ะนี่ คือเหมือนผมจะถอยรถไปชนกับรถของใครไม่รู้ที่จอดอยู่ ซวยแล้วไงไอ้คริส เพราะชานยอลทำเรื่องแท้ๆ (โทษไปทั่ว) หรือเพราะผมหล่อเกินไปจนชานยอลควบคุมตัวเองไม่อยู่ครับ  ช่างเถอะครับ สิ่งที่ผมสนตอนนี้คือตูดรถแสนแพงของผม T^T  มันจะเป็นรอยมากมั้ยลูกพ่อ แค่สีถลอกก็จะเป็นบ้าแล้วครับ =_____= 

    ผมรีบลงจากรถแล้วเดินไปดูที่ท้ายรถของตัวเองและรถที่เคราะห์ร้าย = =


    ..หืม เลขทะเบียนคุ้นๆนะครับ ลักษณะรถก็คุ้นๆด้วย รถใครล่ะนี่ รับรองว่าต้องเป็นเพื่อนผม..สักคนนึง...ยี่ห้องบีเอ็มซะด้วย โหยป้ายแดงอีกต่างหาก ถ้าผมขับรถหนีไปตอนนี้นี่จะทันมั้ยครับ มันก็ทันครับ แต่ผมไม่ทำหรอก พระเอกพอ = w =  (อีตุ้ยจางเลิกหลงตัวเองเหอะ)
    “นี่ เป็นไงบ้าง” ไอ้เด็กแสบ(ที่เหมือนเพิ่งได้สติ) เปิดประตูรถลงมายืนข้างๆผม มือก็ลูบหัวป้อยๆ เมื่อกี้คงจะโดนกระแทกสินะ ใครจะสนกัน ผมสนใจรถโว้ย 
     

    “อืม....มันไม่เป็นไร” 
     

    “อะไรไม่เป็นไร” 
     

    “รถไง”
     

    “แล้วคันนั้นอ่ะ” ชานยอลว่าพลางชี้ไปที่บีเอ็มป้ายแดงแสนหรูที่สีถลอกนั่น
     

    “สีถลอกนิดหน่อยน่ะ”
     

    “โหย ห่วงแต่รถ เคยห่วงคนที่นั่งอยู่ข้างๆไหมหาาา” ไม่พูดเปล่าครับ มาผลักไหล่ผมอีก อะไรนักหนาเนี่ย ไอ้เด็กนี่มันเป็นใครทำไมผมต้องห่วงมันด้วยครับ = = ...เอ่อลืมไป มันเป็นศรีภรรยาผม แค่ในทะเบียนสมรสเท่านั้นแหละ!


    “ทำไมฉันต้องห่วงนายด้วยห๊ะ”
     

    “ก็..โอ้ยช่างมันเถอะ”
     

    “อะไรของนาย”
     

    “ช่างมันก่อน จะทำยังไงกับรถดี หนีหรอ?” อือหือออ นั่นคือความคิดหรอครับ เลวซะไม่มี  ผมก็จะทำอยู่หรอก ถ้าไม่ติดว่ารถคันนี้มันคุ้นๆนะ เอ่อ...ผมไม่ได้เลวนะครับ คนหล่อขอแก้ตัว -..-
     

    “จะบ้าหรอ ไอ้รถคันนี้มันคุ้นๆ”
     

    “รถพ่อนายหรอคริส- -”
     

    “นี่ใช่เวลาเล่นมั้ย” ผมอยากจะจับมันยัดเข้ารถจริงๆ  - -;
     

    “ไม่ได้เล่นนะ รถแบบนี้มันใช้ได้ไม่กี่คนหรอก”
     

    “ถ้าเป็นรถพ่อฉัน ฉันขับหนีไปนานแล้ว โอเคนะ”
     

    “อ..ไอ้ชั่ววววว”
     

    “อย่าเสียงดังสิไอ้เด็กบ้า” จบประโยคผมก็ดีดหน้าผากไอ้เอ๋อนั่นไปทีนึง ตั้งใจเล็งตรงที่มันเจ็บเมื่อกี้ด้วยนะ หมั่นไส้
     

    “โอ้ยเจ็บ”
     

    “เงียบไปซะ ขึ้นรถไป”
     

    “...” ชานยอลเบะปากใส่ผมก่อนที่จะเดินกลับขึ้นรถไปแต่โดยดี 

     
    เอาล่ะ ตอนนี้ผมต้องดูแล้วล่ะว่านี่มันรถใคร 
     
     
     
     
     


     
    กริ๊ง กริ๊ง กริ๊ง
    ให้ตายสิ โทรศัพท์ผมดังอีกแล้ว  = = ใครโทรมาตอนนี้กันครับ
    ผมล้วงหาโทรศัพท์เพื่อดูหน้าจอ...


    “ฮัลโหล”
     

    (คริส! อยู่ไหนนนนนน)
     

    “อยู่ห้างที่ไปประจำอ่ะ ทำไม”
     

    (เฮ้ยพูดจริงดิ อยากเจออออออออ ทำไมไปไม่บอก มาหาหน่อย เหงา T^T)
     

    “อ้าว นี่กลับมาจากจีนแล้วทำไมไม่บอก” 
     

    (เดี๋ยวจะเล่าให้ฟังงงง ไปแอบปิ๊งหนุ่มด้วยอ่ะ งืออออ >< แล้วสรุปตอนนี้อยู่ตรงไหนเนี่ย)
     

    “ตรงที่จอดรถ”
     

    (เพิ่งมาถึง?)

     
    “เปล่า จะกลับแล้วล่ะ”
     

    (อ๋อ นี่ฉันถึงที่จอดรถแล้วเนี่ย นายอยู่ไหนอ่ะ)
     

    “...” ผมเริ่มรู้สึกหวิวๆแล้วล่ะครับ ผมกวาดสายตาไปรอบๆ ยังไม่มีใครมานะ แล้วตาผมก็หันกลับไปมองเลขทะเบียนรถบีเอ็มอีกครั้ง
     

     ...... ได้เรื่องแล้วไงคริส รู้แล้วล่ะครับว่ารถคันนั้นของใคร ...!!!! ตายล่ะ 

     


    (คริส ฮัลโหล ได้ยินมั้ย)
     


    “อ่ะๆๆ เอ่อ อยู่ตรงB4 นี่นาย มีอะไรจะสารภาพ..” 
     


    (อะไร เดี๋ยวก็เจอกันแล้ว ค่อย...เฮ้ยยยยยยยยยยยย)
     


    “อะ..อะไร” นี่อย่าบอกนะ ว่า......




     
     
    (30%)


     
    -------------------------------------------------------------------
    แฮ่ กลับมาแล้วนะรีดเดอร์~ 
    ไรเตอร์กำลังจะพาตัวละครอีกคนมาเปิดตัวแล้วนะฮ้าาาา

    ยังไงก็เป็นกำลังใจให้ไรท์ด้วยน้า จุ๊บบบ



    ---------------------------------------------------------------------------------

     
     

    “คริสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสส!!!!!!!” เพื่อนสุดสวย(?)ของผมที่คุยโทรศัพท์กันเมื่อกี้วิ่งเข้ามากอดผม ..ตัวหนักไม่ใช่เล่นนะ แล้วที่สำคัญ.....

     


    “หนักโว้ย”


     

    “นี่คิดจะทักทายกันแบบนี้ใช่ป่ะ” คนสวยเบะปากใส่ 


     

    “เปล่า พูดความจริง ฮ่าาาาาา”


     

    “เฮ้ยคริส...ทำไม....” นิ้วเรียวชี้ไปที่รถบีเอ็มป้ายแดงงามเลิศทะลายโลก...


     

    “เฮ้ยคือ..”


     

    “รถกู T^T”


     

    “ลู่.. ขอโทษจริงๆ -[]- ”


     

    ใช่แล้วครับ รถบีเอ็มแสนหรูและแพงป้ายแดงนั่นเป็นของเพื่อนผมเอง ผมเพิ่งนึกออกตอนเห็นเลขทะเบียนอีกครั้งนี่แหละ ลูฮานเคยถ่ายรูปรถใหม่ของมันลงโซเชียล แล้วยิ่งเมื่อกี้มันโทรมาทำให้ผมยิ่งมั่นใจว่ารถคันนี้ต้องเป็นของยัยนี่แน่นอน = = 


     

    “สีถลอกหมดเลยยยยยย แงงงงงงง” ไม่ว่าเปล่ายังกระโดดเตะผมอีก ;-;


     

    “ขอโทษจริงๆ เดี๋ยวจ่ายให้นะๆๆ” ผมดึงแก้มอีกคนไปมาด้วยความสะใจ 


     

    “ก็ได้ ไม่โกรธหรอก แค่ต้องซื้อกระเป๋าmcmที่เพิ่งออกใหม่ให้ -3-”


     

    “ตลอดล่ะ ไว้วันไหนไปเที่ยวกัน คิดถึงนะคร้าบบบบบบ ต้องไปละ ไว้เจอกันนะคนสวย~”


     

    “อื้ม แล้วเจอกัน” แล้วเจ้าตัวก็โดดจุ๊บแก้มผมหนึ่งที ..โหย ทำเหมือนเป็นแฟนกัน แต่ไม่ใช่หรอกครับ ผมกับลูฮานรู้จักกันสมัยเรียนมหาลัยเพราะกีฬาสีครับ เขาเป็นดาวมหาลัยด้วยนะครับ เอ่อ เน้นครับ ดาว ไม่ใช่ เดือน ตอนนี้เป็นดีไซน์เนอร์ไปเรียบร้อยแล้วครับ  = w = แต่นี่มันกลับมาเกาหลีไม่คิดจะบอกผมเลยรึไง หรือมันจะไปแอบมีแฟนแล้วลืมเพื่อนสุดหล่ออย่างผม T^T ช่างเถอะครับ ....เอ่อ รู้สึกเหมือนผมลืมอะไรสักอย่าง..


    .....



    ...



    ..



    .

     

     


    ใช่

     

     

     

     

     

    ผมลืมชานยอล = =

     

     

     

    ป่านนี้หมอนั่นจะเป็นลมตายในรถไปรึยัง ไม่ได้สตาร์ตรถค้างไว้ให้ด้วย แล้วนี่ผมจะแคร์ทำไม เอาเถอะครับ นิสัยสุภาพบุรุษมันติดตัว 


    ผมเดินไปที่รถแล้วเคาะกระจกฝั่งที่ชานยอลนั่งอยู่ โหย เหมือนหมอนั่นจะหลับไปแล้วนะ หลับทั้งๆที่เหงื่อท่วมหน้า หลับไปได้ไงครับ สงสัยจะพูดจนเหนื่อย เฮ้ออออ แต่ตอนนี้ผมต้องขยับรถให้ลูฮานขับรถออกไปได้ก่อน

     


    มาคิดอีกทีมันก็ดีนะครับ ที่มันไม่ใช่รถคนอื่นน่ะ ไม่งั้นเรื่องคงยาวกว่านี้เยอะ 



    ..



    ..




    .



    .

    “ชานยอล” ผมสะกิดอีกคนที่หลับอยู่ข้างๆ ตอนนี้มาถึงบ้านผมแล้วครับ เวลาประมาณ 3ทุ่มครึ่ง เฮ้ออออออ มันไม่ดึกสำหรับผมหรอกครับ ปกติผมถึงบ้านเที่ยงคืน = =

     


    “Zzzzzzzz” 

     


    “ไอ้ปาร์คครับ” 

     


    “zzzzzzzzz”

     


    “ไอ้หูกาง” นี่ถ้าไม่ตื่นนี่จะปล่อยให้นอนอยู่ในรถถึงเช้าแล้วนะ

     


    “zzzzzzzz”

     


    “ไอ้เอ๋อ” 

     


    “zzzzzzzzz” 

     


    “คุณภรรยาครับ”

     


    “ห๊ะ ห๊ะ ห๊าาาา” นั่น ตื่นแล้ว.. = = ตาโตเท่าไข่ห่านละครับ น่าแกล้งจริงๆเลย เอ๊ะ นิสัยชอบแกล้งไอ้เด็กนี่มันยังไม่หายรึไง - -

     


    “ต้องเรียกแบบนี้ใช่มั้ยถึงจะตื่น หึ”

     


    “มะ...เมื่อกี้แกล้งหลับเฟ่ย!”

     


    “โหยยยย แถจริงๆเลย ถึงบ้านแล้ว ลงจากรถได้แล้ว” ผมหันไปเปิดประตูรถ

     


    “เดี๋ยว กระเป๋าอ่ะ” แต่แขนของผมโดนไอ้เด็กนี่จับเอาไว้

     


    “อยากถือหรอ”  

     


    “นายถือให้หน่อย นะนะ *^*” ดูทำหน้าเข้า ไอ้ตาแป๋วนี่มาอีกแล้วครับ อย่าคิดว่าผมจะหลงหรอกนะ น่าขนลุกชะมัด

     


    “เดี๋ยวให้คนมายกไป” 

     


    “เย้~ ขอบคุณณณณณณณ”

     


    “อะไรของนาย ตื่นแล้วเป็นคนดีขึ้นเยอะเลยนะ” นี่มันแอ๊บอยู่หรือก่อนหน้านี้แอ๊บครับ คนหล่องงครับ = =

     


    “นี่เราอยู่ไหน..” ผมขอเปลี่ยนคำพูดครับ ผมว่าไอ้เด็กเอ๋อนี่ละเมออยู่  แต่เดี๋ยวนะ..

     


    “หื้ม เรา?”

     


    “ใช่ เรา.......... เฮ้ยบ้า -/-”

     


    “หน้าแดงทำไม ชอบคนง่ายเนอะ ^^”

     


    “หยี พูดอะไร จะอ้วก” พูดจบก็แลบลิ้นใส่ผมแล้วโดดออกจากรถ วิ่งเข้าบ้านไป... นี่บ้านมันเหรอครับ = =

     


    “หึ สงสัยจะเขินจริงๆ” 

     

     


    “คุณคริส กลับมาแล้วหรอครับ” เสียงพ่อบ้านหนุ่มเดินมาเพื่อยกของที่อยู่ท้ายรถ

     


    “อ่าใช่ เฉินช่วยเอากระเป๋าท้ายรถขึ้นไปไว้บนห้องฉันทีนะ”

     


    “ครับผม”

     


    “เดี๋ยว” ผมเหมือนจะนึกอะไรออกเลยเรียกพ่อบ้านคนสนิทไว้ก่อน

     


    “พ่อกลับมารึยัง”

     


    “กลับมาแล้วครับ อยู่ในห้องรับแขกกับคุณผู้หญิงครับ”

     


    “อ่า ขอบใจมากนะ”

     


    “ครับผม” พ่อบ้านเฉินโค้งให้ผมแล้วเดินถือกระเป๋ากลับเข้าคฤหาสน์ไป เอ่อ..ว่าแต่ พ่อกับแม่ของผมอยู่ในห้องรับแขกนี่ ..แล้วเมื่อกี้ชานยอลวิ่งเข้าบ้านไป...นี่จะไปเอ๋ออะไรอีกรึเปล่าเนี่ย ..ทำผมขายหน้าหมด เอ๊ะเดี๋ยวนะ ผมจะไปขายหน้าทำไม ไอ้หูกางไม่ได้เป็นลูกผมซะหน่อย ให้ตายสิคริส พอๆๆๆๆ เลิกคิดเถอะครับ ยังไงคงต้องใช้เวลาประมาณ20ล้านปีแสงในการที่จะทำให้ผมกับชานยอลญาติดีกันได้ = = ผมเดินทอดน่องเข้ามาในห้องรับแขก ซึ่งพ่อกับแม่และศรีภรรยาผู้สูงส่องของผมนั่งคุยกันอยู่ ..นี่ชานยอลมันสร้างภาพเก่งขนาดนั้นเลยเรอะ เหอะ ก็พอๆกับผมนั่นแหละ

     



    “อ้าวคริส ทำไมไม่เดินเข้ามาพร้อมน้องล่ะลูก” คุณแม่ของผมเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นผมเดินเข้ามาในบ้าน

     


    “ชานยอลวิ่งเข้ามาก่อนนี่ครับ” อะไรกัน อย่าให้รู้นะว่าอีเด็กแสบนั่นไปใส่ไข่อะไรผมให้พ่อแม่ฟังน่ะ

     


    “แล้ววันนี้ไปกินอะไรกันมาล่ะ” เสด็จพ่อของผมถามเสียงเข้ม ผมรู้ว่าพ่อวางมาดนะครับ = =

     


    “ชาบูฮะ” ผมไม่ได้ตอบนะ เสียงของคนที่คุณก็รู้ว่าใคร อือหือออ น่าหมั่นไส้มากครับ ต่อหน้าพ่อแม่ผมมา ฮะมาเฮอะ ใส่ กะจะทำตัวน่ารักน่าหยิกน่ะสิไม่ว่า 

     


    “คริส แกจ่ายรึเปล่า”

     


    “จ่ายครับ = =” นี่ทำไมพ่อของผมต้องถามคำถามแบบนี้ด้วย

     


    “อ่า เดี๋ยวแม่พาชานยอลขึ้นไปบนห้องก่อนนะ ปล่อยสองพ่อลูกเขาคุยกันไปก่อน” แม่ผมปลีกตัวออกมาหลังจากที่เห็นพ่อผมส่งซิกส์อะไรสักอย่างให้ ส่วนอีเด็กเอ๋อนั่นก็เดินตามหลังแม่ผมไปและไม่ลืมที่จะหันกลับมาแลบลิ้นใส่ผมอีกต่างหาก หึ ไอ้ขโมยบัตรเครดิตไปเมื่อเย็นน่ะ อย่าคิดว่าผมจะลืมนะ ฝากไว้ก่อนเถอะ = =

     

     

    “อู๋ฟาน” 

     


    “ครับ” ..บางทีคนหล่ออย่างผมก็ตกใจเป็นนะครับ อยู่ๆพ่อผมมาเรียกชื่อจริงกันแบบนี้ มีเรื่องจริงจังอะไรรึเปล่าน่ะ

     

    .......


     

    .......


     

    ........




     

    หืม.. ทำไมพ่อดันเงียบครับ ผมเริ่มใจไม่ดีแล้วนะ =[]=

     

     

     

     

     


    “ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ” 

     

     



    ....

     



    “นี่พ่อขำอะไรครับ-_-”

     


    นั่นสิครับ อยู่ๆพ่อผมก็หัวเราะขึ้นมาขนาดนั้น หน้าผมมันไม่อะไรติดอยู่หรอ หล่อเกินไปล่ะสิ หรือว่าอะไร เอ๊ะ หรือชานยอลไปใส่สีตีไข่อะไรเกี่ยวกับผมให้พ่อผมฟังครับ = =

     


    “ก็ดีใจ ที่เห็นเข้ากันได้ดี”  อะไรอีกล่ะเนี่ย ผมงงจริงๆครับตอนนี้ =_=

     


    “ห๊ะ นี่พ่อแอบให้คนไปตามถ่ายหรอครับ ไม่เห็นเข้ากันสักนิด ชานยอลมันแสบมากนะครับ = =”

     


    “ก็คิดซะว่าหมอนั่นเอาคืนแกละกัน เมื่อก่อนแกล้งเขาไว้เยอะนิ โดยเฉพาะซ่อนรองเท้าน่ะ บ่อยจะตาย ฉันจำได้”

     


    “....” ไม่มีการเถียงใดๆเกิดขึ้นครับ อู๋ฟานคนนี้กลัวคนเป็นพ่อมากที่สุดใน4โลก -*-

     


    “ไม่ต้องมาทำหน้ามุ่ยเป็นเด็กๆเลยนะคริส โตจนตัวจะชนหลังคารถเมล์แล้ว”

     


    ..หลังคารถเมล์ = =? สูงอย่างผมสิมีแต่คนหมายปองงงงงง

     


    “แล้วพ่อมีเรื่องอะไรบอกผมรึเปล่าครับ” ผมเอ่ยถามออกไปเพราะไม่อยากจะโดนบิดาแซวไปมากกว่านี้ ผมไม่ได้เขินนะ แค่รู้สึกว่าตอนเด็กๆผมทำอะไรตลกๆไว้เยอะน่ะครับ = =

     


    “อ้อ มี”

     


    “...”

     


    “เรื่องงานแก”

     

    อ่าใช่ ผมจะเป็นสถาปนิกแล้วนะครับทุกคนนนนนน ^O^ ช่วยกันดีใจหน่อย ผมจบด้วยเกียรตินิยมเลยนะครับ ...เกียรตินิยมหน้าตา ฮิ้ววววววว~ เอ่อ เหมือนผมจะโดนไรเตอร์ด่าแล้วนะครับ = = ล้อเล่นครับๆ ผมจบด้วยเกียรตินิยมจริงๆนะครับนะ เชื่ออู๋คนนี้ด้วย TwT แล้วนี่ผมนั่งโม้อะไรอยู่ครับ เจออีเอ๋อแล้วสมองกลับรึไงกัน = =

     


    “ครับ?”

     


    “พ่อจะให้แกทำงานที่บ้านนะ จะได้อยู่เป็นเพื่อนชานยอล”

     


    “แล้วชานยอลเขาไม่ทำงานหรอครับ?” 

     


    พ่อผมจ้องหน้าผมอย่างจริงจัง เหมือนรู้อะไรบางอย่าง อะไรกันครับ?

     


    “อยากให้ชานยอลทำหรอ” 

     


    สายตาดุดันจ้องไม่วางตา นี่ผมทำอะไรผิดหรอครับ = =

     


    “ก็ใช่สิครับ ผมจะหาเลี้ยงอยู่คนเดียวได้ยังไงกัน”

     


    “นั่น”

     


    “ค...ครับ?” พ่อผมอมยิ้มอะไรน่ะ

     


    “เมื่อกี้บอกว่าอะไรนะ อะไรหาเลี้ยงนะ? ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ”

     


    บ....บ้าหน่า ก็ผมพูดจริงๆนี่ พ่อจะไปเอาอะไรจากไอ้แค่คำว่า หาเลี้ยง น่ะ ...อ้อ ลืมไปว่าเป็นสามีภรรยากับไอ้บ้านั่นแล้ว = = อะไรของผม งงตัวเองงง

     


    “แล้วผมพูดผิดตรงไหนครับ-0-”

     

     


    “ก็ไม่ผิดหรอก หึ วันนี้แอบปิ๊งน้องเขาล่ะสิ วิญญาณคนเป็นพ่อเลยเข้าสิงขนาดนี้” พ่อผมมองด้วยหน้าตาจับผิดสุดขีด นี่มันอะไรกันครับ ผมไม่ได้ปิ๊งซะหน่อย

     


    “เปล่าครับ”

     


    “ไปคิดทบทวนดีๆ วันนี้ที่เจอกันน่ะ รู้สึกเหมือนเมื่อ5ปีก่อนรึเปล่า ฉันฝากไว้แค่นี้แหละ อ้อใช่ เรื่องงานน่ะ เดี๋ยวพรุ่งนี้จะเอากลับมาให้ทำ มีแต่คนอยากจะได้ตัวนาย ไม่รู้ค่าตัวแพงมาจากไหนนะแก”

     


    “ค.....ครับ....ราตรีสวัสดิ์ครับพ่อ” 

     



    พ่อผมยิ้มให้แล้วลุกจากเก้าอี้ตรงไปยังบันไดเพื่อขึ้นไปชั้นบน 

    แล้วผมนั่งทำอะไร? ขึ้นห้องไปอาบน้ำสิครับ = =

     







     

     

     

    Chanyeol's part 

     


    “ของวางตรงนี้ก่อนนะจ๊ะ ส่วนห้องน้ำนี่ใช้ได้ตามสบายเลยนะ คริสเขาไม่ว่าอะไรหรอก ^^”  คุณนายอู๋สุดสวยผู้ใจดีพาผมขึ้นมาที่ห้องของคริสแล้วล่ะครับ 


    “ครับผม ขอบคุณนะครับ ^^”

     


    “เรียกว่าแม่สิยอล” อ่า ช่างเป็นผู้หญิงที่มีความเมตตาอะไรเช่นนี้ ไม่เห็นเหมือนลูกเลย เอาแต่ใช้ความรุนแรงงงง T_____T

     


    “ครับ...แม่ >/<” อึ๋ย พูดแล้วเขินๆยังไงไม่รู้ครับ >///<

     


    “งั้นเดี๋ยวแม่อาบน้ำก่อนนะจ๊ะ มีอะไรถามฟานฟานได้เลยนะ”

     


    “ครับผม ราตรีสวัสดิ์ครับ ^_^”

     


    เฮ้อออออออ ทำไมไอ้นายอู๋มันไม่ใจดีแบบแม่เขาบ้างนะ ดูสิเนี่ย เมื่อค่ำปล่อยให้ผมรออยู่ในรถตั้งนาน ร้อนก็ร้อน อย่าคิดว่าผมไม่รู้นะ ที่แท้ก็แกล้งถอยรถชนรถเพื่อนใช่มั้ยล่ะ เอ่อ อาจจะไม่ใช่เพื่อนก็ได้นะ เห็นหอมแก้มกันขนาดนั้น ผมคิดไปไกลแล้ว แต่ก็ช่างเถอะครับ เขาไม่ได้เป็นอะไรกับผมนี่ แล้วนี่ผมน้อยใจอยู่หรอ? ไม่หรอกครับ คริสเขาไม่เคยแคร์ผมอยู่แล้ว ผมก็ไม่แคร์เขาเหมือนกัน! ./\. ตอนนี้คงโดนพ่อเทศน์ไปละมั้ง วะฮะฮ่า 

     


    ผมเดินสำรวจห้องที่คุ้นเคยไปเรื่อยๆ ห้องนี้ตอนเด็กๆผมเข้ามาเล่นบ่อยนะ เวลาเล่นซ่อนแอบน่ะ ยิ่งมองไปรอบๆภาพในอดีตก็เริ่มผุดเข้ามาในหัว นี่ผมคิดว่าผมจะลืมมันไปแล้วนะเนี่ย เฟอร์นิเจอร์เหมือนเดิมเลยแต่สิ่งที่เปลี่ยนไปคือกลิ่นห้องนี่แหละครับ = = แหม เปิดประตูเข้ามานี่กลิ่นน้ำหอมกระจุย T T หมอนี่มันบ้ารึเปล่าครับ ผมมองไปรอบห้องไม่เห็นมี Glade สักอัน T^T นี่แสดงว่าฉีดน้ำหอมก่อนออกจากห้องทุกวันใช่มั้ยครับ กลิ่นมันเลยแรงขนาดนี้ แต่ก็หอมดีนะครับ ละมุนดี =w=

     




    “มองหาอะไร ห้องนี่นายรู้ทุกซอกเลยไม่ใช่หรอ ”

     


    อ่ะ...เอ่อ..เอิ่ม...นี่ไอ้หมอนี่มันเข้ามาตั้งแต่เมื่อไหร่ครับ!!!! โห ผมกำลังจะดราม่าแล้วเชียว(?) เอ่อ ประมาณว่าเมาน้ำหอมน่ะครับ! ผมหันไปตามเสียงนั้น ก็เห็นไอ้นายอู๋ตัวสูงเท่าเสาไฟฟ้ายืนกอดอกพิงประตูอยู่ สีหน้ามีเลศนัยสุดๆ นายจะเอาอะไรกับฉันนนนนT T 

     


    “เปล่า ไม่ได้มองอะไร -^-“ พูดไปงั้นแหละครับ เห็นๆอยู่ว่าผมมองรอบๆห้องอยู่

     


    “รำลึกความหลัง?” หมอนั่นว่าพลางปิดประตูห้องแล้วเดินเข้ามานั่งบนเตียง

     


    “....” เงิบครับเงิบ T____T

     


    “คืนนี้ฉันนอนตรงนี้ นายนอนตรงโน้น~” พูดไปก็หาวไป มือก็ชี้ไปที่โซฟามุมห้อง ห๊ะ! นี่ผมต้องนอนโซฟาเรอะ ไม่เอานะ ปาร์คชานยอลต้องนอนบนเตียงเท่านั้น และเป็นเตียงที่ไม่มีอู๋อี้ฟาน!!!

     


    “นายนั่นแหละต้องไปนอนตรงนั้น!”

     


    “นาย นี่มันเตียงฉันนะ” คริสเด้งตัวขึ้นมาส่งสายตาอาฆาตมาที่ผม กลัวตายแหละ เงิงจะออกแล้วนั่นน่ะ = =

     


    “เตียงนายแล้วไง ฉันต้องได้นอนบนเตียงงงงง”

     


    “อยากนอนกับฉัน^^?” หมอนั่นหันมาทำหน้าทะเล้นใส่ ไอ้บ้า ใครอยากนอนกับนายกัน!

     


    “บ้าหรออออออออ!”  ความอดทนผมเริ่มหมดละครับ คืนนี้ปาร์คชานยอลจะเผด็จการรรร! ถ้าผมไม่ได้นอนบนเตียงผมไม่นอนครับ เอาเซ่! 

     


    “แหน่ะ หน้าแดงอีก สงสัยชอบให้แกล้ง..”

     


    “ฮึ้ยยยยย” ผมปาขวดแชมพูใส่หมอนั่นไป โดนหัวเป๊ะเลยครับ เย่สสส!! ปาร์คชานยอลเก่งขนาดนี้ แม่นขนาดนี้ หล่อขนาดนี้ (อวยเข้าไป) คืนนี้เตียงต้องเป็นของผมมมม

     


    “โอ้ย เล่นแรงไปแล้วนะนาย” 

     


    “แบรรรร่”

     


    “เล่นยังงี้ใช่มั้ย ไปนอนโซฟาเลย”

     


    “ก็บอกแล้วไงว่าฉันจะนอนบนเตียงงงงงง”

     


    “ถ้านอนบนเตียงก็ต้องนอนกับฉัน เลือกอะไร” หมอนั่นยื่นคำขาดมา เล่นงี้ใช่มั้ยครับ คืนนี้เตรียมตัวสงครามปาหมอนได้เลย -*-

     


    “จะนอนบนเตียง แบบที่ไม่มีนาย”

     

    “ขี้โกง งั้นคืนนี้ฉันไม่อาบน้ำ” คริสล้มตัวลงนอนบนเตียงอีกรอบ


     

    “ตามใจเถอะ อี๋ ซกมก” จบประโยคผมก็หยิบเสื้อผ้าแล้วเดินกระแทกเท้าเข้าห้องน้ำไป

     


    หึ จะคอยดูว่านายจะทนความเหม็นของตัวเองได้แค่ไหน กลิ่นชาบูเต็มตัวเนี่ยนะ โว๊ะ อารมณ์เสียยย!

     









    -------------------------------------------------------------------------
     

     

    “เทาเทา คริสอยู่ที่นั่นจริงๆด้วยอ่ะ”


     

    “เป็นไงล่ะ บอกแล้วว่ามันไม่พาชานยอลไปร้านหรูๆหรอก ตังค์มันคงเก็บไว้ซื้อกำไลอเล็กซานเดอร์ แม็คควีน = =”


     

    “นั่นสิ แล้วเมื่อไหร่คริสจะบอกฉันสักทีว่าเขาแต่งงานแล้วน่ะ ตอนเขาแต่งฉันก็อยู่จีน ไม่มีใครบอกฉันสักคน มันน่าน้อยใจนัก T^T” ลูฮานเอ่ยออกมาในขณะที่กำลังคุยสไกป์อยู่กับเพื่อนสนิทเขาอีกคนหนึ่ง 

     


    “ก็ถามคริสไปตรงๆเซ่ว่าชานยอลเป็นใคร อยากเห็นหน้าหมอนั่นตอนสตั๊นเหมือนกันนะ ฮ่าๆๆๆๆๆ” เทาหัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่ง


     

    “เอ้อ แล้วนายรู้ได้ไงว่าคริสต้องพาชานยอลไปกินชาบูน่ะ”


     

    “จริงๆก็ไม่รู้หรอกว่าไปกินชาบู แต่คริสมันชอบไปห้างนี้ไง รับรองว่ามันจะต้องใช้บัตรลดที่ฉันยัดใส่กระเป๋าตังค์มันแน่นอน วะฮะฮ่า”


     

    “สรุปคือนายอยากจะกำจัดบัตรลด ทุกครั้งที่เจอคริสนายเลยเอาไปยัดให้เขา? แล้วนายก็เลยได้ประโยชน์จากการยัดบัตรลด คือ นายรู้ว่าคริสจะไปที่ไหน อะไรแบบนี้?” ลูฮานเริ่มจะเชื่อมเรื่องเข้าด้วยกันแบบมั่วๆซั่วๆ - -


     

    “เอ่อ มันน่าจะเป็นความบังเอิญมากกว่านะ ไม่ได้ตั้งใจจะยัดบัตรลดอาหารต่างๆนาๆให้หมอนั่นหรอก แล้วคริสมันถอยรถขูดรถนายใช่มั้ย ฮ่าๆๆๆๆ คิดแล้วก็ขำนะ ขับรถเก่งขนาดนั้น”


     

    “หรือจะเพราะมีคนนั่งอยู่ข้างๆเลยทำอะไรไม่ถูก ><” 

     


    “ฮิ้วววววววววววววววววว”

     


    “เรานินทาเพื่อนไม่ดีเลยนะ ._.”

     


    “นินทาอะไร เรียกแซวเฟ่ย” เทาว่าพลางหาวปากกว้าง มันพอที่จะยัดใบไผ่ประมาณห้าร้อยใบเข้าไป = =

     


    “ง่วงแล้วเหรอเทา”

     


    “นิดหน่อยนะ แต่อยากเม้าต่อ ฮ่าๆๆๆๆ”


     

    “แล้วทำไมสองคนนั้นถึงแต่งงานกันอ่ะ” ลูฮานผู้ไม่รู้เรื่องอะไรสักอย่างก็ได้แต่ถามไป แต่คำตอบก็คงไม่ได้ช่วยให้รู้เรื่องมากขึ้น = =


     

    “ไม่รู้เหมือนกันว่ะ น่าจะเป็นเรื่องของครอบครัวสองคนนั้นน่ะ นายก็รู้นี่ว่าสองคนนั้นสนิทกันตั้งแต่เด็ก”


     

    “แบบนี้ก็แสดงว่าพัฒนาเป็นความรักน่ะสิ?” ลูฮานเอียงคอใส่คอมพิวเตอร์ 

     


    “ไม่ สองคนนั้นไม่ได้รักกัน”

     


    “ห๊าาาาา”

     


    “เอาเถอะน่า เดี๋ยวจะอธิบายให้ฟัง พรุ่งนี้ว่างมั้น ไปเดทกันเถอะ” 

     


    “ห๊ะ เดททททททททททท?”

     


    “พูดเล่น ฮ่าๆๆๆๆๆๆ ไปหลีหนุ่มหลีสาวกัน ไปมะๆ”

     


    “ไปดิๆ ชวนคริสไปด้วยมั้ย” คนหน้าสวยตาลุกเป็นประกาย*-*

     


    “ไม่ต้องหรอก วันนี้อาจจะเข้าหออยู่ก็ได้ หึหึหึหึหึ”

     


    “จริงด้วย อย่าไปขัดเลย ><”

     


    “งั้นพรุ่งนี้เจอกันนะครับคนสวยยยยย”  เทาขยิบตาให้เพื่อนคนสวยก่อนจะบอกลาอีกรอบ

     


    “ได้เลยครับคนใต้ตาดำ~”

     


    “เดี๋ยวจะโดน ไปละ พรุ่งนี้ตื่นเมื่อไหร่ก็โทรมาละกัน”

     


    “โอเคคร๊าบบบบ ฝันดีแพนด้ากินไผ่~”

     


    “ฝันดีเว่ย”









     









     

    TBC.
     







    -------------------------------------------------------

    เบื่อคริสยอลกันแล้วรึยัง .......
    จะแอบบอกว่าตอนหน้าเพื่อนน้องยอลจะเปิดตัวแล้วน้าาา คึ
    ปล.ขอบคุณทุกคอมเม้นท์นะคะ ไรท์ดีใจมากเลยย >_<

     

     

     
    © Tenpoints!
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×