ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [SF] Looking for you ,(KrisYeol ft.exo)

    ลำดับตอนที่ #25 : อาการรัก [3] *[END]*

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.34K
      9
      11 พ.ย. 55

    อาการรัก 3

     
     

     

    Kris’s part


    มึงฟังเสียงหัวใจกู

     

    “........ไอ้คริส...ของกูเต้นแรงกว่ามึงเยอะ

     

    “...” เมื่อกี้ชานยอลพูดว่าไงนะ..

     

    “...” ไม่มีเสียงตอบรับของทั้งสองฝ่ายตายังคงจ้องกันอยู่อย่างนั้น มือของแต่ละคนก็ยังอยู่ที่หน้าอกของกันและกัน ...-0-

     

    เอ่อ/เอ่อ

     

    คริส/ชานยอลตายแล้ว บรรยากาศแบบนี้มันน่าอึดอัดนัก

     

    คริส......

     

    “....”

     

    มึง....

     

    “....”

     

    “.......คิดเหมือนกับกูรึเปล่า

     

    “......” ก็กูกำลังสงสัยอยู่นี่ไง

     

    “เอ่อะ... ช่างเหอะ มึงอย่าสนใจเล...” ชานยอลทำท่าจะชักมือกลับ แต่ผมจับมือบางให้ทาบกับหัวใจของผมต่อ

     

    “ชานยอล”

     

    “อะไร...”

     

    “คือ กู...” คำพูดมันจุกอยู่ที่คอ ปากจู่ๆ ก็รู้สึกหนักอึ้งขึ้นมา ผมหายใจไม่ทั่วท้อง อะไรวะ...

    กูคิดว่ากูคิดเหมือนมึง...

     

    “อืม...กูเข้าใจแล้ว... เอ่อ... เดี๋ยวกูมา” แล้วชานยอลก็รีบชักมือกลับแล้วเดินออกไปอย่างรวดเร็ว นี่ผมยังไม่ได้พูดอะไรเลย... อะไรวะเนี่ย

     

    ปัง

     

    “พลาดอย่างสวยงามวะมึง” เสียงบุคคลที่สามเดินเข้ามา ผมที่ยังคงนั่งมองมือตัวเอง... ผมรู้ดีว่าเสียงใคร แต่ว่าความรู้สึกแบบนี้มันอะไรกัน

     

    “มึงมาทำซากไรวะไอ้ไค”

     

    “ทำไมมึงไม่บอกวะ ตะกี้จะได้แล้วเชียว”

     

    เฮือกกก!!

     

    “มึงเห็น...” ผมรู้สึกหัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะ

     

    “ทุกฉาก”

     

    “แล้วทำไม...”

     

    “กูแค่อยากรู้ว่ามึงจะทำอะไร ถ้ากูออกมาขัดก็เสียบรรยากาศหมดดิวะ”

     

    “กูอยากให้มึงมาขัดมาก เพราะมันโคตรอึดอัด” ใช่ครับ มันอึดอัดดดด

     

    “มึง... มึงฟังกูนะ...” ไคเดินมาจับบ่าผมแล้วออกแรงบีบเล็กน้อย ไคจ้องตาผม แต่ผมกลับหลบสายตา ผมยังรู้สึกสับสน ทั้งความรู้สึกของตัวเอง ความรู้สึกของชานยอล การกระทำของตัวเอง และการกระทำของชานยอล มันเคลือบแคลงไปหมด

     

    “กูรู้ว่ามึงสับสน มึงบอกชานยอลเหอะว่าสรุปมึงคิดยังไง”

     

    “แต่กู...”

     

    “มึงสับสนใช่มั้ยว่าสรุปมึงชอบชานยอลรึเปล่า ตอนนี้ชานยอลไม่อยู่มึงคายออกมาให้หมดเหอะ”

     

    “.....”

     

    “มึงฟังนะ เมื่อกี้ที่ไอ้ยอลเดินหนีเข้าไปในห้อง ปิดประตูเสียงดัง แบบนี้มันเหมือนเดินหนีมึงชัดๆ มึงรู้สึกยังไงกับการกระทำของไอ้ยอลล่ะ...”

     

    “.......” ผมรู้สึกเจ็บที่หัวใจ แปล้บๆ

     

    “ว่าไง... มึงโกหกกูก็ได้ แต่มึงโกหกหัวใจมึงไม่ได้หรอก”

     

    “กูกังวลว่ะมึง... กูกลัวว่าไอ้ยอลจะเข้าใจผิด กูสับสนวะมึง กูกลัว...”

     

    “มึงกลัวอะไร”

     

    “กูกลัวว่ากูจะเสียชานยอลไปวะมึง จู่ๆ มันก็มีความคิดแบบนี้ขึ้นมา คือ กู...”

     

    “มึงเลิกใช้คำว่าความคิดได้ละ ตอนนี้มึงใช้ความรู้สึก... มึงลองดูหัวใจตัวเอง”

     

    “.......” ผมเอามือมาทาบที่หน้าอกด้านซ้ายของตัวเอง สัมผัสมือของชานยอลผมยังจำได้

     

    “แค่นี้กูว่ามึงน่าจะรู้ได้แล้วนะ ว่ามึงอะไม่ได้ชอบ..”

     

    “.....”

     

    “แต่มึงรัก... มึงกลัวว่ามึงจะเสียเขาไป”

     

    “ก็... ก็จริง”

     

    “แค่นี้ก็ชัดจะตายอยู่ละว่ามึงคิดกับชานยอลยังไง ตอนนี้มึงก็รีบไปบอกความในใจกับชานยอลได้ละ กูสงสารไอ้ยอลว่ะ แม่งถูกมึงปั่นหัว”

     

    “กูปั่นหัวอะไรไอ้ยอลวะ”

     

    “ก็มึงชอบสับสนกับความรู้สึกของตัวเอง เอาแต่ใช้ความคิดตัดสินใจ ความจริงแล้วเรื่องพวกนี้มันก็ต้องใช้ความรู้สึกตัดสินบ้างนะเว่ย มึงไม่ยอมชัดเจนกับไอ้ยอลสักที ทีนี่มึงก็ชัดเจนแล้ว มึงก็รีบจัดการเรื่องของมึงได้ละ” ไคพูดพร้อมกับตบบ่าผม

     

    “....”

     

    “กูเป็นกำลังใจนะเว่ยยยยย พรุ่งนี้ไปเที่ยวกันนิ รีบจัดเต็มเลยมึง” ไคเปลี่ยนน้ำเสียงเพื่อให้ผมซึ่งตอนนี้รู้สึกแย่สุดๆ รู้สึกดีขึ้นมานิดนึง

     

    กูสงสารไอ้ยอลว่ะ แม่งถูกมึงปั่นหัว

     

    มึงรอกูหน่อยนะชานยอล... กูยังมีหวังใช่มั้ย

     

     

    -----------------------------------

     

     

    Chanyeol’s Part

     

    “อืม...กูเข้าใจแล้ว... เอ่อ... เดี๋ยวกูมา” ผมทนอยู่กับบรรยากาศแบบนี้ไม่ได้ ผมรีบเดินออกมาจากบรรยากาศน่าอึดอัดนั่น รีบเดินเข้ามาในห้องนอนอย่างไม่ต้องคิด

     

    ปัง

     

    ทำไมต้องมาจับมือกันแบบนี้ด้วย รู้มั้ยว่ามันทำให้กูหวั่นไหว มันทำให้กูสับสน มึงต้องการอะไรกันแน่วะไอ้คริส มึงหยุดให้ความหวังลมๆ แล้งๆ กับกูได้มั้ย ถ้าเกิดว่ามึงไม่ได้คิดอะไรกับกู เหมือนที่กูคิดกับมึง..

     

    พรุ่งนี้แม่งต้องไปเที่ยวด้วยกันอีก

    จะมองหน้ากันได้มั้ยวะ

     

    “ฮึก... นายมันโง่ชานยอล... นายจะไปบอกเขาทำไม ปล่อยให้มันเป็นแบบนี้ก็ดีอยู่แล้ว... อย่างน้อยเราก็จะไม่มีวันเสียเขาไป... ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่ฐานะที่มากกว่านั้น ฐานะที่ฉันหวังอยู่ แต่ปล่อยให้มันเคลือบแคลงไปแบบนี้มันก็ดีอยู่แล้วนิ... ฮึก...”

     

    น้ำตาจากไหนไม่รู้ก็ไหลพรากลงมาที่ตากลมใส ตากลมปิดตาแน่นปล่อยให้น้ำไหลลงมาเป็นสาย... ร่างบางเดินไปที่เตียงแล้วล้มตัวลงนอนอย่างเหนื่อยอ่อน ใบหน้าหวานซุกลงที่หมอน ปล่อยให้น้ำตาไหลออกมา และสะอื้นอยู่อย่างนั้น จนกระทั่งประสาทสัมผัสค่อยๆ ดับมืดไป

     

     

    ------------------------------------------------

     

     

    “ไอ้คริสสสส ทำไมมึงหน้าเป็นงั้นวะ ตามึงแม่งบวม” เสียงไก่ตาแตกขันออกมาตอนเช้า หลังจากที่เรานัดเจอกันที่บ้านของไค

     

    จะว่าไปตอนแรกคริสบอกว่าจะนอนที่บ้านผมนิ... แต่เมื่อคืนผมก็นอนคนเดียว แล้วเมื่อคืนคริสนอนไหน??

     

    “กูนอนไม่ค่อยหลับวะมึง สงสัยฟูกแข็งไปนิดนึง” คริสพูดพร้อมกับเกาหัวกิกๆ

     

    “หมายความว่าไงวะ” ดีโอถามต่อจากไค

     

    “กูนอนโซฟา” คริสพูดเสียงเรียบ แล้วก็เหลือบตามามองหน้าผมเล็กน้อย

    ผมรีบหลบสายตาหนีทันที... นอนโซฟาเนี่ยนะ ให้ตาย เมื่อคืนทำอะไรลงไปเนี่ย ชานยอล T^T

     

    “โห ทำไมวะมึง” ไคทำหน้าตกใจสุดขีดพร้อมกับดีโอที่ดูจะเออออตาไปด้วย

     

    “กูแค่อยากเปลี่ยนบรรยากาศ” คริสยังคงมองผมด้วยสายตาแปลกๆ ให้ตาย มึงต้องการอะไรจากกูววววว ฮืออออ T^T

     

    ผมเห็นไคเดินไปกระซิบอะไรสักอย่างกับคริส ทำให้คริสหลบสายตาจากผมทันที อะไร พวกนั้นทำอะไร!!! ดีโอดูอยากรู้เรื่องด้วย แต่ก็โดนซูโฮลากออกไปก่อน ไอ้พวกนี้มันอะไรกันวะ

    ไม่นาน ไคก็เดินตรงมาทางผม

     

    “ไอ้ยอล มึงก็อีกคน เมื่อคืนไม่ได้นอนหรือไงวะ ตาบวม โตไม่เท่ากันแล้วเนี่ย” ไคพูดพร้อมกับเอามือมาจิ้มๆที่คิ้วใกล้ๆตาของผม

     

    “เปล่าสักหน่อย ก็เมื่อคืนนอนดึก” ดึกมากกกกก ร้องไห้ไปนอนไปต่างหาก อย่างกับกินเกลือก่อนนอน T^T สรุปไอ้คริสมันจะไม่สนใจผมแล้วก็หนีผมไปแล้วใช่มั้ย เจ็บครับ T^T

     

    “.............” ไคไม่ได้พูดอะไร แต่ว่ามองผมด้วยสายตาจับผิด ไอ้ไก่บ้าหยุดเดี๋ยวนี้ คนมันจิตใจอ่อนแอ T^T

     

     

    ระหว่างการเดินทางผมไม่ได้คุยกับคริสเลยครับ มันอึดอัดมาก หน้าก็ไม่มอง แต่ที่ซวยก็คือต้องมานั่งในรถข้างกันนี่สิ!! ไอ้ไคแม่ง บอกว่าอยากนั่งที่อื่นเลยโยนคริสมานั่งข้างผม มันน่ามั้ยครับ ฮือออออ อึดอัดโฟร้ยยยยยยย ก็คริสชอบมองผมด้วยสายตาแปลกๆง่ะ T^T อย่าทำตัวแปลกไปได้มั้ย มันไม่มีอะไรจะคุย ความจริงมีเยอะมาก แต่ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นยังไง ชานยอลอยากให้เราคุยกันเหมือนเดิม ชานยอลผิดไปแล้ว ชานยอลมันโง่ ฮือออออ T^T

     

    ----------------------------

     

    Kris’s Part

     

    พวกเราเดินทางมาจนถึงที่พักแล้วครับ ตอนนี้มันก็เย็นมากแล้ว เราแวะกินข้าวเย็นกันที่ร้านอาหาร ตอนนี้ทุกคนเข้านอนกันน่ะครับ ตั้งแต่เช้ามาจนตอนนี้ไม่ได้คุยกับชานยอลเลย ผมก็พยายามสบตาชานยอลอยู่ แต่เขาหลบสายตาผมตลอดเลย อะไรก็ไม่รู้ ฟุ้งซ่านไปแล้วแน่ๆ

     

    ตอนนี้เกือบตีสองแล้ว แต่ที่ผมยังไม่นอน... ก็เพราะมันนอนไม่หลับน่ะสิ มันกระวนกระวาย กังวลเรื่องชานยอล ผมอยากจะคุยกับเขา... ในสถานะอื่น

     

    ผมนั่งจมอยู่ในความคิดของตัวเองสักพักก็ต้องสะดุดกับเงาบางอย่าง... ร่างโปร่งเดินออกไปที่ระเบียง..

     

    ความจริงแล้วตอนนี้ทุกคนควรจะนอนแล้วสิ

     

    ผมเห็นร่างบางมองขึ้นไปบนฟ้าแล้วตัวสั่นน้อยๆ

    หนาว หรือ ร้องไห้...

    ไม่ต้องรอให้สมองสั่งการ

     

    ฟืดดด

    หมับ

     

    ---------------------------

     

     

    Chanyeol’s Part

     

    หลับสิ ตีหนึ่งแล้วนะ

    ตีสองแล้ว...

    ให้ตายเถอะ นอนไม่หลับโว้ย ภาพคริส สายตาของคริสในวันนี้มันหลอกหลอนชะมัด นายต้องการจะพูดอะไรทำไมไม่พูดดดดด อึดอัดนะ ออกไปสูดอากาศข้างนอกหน่อยดีกว่า


    ผมเดินออกไปที่ระเบียง มันเป็นระเบียงที่เชื่อมต่อหลายห้องครับ หนึ่งในนั้นก็มีห้องของคริสด้วย... หวังว่าจะหลับไปแล้วนะ

     

    ผมเหลือบขึ้นไปมองท้องฟ้า

    วันนี้ดาวสวย...

    แต่มีครั้งอื่นสวยกว่า... ครั้งที่ผมมองดาวกับคริส นานมาแล้ว...

    วันนี้กูไม่ได้ยินเสียงมึงเลยนะไอ้คริส...

     

    “ฮึก....” ร่างบางสั่นเทาด้วยเสียงสะอื้น น้ำตาถูกปล่อยออกมาเป็นสายเมื่อเจ้าตัวห้ามไม่อยู่เพราะนึกถึงเรื่องอดีตอันน่าจดจำ แต่เหมือนว่าตอนนี้ทุกอย่างมันได้จบลงแล้ว

     

    ข้างนอกหนาวจัง...

    แต่ข้างในใจหนาวกว่าล้านเท่า...

     

    ฟืดดดด

    หมับ

     

    เสียงประตูเปิดออก และมืออุ่นจับที่ไหล่บาง

    สัมผัสที่คุ้นเคย...

    ร่างบางตกใจรีบหันไปดูบุคคลผู้มาเยือน ตากลมที่เต็มด้วยหยาดน้ำตาเบิกกว้าง ปากเตรียมจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ถูกริมฝีกปากอีกคนปิดไว้

     

    ริมฝีปากอุ่นกดลงมาทาบริมฝีปากบางที่ตอนนี้สั่นระริกด้วยความหนาว และความตกใจ มือหนาเลื่อนมาโอบคนตัวบางหวังให้ความอบอุ่น พร้อมกับสอดลิ้นอุ่นเข้าไปข้างใน ร่างบางยืนแข็งทื่อเหมือนน้ำแข็ง ไม่ใช่ว่าเขาหนาว... ไม่สับสนกับการกระทำตรงหน้าต่างหาก

     

    ร่างบางปล่อยให้ลิ้นหนาควานหาความหวานในโพรงปากของตัวเองไปเรื่อยๆ ยิ่งปล่อยไปมากเท่าไหร่ รู้สึกร่างกายยิ่งอ่อนยวบลงไปทุกทีจนต้องตวัดแขนบางมาโอบที่ไหล่หนาเพื่อพยุงตัวเองให้ยืนต่อไป

     

    “อือ....” ร่างบางครางออกมาเมื่อรู้สึกหายใจติดขัด ริมฝีปากอุ่นถอนจูบออกมาอย่างอ่อนโยน

     

    “......” ร่างบางยืนหอบ ไม่ส่งเสียงใดๆ

    มึงทำอะไรลงไป รู้ตัวบ้างมั้ยไอ้คริส!!!

     

    “ชานยอล...”

     

    “.......” น้ำตายิ่งไหลลงมามากขึ้นเพราะความสับสน คนตรงหน้าต้องการอะไร...

     

    “อย่าร้องไห้... กูไม่ชอบหน้าตามึง” มืออุ่นปาดน้ำตาเป็นใบหน้าหวานอย่างอ่อนโยน แต่มันยิ่งทำให้ร่างบางร้องไห้หนักขึ้น น้ำตาไหลออกมาเป็นสายและท่าทางจะไม่หยุดลงง่ายๆ

     

    “มึงหยุดปั่นหัวกูได้แล้วไอ้คริส...ฮึก...” ชานยอลพูดพร้อมกับมือบางเลื่อนมาหยุดมือหนาที่กำลังปาดน้ำตาออกจากใบหน้าของตัวเองอยู่

     

    “ชานยอล... มึงฟังเสียงหัวใจกู...”

     

    “กูฟังไปแล้ว... มึงไม่ได้คิดเหมือน...”

     

    “มึงอย่าคิดเองเออเองดิวะ กูยังไม่ได้พูดอะไรเลย” คริสพูดพร้อมกับเลื่อนมืออุ่นมากุมที่กลุ่มผมนิ่ม

     

    “.............” ชานยอลงงกับคำตอบของคนตรงหน้า

     

    “ทำไมวันนี้มึงไม่คุยกับกู” คริสมองลึกลงไปในตากลมใส ที่ตอนนี้เหลือบลงต่ำเพื่อหลบสายตาของคนตรงหน้า

     

    “ก็... กูไม่รู้จะคุยอะไร” คนตัวบางพูดตะกุกตะกัก

     

    “มันมีให้พูดเยอะมาก” คริสพูดพร้อมกับจับมือบางให้มาทาบที่หัวใจตัวเอง พร้อมกับยื่นหน้าเข้าไปใกล้ใบหน้าหวาน

     

    หัวใจคริสเต้นแรง...

    พอๆ กับของชานยอลเลย

     

    “กูนอนไม่หลับเพราะมึง...” ร่างหนากระซิบบอกคนตัวบาง

     

    “................”

     

    “ออกมาข้างนอกคนเดียว อากาศหนาวๆ แบบนี้เดี๋ยวก็ไม่สบาย... แล้วยังจะร้องไห้อีก ร้องไห้เพราะกูใช่มั้ย...”

     

    “.................”

     

    “ตอบสิชานยอล.... เพราะกูใช่มั้ย....”

     

    “......” ผมไม่ตอบแต่พยักหน้าเบาๆ กลับไป หลับตาลงแน่นปล่อยให้น้ำตาไหลลงมาอีก ทำไมต้องมาถามคำถามอะไรแบบนี้ด้วยวะ

     

    “กูเป็นห่วงมึงนะ กูขอโทษที่ทำมึงร้องไห้สองวันติดกัน...”

     

    “มึงรู้...” ผมพูดด้วยเสียงที่เบามาก เหมือนเสียงมันหายจากลำคอไปหมด

     

    “อืม...”

     

    “คริส...”

     

    “หืม...”

     

    “คือ... กู... มึง...คิดกับกู...” ยังเจ็บไม่พอใช่มั้ยชานยอล ทำไมต้องถามคำถามแบบนั้นอีกแล้ว

    ผมเบือนหน้าหนีทั้งๆ ที่ยังพูดไม่จบ พลาดรอบสอง ไม่ไหวแล้ว

     

    “ชานยอล... หยุดฟุ้งซ่าน เลิกหนีกูได้แล้ว” มืออุ่นรีบจับใบหน้าหวานให้หันมาสบกับดวงตาคมอีกครั้ง

     

    “ก็มันออกจะชัดเจนขนาดนี้... มึงไม่ได้...”

     

    “กูไม่ได้คิดกับมึงแบบเพื่อน”

     

    “.....” ว่าไงนะ

     ผมรู้สึกเหมือนร่างกายชาไปหมด เสียงก็หายไปหมด ผมสัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่นๆ มากระทบที่ตัวเล็กน้อย ใบหน้าหล่อเลื่อนมาใกล้ใบหน้าหวานอีกครั้ง

     

    “กูไม่อยากเสียมึงไป กูมันเพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อ คราวหลังอย่าคิดเองเออเองอีกนะ...”

     

    มือหนาเลื่อนมากุมเรือนผมนิ่มอีกครั้ง แล้วออกแรงให้มาซบที่ไหล่หนาของตัวเอง อ้อมแขนแกร่งโอบกอดร่างบางไว้แน่น หวังไม่ให้หนีเขาไปไหนอีก

     

    “คริส...”

     

    “กูไม่รู้ว่ากูรักมึงตอนไหน... แต่กูก็รักมึงไปแล้ว”

     

    “มึง...”

     

    “คบกันนะ”

     

     

    THE END

    มาต่อแล้วจ้าาาาาาา จบป่วงป้ะ 55555555555 คิดตอนจบสวยๆไม่ออกนั่นเอง= =
    ขอโทษที่หายไปน้าาา กำลังแต่งฟิคยาวอีกเรื่องนึงงงง
    (เรื่องเก่าก็ยังไม่จบ อีไรท์คนนี้นี่ยังไง-0-)

    เป็นกำลังใจให้ด้วยนะๆๆ 
    SFเรื่องต่อไปอยากได้ยังไงเอ่ย รีเควสได้เรยยยย >3<

    1เม้น1กำลังใจนะค้าา

    THE★ FARRY
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×