คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : Marry me? : 8
MARRY ME
8
“ยิ้มไรวะไอ้แบค ตั้งแต่เมื่อวานละ ไอ้ฮุนด้วย เหม่ออยู่ได้ อะไรของพวกมึงวะเนี่ย” ไคที่นั่งมองเพื่อนสนิททั้งสองมาสักพักอดใจไม่ไหวจึงเอ่ยขึ้น
“หือ กูยิ้มหรอ?” แบคฮยอนที่ยืนผูกเน็คไทอยู่หน้ากระจกสะดุ้งเล็กน้อย
“ก็เออดิวะ มึงน่ารักมากรึไง ยิ้มให้ตัวเองในกระจกเนี่ย” ไคส่ายหัวไปมาเล็กน้อบก่อนจะหยิบนิตยสารนินทาดารา(?)ขึ้นมาอ่าน
“บ้า วันนี้เดี๋ยวกูต้องเข้าบริษัท มีคนมารับด้วยแหละ คิก >O<” คนที่ยืนอยู่หน้ากระจกเอ่ยออกมาก่อนจะเดินไปหยิบแก้วนมขึ้นมาดื่ม
“มึงอย่าเล่นมุขนมเปื้อนปากนะเว่ย จะอ้วก บรึ๋ยยยย”
“นี่มึงเห็นกูอ่อยขนาดนั้นเลยหรอวะ โธ่” แบคฮยอนยู่ปากใส่ไคเล็กน้อย
“เออ แล้วใครมารับมึงวะ” คนนั่งอ่านนิตยสารถามขึ้น
“ก็คนนั้นแหละ >< พรหมลิขิตแม่งมีจริง กรี๊ดดดดดด” ว่าจบคนตัวเล็กก็กระโดดดึ๋งๆออกไปนอกห้องเรียบร้อย ปล่อยให้เพื่อนอีกสามคนยืนอ้าปากข้างและมองไปยังประตูหน้าห้องเป็นตาเดียว
“กูว่ามันบ้า” ไคเอ่ยออกมาหลังจากที่แบคฮยอนวิ่งออกจากห้องไปแล้ว
“จะไปสนใจทำไม มันก็เป็นงี้แหละ อย่าหวังว่าคนนี้มันจะจริงจัง” ดีโอเดินถือจานไข่ดาวออกมาจากห้องครัวและมาวางไว้บนโต๊ะอาหาร
“วันนี้มีอะไรกินวะโด้” เซฮุนที่ยืนกดโทรศัพท์อยู่นานเอ่ยขึ้น
“มึงก็แหกตาดูสิวะ--” ก่อนที่ดีโอจะพูดจบประโยคไคก็พูดแทรกขึ้นมาซะก่อน - -
“เออ มึงก็อีกคนนะไอ้ฮุน ร้อยวันพันชาติไม่เห็นจะติดโทรศัพท์ มีสาวให้คุยรึไง”
“กูจีบของกูเงียบๆมึงยังจับผิดอีกนะ” คนโดนเรียกชื่อหันมาตอกเพื่อนที่ตั้งแต่เช้ามาก็ยังไม่หยุดบ่น
“O___O!!!”
“อะไรมึง ทำไมเป็นตาโต”
“ทำไมพวกมึงทิ้งกูไปหมดเลยวะ!”
...
...
...
[Chanyeol's part]
ตอนนี้ผมอยู่ที่สนามบินอินชอนแล้วครับ พร้อมกับไอ้คริสสุดแสนจะเพอร์เฟ็ค - -; แล้วนี่ผมไม่มีอะไรจะพูดจนไปชมหมอนั่นเลยรึไง แล้วก็กำลังยืนรอไอ้คุณสามีอยู่หน้าร้านสตาร์บัคส์ครับ
“ต้องไปเกทไหนนะ” คริสเดินออกมาพร้อมกับถือแก้วกรีนทีลาเต้ออกมา เอ๊ะ แต่ทำไมซื้อมาสองแก้ว ?
“นายก็ดูเองสิ โธ่” ผมเบื่อครับผมเบื่ออออ อยากไปฮ่องกงเร็วๆ >.<
“เออๆ อ่ะ กินมั้ย ซื้อมาให้” คริสว่าพลางยื่นกรีนทีลาเต้อีกแก้วมาให้ผม .. ผมแปลกใจนะครับ
“มีน้ำใจกับเขาด้วยเหรออออ~~~” ได้ทีขอแซวมันหน่อยครับ ฮี่ๆ ช่างเป็นพี่ที่ดูแลน้องอะไรได้ดีเช่นนี้~ เอ๊ะ นับวันผมจะยิ่งชมหมอนี่มากเกินไปแล้วครับ ชานยอลลลลลลลลล = =
“มีสิครับ หล่อรวย...เมียน่ารักขนาดนี้” ไอ้ประโยคหลังเหมือนผมจะได้ยินมันข้างๆหู กระซิบทำไมมม หัวใจมันอ่อนแรงงงง -/-
“ห๊ะ” -///- ...นี่..ผมเขินหรอ!
“เขินอ่ะดิ ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ” ดูไอ้คริสมันหัวเราะสิ เงิงจะระเบิด นี่มันแกล้งผมเรอะ! ให้ตายสิชานยอลลลลล T___T
“ไอ้บ้า ใครเขิน ฟังแล้วจะอ้วก” ปากแข็งนะ -0-
“ก็นายหน้าแดง ^^” นั่น จิ้มแก้มผมอีก ไม่เอา หัวใจผมมันไม่ปกติครับ T///T
“อะไรของนาย เปล่าซะหน่อย” แล้วผมก็เก๊กหยิบกรีนทีลาเต้จากมือคริสแล้วเดินนำหน้าหมอนั่นไป อะไรมันทำให้ผมเป็นแบบนี้ครับ ฮือออ T___T
“ชานยอล” แล้วนี่จะเรียกผมอีกทำไมมมมม T///T
“อะไรอีก -/-” ยังไม่หายเขินครับ
“เกทเรามันไปทางโน้น~”
“=////=” เคยมั้ยครับ เขินกับอายในเวลาเดียวกันน่ะ ...ตอนนี้ผมเป็นอยู่ T///T
....
....
....
“ไอ้เอ๋อ ตื่นครับ” ร่างสูงสะกิดคนที่นั่งหลับอยู่ข้างๆเมื่อกัปตันประกาศว่าเครื่องบินใกล้จะลงจอดที่ท่าอากาศยานนานาชาติฮ่องกงแล้ว
“ขอนอนต่ออีกนิดน่า” ชานยอลตอบออกมาทั้งๆที่ตายังหลับอยู่และหันหลังให้อีกคน
“ตื่นมาคาดเข็มขัดก่อนก็ยังดี”
“Zzzzzzz”
“นี่หลับหรือตั้งใจไม่ตอบกันแน่ ไอ้เด็กขี้เซา” คริสบ่นออกมาเบาๆแต่พอที่ชานยอลจะได้ยิน ร่างบางเอาหมอนที่กอดอยู่มาตีอีกคนเบาๆแล้วหลับต่อไป
คนตัวสูงส่ายหน้าเล็กน้อยก่อนจะเอื้อมมือไปคาดเข็มขัดให้อีกคนที่หันหลังให้เขาอยู่
“ก็ตื่นอยู่ทำไมไม่คาดเองล่ะครับ” เสียงเข้มกระซิบข้างหูอีกคน
“.......” อยู่ๆหน้าชานยอลก็ร้อนขึ้นมา ร่างบางส่ายหน้าเล็กน้อย
“อยากให้ทำให้ก็บอก หึ”
“บ้า... ใครตื่น หลับอยู่เฟ้ย” ชานยอลเอ่ยออกมาเบาๆ ก่อนจะหันหลังให้คริสมากกว่าเดิม ไม่อยากจะหันไปให้อีกคนเห็นว่าตัวเองกำลังเขินอยู่
ตรงกับจังหวะที่เครื่องจอดพอดี ผู้โดยสารทั้งหลายทยอยลุกขึ้นหยิบสัมพาระจากชั้นด้านบนที่นั่งและยืนต่อแถวกันเพื่อลงจากเครื่องบินแต่คนทั้งสองยังคงนั่งอยู่ที่เดิม
คริสสะกิดคนข้างๆอีกครั้ง แต่ก็ไม่ได้ผล นี่ชานยอลไปอดหลับอดนอนที่ไหนมา หรือเพราะไฟลท์มันดึกเจ้าตัวเลยอยากจะนอนบนเครื่องบินแทนนอนที่บ้าน
“ลุกได้แล้วววววว นี่เครื่องบิน ไม่ใช่ห้องนอนนะ”
“แง่มมม” เสียงตอบรับก็มีแค่นั้น
“จะลุกดีๆมั้ยครับ” ร่างสูงปลดเข็มขัดนิรภัยให้อีกคนต่อด้วยแย่งหมอนที่ชานยอลกอดอยู่มาตีหัวคนขี้เซาหนึ่งที
“โอ้ยยย ตื่นแล้วๆๆ”
“ปลุกตั้งนาน มัวแต่นอนอยู่ได้”
ใครนอนล่ะ..ก็คนมันเขินอยู่...
“ก็คนมันง่วงนี่นา ถึงแล้วหรอ?” ชานยอลขยี้ตาเล็กน้อยก่อนจะหยิบกระเป๋าของตนที่วางไว้หน้าที่นั่ง
“ถึงนานแล้วครับ ลงกันได้แล้ว” คริสลุกขึ้นไปหยิบกระเป๋าจากชั้นที่อยู่เหนือหัว
“เดี๋ยวๆ หาพาสปอร์ดก่อนๆ”
“เดี๋ยวค่อยไปหา คนมันจะลงหมดเครื่องละเนี่ยยยยยยย” อีกคนเริ่มหมดความอดทนจึงดึงข้อมือคนตัวบางเดินลงไปจากเครื่องบิน
.
.
เวลาที่ฮ่องกงตอนนี้ประมาณตีหนึ่งกว่าๆ แต่คนก็ยังคงเดินขวักไขว่ ถึงแม้ว่าห้างสรรพสินค้าต่างๆจะปิดหมดแล้ว เปิดแค่ร้านสะดวกซื้อก็ตาม ร่างสูงทั้งสองคนเดินอยู่ใจกลางเมือง
“นี่คริส นายจองโรงแรมไว้รึยังเนี่ย”
“เหมือนพ่อจะเป็นคนจัดการ เฮ้อออออ ดึกมากแล้ว นอนไหนดีล่ะ?”
“ก็โรงแรมนั่นแหละน่า ง่วงจะแย่อยู่แล้ว” ชานยอลเอ่ยออกมา มือทั้งสองซุกอยู่ภายใต้เสื้อกันหนาว อากาศที่ฮ่องกงตอนดึกๆนั้นก็หนาวอยู่ ยิ่งบวกกับฤดูหนาวที่กำลังมาถึง
“อย่าเพิ่งบ่นน่า จะถึงแล้วเนี่ย แถวนี้แท็กซี่ก็ไม่มี” คริสที่กำลังมองแผนที่เอ่ยออกมาก่อนจะหยุดเดินพร้อมกับเงยหน้ามองหาตึกที่เป็นเป้าหมาย
“ไหน ฉันช่วยดู” ชานยอลเดินไปยืนข้างๆร่างสูงพร้อมกับยื่นหน้าไปดูแผนที่
“ตอนนี้เราอยู่ถนนนี้ โรงแรมต้องเดินตรงไปอีกซอยนึง” ไอเย็นออกมาจากปากเล็กน้อย คริสว่าพลางไล่นิ้วไปตามแผนที่
“แล้วโรงแรมชื่ออะไรอ่ะ นี่มันมีโรงแรมเรียงกันเป็นตับเลยนะ =[]=”
“นั่นแหละปัญหา นายเอาบัตรเครดิตมาใช่มั้ย” คริสหันมาถามอีกคนที่กำลังจะหนาวตาย
“เอามาสิ นี่นายจะเอาบัตรฉันจ่ายโรงแรมใหม่ใช่มั้ยเนี่ย”
“ก็ใช่น่ะสิ จ่ายสองห้องด้วย จะได้สบายใจนาย อีกอย่างนะ พ่อฉันคงจะจองห้องเดียว”
“กินเงินกันชัดๆ -*- งั้นค่าช็อปปิ้งของฉันทั้งหมดนายเป็นคนออก ตกลงมั้ยล่ะ?” ชานยอลยืนกอดอกพร้อมกับเชิดหน้าใส่อีกคน
“ขี้งก ฉันจ่ายเองก็ได้ รีบเดินเถอะ” จบประโยคก็ดีดหน้าผากอีกคนไปหนึ่งที
“แบบนี้ตลอดสินะ” ชานยอลบ่นออกมาเบาๆก่อนจะก้าวขาเดินตามคริสไป
เต็ม
เต็ม
เต็ม
เต็ม
เต็ม
เต็ม
เต็ม
เต็ม
“บ้า โรงแรมอะไรจะขายดีขนาดนี้ โอ้ยยยยยย” ร่างบางยืนอ้าปากข้างเมื่อเห็นป้ายข้างหน้าโรงแรม
“โรงแรมที่ฮ่องกงไม่ใหญ่มากหรอก ห้องก็น้อย เอาไงดีละเนี่ย” คริสกวาดสายตาไปเรื่อยๆก่อนจะไปหยุดที่โรงแรมอีกที่หนึ่งที่อยู่ฝั่งตรงข้าม
“เอาไงล่ะ ฉันง่วงจะแย่แล้วเนี่ย จะหลับตาเดินอยู่แล้ว”
“...”
“มันจะไม่มีสักห้องรึไงที่ว่างน่ะ ทำไมคนมันต้องแห่มาฮ่องกงตอนนี้ด้วยเนี่ย”
“...”
“คริส ฮัลโหล ได้ยินฉันมั้ย นายมองอะไรอยู่น่ะ คืนนี้เราจะนอนยังไง นี่มันก็เปลี่ยวมากแล้วนะ คริสสสส ตอบฉันหน่อยเซ่”
“เดินอีกไหวมั้ยล่ะ” ร่างสูงหันมาถามอีกคน
“หา?”
“เดินข้ามถนนไป ไม่ไกลหรอก เห็นมั้ย Sunnyday Hotel น่ะ” คริสชี้ไปยังตึกสูงใหญ่ที่อยู่ตรงข้ามกับทั้งสอง
“...แล้วถ้าไม่เดินอ่ะ?”
“ฉันอุ้มไป” เสียงกระซิบที่แผ่วเบากับลมหายใจอุ่นๆที่กระทบหูและต้นคอทำเอาชานยอลสะดุ้งไปเล็กน้อย ทำไมช่วงนี้คริสถึงได้ขยันแกล้งเขานักนะ แล้วชานยอลยังขยันเขินอีก นี่เป็นสัญญาณที่ดีหรือไม่ดี?
“อ...ไอ้บ้า ฉ..ฉันเดินเองได้” คำด่าในหัวชานยอลมันหายไปกับแรงสะดุ้งเมื่อกี้ ร่างบางหันมาแลบลิ้นใส่อีกคนเพื่อแก้เขิน
“งั้นก็เดิน” คริสดึงข้อมือชานยอลไปอีกทางก่อนที่ทั้งสองจะข้ามถนนและถึงที่หมาย
...
...
...
“คริส ไหนนายว่าจะนอนสองห้องไง ทำไมเหลือห้องเดียวล่ะ แถมยังเป็นเตียงคู่อีกต่างหาก T^T”
“ก็มันเหลือห้องเดียว ก็ต้องนอนแบบนี้แหละน่า =[]=” คริสว่าพลางวางกระเป๋าเดินทางลงและถอดเสื้อกันหนาวพาดไว้ที่เก้าอี้
“งั้นนายก็ไปนอนในห้องน้ำละกันนะ คืนนี้ฉันเหนื่อยแล้ว ราตรีสวัสดิ์” ชานยอลว่าพลางกระโดดขึ้นแล้วนอนแผ่บนเตียง
“นายนั่นแหละไปนอนในห้องน้ำ ฉันเป็นคนจ่ายนะโว้ยยยย” คริสพยายามดึงอีกคนออกจากเตียงแต่ก็ไม่เป็นผล
“แบบนี้มันก็ไม่ต่างอะไรกับที่ไปนอนโรงแรมที่พ่อนายจองหรอกน่า อย่านะ ฉันจะนอนแล้วววว นายไปอาบน้ำเลยไป นอนในห้องน้ำไปเลยด้วย”
“ไม่มีวัน นายไปนอนเลยไอ้หูกาง”
“ไม่ไม่ไม่ไม่ไม่ไม่!!!!!!!!!!!!”
“งั้นก็นอนบนเตียงสองคนละกัน ง่วงแล้วโว้ยยยย” คริสดันชานยอลไปอีกข้างหนึ่งของเตียงส่วนตนเองก็นอนอีกฝั่งหนึ่ง
“ไม่ได้ ไอ้....ไอ้...ไอ้ชั่วววววววววว”
“zzzzzzzzz”
“ไม่ต้องมาแกล้งหลับ ฉันรู้นะ ไปอาบน้ำเลย” จบประโยคคนตัวบางก็หันไปถีบอีกคนเต็มแรง
“zzzzzzzzzz”
“...ไอ้บ้าคริส T^T”
TBC.
------------------------------------------------------------------------
แฮ่ อัพจ้าาาา เต็มตอนเย้ๆๆๆๆ ไปฮ่องกงแล้วววววว นอนเตียงเดียวกันแล้วววว กรี๊ดดดดดดด (อีไรท์แต่งเองจิ้นเอง) ตอนหน้าเดี๋ยวเจอหวานๆ ครุคริ 55555555 ขอบคุณทุกคนที่ติดตามน้าค้าาาา <3
ความคิดเห็น