ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [KrisYeol ft. HunHan] Darling You're my enemy

    ลำดับตอนที่ #4 : Darling, you’re my enemy : 3 (rewrite)

    • อัปเดตล่าสุด 15 ธ.ค. 56


     





    3


     

     

    จงอิน แบคฮยอน

     

    ครับคุณนาย

     

    ไปเฝ้าปาร์ค มินซูที่โรงพยาบาล 24 ชั่วโมง อย่าให้มีคนแปลกหน้าเข้ามาในห้องพักได้ ถ้ามีคนเข้ามาทำร้ายก็จัดการได้เลย

     

    ---------------------------

     

     

    Luhan’s part

    คริส วันนี้ตอนเช้านายจะกินอะไร..คริส..คริสได้ยินฉันมั้ยเนี่ย เฮ้ย! หายไปไหนวะ”  ไอ้เพื่อนตัวยุ่งของผมมันหายไปไหนเนี่ย ร้อยวันพันปีไม่เคยจะตื่นเช้าได้ขนาดนี้ ผมเด้งออกจากเตียงแล้วเข้าไปดูในห้องครัว มีกระดาษแผ่นนึงวางไว้บนโต๊ะ

     

     

    นายไม่ต้องทำข้าวเช้าให้ฉันนะ เดี๋ยวเย็นๆจะกลับมา

     

    ชิ ไปไหนของเขาอีกละ

     

    หลังจากที่ผมอาบน้ำเสร็จเรียบร้อยแล้วผมก็เข้าครัวไปหยิบขนมปังมาแผ่นหนึ่งแล้วมานั่งหน้าโน๊ตบุ๊คของคริส...

     

    ผมค่อยๆเปิดโน็ตบุ๊คขึ้นก็พบว่ามันไม่ได้ปิด สงสัยเมื่อคืนทำอะไรไว้แล้วหลับคาคอมแน่ๆ  จากนั้นผมก็เห็นว่าหน้าอีเมลของคริสเปิดอยู่ แล้วผมก็เห็นอีเมลที่คริสเปิดค้างไว้ มันเป็นอีเมลจากอาเฟิงนี่เอง..

     

    ทำได้ดีมาก อีก 1 อาทิตย์จะส่งคนไปจัดการมินซู ส่วนลู่หานกับคริส...ตอนนี้เหลือแค่จัดการกับเรื่องเด็กในคำทำนาย รู้ใช่มั้ยว่ามันสำคัญกับครอบครัวของลู่หาน ไปสืบมาว่าเป็นใคร แล้วส่งข้อมูลกลับมาอีกที

     

    นี่คริสส่งข้อมูลเกี่ยวกับปาร์ค มินซูไปให้ทางนั้นแล้วหรอเนี่ย..

     

     

    กริ๊ง กริ๊ง กริ๊ง

    เสียงโทรศัพท์ของผมดังขึ้นผมหยิบขึ้นมาดูก็พบว่าเป็นอาเฟิงเองที่โทรมา

    ฮะ

     

    (ลู่หาน กลับจีนด่วน)

     

    ว่าไงนะฮะ...ให้ผมกลับจีน? กลับไปทำไม

     

    (พวกนั้นส่งคนมาเป็นสายสืบ แล้วรู้ว่าทางเราส่งนายกับคริสมาเกาหลี รีบกลับมาปิดปากมัน)

     

    แล้วพวกนั้นรู้ได้ยังไงฮะ

     

    (อย่าดูถูกบริษัทนี้เด็ดขาด บริษัทนี้มีหน่วยปฏิบัติการฉุกเฉิน พูดง่ายๆก็เหมือนกับบริษัทเรานั่นแหละ)

     

    ทำไมไม่ให้คริสไปล่ะฮะ

     

    (นายถนัดเรื่องการสะกดรอยมากกว่าคริส และอีกอย่าง คริสก็คงจะต้องอยู่ดูเรื่องเด็กที่จะทำลายครอบครัวนายด้วย รีบหาไฟลท์บินกลับมาให้เร็วที่สุดนะ เดี๋ยวจะส่งข้อมูลของคนที่ต้องจัดการไปให้)

     

    รับทราบฮะ

     พอวางสายจากอาเฟิงเรียบร้อยผมก็ลุกไปหยิบโน๊ตบุ๊คของตัวเองมาเปิดหาไฟลท์บินกลับปักกิ่งให้เร็วที่สุด ...มีวันนี้ตอนสี่โมงเย็น ผมหันกลับไปดูนาฬิกา ตอนนี้10โมงแล้ว ผมคงไม่ได้อยู่บอกคริสสินะ นี่นายไปไหนก็ไม่บอกฉัน เฮ้อออ อย่าบอกนะว่าไปติดสาวที่ไหนจะถีบให้กระเด็นเลยยยย

    พอดูไฟลท์เสร็จเรียบร้อยผมก็จัดการเปิดอีเมลของตัวเองเพื่อดูข้อมูลที่อาเฟิงส่งมาให้

     

    โอ เซฮุน? ทำไมหน้ามันคุ้นๆนะ เหมือนเคยเจอที่ไหน..”

    ผมปล่อยให้ตัวเองสงสัยอยู่อย่างนั้น นึกยังไงก็นึกไม่ออก ผมคงมโนไปเองล่ะมั้ง ผมสลัดความคิดออกไปจากหัวแล้วปริ้นท์ข้อมูลที่เพิ่งได้รับเมื่อกี้ออกมา เก็บใส่ซองสีน้ำตาลแล้วยัดใส่กระเป๋าอีกที

     

    ลู่หาน งานนี้นายถึงตายเลยนะ..

     

    ----------------------

     

    Kris’s part

     

                วันนี้ผมต้องยอมตื่นเช้าออกไปซื้ออาหารแล้วไปทำภารกิจที่เพิ่งได้รับมาเมื่อคืนต่อ ผมไม่อยากจะปลุกลู่หานเขาน่ะ เลยวางโน้ตไว้ให้ที่โต๊ะกินข้าว

     

    ตอนนี้เป็นเวลาเย็นๆแล้วครับ ผมยังไม่ได้เบาะแสอะไรเกี่ยวกับเด็กคำทำนายอะไรนั่นเลย เอาจริงๆนะ มันคงเป็นแค่ข่าวลือ ไม่มีอะไรมากกว่านั้น ผมไม่ค่อยเชื่อเรื่องคำทำนายมากน่ะครับ แต่อะไรมันก็เกิดขึ้นได้ ยิ่งทำงานแบบนี้ชีวิตเหมือนแขวนอยู่บนเส้นด้าย จะตายเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ อ่า ใช่ครับ  งานของผมก็เป็นสปายนี่แหละ ผมไม่มีทางเลือกหรอก หลังจากที่พ่อแม่ของผมเสียชีวิตไปผมก็ต้องเข้ามาเป็นหน่วยงานลับของบริษัทแม่ของลู่หานโดยมีหลี่เฟิงเป็นคนควบคุม

     

    ผมกลับมาที่คอนโด วันนี้เหนื่อยมามากแล้ว ผมหยุดที่หน้าประตูก่อนจะเคาะประตูให้ลู่หานมาเปิด ของมันเต็มมือครับ

     

     

    ก๊อก ก๊อก ก๊อก

     

    ลู่ เปิดประตูหน่อย

     

    ...

    ..

    .

     

    ก๊อก ก๊อก ก๊อก

     

    ไอ้ลู่ ได้ยินมั้ยเนี่ย

     

    ...

    ..

    .

    ให้ตายสิ ผมไม่ได้พวกคีย์การ์ดไว้ด้วย ลู่มันคงหลับอยู่แน่ๆ เฮ้ออ....เอาไงดี..

    ผมเบือนหน้าไปมองประตูห้องข้างๆที่ปิดสนิทอยู่  เฮ้อ ต้องเข้าไปจริงๆหรอเนี่ย

     

     

    ก๊อก ก๊อก ก๊อก

    (ครับบบบ) เสียงจากในห้องตะโกนออกมา

    ประตูถูกเปิดออกแล้วร่างบางก็โผล่ออกมาจากหลังประตู ก่อนจะเหวอไปนิดหน่อย - -

    มะ.. มาทำอะไรเนี่ย

     

    ขอใช้ห้องนายเป็นทางผ่านหน่อยผมไม่รอให้มันถามมากกว่านี้หรอกครับ ผมกะว่าจะปีนระเบียงห้องหมอนี่ซึ่งเชื่อมกับระเบียงห้องของผม

     

    หา?” ทำหน้าเอ๋อไปอีกแล้ว ไม่สนใจหรอกครับ ผมวางของที่ถือเอาไว้หน้าห้องแล้วเดินไปเปิดประตูระเบียงของหมอนั่น เตรียมจะปีนข้าม

     

    นี่นายยยย ฉันไม่อยากให้มีคนมาตายในห้องฉันนะ ประตูห้องก็มีทำไมไม่เข้า จะมาปีนระเบียงทำไมมมมมมมไอ้บ้านั่งแหกปากซะดังลั่น แล้ววิ่งมาดึงแขนผมออกไป โอ้ยยจะอะไรนักหนา แค่นี้ไม่ตกตึกหรอกน่า หล่อขนาดนี้(?)

     

    ก็ไม่มีคีย์การ์ดไงถึงต้องมาปีนเอา หลบไปได้แล้ว

     

    ไม่ได้  ไม่ให้ปีน!” เมื่อกี้หูผมฝาดไปรึเปล่า -0-

     

    ระเบียงมันติดกันแค่นี้เอง นายอย่ามาบ้าน่าผมเริ่มจะหงุดหงิดแล้วนะ เลยผลักคนตรงหน้าออกไปให้พ้นกับระยะที่อาจจะโดนขาของผมได้

     

    โอ้ย

     

    เวรละไง ผมผลักหมอนั่นไปโดนขอบประตูทางออกระเบียงพอดี หน้าผากเลือดซิบๆด้วย แผลพองเลย

     

    เป็นอะไรรึเปล่า ฉันขอโทษ

     

    เจ็บเซ่ไอ้บ้าเอ๊ยยขนาดเจ็บยังด่าได้ เฮ้ออ ดื้อจริงๆ

     

    มา ทำแผลให้ผมดึงเขากลับเข้ามาในห้องก่อนแล้วให้ไปนั่งบนโซฟา ก่อนจะผละออกมาหากล่องยา

     

    กล่องยาห้องนายอยู่ไหน

     

    อยู่ตรงชั้นใกล้ๆทีวี

     

     

    ไม่นานร่างสูงก็เดินกลับมาพร้อมกับกล่องยาในมือแล้วนั่งลงๆข้างๆคนที่ทำหน้าบูดอยู่บนโซฟา

    คริสวางกล่องยาไว้บนโต๊ะตัวเล็กแล้วหยิบหลอดยาออกมา

    เงยหน้าเร็วชานยอลทำตามอย่างว่าง่าย แต่ปากก็คงยู่อยู่เพราะความวู่วามของอีกคน

     

    โอ๊ย เบาๆหน่อยได้มั้ย แผลฉันจะอักเสบขึ้นก็เพราะนายนี่แหละ

     

    แผลนายจะอักเสบก็เพราะนายหันไปหันมานี่แหละ อยู่นิ่งๆสิคริสใช้มืออีกค้างจับหน้าชานยอลให้อยู่เฉยๆ

     

    คนตัวบางเริ่มรู้สึกหน้าร้อนขึ้นมาเพราะตอนนี้ใบหน้าของทั้งสองคนอยู่ห่างกันไม่ถึงคืบ เมื่อคริสทายาเสร็จแล้วก็เป่าให้1ครั้ง คริสดูผงะไปเล็กน้อยเมื่อรู้สึกว่าหน้าของเขาอยู่ใกล้กับคนตัวเล็กมากไปแล้ว ทั้งสองจ้องตากันสักพักก่อนที่หน้าของทั้งคู่จะค่อยๆเคลื่อนเข้าหากันเรื่อยๆ....

     

     

    To Be Continue

     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×