ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [KrisYeol ft. HunHan] Darling You're my enemy

    ลำดับตอนที่ #3 : Darling, you’re my enemy : 2 (rewrite)

    • อัปเดตล่าสุด 15 ธ.ค. 56


     



     

    2

     





    “คริส วันๆนายเอาแต่นั่งอยู่หน้าคอมกับกองกระดาษเท่าภูเขา ไม่เหนื่อยบ้างหรอ”

     

    “นายก็มาช่วยฉันสิ..อืมม...ปาร์ค มินซู...” คนตัวสูงนั่งรื้อเอกสารที่พ่อแม่ของลู่หานให้มาก่อนจะมาเกาหลีใต้

     

    “เฮ้อ เอาจริงๆนะ ฉันไม่อยากจะมาเป็นสปายสายลับอะไรนี่หรอก ที่มาเพราะเห็นแก่พ่อแม่ของฉันแล้วก็พ่อเลี้ยงของนาย”

     

    “งานที่เราทำอยู่...มันสำคัญถึงชีวิตคนเลย..”

     

    “นายบ่นอะไรน่ะคริส”

     

    “..”  ไม่มีเสียงตอบรับจากอีกคน

     

    “ลู่หาน” จู่ๆคริสก็ยื่นเอกสารใบหนึ่งให้ลู่หานอ่าน..

     

    “โรงพยาบาลใจกลางกรุงโซล..” ลู่หานพึมพำออกมาเหมือนจะจับต้นชนปลายถูก

     

    “เป็นอย่างที่ฉันคิดจริงๆด้วย”

     

    ---------------------

     

     

    “ฉันไม่อยากทำงาน ฉันไม่อยากทำงาน ฉันไม่อยากทำงานนนนนนน” ชานยอลบ่นตลอดทางที่อยู่บนรถเซฮุน

     

    “บ่นอะไรมากมายเนี่ย ไม่ทำงานก็ไม่มีเงินเที่ยวรอบโลกอะไรของนายหรอกนะ”

     

    “เฮ้ออออออออออออออออออออออออออ” ชานยอลถอนหายใจออกมายาวเหยียด

     

    “ไม่ต้องมาถอนหายใจ ลงจากรถได้แล้ว ถึงแล้วโว้ยยย!!!”

     

    “เอออออ ได้ยินแล้วววววว ฮืออออออ”

     

    สองเพื่อนเกลอเดินเข้าไปในตึกที่ตั้งสูงตระหง่านอยู่ในกลางกรุงโซล

    “แม่ครับ มาแล้วครับ” เซฮุนกล่าวทักทายแม่ของตน

     

    “หวัดดีครับ” ชานยอลโค้งหนึ่งทีก่อนที่จะนั่งลงตรงข้าม

     

    “วันทำงานวันแรกชานยอลตื่นเต้นมั้ย”

     

    “อืม..ก็นิดหน่อยครับ แหะๆ แล้วต้องทำอะไรบ้างล่ะครับ”

     

    “ชานยอล ลูกทำงานบัญชีไหวไหม เพราะเซฮุนต้องไปดูแลด้านการตรวจสอบของเข้าเมืองน่ะ” คุณนายโอหันมาขอความคิดเห็นจากชานยอล

     

    “ไหวครับ ฮิฮิ”

     

    “งั้นก็ดีเลยจ่ะ ไปเริ่มงานกันเลย วันนี้เหนื่อยหน่อยนะสองคน” คุณนายโอรับชานยอลมาเลี้ยงหลังจากที่พ่อแม่ของชานยอลเสียชีวิตได้เมื่อ5ปีที่แล้ว พ่อแม่ของชานยอลและพ่อแม่ของเซฮุนสนิทกันตั้งแต่เรียนมหาลัย จึงเป็นเหตุที่ชานยอลสนิทกับเซฮุนมากขึ้น

     

     

    -------------------

    ใกล้ถึงเวลาเลิกงาน

     

    “เซฮุนๆๆๆ วันนี้ไปร้านหนังสือกันๆๆๆ” ชานยอลลุกจากโต๊ะทำงานไปหาเพื่อนซี้ที่อยู่อีกตึกหนึ่ง วันนี้เขาอยากจะไปซื้อหนังสือเรียนรู้การทำบัญชีสักนิด เพราะการเที่ยวรอบโลกของเขาเริ่มจะมีผลต่อความรู้ที่ได้ร่ำเรียนมาT^T

     

    “นายจะไปทำไมเนี่ย เป็นบ้าอะไรอยู่ๆจะไปร้านหนังสือ!! ชานยอลจะไปร้านหนังสืออ!! โอ๊ยให้ตายไม่คิดว่าจะได้ยินคำนี้ออกจากปากนาย เสียแรงฉันเป็นคนขับรถอีกละดิ?”

     

    “นายไม่ต้องขับก็ได้  คราวนี้ฉันขับเอง ไปเก็บของแป๊ปนะ เจอกันที่รถ” ชานยอลยู่ปากให้เพื่อนของตนก่อนจะเดินกลับไปไม่เปิดโอกาสให้เซฮุนพูด

     

     

    “คุณเซฮุนคะ”

     

    “ว่าไง” พนักงานสาวคนหนึ่งเดินเข้ามาพร้อมยื่นซองจดหมายที่จ่าหน้าซองถึงคุณนายโอ

     

    “พบจดหมายนี้อยู่ในวัสดุที่นำเข้ามาวันนี้ค่ะ”

     

    “ขอบคุณมาก” เซฮุนยังไม่เปิดอ่านตอนนั้นเพราะยังไม่ทราบว่าใครส่งมา ร่างสูงก้าวออกจากตึกตรวจสอบไปยังตึกใหญ่สุดที่แม่ของเขาทำงานอยู่ สิ่งที่ต้องทำตอนนี้คือเอาไปแม่ของเขาให้เร็วที่สุด

    “ถ้าเป็นจดหมายธรรมดาก็ส่งมาทางไปรษณีย์สิ แต่ทำไม....” เซฮุนพลิกๆ จดหมายดูระหว่างอยู่ในลิฟท์แล้วก็ต้องสงสัยขึ้นอีก

    “....ไม่มีชื่อผู้ส่ง....”

     

     

     

    ก๊อก ก๊อก ก๊อก

    “แม่ฮะ จดหมายจากใครไม่รู้แต่มันจ่าหน้าซองถึงแม่อ่ะ” เซฮุนเดินเข้าไปหามารดาของตัวเองก่อนจะยื่นซองมาให้

     

    “ลูกอ่านรึยัง”

     

    “ยังครับ”

     

    “ซองจดหมายเหมือนกับซองระเบิดเมื่อ5ปีที่แล้ว..”

     

    “มันเป็นระเบิดหรอแม่!!”

     

    “ไม่ใช่หรอก ถ้าเป็นระเบิดต้องระเบิดไปแล้ว” คุณนายโอค่อยๆเปิดซองจดหมายออกแล้วหยิบกระดาษที่อยู่ด้านนออกมาคลี่

     

    “อ่อครับ”

     

    “เซฮุนไปชงกาแฟให้แม่หน่อย”

     

    “ครับ” ....แต่คนเป็นลูกก็นึกขึ้นได้ว่านัดชานยอลอยู่ สงสัยต้องเบี้ยวนัดซะแล้ว ว่าแล้วเจ้าตัวก็หยิบโทรศัพท์ออกมาโทรหาเพื่อนจอมยุ่ง

     

    ------------------------

     

    Chanyeol’s part

     

    นี่ผมรอไอ้เพื่อนบ้านั่นอยู่ที่รถตั้งนานแล้วนะ ร้อนเฟ่ยยยย เมื่อไหร่แกจะมาไอ้เซฮุน

     

    กริ๊ง กริ๊ง

    เสียงโทรศัพท์ของผมดังขึ้น ไอ้เซฮุนมันโทรมาแน่ๆ เดี๋ยวพ่อจะสั่งสอนให้! ไม่ตรงเวลาแบบนี้ไม่มีแฟนแน่ไอ้ชานมมม!

     

    “ว่าไง มาสายแล้วยังจะโทรมาให้โมโหอีกนะ”

     

    (ฉันไม่ไปได้มั้ย คงต้องคุยกับแม่อีกยาว)

     

    “หาาา ไม่บอกตั้งแต่แรกวะ ฉันจะได้ไปคนเดียว เอากุญแจรถนายมาเดี๋ยวนี้”

     

    (เหอะ เดินมาเอาดิ ไกลจะตาย นายไปเองได้ใช่มั้ย พรุ่งนี้เจอกันนะ” ปิ๊บ!

     

    มันตัดสายผมครับทุกคนนนนนน เอาวะไปก็ไปแล้วกลับคอนโดเลยแล้วกัน

     

     

    ร้านหนังสือใกล้ๆคอนโดชานยอล

     

    ตอนนี้ผมนั่งแท็กซี่มาถึงร้านหนังสือประจำผมเรียบร้อยแล้วครับ ต้องหาหนังสือด้านกันบัญชีสินะ เอากี่เล่มดี 3 ละกัน อ่านไม่อ่านอีกเรื่องแต่อุ่นใจไว้ก่อนครับ คิดได้แบบนี้แล้วผมก็ก้าวขายาวๆของผมไปที่มุมการงานอาชีพทันที

    อืม.. หนังสือแนวนี้มันก็เยอะดีนะครับ ผมลองเปิดๆดูมันก็ดีนิ จริงๆอยากได้มากกว่า3เล่มด้วยซ้ำแต่เนื้อหามันก็น่าจะคล้ายๆกันนั่นแหละครับ เปลี่ยนใจละ ผมเอา2เล่มก็พอ-0- ไปจ่ายตังดีกว่า

     

    “อ๊ะ”  ไอ้บ้าที่ไหนมันมาเดินชนผมเนี่ย ทำหนังสือผมตกอีกต่างหาก

     

    “ขอโทษครับ”

     

    “...” เอ่อ ผู้ชายคนนั้นเขาก้มลงมาเก็บหนังสือพอดีกับกลิ่นผมอ่อนๆมันมากระทบจมูกผม ละลายครับ แถมมือผมกับมือเขามาเกี่ยวกันอีกตังหาก ชานยอลจะบ้าตายครับ นี่หล่อไงเลยให้อภัยได้ เป็นคนอื่นหรอ ผมปล่อยให้มันเก็บหนังสือให้ผมไปนานแล้วววว

     

    “ขอบคุณครับ” ทำไมหน้าตานี่มันคุ้นๆวะ เอ่อ...เหมือนเคยเจอที่ไหนมาก่อน

     

    “เอ๊ะ..คุณ..” หมอนั่นมันชี้หน้าผมแล้วเหมือนจะนึกอะไรสักอย่าง นี่เขาก็คุ้นหน้าผมเหมือนกันหรอเนี่ย สงสัยไม่ได้เจอในฝันแล้วล่ะ

     

    “...ผมทำไม?” ผมชี้หน้าตัวเองแล้วมองหน้าไอ้บ้านั่นด้วยความสงสัย ฉันให้นายนึกเลยเพราะฉันนึกไม่ออกหรอก เอ๋....เฮ้ยยยยยนึกออกแล้วววววววววว

     

    “คนที่ชนรถผมวันก่อน!!” ทั้งสองคนพูดออกมาพร้อมกัน แล้วมองหน้ากันด้วยสายตาที่ค้อนสุดๆ ไอ้นี่มันชนรถผม ไม่ใช่ผมไปชนรถมัน เข้าใจอะไรผิดซะแล้ว!!

     

    “นายนั่นแหละชนรถฉัน -*-” ผมไม่ปล่อยให้หมอนั่นพูดก่อนหรอก

     

    “....” ไอ้บ้านั่นมันไปต่อคิวจ่ายเงินแล้วครับ T^T เมินปาร์ค ชานยอลได้ยังไงงงงงง

    ผมเลยรีบเดินไปต่อมันแล้วเอาหนังสือยัดใส่มือหมอนั่น

    “จ่ายให้เลย เป็นค่ารถก็ได้”

     

    “เกี่ยวอะไรกับฉันเนี่ย?”

     

    “นายทำรถเพื่อนฉันเป็นรอย จ่ายซะ แค่2เล่มเอง”

     

    “นี่นาย..”

     

    “เชิญค่ะ” เสียงพนักงานขัดขึ้นมาก่อนทำให้ไอ้บ้านั่นต้องเดินไปแต่โดยดี ฮึ แบบนี้ต้องแกล้งให้เข็ดดด หมอนั่นจิ๊ปากแบบหัวเสียก่อนจะเดินไปยื่นหนังสือแล้วหยิบบัตรเครดิตออกมา

     

     

    “นี่นายจะเดินตามฉันมาทำไมเนี่ย” พอจ่ายตังเสร็จผมก็หยิบถุงจากมือหมอนั่นแล้วเดินสะบัดตูดออกไปจากร้าน ฮึ หมั่นไส้ๆๆ แต่ทำไมหมอนั่นเดินตามผมมาล่ะเนี่ย? หลงเสน่ห์ปาร์ค ชานยอลแล้วหรอ แต่ให้คนหล่อเดินตามแบบนี้ก็ดีนะ ใจผมเต้นแปลกๆยังไงไม่รู้สิ

     

    “ใครบอกฉันเดินตามนาย”

     

    “ก็นี่ไงเห็นๆอยู่”

     

    “ฉันจะกลับคอนโดฉันโว้ย”

     

    “คอนโดนาย? แถวนี้มีคอนโดอยู่ที่เดียว ดูก็รู้ว่านายเดินตามฉันอ่ะ” ตอนนี้ไอ้หน้าหล่อนั่นขึ้นมาเดินข้างๆผมแล้ว เฮ้อ ขาก็ไม่ได้ยาวกว่าผมมากหรอกนะ ทำไมเดินเร็วจัง

     

    “ก็นั่นแหละคอนโดฉัน”

     

    “หาาาา นะ..นะ...นายนอนคอนโดเดียวกับฉันหรออออออ TOT” ความซวยมาเยือน มีวงจรอุบาทว์อะไรกับนายนี่มากมั้ยเนี่ยชานยอลลล

     

    “จะทำไม ไม่ได้นอนห้องข้างๆกันก็ดีแล้ว” เหยอ หนังตาผมกระตุก ผมชักรู้สึกว่ามันจะมีเรื่องไม่คาดคิดซะแล้วสิ

     

    “นายอยู่ชั้นอะไร”

     

    “ชั้น 19 ทำไม จะมาหาหรอครับ” พระเจ้าต้องเล่นตลกแน่ โลกจะกลมเกินไปมั้ง หวังว่าจะไม่ใช่ห้องข้างๆกันนะ นั่น หันมายักคิ้วให้ผมอีก ออกลายแล้วหรอ ละลายครับ

     

    “เดี๋ยว..ห้องอะไร” ผมขอให้คำตอบมันไม่ทำให้ผมต้องเป็นลมไปตอนนี้นะ

     

    “1919 จะมาหาล่ะสิ รู้นะ” เฮ้ยยยยย มันห้องข้างๆเลยยยยยยยย ม่ายยยยยยยยยย นอกจากจะมาทำรถเซฮุนเป็นรอยแล้วยังจะตามมาทำร้ายจิตใจผมอีก ฮืออออ แบบนี้หัวใจผมไม่ทำงานหนักไปหน่อยหรอ แต่ทำไมรู้สึกดีใจแปลกๆวะ -*-

     

    “อืม”

     

    บรรยากาศในลิฟท์ยังคงอึดอัดมาก...มากกก.....มากกกกกกกกกกกกกกกกก

     

    “อ้าว  อยู่ชั้นเดียวกันหรอเนี่ย” ไอ้บ้านั่น ตอกย้ำมากT^T

     

    “เออ ฉันจะไปเปลี่ยนห้อง T^T” ปากหนักตลอดชานยอล เมื่อกี้แกดีใจไม่ใช่หรอ

     

    “อยู่คนเดียวรึเปล่า”

     

    “เออ”

     

    “แล้วเพื่อนปากดีคนนั้นละ?” เพื่อนปากดีหรอ ถ้าด่าแรงกว่านี้ฉันชกหน้านายแน่ไอ้ตูดหัวทอง

     

    “นอนบ้านเขาสิ นายนี่วุ่นวายจริงๆ”

     

    ติ๊ง~  พอประตูลิฟท์เปิดปั๊บผมก็เดินออกไปเตรียมจะเข้าห้อง หึยยยยยยยยยย น่าต่อยไอ้หมอนั่นมาก แต่ข้อมือผมถูกจับไว้ก่อน

     

    “เหงาก็มาเคาะห้องข้างๆได้นะ” เสียงเข้มกระซิบที่หู ลมหายใจเป่าอยู่บริเวณซอกคอของผม นั่นมันจุดอันตรายนะรู้มั้ยยย T^T มันทำให้ผมหวั่นไหวมากอ่ะยอมรับ

     

     

    ปึง!!

     

    อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก!!! ผมกระโดดขึ้นเตียงแล้วแหกปากดังลั่นห้อง อาการนี้มันอะไรวะ ทั้งเขินทั้งโมโห โอ๊ยยยยปวดหัวครับ นอนดีกว่า ตื่นมาหัวค่ำค่อยหาอะไรกิน ครอกกกกกกก

     

    TBC

     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×