ลำดับตอนที่ #39
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #39 : [SP] วันพ่อแม่ (Parents' Day)
วันพ่อแม่ (ภาษาเกาหลี : 아버이날 ภาษาอังกฤษ : Parents' Day) จะจัดขึ้นในวันที่ 8 พฤษภาคม ของทุกปี โดยชาวเกาหลีจะมอบดอกคาร์เนชั่น ให้กับพ่อแม่ รวมถึงในวันนั้นยังเป็นวันเคารพบรรพบุรุษอีกด้วย นอกจากนั้นอาจจะมีนักอาสาสมัครสังคมสงเคราะห์ลงไปมอบดอกคาร์เนชั่นให้แก่คนชราที่ไม่มีบุตรหลานคอยดูแล
เมื่อก่อนวันพ่อแม่นั้น ถือเป็นวันหยุดราชการด้วย แต่ว่าหลังๆมานี้ ทางรัฐบาลตัดวันนี้ออกจาก ตารางวันหยุดราชการ
"พ่อแม่คะ ขอบคุณนะคะ รักพ่อแม่ค่ะ ~!!" ของขวัญน่ารักๆ ค่ะ
และก่อนจากกันไป...
เนื่องด้วยเมื่อวานนี้(วันที่ 5 ธันวาคม)เป็นพ่อแห่งชาติ
ดังนั้น ก่อนจากกัน ก็เลยอยากให้ทุกคนได้ทราบซึ้งถึงพ่อหลวงของเรากันสักหน่อย
วันนี้ขอตัดข้อความที่ฉันประทับใจจากบทความหนึ่งมาให้ทุกคนได้อ่านกันค่ะ
เมื่อก่อนวันพ่อแม่นั้น ถือเป็นวันหยุดราชการด้วย แต่ว่าหลังๆมานี้ ทางรัฐบาลตัดวันนี้ออกจาก ตารางวันหยุดราชการ
"พ่อแม่คะ ขอบคุณนะคะ รักพ่อแม่ค่ะ ~!!" ของขวัญน่ารักๆ ค่ะ
และก่อนจากกันไป...
เนื่องด้วยเมื่อวานนี้(วันที่ 5 ธันวาคม)เป็นพ่อแห่งชาติ
ดังนั้น ก่อนจากกัน ก็เลยอยากให้ทุกคนได้ทราบซึ้งถึงพ่อหลวงของเรากันสักหน่อย
วันนี้ขอตัดข้อความที่ฉันประทับใจจากบทความหนึ่งมาให้ทุกคนได้อ่านกันค่ะ
+ สมัยพระเยาว์ทรงซนบ้าง หากสมเด็จย่าจะลงโทษ จะเจรจากันก่อนว่า โทษนี้ควรตีกี่ที ในหลวงจะทรงต่อรองว่า 3 ที มากเกินไป 2 ทีพอแล้ว
+ ทรงได้รับการอบรมให้รู้จัก 'การให้' โดยสมเด็จย่าจะทรงตั้งกระป๋องออมสินเรียกว่า 'กระป๋องคนจน' เอาไว้ หากทรงนำเงินไปทำกิจกรรมแล้วมีกำไร จะต้องถูก 'เก็บภาษี' หยอดใส่กระปุกนี้ 10% ทุก สิ้นเดือนสมเด็จย่าจะเรียกประชุมเพื่อถามว่าจะเอาเงินในกระป๋องนี้ไปทำอะไร เช่น มอบให้โรงเรียนตาบอด มอบให้เด็กกำพร้า หรือทำกิจกรรมเพื่อคนยากจน
+ ครั้งหนึ่ง ในหลวงกราบทูลสมเด็จย่าว่าอยากได้รถจักรยาน เพราะเพื่อนคนอื่นๆ เขามีจักรยานกัน สมเด็จย่าก็ตอบว่า 'ลูกอยากได้จักรยาน ลูกก็ต้องเก็บค่าขนมไว้สิ หยอดกระป๋องวันละเหรียญ ได้มาก ค่อยเอาไปซื้อจักรยาน'
+ ครั้ง หนึ่ง ทรงเรือใบออกจากฝั่งไปได้ไม่นานก็ทรงแล่นกลับฝั่ง และตรัสกับผู้ที่คอยมาเฝ้าฯว่า เสด็จฯกลับเข้าฝั่งเพราะเรือแล่นไปโดนทุ่นเข้า ซึ่งในกติกาการแข่งเรือใบถือว่าฟาวส์ ทั้งๆที่ไม่มีใครเห็น แสดงให้เห็นว่าทรงยึดกติกามากแค่ไหน
+ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช กราบบังคมทูลถามว่า เคยทรงเหนื่อยทรงท้อบ้างหรือไม่ ในหลวงตอบว่า 'ความ จริงมันน่าท้อถอยอยู่หรอก บางเรื่องมันน่าท้อถอย แต่ว่าฉันท้อไม่ได้ เพราะเดิมพันของเรานั้นสูงเหลือเกิน เดิมพันของเรานั้นคือบ้านเมือง คือความสุขของคนไทยทั่วประเทศ
+ ทรงนึกถึงแต่ประชาชน แม้กระทั่งวันที่พระองค์ทรงกำลังจะเข้าห้องผ่าตัดกระดูกสันหลังในอีก 5 ชั่วโมง (20 กรกฎาคม 2549) ยัง ทรงรับสั่งให้ข้าราชบริพารไปติดตั้งคอมพิวเตอร์เดินสายออนไลน์ไว้ เพราะกำลังมีพายุเข้าประเทศ พระองค์จะได้มอนิเตอร์ เผื่อน้ำท่วมจะได้ช่วยเหลือทัน
+ ในหลวง ทรงพระเนตรเทียมข้างขวา เป็นผลจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ที่เมืองโลซานน์ สวิตเซอร์แลนด์ รถพระที่นั่งชนกับรถบรรทุกอย่างแรง ทำให้เศษกระจกเข้าพระเนตรข้างขวา ตอนนั้นมีอายุเพียง 20 พรรษา และทรงใช้พระเนตรข้างซ้ายข้างเดียว ในการทำงานบำบัดทุกข์บำรุงสุขประชาชนชาวไทยมาตลอดกว่า 60 ปี
+ ปีหนึ่งๆ ในหลวงทรงเบิกดินสอแค่ 12 แท่ง ใช้เดือนละแท่ง จนกระทั่งกุด
+ ในหลวงเริ่มพระราชทานปริญญาบัตรครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ.2493 จน 29 ปีต่อมาจึงมีผู้คำนวณว่าเสด็จพระราชทานปริญญาบัตร 490 ครั้ง ประทับครั้งละ 3 ชม. ทรงยื่นพระหัตถ์พระราชทาน 470,000 ครั้ง น้ำหนักปริญญาบัตรฉบับละ 3 ขีด รวมน้ำหนักทั้งหมด 141 ตัน
+ ทรงรับสั่งกับข้าราชบริพารเสมอว่า การนั่งรถคนละคันเป็นการสิ้นเปลือง จึงให้นั่งรวมกัน ไม่โปรดให้มีขบวนรถยาวเหยียด
ทรงประทับพื้น ร่วมกับข้าราชบริพาลอย่างไม่ถือตัว ในขณะทำงานเพื่อประชาชน (ฉันประทับใจภาพนี้จริงๆ)
"ในช่วงเวลาเทศกาลวันพ่อในเดือนนี้ ฉันก็ขอให้คุณพ่อหลวงและคุณพ่อของทุกคนมีความสุขมากๆ มีสุขภาพแข็งแรง
และขอให้ลูกทุกคนจงกตัญญูต่อท่านให้มากๆ"
+ ทรงได้รับการอบรมให้รู้จัก 'การให้' โดยสมเด็จย่าจะทรงตั้งกระป๋องออมสินเรียกว่า 'กระป๋องคนจน' เอาไว้ หากทรงนำเงินไปทำกิจกรรมแล้วมีกำไร จะต้องถูก 'เก็บภาษี' หยอดใส่กระปุกนี้ 10% ทุก สิ้นเดือนสมเด็จย่าจะเรียกประชุมเพื่อถามว่าจะเอาเงินในกระป๋องนี้ไปทำอะไร เช่น มอบให้โรงเรียนตาบอด มอบให้เด็กกำพร้า หรือทำกิจกรรมเพื่อคนยากจน
+ ครั้งหนึ่ง ในหลวงกราบทูลสมเด็จย่าว่าอยากได้รถจักรยาน เพราะเพื่อนคนอื่นๆ เขามีจักรยานกัน สมเด็จย่าก็ตอบว่า 'ลูกอยากได้จักรยาน ลูกก็ต้องเก็บค่าขนมไว้สิ หยอดกระป๋องวันละเหรียญ ได้มาก ค่อยเอาไปซื้อจักรยาน'
+ ครั้ง หนึ่ง ทรงเรือใบออกจากฝั่งไปได้ไม่นานก็ทรงแล่นกลับฝั่ง และตรัสกับผู้ที่คอยมาเฝ้าฯว่า เสด็จฯกลับเข้าฝั่งเพราะเรือแล่นไปโดนทุ่นเข้า ซึ่งในกติกาการแข่งเรือใบถือว่าฟาวส์ ทั้งๆที่ไม่มีใครเห็น แสดงให้เห็นว่าทรงยึดกติกามากแค่ไหน
+ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช กราบบังคมทูลถามว่า เคยทรงเหนื่อยทรงท้อบ้างหรือไม่ ในหลวงตอบว่า 'ความ จริงมันน่าท้อถอยอยู่หรอก บางเรื่องมันน่าท้อถอย แต่ว่าฉันท้อไม่ได้ เพราะเดิมพันของเรานั้นสูงเหลือเกิน เดิมพันของเรานั้นคือบ้านเมือง คือความสุขของคนไทยทั่วประเทศ
+ ทรงนึกถึงแต่ประชาชน แม้กระทั่งวันที่พระองค์ทรงกำลังจะเข้าห้องผ่าตัดกระดูกสันหลังในอีก 5 ชั่วโมง (20 กรกฎาคม 2549) ยัง ทรงรับสั่งให้ข้าราชบริพารไปติดตั้งคอมพิวเตอร์เดินสายออนไลน์ไว้ เพราะกำลังมีพายุเข้าประเทศ พระองค์จะได้มอนิเตอร์ เผื่อน้ำท่วมจะได้ช่วยเหลือทัน
+ ในหลวง ทรงพระเนตรเทียมข้างขวา เป็นผลจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ที่เมืองโลซานน์ สวิตเซอร์แลนด์ รถพระที่นั่งชนกับรถบรรทุกอย่างแรง ทำให้เศษกระจกเข้าพระเนตรข้างขวา ตอนนั้นมีอายุเพียง 20 พรรษา และทรงใช้พระเนตรข้างซ้ายข้างเดียว ในการทำงานบำบัดทุกข์บำรุงสุขประชาชนชาวไทยมาตลอดกว่า 60 ปี
+ ปีหนึ่งๆ ในหลวงทรงเบิกดินสอแค่ 12 แท่ง ใช้เดือนละแท่ง จนกระทั่งกุด
+ ในหลวงเริ่มพระราชทานปริญญาบัตรครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ.2493 จน 29 ปีต่อมาจึงมีผู้คำนวณว่าเสด็จพระราชทานปริญญาบัตร 490 ครั้ง ประทับครั้งละ 3 ชม. ทรงยื่นพระหัตถ์พระราชทาน 470,000 ครั้ง น้ำหนักปริญญาบัตรฉบับละ 3 ขีด รวมน้ำหนักทั้งหมด 141 ตัน
+ ทรงรับสั่งกับข้าราชบริพารเสมอว่า การนั่งรถคนละคันเป็นการสิ้นเปลือง จึงให้นั่งรวมกัน ไม่โปรดให้มีขบวนรถยาวเหยียด
ทรงประทับพื้น ร่วมกับข้าราชบริพาลอย่างไม่ถือตัว ในขณะทำงานเพื่อประชาชน (ฉันประทับใจภาพนี้จริงๆ)
"ในช่วงเวลาเทศกาลวันพ่อในเดือนนี้ ฉันก็ขอให้คุณพ่อหลวงและคุณพ่อของทุกคนมีความสุขมากๆ มีสุขภาพแข็งแรง
และขอให้ลูกทุกคนจงกตัญญูต่อท่านให้มากๆ"
Credit : (ขอขอบคุณข้อมูลเรื่องวันพ่อแม่)
http://ko.wikipedia.org/wiki/%EC%96%B4%EB%B2%84%EC%9D%B4%EB%82%A0
http://www.happytokorea.com/webboard/index.php?topic=27.new
Credit : (ขอขอบคุณข้อมูลเรื่องของนหลวง)
http://www.oknation.net/blog/kidkids/2009/08/27/entry-1
ปล1. เรื่องนี้ค่อนข้างมีข้อมูลน้อยมากๆ เลยค่ะ พยายามหาแล้วนะ แต่ได้มาแค่นี้เอง (พยายามแล้ว...?)
ปล2. จริงๆ ลงเรื่องนี้ไปตั้งแต่วันที่ 4 ธันวาแล้ว แต่ดันเผลอไปกดปิดโปรแกรมเน็ตซะงั้น ก็เลยหายหมดเลย และวันนี้ก็ต้องนั่งพิมำ์ใหม่หมด
http://ko.wikipedia.org/wiki/%EC%96%B4%EB%B2%84%EC%9D%B4%EB%82%A0
http://www.happytokorea.com/webboard/index.php?topic=27.new
Credit : (ขอขอบคุณข้อมูลเรื่องของนหลวง)
http://www.oknation.net/blog/kidkids/2009/08/27/entry-1
ปล1. เรื่องนี้ค่อนข้างมีข้อมูลน้อยมากๆ เลยค่ะ พยายามหาแล้วนะ แต่ได้มาแค่นี้เอง (พยายามแล้ว...?)
ปล2. จริงๆ ลงเรื่องนี้ไปตั้งแต่วันที่ 4 ธันวาแล้ว แต่ดันเผลอไปกดปิดโปรแกรมเน็ตซะงั้น ก็เลยหายหมดเลย และวันนี้ก็ต้องนั่งพิมำ์ใหม่หมด
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น