ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic SJ] Sorry, My Juliette [Bumhyuk, WonKyu, TeukChul]

    ลำดับตอนที่ #6 : Sorry,My Juliette - Chapter 6

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 769
      5
      7 ก.ย. 54

     

    Chapter 6

     

                “เมื่อกี้พี่ฮีชอลไม่เห็นอะไรใช่ไหมครับ?”

     

                ฮยอกแจถามอย่างลนลาน เขาเดินกลับไปนั่งที่โต๊ะทำงานของตัวเองท่ามกลางสายตาจับผิดของเจ้าของร้าน

     

                “มีอะไรให้เห็นล่ะ?” ฮีชอลหลิ่วตาถาม

     

                “ก...ก็...ไม่มีนี่ครับ” ฮยอกแจกลัว กลัวว่าฮีชอลจะเห็นว่าเขาถูกคิบอมกอดเมื่อครู่นี้

     

                “แน่ใจนะ แววตานายเหมือนกำลังปิดบัง”

     

                “ไม่มีอะไรจริงๆ ครับ”

     

                ใบหน้าหวานสะบัดรัวจนเส้นผมปลิวกระจาย ฮีชอลจึงพยักหน้า ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าตัวเองออกมาตามฮยอกแจให้ไปช่วยขนย้ายชุดแต่งงานเก่าๆ ที่หลังร้าน

     

                “ไปช่วยพี่ขนของหน่อยสิ”

     

                “ได้ครับ” ฮยอกแจกำลังจะลุกขึ้น ทว่าประตูร้านกลับเปิดออก

     

                “ฮยอกแจ...เห็นซีวอนบ้างไหม?” จองซูนั่นเองที่เดินเข้ามาถามคนเป็นน้อง

     

                “ไม่เห็นนี่ครับ ทำไมวันๆ พี่จองซูเอาแต่ถามถึงซีวอน” ฮยอกแจย่นคิ้ว พี่ชายของเขาถามถึงแต่ซีวอน วันนั้นก็พูดว่าซีวอนจะมานอนที่บ้านด้วย แต่ผ่านมาหลายวันแล้วฮยอกแจก็ยังไม่เห็นเงาของเพื่อนรัก

     

                พอโทรศัพท์ไปหาก็พบว่าซีวอนปิดเครื่อง

     

                จะออกตามหาก็ไม่รู้ว่าซีวอนไปนอนอยู่ที่ไหน โซลก็ไม่ได้แคบๆ แค่ได้กลับมาพบกันอีกครั้งก็ถือว่าเป็นเรื่องบังเอิญสุดๆ แล้ว

     

                “ซีวอนหายไปไหนก็ไม่รู้ พี่เป็นห่วงเขา” จองซูพอจะรู้ว่าคนอกหักมักคิดสั้น เขาเลยกังวลไปด้วยว่าซีวอนอาจจะทำอะไรไม่ดีกับตัวเอง

     

                “เป็นห่วงเพราะแอบชอบผู้ชายคนนั้นหรือไง เด็กใหม่ล่ะสิ?” ฮีชอลโพล่งถามอย่างเสียมารยาท

     

                “เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับนาย” จองซูปรายตามองก่อนจะตอบกลับไปบ้าง

     

                “ไม่เกี่ยวได้ไง พื้นที่นายเหยียบอยู่ก็เป็นร้านของฉัน อากาศที่นายหายใจอยู่ก็เป็นอากาศในร้านของฉัน”

                “อากาศเป็นพิษแบบนี้น่ะเหรอ แค่สูดดมเข้าไปฉันก็รู้สึกเหมือนตัวเองจะป่วยแล้ว”

     

                “งั้นก็ตายๆ ไปเลยสิ...ปาร์ค จองซู”

     

                “พี่ฮีชอล!” ฮยอกแจปรามเจ้าของร้านที่เริ่มจะมีปากเสียงกับพี่ชายของเขารุนแรงขึ้นเรื่อยๆ จองซูจ้องมองอีกฝ่ายอย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อ จนฮยอกแจทนไม่ไหวต้องเอ่ยปากไล่

     

                “พี่จองซูกลับไปร้านก่อนเถอะครับ เดี๋ยวผมจะพยายามถามจากเพื่อนๆ อีกที”

     

                “อืม ขอบใจนะ” จองซูบอกน้องชาย ก่อนจะเดินออกไป

     

                “ฮยอกแจ...เอาแอลกอฮอล์มาราดหน้าร้านหน่อยซิ เชื้อโรคเต็มไปหมดแล้วเนี่ย”

     

                ฮีชอลพูดไล่หลังไป หากแต่จองซูไม่ได้หันกลับมาสนใจอีก ทำให้คนสวยที่เป็นเจ้าของร้านกระทืบเท้าอย่างขัดใจ เขาอยากให้จองซูโต้ตอบเขาด้วยคำพูดหรือการกระทำก็ได้

     

                เงียบแบบนี้...ฮีชอลรู้สึกเหมือนจองซูไม่สนใจเขาเลย

     

     

     

                เย็นวันนั้นฮยอกแจขับรถไปบ้านทงเฮอีกครั้ง เขาคิดว่าคิบอมจะต้องอยู่ที่บ้านของทงเฮแน่ๆ ก็คิบอมบอกว่าไปง้อทงเฮทุกวันเลยนี่นา

     

                เมื่อเจ้าแคนดี้สีเหลืองจอดลงสนิท ฮยอกแจก็เห็นคิบอมที่ยืนคอตกอยู่หน้าบ้านของทงเฮจริงๆ

     

                “คิบอม”

     

                เสียงหวานเอ่ยเรียก คิบอมหันมาพร้อมกับส่ายหน้าบอกว่าทงเฮยังไม่หายโกรธเขา

     

                “ทำไมเป็นแบบนี้ล่ะ?”

     

                “ผมก็ไม่รู้” คิบอมตอบ ตาคมตวัดกลับไปมองรั้วบ้านที่ปิดสนิทอีกครั้ง

     

                “แล้วคุณไปทำอะไรให้ทงเฮโกรธล่ะ คิดไม่ออกเลยเหรอ?”

     

                “ผมก็ไม่แน่ใจ จำได้ว่า...วันนี้ผมทะเลาะกับทงเฮเรื่องอะไรสักอย่าง แล้วผมก็ขับรถมอเตอร์ไซด์ออกมาง้อทงเฮ แล้วหลังจากนั้น...”

     

                ครืด!

     

                เสียงประตูเปิดออกกว้างทำให้คิบอมไม่ได้พูดต่อ ฮยอกแจเบิกตาโพลงอย่างดีใจ แต่คนที่ดีใจเสียมากกว่าดูจะเป็นคนตัวโตที่ยืนอยู่ข้างๆ

     

                “ทงเฮ!

     

                “มีอะไร?” ทงเฮเกาะมือข้างหนึ่งที่ประตูรั้ว ก่อนจะเอ่ยถามขึ้น

     

                “คุณยกโทษให้ผมแล้วใช่ไหม?”

     

                “คิบอมเขารู้สึกผิดจริงๆ นะทงเฮ”

     

                ฮยอกแจพูดต่อหลังจากสิ้นประโยคของคิบอม ทงเฮถอนหายใจเบาๆ ก่อนจะเอ่ยถาม

     

                “คุณนี่พูดไม่รู้เรื่องใช่ไหม ผมบอกแล้วไงว่าไม่อยากเจอคุณอีก”

     

                “ทงเฮ...”

     

                คิบอมเรียกชื่อคนรักเสียงอ่อย รู้สึกเหมือนประสาททรายที่ตั้งใจก่อขึ้นมาอย่างสวยงามพังลงต่อหน้าต่อตา เขาคิดว่าทงเฮจะยอมใจอ่อนต่อความพยายามและความรักของเขาเสียอีก

     

                “คุณใจร้ายมากไปแล้วนะอี ทงเฮ!” ฮยอกแจบอกเสียงแข็ง

     

                “ผมบอกคุณตั้งหลายครั้งแล้วไม่ใช่เหรอว่าผมไม่รู้จักคิม คิบอม!

     

                “งั้นเหรอ? ถ้าไม่รู้จักแล้วทำไมถึงจำชื่อนามสกุลเขาได้แม่นยำจังเลย ทำไมถึงเปิดประตูออกมาหาเขาเวลาที่มีผมอยู่ด้วย ไม่ใช่เพราะว่าคุณหึงหรอกเหรอ?”

     

                ฮยอกแจถามอย่างเหลืออด ไม่รู้ว่าหัวใจของทงเฮทำด้วยหินหรือยังไง ทำไมมันถึงได้แข็งแกร่งและพังทลายลงยากเย็นนัก คิบอมยอมรับในคำพูดของคนตัวเล็ก เขากำลังจะหันหลังกลับ แต่ฮยอกแจกลับคว้ามือไว้

     

                “ผมจะไม่ยอมให้คุณหนีอีกแล้วทงเฮ” ฮยอกแจบอก

     

                “ผมไปหนีคุณตอนไหน ผมก็อยู่บ้านของผมดีๆ คุณนั่นแหละที่ตามราวีผมอยู่ทุกวัน ถามจริงเถอะไม่บ้างเบื่อหรือไง”

     

                “แล้วคุณล่ะ คุณไม่เบื่อบ้างเหรอที่ใจร้ายกับคนที่ตัวเองรัก รู้ทั้งรู้ว่าคิบอมเขามาง้อคุณ คุณก็ยังไม่เปิดประตูให้ คิบอมเขามาหาคุณทุกคืน มาดูว่าคุณหลับไปแล้วหรือยัง คุณก็ทำเป็นมองเห็นความดีของเขา”

     

                “คุณพูดอะไร...ผมไม่รู้เรื่อง” ทงเฮส่ายหน้า คิ้วดกดำขมวดมุ่นกับคำพูดของฮยอกแจ เขาไม่รู้ว่าฮยอกแจต้องการจะสื่ออะไรออกไปกันแน่

     

                ฮยอกแจอาจจะชอบคิบอมมากจนเสียสติไปแล้วก็ได้

     

                “พอเถอะฮยอกแจ ผมไม่อยากอยู่อีกแล้ว” คิบอมหันมาบอก ก่อนจะหันไปหาคนรักของตัวเองอีกครั้ง

     

                “ทงเฮ ผมกลับก่อนนะ ไว้พรุ่งนี้ผมจะมาหาคุณใหม่” คิบอมบอก ฮยอกแจได้แต่มองใบหน้าของร่างสูงด้วยความสงสาร แต่ทงเฮกลับไม่ยอมมองหน้าคิบอมเลยแม้แต่นิดเดียว

     

                ฮยอกแจไม่เข้าใจเลยว่าอะไรที่ทำให้ทงเฮโกรธคิบอมมากขนาดนั้น

     

                “ถ้าคุณไม่มีอะไรจะพูดก็เชิญกลับไปได้แล้ว”

     

                ทงเฮเหลือบตามองคิบอมแวบหนึ่ง ก่อนจะเลื่อนประตูปิดลงเรื่อยๆ มันสามครั้งแล้วที่ทงเฮยังเอาแต่ปิดประตูหนีพวกเขาแบบนี้ ฮยอกแจตัวสั่นเหมือนคนที่ควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้ เขาอยากจะทำอะไรสักอย่าง แต่ก็ไม่รู้จะช่วยให้สองคนนี้คืนดีกันได้ยังไง

     

                “คุณไม่ต้องเครียดหรอก” คิบอมเดินออกมาจากหน้าบ้านของทงเฮแล้วเอ่ยบอก

     

                “ไม่ให้เครียดได้ยังไง แฟนของคุณเขาทำตัวไม่มีเหตุผลเลยนะ”

     

                “ไม่ใช่อย่างนั้นหรอกฮยอกแจ”

     

                “...”

     

                “ทงเฮมีเหตุผล แต่เหตุผลของเขาไม่จำเป็นต้องให้คนอื่นมาเข้าใจ แต่ทงเฮ...เขาเป็นคนที่มีเหตุผลมากจริงๆ”

     

                คิบอมยังเอ่ยชื่นชมคนรักแม้จะโดนต่อว่ากลับมาแบบนี้ก็ตาม   ฮยอกแจอดสงสัยไม่ได้ เพราะว่าสองคนนี้มีความแปลกประหลาดอยู่ในตัวเองหรือเปล่านะ

     

                คิบอมก็ทำท่าทางแปลกๆ

     

                ทงเฮก็มีความคิดแปลกๆ

     

                ทั้งสองคนก็เลยรักกันได้

     

                “เรากลับกันเถอะ” ร่างสูงบอกก่อนจะเดินเข้าไปขึ้นรถ ทว่าฮยอกแจกลับจับมือหนาเอาไว้แน่น

     

                “คิบอม...”

     

                “...”

     

                “คนบนโลกมีเป็นล้าน แต่ทำไมคุณถึงมาคบกับทงเฮทั้งๆ ที่เขาเป็นผู้ชายล่ะ”

     

                “คงเป็นเพราะ...สวรรค์กำหนดให้เป็นแบบนี้มั้ง” คิบอมหันมาตอบ แม้จะไม่รู้ว่าฮยอกแจต้องการจะพูดอะไรกันแน่ แต่บางครั้งมันก็น่าคิดไม่ใช่เหรอ ทำไมเราถึงไม่ได้รักกับคนที่เพอร์เฟ็คท์ที่สุดในโลก แต่ทำไมถึงได้มารักกับคนธรรมดาที่ไม่มีอะไรพิเศษ

     

                ทำไมถึงไม่ใช่คนอื่น แต่เป็นคนๆ นี้!

     

                “ถ้าสวรรค์กำหนดมาจริงๆ มันก็คงเป็นเรื่องมหัศจรรย์มากเลยที่คนสองคนจะรักกัน”

     

                “แต่ทงเฮไม่ได้รักผมแล้ว” คิบอมบอกเสียงเศร้า

     

                “ไม่หรอก ผมเชื่อว่าเขายังรักคุณอยู่ คุณอย่าทำให้สวรรค์ต้องผิดหวังเลยนะคิบอม อย่าเลิกกับทงเฮ อย่าตัดใจเลิกกับเขา”

     

                คิบอมจ้องมองใบหน้าหวานของฮยอกแจที่เอ่ยด้วยน้ำเสียงแกมขอร้อง ฮยอกแจมองหน้าคมนิ่งสนิท ดวงตาของเขามีไว้มองเพียงคิบอมเท่านั้น

     

                แค่คิบอมคนเดียวเท่านั้น

     

                “คุณอยากให้ผมไปรับชุดแต่งงานใช่ไหมล่ะ?” คิบอมรีบกลบเกลื่อนเพราะกลัวว่าสถานการณ์มันจะย่ำแย่ไปมากกว่านี้

     

                “ก็แน่ล่ะสิ คุณยังค้างชำระอีกตั้งห้าสิบเปอร์เซ็นต์นี่”

     

                ฮยอกแจส่งยิ้มเจื่อนๆ กลับไปบ้าง คิบอมจึงขยี้ผมเขาจนยุ่งเหยิง ฮยอกแจขับรถไปส่งคิบอมที่สถานีรถไฟ คิบอมบอกว่าบ้านของเขาอยู่นอกเมือง จึงไม่อยากให้ฮยอกแจต้องลำบาก

     

                แต่หลังจากที่ฮยอกแจกำลังขับรถกลับบ้านของตัวเองนั้น เขาก็คิดเกี่ยวกับคำพูดสุดท้ายของตัวเองซ้ำไปซ้ำมา

     

                มันไม่ใช่อย่างที่คิบอมคิดเลยสักนิด

     

    ไม่ใช่เลยคิบอม ผมไม่ได้อยากได้เงินของคุณเลยสักวอนเดียว ถ้าคุณคืนดีกับเขา ผมอาจจะยกชุดแต่งงานให้คุณฟรีๆ เลยก็ได้

     

    ผมก็แค่อยากเห็นคิบอมมีความสุขเท่านั้น

     

     

     

                “คยูฮยอน ถ้ามันเหนื่อยมาก เราเลิกกันก็ได้นะ”

     

                เสียงทุ้มเปรยขึ้นขณะนั่งดูทีวีกับคนรัก คยูฮยอนคงได้ยินแล้ว แต่เขาอาจจะไม่ได้สนใจ ดวงตาคู่สวยจดจ้องอยู่ที่หน้าจอโทรทัศน์อยู่ตลอดเวลาจนยองอุนต้องคว้ารีโมทมาปิดเอาไว้

     

                “ปิดทำไมล่ะครับ ผมดูอยู่” คยูฮยอนต่อว่าอีกฝ่าย พลางจะยื้อแย่งรีโมทคืนกลับไป

     

                “ฟังพี่ก่อน”

     

                “ผมก็ฟังพี่ยองอุนอยู่แล้ว มีอะไรก็พูดมาสิครับ”

     

                “เมื่อกี้พี่พูดไปแล้ว คยูฮยอนไม่ได้ฟังนี่”

     

                คยูฮยอนเงียบลง เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่ายองอุนเอ่ยขึ้นมาตั้งแต่ตอนไหน ใบหน้าหวานดูตระหนกขึ้นมาทันที ยองอุนค่อยๆ เอื้อมมือบางมากุมไว้หลวมๆ ก่อนจะพูดขึ้นด้วยประโยคเดิม

     

                “ถ้าคยูฮยอนเหนื่อยมาก เราเลิกกันก็ได้นะ”

     

                “พี่ยองอุน”

     

                “พี่เสียใจ และพี่ก็ไม่ใช่คนที่ดีนัก พี่อยากจะรั้งคยูฮยอนไว้ให้อยู่ตรงนี้ แต่หัวใจของคยูฮยอนไม่ได้อยู่ที่พี่แล้ว”

     

                คยูฮยอนไม่รู้อะไรทั้งนั้น เขาส่ายหน้าไปมา ตอนที่ยองอุนไม่อยู่ ทุกๆ วันก่อนเข้านอน เขาจะนึกถึงอ้อมกอดของยองอุนเสมอ แม้ว่าซีวอนจะกอดเอาไว้แน่นแค่ไหน แต่คยูฮยอนก็คิดถึงแต่คนรักเก่าที่หายไป

     

                พอมาวันนี้ วันที่ยองอุนกลับมาแล้ว คยูฮยอนกลับเอาแต่คิดถึงซีวอน

     

                เขาอาจจะสงสาร

     

                หรือเขาอาจจะรัก

     

                ความรู้สึกมันผสมปนเปกันไปหมด มันแยกออกจากกันไม่ได้ หรือบางที...มันอาจจะไม่มีความรู้สึกใดๆ อยู่ในหัวใจของคยูฮยอนเลยสักความรู้สึกเดียว

     

                มันมีแต่ความว่างเปล่าเท่านั้น

     

                “ถ้าคยูฮยอนไม่ไปตอนนี้ พี่จะกอดคยูฮยอนให้แน่นที่สุดจนคยู ฮยอนจะหนีพี่ไปไม่ได้อีก”

     

                “ผมจะไม่ไปครับ” คยูฮยอนยกมืออีกข้างมากุมทับมือหนาของยองอุนเอาไว้

     

                เขาเดินหนีไปจากคิม ยองอุนไม่ได้จริงๆ

     

                “ไปเถอะคยูฮยอน ถึงพี่จะไม่เข้าใจ แต่พี่ก็จะพยายามเข้าใจให้ได้”

     

                ยองอุนบอกคนตรงหน้าเสียงอ่อนโยน ก่อนจะเดินหายเข้าไปในห้องนอนเพื่อให้คยูฮยอนได้คิดทบทวนอีกครั้ง ใครกันแน่ที่คยูฮยอนรัก และใครกันแน่ที่คยูฮยอนต้องการใช้ชีวิตอยู่ด้วยไปจนกว่าจะหมดลมหายใจ

     

                “ขอบคุณครับพี่ยองอุน ฮึก....ผมขอโทษ...ขอบคุณ...แล้วก็ขอโทษจริงๆ”

     

                คยูฮยอนพูดคำสองคำนี้ซ้ำไปซ้ำมา ก่อนจะวิ่งออกไปนอกบ้าน ฝนเริ่มลงเม็ด ก่อนจะโปรยปรายมาเป็นสายทั่วทั้งท้องฟ้า แล้วเขาจะไปตามหาซีวอนได้จากที่ไหน

     

                ยองอุนมองคนรักที่เคว้งคว้างอยู่ท่ามกลางสายฝน

     

                ใครบอกล่ะว่าเวลาที่ฝนตกจะทำให้คนอื่นไม่รู้ว่าเราร้องไห้ เพราะตอนนี้แม้ฝนจะตก ยองอุนก็ยังเห็น...เห็นว่าคยูฮยอนที่เขารักนั้นกำลังร้องไห้หนักด้วยความปวดร้าว

     

    To be continue…

               

    จะมาลงให้ทุกๆ วันเลยนะคะ ให้เรื่องนี้มันจบๆ ไปซะที!

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×