ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic SJ] Sorry, My Juliette [Bumhyuk, WonKyu, TeukChul]

    ลำดับตอนที่ #20 : Sorry,My Juliette - Chapter 20 [END]

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.19K
      4
      25 ก.ย. 54

     

    Chapter 20

     

                หลายสัปดาห์มาแล้วที่ฮยอกแจไม่ได้เจอวิญญาณของคิบอม หลังจากงานศพของทงเฮเสร็จสิ้น ฮยอกแจก็ไปหาคิบอมอีกครั้ง แต่โรงพยาบาลบอกว่าคิบอมไม่อยู่แล้ว

     

                ฮยอกแจพยายามส่งยิ้มให้กับครอบครัวเหมือนเขาไม่เป็นอะไร

     

                สิ่งที่เคยสัญญากับพี่ชายทั้งสองเอาไว้...

     

                เขาจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับใครอีกแล้ว แม้กระทั่งคิบอม สุดท้ายฮยอกแจก็ทำตามที่พูดได้จริงๆ แต่ไม่ใช่เพราะเขาที่เดินออกมาหรอก คิบอมต่างหากที่ทิ้งเขาไป

     

                “ฮยอกแจ ชื่อร้านจะเอายังไงดี?” ฮีชอลตะโกนถามหลังจากยืนเถียงกับจองซูอยู่นานสองนาน

     

                “ในเมื่อยุบร้านมารวมกันแล้วก็เอาชื่อร้านมารวมกันสิครับ” ฮยอกแจแนะนำ

     

                “ไม่เอาอ่ะ คำว่า ‘In Love’ มันป่วง”

     

                “คำว่า ‘Wedding’ มันก็เรียบเกินไปเหมือนกัน ฉันไม่ชอบ” เสียงจองซูดังขึ้นในขณะที่ยกซุ้มดอกไม้เข้ามาในร้านพร้อมกับซองมิน ฮยอกแจแทบกุมขมับ

     

                ขนาดคืนดีกันแล้ว พี่ชายทั้งสองคนก็ยังเลิกเถียงกันไม่ได้

     

                ไฟ...กับ...ไฟ

     

                มันก็ต้องร้อนแรงแข่งกันแบบนี้ตลอดไปนั่นแหละ

     

                “ไม่เห็นยากเลย ก็ตัดทั้งสองคำออกไป แล้วก็เปลี่ยนเป็น ‘83line TeukChul’ สิ” รยออุคพูดขึ้นในขณะที่นั่งทำการบ้านอยู่ที่โต๊ะบัญชี ที่จริงไม่ใช่การบ้านของรยออุคหรอก

     

                เป็นของซองมินที่ใช้ให้รยออุคทำให้ต่างหาก

     

                “ฮยอกแจว่าไงอ่ะ?” จองซูหันมาขอความเห็นจากน้องชายคนกลางอีกครั้ง

     

                “ก็ดีนะครับ”

     

                “แต่ฉันว่า ‘83line HeeTeuk’ จะดีกว่านะ” ฮีชอลโต้แย้ง

     

                “เรื่องมาก!

     

                “ทำไมจะเรื่องมากไม่ได้ นี่มันร้านของฉันนะ” ฮีชอลแว้ดใส่คู่กรณีอย่างไม่พอใจ ฮยอกแจค่อยๆ เดินถอยหลังออกมา คิดว่าทั้งคู่จะทะเลาะกันรุนแรงอีกแล้วแน่ๆ

     

                จองซูเดินเข้าไปใกล้อีกฝ่าย ก่อนจโน้มลงไปกระซิบข้างหูด้วยคำพูดแสนหวาน

     

                “มันเป็นร้านของเขาต่างหากล่ะ”

     

     

     

                ฮยอกแจเดินออกมาจากร้านอย่างอารมณ์ดี ในที่สุดสิ่งที่เขาพยายามมาโดยตลอดมันก็สำเร็จแล้ว ในที่สุดจองซูกับฮีชอลก็คืนดีกันจนได้

     

     

                มันไม่น่าจะมีอะไรให้เศร้าอีกแล้ว นอกจากเรื่องของตัวเอง

     

                ฮยอกแจขับเจ้าแคนดี้กลับไปที่บ้าน ซีวอนเดินออกมารับพัสดุหน้าบ้านพอดี ฮยอกแจจึงเอ่ยถาม

     

                “พัสดุของใครเหรอซีวอน?”

     

                “ของฉันเอง ดูเหมือนจะมีคนส่งมาให้เป็นของขวัญวันเกิด”

     

                “แต่มันยังไม่ถึงนี่!” ฮยอกแจย้นคิ้วอย่างแปลกใจ อีกตั้งหลายวันกว่าจะถึงวันเกิดของซีวอน

     

                “ไม่รู้สิ คนที่ส่งมาอาจจะคำนวณเวลาผิดก็ได้มั้ง”

     

                ทั้งคู่เดินเข้าไปในบ้าน ซีวอนนั่งที่โซฟาและค่อยๆ เปิดกล่องพัสดุออก ทั้งๆ ที่กล่องพัสดุใหญ่มาก แต่ด้านในกลับมาพวงกุญแจรูปหอไอเฟลเพียงแค่อย่างเดียวเท่านั้น

     

                ไม่สิ...มันมีการ์ดใบเล็กๆ แนบมาด้วยอีกหนึ่งใบ

     

     

                สุขสันต์วันเกิดนะซีวอน คิดถึงคุณเสมอ

     

     

                มันเป็นข้อความสั้นๆ ที่ฮยอกแจเห็นแล้วยังต้องขมวดคิ้วให้แน่นมากกว่าเดิมเสียอีก มือบางชิงการ์ดแผ่นนั้นมาจากมือของซีวอน ก่อนจะพลิกหน้าพลิกหลังดู

     

                “ไม่เห็นลงชื่อเอาไว้เลย”

     

                “ไม่จำเป็นหรอก ลายมือแบบนี้มีแค่คนเดียวเท่านั้นแหละ”

     

                ซีวอนเอ่ยบอกด้วยรอยยิ้ม ในมือหนาข้างหนึ่งถือพวงกุญแจเอาไว้แน่น มันเป็นของขวัญที่ไม่ได้มีราคาแพงอะไรเลย และข้อความในการ์ดแผ่นนั้นก็ไม่ได้เลิศหรูเลยสักนิด

     

                แต่ซีวอนกลับยิ้มไม่หุบ

     

                หัวใจของเขาพองโตที่ได้รู้ว่าปลายทางยังสบายดี ซีวอนคิดว่าโจ คยูฮยอนจะต้องสบายดีแน่ๆ

     

                แม้ว่าสุดท้ายแล้วพวกเขาจะไม่ได้รักกัน แต่อย่างน้อยการที่ได้มาพบกัน และได้รักกันในช่วงหนึ่งของชีวิต มันก็มีค่ามหาศาลจนหาอะไรมาทดแทนไม่ได้อีกแล้ว

     

     

     

                คืนนั้นหลังจากที่ฮยอกแจหลับไปแล้ว ฮยอกแจฝันว่าทงเฮมายืนอยู่ปลายเตียงนอนของเขา ใบหน้าของทงเฮซีดเผือดไร้เลือดฝาด มันเหมือนกับตอนที่ทงเฮฆ่าตัวตายไม่มีผิด

     

                “ทงเฮ...” ฮยอกแจค่อยๆ ลุกขึ้นนั่ง เอื้อมมือไปสัมผัสร่างของทงเฮที่เอาแต่ก้มหน้างุด

     

                “คุณรักคิบอม คุณรักคิบอมทำไม?” เสียงของทงเฮไม่ได้แสดงถึงความโกรธ แต่แค่นั้นมันก็ทำให้ฮยอกแจรู้สึกผิดมากเหลือเกิน

     

                “ผมขอโทษ...ผมห้ามใจไม่ได้ ผมขอโทษจริงๆ อี ทงเฮ”

     

              “มันสายไปแล้ว พวกคุณทรยศผม พวกคุณมันเป็นพวกหลอกลวง ฮยอกแจ...คุณเป็นคนเลว สักวันสวรรค์จะต้องเอาชีวิตคุณไป”

     

              “ทงเฮ!” ฮยอกแจสะดุ้งตื่นขึ้นมากลางดึก เขาไม่แน่ใจว่าเมื่อครู่ตัวเองได้เปล่งเสียงออกไปหรือไม่ ทั้งๆ ที่ปกติเมื่อฝันร้าย ฮยอกแจจะรีบเด้งตัวลุกขึ้นนั่ง

     

                แต่นี่...เขากลับขยับตัวไม่ได้เลย

     

                ภาพของทงเฮค่อยๆ ปรากฏขึ้นอยู่ที่ปลายเตียงอีกครั้ง

     

                แต่ทงเฮไม่ได้ก้มหน้า และทงเฮก็ไม่ได้มีหน้าตาโศกเศร้าเหมือนในความฝันเมื่อครู่นี้ด้วย

     

                ผมขอโทษฮยอกแจคิดอยู่ในใจ เขาพยายามจะอ้าปากพูด แต่มันกลับพูดไม่ออกราวกับมีอะไรบางอย่างมากดทับลำคอของเขาเอาไว้

     

                “ไม่ต้องขอโทษหรอกฮยอกแจ ผมไม่ได้โกรธคุณ คุณเป็นคนดี เป็นคนที่เหมาะสมกับคิบอมมากที่สุด”

     

                ผมหักหลังคุณ ผมรักคิบอม ผม...ขอโทษฮยอกแจเอาแต่พูดคำว่าขอโทษซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่ทงเฮก็ส่ายหน้าและยิ้มให้ด้วยรอยยิ้มที่เปี่ยมไปด้วยความรักและความเมตตา มีแสงสีขาวสว่างวาบอยู่รอบๆ ตัวของทงเฮ ทงเฮจึงรีบเอ่ยคำ

     

                “ผมต้องไปแล้ว”

     

                คุณจะไปไหน?

     

                “ผมจะไปในที่ที่ผมควรอยู่ จำไว้นะฮยอกแจ เนื้อคู่ของคิบอมคือคุณ...ไม่ใช่ผม ผมไม่เสียใจเลยที่ตอนจบผมไม่ได้คู่กับคิบอม แต่ผมจะเสียใจถ้าหากคุณไม่ยอมรับหัวใจของตัวเอง”

     

                ทงเฮ...อย่า...

     

                ฮยอกแจพยายามร้องเรียกทงเฮที่ค่อยๆ เดินหายเข้าไปในกลุ่มแสงสีขาว ก่อนที่เขาจะรู้สึกง่วงและหลับลงไปอีกครั้ง จนกระทั่งตอนเช้า

     

                ฮยอกแจยังไม่รู้เลยว่า...สิ่งที่เขาพบเจอเมื่อคืนนั้นมันเป็นความจริงหรือความฝันกันแน่

     

                มันดูเหมือนเป็นความฝัน

     

                แต่ความรู้สึกมันบอกว่านี่คือความจริง

     

                ฮยอกแจลูบหน้าตัวเองช้าๆ เขาจะเชื่อทงเฮดีไหมนะ หรือว่าจะปล่อยให้มันเป็นแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ

     

                แต่สุดท้ายแล้วฮยอกแจก็เลือกที่จะเชื่อคำพูดของทงเฮ

     

                เขาจะตามหาคิบอมอีกครั้ง

     

     

     

                ฮยอกแจไปตามหาคิบอมที่โรงพยาบาลอีกครั้ง โรงพยาบาลจงใจที่จะปิดบังข้อมูลบางอย่างกับฮยอกแจ ฮยอกแจจึงได้รู้แค่เพียงว่าญาติของคิบอมต้องการพาคิบอมไปรักษาตัวที่ต่างประเทศ

     

                บางทีเขาอาจจะกลับมาแล้วก็ได้

     

                ฮยอกแจลองไปหาคิบอมที่บ้าน แต่ก็พบว่าบ้านหลังนั้นถูกขายไปแล้ว

     

                “คุณเป็นเจ้าของบ้านหลังนี้เหรอครับ?” เขาถามเสียงเศร้าเมื่อเห็นหญิงวัยกลางคนกำลังจูงลูกหมาเข้าไปด้านใน

     

                “เปล่าหรอกจ้ะ มันเป็นบ้านของลูกชายฉันเองน่ะ”

     

                “แล้ว...ลูกชายคุณชื่ออะไรเหรอครับ?” เธอเลิกคิ้วอย่างแปลกใจเมื่อฮยอกแจเอ่ยถามด้วยท่าทางประหลาดๆ

     

                “เอ่อ...ผมขอโทษครับ”

     

                ฮยอกแจโค้งศีรษะ แล้วเดินออกมาจากบ้านหลังนั้น เขาไม่รู้เลยว่าจะไปตามหาคิบอมที่ไหนดี มันยากยิ่งกว่าการงมเข็มในมหาสมุทรเสียอีก

     

     

     

                สามเดือนต่อมา

     

                ฮยอกแจไม่คิดจะตามหาคิบอมอีกแล้ว เพราะต่อให้เขาพบกับคิบอมอีกหรือไม่ก็ตาม มันไม่ได้สำคัญอีกต่อไป เพราะทุกๆ สิ่งที่เกี่ยวกับคิบอมจะยังคงอยู่ในนี้

     

                อยู่ในจิตวิญญาณของเขา

     

                เสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้นในร้านทำให้ฮยอกแจยกหูขึ้นมารับสายอย่างรวดเร็ว

     

                “สวัสดีครับ”

     

                [...]

     

                “ยอโบเซโย”

     

                ฮยอกแจมุ่ยหน้า สงสัยว่าโทรศัพท์ที่ร้านใกล้จะพังแล้วหรือเปล่า ทำไมเขาถึงไม่ได้ยินเสียงของใครเลย ทว่าในขณะที่กำลังจะกดวางสายอยู่นั้น เสียงทุ้มของใครบางคนก็ดังขึ้น

     

                [ผมขอตัดชุดแต่งงานหน่อยครับ]

     

                “เอ่อ...ถ้าจะตัดชุดแต่งงานต้องมาวัดตัวและเลือกแบบที่ร้านนะครับ ไม่สามารถสั่งตัดทางโทรศัพท์ได้”

     

                [ผมทราบครับ]

     

                “เอ๋?” ฮยอกแจนึกแปลกใจกับคำพูดของอีกฝ่าย และยิ่งได้ยินเสียงหัวเราะเบาๆ ดังลอดมาด้วย ใบหน้าหวานก็ยิ่งนิ่วหน้าอย่างโมโห

     

                ใครกันโทรมาแกล้งตั้งแต่เช้า

     

                [ผมจะให้เจ้าสาวของผมเข้าไปวัดตัวก่อนนะครับ]

     

                “ได้เลยครับ แล้วเจ้าสาวของคุณจะเข้ามาที่ร้านตอนกี่โมงครับ” ฮยอกแจเอ่ยถามพลางเตรียมปากกามาจดรายละเอียด

     

                [ตอนนี้เลยครับ]

     

                “...” ฮยอกแจเริ่มรู้สึกคุ้นในน้ำเสียงนั่นเหลือเกิน แล้วยิ่งประโยคต่อไปของเขา

     

                [เขาชื่ออี ฮยอกแจ]

     

                “นั่นมันชื่อของผมนี่ครับ”

     

                [ถ้างั้น...คุณก็คงเป็นเจ้าสาวของผม!]

     

                เสียงกระดิ่งที่แขวนอยู่หน้าร้านดังกรุ๊งกริ๊ทำให้ฮยอกแจเงยหน้าขึ้นไปมอง ร่างโปร่งค่อยๆ ลุกขึ้นยืน ไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าหยุดหายใจไปตั้งแต่ตอนไหน

     

                รู้ตัวอีกทีก็พบว่าหัวใจของเขามันเต้นแรงจนแทบจะกระเด็นออกมานอกอกอยู่แล้ว

     

                “คิบอม!!!” ฮยอกแจกระโดดโอบรอบลำคอของอีกฝ่ายอย่างคิดถึง มันเป็นความคิดถึงที่ไม่ไร้ประโยชน์เลยสักนิด คิบอมอยู่ในชุดสูทสีขาวเรียบง่ายแต่สง่างาม เขาตั้งใจแต่งตัวมาพบกับฮยอกแจโดยเฉพาะ

     

                “คุณหายไปไหนมาตั้งสามเดือน คุณ...กลับมาหาผมแล้ว...คุณจะไม่ไปไหนอีกแล้วใช่ไหม?”

     

                ฮยอกแจรัวคำถามใส่คนตรงหน้า คิบอมค่อยๆ ผละออกจากคนตัวเล็ก ก่อนจะหันไปหาเจ้าของร้านอีกสองคนที่นั่งมองด้วยอาการอึ้งอยู่

     

                “น้องเขยคนนี้ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะครับ”

     

                “เล่นพูดขนาดนี้ ฉันล่ะปฏิเสธไม่ออกเลยจริงๆ” ฮีชอลส่ายหน้าอย่างระอา จองซูได้แต่ยิ้มบางๆ ส่งมาให้ แต่ฮยอกแจกลับเบิกตากว้าง

     

                “คิบอม...คุณเป็นคนเหรอ เป็นคนจริงๆ ใช่ไหม?”

     

                “ผมก็เป็นคนน่ะสิ คุณเห็นผมเป็นผีหรือไง” เขาถามยียวน แต่ฮยอกแจไม่ได้โกรธเลย ดวงตาคู่สวยระยิบระยับด้วยหยาดน้ำตาใส

     

                คิบอมกลับมาแล้วจริงๆ ด้วย

     

                “ขอโทษที่กลับมาช้านะ แต่ผมต้องทำกายภาพบำบัด ไม่อย่างนั้นคงเดินมาหาคุณแบบหล่อๆ อย่างนี้ไม่ได้”

     

                คิบอมอธิบายให้ฟัง เขาฟื้นตั้งแต่วันที่ทงเฮเสียชีวิตแล้ว คิบอมกับฮยอกแจไม่ได้คุยกันหรอกว่าทงเฮต่างก็มาหาพวกเขา แต่ทงเฮเท่านั้นที่รู้ดี

     

                รู้ว่าทุกคำที่เขาพูดกับคิบอมและฮยอกแจ...เป็นสิ่งเดียวกัน

     

                “คราวนี้อย่าหายไปไหนอีกนะ” ฮยอกแจเอ่ยบอก

     

                “คุณก็ไปอยู่ที่บ้านผมสิ”

     

                “แต่ว่า...บ้านหลังนั้นถูกขายไปแล้วไม่ใช่เหรอ?”

     

                “ใช่! มันถูกขายไปแล้ว แต่ผมก็ซื้อมันกลับมาอีกครั้ง...เพื่อคุณไง” คิบอมลูบมือแกร่งไปที่ดวงหน้างดงามของคนตรงหน้า ฮยอกแจเป็นมมนุษย์ที่แสนดีที่สุดเท่าที่เขาได้รู้จัก

     

                เป็นคนที่มีจิตใจงดงามอย่างไม่มีใครเทียบได้อีกแล้ว

     

     

    เพราะความเข้าใจผิดทำให้จูเลียตฆ่าตัวตายตามโรมิโอ

     

    แต่สุดท้ายจูเลียตก็ได้รู้แล้วว่า...

     

    คู่รักของโรมิโอไม่จำเป็นต้องชื่อจูเลียตเสมอไป

     

    อาจจะเป็นผู้ชายธรรมดาที่ชื่อว่า...อี ฮยอกแจก็ได้

     

    The End

     

    Talk with Lee Seen

                ครั้งสุดท้ายที่จะได้พูดคุยในฟิคเรื่องนี้

    ขอบคุณทุกๆ คนที่ติดตามอ่านกันมานะค้า...

    เรื่องนี้ซีนไม่ค่อยบรรยายอะไรมาก เพราะว่ารีบแต่งมากๆๆ

    การเขียนก็เป็นแนวที่ตัวเองไม่เคยเขียนมาก่อน ไม่รู้ว่าคนอ่านจะสังเกตเห็นกันหรือเปล่า

     

    ตอนจบ...อาจจะไม่ประทับใจมากสักเท่าไร แต่...

    ซีนภูมิใจมากๆๆๆ ที่หลายๆ คอมเม้นท์เข้าใจแก่นของเรื่อง

    ว่าทำไม? เรื่องนี้ถึงต้องเป็น Sorry, My Juliette

     

    ขอบคุณมากๆ ค่า...(คำนับ)

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×