ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic SJ] -- The Flying Arrows -- [BumHyuk / EunBum]

    ลำดับตอนที่ #33 : The Flying Arrows - EunBum Special -

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.18K
      3
      18 ส.ค. 53

     

                ชีวิตคนรักมักจะมีเรื่องที่น่าตื่นเต้นสลับกับเรื่องที่น่าเบื่ออยู่เสมอ   ฮยอกแจก็เช่นเดียวกัน   หลังจากที่ชีวิตของเขาผ่านพ้นความตื่นเต้นมาแล้ว   ความรู้สึกเบื่อหน่ายก็เข้ามาแทนที่   จากที่วันๆ เอาแต่คิดว่าจะทำร้ายคนอื่นด้วยวิธีการอย่างไรดี   เดี๋ยวนี้กลับมีแต่ความว่างเปล่าอยู่ในสมอง   ฮยอกแจไม่จำเป็นต้องคิดอะไรมากมาย   ไม่จำเป็นต้องวุ่นวายกับใครอีกแล้ว

     

                ในช่วงแรกๆ เขาอาจจะรู้สึกดีกับความแปลกใหม่เหล่านี้   แต่ต่อมาฮยอกแจก็ค้นพบว่าทั้งหมดที่เข้ามาแทนที่ความตื่นเต้นนั้นก็คือ...ความเหงา

     

                รับนี่ไปสิลูก

     

                ครับ?

     

                ฮยอกแจเอียงคอถามคนเป็นแม่   ซองสีขาวถูกยื่นมาตรงหน้า   และเขาก็ยื่นมือออกไปรับอย่างไม่รู้ตัว   แต่พอเปิดซองออกมาดูก็พบว่ามันเป็นเงินจำนวนหนึ่งที่แม่ใส่ซองมาให้

     

                แม่~”

     

                เอาไปทำสิ่งที่ลูกอยากทำเถอะ   ลูกไม่ได้ออกจากบ้านมาเป็นเดือนแล้วนะ   ไม่เบื่อที่จะต้องอยู่กับคนแก่อย่างแม่หรือไง

     

                ไม่เบื่อหรอกครับ   ได้อยู่กับแม่ตลอดเวลา   ผมมีความสุขมากเลย

     

                ฮยอกแจโผเข้าไปกอดเอวแม่เอาไว้อย่างออดอ้อน   ตอนนี้เขาโตเป็นหนุ่มเกินกว่าจะทำแบบนั้นแล้ว   แต่ความรู้สึกของคนเป็นแม่ก็ยังมองว่าลูกเป็นเด็กอยู่ร่ำไป   และเธอก็อบอุ่นใจทุกครั้งที่ฮยอกแจทำแบบนี้

     

                ...หากแต่สายตาที่ซึมเศร้าของฮยอกแจกำลังให้เธอเป็นกังวล

     

                ไปเถอะฮยอกแจ   ไปเที่ยวที่ไหนก็ได้   ไทย   จีน   ฮ่องกง   ไปพบเห็นอะไรใหม่ๆ อย่างที่ลูกต้องการ

     

    +=+=+=+=+=+=+=+=+=+=+=+=+

     

                หลังจากที่ได้รับเงินของแม่มาในวันนั้น   ฮยอกแจก็ได้จองตั๋วเครื่องบินไปยังประเทศไทย   เขาแพ็คกระเป๋าและออกเดินทางในสัปดาห์ต่อมา   ความรู้สึกบางอย่างทำให้หัวใจของฮยอกแจสั่นไหว   เขาไม่รู้ว่าตัวเองจะได้พบเจออะไรบ้าง   แต่ว่าความรู้สึกเหล่านั้นบอกกับฮยอกแจว่ามันเป็นเรื่องที่น่ายินดีอย่างแน่นอน

     

                มือเรียวถือตั๋วเครื่องบินขึ้นมาดูเพื่อให้แน่ใจอีกครั้ง   วันนี้ที่สนามบินอินชอนดูคึกคักมากกว่าปกติ   อาจจะเป็นเพราะมีทัวร์จากต่างชาติมาลงก็เป็นได้   ฮยอกแจไม่ได้สนใจอะไรมากนัก   เขาลากกระเป๋าเดินทางไปนั่งที่เก้าอี้ตัวหนึ่ง   แล้วความโกลาหลก็เกิดขึ้นอย่างไม่ทันตั้งตัว

     

                คิบอมโอปป้า~”

     

                กรี๊ด~ วอนเฮ ฉันรักพวกคุณ

     

                ผิวขาวดั่งน้ำนมคิม ฮีชอล ฉันรักคุณคิม ฮีชอล

     

                ฮยอกหันไปตามเสียงเหล่านั้น   ไฟแฟลชจากกล้องถ่ายรูปส่องแสงเป็นประกาย   แล้วผู้ชายทั้งห้าคนก็ปรากฏสู่สายตาของเขา   ราวกับมีแสงสว่างฉายออกมาจากด้านหลังของคนเหล่านั้น   วง UNDEAD ดูดีมากจริงๆ และเขากำลังจะเดินมาทางฮยอกแจเสียด้วย

     

                คยูฮยอนโอปป้า~   อย่าลืมทวิตมาหาพวกเรานะคะ

     

                ฮยอกแจก้มหน้างุด   เขาได้ยินเสียงแฟนคลับคนหนึ่งตะโกนขึ้นใกล้ๆ หู   เธอคงหมายถึงข้อความจากทวิตเตอร์สินะ   ดูเหมือนว่าคยูฮยอนจะหันมาหาเธอและโบกมือให้   ฮยอกแจรีบยกกระเป๋าสะพายใบเล็กขึ้นมาปิดบังหน้าตาของตัวเองไว้   ก่อนจะค่อยๆ เลื่อนลงอย่างเชื่องช้า

     

                ...เพราะรู้ตัวดีว่าตัวเองไม่ได้สำคัญมากขนขนาดที่ว่าวง UNDEAD จะต้องหันมามอง   ฮยอกแจเป็นเพียงแฟนเพลงที่ชื่นชอบผลงานของวง UNDEAD เท่านั้น   เหมือนแฟนคลับทั่วไปที่วง UNDEAD คงจะจดจำไม่ได้

     

                ถึงเวลาที่จะขึ้นเครื่องแล้ว   ฮยอกแจมองดูนาฬิกาข้อมือของตัวเองอีกครั้ง   อีกแค่สี่ชั่วโมงเท่านั้นเขาก็จะได้ยืนอยู่ในที่ที่ไม่มีคนรู้จัก   ชีวิตของเขาจะเป็นอิสระแล้ว   ถึงเวลาแล้วที่อี ฮยอกแจที่เคยจมติดอยู่กับความเศร้ากำลังจะโบยบินสู่ท้องฟ้าได้สักที

               

    +=+=+=+=+=+=+=+=+=+=+=+=+

     

                พอขึ้นไปนั่งประจำที่ของตัวเองได้เท่านั้น   ฮยอกแจก็เตรียมตัวนอนในทันที   ถึงแม้ว่านี่เป็นครั้งแรกที่เขาจะได้เดินทางออกนอกประเทศ   แต่ฮยอกแจก็สามารถซ่อนความตื่นเต้นไม่ให้คนอื่นเห็น   หากแต่เสียงซุบซิบที่ดังอยู่ข้างหูก็ทำให้ฮยอกแจต้องลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง

     

                มุมนี้ไม่ค่อยเห็นเลยอ่ะ   นายช่วยยกแขนมาบังหน่อยสิ

     

                อืมๆ   โอเคยังอ่ะ   ถ้าเอารูปพวกนี้ไปขายคงได้เงินเยอะเลยว่าไหม

     

                ฮยอกแจมองตามสายตาของผู้ชายสองคนที่นั่งถัดจากเขาไปยังที่นั่งด้านหลัง แล้วร่างบางก็ต้องตกใจเมื่อบุคคลที่ถูกกล่าวถึงนั้นคือคนที่เขารู้จักเป็นอย่างดี   มือบางถูกยกขึ้นมากุมหน้าอก   แล้วอาการหายใจติดขัดก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว

     

                คุณ...เป็นอะไรหรือเปล่า

     

                หนึ่งในสองคนนั้นเอ่ยถามขึ้น   ฮยอกแจส่ายหน้ารัวแทนคำตอบ   ก่อนจะจมอยู่ในความคิดของตัวเอง   บังเอิญเหลือเกินที่เขาได้นั่งเครื่องบินไฟลท์เดียวกับวง UNDEAD   ทั้งๆ ที่มีแฟนคลับมากมายต้องการจะจองที่นั่งเพื่อไปประเทศไทยกับวง UNDEAD แต่เขาที่ไม่ต้องดิ้นรนอะไรเลยกลับได้รับโอกาสเช่นนั้น

     

                ...ว่าแต่วง UNDEAD จะไปประเทศไทยอย่างนั้นเหรอ   คงถึงเวลาทัวร์คอนเสิร์ตแล้วสินะ

     

                เฮ้อ~   พวก UNDEAD มันมีดีตรงไหน   ร้องเพลงแบบนั้นคนที่โบสถ์ก็ร้องได้   เล่นดนตรีก็ยังเทียบชั้นวงร็อคเก่งๆ ในเกาหลีไม่ได้เลยด้วยซ้ำ

     

                ชายผมสีทองพูดถึงวง UNDEAD ในขณะที่มือของเขาก็แอบกดชัตเตอร์อยู่ตลอดเวลา   แล้วอีกคนก็พูดผสมโรงอย่างเป็นปี่เป็นขลุ่ย

     

                ไอ้คิบอมมือเบสอะไรนั่นน่ะ   ฉันได้ข่าวมาว่ามันเป็นตัวปัญหาของวงด้วยนะ   จะโดนไล่ออกหลายครั้งแล้ว   แต่ว่าแฟนคลับหน้าโง่ก็ยังปกป้องเอาไว้

     

                นั่นสิ   พวกนี้มีดีก็แค่เป้าตุงเท่านั้นแหละ   ทำศัลยกรรมให้หล่อแล้วออกอัลบั้มแบบนั้น   พวกเราก็ทำได้เหมือนกัน

     

                พวกนาย!!”

     

                ฮยอกแจตะโกนขึ้นอย่างโมโห   สายตาหลายคู่ต่างพากันจ้องมาที่เขารวมทั้งทุกคนในวง UNDEAD อีกด้วย   โดยเฉพาะคิบอมที่นั่งอยู่คนเดียวก็มองคนตัวเล็กจนตาแทบจะถลนออกมานอกเบ้าอยู่รอมร่อ

     

                พวกนายเคยร้องเพลงที่โบสถ์หรือเปล่า

     

                ทำไมเราจะต้องทำอะไรแบบนั้นด้วย   ไอ้นี่แปลกๆ แล้วว่ะ

     

                คนที่ไม่ได้ทำผมสีทองมองฮยอกแจด้วยสายตาเย้ยหยัน   ตั้งแต่ที่ฮยอกแจเอามือทาบหน้าอกเมื่อครู่ไปจนถึงการที่ฮยอกแจเรียกพวกเขาด้วยน้ำเสียงที่ไร้มารยาท   ก่อนจะหันไปยักไหล่ให้กัน   ไม่ใส่ใจฮยอกแจที่กำลังหอบหายใจอย่างทนไม่ไหว

     

                ขยะสังคม!!”

     

                ว่าไงนะ

     

                รู้ไหม   คนที่ทำตัวแบบนี้ก็เป็นได้แค่ขยะสังคมเท่านั้น

     

                ฮยอกแจเม้มริมฝีปากแน่นเพื่อระงับความโกรธเอาไว้   คิบอมทำท่าจะยืนขึ้นมาตรงจุดเกิดเหตุ   แต่มือหนาของซีวอนก็ดันหน้าอกของคิบอมให้นั่งลงตามเดิม   เพราะพวกเขาจะต้องรักษาภาพลักษณ์ที่ดีเอาไว้   การระงับอารมณ์เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในขณะนี้   แม้ว่าภายในใจของทั้งห้าคนจะร้อนรุ่มแค่ไหน   พวกเขาก็ทำได้เพียงนั่งอยู่เฉยๆ เท่านั้น

     

                อย่าดูถูกคนที่ร้องเพลงในโบสถ์   และอย่ามองคนแค่ภายนอก   อาจจะจริงที่วง UNDEAD หน้าตาดี   แต่เขาไม่ได้มีแค่หน้าตาที่ดีเท่านั้น   ทั้งความสามารถของเขา   จิตใจของเขา   ทุกอย่างที่ดีรวมอยู่ในนั้น

     

                หึ   พวกนั้นเป็นพ่อนายหรือไง   ทำไมจะต้องปกป้องขนาดนั้น

     

                ชายที่ทำผมสีทองผลักหน้าอกของฮยอกแจอย่างแรง   ด้วยความที่ตัวเล็กกว่า   ฮยอกแจจึงเซถลาไปด้านหลัง   แต่เพียงไม่นานคนตัวเล็กก็ยืนตรงได้ดังเดิม

     

                “UNDEAD เป็นเพื่อนของฉัน   แค่นี้พอหรือยังที่ฉันจะปกป้อง   อ้อ!!   ที่พวกนายด่าเขาเพราะว่าอิจฉาล่ะสิ   คนที่สู้คนอื่นไม่ได้ก็มักจะทำแบบนี้แหละ

     

                ฉันเนี่ยนะอิจฉา   นายนี่มัน!!”

     

                หนึ่งในสองคนนั้นชี้มือเข้าหาตัวเอง   ก่อนจะทนไม่ไหวจนต้องง้างมือขึ้นทำท่าจะตบฮยอกแจ   แต่แทนที่ฮยอกแจจะหลบ   ดวงตากลมโตกลับจ้องมองไปที่ชายสองคนนั้นอย่างโกรธแค้น   ฮยอกแจกล้าที่จะเผชิญหน้าอย่างไม่กลัวอันตรายใดๆ เพื่อปกป้องชื่อเสียงของวง UNDEAD   เขาทำตัวเหมือนกลีบดอกไม้ของวง UNDEAD อย่างไรอย่างนั้น

     

                ขอโทษนะครับ   ถ้าไม่พอใจพวกผมตรงไหนก็พูดออกมาตรงๆ เลยก็ได้   ผมยินดีรับฟัง

     

                พ...พี่ฮีชอล

     

                ฮยอกแจเรียกหัวหน้าวงอย่างตะกุกตะกัก   ฮีชอลเดินมาระหว่างที่นั่งของฮยอกแจกับผู้ชายสองคนนั้นอย่างเงียบๆ   เขาพูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยแต่ดวงตาของเขากลับจิกกัดผู้ชายสองคนนั้นได้เป็นอย่างดี

     

                ช่างเหมาะสมกันดีจริงๆ   แฟนคลับผู้โง่เง่ากับวง UNDEAD ปัญญาอ่อน

     

                ถ้าคุณคิดว่าพวกเราปัญญาอ่อน   ได้โปรดอย่ามาหากินกับชื่อเสียงของพวกเราเลยครับ

     

                ฮีชอลฉวยกล้องถ่ายรูปจากมือของชายคนนั้นมาอย่างรวดเร็ว   เขาถอดเมมโมรี่การ์ดออกแล้วหย่อนมันลงในกระเป๋าเสื้อโค้ทของตัวเอง   ก่อนจะดึงข้อมือของฮยอกแจเดินไปยังที่นั่งด้านหลัง   แล้วดันแผ่นหลังของฮยอกแจให้นั่งลงยังที่นั่งข้างๆ กับคิบอม

     

                เอ่อ...ผม...

     

                รังเกียจฉันหรือไง

     

                คิบอมพูดทั้งๆ ที่ไม่มองหน้าฮยอกแจด้วยซ้ำ   ฮยอกแจจึงกระแทกตัวนั่งลงข้างๆ กับร่างสูง   เขามองคิบอมที่ค่อยๆ หลับตาลงไปอย่างงุนงง   ฮยอกแจรู้มาว่าคิบอมชอบที่จะนั่งเครื่องบินหรือรถบัสคนเดียว   แต่วันนี้กลับยอมให้เขานั่งข้างๆ อย่างง่ายดาย   แถมคำพูดเมื่อครู่ก็เอ่ยออกมาอย่างท้าทายเขาอีกด้วย   ฮยอกแจหันไปมองด้านข้างของตัวเอง   คยูฮยอน   ซีวอน   และทงเฮมองเขาพร้อมกับส่งสายตาคาดโทษกับความผิดเมื่อครู่   แต่พี่ฮีชอลทำปากบอกว่า ไม่เป็นไร   นั่นจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ฮยอกแจรู้สึกสบายใจมากขึ้น   ก่อนจะผล็อยหลับลงไปอย่างรวดเร็ว

     

    +=+=+=+=+=+=+=+=+=+=+=+=+

     

                สี่ชั่วโมงต่อมา   เครื่องบินที่พวกเขาขึ้นมาจากสนามบินนานาชาติอินชอนของประเทศเกาหลีก็ร่อนลงสู่พื้นดินที่สนามบินสุวรรณภูมิของประเทศไทย   วง UNDEAD ต้องออกทางออกพิเศษที่สนามบินจัดเตรียมไว้ให้เนื่องจากมีแฟนคลับมากมายมารอรับพวกเขาและอาจจะทำให้สนามบินเกิดความวุ่นวายได้   ส่วนฮยอกแจที่เป็นเพียงคนธรรมดาก็คงต้องเดินออกทางปกติ   ทว่า...

     

                อะไรของนายเนี่ย?

     

                ยังไม่ทันที่จะเดินไปไหน   คิบอมก็คล้องแขนของฮยอกแจเอาไว้   คนตัวเล็กหันไปถามอย่างตกใจ   แต่คิบอมก็ตอบกลับมาหน้าตายเช่นกัน

     

                ไปกับฉันเถอะ   ขอแค่วันเดียวเท่านั้น

     

                ฮยอกแจเอียงคอถาม   แต่ไม่ทันที่จะได้ตอบอะไรก็ถูกลากไปยังทางออกพิเศษร่วมกับวง UNDEAD เสียแล้ว

     

                ปล่อยนะคิบอม   ปล่อยฉัน

     

                แค่วันเดียวน่า   ฉันปล่อยนายไปแน่   ขอแค่ครั้งนี้เท่านั้น...นะฮยอกแจ

     

                ฮยอกแจเหลือบไปมองสมาชิกคนอื่นที่ยืนอยู่ด้านหลัง   แม้ว่าเขาจะพยายามรักษาระยะห่างของตัวเองกับศิลปินชื่อดังเหล่านี้   ฮยอกแจก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าพวกเขาสนิทสนมและคุ้นเคยกันมากเช่นไร   ทงเฮยิ้มกว้างให้กับฮยอกแจ   ในขณะที่ซีวอนชูกำปั้นขึ้นสูงเพื่อให้กำลังใจ

     

                ไปเถอะพี่ฮยอกแจ   ก่อนที่คิบอมจะเป็นบ้าไปมากกว่านี้

     

                โชคดีนะฮยอกแจ   พวกเรามาไทยหลายครั้งแล้ว   คิบอมไม่พานายหลงหรอก

     

                คยูฮยอนและฮีชอลพูดจาเข้ากันได้เป็นอย่างดี   ฮยอกแจหน้าบึ้งตึง   กระเป๋าเดินทางของคิบอมและของเขาถูกส่งไปด้านหลัง   เหลือเพียงกระเป๋าถือใบเล็กที่มีเงินอยู่ในนั้น   และมืออีกข้างหนึ่งก็ถูกคิบอมบีบไว้แน่นราวกับกลัวว่าเขาจะหายตัวไปไหนอีก

     

                คิบอมพาฮยอกแจเดินหลบไปขึ้นแท็กซี่โดยมีความช่วยเหลือจากบอดี้การ์ดที่บริษัทจ้างมา   พวกเขาเข้าไปอยู่ในแท็กซี่อย่างปลอดภัย

     

                ไปสวนรถไฟครับ

     

                ฮยอกแจย่นคิ้วอย่างแปลกใจ   สวนรถไฟมีอะไรดีอย่างนั้นเหรอ   นี่เป็นครั้งแรกที่เดินทางมายังต่างประเทศ   เขาจึงไม่เข้าใจอะไรหลายๆ อย่าง   ร่างบางมองแสงแดดที่อยู่นอกตัวรถ   มันช่างร้อนแรงเสียจนเขาต้องรีบถอดเสื้อคลุมที่ใส่มาจากเกาหลีออกอย่างรวดเร็ว

     

                บ้าจริง   ทำไมฉันต้องมากับนายด้วยนะ

     

                เดท

     

                เดท?   เอ่อ...

     

                ฮยอกแจทวนคำ   เขาทำท่าจะบอกคนขับรถให้จอดเดี๋ยวนี้   หากแต่ภาษาอังกฤษที่ไม่กระดิกหูของตัวเองก็ทำให้ฮยอกแจได้แต่นั่งถอนหายใจอย่างเงียบๆ อีกครั้ง   คิบอมที่อารมณ์ดีที่ได้เจอเรื่องเซอร์ไพรส์แบบนี้เอาแต่นั่งยิ้มโดยไม่สนใจอารมณ์ของคนข้างๆ เขาเลยแม้แต่นิด

     

                คิดว่าเป็นเดทของศิลปินกับแฟนคลับสิ   นายจะได้ไม่อึดอัด

     

                แต่ฉันอึดอัด

     

                เหรอ?   ฉันไม่เห็นจะอึดอัดเลย

     

                ดูเหมือนคิบอมจะพยายามยั่วโมโหฮยอกแจอยู่   ร่างบางได้แต่ถอนมือออกมาจากการเกาะกุม   แต่คิบอมกลับกำมือเขาแน่นขึ้นไปอีกจนฮยอกแจร้องเสียงหลง

     

                โอ๊ย!!”

     

                เสียงร้องที่แสดงความเจ็บปวดทำให้คิบอมคลายมืออย่างรวดเร็ว   ฮยอกแจได้ทีก็เอามือของตัวเองกลับมาวางไว้บนตัก   ก่อนจะยิ้มกริ่มอย่างผู้ชนะ   แทนที่คิบอมจะรู้สึกโกรธ   เขากลับยิ้มตามความเจ้าเล่ห์ของฮยอกแจไปด้วย

     

                อารมณ์ดีขึ้นแล้วสินะ

     

                ไม่สักหน่อย

     

                ฮยอกแจเถียงกลับในทันทีราวกับว่าเตรียมประโยคเหล่านี้ไว้แล้ว

     

    ก็เห็นอยู่ว่านายอารมณ์ดี

               

    ฉันเปล่า

     

                ไม่อารมณ์ดีก็อย่ายิ้มสิ

     

                คำพูดของคิบอมทำให้ฮยอกแจยิ่งหุบยิ้มไม่ได้   พวกเขาทั้งคู่เถียงกันไปตลอดทางจนถึงสวนรถไฟ   และดูเหมือนว่าความอึดอัดจะค่อยๆ พังทลายลงไปแล้ว   ฮยอกแจรู้สึกสบายใจมากขึ้นเมื่อเขามากับคิบอม   อย่างน้อยก็มั่นใจได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ว่าตัวเองจะไม่หลงทางในกรุงเทพฯ อย่างแน่นอน

     

                เมื่อถึงสวนรถไฟ   คิบอมก็จ่ายค่าแท็กซี่ด้วยเงินบาทที่ผู้จัดการคนใหม่เตรียมไว้ให้ตั้งแต่ลงจากเครื่อง   เขากุมมือฮยอกแจอีกครั้ง   แต่คราวนี้ฮยอกแจกลับไม่ได้แสดงท่าทางขัดขืน   ร่างเล็กเพียงแค่พูดเสียงอ่อยอย่างขอร้องเท่านั้น

     

                คิบอม   มันจะดีเหรอถ้าเราจับมือกันในที่แบบนี้

     

                ไม่มีคนรู้จักเรา   จะอายไปทำไม

     

                คำพูดของคิบอมทำให้ฮยอกแจเหล่ตามองเจ้าของแก้มป่องๆ ตรงหน้า   มีอีกหลายอย่างเลยที่เดียวที่ฮยอกแจจะต้องเรียนรู้เกี่ยวกับผู้ชายคนนี้

     

                ไปกันเถอะ

     

                คิบอมชวนง่ายๆ และจูงมือคนตัวเล็กให้เดินไปข้างหน้า   ฮยอกแจที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรจึงตอบตกลงอย่างไม่ทันได้คิด

     

                อื้อ  ไปสิ

     

                ไปด้วยกัน   จริงๆ นะ

     

                คำพูดที่จู่โจมของคิบอมทำให้เขาสะดุ้งเฮือก   คงมีเรื่องนี้เรื่องเดียวเท่านั้นที่ฮยอกแจรู้จักคิบอมเป็นอย่างดี   คิบอมชอบทำอะไรที่น่าตกใจอยู่เรื่อยเลย   ดวงตากลมโตของฮยอกแจหลบสายตาคมของคิบอมอย่างไม่รู้ตัว   คิบอมจึงรวบมือทั้งสองข้างของฮยอกแจมากุมไว้

     

                ให้ฉันดูแลนายเถอะนะฮยอกแจ   ฉันสัญญาว่า...

     

                นายคิดว่าฉันเป็นคนง่ายขนาดนั้นเหรอคิม คิบอม

     

                ฮยอกแจตอกกลับอย่างรวดเร็ว   ถ้านับตอนที่อยู่ที่บ้านของเขาและหลังจากวันที่ขึ้นแสดงครั้งสุดท้าย   นี่ก็จะเป็นครั้งที่สามแล้วที่ฮยอกแจจะปฏิเสธคิบอม

     

                ฉันไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น   แต่คยูฮยอนบอกว่านายเองก็รักฉัน

     

                แล้วนายก็เชื่อคยูฮยอนอ่ะนะ คยูฮยอนเจ้าเล่ห์แล้วก็ขี้โกหกด้วย   นายไม่รู้หรือไง

     

                ไม่ใช่แค่คยูฮยอนหรอกที่บอก หัวใจของฉันก็บอกแบบนั้นเหมือนกัน นาย...รักฉัน...ใช่ไหม

     

                คิบอมเริ่มไม่มั่นใจแล้วว่าเขาจะทำสำเร็จหรือไม่ ถ้าหากวันนี้    ฮยอกแจยังคงปฏิเสธเขาอีก การแสดงคอนเสิร์ตที่ประเทศไทยจะต้องออกมาแย่แน่ๆ   เขาคงไม่มีจิตใจที่จะยิ้มบนเวทีอีกแล้ว

     

                อืม   ฉันรักนาย

     

                ราวกับถูกมนต์สะกดจากฮยอกแจ   คิบอมไม่สามารถหันไปมองทางอื่นได้เลยนอกจากใบหน้าขาวใสตรงหน้า   แต่ทันทีที่ฮยอกแจพูดจบ   เขาก็ชักมือออกจากการเกาะกุมทันที

     

                แต่ฉันไม่ชอบให้ใครมาดูแล   ฉันคิดว่าฉันโตพอที่จะดูแลตัวเองได้   แล้วก็...

     

                พอเถอะ   ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว

     

                คิบอมหน้าถอดสีลงไปในทันที แม้ว่าอากาศที่เมืองไทยจะร้อนเกือบสี่สิบองศาเซลเซียส แต่หน้าของเขากลับไม่มีเลือดฝาดเลยแม้แต่นิดเดียว   คิบอมค่อยๆ ถอยหลังออกมาจากฮยอกแจ   เขาหมุนตัวและทำท่าจะเดินออกไป

     

                ...แต่ทันใดนั้น   ร่างของคิบอมก็ถูกสวมกอดจากทางด้านหลัง

     

                มันไม่ใช่การกอดที่สอดมือเข้ามารั้งตรงเอวเอาไว้   แต่เป็นการกอดที่รวบไปทั้งตัวจนคิบอมต้องยืนตัวลีบอย่างเกร็งๆ

     

                นายอ่อนแอกว่าฉันอีกนะคิบอม   แล้วนายจะดูแลฉันได้ยังไง

     

                หมายความว่ายังไงกันแน่

     

                คิบอมพูดด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ   น้ำตาของเขาไหลออกมาอย่างง่ายดายเมื่อรู้ว่าฮยอกแจและสมาชิกในวงร่วมกันวางแผนนี้ไว้ไม่ให้เขารู้ตัว   ไกลออกไปเกือบยี่สิบเมตร   สมาชิกวง UNDEAD ทั้งสี่คนเดินมาราวกับแทพบุตรที่ร่วงหล่นลงมาจากท้องฟ้า   คิบอมปล่อยให้น้ำตาไหลออกมาเป็นสาย

     

                ฉันจะดูแลวง UNDEAD และดูแลนายให้ดีที่สุด

     

                นายแกล้งฉันเหรอ   ทุกคนก็รู้เรื่องนี้อย่างนั้นเหรอ

     

                ฮยอกแจไม่ได้ตอบ   เขาทำเพียงแค่ยิ้มแล้วเกยคางลงบนไหล่ของคิบอม   และสมองอันชาญฉลาดของคิบอมก็คิดได้ว่าทั้งหมดที่เกิดขึ้นคือแผนการของฮยอกแจ   ทั้งเรื่องที่เขาพาฮยอกแจมาที่นี่   การที่ฮยอกแจมาประเทศไทยด้วยไฟลท์บินเดียวกับเขา   และการที่ฮยอกแจต่อเถียงกับผู้ชายสองคนนั้น   ทั้งหมดเป็นฝีมือของทุกๆ คนโดยที่เขาไม่รู้เลย

     

                คิบอม   อย่าร้องไห้สิ   ฉันรักนายนะ

     

                ฮยอกแจบอกเบา   เขาเดินอ้อมมาหาคิบอมที่ดีใจจนตัวแข็งทื่อ   ก่อนจะใช้นิ้วเรียวเช็ดน้ำตาให้อีกฝ่ายแล้วหอมที่แก้มป่องๆ อย่างคิดถึง

     

                คราวนี้ฉันจะไม่หนีไปไหนแล้ว   สัญญา

     

    +=+=+=+=+=+=+=+=+=+=+=+=+

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×