คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #23 : The Flying Arrows - 23 -
แสงแดดจ้าค่อยๆ จางหายไปพร้อมๆ กับลมเย็นพัดผ่านเข้ามา อีกไม่นานพระอาทิตย์ก็จะลับฟ้าแล้ว สมาชิกในวง UNDEAD ต่างขะมักเขม้นกับการทำอาหารอย่างไม่น่าเชื่อ ทั้งผักและเนื้อต่างๆ ที่ทีมงานเตรียมให้ถูกวางไว้เพื่อนำไปทำเป็นอาหารมื้อเย็นของวันนี้ ฮยอกแจกำลังนั่งจ้องหม้อน้ำขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่บนเตาไฟ ในขณะที่ทงเฮที่นั่งอยู่ด้านตรงข้ามกลับใช้กระดาษแข็งพัดควันมาทางเขา
“แค่กๆ ทงเฮ...ฉันแสบตา...แค่ก”
ฮยอกแจไอเป็นว่าเล่น คนน่ารักหลับตาปี๋พลางลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว ทว่าตัวการที่นั่งอยู่อีกฝั่งกลับหัวเราะอย่างชอบใจที่สามารถแกล้งเพื่อนได้
“ก็ไฟมันไม่แรงนี่นา ดูสิ!! ต้มน้ำตั้งนานแล้วแต่ยังไม่เดือดเลย”
“นายก็พัดควันไปทางอื่นสิ แค่กๆ โอ๊ย...ฉันลืมตาไม่ได้แล้วนะทงเฮ”
ฮยอกแจกระโดดโหยงเหยงไปมา เขาไม่สามารถลืมตาขึ้นมาได้เลย แม้ว่าจะวิ่งอ้อมไปตีทงเฮเพื่อแก้แค้นก็ยังทำไม่ได้ คนตัวเล็กโบกมือเพื่อเรียกให้คนอื่นช่วย ในขณะที่ทงเฮเอาแต่หัวเราะชอบใจ แถมยังพัดควันไฟเข้าหาฮยอกแจไม่ยั้ง
ฮยอกแจย่ำเท้าอย่างขัดใจ เขาไม่รู้ว่าตัวเองจะหนีไปทางไหนดีจึงได้แต่เดินถอยหลังเรื่อยๆ โดยไม่รู้เลยว่าด้านหลังเป็นกองผักที่ชาวบ้านนำมาให้ โชคดีที่ใครบางคนคว้าข้อมือบางเอาไว้ได้ทัน
“อ๊ะ!!”
ทงเฮอ้าปากค้างกับภาพที่เห็นตรงหน้า ฮยอกแจที่เกือบจะหงายหลังล้มลงไปกับพื้นอยู่แล้วกลับตกอยู่ในอ้อมแขนของซีวอนราวกับเจ้าหญิงและเจ้าชาย ถ้าฮยอกแจไม่ได้เป็นผู้ชายแท้ๆ ทงเฮคงคิดไปไกลแล้วว่านี่เป็นการพบกันครั้งแรกของพระเอกและนางเอกที่สุดแสนจะโรแมนติก
“ข...ขอบใจนะซีวอน”
ฮยอกแจเอ่ยขอบคุณจะตั้งตัวยืนด้วยตัวเอง ร่างบางไม่ลืมที่จะหันไปทำตาเขียวใส่เพื่อน ทว่าทงเฮกลับนั่งอ้าปากค้างกับเหตุการณ์เมื่อครู่จนเขาลืมพัดไฟในเตา ควันไฟทั้งหมดจึงค่อยๆ ลอยตามลมไปเข้าตาเขาบ้าง
“โอ๊ย!! ฮยอกแจ...นายแกล้งฉันเหรอ...แค่กๆ ฮยอกแจ!!”
ทงเฮโวยวายเสียงดังลั่น กรรมตามสนองคนตัวเล็กแล้ว กลับกลายเป็นฮยอกแจที่ได้หัวเราะเยาะเพื่อนเสียเอง นานแค่ไหนแล้วที่เขาไม่ได้หัวเราะอย่างมีความสุขเช่นนี้ ซีวอนยังคงยืนนิ่งไม่ได้สนใจท่าทางของเขาสักนิด ร่างสูงมองไปยังคนตัวเล็กที่กระโดดโลดเต้นข้างเตาไฟเท่านั้น
“ทงเฮ ฉันขอคุยด้วยหน่อยสิ”
สิ้นเสียงคำพูดของสุภาพบุรุษซีวอน สองคนนั้นก็หายตัวไปทางด้านหลังของบ้าน ฮยอกแจจึงนั่งหงอยอยู่คนเดียว เขาเพิ่งสังเกตได้ว่าทงเฮกลับมาร่าเริงเหมือนเดิมแล้วหลังจากวันที่ถูกพี่ฮีชอลดุเรื่องคอมพิวเตอร์ เกิดมามีนิสัยอย่างอี ทงเฮก็ดีเหมือนกัน โกรธง่ายหายเร็ว ไม่เหมือนกับเขาที่ต้องเก็บซ่อนความแค้นมานานหลายปีด้วยความทุกข์ทรมาน
เมื่อน้ำเดือดแล้ว ฮยอกแจก็ค่อยๆ ใส่เนื้อหมูสามชั้นอย่างดีลงไป เขาใช้ตะหลิวคนเพื่อให้เนื้อแยกออกจากกันก่อนจะปิดฝาแล้วนั่งรออีกสักพัก
“เอาหมูลงหม้อแล้วเหรอฮยอกแจ”
“ครับ”
ฮีชอลที่ถือมีดและเขียงออกมาจากในบ้านเอ่ยถามขึ้น ฮยอกแจขยับตัวให้หัวหน้าวงนั่งข้างๆ เขาก่อนจะเหม่อมองออกไป คนตัวเล็กคงลืมความเกลียดชังฮีชอลที่มีก่อนหน้านี้ไปแล้ว คิม ฮีชอลที่เขารู้จักในวันนี้เป็นเพียงรุ่นพี่ปากร้ายใจดีเท่านั้น ไม่มีพิษภัยอย่างที่อึนฮยอกเคยเข้าใจเลย
“พี่ฮีชอลเอามีดกับเขียงมาทำไมเหรอครับ”
“ก็จะเอามาหั่นผักน่ะสิ ฉันน่ะเป็นแชมป์หั่นผักมาก่อนนะรู้ไหม เพียงแค่ห้านาทีเท่านั้น ผักทั้งหมดนี่ก็จะแยกเป็นชิ้นๆ อย่างสวยงาม”
ฮีชอลใช้มีดที่อยู่ในมือของเขาชี้ไปที่กองผักที่ฮยอกแจเกือบจะเหยียบในตอนแรก ฮยอกแจได้แต่หัวเราะเบาๆ ให้กับความขี้โม้ของหัวหน้าวงคนนี้ ฮีชอลเหมือนคุณลุงใจดีที่พยายามสร้างเสียงหัวเราะให้กับทุกๆ คนเท่านั้น
“อ๊ะ!! ทำไมมีดเล่มนี้มันหั่นไม่ขาดเลยนะ ฮยอกแจ...วานไปหยิบมีดในครัวมาให้พี่หน่อยสิ”
“ครับ”
ฮยอกแจรีบวิ่งเข้าไปในครัวเพื่อหยิบมีดมาให้ฮีชอล แม้เขาจะแปลกใจในสายตาของฮีชอลที่แสดงท่าทีพิรุธอยู่ไม่น้อย แต่ก็พยายามคิดว่าฮีชอลคงไม่ได้คิดจะทำอะไรไม่ดี ทว่าเสียงแหลมก็ยังตะโกนไล่หลังเขามาจนได้
“เลือกมีดที่คมๆ หน่อยนะฮยอกแจ ไม่ต้องรีบ!!”
ฮยอกแจขมวดคิ้วอย่างแปลกใจ ฮีชอลต้องมีความลับอะไรบางอย่างซ่อนอยู่แน่ๆ เขาชะโงกหน้าไปมองด้านนอกแต่ก็พบว่ากล้องกำลังจับภาพไปที่ฮีชอลอยู่ คงจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นหรอก ร่างบางได้แต่คิดปลอบใจตัวเองแบบนั้น แต่ในขณะที่เลือกมีดเล่มใหม่อยู่นั้น เขาก็ได้ยินเสียงพูดคุยของคนสองคนจากด้านหลังครัว
“นายก็รู้ว่าเรื่องหัวใจมันห้ามกันไม่ได้ ฉันชอบนายไปแล้วนะทงเฮ นายจะไม่เห็นใจฉันบ้างเลยเหรอ”
ฮยอกแจตัวแข็งทื่อ เสียงที่มีเอกลักษณ์แบบนี้ต้องเป็นเสียงของซีวอนแน่ๆ เขามั่นใจ มือบางกำมีดแน่น เขาไม่กล้าแม้แต่จะหายใจด้วยซ้ำ ซีวอนกำลังสารภาพรักกับทงเฮอยู่อย่างนั้นเหรอ ฮยอกแจไม่ได้หูฝาดไปใช่ไหม
“ทำไมจะไม่เห็นใจล่ะ ฉันกับนายรู้จักกันมาตั้งหลายปีแล้วนะ เราเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันมาโดยตลอด การที่นายเผยความรู้สึกแบบนี้มันทำให้ฉันคิดมากนะซีวอน”
“ถ้านายไม่อยากคิดมาก นายก็รับรักฉันสิ”
ฮยอกแจค่อยๆ ยื่นหน้าไปมองลอดช่องเล็กๆ ระหว่างหน้าต่าง ซีวอนจับไหล่ทั้งสองข้างของทงเฮไว้แน่น น้ำตาของทงเฮคลออยู่ที่ดวงตา ยากที่จะเดาความรู้สึกของทงเฮในเวลานี้เหลือเกิน ฮยอกแจเม้มปากแน่นเพื่อแอบดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทงเฮก้มหน้างุดเพื่อหลบสายตาของเพื่อนร่วมวง ก่อนจะเงยหน้าขึ้นช้าๆ แล้วเปล่งเสียงออกมาด้วยความยากเย็น
“ฉันรู้ว่านายรู้ แต่แกล้งทำเป็นไม่รู้”
“นายกำลังจะพูดอะไรทงเฮ หมายความว่ายังไง”
“ฉันขอโทษ แต่ฉันทรยศเขาไม่ได้”
ฮยอกแจกลืนน้ำลายอึกใหญ่ ทงเฮมีคนรักแล้วอย่างนั้นเหรอ แล้วใครกันที่เป็นคนรักของทงเฮ ดวงตากลมโตเบิกตากว้างก่อนจะปล่อยมีดหลุดมือไปกระทบกับหม้อที่วางคว่ำไว้อยู่
เสียงกระทบกันของโลหะทำให้ซีวอนและทงเฮผละออกจากกันในทันที ฮยอกแจเหงื่อแตกพลั่ก ร่างบางรีบคว้ามีดไว้แล้วออกไปข้างนอกอย่างรวดเร็ว
“ขอโทษที่มาช้าครับพี่ฮี...”
ภาพตรงหน้าทำให้ฮยอกแจต้องอึ้งอีกครั้งเมื่อฮีชอลกำลังเทผงเครื่องปรุงใส่ลงไปในหม้อ หัวหน้าวงมองซ้ายมองขวาอย่างระแวดระวัง แต่ฮยอกแจก็ยังออกมาเห็นจนได้ ขาเรียวเดินมาใกล้ๆ ฮีชอลก่อนจะกระซิบถาม
“ถ้าคยูฮยอนรู้เข้า พวกเราต้องโดนดุแน่ๆ”
“แต่ฉันเป็นหัวหน้าวงนะ เจ้าเด็กติดเกมแบบนั้นมันไม่กล้าว่าฉันหรอก”
“เหรอครับ?”
เสียงของคยูฮยอนทำให้ฮีชอลรีบเทผงเครื่องปรุงใส่ลงไปในหม้อจนหมดแล้วปิดฝาด้วยความรวดเร็ว คยูฮยอนย่างสามขุมเข้ามาทางเตาก่อนจะเปิดหม้อขึ้น กลิ่นหอมของเครื่องปรุงลอยมาเตะจมูกเขา แต่แทนที่จะรู้สึกดี น้องเล็กของวงกลับมองรุ่นพี่คนโตด้วยสายตาคาดโทษ
“พี่ฮีชอล นี่มันรายการเรียลลิตี้ของพวกเรานะ ไม่ใช่แฟมิลี่เอาท์ติ้ง”
“ก...ก็ฉันชอบรสชาติแบบนี้นี่นา”
ฮีชอลเถียงคอเป็นเอ็นก่อนจะรีบหั่นผักที่เหลือกลบเกลื่อน ฮยอกแจได้แต่กลั้นหัวเราะกับท่าทางเป็นเด็กของฮีชอล ท่าทางพิรุธเมื่อครู่ก็เป็นเพราะว่าพี่ฮีชอลเตรียมแผนอะไรบางอย่างไว้นี่เอง คนตัวเล็กนั่งลงข้างๆ ฮีชอลตามเดิมก่อนจะนึกไปถึงบทสนทนาที่เพิ่งได้ยินเมื่อครู่
“เป็นอะไรไปน่ะฮยอกแจ เหงื่อแตกพลั่กเชียว”
“เปล่าครับ แล้ว...เอ่อ...พี่จองซูไม่อยู่เหรอครับ”
ฮยอกแจถามไปเรื่อยเปื่อย ฮีชอลตอบออกมาว่าผู้จัดการปาร์คออกไปรับซองมินที่หน้าหมู่บ้านก่อนจะเปลี่ยนเรื่องไปคุยกับคยูฮยอน ซึ่งฮยอกแจก็ไม่ทันได้ฟังคำตอบเมื่อครู่เลยแม้แต่นิด สิ่งที่เขาสนใจคือซีวอนและทงเฮที่เดินออกมาจากหลังบ้านต่างหาก ร่างบางรีบหลบหน้าไปทางอื่นเพราะกลัวว่าสองคนนั้นจะจับได้ว่าเขาไปแอบได้ยินบทสนทนาเมื่อครู่นี้
“พี่ทงเฮ ร้องไห้มาเหรอ”
คยูฮยอนปรี่เข้าไปหาทงเฮอย่างเป็นห่วง ฮีชอลจึงมองตามไปบ้าง ซีวอนเห็นท่าทางเป็นห่วงเป็นใยของคยูฮยอนที่มีต่อทงเฮแบบนั้น เขาจึงหลบหายเข้าไปในบ้านพัก ฮยอกแจที่รู้สึกเหมือนกับตัวเองเป็นส่วนเกินจึงรีบจัดแจงทำอาหารตรงหน้าให้เสร็จเรียบร้อย
+=+=+=+=+=+=+=+=+=+=+=+=+
ผ่านไปสักพักใหญ่ ท้องฟ้าก็มืดมิดจนเกือบเป็นสีดำสนิท จองซูและซองมินก็เดินขึ้นมาตามเนินเขา เพียงแค่ศีรษะโผล่พ้นมาเท่านั้น ซีวอนก็รีบวิ่งออกไปช่วยซองมินถือกระเป๋าอย่างรวดเร็ว ถึงแม้ว่าซองมินจะเป็นเพียงสไตล์ลิสต์คนหนึ่งเท่านั้น แต่ทุกๆ คนกลับมองว่าซองมินเป็นหนึ่งในความสำเร็จของวง UNDEAD
“พี่ซองมินหิวน้ำไหมครับ เดี๋ยวผมไปเอามาให้”
ซีวอนเอ่ยถาม แต่กลับได้รับสายตาค้อนขวับจากผู้จัดการปาร์คอย่างทันทีทันใด เขาจึงรีบแก้ตัวก่อนที่ผู้จัดการวงจะโกรธเคืองไปมากกว่านี้
“เดี๋ยวผมจะไปเอาน้ำมาให้ทั้งพี่ซองมินกับพี่จองซูนะครับ”
ซีวอนบอกกับทั้งรุ่นพี่ทั้งสองคนอย่างชัดถ้อยชัดคำ ก่อนจะถือกระเป๋าเสื้อผ้าของซองมินเข้าไปเก็บในบ้าน ฮีชอลที่กลับมาจากการเข้าห้องน้ำมองผู้จัดการปาร์คและสไตล์ลิสต์อีอย่างไม่ค่อยพอใจเท่าใดนัก ก่อนจะเอ่ยขึ้น
“มาแล้วก็สร้างปัญหาเลยนะ แค่หาน้ำดื่มเอง มันยากนักหรือไง”
“เป็นบ้าอะไรของนายอีกฮีชอล ฉันปรับตามอารมณ์นายไม่ทันแล้วนะ”
จองซูเดินไปตรงหน้าหัวหน้าวงคนสวยก่อนจะฉุดข้อมือของฮีชอลยกขึ้น ฮีชอลได้แต่บิดข้อมือออกอย่างถือตัวเท่านั้น ฮยอกแจได้แต่มองการกระทำของทั้งสองด้วยความไม่เข้าใจ บางทีทั้งคู่ก็เหมือนคนรักกัน แต่บางทีก็ดูเหมือนคนที่เป็นศัตรูกันอย่างไรอย่างนั้น
“ใครขอร้องให้นายมาวิ่งตามอารมณ์ของฉันล่ะห๊ะ”
ฮีชอลบอกอย่างท้าทายก่อนจะเดินเลี่ยงออกมาจัดแจงโต๊ะอาหาร ฮยอกแจส่ายหน้าอย่างปลงๆ แต่เมื่อหันไปมองซองมินก็พบว่าสไตล์ลิสต์หน้าขาวนั่นกำลังพยักหน้าทักทายกับคยูฮยอนอยู่ เสียงลมหายใจของฮยอกแจจึงดังฟึดฟัดขึ้นอย่างไม่รู้ตัว
“พี่ซองมิน พี่จองซู น้ำเปล่าเย็นๆ มาแล้วครับ”
ซีวอนทำหน้าที่บริการอย่างอารมณ์ดี ต่างจากท่าทางที่เขาเห็นเมื่อตอนเย็นโดยสิ้นเชิง ฮยอกแจเข้าใจแล้วว่าการเป็นคนบันเทิงต้องสามารถเก็บกลั้นอารมณ์ส่วนตัวแบบนี้นี่เอง ต่อให้เจ็บปวดมากแค่ไหน แต่เมื่ออยู่หน้ากล้องก็ต้องฝืนยิ้มออกมาให้กว้างมากที่สุด
ในที่สุดคิบอมที่แอบไปงีบหลับอยู่นานหลายชั่วโมงก็เดินออกมาจากบ้านพักเป็นคนสุดท้าย ร่างสูงเดินออกมานั่งอยู่ที่เตาบาร์บีคิวอย่างสดชื่น แถมยังทำหน้าที่ย่างบาร์บีคิวเพื่อบริการทุกๆ คนอีกด้วย
“พี่ซองมินอย่ากินเยอะนะครับ เดี๋ยวจะอ้วนเหมือนพี่ฮีชอล”
คยูฮยอนเอ่ยแซวสไตล์ลิสต์ แต่แทนที่จะได้สายตาอาฆาตมาจากซองมิน หัวหน้าวงกลับหยิกเข้าที่แขนของน้องเล็กเต็มแรง
“โอ๊ย!! พี่ฮีชอลใจร้ายอ่า~”
คยูฮยอนมักจะแสดงตัวเป็นน้องเล็กที่น่าสงสารเสมอเมื่อถูกพี่ๆ แกล้งคืน แต่มันก็สร้างเสียงหัวเราะให้กับทุกคนได้ทุกครั้ง รวมไปถึงฮยอกแจที่อดจะส่งเสียงหัวเราะออกมาไม่ได้อีกด้วย ทางทีมงานบอกว่าในช่วงนี้จะถ่ายภาพและมีดนตรีประกอบ พวกเขาทุกคนจึงสามารถพูดอะไรออกมาก็ได้
“พี่ฮีชอล ผมน่ะข้องใจเรื่องของพี่กับพี่ยองอุนมานานแล้ว สรุป...ได้กันหรือยังอ่ะ”
ทงเฮแกล้งถาม แม้ท้ายๆ ประโยคจะป้องปากกระซิบ แต่ทุกๆ คนก็ได้ยินอยู่ดี ยองอุนเดินตีก้นของทงเฮเต็มแรง ก่อนจะป้อนบาร์บีคิวและน้ำซุปให้ฮีชอลเนื่องจากมือของฮีชอลไม่ว่าง เสียงแซวจึงดังขึ้นไม่ขาดสาย ทำให้หัวหน้าวงจอมโหดอายม้วนกันเลยทีเดียว
“คิบอมไม่หิวเหรอ ฉันไม่เห็นนายกินอะไรบ้างเลย”
ซองมินเอ่ยถาม ฮยอกแจมองตามเสมอไม่ว่าซองมินจะพูดหรือจะทำอะไร เท่าที่สังเกตดูแล้ว เขาไม่รู้สึกเลยสักนิดว่าคยูฮยอนกับซองมินกำลังคบหากันอยู่ แต่บางทีทั้งคู่อาจจะซ่อนความรู้สึกที่แท้จริงไว้ก็ได้ เพราะขนาดทงเฮที่ร่าเริงสดใสแบบนั้นยังมีมุมที่จริงจังได้เลย
“ฮยอกแจป้อนไก่ให้คิบอมหน่อยสิ คิบอมชอบกินนะ”
จู่ๆ ซีวอนก็เอ่ยแซวฮยอกแจขึ้นมา ทั้งๆ ที่เขาอยู่นอกวงแล้วแท้ๆ แต่ก็กลับโดนลูกหลงเข้าจนได้ ฮยอกแจหน้าเหวอก่อนจะรีบตอบกลับก่อนที่สถานการณ์มันจะแย่ไปกว่านี้
“ทำไมต้องให้ฉันเป็นคนป้อนด้วยล่ะ มืออีกข้างของคิบอมก็ยังใช้งานได้อยู่ไม่ใช่หรือไง”
“ฉันเห็นกลีบดอกไม้เริ่มจับคู่แล้วก็แต่งนิยายให้กับคู่ของพวกนายแล้ว ก็นึกว่าพวกนายจะเป็นกิ๊กกันจริงๆ ซะอีก”
“จะบ้าเหรอ?”
แม้จะตอบกลับไปแบบนั้น แต่ฮยอกแจกลับหน้าแดงซ่าน เขาใช้หลังมือแตะแก้มเนียนของตัวเองจนคนอื่นๆ พากันแซวเสียยกใหญ่ ยิ่งฮยอกแจคลุกคลีกับวง UNDEAD มากเท่าไร เขาก็ยิ่งลืมว่าตัวเองเข้ามาอยู่รวมกับคนพวกนี้เพื่ออะไรกันแน่
+=+=+=+=+=+=+=+=+=+=+=+=+
หลังจากที่ความสุขผ่านพ้นไปแล้ว ทุกๆ คนในวง UNDEAD ก็พากันหลับเป็นตาย หากแต่ฮยอกแจกลับข่มตาให้หลับลงไปไม่ได้เลย ร่างบางพลิกซ้ายพลิกขวาอยู่หลายครั้ง ก่อนจะตัดสินใจลุกออกมาเดินเล่นหน้าบ้าน แต่ก็ต้องแปลกใจเมื่อเห็นผู้จัดการวงนอนหงายดูดวงดาวบนท้องฟ้าอยู่คนเดียว
“ยุงไม่กัดหรอกเหรอครับพี่จองซู”
ฮยอกแจเอ่ยทัก จองซูหันมามองเขาเพียงเล็กน้อยแล้วคลี่ยิ้มให้ ร่างเล็กจึงถือวิสาสะเข้าไปนอนดูดวงดาวข้างๆ จองซูบ้าง
“ที่นี่มีดวงดาวเยอะกว่าโซลอีกนะครับ”
“ดวงดาว...ไม่ว่าจะอยู่ในที่สว่างหรือมืดมิดแค่ไหน มันก็ยังเป็นดาวอยู่วันยังค่ำ”
จองซูบอกกับฮยอกแจ แต่ฮยอกแจไม่แน่ใจว่าสิ่งที่เขาคิดนั้นเหมือนกับจองซูหรือเปล่า ร่างบางถอนหายใจอย่างเหนื่อยอ่อน พรุ่งนี้แล้วสินะที่เขาจะต้องจัดการกับเรื่องทั้งหมด พรุ่งนี้แล้วที่อึนฮยอกผู้โหดร้ายจะชี้ชะตาวง UNDEAD ว่าจะให้อยู่...หรือตาย
“วง UNDEAD ก็เหมือนกับดวงดาวพวกนี้ แม้ว่าเขาจะอยู่ในที่แบบนี้ แต่พวกเขาก็ยังเป็นดวงดาว พี่จองซูว่าไหมครับ”
ฮยอกแจพูดเสียงเรียบ เขามัวแต่มองขึ้นไปบนฟ้าโดยไม่ได้สังเกตว่าสีหน้าของผู้จัดการปาร์คเป็นอย่างไร
“อ๊ะนั่น!! ดาวตก...”
ฮยอกแจมองไปตามที่ผู้จัดการปาร์คบอก โชคดีที่เขายังทันมองเห็นดาวดวงนั้น ร่างบางอธิษฐานให้คนที่เขารักและคนที่รักเขามีแต่ความสุข ไม่ว่าพรุ่งนี้จะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม แต่ฮยอกแจก็หวังว่าทุกๆ คนจะรอดกลับไป
จู่ๆ ร่างบางก็นึกถึงเรื่องของซีวอนกับทงเฮเข้า เขามองเสี้ยวหน้าของจองซูและคิดว่าจะถามออกไปดีหรือเปล่า บางทีผู้จัดการอาจจะรู้ แต่ช่วยสองคนนั้นปิดบังความลับเอาไว้ ฮยอกแจสูดหายใจรับอากาศเข้าไปจนเต็มปอดก่อนจะเอ่ยขึ้น
“พี่จองซูครับ?”
“ฉันง่วงแล้วล่ะ ขอตัวเข้าไปนอนก่อนนะ”
จองซูลุกพรวดขึ้นอย่างรวดเร็ว เขาไม่สนใจในคำพูดของฮยอกแจสักนิด ไม่ว่าอย่างไรคนเราก็เกิดขึ้นมาบนโลกใบนี้แล้ว ชะตากรรมของแต่ละคนจะเป็นอย่างไรก็ขึ้นกับอยู่กับคนบนฟ้าลิขิตมาเท่านั้น
+=+=+=+=+=+=+=+=+=+=+=+=+
Talk with Lee Seen
หายไปนานโฮกกกกกกกกกกกก
กลับมาแล้วค่ะทุกคน อิอิ มีความสุขจังเลย
ตอนนี้เป็นตอนที่ยาวที่สุดตั้งแต่แต่งเรื่องนี้มาแล้ว ฮ่าๆๆๆ
ซีนหายป่วยแล้ว แล้วก็สอบเสร็จแล้วด้วย
โล่งใจจังเลย
ขอให้ทุกคนอ่านเรื่องนี้อย่างมีความสุขนะค้า...
ตอนหน้าจะมีความลับที่ทุกคนไม่คาดคิดมาก่อนถูกเปิดเผย
รับรองว่าไม่มีใครเดาถูกแน่ๆ
ความคิดเห็น