ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic SJ] Kiss the Rain [HaeEun, WonKyu]

    ลำดับตอนที่ #8 : Chapter 7

    • อัปเดตล่าสุด 5 พ.ย. 55


     

    Chapter 7

     

                หลังจากเรื่องราวในวันนั้นผ่านไป ทงเฮก็ไม่กล้าทิ้งให้ฮยอกแจอยู่คนเดียวอีก เหมือนว่าฮยอกแจจะรู้สึกผิดมากจนสารภาพความผิดกับสามีออกมาจนหมด ตอนนั้นทงเฮมองด้วยแววตาไร้ความหมาย ก่อนจะพยักหน้าแล้วบอกว่า... ไม่เป็นไร

                ในเมื่อเรื่องมันผ่านไปแล้ว จะให้เก็บมาคิดเล็กคิดน้อยก็ใช่เรื่อง

                ทงเฮแค่เตือนฮยอกแจว่าอย่าทำแบบนี้อีก เพราะเขาอาจจะไม่ให้อภัยอีกเป็นครั้งที่สอง

                ตั้งแต่วันนั้น ฮยอกแจก็ยังไม่ได้โทรศัพท์ไปหาซองมินอีกเลย ตอนนี้เขาควรจะห่างจากซองมินซักพัก และควรจะลองทำอะไรด้วยตัวเองดูบ้าง

                เช้าวันนี้...

                ฮยอกแจตื่นตอนใกล้ๆ หกโมงเช้าเหมือนเดิม แม้ว่าจะนอนคนละห้องกัน แต่ฮยอกแจก็ยังถือคติที่ว่า... ภรรยาที่ดี ต้องตื่นก่อนและนอนทีหลังสามี

                ร่างบางจับไม้กวาดและทำความสะอาดห้องรับแขกอย่างแข็งขัน เขายังไม่ได้อาบน้ำตอนเช้าเพราะตั้งใจว่าเมื่อทำความสะอาดเสร็จแล้วค่อยกลับไปอาบน้ำทีเดียว จึงสวมเพียงชุดนอนบางๆ ลายลูกเจี๊ยบสีเหลืองสดใสทั้งตัว

                ตอนหกโมงตรง ทงเฮเดินลงมาจากห้องนอนบ้าง ชายหนุ่มเดินมานั่งดื่มกาแฟอยู่ที่โซฟาแล้วมองฮยอกแจไปด้วย ฮยอกแจยังคงหันหลังให้จึงไม่รู้ว่าตัวเองถูกอีกฝ่ายจ้องมองอยู่นานมากแล้ว ทงเฮเอาแต่จ้องมองด้านหลังของคนตัวเล็กที่กวาดพื้นทุกซอกทุกมุมให้สะอาดเอี่ยมจนเขาลืมมองกาแฟที่อยู่ในมือของตัวเอง

                “โอ๊ย!

                ทงเฮร้องลั่นเมื่อเขาทำกาแฟหกเลอะเทอะกางเกงชุดนอนสีเข้มของตัวเองเต็มไปหมด

                “ทงเฮ เป็นอะไรน่ะ?”

    ฮยอกแจแทบจะทิ้งไม้กวาดไว้ตรงนั้นแล้วหยิบผ้าขี้ริ้วมาเช็ดระหว่างขาของทงเฮให้อย่างตกใจ ทงเฮอ้าปากค้างในขณะที่มือของฮยอกแจใช้ผ้าผืนเล็กซับคราบกาแฟใกล้ส่วนนั้นของเขาเข้าไปทุกที

                “ร้อนมากหรือเปล่า ทำไมถึงทำกาแฟหกได้ล่ะ?”

                ฮยอกแจเช็ดไปก็ถามไปอย่างเป็นห่วงโดยไม่ได้สนใจปฏิกิริยาของทงเฮเลยสักนิด ใบหน้าหวานเงยขึ้นมองทงเฮที่ถือถ้วยกาแฟชะงักค้าง ในตอนนั้นเองที่ฮยอกแจเพิ่งรู้ตัว มือบางชักกลับอย่างรวดเร็วแล้วใบหน้าหวานก็ขึ้นสีระเรื่อ

                “เอ่อ...”

                “เดี๋ยว...ฉันเช็ดเอง!” ทงเฮคว้าผ้าในมือของฮยอกแจมาทำความสะอาดกางเกงของตัวเอง ฮยอกแจดีดตัวลุกขึ้นยืนแล้วหันหลังซ่อนใบหน้าที่ไม่ยอมหยุดแดงเรื่อเสียที หลังมือบอบบางซับหน้าที่ร้อนผะผ่าวของตัวเอง ดูทีว่ามันจะไม่ลดอุณหภูมิลงไปได้ง่ายๆ เลย

                “งั้นฉันจะไปกวาดบ้านต่อแล้วกันนะ”

                พูดจบก็รีบรุดไปกวาดพื้นต่อโดยไม่สนใจทงเฮเอง ทงเฮได้แต่มองฮยอกแจอีกครั้ง เมื่อกี้เขาเห็นชัดเจนว่าฮยอกแจหน้าแดง แต่เขาเล่า ทำไมถึงได้ปล่อยให้หัวใจเต้นไม่เป็นส่ำได้ขนาดนี้

                ฮยอกแจ...ในชุดนอนลายลูกเจี๊ยบสีเหลือง

                ปกติทงเฮไม่ได้สังเกตหรือแม้แต่สนใจเลยว่าฮยอกแจจะใส่ชุดนอนสีอะไรลายอะไร แต่วันนี้เขารู้สึกว่าฮยอกแจช่างเป็นคนที่เข้ากันกับชุดนอนลายลูกเจี๊ยบสีเหลืองสดใสมากที่สุด

                ยิ่งเป็นสีเหลืองก็ยิ่งขับให้ใบหน้าหวานของฮยอกแจดูหวานมากขึ้นไปอีก

                ...นายเป็นอะไรไปเนี่ยอี ทงเฮ

              ถึงฮยอกแจจะไม่มีตาหลัง แต่เขาก็รู้สึกได้ว่ากำลังถูกแอบมองอยู่ เมื่อหันกลับมาช้าๆ ทงเฮก็ทำเป็นมองไปทางอื่น แต่ฮยอกแจก็ยังเอ่ยถามขึ้น

                “มีอะไรหรือเปล่า?”

                “เปล่านี่ ก็แค่...แค่...”

    ทงเฮอ้าปากพะงาบๆ เพราะไม่รู้จะแก้ตัวยังไง จะให้บอกว่าเขาแอบมองฮยอกแจอยู่ก็คงจะเสียหน้ามากแน่ๆ สักพักทงเฮก็นึกออก เขาชี้มือไปที่พื้นแล้วยืนขึ้น

    “นั่นไง! ตรงนั้นยังไม่สะอาดเลย”

    “ห๊ะ?!

    “ไม่ต้องมาทำหน้างงเลย เมื่อกี้ฉันไม่ได้มองนายซะหน่อย แต่มองพื้นบ้านของฉันต่างหากว่ามันสะอาดดีแล้วหรือยัง รีบๆ กวาดเร็วเข้าสิ นายไม่ต้องรีบไปทำงานหรือไง”

    “อ้อ รู้แล้วน่า” ฮยอกแจก้มหน้าก้มตากวาดพื้นต่อ เขาคิดว่าวันนี้ทงเฮทำตัวแปลกไปมากๆ จริงๆ ฮยอกแจคิดว่าทงเฮทำตัวแปลกขึ้นทุกวัน แต่เขาเองก็ไม่รู้ว่ามันเริ่มขึ้นตั้งแต่เมื่อไร

    หลังจากทำความสะอาดพื้นเสร็จแล้ว ฮยอกแจก็มาเช็ดประตูกระจกใสหน้าบ้าน ทงเฮที่เห็นว่าฮยอกแจยังทำงานบ้านไม่เสร็จซักทีจึงออกปากช่วย

    “ไม่เป็นไร ฉันเช็ดกระจกไม่กี่นาทีก็เสร็จแล้วล่ะ นายไปอาบน้ำเถอะ”

    “นายทำคนเดียวจะเสร็จเร็วได้ไงกัน มานี่ ฉันช่วยเช็ดด้านนอกเอง”

                ทงเฮไม่รอให้ฮยอกแจปฏิเสธอีกเป็นครั้งที่สอง เขานำผ้าไปเช็ดประตูกระจกใสจากด้านนอก ในขณะที่ฮยอกแจยืนเช็ดอยู่ด้านใน แม้จะอยู่คนละฝั่งของกระจกใส แต่ทุกครั้งที่มือของทั้งคู่ลากผ่านกัน เวลาก็ดูเหมือนจะขยับช้าลงไปทุกที

                ฮยอกแจยืนนิ่งงันจ้องมองทงเฮที่อยู่ฝั่งตรงข้าม ทงเฮเองก็หยุดมือหนาของเขาไว้ที่ตรงนั้น มือของคนสองคนราวกับจะประสานกันไว้แม้จะอยู่คนละด้านของกระจก ฮยอกแจเขินอายจนต้องลดมือลงและก้มมองปลายเท้าของตัวเอง ส่วนทงเฮกลับจ้องมองฮยอกแจโดยไม่สามารถละสายตาไปทางไหนได้อีก

                “เรา...เอ่อ...รีบๆ เช็ดกันดีไหม?” ฮยอกแจว่าพลางทงเฮก็พยักหน้าเห็นด้วย หลังจากนั้นทั้งคู่ก็รีบเช็ดกระจกโดยที่ไม่สบตากันอีก

                กลายเป็นว่า...เช้าวันนั้น แทนที่จะได้ทำงานบ้านเสร็จเร็วๆ กลับช้ากว่าเดิมไปอีกตั้งหลายนาที

     

                แม้ว่าวันนี้ฮยอกแจจะออกจากบ้านช้ากว่าทุกวัน แต่ก็ไม่ได้ทำให้เขาเข้างานสายแต่อย่างใด และถึงจะรู้ว่ายังไงฮีชอลก็ไม่ว่าหากในหนึ่งปีเขาจะไปทำงานสายสักวันหนึ่ง แต่ฮยอกแจก็ไม่อยากถูกมองว่าเป็นคนไม่เอาไหน

                ทว่า...

                พอถึงที่ทำงานแล้ว กลับต้องรีบเตรียมตัวออกมาจากบริษัทแทบจะในทันที

                “เราจะไปไหนกันเหรอครับคุณคิม?”

                “ไปโรงแรม” ฮีชอลตอบหน้าตาย ใบหน้าเรียบเฉยทำเอาฮยอกแจเบิกตากว้างอย่างตกใจ

                “อะไรนะครับ จะ...จะไปโรงแรม ไปทำไมน่ะครับ?” เขาถามรัวเป็นชุดจนฮีชอลทนไม่ไหวขำพรืดออกมาจนได้

                “เด็กน้อย คิดว่าผมจะพาคุณไปทำอะไรที่โรงแรมหรือไง?”

                “ก็คุณคิมบอกว่า...”

                “ผมมีนัดกับลูกค้าชาวไต้หวันที่โรงแรม” ฮยอกแจยังคงทำหน้าตาสงสัยและไม่ไว้วางใจต่อไปอีก ฮีชอลจึงคว้าคออีกฝ่ายไปขึ้นรถก่อนที่จะฟุ้งซ่านไปมากกว่านี้ “ไม่ได้ขึ้นไปเปิดห้องคุยหรอกน่า ไปทานข้าวที่โรงแรม กลับไม่เกินเที่ยงหรอก ถ้าคุณไม่สบายใจจะโทรไปบอกสามีก่อนก็ได้นะ”

                “ไม่ใช่เรื่องสลักสำคัญถึงขนาดต้องโทรไปรายงานเขานี่ครับ”

                ฮยอกแจพูดเสียงอ่อย เขาคิดว่ามันเป็นเรื่องเล็กน้อยจริงๆ ที่จะไม่บอกทงเฮว่าตนเองจะไปพบลูกค้าที่โรงแรม ยังไงเขาก็ไม่ได้ทำอะไรเสียหายอยู่แล้วนี่นะ

     

                วันนี้เป็นอีกวันหนึ่งที่นักธุรกิจหนุ่มไฟแรงอย่างชเว ซีวอนต้องทำงานจนแทบไม่มีเวลาพักหายใจ ตอนเช้าเขามีสัมมนาทางธุรกิจที่โรงแรมชื่อดังแห่งหนึ่ง และตอนบ่ายก็ต้องกลับไปประชุมผู้บริหารที่บริษัทของตนเอง

                ร่างสูงฝากกุญแจรถยนต์ให้พนักงานของโรงแรมนำรถไปจอด ก่อนจะเดินเข้าไปในส่วนล็อบบี้ของโรงแรม แต่ยังไม่ทันที่จะเข้าไปในห้องสัมมนา ดวงตาคมกริบว่องไวเหมือนเหยี่ยวก็มองเห็นอี ฮยอกแจเดินควงมากับผู้ชายคนหนึ่งด้วยท่าท่างสนิทสนม แถมยังปล่อยให้อีกคนโอบไหล่อย่างใกล้ชิดและไม่แคร์ด้วยว่าคนที่ผ่านไปผ่านมาจะมองยังไง

                ซีวอนยกโทรศัพท์มือถือขึ้นถ่ายคลิปวิดีโอไว้อย่างรวดเร็ว

                เขาพร้อมจะทำทุกอย่างให้คยูฮยอนมีความสุข ต่อให้คนอื่นจะมองว่าเขาเป็นผู้ชายเลวร้ายแค่ไหนก็ตาม

     

                “นายแน่ใจเหรอว่าเป็นเขา?” คยูฮยอนเด้งตัวลุกขึ้นขณะที่นั่งเซ็ตผมอยู่ในห้องเตรียมออกไปถ่ายแบบโฆษณาให้กับสินค้ายี่ห้อหนึ่ง เขาได้เห็นวิดีโอที่ซีวอนส่งมาให้แล้ว แต่ก็ยังเห็นหน้าฮยอกแจไม่ชัดอยู่ดีเพราะฮยอกแจยืนหันหลังให้ตลอดเวลา

                [แน่ใจสิ ฉันเคยเห็นเขาที่บ้านทงเฮมาแล้วครั้งหนึ่ง]

                “แล้ว...แล้วฉันควรจะต้องทำยังไงบ้าง?” คยูฮยอนเอ่ยถามอย่างร้อนรนใจ เขาอยากไปหาทงเฮเสียเดี๋ยวนี้ ไปบอกทงเฮตอนนี้เลยว่าภรรยาของทงเฮเป็นคนยังไง ทงเฮจะได้หย่ากับฮยอกแจแล้วกลับมาหาเขาเร็วๆ เสียที

                [นายไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้น ฉันจะเป็นคนไปบอกทงเฮเอง]

                “แต่ว่าฉันร้อนใจมากเลยซีวอน และฉัน...ก็อยากบอกทงเฮด้วยตัวของฉันเอง”

                [ไม่ได้ เชื่อฉันเถอะ รับรองว่าทงเฮจะต้องบอกเลิกกับหมอนั่นแน่ๆ]

    ซีวอนบอกอย่างมั่นใจแล้ววางสายไป คยูฮยอนจึงเปิดคลิปวิดีโอขึ้นมาดูอีกครั้ง เขาไม่ผิดใช่ไหมที่จะบอกความจริงนี้ให้กับทงเฮได้รู้ เขาไม่ได้กุเรื่องขึ้น ไม่ได้ใส่ร้ายใคร แค่อยากให้ทงเฮตาสว่างและมีข้ออ้างในการเลิกกับผู้ชายคนนั้นก็เท่านั้นเอง

     

                วันนี้ทงเฮวางงานทั้งหมดไว้ที่โต๊ะด้านหลังอย่างไม่สนใจ เขากำลังตัดเย็บชุดนอนขึ้นมาชุดหนึ่ง ทงเฮแทบไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำว่าเขากำลังทำชุดนอนตัวใหม่ให้กับฮยอกแจ อารมณ์ศิลปินทำให้เขาทำงานล่องลอยไปตามจินตนาการเรื่อยๆ เขาค่อยๆ เลื่อนผ้าฝ้ายเนื้อดีเข้าไปในจักรไฟฟ้าเพื่อทำเย็บให้มันติดกัน พอได้แขนเสื้อข้างหนึ่งออกมาแล้วก็ยิ้มอย่างภาคภูมิใจ

                แต่งานชิ้นนั้นก็ต้องสะดุดลงเมื่อเสียงข้อความโทรศัพท์ดังขึ้น

                มันเป็นคลิปวิดีโอที่ถูกส่งมาจากซีวอน...

                คลิปนั้นเป็นภาพของฮยอกแจที่อยู่ในโรงแรมกับเจ้านาย ทงเฮจำผู้ชายคนนั้นได้ดี รอยยิ้มและสายตาที่เจ้าชู้ที่เห็นด้านข้างเขาก็มั่นใจว่าจำไม่ผิดแน่ ยิ่งฮยอกแจยิ่งไม่ต้องพูดถึง เขาจำฮยอกแจได้อย่างแม่นยำแม้จะมองเห็นจากด้านหลังก็ตาม ทงเฮรีบต่อสายกลับไปหาซีวอนอย่างรวดเร็ว

                “นายส่งอะไรมาให้ฉัน?”

                [ก็อย่างที่เห็นนั่นแหละ เมียนาย...กับ...ชายชู้]

                “พวกเขาอยู่ที่โรงแรมไหน?” ทงเฮกำชุดนอนที่เริ่มจะเป็นรูปเป็นร่างแน่นด้วยความโมโห เขาปาเศษผ้าเหล่านั้นลงบนพื้นอย่างไม่ใยดี และตั้งใจว่าหลังจากวันพรุ่งนี้เขาจะนำไปมันไปทำผ้าขี้ริ้ว

                [กว่านายจะไปถึง สองคนนั้นก็เสพสมกันจนเสร็จไปหลายรอบแล้วล่ะ]

                “อย่าพูดหยาบโลนแบบนี้นะไอ้ซีวอน” ทงเฮโกรธจนตัวสั่น เขาไม่อยากจะเชื่อว่าฮยอกแจที่หน้าตาใสซื่อจะร้ายกาจไม่ต่างจากหมาป่าในคราบลูกแกะ

                หึงหวงเหรอ?

                ไม่นี่ ทงเฮจะหึงหวงฮยอกแจทำไม ในเมื่อเขาเองก็รักคยูฮยอนสุดหัวใจ

                ซีวอนวางสายไปพร้อมบอกว่าจะมาหาทงเฮที่บ้านเพื่อคุยเรื่องนี้ ทงเฮไม่สามารถทำงานต่อไปได้อีก เขาเดินลงไปรอซีวอนอยู่ชั้นล่าง แต่พบว่าคยูฮยอนมาหาตนเองที่บ้านพอดี

                “ทงเฮ” คยูฮยอนเปิดประตูเข้ามาด้านในแล้วกอดทงเฮไว้ด้วยท่าทีเป็นห่วงเป็นใย ทงเฮผละออกทั้งๆ ที่แววตายังเต็มไปด้วยความไม่สบายใจ เขามองหน้าคยูฮยอนแล้วเอ่ยถามขึ้น

                “มีอะไรหรือเปล่า ทำไมนายทำหน้าแบบนั้น?”

                “ฉันน่ะไม่มีหรอก แต่ว่า...”

                “หืม?” ทงเฮเลิกคิ้ว สังหรณ์ใจว่าคยูฮยอนจะพูดอะไรเกี่ยวกับฮยอกแจ และมันก็เป็นแบบนั้นจริงๆ ด้วย

                “นายดูเอาเองเถอะ”

                คยูฮยอนยื่นโทรศัพท์มือถือให้คนรัก ทงเฮรับไปดูและพบว่ามันเป็นคลิปเดียวกันกับที่เขาได้รับจากซีวอน ใบหน้าหล่อเหลาเงยหน้าขึ้นมองคยูฮยอนที่ยังไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไร

                ทำไมคยูฮยอนกับซีวอนถึงมีคลิปวิดีโอนี้เหมือนกัน

                “นายได้คลิปนี้มาจากไหน?”

                “จาก...เพื่อนคนหนึ่งน่ะ” คยูฮยอนเอ่ยตอบแล้วหลบตาทงเฮไปอีกทาง ทงเฮเงียบมากจนคยูฮยอนรู้สึกกลัว ตั้งแต่คบหากันมา ทงเฮไม่เคยเงียบมากขนาดนี้มาก่อน คยูฮยอนไม่อาจรู้เลยว่าทงเฮกำลังคิดอะไรอยู่ในใจกันแน่ เขาพยายามสังเกตปฏิกิริยาของทงเฮ แต่ก็พบว่าอีกฝ่ายเก็บอาการได้เป็นอย่างดีเหลือเกิน

                “ฉันจะรอคุยกับเขาเย็นนี้”

                “ทำไมต้องตอนเย็นล่ะ นายโทรไปถามเขาตอนนี้ให้รู้เรื่องไปเลยสิ มันอาจจะไม่จริงอย่างในคลิปก็ได้”

                คยูฮยอนไม่ได้เสแสร้ง เพราะเขาเองก็อยากรู้เหมือนกันว่าฮยอกแจทำแบบนั้นจริงๆ หรือเปล่า ถ้าฮยอกแจเป็นแบบนั้นจริงๆ ก็ไม่มีเหตุผลอื่นใดที่ทงเฮจะต้องถ่วงเวลาไว้อีก

                “ต้องรอให้ฮยอกแจเลิกงานก่อน”

                “แต่ว่า...”

                “แล้วนายไม่ทำงานหรือไง วันนี้มีถ่ายโฆษณาไม่ใช่เหรอ ไปสิ...เดี๋ยวฉันขับรถไปส่ง”

                ทงเฮแสร้งทำเหมือนไม่ได้คิดมากอะไรกับคลิปวิดีโอที่ได้เห็น เขาไม่ทำแม้แต่จะดูคลิปนั้นเป็นรอบที่สอง หากแต่ในใจกลับทุกข์ร้อนและอึดอัดอยากจะรู้ความจริงจากปากของฮยอกแจเร็วๆ เหลือเกิน

     

     

    Talk with Lee Seen

                เรื่องจะหวานอยู่แล้วเชียว กลับมาวุ่นอีกซะงั้น

    ไม่ดราม่าค่ะ ท่องไว้ว่ามันจะไม่ดราม่า

    เชื่อใจลซ.นะคะ เพราะลซ.แต่งดราม่าไม่เป็นค่า

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×