ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic SJ] Erotic Drama [EunHae & HaeEun]

    ลำดับตอนที่ #7 : chapter 5 น้ำเปล่า

    • อัปเดตล่าสุด 21 มี.ค. 54



    5

    น้ำเปล่า

     

                ฮยอกแจและตงไห่เดินผ่านแผ่นป้ายไม้เก่าๆ ที่พอจะจับใจความได้ว่าเป็นโรงแรม พวกเขาติดต่อห้องพักเพียงหนึ่งห้องเพื่อซ่อนตัวจากการตามล่าของตำรวจและแก๊งอันธพาลพวกนั้น ไม่มีใครรู้หรอกว่าพวกมันจะมาแก้แค้นแทนเพื่อนของตัวเองเมื่อไร

     

                ฮยอกแจไม่ได้กลัวตาย เพียงแต่เขาไม่อยากให้ตงไห่ต้องพบกับอันตรายไปด้วย

     

                เหมือนที่เขามักจะพาอึนฮยอกเข้าไปสู่วงเวียนแห่งความต่ำช้าอยู่บ่อยครั้ง

     

                “เราจะพักกันที่นี่เหรอครับ” เสียงหวั่นๆ ของตงไห่เอ่ยถามพลางมองไปรอบๆ ผนังห้องเก่าคร่ำคร่า มีรูปผู้หญิงเปลือยสีซีดแปะอยู่บนหัวเตียง และน้องน้ำก็สกปรกจนแทบไม่กล้าถอดรองเท้าเข้าไปใช้

     

                “มันก็ดีกว่านอนข้างถนนไม่ใช่เหรอ” ฮยอกแจหันมาบอกแล้วทิ้งตัวนั่งลงบนปลายเตียง

     

                “ครับ ถ้าเทียบกับข้างถนนแล้ว ที่นี่ดีกว่าพันเท่าเลย”

     

                “ถ้าเหนื่อยก็นอนเถอะ ฉันจะนั่งเฝ้านายเอง ไม่ต้องห่วง” ฮยอกแจตบฝ่ามือลงบนที่นอนสีครีม ทว่ากลับมีแต่ฝุ่นที่ฟุ้งกระจายขึ้นมาจนร่างสูงกระแอมกระไอเป็นพัลวัน ตงไห่กุลีกุจอหาน้ำเปล่าที่วางไว้บนโต๊ะไม้กลมๆ ในห้องมายื่นให้ ฮยอกแจรับและดื่มรวดเดียวหมด เขาเพิ่งจะรู้ว่าตัวเองกระหายน้ำมากเพียงใดก็คราวนี้

     

                “โทษทีนะ ฉันกินหมดเลย” เสียงเข้มบอกคนตัวเล็กอย่างรู้สึกผิด ก่อนจะเดินไปหยิบขวดใหม่มาให้

     

                “ขอบคุณครับ แฮ่กๆ” แทนที่มือเรียวจะรับน้ำเปล่ามาถือไว้ เขากลับไอออกมาอย่างรุนแรง ร่างบางผลุบหายตัวเข้าไปในห้องน้ำอย่าเร่งรีบ เขาไอและอาเจียนออกมาเป็นเลือด มันเป็นอาการป่วยระยะสุดท้ายแล้ว ดวงตาคู่หวานเงยหน้าขึ้นมองตัวเองที่สะท้อนออกมาจากกระจกเงา ก่อนจะปล่อยให้หยาดน้ำตาไหลออกมาอย่างง่ายดาย

     

                สองสิ่งที่มักจะผ่านไปเร็วเหลือเกินคือ...ความรักและความสุข

     

                “ตงไห่ เข้าไปทำอะไรนานจัง เป็นอะไรหรือเปล่า” ฮยอกแจตะโกนเรียกจากด้านนอกพร้อมกับเสียงเคาะประตูรัวอย่างเป็นห่วง

     

                “ปะ...เปล่าครับ แค่ล้างหน้าน่ะ” พูดจบก็เปิดก๊อกน้ำแล้วชำระน้ำตาออกจากใบหน้าของตนเองทันที ตงไห่เปิดประตูออกไปแล้วโผเข้ากอดคนตรงหน้าอย่างเงียบๆ ฮยอกแจไม่ได้เอ่ยอะไร เขาอ้อมวงแขนแกร่งโอบกอดคนตัวเล็กตอบ ชั่วขณะนั้นตงไห่คิดได้ว่าแม้ดวงตาและชีวิตของเขาจะมืดมนเพียงใด เขาก็ไม่รู้สึกกลัวเลยสักนิดหากมีอ้อมกอดของอี ฮยอกแจอยู่ตรงนี้

     

                “ฮึก...ผมไม่อยากตายเลยครับ...ผมกลัว...”

     

                กลัวว่าสักวันอ้อมกอดนี้จะหายไปจากเขา...

     

     

     

                ขาเรียวของร่างผิวขาวผ่องยังก้าวฉับๆ ตามแรงดึงไปเรื่อยๆ เม็ดเหงื่อมากมายผุดขึ้นเต็มหน้าผากสวย แม้จะรั้งข้อมือตัวเองต้านทานเอาไว้แค่ไหน แต่คนที่กำลังกึ่งลากกึ่งจูงก็ไม่คิดฟังเลย

     

                “คุณทงเฮครับ ผมเหนื่อย”

     

                “นั่นมันเรื่องของคุณ!” เสียงทุ้มเอ่ยบอกอย่างใจร้ายพลางกระชากอึนฮยอกเข้าไปหาชายแก่คนหนึ่งที่นั่งขายขนมโบราณอยู่ริมทางเดิน “ขอโทษนะครับ เห็นผู้ชายหน้าตาเหมือนผมสองคนผ่านมาทางนี้บ้างไหม”

     

                “เหมือนพ่อหนุ่มทั้งสองน่ะเหรอ” ชายแก่เงยหน้าเหี่ยวย่นขึ้นมาเอ่ยถาม ทงเฮพยักหน้ารัวทำให้ชายขายขนมคนนั้นหัวเราะร่วน “คนที่เหมือนพวกเธอก็ยืนอยู่ตรงหน้าลุงนี่ไง”

     

                “เอ่อ...ไม่ใช่ครับ ผมหมายถึงผู้ชายอีกสองคน คนที่เหมือนผมจะหน้าหวานกว่า แล้วคนที่หน้าเหมือนคนนี้ก็จะหน้าคมกว่า”

     

                “ฉันไม่เข้าใจว่าพ่อหนุ่มกำลังพูดเรื่องอะไร”

     

                “งั้นไม่เป็นไรครับลุง ขอบคุณมาก” ทงเฮเดินจากมาด้วยความหงุดหงิด ใครจะไปเชื่อว่าฝาแฝดคู่หนึ่งกำลังตามหาฝาแฝดอีกคู่หนึ่ง แม้ว่าเรื่องแบบนี้จะสามารถเกิดขึ้นจริง แต่มันก็มีความเป็นไปได้น้อยมาก และชายแก่ผู้นั้นคงไม่ได้ตั้งใจจะกวนโทสะเขา

     

                “คุณผู้หมวด ผมหิวน้ำ” อึนฮยอกกระตุกแขนทงเฮเบาๆ ดวงตาคมกริบปรายตามามองอึนฮยอก ก่อนจะเหลือบไปเห็นร้านขายน้ำที่อยู่ด้านหน้า

     

                “ไว้เจอพี่ชายของคุณก่อน แล้วผมจะหาน้ำให้คุณดื่ม” บอกอย่างใจร้ายอีกครั้ง ก่อนจะก้าวเท้าเดินต่อ

     

                “ผมไม่รู้ว่าพี่ฮยอกแจอยู่ที่ไหน”

     

                “งั้นก็กลืนน้ำลายตัวเองแก้คอแห้งไปก่อนแล้วกัน” ทงเฮปล่อยมืออึนฮยอกให้เป็นอิสระ แต่อึนฮยอกก็ยังเดินตามเขาอยู่เรื่อยๆ แม้จะในจังหวะที่เชื่องช้ากว่าก็ตาม ในขณะที่จิตใจของทงเฮกำลังร้อนรุ่มเพราะตามหาบุคคลที่คิดว่าจะเป็นน้องชายของตัวเองไม่พบ ร่างกายของอึนฮยอกกลับเหนื่อยอ่อนจนเดินต่อไปไม่ไหว

     

                “ผู้หมวด...” เสียงแหบพร่าเรียกรั้งท้ายเอาไว้ ก่อนที่ร่างบางจะทรุดลงไปต่อหน้าต่อตาเมื่อทงเฮหันกลับไปมอง แม้ว่าเขาจะดูเหมือนผู้ชายที่ใจร้ายสักแค่ไหน แต่ทงเฮก็ไม่สามารถทิ้งให้อึนฮยอกนอนสลบอยู่ตรงนี้คนเดียวได้ ร่างสูงวิ่งถลากลับไปช้อนร่างที่กำลังหมดสติมาประคองไว้ในอ้อมกอด ก่อนจะวิ่งเข้าไปในโรงแรมใกล้ๆ โดยเร็วที่สุด

     

     

     

                เกือบสามทุ่มของวันนั้น อึนฮยอกลืมตาตื่นขึ้นมาแล้วพบว่าตัวเองนอนอยู่บนเตียงสีครีมในห้องสี่เหลี่ยมแคบๆ ที่ผนังเก่าจนสีที่ทาไว้หลุดลอกออกมาเกือบหมด คนตัวเล็กค่อยๆ ชันตัวลุกขึ้นนั่ง ก่อนจะพบว่าร่างโปร่งของตำรวจยศสูงคนหนึ่งยืนหันหลังสูบบุหรี่อยู่ที่ริมระเบียง

     

                ถ้าหากจะวิ่งหนีออกไปตอนนี้อึนฮยอกก็สามารถทำได้ แต่เขากลับนั่งอยู่ที่เดิม จนกระทั่งทงเฮกลับเข้ามาด้านใน

     

                “ตื่นแล้วเหรอ”

     

                “ค...ครับ” รับคำสั้นๆ ก่อนจะก้มหน้างุดเพื่อหลบสายตา ดวงตากลมจึงแอบมองเห็นมวนบุหรี่สั้นกุดที่ผ่านการสูบมาเรียบร้อยแล้ว “คุณทงเฮติดบุหรี่เหรอครับ”

     

                “ไม่ถึงกับติดหรอก สูบเฉพาะเวลาที่เครียดๆ น่ะ”

     

                อึนฮยอกออกจะประหลาดใจนิดหน่อยที่ทงเฮตอบคำถามของเขา นานๆ ถึงจะได้พูดกันดีๆ สักครั้งหนึ่ง ร่างบางยังคงนั่งนิ่งอยู่ที่เดิมเพราะไม่รู้จะทำตัวอย่างไร จนกระทั่งน้ำเปล่าแก้วหนึ่งถูกยื่นมาตรงหน้า

     

                “หิวน้ำไม่ใช่เหรอ ดื่มซะสิ เดี๋ยวก็ขาดน้ำตายหรอก” แม้คำพูดจะดูห้วนๆ เพียงใด แต่คนฟังก็ยังแอบคิดเข้าข้างตัวเองว่าผู้พูดกำลังแสดงท่าทีเป็นห่วงเป็นใยเขา

     

                “ขอบคุณนะครับ”

     

                “ไม่ต้องขอบคุณหรอก มันไม่ใช่เรื่องยิ่งใหญ่ถึงขนาดจะต้องขอบคุณ” คำพูดของทงเฮทำให้อึนฮยอกช้อนตาขึ้นมองทันที มือเรียววางแก้วน้ำลงข้างเตียง ก่อนจะเอ่ยถามขึ้น

     

                “คุณจะพูดดีๆ กับผมสักครั้งไม่ได้เหรอครับ” เสียงนั้นเอ่ยถามด้วยความใสซื่อและตัดพ้อในคราวเดียวกัน ทงเฮค่อยๆ นั่งลงในพื้นที่ว่างบนเตียง ก่อนจะจ้องลึกเข้าไปในดวงตาคู่สวยแล้วเอ่ยคำ

     

                “ถ้าผมพูดดี คุณก็จะหยุดรักไม่ได้”

     

                “คุณรู้?”

     

                “สายตาของคุณ ทั้งโลกก็รู้” นี่อาจเป็นครั้งแรกที่ทงเฮส่งสายตาทะเล้นให้กับผู้อื่น “หรือไม่จริงล่ะ”

     

                “มันไม่จริงหรอกครับ เพราะต่อให้คุณพูดจาไม่ดีกับผมสักแค่ไหน ผมก็ตกหลุมรักคุณไปแล้ว แม้ว่าคุณจะเลว จะทำร้ายผมหรือแม้แต่จะจับพี่ชายของผมเข้าคุก มันก็ทำให้ผมเลิกรักคุณไม่ได้เลย”

     

                “พี่ชายของคุณต้องได้รับโทษเพราะเขาเป็นฆาตรกร” ทงเฮรีบเฉไฉเปลี่ยนเรื่อง ก่อนที่ผู้แพ้จะย้อนกลับมาเป็นตัวเขาเสียเอง เพราะความซื่อมากของอึนฮยอกนี่แหละที่จะทำให้ชนะเหนือผู้อื่นได้ทั้งปวง

     

                “พี่ฮยอกแจไม่ใช่ฆาตรกร”

     

                “แต่เขาฆ่าคนตายสองศพในคืนนั้น คนตายก็คือคนที่มันทำร้ายคุณในวันที่เราพบกันวันแรกไงล่ะ ถ้าฆาตรกรไม่ใช่อี ฮยอกแจแล้วจะเป็นใคร”

     

                อึนฮยอกนั่งร้องไห้เหมือนเด็กตัวน้อยๆ คนหนึ่งที่ถูกเพื่อนร่วมห้องกลั่นแกล้ง หลังมือบางปาดน้ำตาซ้ายทีขวาทีอย่างน่าสงสาร แต่ทำไมกันนะ ทั้งๆ ที่รู้ว่าตำรวจคนนี้กำลังจะพรากพี่ชายไปจากเขา ทำไมอึนฮยอกถึงเลิกรักผู้หมวดทงเฮไม่ได้

     

                เพราะสวรรค์กำหนดชะตาชีวิตมาเป็นแบบนี้แล้ว

     

                หรือเป็นเพราะหัวใจของเขาเองที่มันดื้อรั้นอยู่ทุกวัน

     

                “คุณบอกเองใช่ไหมว่าถ้าผมยอมเป็นของคุณ คุณจะไม่จับพี่ฮยอกแจ” เสียงหวานพยายามข่มไม่ให้สั่นเครือแม้น้ำตาจะรินไหลไม่ขาดสาย “ผมจะเป็นของคุณทุกวัน ทุกคืน ทุกเวลาถ้าหากคุณต้องการ”

     

                “อึนฮยอก!” ทงเฮเบิกตาโพลงด้วยความตกใจ ทว่าร่างของเขากลับถูกมือเรียวของอึนฮยอกผลักหงายหลังนอนราบไปกับเตียง อึนฮยอกขึ้นไปนั่งคร่อมอยู่บนตัวของผู้หมวด ก่อนจะโน้มใบหน้าลงไปซุกไซร้ปรนเปรอความสุขสมให้กับผู้หมวดตราบเท่าที่ร่างกายของเขาจะเอื้ออำนวย

     

                ครั้งแล้วครั้งเล่า ความสุข ความเสน่ห์หาที่ปะปนมาพร้อมกับหยาดน้ำตาไม่อาจทำให้อึนฮยอกหยุดการกระทำของตัวเองได้เลย ขอเพียงแค่ทงเฮไว้ชีวิตพี่ชายของเขา ขอเพียงแค่พี่ฮยอกแจไม่ต้องติดคุก แค่นั้นอึนฮยอกก็ไม่ต้องการอะไรอีกแล้ว

     

                ผมรู้ดีว่าหัวใจของคุณมันแข็งแกร่งดั่งภูผา แต่ขอแค่ร่างกายนี้ได้อยู่กับคุณ ขอเพียงแค่คนที่ผมรักยังไม่ผลักไสผมไปไหน แค่นั้นผมก็มีความสุขมากแล้ว

     

     

     

                ภายในห้องพักข้างๆ กันนั้น ชายสองคนที่นอนกอดก่ายกันด้วยร่างที่เปล่าเปลือยกำลังปล่อยให้ความเงียบและเข็มนาฬิกาค่อยๆ หมุนผ่านไป ฮยอกแจคลายอ้อมกอดออก ตงไห่จึงพลิกตัวนอนขดหันหลังให้ ผ้าห่มบางๆ ร่นลงมาจนถึงสะโพก เผยให้เห็นว่าทุกๆ ส่วนของพวกเขาไม่มีซึ่งอาภรณ์ใดปกปิดเลยแม้แต่นิด

     

                “นายว่าอึนฮยอกกับตำรวจนั่นจะตามหาเราเจอไหม” ฮยอกแจเอ่ยถามขึ้นเบาๆ ก่อนจะพลิกตัวหันหลังให้อีกฝ่ายเช่นเดียวกัน

     

                “คุณอยากให้เจอหรือเปล่าล่ะครับ”

     

                “ใจนึงก็อยาก แต่อีกใจก็ไม่ ฉันเป็นห่วงอึนฮยอก”

     

                “ครับ ผมเข้าใจดี” ตงไห่บอกพลางใช้แขนข้างหนึ่งหดขึ้นมาหนุนแทนหมอน “บางทีเขาอาจจะนอนอยู่ในห้องถัดไปก็ได้นะครับ โชคชะตามักจะเล่นตลกกับเราเสมอ”

     

                “ถ้าเป็นอย่างนั้นก็ดีสิ อย่างน้อยที่โรงแรมก็ยังดีกว่าบ้านสลัมที่เราเคยอยู่” เสียงของฮยอกแจเศร้าสร้อยและกำลังหวนรำลึกถึงความหลังในชีวิตที่ผ่านๆ มา เขาไม่เคยมีความสุข และไม่เคยคาดหวังว่าในช่วงชีวิตที่เกิดมาจะต้องได้พบกับความสุขด้วย แค่ใช้กรรมไปวันๆ และรอคอยว่าเมื่อไรมัจจุราชจะพาเขาไปสู่นรกเสียที

     

                “คุณคงผ่านอะไรร้ายๆ มามาก คุณถึงได้เข้มแข็งแบบนี้” ตงไห่เปรยขึ้น ก่อนจะพลิกตัวกลับไปซุกหน้าลงบนแผ่นหลังกว้างของฮยอกแจ มือบางโอบที่เอวแกร่ง ก่อนจะลูบไล้หน้าท้องที่มีแต่กล้ามแข็งแรง

     

                “ฉันไม่ใช่คนที่เข้มแข็งหรอก แต่เพราะฉันเป็นพี่ ฉันต้องทำให้อึนฮยอกเชื่อมั่นในตัวฉัน” ฮยอกแจกุมมือตงไห่ไว้หลวมๆ ในตอนนี้เขารู้สึกว่าคนที่เข้มแข็งมากที่สุดคือตงไห่เสียมากกว่า “บางทีฉันก็อยากจะตายให้รู้แล้วรู้รอด”

     

                “อย่า...”

     

                “ช่วยทำให้ฉันตายได้ไหมตงไห่”

     

                “คุณ...พ...พี่ฮยอกแจ...” ตงไห่เปลี่ยนสรรพนามในการเรียกอีกฝ่ายด้วยน้ำเสียงหวาดหวั่น ฮยอกแจผุดลุกขึ้นนั่งทันที ตงไห่ก็ลุกตามขึ้นมาด้วย เขารั้งข้อมือของฮยอกแจเอาไว้ แต่เหมือนกับพลังบางอย่างที่ส่งผ่านมาจากฮยอกแจทำให้ตงไห่รู้สึกว่าฮยอกแจหมายความตามที่พูดจริงๆ

     

                “ฉันอยากรู้ว่าตัวเองจะทนอยู่ในน้ำได้นานแค่ไหน นาย...ช่วยจับเวลา แล้วกดหยุดเวลาตอนที่ฉันไม่หายใจแล้ว”

     

                “ผมจะทำอย่างนั้นได้ยังไง”

     

                “อย่าลืมบอกตำรวจด้วยว่าฉันใช้เวลานานกี่นาทีกว่าฉันจะตาย”

                “พี่ฮยอกแจ ถ้าพี่ตาย...ผมจะอยู่ได้ยังไง” ตงไห่โผเข้ากอดฮยอกแจด้วยร่างกายที่สั่นเทา น้ำตามากมายเอ่อไหล่จนเปียกชุ่มแผ่นอกแกร่ง ฮยอกแจได้แต่นั่งนิ่งเฉย นึกไม่ออกเลยว่าชีวิตของเขาจะอยู่ไปเพื่ออะไรกัน

     

                แม้แต่อนาคตอันใกล้อย่างวันพรุ่งนี้ ฮยอกแจยังไม่รู้เลยว่าเมื่อตื่นขึ้นมาแล้วเขาควรจะต้องทำอะไร ถึงแม้ว่าอึนฮยอกแจจะเจ็บปวดที่ต้องทนอยู่กับตำรวจชั้นทรามคนนั้น แต่มันก็ยังดีกว่าการที่ต้องใช้ชีวิตอย่างอดๆ อยากๆ เมื่ออยู่กับเขา

     

                แม้ตอนนี้ทงเฮอาจจะยังไม่รู้ตัวว่ารักอึนฮยอก แต่สักวันความดีและความน่ารักของอึนฮยอกจะต้องทำให้หัวใจของทงเฮเปลี่ยนไปอย่างแน่นอน

     

                และในวันนั้น...ทงเฮจะหลงรักน้องชายของเขาอย่างสุดหัวใจ

     

                “อย่าร้องไห้เลยนะ ฉันขอโทษ ตงไห่...ฉันขอโทษ”

     

                “พี่ฮยอกแจเป็นคนเดียวที่ทำให้ผมอยากจะมีชีวิตอยู่ เป็นคนเดียวที่ทำให้อึนฮยอกเป็นคนที่เข้มแข็ง ถ้าไม่มีพี่ พวกเราก็ไม่ต่างจากคนที่ตายไปแล้ว”

     

                “...”

     

                “อย่าทิ้งพวกเราไปนะครับ” ฮยอกแจได้แต่ลูบไล้แผ่นหลังเปล่าเปลือยของอีกฝ่ายอย่างปลอบโยนเท่านั้น เขารับรู้ถึงความหวาดกลัวในจิตใจของอีกฝ่ายแล้ว มันมากพอๆ กับความหวาดกลัวในจิตใจของเขา มือหนาจับร่างเล็กผละออกจากตัวเอง จ้องลึกเข้าไปในดวงตาคู่หวาน ก่อนจะโน้มลงไปจุมพิตอันแสนเศร้าอยู่เนิ่นนาน

     

                ผมจะต้องไม่ตาย ผมจะทิ้งให้ตงไห่และอึนฮยอกใช้ชีวิตอยู่โดยที่ไม่มีผมไม่ได้

     

                “นอนกันเถอะ” เมื่อถอยริมฝีปากออก ฮยอกแจก็เอ่ยบอกกับคนตรงหน้าอย่างอ่อนโยน แต่ตงไห่กลับส่ายหน้ารัวอย่างดื้อรั้น

     

                “ไม่ครับ ถ้าผมนอน...”

                “พี่จะไม่ทำอย่างนั้น พี่จะไม่คิดสั้นอย่างแน่นอน” ฮยอกแจพูดเพื่อให้อีกฝ่ายเชื่อใจเขา

     

                “สัญญานะครับ”

     

                “อื้อ สัญญา” สิ้นคำพูดนั้น ตงไห่โผเข้าจูบคนที่เขารักอย่างปิติยินดี แผ่นมือบางลูบไล้ปัดป่ายไปทั่วแผงอกของฮยอกแจอย่างยั่วเย้า ก่อนจะถูกฮยอกแจดันตัวเองนอนลงบนเตียงอย่างแช่มช้า บทรักที่แสนเจ็บปวดยังดำเนินต่อไปเรื่อยๆ

     

                แม้อนาคตอาจจะยังมืดมนจนมองไม่เห็น แต่ในวันพรุ่งนี้...อี ฮยอกแจจะต้องตามหาอึนฮยอกให้พบ และนำตัวอึนฮยอกมาจากผู้หมวดตงไห่ให้ได้

     

     

     

     

     

    Talk with Lee Seen

                ใครที่ยังไม่ได้โอนเงินค่าหนังสือ รีบๆ โอนด้วยนะคะ ใกล้จะปิดจองแล้ว

    อีกสองตอนก็จะจบ แต่ตอนหน้าเหมือนจะเป็นตอนจบซะมากกว่า

    ยังไงก็ช่วยติดตามด้วยค่า...

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×