คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : Sorry,My Juliette - Chapter 4
Chapter 4
ขาเรียวเดินลงไปจากรถแล้วกดกริ่งหน้าบ้านด้วยมือที่สั่นเทา เจ้าของบ้านเดินออกมาพร้อมถุงขยะสีดำใบหนึ่ง ถ้าหากทงเฮไม่มีธุระต้องออกมา ประตูหน้าบ้านก็คงจะไม่เปิดออกสินะ
“คุณทงเฮครับ”
“ผมคิดว่าเรื่องที่ผมพูดไปเมื่อเช้ามันจบแล้วนะ คุณต้องการอะไรกันแน่ อยากได้เงินเหรอ หรือว่าเป็นพวกมิจฉาชีพ” เสียงของทงเฮค่อยๆ ดังขึ้นเรื่อยๆ ชาวบ้านแถวนั้นเดินออกมามอง ฮยอกแจจึงรีบส่ายหน้ารัวเพื่อปฏิเสธ
“ไม่ใช่แบบนั้นนะครับคุณทงเฮ”
“ผมไม่รู้หรอกนะว่าคุณรู้จักชื่อของผมและเอาเบอร์โทรศัพท์ผมมาจากไหน แต่...อย่ามาที่นี่อีก”
“คุณจะโกรธอะไรคิบอมนักหนา ถ้าเขาทำผิดตรงไหน คุณก็ควรจะบอกความผิดที่เขาทำสิ ไม่ใช่มาเงียบแล้วเดินหนีแบบนี้”
“ผมบอกแล้ว...ผมไม่รู้จักผู้ชายที่ชื่อคิบอม”
แววตาของทงเฮว่างเปล่าจนฮยอกแจไม่รู้จะพูดอะไรอีกแล้ว เขาทำเฉยชาต่อคนที่ตัวเองรักแบบนี้ได้ยังไงกัน ถึงจะโกรธกันแค่ไหน แต่มันก็น่าจะมีแววตาที่สั่นไหวให้ได้เห็นบ้าง
แต่นี่กลับไม่มีเลย...
“ถ้าคุณยังมาที่นี่อีก ผมจะแจ้งตำรวจจับคุณ!”
“คุณทง...”
ปัง!
ประตูเหล็กกระแทกปิดต่อหน้าต่อตาฮยอกแจ นิ้วเรียวพยายามกดออดหน้าบ้านอย่างไม่ยอมแพ้ แต่ทงเฮก็ไม่ออกมาอีกเลย
อาจจะจริงอย่างที่พี่ฮีชอลบอก
การเอาตัวเองเข้าไปยุ่งเรื่องคนอื่นเป็นสิ่งที่ไม่ดีเลย
เพราะสุดท้ายคนที่เสียใจและอึดอัดที่สุดก็คือเขาเอง
ฮยอกแจถอดใจและเดินกลับไปที่รถ แต่ร่างบางกลับสะดุ้งเฮือกเมื่อเห็นคิบอมยืนพิงเจ้าแคนดี้อยู่ คิ้วคมเข้มขมวดมุ่นอย่างแปลกใจ
รถเพิ่งซื้อออกมาใหม่แท้ๆ ทำไมสัญญาณกันขโมยถึงใช้งานไม่ได้แล้วนะ
หรือเจ้าแคนดี้มันจะฉลาดจนรู้ว่าคิบอมไม่ใช่ขโมย
“ไง?” เขาทัก มือข้างหนึ่งล้วงกระเป๋า
“ค...คุณมายืนตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไร” ฮยอกแจเดินเข้าไปใกล้แล้วเอ่ยถามร่างสูงโปร่ง
ยืนใกล้กันมากเท่าไรก็ยิ่งเห็นความหล่อเหลาของเขา ยิ่งได้ชิดใกล้ก็ยิ่งแอบชอบคิม คิบอมมากขึ้นเท่านั้น
“ตั้งแต่คุณจอดรถแล้วเดินไปคุยกับทงเฮนั่นแหละ”
“แล้วทำไมคุณไม่เข้าไปล่ะ ถ้าคุณไปคุยกับทงเฮ เขาอาจจะยอมคุยด้วยก็ได้”
“ถ้าเป็นแบบนั้นก็ดีน่ะสิ” คิบอมก้มหน้า แต่ฮยอกแจก็ยังมองเห็นเสี้ยวหน้าที่ฉายแววความโศกเศร้าออกมาอย่างชัดเจน
“พอทงเฮรู้ว่าเป็นผม เขาไม่ยอมเปิดประตูเลยด้วยซ้ำ”
คิบอมบอกฮยอกแจอย่างผิดหวัง ฮยอกแจเองก็จนปัญญาเช่นกัน แต่ยังไงโลกก็ไม่ได้จะแตกวันนี้เสียหน่อย ถ้าพรุ่งนี้เขามาอีก ทงเฮอาจจะยอมคุยกับเขาก็ได้
“กลับบ้านเถอะ เดี๋ยวผมไปส่ง” ฮยอกแจบอกก่อนจะเดินอ้อมไปขึ้นรถ ทว่าคิบอมกลับรั้งข้อมือเอาไว้
แต่เพียงแค่ปลายนิ้วแตะกัน ใบหน้าหวานก็แดงเรื่อ
“คุณกลับไปก่อนเถอะ ผมจะอยู่รอจนกว่าทงเฮจะเข้านอน”
แววตาของฮยอกแจเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วเมื่อคิบอมพูดจบ รู้ทั้งรู้ว่าคิบอมรักใคร แต่สุดท้าย...อี ฮยอกแจก็ยังหักห้ามใจตัวเองไม่ได้
ร่างบางเดินเข้าไปนั่งในรถ มองดูคิบอมที่เอาแต่จ้องมองไปยังหน้าต่างห้องนอนที่ยังเปิดไฟอยู่ ก่อนจะถอยรถยนต์ของตัวเองออกมาช้าๆ พร้อมด้วยน้ำตาที่รินไหลเป็นสาย
“คยูฮยอน จำร้านตัดชุดแต่งงานที่เราเคยไปได้ไหม พี่ตั้งใจมาตลอดว่าถ้าพี่หาทางกลับมาที่นี่ได้ พี่จะแต่งงานกับคยูฮยอนให้เร็วที่สุด”
ยองอุนบอกด้วยรอยยิ้มที่มีความสุข แต่คยูฮยอนกลับยิ้มบางๆ ยิ้ม...เฉพาะริมฝีปากของเขาเท่านั้น
หนึ่งปีที่ผ่านมา ยองอุนหายตัวไปเพราะถูกส่งตัวไปช่วยรบที่ชายแดนเกาหลีเหนือ เขาบาดเจ็บอยู่ระยะหนึ่ง แม้จะอยากส่งข่าวคราวมาให้คนที่รัก แต่มันก็ดูยากเย็นเสียเหลือเกิน
ต่อให้มีอินเทอร์เน็ตหรือโทรศัพท์ แต่ยองอุนก็ไม่อาจจะปลีกตัวมาทำเรื่องส่วนตัวเล็กๆ น้อยๆ แบบนี้ได้
“เรา...เลื่อนงานแต่งงานออกไปก่อนได้ไหมครับ” คยูฮยอนหันมาบอกคนรักเสียงสั่น
“ทำไมล่ะ หรือเป็นเพราะ...ผู้ชายคนนั้น?” แม้เสียงทุ้มจะเอ่ยถามด้วยความหึง แต่เขาก็ไม่ได้โกรธคยูฮยอน รวมทั้งไม่ได้โกรธผู้ชายที่ชื่อซีวอนด้วยเลย
คยูฮยอนเล่าให้ยองอุนฟังหมดแล้วว่าตลอดเวลาที่ยองอุนไม่อยู่ ชเว ซีวอนคอยดูแลคนรักของเขาอย่างไรบ้าง ยองอุนผิดเองที่หายไป
และดูเหมือนว่า...เขาก็จะทำผิดอีกครั้ง
...ที่กลับมา
“ไม่ใช่เพราะเขาหรอกครับ ผมแค่อยากให้คนอื่นรู้ก่อนว่าพี่ยองอุนกลับมาแล้ว”
“นั่นสินะ พี่ใจร้อนอยากแต่งงานกับนายจนลืมเรื่องนี้ไปเลย หายไปเป็นปี คนรู้จักคงลืมพี่กันหมดแล้ว”
ยองอุนบอกพลางคลอเคลียมือหนาที่แก้มนุ่มของคนรัก ดึงร่างที่นอนหนุนแขนแกร่งให้ซุกเข้ามาอ้อมกอดให้มากขึ้น คยูฮยอนซบใบหน้าหวานกับอกกว้างของยองอุน
มันกว้างและอบอุ่นมากเหลือเกิน
แต่ทำไมคยูฮยอนถึงได้เอาแต่นึกถึงผู้ชายอีกคน
ซีวอนจะไปนอนที่ไหน เขาไม่มีบ้านที่เกาหลี ครอบครัวของซีวอนย้ายไปอยู่ต่างประเทศกันหมดแล้ว ถ้าเป็นโรงแรมก็คงต้องเหงามากแน่ๆ
เพราะขนาดคยูฮยอนที่นอนอยู่บ้านโดยไม่มีซีวอน
คยูฮยอนก็ยังเหงาเลย
เช้าวันต่อมา
ฮยอกแจมาทำงานที่ร้านตัดชุดแต่งงานของฮีชอลด้วยหน้าที่อิดโรย ใบหน้าหวานที่เคยสดใสดูหมองคล้ำ แถมขอบตาก็บวมเป่งราวกับคนที่ผ่านการร้องไห้ตลอดทั้งคืน
“เมื่อคืนร้องไห้มาหรือไง?” ฮีชอลที่กำลังออกแบบชุดแต่งงานของเจ้าสาวเงยหน้าขึ้นมาทัก
“เปล่าครับ”
“ยังมาปฏิเสธอีก พี่ชายนายเขาไม่ถามบ้างหรือไงว่าเป็นอะไร” แม้ปากจะเอ่ยถาม แต่มือเรียวก็ยังคงตัดผ้าไหมสเปนสีขาวสะอาดอย่างคล่องแคล่ว
“พี่จองซูออกมาเปิดร้านตั้งแต่เช้าแล้วครับ”
“เป็นพี่ภาษาอะไรนะไม่สนใจน้องชายตัวเองบ้างเลย”
“แล้วพี่ฮีชอลสนใจพี่จองซูด้วยเหรอครับ?”
ฮยอกแจเอ่ยแซว แม้ว่าแววตาจะยังเศร้าสร้อยเช่นเดิม แต่ก็อดที่จะส่งอารมณ์ขันไปให้ฮีชอลตั้งแต่เช้าไม่ได้
“ไม่ตลกเลยนะ” เสียงหวานตวัดตอบ หากแต่สายตากลับเหลือบมองคนที่อยู่ร้านฝั่งตรงข้าม
“ปากแข็งกันทั้งคู่เลย”
“ใครปากแข็ง พี่เนี่ยนะเป็นคนปากแข็ง มาจับดูได้เลย ปากพี่ออกจะนุ่มนิ่ม”
“แถจนสีข้างพังหมดแล้วล่ะครับพี่ฮีชอล” ท่าทางร้อนเนื้อร้อนตัวของฮีชอลทำให้ฮยอกแจยังหัวเราะออกมาได้บ้าง แต่กลายเป็นฮีชอลเสียเองที่เกิดอาการหงุดหงิดตั้งแต่เช้า
“ไม่ต้องพูดเลย ไปเช็คของได้แล้ว เมื่อเช้าลูกค้าเอาชุดแต่งงานมาคืน ไปตรวจดูสิว่ามันเรียบร้อยหรือเปล่า”
“คร้าบบบบ”
ฮยอกแจขานรับเสียงยาว ฮีชอลมองตามคนตัวเล็กไปด้านหลังร้าน มันคงจะดีกว่านี้ถ้าดวงตาของฮยอกแจกลับมาสดใสเหมือนเมื่อก่อน
อยากรู้นักว่าคนที่ขโมยหัวใจของฮยอกแจไปคือใคร
ถ้ารู้นะ...ฮีชอลจะไม่ปล่อยเอาไว้เลย
To be continue
ประเด็นคือ...ยุ่งมากจนลืมอัพ! ขอโทษด้วยค่ะ
ความคิดเห็น