ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic SJ] Strawberry Lee Donghae [EunHae, WonKyu]

    ลำดับตอนที่ #2 : chapter 1 ยินดีที่ได้รู้จักนะ...อี ทงเฮ

    • อัปเดตล่าสุด 10 มี.ค. 54


     

    Chapter 1

     

                ปัจจุบัน...

     

                ไม่ต้องไปสนใจคำพูดหรือสายตาเหยียดหยามของใครหรอกลูก ทงเฮมีแม่อยู่ตรงนี้ ไม่ว่าใครจะว่ายังไง แม่ก็จะอยู่ข้างทงเฮเสมอ

     

                คำพูดของแม่ยังคงวนเวียนอยู่ในความคิดตั้งแต่ทงเฮก้าวออกมาจากบ้าน ใบหน้าหวานแหงนมองตึกเรียนที่ตั้งตระหง่านอยู่ตรงหน้า นี่น่ะเหรอมหาวิทยาลัยที่แม่ของเขาอยากให้เรียน

     

                มหาวิทยาลัยเอกชนที่ขึ้นชื่อมากที่สุดในประเทศเกาหลี

     

                แม่ไม่ต้องห่วงหรอกครับ ผมจะใช้ชีวิตในแบบของผมเอง มือเรียวกระชับกระเป๋าสะพายไว้ให้แน่น ก่อนจะก้าวเดินออกไปด้วยความมั่นใจ ในเมื่อมันเป็นความต้องการของแม่ ในเมื่อเขายืนอยู่ในมหาวิทยาลัยแห่งนี้แล้ว อี ทงเฮจะต้องผ่านอุปสรรคทุกอย่างไปให้ได้

     

                เสียงเครื่องยนต์ของรถสปอร์ตสีดำสนิทคันหนึ่งเร่งเครื่องผ่านมาทางทงเฮ ก่อนจะจอดลงด้วยระบบเบรคอย่างดี ร่างโปร่งชะงักกึกอยู่บนฟุตบาทเพราะรถคันหรูที่จอดขวางไว้ทำให้เขาข้ามถนนไปอีกฝั่งไม่ได้ กระจกที่ติดฟิล์มมืดสนิทค่อยๆ เลื่อนลงอย่างช้าๆ เผยให้เห็นใบหน้าที่หล่อเหลาของใครบางคนอยู่ด้านใน

     

                ขึ้นมาสิ!” เสียงนั้นออกคำสั่งด้วยรอยยิ้ม ทงเฮได้แต่อ้าปากค้างด้วยความอึ้ง

     

                ผ...ผมเหรอครับ? มือเรียวชี้เข้าหาตัวเองเพื่อเอ่ยถามอีกครั้งให้แน่ใจ

     

                ซีวอน~ มาแล้วเหรอ? เสียงสดใสจากทางด้านหลังทำให้ทงเฮหันกลับไปมอง ร่างสูงเพรียวของชายคนหนึ่งเดินตัดหน้าทงเฮไป ก่อนจะเปิดประตูเข้าไปนั่งบนรถ ทงเฮไม่อาจเดาได้เลยว่าคนที่ผมยาวประบ่าขนาดนั้นเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายกันแน่ ดวงตาสีดำภายใต้กรอบตาเรียวมองตามรถยนต์คันนั้นออกไป

     

                มันจะเป็นไปได้ยังไงที่เขาจะขึ้นไปนั่งรถหรูๆ เช่นนั้น

     

                มัวยืนใจลอยอะไรอยู่น่ะ ไม่ไปเรียนหรือไง

     

                หืม? ทงเฮผงะเมื่อผู้ชายตัวสูงคนหนึ่งเอ่ยทักทายเขาจากทางด้านหลัง

     

                ฉันพูดกับนายนั่นแหละ ไม่ไปเรียนเหรอไง

     

                กะ...ก็กำลังจะไปน่ะ เอ่ยตอบไปด้วยความงุนงง ก่อนจะยกมือขึ้นเกาศีรษะแกรกๆ

     

                งั้นก็ไปด้วยกันเลยสิ ยังไงเราก็ต้องเรียนวิชาพื้นฐานด้วยกันอยู่แล้ว ชายคนนั้นถือวิสาสะจับมือของทงเฮให้เดินออกไปด้วยกัน ร่างบางทำท่าจะขัดขืนในตอนแรก แต่ก็ต้านทานแรงของอีกฝ่ายไม่ไหว

     

                รู้ได้ไงว่าฉันต้องเรียนวิชาพื้นฐาน

     

                เด็กปีหนึ่งทุกคนก็ต้องเรียนวิชาพื้นฐานทั้งนั้นแหละ ชายแปลกหน้าที่เพิ่งพบกันเป็นครั้งแรกเอ่ยตอบอย่างสนิทสนมราวกับว่ารู้จักกันมานานแสนนาน ฉันชื่อคิม คิบอมนะ นายล่ะ?

     

                ฉันเหรอ? ทงเฮ...อี ทงเฮ

     

                ชื่อน่ารักดีนะ แต่ไม่คุ้นชื่อนี้มาก่อนเลยแฮะ ผู้ชายที่ชื่อคิบอมบ่นพึมพำอยู่คนเดียว ในขณะที่ทงเฮได้แต่มองเสี้ยวหน้าคมของอีกฝ่ายด้วยความงุนงง

     

     

     

                ภายในรถยนต์คันนั้น...

     

                วันนี้นายมีเรียนไม่ใช่หรือไง เสียงหวานเอ่ยถามในขณะที่มือเรียวก็คลอเคลียอยู่ที่ข้างแก้มของคนรักไม่ห่าง

     

                ผมไม่อยากให้พี่ฮีชอลเดินทางคนเดียวนี่ครับ แฟนของผมน่ารัก เดี๋ยวมีคนขโมยไปผมก็แย่น่ะสิ

     

                ปากหวานอีกแล้วนะเรา คิม ฮีชอลหยิกแก้มของซีวอนด้วยความหมั่นเขี้ยว ก่อนจะชักมือมาวางไว้บนตักของตัวเอง

     

                ผมพูดขนาดนี้ พี่จะไม่ให้รางวัลผมหน่อยเหรอมือแกร่งดึงมือเรียวของคนรักไปจับไว้อย่างแสดงความเป็นเจ้าของ ซ้ำยังส่งสายตาหวานหยาดเยิ้มมาให้จนอีกฝ่ายแทบจะละลายไปเสียเดี๋ยวนั้น

     

                นายมันเจ้าเล่ห์

     

                นะน้าที่รักของผม ถ้าพี่ไม่ให้รางวัลผมตอนนี้ ผมต้องขาดใจตายแน่ๆ

     

                ทำตัวเป็นเด็กไปได้ซีวอน ฮีชอลบ่นด้วยน้ำเสียงรำคาญ แต่ริมฝีปากสีสดกลับยื่นไปสัมผัสแก้มเนียนของซีวอนเต็มความรัก และซีวอนก็ยกมือของอีกฝ่ายขึ้นมาสูดดมความหอมเช่นเดียวกัน คราวนี้พอใจหรือยังล่ะ?

     

                พอใจที่สุดในโลกเลยครับ ผมรักพี่นะ

     

                รู้แล้วล่ะน่า แล้วเย็นนี้ไม่ต้องมารับหรอกนะ เดี๋ยวพี่ให้คนขับรถที่บ้านมารับเอง

     

                แต่ว่า...

     

                ไม่มีแต่ทั้งนั้น รีบกลับไปเรียนซะ นี่เป็นคำสั่ง เสียงหวานเปลี่ยนเป็นทรงพลังขึ้นมาจนซีวอนรับรู้ได้ ฮีชอลก้าวลงไปจากรถแล้วโบกมือลาคนรัก แต่เมื่อเขาหมุนตัวหายเข้าไปในสตูดิโอแล้ว ซีวอนก็หักพวงมาลัยกลับไปยังบ้านของตัวเองทันที

     

     

     

                คิบอมจูงมือทงเฮเดินมาจนถึงห้องเรียนวิชาพื้นฐาน นักศึกษาในห้องต่างหันมาให้ความสนใจกับชายหนุ่มทั้งสองที่เดินเข้ามาด้วยกัน มีหลายคนที่ดวงตาแพรวพราวเมื่อเห็นคิบอม ผู้ซึ่งเป็นทายาทของบริษัทส่งออกโทรศัพท์มือถือที่ใหญ่ติดอันดับห้าของประเทศ ในขณะที่หลายๆ คนก็แปลกใจกับชายหนุ่มหน้าหวานที่เดินเข้ามากับคิบอมไม่น้อย

     

                คิบอม มานั่งตรงนี้สิ อี ซองมินลูกชายคนเดียวของมาเฟียอี จุนฮวากวักมือเรียกคิบอมด้วยน้ำเสียงออดอ้อนออเซาะ แต่คิบอมกลับไม่ได้ปรายตามองเลยสักนิดเดียว

     

                ดูเหมือนเขาจะไม่สนใจนายเลยนะซองมิน เสียงผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้น ทำให้ซองมินต้องหันไปถลึงตาใส่ ก่อนจะเชิดหน้าขึ้นอย่างไม่ยี่หระแล้วพูดจาเสียงดัง

     

                ฉันก็ไม่ได้สนใจคิม คิบอมนักหรอก เพราะในใจฉันก็มีฮยอกแจอยู่แล้ว

     

                คำพูดนั้นทำให้ทงเฮสะดุ้งเฮือก ฮยอกแจ? อี ฮยอกแจก็เรียนที่มหาวิทยาลัยนี้ด้วยอย่างนั้นเหรอ ทงเฮเพิ่งตระหนักได้ว่าพ่อของฮยอกแจก็เป็นเจ้าของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งอยู่ และเพราะเหตุผลนี้นี่เองทำให้เขาเข้ามายืนอยู่ที่นี่ได้ เพราะแม่เไปขอร้องพ่อของฮยอกแจเอาไว้สินะ ช่างน่าขายหน้าจริงๆ

     

                นั่งตรงนี้กันเถอะทงเฮ เสียงของคิบอมทำให้ทงเฮหลุดออกจากภวังค์ ร่างบางหันไปก่อนจะทิ้งตัวนั่งลงบนเก้าอี้ตัวหนึ่งด้วยสติที่ไม่อยู่กับร่องกับรอยเท่าใดนัก ซองมินหันมามองทงเฮด้วยสายตาขี้อิจฉา ก่อนจะเบิกตาโพลงเมื่อทงเฮหันไปสบตากับเขาเข้าพอดี ร่างอวบถึงกับก้มหน้าก้มตาเพราะทำอะไรไม่ถูก ในขณะที่เพื่อนผู้หญิงคนเดิมแตะต้นแขนของซองมินด้วยความงุนงง

     

                นายรู้จักผู้ชายหน้าหวานคนนั้นด้วยเหรอ

     

                ไม่! ฉันจะไปรู้จักคนชั้นต่ำแบบนั้นได้ยังไง เสียงที่ดังลั่นของซองมินทำให้ทั้งห้องเรียนเงียบกริบลงไปในทันที คิบอมหันมองซองมินและทงเฮสลับกันไปมา ก่อนจะนั่งดูสถานการณ์นิ่งๆ เพื่อคอยเก็บข้อมูล

     

                ฉันชื่อทงเฮ ไม่ใช่คนชั้นต่ำ ทงเฮยืนขึ้นตอบโต้อย่างโมโหเพราะทนสายตาของเพื่อนคนอื่นๆ ไม่ไหว

     

                ก็หน้าตาของนายมันดูจนนี่นา แล้วอีกอย่างฉันก็ไม่คุ้นชื่อนายด้วย ถ้านายเป็นลูกคนรวย ฉันก็ต้องรู้จักนายน่ะสิ ซองมินตอบอย่างตะกุกตะกัก ในขณะที่ทุกคนบริเวณนั้นได้แต่อ้าปากค้างกับสิ่งที่ซองมินกำลังพูด

     

                ที่ไม่คุ้นก็เพราะว่าครอบครัวของฉันกับนายมันคนละชั้นกันไงล่ะ บ้านของนายก็คงทำแค่ธุรกิจส่งออกธรรมดา เทียบลูกชายของท่านทูตอย่างฉันไม่ได้หรอก ทงเฮยืนกอดอกเชิดหน้าขึ้นอย่างไม่ยอมแพ้ เขาบอกแล้วว่าเขาจะใช้ชีวิตในแบบของเขาเอง และไม่มีทางที่เขาจะยอมแพ้ให้กับคนพวกนี้อย่างเด็ดขาด

     

                งั้นเหรอ? ซองมินแค่นเสียงถาม ทว่าเพื่อนๆ กลับกรูกันเข้าไปทำความรู้จักกับทงเฮ

     

                ลูกท่านทูตเหรอ? ว้าว...นายชื่ออะไรน่ะ

     

                ผิวพรรณดีมากเลยนะเนี่ย นายคงไม่เคยออกแดดเลยล่ะสิ

     

                นายต้องไปต่างประเทศบ่อยแน่ๆ เลย น่าอิจฉาจัง

     

                เด็กศึกษาหลายคนต่างให้ความสนใจกับทงเฮเพราะหวังว่าตำแหน่งของลูกชายท่านทูตจะช่วยเหลือพวกเขาได้บ้างในอนาคต ทงเฮยิ้มหวานและทักทายเพื่อนอย่างเป็นมิตร ส่วนซองมินที่เคยเป็นที่รักของเพื่อนๆ ในห้องกลับกลายเป็นจุดดำๆ เล็กๆ ที่ไม่มีคนสนใจเลย

     

                ไม่มีอะไรทำกันแล้วเหรอไง จับกลุ่มคุยกันตั้งแต่ประถมยันมหาลัย ไม่เบื่อกันบ้างเหรอ

     

                เสียงทุ้มเบสของใครบางคนดังขึ้นจากทางหน้าชั้นเรียนทำให้นักศึกษาแยกย้ายกันไปนั่งประจำที่ของตนเอง วิสัยทัศน์ที่เปิดกว้างออกเหมือนม่านของโรงละครทำให้ทงเฮถึงกับนั่งอ้าปากค้างอยู่กับที่ ผู้ชายคนนั้น คนที่เขาเคยจากมาเมื่อหกปีก่อนกำลังยืนอยู่ตรงหน้าแล้ว มือข้างหนึ่งล้วงกระเป๋ากางเกง อีกข้างหนึ่งจับกระเป๋าสะพายไว้บนบ่า ขายาวก้าวมาทางทงเฮเรื่อยๆ ใกล้ขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งยืนหยุดอยู่ตรงหน้าร่างบาง

     

                ซีวอนยังไม่มาเรียนอีกเหรอ? คำถามสั้นๆ ถูกถามขึ้น หากแต่สายตาไม่ได้จับจ้องมาที่ทงเฮเลยแม้แต่นิด

     

    อี ฮยอกแจ...นายจำฉันไม่ได้เหรอ

     

    ฉันคืออี ทงเฮเพื่อนสนิทของนายไง

     

                เห็นออกไปกับพี่ฮีชอล คงไม่มาแล้วล่ะมั้ง นั่งก่อนสิเสียงคิบอมเอ่ยบอก ก่อนจะขยับตัวเบียดเข้ามานั่งแนบชิดกับทงเฮ ฮยอกแจจึงนั่งลงถัดไปจากคิบอม ใบหน้าที่คุ้นเคยอยู่ห่างกันแค่เอื้อมเท่านั้น แต่เพราะมีคิบอมนั่งกั้นระหว่างกลางเอาไว้ ทงเฮจึงไม่สามารถเอ่ยทักทายกับฮยอกแจได้ คิบอมเบี่ยงตัวหลบมาด้านหลังก่อนจะเอ่ยขึ้นเบาๆ นี่เพื่อนใหม่ของฉัน ชื่ออี ทงเฮ

     

                ชื่ออะไรนะ? ฮยอกแจมองหน้าเพื่อนแล้วเอ่ยถามซ้ำอีกครั้ง น้ำเสียงที่ดูตกใจเช่นนั้นทำให้หัวใจของทงเฮเต้นแทบไม่เป็นจังหวะ

     

                ทงเฮที่แปลว่าทะเลตะวันออกไง อี ทงเฮน่ะ คิบอมอธิบายเสียยืดยาวเพื่อให้เพื่อนได้ยินชื่อของเพื่อนใหม่อย่างชัดเจน ก่อนที่ใบหน้าคมเข้มจะหันมาบอกกับทงเฮบ้าง ส่วนนี่เพื่อนสนิทฉันเอง อี ฮยอกแจ

     

                สวัสดีอี ฮยอกแจ ทงเฮเอ่ยทักทายอย่างเป็นกันเอง และร่างเล็กก็หวังว่าฮยอกแจจะทักทายเขาอย่างเป็นกันเองกลับมาเช่นเดียวกัน ทว่าคำพูดที่เปล่งออกมาจากเรียวปากของฮยอกแจทำให้ร่างบางต้องก้มหน้างุดด้วยความผิดหวัง

     

                ยินดีที่ได้รู้จักนะ...อี ทงเฮ

     

     

     

     

    Talk with Lee Seen

                มาถึงตอนแรก ฮยอกแจก็ทำเฉยชากับทงเฮซะแล้ว

    แต่ไม่ต้องห่วงนะคะ ตอนนี้อะไรให้เซอร์ไพรส์แน่นอน

    จะเปิดตัวคยูฮยอนอย่างอลังการ

    และคู่ทึกชอลด้วยค่ะ(เรื่องนี้จองซูเมะแน่นอน)

    ส่วนทงเฮกับฮยอกแจจะเป็นยังไงต่อไปนั้น

    ช่วยติดตามด้วยนะคะกับเรื่อง

    อี ทงเฮ ยอดคน จอมลวงโลก...โลก...โลก...โลก...

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×