ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic SJ] Sorry, My Juliette [Bumhyuk, WonKyu, TeukChul]

    ลำดับตอนที่ #15 : Sorry,My Juliette - Chapter 15

    • อัปเดตล่าสุด 19 ก.ย. 54


     

    Chapter 15

     

                หลังจากฮยอกแจกลับมาบอกซีวอนเรื่องทงเฮแล้ว วันนี้พวกเขาทั้งสี่คนก็นั่งเจ้าแคนดี้ของฮยอกแจไปที่โรงพยาบาลที่ทงเฮเคยเข้ารักษา

     

                ฮยอกแจเป็นคนขับ

     

                พื้นที่ด้านหลังเป็นที่นั่งของซีวอนกับทงเฮ

     

                แต่เบาะนั่งข้างคนขับกลับว่างเปล่า

     

                ทุกคนในรถรู้ดีว่ามันเป็นที่นั่งของใคร

     

                “วันนั้นมีคนอุ้มคุณทงเฮมา เขาบอกว่าคุณเดินร้องไห้ออกมาจากบ้าน จากนั้นก็สลบไป”

     

                “แล้วคนที่พาทงเฮมาส่งเป็นใครเหรอครับ?”

     

                ฮยอกแจถาม บางทีคนที่พามาอาจจะเป็นคนรู้จัก หรือว่า...อาจจะเป็นคิบอมก็ได้

     

                “คนขับแท็กซี่น่ะครับ เขาบอกว่าขับไปส่งลูกค้าแถวนั้นพอดี”

     

                คำพูดนั้นทำให้ทุกคนที่นั่งอยู่รู้สึกผิดหวัง แต่อย่างน้อยพวกเขาก็รู้แล้วว่าวันที่ทงเฮสลบเป็นเพราะทงเฮรู้เรื่องอะไรบางอย่าง

     

                “คิบอมนอกใจคุณหรือเปล่า?” ฮยอกแจหันไปถามร่างบาง แต่ทงเฮจำคิบอมไม่ได้เลย เขาทำได้เพียงแค่ส่ายหน้า

     

                “ผมไม่เคยนอกใจทงเฮนะ” คิบอมเถียง

     

                ฮยอกแจไม่อยากจะทำให้คุณหมอตกใจ เขาจึงกล่าวลาและพากันเดินออกมาจากโรงพยาบาล

     

                “ผมคิดว่าที่ทงเฮจำอะไรไม่ได้เป็นเพราะช็อคจากอะไรบางอย่าง” ซีวอนเอ่ยขึ้น เขาประคองทงเฮที่เดินไม่ค่อยมั่นคงนัก

     

                ความจริงหน้าที่นั้นควรจะเป็นคิบอม

     

                แต่คิบอมไม่สามารถสัมผัสตัวทงเฮได้

     

                มือหนาของคิบอมจึงเอื้อมมาบีบมือฮยอกแจไว้เท่านั้น

     

                “ทงเฮต้องเสียใจเรื่องคิบอมแน่ๆ เลย แต่ว่า...มันเรื่องอะไรล่ะ?” ฮยอกแจบ่นกับตัวเอง ทำไมถึงคิดไม่ออกนะ

     

                ทว่าในขณะที่กำลังจะเปิดประตูรถออก ภาพเมื่อวันที่ฮยอกแจออกไปตามหาคิบอมและเกือบขับรถพุ่งชนกับรถบรรทุกก็แวบเข้ามาในหัวจนฮยอกแจล้มลง

     

                “อ๊ะ!

     

                “ฮยอกแจ...เป็นอะไรหรือเปล่า?”

     

                คิบอมเอ่ยถาม ซีวอนกับทงเฮเบิกตากว้างเมื่อเห็นว่าร่างของฮยอกแจทำท่าเหมือนจะล้มลงบนพื้น แต่สุดท้ายก็ทรงตัวขึ้นมาได้ราวกับมีคนคอยประคองไว้

     

                “ผมแค่รู้สึกแปลกๆ น่ะ”

     

                “งั้นรีบกลับบ้านกันเถอะ คุณบอกให้เพื่อนขับรถให้สิ” คิบอมแนะนำ หากแต่ฮยอกแจกลับส่ายหน้า

     

                “ซีวอนรีบพาทงเฮขึ้นรถเถอะ เดี๋ยวฉันจะไปส่งทงเฮที่บ้าน”

     

                “ให้ฉันขับให้ไหม?” ซีวอนเอ่ยถามเมื่อเห็นสีหน้าฮยอกแจไม่สู้ดีนัก

     

                “ไม่เป็นไร นายนั่งอยู่กับทงเฮเถอะ”

     

                “ฉันไม่ได้เป็นอะไรนะฮยอกแจ แค่ความจำเสื่อม ไม่ต้องเป็นห่วงกันขนาดนั้นก็ได้”

     

                ทงเฮเอ่ยด้วยเสียงกลั้วหัวเราะเพื่อให้สถานการณ์มันคลายความตึงเครียดลง แต่เหมือนจะไม่ช่วยอะไร คิบอมหันไปมองเสี้ยวหน้าของคนรักอย่างเป็นห่วง

     

                แต่เมื่อหันกลับมามองใบหน้าหวานของฮยอกแจ

     

                ความเป็นห่วงกลับเพิ่มขึ้นอย่างทวีคูณ

     

                ทำไมกัน?

     

     

     

                ฮยอกแจขับรถเพียงไม่กี่นาทีก็มาถึงบ้านของทงเฮ เขาเอ่ยลาและชวนซีวอนกลับขึ้นรถ แต่ซีวอนกลับส่ายหน้าและเดินไปยืนหน้าบ้านของทงเฮแทน

     

                “ไม่กลับเหรอ?” ฮยอกแจถามเมื่อเห็นทงเฮเดินเข้าไปในบ้านแล้ว

     

                “ฉันอยากอยู่เป็นเพื่อนทงเฮ” คำตอบของซีวอนทำให้ฮยอกแจหันไปมองสีหน้าของคิบอม

     

                “ฉันเข้าไปรอในรถนะ มีเรื่องจะคุยด้วย”

     

                คิบอมเดินเข้าไปรอในรถ ฮยอกแจจึงหันกลับมาหาเพื่อนอีกครั้งอย่างเอาเรื่อง

     

                “นายเป็นอะไรกับทงเฮ ทำไมจะต้องอยู่เฝ้าเขาด้วย?”

     

                “ฉันเป็นห่วง ไม่อยากให้ทงเฮอยู่คนเดียว” ซีวอนตอบ

     

                “นายไม่ได้ชอบทงเฮใช่ไหม?” ฮยอกแจระแวง ร่างบางก็แค่กลัวว่าคิบอมจะเสียใจที่ซีวอนมาชอบคนรักของเขา ฮยอกแจแคร์ความรู้สึกของคิบอมมากที่สุด

     

                “ฉันเพิ่งรู้จักกับทงเฮเองนะ จะชอบได้ยังไง”

     

                “แต่นายกับทงเฮทำท่าทางเหมือนชอบกัน”

     

                “ฮยอกแจ...” ซีวอนเอื้อมมือหนามาแตะไหล่ของเพื่อนเอาไว้ “คนที่ฉันรักมีเพียงคยูฮยอนคนเดียวเท่านั้น”

     

                “โอเค...ฉันจะเชื่อนาย”

     

                ฮยอกแจรู้ว่าซีวอนไม่เคยพูดโกหก ซีวอนเป็นคนดีเสมอทั้งต่อหน้าและลับหลัง ทั้งคนที่รู้จักและคนที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อนเลย

     

                เหมือนกับที่ซีวอนดีกับทงเฮอย่างตอนนี้

     

                “ทงเฮบ่นว่าเขาไม่อยากมีชีวิตอยู่อย่างทรมาน ฉันกลัวว่าเขาจะคิดสั้น”

     

                คำบอกเล่าของซีวอนทำให้ใจของฮยอกแจหล่นวูบ ไม่คิดว่าทงเฮจะเปิดใจคุยกับซีวอนมากขนาดนี้ ฮยอกแจจึงยอมให้เพื่อนสนิทอยู่ดูแลทงเฮต่อไป

     

                เพราะเขาเองก็กลัวว่าทงเฮจะคิดสั้นเช่นกัน

     

     

     

                คิบอมบอกว่ามีอะไรจะพูดกับฮยอกแจ แต่หลังจากที่ฮยอกแจขับรถออกมาได้สักพักแล้ว คิบอมก็ไม่ยอมปริปากพูดอะไรออกมาแม้แต่คำเดียว

     

                ฮยอกแจคิดว่าเขาพอจะรู้ว่าคิบอมเป็นอะไร

     

                คิบอมคงเสียใจเรื่องทงเฮ

     

                “ผมขอโทษที่แนะนำซีวอนกับทงเฮให้รู้จักกัน” ฮยอกแจจอดรถข้างทางแล้วเอ่ยบอกด้วยความรู้สึกผิด สุดท้ายเขาก็กลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่ได้ ใบหน้าหวานซบลงกับพวงมาลัยแล้วปล่อยให้น้ำตาอุ่นไหลออกมามากมาย

     

                เขาจะขอโทษคิบอมมากแค่ไหน

     

                แต่มันก็ไม่สามารถย้อนอดีตได้อีกแล้ว

     

                “คุณไม่ผิดสักหน่อย”

     

                “ฮึก...แต่ทงเฮกับซีวอนเขามีบางอย่างที่เราไม่รู้ ทั้งสองคนมองกันด้วยสายตาแปลกๆ”

     

                “เหมือนที่คุณมองผมแปลกๆ น่ะเหรอ?”

     

                คิบอมเอ่ยขึ้น ฮยอกแจผละออกจากพวงมาลัยแล้วหันไปสบตากับคิบอม ดวงตาคู่สวยเบิกกว้างอย่างตกใจ

     

                “คุณรู้?”

     

                “ผมรู้เสมอว่าใครรักและหวังดีกับผม ผมมองตาคุณก็รู้หมดแล้วว่าคุณคิดยังไง”

     

                ฮยอกแจกัดปากแน่น เขาไม่อยากเป็นคนเลวในสายตาของใคร

     

                เขายอมเจ็บปวดที่ได้แค่แอบรัก

     

                เพราะมันดีกว่าการปล่อยให้คนอื่นที่ไม่รู้เรื่องต้องเจ็บปวดไปกับเขา

     

                “พอเถอะฮยอกแจ เลิกช่วยผมกับทงเฮได้แล้ว”

     

                “คุณเป็นคนขอร้องผมเองไม่ใช่เหรอ?” ฮยอกแจเอ่ยถามด้วยแววตาเลื่อนลอย เขารู้สึกเหมือนตัวเองเป็นโรคจิตที่ปล่อยให้เรื่องของคิบอมและทงเฮผ่านไปไม่ได้

     

                ทุกๆ วันมีแต่ความเจ็บปวด

     

                แต่ฮยอกแจก็ยังดันทุรังช่วยเหลือคนอื่น

     

                “ถ้าผมรู้ว่ามันจะทำให้คุณต้องร้องไห้ ผมจะไม่ขอร้องคุณเลย...ผมจะไม่เดินเข้ามาหาคุณตั้งแต่แรก”

     

                “แล้วคุณมีทางเลือกอื่นด้วยเหรอคิบอม?”

     

                คิบอมเงียบลง นั่นสินะ เขาไม่มีทางเลือกเลยด้วยซ้ำ เพราะคนที่เห็นเขามีเพียงคนเดียวนั่นคือฮยอกแจ เพราะคนที่สามารถช่วยเขาได้ก็มีเพียงคนเดียวนั่นคือ...อี ฮยอกแจ

     

                สวรรค์ทำไมต้องโหดร้ายกับผู้ชายคนนี้

     

                “อย่าทำให้หัวใจของตัวเองมันเจ็บปวดไปมากกว่านี้ เพราะถ้าหัวใจมันถูกทำลายไปจนหมด สุดท้ายมันจะไม่เหลือไว้ให้รักใครได้อีก” คิบอมพูด

     

                “แต่คุณก็รู้นี่...ว่าผมรักคุณ!” ฮยอกแจตะโกนลั่น

     

                “ถ้าผมเป็นคุณ ผมจะไม่ทำแบบนี้” คิบอมหันไปจับไหล่ฮยอกแจแล้วเอ่ยบอก ทำไมฮยอกแจถึงดื้อรั้นเหลือเกิน มีใครบอกหรือเปล่าว่าผู้ชายตัวเล็กคนนี้ฤทธิ์เยอะมากขนาดไหน

     

                “ผมจะช่วยให้คุณกับทงเฮกลับมาเป็นเหมือนเดิมให้ได้”

     

                “แต่มันจะทำให้คุณเจ็บ”

     

                “ผมยอมเจ็บ...เพื่อคุณ!

     

                “แต่ผมจะไม่ยอม...” คิบอมดึงร่างเล็กเข้ามาโอบกอดเอาไว้แน่น ฮยอกแจได้แต่ปล่อยให้หยาดน้ำตารินไหลออกมาเป็นสาย

     

                ถ้าหากเขาสามารถขอพรสวรรค์ได้สักข้อ

     

                ฮยอกแจอยากขอให้สวรรค์ช่วยหยุดเวลาที่มีความสุขนี้เอาไว้

     

                เขาอยากให้คิบอมกอดตัวเองไว้แบบนี้...

     

                แบบนี้...ตลอดไป

     

                “ขอบคุณนะคิบอม ขอบคุณที่ทำดีกับผมแม้ว่าคุณจะไม่ได้รักผมเลยก็ตาม”

     

                คิบอมผละออกช้าๆ จ้องหน้าที่มีแต่คราบน้ำตา นิ้วเรียวไล้ไปทั่วแก้มใสเพื่อเช็ดน้ำตาออกจากใบหน้าหวานอย่างแผ่วเบา

     

                “ถ้าผมจะรักคุณล่ะ?”

     

                คิบอมมั่นใจว่ามันไม่ใช่อารมณ์ชั่ววูบ เขาเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าตั้งแต่เมื่อไรที่เขามักจะมองหาฮยอกแจอยู่เสมอ ตั้งแต่เมื่อไรที่คิบอมเอาแต่หาทางมาพบกับฮยอกแจ

     

                ฮยอกแจเป็นเพียงผู้ชายคนเดียวที่มองหาแต่เขา

     

                แต่กับทงเฮ...

     

                คิบอมคิดว่าเขาควรจะพูดกับทงเฮแบบนั้นเพราะทงเฮคือคนที่เขากำลังจะแต่งงานด้วย

     

                เพราะทงเฮคือคนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นคนรักของเขา

     

                แต่ตอนนี้...ความรู้สึกมันเปลี่ยนไปหมดแล้ว

     

                “มันเป็นไปไม่ได้หรอกคิบอม”

     

                ฮยอกแจปฏิเสธแม้ว่าหัวใจมันจะเต้นระส่ำไม่เป็นจังหวะ เขาควรจะพูดออกไปแบบนี้ มันเป็นสิ่งที่เขาควรจะพูด แต่เมื่อคิบอมโน้มลงมาทาบทับริมฝีปากหยักกับเรียวปากของเขา

     

                ฮยอกแจกลับไม่คิดจะหลบหนีเลยสักนิดเดียว

     

     

     

                ภายในงานเลี้ยงแต่งงานที่จัดขึ้นกระทันหัน มีเพื่อนๆ ของคู่แต่งงานมาร่วมแสดงความยินดีมากพอสมควร และหนึ่งในนั้นก็มีเพื่อนสมัยมัธยมของเจ้าบ่าวรวมอยู่ด้วย

     

                “มาด้วยกันเหรอ?” เพื่อนคนหนึ่งถามขึ้นเมื่อเห็นฮีชอลและจองซูเดินเข้ามาในงานพร้อมกัน

     

                “เปล่า!” ฮีชอลเอ่ยบอก และสิ่งที่ยืนยันได้ดีกว่าคำพูดคือการที่จองซูนั่งอยู่ที่มุมหนึ่งของโต๊ะ ในขณะที่ฮีชอลนั่งฝั่งตรงข้ามกัน

     

                “นึกว่าคืนดีกันแล้วเสียอีก” อีกคนเปรยขึ้น ฮีชอลจึงชักสีหน้าอย่างไม่พอใจนัก ทั้งๆ ที่เตรียมใจไว้แล้วว่าจะต้องโดนเพื่อนๆ แซวเรื่องนี้   

     

                แต่พอถูกแซวจริงๆ ก็อดที่จะหงุดหงิดไม่ได้

     

                “ทำไมต้องคืนดีกัน ไม่ได้ทะเลาะกันสักหน่อย” จองซูบอก พลางรินเหล้าใส่แก้วที่วางอยู่ด้านหน้าตัวเอง

     

                “เฮ้ย! มาถึงก็รีบโซโล่เลยเหรอวะจองซู” เพื่อนที่นั่งอยู่ข้างๆ จองซูร้องทักอย่างตกใจ

     

                “คงจะทำใจไม่ได้สินะที่แฟนเก่ากำลังจะแต่งงาน” ฮีชอลประชด จองซูจึงกระดกเหล้ารวดเดียวหมดแก้ว ก่อนจะรินจนเกือบเต็มแก้วอีกครั้ง

     

                “ที่พูดแบบนั้นเพราะนายยังหึงฉันกับยองอุนอยู่ล่ะสิ” จองซูเอ่ยถาม

     

                “ทำไมฉันต้องหึง?!

     

                “ใจเย็นๆ สิสองคน ไหนบอกว่าไม่ได้ทะเลาะกันไง จะตีกันอีกแล้วเนี่ย”

     

                เพื่อนที่นั่งร่วมโต๊ะช่วยกันห้ามทัพ ฮีชอลกับจองซูจึงไม่ได้คุยอะไรกันอีกเลย ทั้งคู่แอบมองกันอยู่เรื่อยๆ เมื่อฮีชอลดื่ม จองซูก็ดื่ม เมื่อจองซูดื่มอีก ฮีชอลก็ไม่คิดจะยอมแพ้เช่นเดียวกัน

     

                “ฉันกลับล่ะนะ”

     

                ฮีชอลหันไปบอกเพื่อนๆ เมื่อทนสายตาจากจองซูไม่ไหว ร่างโปร่งลุกออกมาอย่างโซเซ ในที่สุดก็เดินไปจนถึงรถของตัวเองจนได้

     

                ไม่รู้ว่าฮีชอลจะรู้ตัวหรือเปล่า

     

                ว่ามีใครบางคนที่เขาเป็นห่วงและขับรถตามอยู่ด้านหลัง

     

                ฮีชอลโกรธ โกรธที่ตัวเองไม่เคยพูดดีกับจองซูเลยสักครั้ง เจอหน้ากันก็ไม่เคยพูดให้เข้าใจ เอาแต่ถือทิฐิเป็นใหญ่ สุดท้ายจากคนที่สนิทที่สุด ก็กลายเป็นคนที่เกลียดมากที่สุด

     

                อีกด้านหนึ่ง

     

                จองซูขับรถตามฮีชอลออกไปด้วยความเป็นห่วง

     

                ฮีชอลกำลังเมามาก แต่จองซูก็ลืมนึกไปว่าเขาเองก็ดื่มหนักเช่นเดียวกัน

     

                ในขณะที่รถของฮีชอลขับผ่านสี่แยกไปแล้วนั้น รถคันหลังที่ตามมาก็ไม่ได้สังเกตไฟจราจรเลยว่าตอนนี้มันเปลี่ยนเป็นสีแดงแล้ว

     

                ปริ๊นๆ

     

              เอี๊ยด!!!!!!!!!!!!

     

                เสียงล้อบดเบียดกับถนนดังลั่น ก่อนที่เสียงรถชนดังโครมครามอยู่ด้านหลังทำให้ฮีชอลมองผ่านกระจกไป เขาไม่เห็นหรอกว่ารถคันนั้นเป็นของใคร

     

                แต่หัวใจของฮีชอลกลับหล่นวูบ

     

                ถ้าเป็นจองซูล่ะ?

     

                ถ้าหากรถคันนั้นเป็นรถของ...ปาร์ค จองซู

     

    To be continue...        

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×