ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic SJ] Kiss the Rain [HaeEun, WonKyu]

    ลำดับตอนที่ #11 : Chapter 10

    • อัปเดตล่าสุด 8 พ.ย. 55


     

     

    Chapter 10

     

                ทงเฮรอฮยอกแจอยู่ที่โต๊ะนานมากแต่ฮยอกแจก็ยังไม่ออกมาสักที เขาจึงเดินเข้าไปตามในห้องน้ำ แต่พอกำลังจะเปิดประตูเข้าไป ฮยอกแจก็เปิดประตูสวนออกมา ใบหน้าหวานก้มงุดหลบสายตาของทงเฮ ทงเฮเองก็ไม่ทันสังเกตเห็นอาการเซื่องซึมเหล่านั้น

                “ทำไมหายไปนานจัง?” เขาถามขึ้นแล้วเดินนำกลับไปที่รถยนต์ส่วนตัวของตัวเอง ฮยอกแจไม่ได้ตอบ ได้แต่เดินไปขึ้นรถอย่างเงียบๆ

                พอนั่งอยู่ในรถ ฮยอกแจก็ไม่ยอมพูดอะไรอยู่ดี ไม่แม้แต่จะถามว่าคยูฮยอนกับซีวอนกลับไปตั้งแต่เมื่อไร

                “ฉันขอโทษนะที่พาคยูฮยอนมาด้วย ที่จริงฉันน่าจะทำอะไรซักอย่างไม่ให้พวกนายเจอกัน”

                ฮยอกแจไม่ตอบ แต่พอจะเดาได้ว่าทงเฮแคร์คยูฮยอนมาก และเพราะแคร์มากจึงรู้สึกผิดแบบนั้น ฮยอกแจจะกล้าเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับคยูฮยอนได้ยังไง

                ไม่ว่าจะมองมุมไหน

                ...เขาก็ผิด

                “นายอิ่มหรือเปล่า ถ้ายังไม่อิ่มบอกได้นะ กลับบ้านไปฉันจะต้มบะหมี่ให้กิน”

                “ฉันอิ่มแล้ว” ฮยอกแจพยายามบังคับเสียงตัวเองไม่ให้สั่นไปมากกว่านี้ เขาตอบคำถามเสร็จแล้วก็เบนหน้าหนีออกไปอีกทางทันที

                “นายไม่เป็นอะไรใช่ไหม?”

                “อืม”

                “พรุ่งนี้นายต้องไปทำงานนี่ พรุ่งนี้เช้าไม่ต้องทำงานบ้านก็ได้นะ คืนนี้นายพักผ่อนให้เต็มที่เถอะ”

                “ไม่เป็นไร”

                “...”

                “...” ทงเฮเริ่มรับรู้ถึงอาการเงียบที่ผิดปกติมากขึ้นทุกที

                “แล้ว...เอ่อ...นายได้โทรไปหาพ่อกับแม่บ้างหรือเปล่า เอาไว้วันหลังเราไปเยี่ยมพวกท่านกันนะ ตั้งแต่นายมาอยู่กับฉัน ฉันยังไม่มีโอกาสไปทำความเคารพท่านทั้งสองเลย”

                ฮยอกแจรู้สึกหายใจติดขัดมากขึ้นที่ทงเฮมาทำดีกับเขา ถ้าเป็นช่วงก่อนหน้าที่จะไปร้านอาหาร ฮยอกแจคงจะดีใจจนตัวลอยที่ได้ฟังประโยคนี้ เขาคงจะคิดไปว่าทงเฮเริ่มโอนอ่อนมาทางตัวเองบ้างแล้ว แต่เพราะรู้ว่าทงเฮก็แค่แกล้งทำไปเท่านั้นเอง

                ไม่ว่าอย่างไร...ทงเฮก็ไม่เคยรักเขา

                ไม่ว่าอย่างไร...คนที่ทงเฮรักก็มีเพียงคยูฮยอน

                และไม่ว่าอย่างไร...ของที่ไม่ใช่ของเขา มันก็คงจะไม่มีทางเป็นของเขาวันยังค่ำ

                ฮยอกแจเป็นคนขี้น้อยใจ พ่อกับแม่ก็มักจะบ่นอยู่เสมอ แถมยังอยากได้อะไรก็ต้องได้ เขาเอาแต่ใจตัวเองมาโดยตลอดตั้งแต่เล็กจนโต แม้แต่เรื่องที่อยากจะแต่งงานกับทงเฮ พ่อกับแม่ก็ห้ามไม่ได้

                แต่พอได้มาอยู่กับทงเฮแล้ว ฮยอกแจไม่กล้าแม้แต่จะเรียกร้องอะไรไปมากกว่านี้

                เขารู้สึกเหมือนตัวเองกำลังยืนอยู่ในที่ที่ไม่สมควรอยู่

                ฮยอกแจกำลังอยู่ในที่ที่ไม่ใช่ของตัวเอง

                น้ำตาหยาดอุ่นรื้นออกมาเต็มหน่วยตา ก่อนจะไหลรินเป็นทางยาวจนฮยอกแจไม่กล้าสู้หน้าทงเฮอีก

    ทงเฮ...อย่าดีไปมากกว่านี้เลย นายเคยเจ้าอารมณ์ไม่ใช่เหรอ นายเคยประกาศก้องว่ายังไงก็จะไม่มีทางรักฉันได้

                ถ้าไม่รัก...ถ้าอย่าทำให้ฉันคิดเข้าข้างตัวเอง

              อย่าทำแบบที่เป็นอยู่ตอนนี้...

                ทงเฮยังคงเอาแต่ถามคำถามและชวนฮยอกแจคุยไปเรื่อยเปื่อย หากแต่ฮยอกแจที่ถามคำตอบคำในตอนแรกกลับเงียบลงจนผิดสังเกต ความจริงทงเฮสังเกตเห็นตั้งแต่แรกแล้ว และเพราะแบบนั้นเขาถึงพยายามชวนคุยให้ฮยอกแจกลับมาสดใสร่าเริงเหมือนเดิม แต่มันก็ไม่เป็นผล

     

                เมื่อกลับมาถึงบ้าน ฮยอกแจก็รีบหนีลงจากรถแล้วเข้าห้องทันที ทงเฮดับเครื่องลงและเดินตามฮยอกแจขึ้นไปบนห้อง แต่ยิ่งเดินตามเท่าไร ฮยอกแจก็ยิ่งเร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้นเท่านั้น

                “ฮยอกแจ นายเป็นอะไรไป รอเดี๋ยวสิ...อี ฮยอกแจ!

                ทงเฮตามไปจนถึงหน้าห้องนอนของคนตัวเล็ก เขากระชากฮยอกแจกลับมาถามจนร่างบางเซถลามาชนหน้าอกของทงเฮเอง ฮยอกแจก้มหน้าไม่ยอมตอบ แต่พอทงเฮคาดคั้นอีกรอบ ใบหน้าหวานที่เปื้อนไปด้วยหยาดน้ำตาก็ค่อยๆ เงยหน้าขึ้น

                “นายร้องไห้ทำไม?” ทงเฮคลายมือที่จับแขนฮยอกแจลง เขามองอีกฝ่ายด้วยความไม่เข้าใจ แล้วฮยอกแจก็เอ่ยขึ้นเสียงเครือ

                “ที่นายยอมแต่งงานกับฉันก็เพราะว่านายต้องการคบกับคยูฮยอนเหรอทงเฮ นายไม่ได้โดนแม่บังคับ ไม่ได้ชอบฉัน แต่นายทำเพื่อคยูฮยอนเหรอ ทงเฮ...นายรักคยูฮยอนมากเลยใช่ไหม?”

                ทงเฮไม่รู้ว่าเขาปล่อยมือจากแขนฮยอกแจไปตั้งแต่เมื่อไร เขาจ้องหน้าของฮยอกแจอย่างตกใจ ทำไมฮยอกแจถึงรู้เรื่องนี้ ทำไมถึงรู้เรื่องจนหมดทุกอย่างในเมื่อเขามั่นใจว่าไม่เคยพูดเรื่องนี้ให้ใครฟัง

                ถ้าฮยอกแจได้ยินตอนที่เขาพูดกับจองซูก็น่าจะพูดออกมาตั้งแต่ตอนนั้นแล้วไม่ใช่เหรอ

                “ตอบมาสิทงเฮ ฉัน...ฮึก...ฉันรับได้ มันเป็นความจริงไม่ใช่เหรอที่นาย...นายทำทุกอย่างก็เพื่อคยูฮยอน...ฮือๆ”

                 ทงเฮพยักหน้ายอมรับช้าๆ ในขณะที่ฮยอกแจได้แต่ก้มหน้าร้องไห้อยู่ตรงนั้นราวกับจะขาดใจ มือบางยกขึ้นกุมหน้าอกข้างซ้ายที่มันเจ็บปวดจนเขาทรงตัวแทบไม่ไหว ฮยอกแจยกมือที่สั่นเทาไปจับลูกบิดประตู แต่ทงเฮกลับดึงร่างน้อยนั้นเข้ามากอดไว้แนบแน่น

                ฮยอกแจร้องไห้หนักยิ่งกว่าเดิมหลังจากถูกทงเฮกอด อาการเจ็บหน้าอกหายไป เหลือเพียงความอบอุ่นใจที่แทรกซึมเข้ามาในร่างกายทีละนิด

                การถูกคนที่ตัวเองรักกอด...ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดๆ ก็ตาม

                ฮยอกแจรู้สึกว่าเขาเป็นคนที่โชคดีมาก

                “ไปนอนกันเถอะนะ”

                ทงเฮลูบผมนุ่มช้าๆ แล้วพาฮยอกแจเดินเข้าไปในห้องของตัวเอง ตอนแรกฮยอกแจก็ไม่พูดอะไร แต่พอถูกทงเฮจับให้นั่งลงบนเตียง เสียงเล็กก็ถามไปสะอึกสะอื้นไป

                “นาย...ฮึก...พามาที่นี่ทำไม?”

                “เพราะฉัน...นายเลยต้องร้องไห้หนักขนาดนี้ นายคิดว่าใจฉันจะสงบสุขหรือไง?”

                ฮยอกแจช้อนตาขึ้นมองทงเฮที่ยืนอยู่ตรงหน้า ทงเฮโอบศีรษะกลมของเขาเข้าไปซบเอวหนาอีกครั้ง แล้วฝ่ามืออุ่นก็ลูบปลอบอย่างอ่อนโยน

                “นอนกันที่นี่แหละ”

                “นายก็จะนอนที่นี่ด้วยเหรอ?” ฮยอกแจถามเสียงอู้อี้

                “นี่มันห้องนอนของฉัน!

                ทงเฮเสียงดังขึ้นเหมือนรำคาญคนนิสัยเด็กๆ อย่างฮยอกแจเต็มทน สุดท้ายทั้งคู่ก็นอนอยู่บนเตียงหลังเดียวกันตลอดทั้งคืน ฮยอกแจนอนหันหลังให้เพราะยังคงเอาแต่คิดถึงคำพูดของคยูฮยอนซ้ำไปซ้ำมา

                ไม่รู้ว่าทงเฮหลับไปหรือยัง

                และฮยอกแจเองก็ไม่กล้าหันกลับไปมอง จริงๆ เขาไม่กล้าขยับตัวเลยสักนิด จึงได้แต่พูดขึ้นมาเสียงแผ่วเบา

                “ถ้านายไม่รังเกียจ นายจะช่วยกอดฉันไว้ได้ไหม?”

                ทงเฮไม่ได้พูดอะไรออกมาสักคำ แต่เขาก็ขยับตัวเข้ามากอดฮยอกแจไว้แน่นตลอดทั้งคืน

     

                ไม่รู้ว่านั่งรถมานานเท่าไรแล้ว พอรู้ตัวอีกทีคยูฮยอนก็พบว่าตัวเองนั่งอยู่ในรถท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่ไม่คุ้นตา เขาขยับตัวลุกขึ้นนั่งด้วยความขบเมื่อย พอกวาดตามองไปรอบๆ แล้วไม่เห็นใครก็ใจเสีย

                “ซีวอน?!” คยูฮยอนเปิดประตูออกไปแล้ว ในขณะที่ซีวอนก็เดินกลับเข้ามาพอดี “นาย...หายไปไหนมา?”

                “เข้าไปข้างในหมู่บ้านน่ะ ถนนที่นี่เอารถเข้าไม่ได้”

                “หมู่บ้าน?” คยูฮยอนมองไปรอบๆ เขาไม่เห็นบ้านเรือนในบริเวณใกล้ๆ แม้แต่หลังเดียว

                “นายอยากมาในที่ที่ไม่มีคนรู้จักไม่ใช่เหรอ รับรองว่าที่นี่ไม่มีใครรู้จักนายแน่”

                “ที่นี่ที่ไหน?” คยูฮยอนเอ่ยถาม

                “เอาน่า เดี๋ยวไปถึงแล้วก็จะรู้เอง”

                “แล้วเราต้องเดินไปไกลมากไหม?”

                “ไม่ต้องเดินหรอก นายขึ้นหลังฉันมาสิ”

                ซีวอนย่อตัวให้คยูฮยอนขึ้นหลังตัวเอง แต่คยูฮยอนเลือกที่จะเดินเคียงข้างชายหนุ่มเข้าไปด้านใน ทว่าพอถึงครึ่งทางก็ต้องขอร้องขี่หลังซีวอนอย่างเสียหน้า ดูท่าทางหมู่บ้านนี้จะไกลกว่าที่เขาคิดเอาไว้...มาก

                เมื่อไปถึงด้านในหมู่บ้าน คยูฮยอนก็พบว่าบ้านแต่ละหลังมีบริเวณบ้านชัดเจน และไม่ได้อยู่ติดๆ กันเหมือนบ้านในเมืองหลวง บ้านทุกหลังปลูกผักสวนครัวของตัวเอง เหมือนกันบ้าง ต่างกันบ้าง บางบ้านก็มีสัตว์เลี้ยง ไม่ว่าจะเป็นไก่ไปจนถึงสัตว์ใหญ่อย่างวัว

                “นายรู้จักที่นี่ได้ยังไง?” คยูฮยอนถามขึ้นหลังจากที่เขาลงมาเหยียบพื้นดินอีกครั้งที่หน้าบ้านหลังหนึ่ง

                “ฉันเคยขับรถหนีนายมาที่นี่แล้วครั้งหนึ่ง”

                “...”

                “ฉันในตอนนั้นก็คิดเหมือนนายนี่แหละ ฉันไม่ได้ตั้งใจจะมาที่นี่ แต่ขับรถมาเรื่อยๆ ออกมายังที่ที่ไม่มีคนรู้จัก...เพื่อลืมนาย”

                “แล้วนายทำได้ไหม?” คยูฮยอนถามด้วยความอยากรู้ แต่ซีวอนกลับส่ายหน้าช้าๆ อย่างไม่ปิดบัง คยูฮยอนจึงถามต่อด้วยเสียงแผ่วเบา “แล้วนายคิดว่า...ฉันจะทำได้หรือเปล่า?”

                “ไม่รู้สิ”

                ซีวอนตอบแล้วเดินเข้าไปเคาะประตูบ้าน สักพักก็มีสองตายายเดินออกมาต้อนรับด้วยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยริ้วรอยแห่งการเวลา คยูฮยอนโค้งศีรษะทักทายด้วยความเกร็ง ก่อนจะถูกชวนเข้าไปในบ้านและพูดคุยกับเจ้าของบ้านหลังนั้นอย่างเป็นกันเองขึ้นเรื่อยๆ

                “คุณตาคุณยายยังดูแข็งแรงกันอยู่เลยนะครับ” คยูฮยอนบอก

                “มันก็เป็นธรรมดาของคนบ้านนอกแหละ โทรทัศน์ก็ไม่มี ไฟฟ้าก็เข้าไม่ถึง ไม่ต้องรับรู้ข่าวอะไรเลยไม่ต้องเครียด”

                “ไม่มีไฟฟ้า?!” คยูฮยอนโพล่งขึ้นอย่างตกใจ เขาไม่คิดว่ามนุษย์บนโลกใบนี้จะมีชีวิตอยู่ได้ถ้าไม่มีไฟฟ้าใช้

                “ตกใจอะไรล่ะ พวกเราก็อยู่ที่นี่มาตั้งแต่เกิดแล้ว”

                “แล้วตอนกลางคืนจะทำยังไงล่ะครับ?”

                “ตอนกลางคืนก็นอนไง ฮ่าๆๆ” ชายชราหันไปหัวเราะกับคู่ชีวิตอย่างมีความสุข พวกเขาไม่มีเครื่องอำนวยความสะดวกเหมือนคนในเมืองใหญ่ก็จริง แต่กลับมีรอยยิ้มได้มากมายขนาดนี้ได้อย่างไรกัน

                “แล้วตอนกลางวันล่ะครับ ถ้าไม่มีทีวีแล้วจะมีอะไรให้ทำ”

                คำถามของคยูฮยอนทำให้ซีวอนหันมาตอบคำถามแทนสองตายาย

                “มีแน่ มีเยอะด้วย”

                “หืม?” คยูฮยอนเลิกคิ้วถาม

                “เราไปเริ่มจากการจับหมึกกันไหมซีวอน ยายจำได้ว่าตอนนั้นหลานจับเก่งที่สุดเลยนะ” คุณยายยิ้มอย่างมีเลศนัย ดูเหมือนว่าคยูฮยอนจะเจองานหนักซะแล้ว

                เขาคิดถูกหรือคิดผิดเนี่ยที่ขอร้องให้ซีวอนพามาตกระกำลำบากที่นี่

                แต่จะว่าไปแล้ว...ตั้งแต่ตื่นขึ้นมา คยูฮยอนยังไม่ได้คิดถึงทงเฮเลยสักวินาทีเดียว

     

     

    Talk with Lee Seen

                ว้ากกก กลับมาช้ามากวันนี้ เคลียร์งานไม่เสร็จ

    กลับมาอัพแล้วนะคะ ขอโทษด้วย

    ขอบคุณที่ติดตามค่า บอกทุกคนไปหรือยังนะว่าเรื่องนี้ประมาณ 25 ตอนจบค่ะ

    ยังเหลือตอนหวานๆ ของอึนเฮอีกเยอะแยะที่อยากจะแต่ง

     

    พบกันใหม่วันพรุ่งนี้ค่ะ

     

    ฝาก Pre-order ฟิกอีกสักครั้ง...

    http://writer.dek-d.com/leeseen/story/view.php?id=727485

    ปล.หลงรักแบบ Box Set มีจำกัด 4 ชุดนะคะ แล้วตอนนี้ถูกจองไปแล้ว 1 ชุด

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×