ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic SJ] Sorry, My Juliette [Bumhyuk, WonKyu, TeukChul]

    ลำดับตอนที่ #10 : Sorry,My Juliette - Chapter 10

    • อัปเดตล่าสุด 12 ก.ย. 54


     

    Chapter 10

     

                ฮยอกแจผวาตื่นขึ้นมากลางดึก ใบหน้าหวานมองซ้ายมองขวาก่อนจะกลืนก้อนเหนียวลงลำคอ เขาเคยเข้ามาในบ้านหลังนี้ครั้งหนึ่งแล้ว ความฝันที่เป็นจริงทุกเหตุการณ์

     

                “ดื่มน้ำอุ่นๆ ก่อนสิ เผื่อจะรู้สึกดีขึ้น”

     

                แก้วน้ำเปล่าถูกยื่นมาตรงหน้า ฮยอกแจไม่รู้ว่ามันอุ่นหรือร้อนแค่ไหน เขาดื่มรวดเดียวหมด ก่อนจะวางแก้วไว้แล้วหันไปจ้องหน้าทงเฮ

     

                “ขอบคุณนะ” เสียงของฮยอกแจแผ่วเบา สมองยังคงคิดวนเวียนเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น

     

                ตลอดเวลาที่ผ่านมา คนที่ทงเฮเห็น คนที่ทงเฮพูดคุยด้วยมาตลอดมีเพียงเขาคนเดียวอย่างนั้นเหรอ แล้วทำไมฮยอกแจถึงเห็นคิบอม ทั้งๆ ที่คิบอมเป็นคนรักของทงเฮ แต่ทำไม...ถึงเป็นเขา

     

                “คนชื่อคิบอมไม่ได้มีอยู่จริงใช่ไหม?” ทงเฮเอ่ยถาม เขาคิดว่าฮยอกแจกุเรื่องขึ้นมาเพื่อต้องการอะไรบางอย่าง

     

                “คิบอมเป็นคนรักของคุณไง”

     

                “ตั้งแต่เกิดมาผมไม่เคยมีแฟนมาก่อน คุณกำลังพูดเรื่องอะไร”

     

                เป็นอีกครั้งที่ฮยอกแจรู้สึกว่าทงเฮไม่ได้โกหก ฮยอกแจเงียบลงไป ก่อนจะทบทวนถึงบางสิ่งบางอย่าง ทุกอย่างในถุงขยะสีดำใบนั้นยืนยันได้เป็นอย่างดีว่าคิบอมมีตัวตนจริงๆ

     

                และทงเฮกับคิบอมคือ...คนรักกัน

     

                “มันเป็นเรื่องจริงนะทงเฮ ชื่อของคุณกับคิบอมอยู่ที่ร้านตัดชุดแต่งงานที่ผมทำงานอยู่ และในไดอารี่ก็เขียนถึงคิบอมและแหวนนั่น รวมถึงวันที่คุณไปวัดตัวที่ร้านด้วย”

     

                ทงเฮย่นคิ้ว เขาไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่ฮยอกแจกำลังพูด

     

                ทงเฮไม่อยากเชื่อใครทั้งนั้นนอกจากตัวเอง

     

                “ผมอ่านแล้ว แต่ผมไม่เข้าใจมันเลย”

     

                “ไม่เข้าใจ?”

     

                “ใช่ ไดอารี่นั่นมันเป็นลายมือของผมก็จริง แต่ผมจำไม่ได้ว่าผมไปเขียนข้อความพวกนั้นไว้ตั้งแต่เมื่อไร และ...ผมนึกไม่ออกเลยว่าคิบอมเป็นใคร”

     

                “เขาคือคนที่อยู่ในรูปถ่ายไง” ฮยอกแจพยายามอธิบาย แต่ทงเฮกลับยกมือขึ้นกุมศีรษะของตัวเองไว้แน่น เหมือนเขากำลังปวดหัวและคิดอะไรบางอย่าง

     

                ทงเฮอาจจะไม่ได้คิด

     

                แต่ภาพมากมายวูบวาบไปมาจนทำให้เขาปวดหัวและอยากเป็นบ้า เกิดอะไรขึ้นกับเขากันแน่ มันเป็นคำถามที่ทงเฮให้คำตอบกับตัวเองไม่ได้เลย

     

                “คุณยังไม่ต้องเชื่อก็ได้ แต่ผมจะกลับไปเอาของทั้งหมดมาให้คุณดู”

     

                ฮยอกแจลุกขึ้นเพื่อจะกลับบ้าน แต่มือเรียวของทงเฮกลับรั้งเขาเอาไว้

     

                “มันดึกแล้ว คุณนอนพักที่นี่เถอะ พรุ่งนี้ค่อยเอาของพวกนั้นมาให้ผม เพราะผมก็อยากรู้เหมือนกันว่าเรื่องราวทั้งหมดมันเป็นยังไง”

     

                ทงเฮเอ่ยบอก ฮยอกแจลังเลอยู่ครู่หนึ่งเพราะกลัวว่าคนที่บ้านจะเป็นห่วง แต่เมื่อหันไปดูนาฬิกาที่แขวนบนผนังก็พบว่ามันเป็นเวลาตีสองกว่าๆ แล้ว

     

                เขาจะนอนที่นี่

     

                แต่พรุ่งนี้เช้าเขาจะรีบกลับไปที่บ้านและนำของทุกชิ้นกลับมาให้ทงเฮโดยเร็วที่สุด

     

     

     

                เช้าวันต่อมา

     

                ฮีชอลเห็นลูกค้าชายคู่หนึ่งเดินเข้ามาในร้าน เสียงหวานกำลังจะเอ่ยต้อนรับด้วยคำพูดสุภาพ แต่เมื่อทั้งสองคนเข้ามาใกล้ ดวงตาคู่สวยก็เป็นประกายอย่างยินดี

     

                “ยองอุน!” ฮีชอลเอ่ยทักทาย คิม ยองอุนเป็นเพื่อนสมัยมัธยมของเขา

     

                “ไม่เจอกันนานเลยนะ” ร่างหนาบอกพลางตบไหล่บางของฮีชอลเบาๆ ตามนิสัยห้าวๆ ของเขาเอง

     

                “นายนั่นแหละที่หายไปเป็นปี” ยองอุนยิ้ม แต่ไม่ได้ตอบว่าเขาหายไปไหนมา มันไม่จำเป็นที่จะต้องเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้ฮีชอลฟัง

     

                “ฉันพาแฟนมาเช่าชุดแต่งงานน่ะ”

     

                “เช่าทำไมล่ะ งานแต่งงานทั้งที...ตัดชุดไปเลย”

     

                “เราอยากแต่งงานกันให้เร็วที่สุดน่ะครับ”

     

                เสียงหวานของคนข้างๆ เอ่ยตอบแทนยองอุน ฮีชอลจึงหันไปมอง เขาเพิ่งรู้ว่าผู้ชายคนนี้คือคนที่เขาไปวัดตัวถึงบ้านเมื่อหลายสัปดาห์ก่อน ฮีชอลกำลังจะเอ่ยทักแต่ก็รู้ดีว่ามันไม่สมควร ในขณะที่คยูฮยอนเบนสายตาหนีไปทางอื่นราวกับจำฮีชอลไม่ได้

     

                “อืม...งั้นก็ตามใจ เชิญเลือกชุดแต่งงานทางด้านนี้เลยครับ”

     

                ฮีชอลผายมือให้คยูฮยอนเดินไปยังมุมหนึ่งของร้าน มีชุดสูทแต่งงานสำหรับเช่าหลากหลายแบบ ตอนแรกฮีชอลจะยืนดูเผื่อลูกค้าต้องการจะสอบถามอะไร แต่เขากลับเดินออกมาพร้อมกับคิดเกี่ยวกับแฟนหนุ่มหน้าหวานของยองอุน

     

                ทำไมคนเราถึงเปลี่ยนใจเร็วนักนะ

     

                ในขณะที่ฮีชอลกำลังคิดอยู่นั้น ร่างโปร่งก็สะดุ้งเฮือกเมื่อจองซูเปิดประตูเข้ามาในร้าน

     

                ฮีชอลไม่อยากให้จองซูได้พบกับยองอุนเลย

     

                “ฮีชอล เมื่อคืนฮยอกแจไม่กลับบ้าน” จองซูเอ่ยบอกเจ้าของร้านอย่างไม่สบายใจ

     

                “แล้วมาบอกฉันทำไม?” ฮีชอลเอ่ยถามเสียงห้วนๆ แต่ในใจกลับนึกเป็นห่วงลูกจ้าง ฮยอกแจไม่เคยไปนอนค้างที่อื่นโดยที่ไม่บอกครอบครัว

     

                “ฉันจะทำยังไงดี หรือว่า...จะเกิดอะไรไม่ดีกับฮยอกแจ”

     

                “ใจเย็นๆ ก่อนได้ไหม ฮยอกแจโตแล้วนะ” นี่อาจจะเป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่ฮีชอลพูดปลอบใจจองซู แม้จะเป็นคำปลอบใจที่ดูไม่อบอุ่นนักก็เถอะ

     

                “ฉันกลัว...” เสียงสั่นเครือของจองซูทำให้ใครบางคนหันมามอง ร่างหนาเบิกตากว้างก่อนจะเอ่ยทักขึ้น

     

                “จองซู!

     

                “ย...ยองอุน” จองซูเรียกชื่อคนตรงหน้ากลับไปเช่นกัน ก่อนจะหันกลับมามองฮีชอลอีกครั้ง จองซูพบว่าตอนนี้สีหน้าของฮีชอลไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว

     

                “ฉัน...พาคนรักมาเลือกชุดแต่งงานน่ะ” ดูเหมือนคำพูดของยองอุนจะทำให้สถานการณ์มันดีขึ้น

     

    แต่เปล่าเลย...

     

    “ไหนล่ะคนรักของนาย ขอดูหน้าหน่อยสิ”

               

    ยองอุนกำลังจะสะกิดเรียกคนรักของตัวเองให้หันมา ทว่าคยูฮยอนกลับยืนก้มหน้าหันหลังนิ่งๆ แต่ถึงอย่างนั้นจองซูก็ยังคุ้นตาร่างโปร่งมากเหลือเกิน

     

                “พี่จองซูครับ มีลูกค้ามาที่ร้าน”

     

                ร่างสูงของใครบางคนปรากฏตัวขึ้นทางหน้าร้าน ทุกคนหันไปมองตามต้นเสียงนั้นกันหมด ไม่เว้นแม้กระทั่งคยูฮยอน ทุกๆ คนในร้านรู้จักผู้ชายคนนั้นกันหมด แม้กระทั่งฮีชอลก็ยังรู้ว่าร่างสูงตรงหน้าคือคนรักของผู้ชายหน้าหวานคนนั้น

     

                “อืม...เดี๋ยวพี่ตามไป” จองซูบอก พลางพยายามผลักซีวอนกลับไปด้วย

     

                แต่ซีวอนเอาแต่จ้องมองคยูฮยอนนิ่ง

     

                “ไปสิซีวอน”

     

                จองซูออกแรงดันให้ซีวอนออกไปนอกร้านเร็วขึ้น ซีวอนเหลือบมองคยูฮยอนแวบหนึ่ง ก่อนจะตัดสินใจหันหลังกลับไปราวกับไม่ได้คิดอะไร ทว่าเมื่อลับสายตาของทุกคนแล้ว สายตาของซีวอนก็เปลี่ยนเป็นหดหู่

     

                เขาอยากจะบอกคยูฮยอนว่า...ยินดีด้วยนะ

     

                แต่การจะพูดคำนั้นออกไปได้มันต้องใช้ความพยายามมากเหลือเกิน

     

     

     

                ฮยอกแจตื่นสายกว่าที่คิด เขารีบกลับไปบ้านเพื่อเอาของในถุงขยะมาให้ทงเฮ พี่ชายออกไปทำงานแล้ว ส่วนน้องคนเล็กก็คงออกไปเรียนตั้งแต่เช้า แม้จะรู้สึกผิดที่เมื่อคืนไม่ได้กลับบ้าน แต่ฮยอกแจก็รีบร้อนเกินกว่าจะแวะไปหาจองซูที่ร้าน

     

                เมื่อกลับมาถึงบ้านทงเฮอีกครั้ง ฮยอกแจพบว่าทงเฮเปิดประตูรอเขาอยู่ วันนี้คิบอมไม่โผล่มาให้เห็นเลย แต่มันก็ดีเหมือนกันที่เขาจะไม่ต้องตกอกตกใจไปมากกว่านี้

     

                “นี่ของของคุณ” ฮยอกแจยื่นถุงสีดำไปให้ ทงเฮรับไว้ ก่อนจะเดินไปนั่งที่โซฟา เขาค่อยๆ หยิบของออกมาจากถุงทีละชิ้น กรอบรูป อัลบั้มรูปถ่ายทั้งสองเล่ม และของขวัญอีกหลายชิ้นทั้งตุ๊กตาหมี และกล่องช็อคโกแลตที่คิบอมใส่แหวนมาให้เขาในวันไวท์เดย์

     

                “มันเป็นของผมจริงๆ เหรอ?”

     

                “แล้วมันใช่หน้าของคุณหรือเปล่าล่ะ?” ฮยอกแจย้อนถามเมื่อทงเฮกำลังมองดูภาพถ่ายของตัวเอง ทงเฮไม่ได้ปฏิเสธ ทุกๆ คนที่อยู่ในรูปถ่ายคือตัวเขาเอง จนกระทั่งมาถึงรูปหนึ่ง...

     

                ทงเฮมองปราดเดียวก็รู้ว่าเขากำลังเปลือยท่อนบน แม้ว่าจะมีผ้าห่มปกปิดเอาไว้ แต่ก็ยังพอเดาได้ ในขณะที่ผู้ชายอีกคนกลับไร้อาภรณ์ใดๆ เช่นกัน

     

                “รูปเหมือนผมเพิ่ง...”

     

                “ก็คุณเป็นแฟนกับเขา มันก็ไม่ได้แปลกนี่ถ้าคุณจะ...” ฮยอกแจเงียบลง ทั้งคู่มองหน้ากัน รู้ดีว่าหมายถึงอะไร แต่ทงเฮก็ยังไม่รู้จักอยู่ดีว่าผู้ชายคนนี้เป็นใคร

     

                เขาจำอะไรไม่ได้เลย

     

                มันเหมือนกับว่าความทรงจำของเขาหายไปช่วงหนึ่ง

     

                “ผมไม่อยากคิดอะไรแล้ว มันทำให้ผมอึดอัด ผมหาคำตอบให้กับตัวเองไม่ได้” ทงเฮกุมขมับ แต่ฮยอกแจจะไม่ปล่อยไปแบบนี้ เขาใจร้อนจนอยากให้ทงเฮเข้าใจเรื่องทุกอย่างได้ภายในวันเดียว

     

                “คุณต้องฟังนะทงเฮ อย่างน้อยเราก็ต้องรู้ว่าทำไมคิบอมถึงไม่มีตัวตน”

     

                “ไม่ ผมไม่อยากรู้แล้ว ไม่อยากรู้อะไรทั้งนั้น”

     

                “ทงเฮ...คุณจำเป็นต้องรู้” ฮยอกแจดึงแขนเรียวของทงเฮออก อยากให้ทงเฮฟังคำพูดของเขาบ้าง แต่ทงเฮเอาแต่ส่ายหน้ารัวอย่างไม่ยอมรับความจริง

     

                “ผมไม่อยากฟังอะไรจากคุณอีก ตลอดทั้งเดือนผมได้แต่แปลกใจว่าทำไมเวลาถึงเดินเร็วไปแบบนี้ ผมข้ามมิติมาในอนาคตหรือยังไง ผมไม่เข้าใจเลย ทุกๆ สิ่งในชีวิตของผมดูเหมือนจะหายไปหมด”

     

                ฮยอกแจอึ้ง ทงเฮบอกว่าเวลาเดินเร็วไปอย่างนั้นเหรอ เข็มนาฬิกาไม่เคยโกหกมนุษย์ และ...เวลาในความรู้สึกของฮยอกแจยังเคลื่อนไปข้างหน้าด้วยอัตราเร็วเท่าเดิม

     

                “คุณคิดว่าตอนนี้มันปีอะไรล่ะ”

     

                2009

     

                คำตอบของทงเฮทำเอาฮยอกแจพูดอะไรไม่ออก ทงเฮยังมีดวงตาหวั่นวิตกกับทุกสรรพสิ่งรอบตัว มันยากเหลือเกินที่เขาจะใช้ชีวิตต่อไป มันช่างยากเย็นเหลือเกิน

     

                ทงเฮไม่รู้ด้วยซ้ำว่าต่อจากนี้ชีวิตของเขาจะเป็นอย่างไร จนกระทั่งฮยอกแจเอ่ยขึ้น

     

                “ตอนนี้ปี 2011 แล้วนะ”

     

                “ไม่จริงหรอก เป็นไปไม่ได้ ความทรงจำสองปีที่ผ่านมาของผมไม่มีเลยได้ยังไง”

     

                “คุณ...อาจจะความจำเสื่อม” ฮยอกแจพยายามข่มเสียงของตัวเองให้ปกติ ในขณะที่ทงเฮปล่อยให้น้ำตาไหลออกมาเป็นสาย มันน่าอึดอัดที่เขาจำอะไรไม่ได้เลย มันน่าอึดอัดและน่ากลัวมากเหลือเกิน

     

                “ไม่ต้องกลัวนะทงเฮ ผมจะช่วยคุณเอง”

     

    To be continue…

     

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×