คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : Sorry,My Juliette - Chapter 10
Chapter 10
ฮยอกแจผวาตื่นขึ้นมากลางดึก ใบหน้าหวานมองซ้ายมองขวาก่อนจะกลืนก้อนเหนียวลงลำคอ เขาเคยเข้ามาในบ้านหลังนี้ครั้งหนึ่งแล้ว ความฝันที่เป็นจริงทุกเหตุการณ์
“ดื่มน้ำอุ่นๆ ก่อนสิ เผื่อจะรู้สึกดีขึ้น”
แก้วน้ำเปล่าถูกยื่นมาตรงหน้า ฮยอกแจไม่รู้ว่ามันอุ่นหรือร้อนแค่ไหน เขาดื่มรวดเดียวหมด ก่อนจะวางแก้วไว้แล้วหันไปจ้องหน้าทงเฮ
“ขอบคุณนะ” เสียงของฮยอกแจแผ่วเบา สมองยังคงคิดวนเวียนเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น
ตลอดเวลาที่ผ่านมา คนที่ทงเฮเห็น คนที่ทงเฮพูดคุยด้วยมาตลอดมีเพียงเขาคนเดียวอย่างนั้นเหรอ แล้วทำไมฮยอกแจถึงเห็นคิบอม ทั้งๆ ที่คิบอมเป็นคนรักของทงเฮ แต่ทำไม...ถึงเป็นเขา
“คนชื่อคิบอมไม่ได้มีอยู่จริงใช่ไหม?” ทงเฮเอ่ยถาม เขาคิดว่าฮยอกแจกุเรื่องขึ้นมาเพื่อต้องการอะไรบางอย่าง
“คิบอมเป็นคนรักของคุณไง”
“ตั้งแต่เกิดมาผมไม่เคยมีแฟนมาก่อน คุณกำลังพูดเรื่องอะไร”
เป็นอีกครั้งที่ฮยอกแจรู้สึกว่าทงเฮไม่ได้โกหก ฮยอกแจเงียบลงไป ก่อนจะทบทวนถึงบางสิ่งบางอย่าง ทุกอย่างในถุงขยะสีดำใบนั้นยืนยันได้เป็นอย่างดีว่าคิบอมมีตัวตนจริงๆ
และทงเฮกับคิบอมคือ...คนรักกัน
“มันเป็นเรื่องจริงนะทงเฮ ชื่อของคุณกับคิบอมอยู่ที่ร้านตัดชุดแต่งงานที่ผมทำงานอยู่ และในไดอารี่ก็เขียนถึงคิบอมและแหวนนั่น รวมถึงวันที่คุณไปวัดตัวที่ร้านด้วย”
ทงเฮย่นคิ้ว เขาไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่ฮยอกแจกำลังพูด
ทงเฮไม่อยากเชื่อใครทั้งนั้นนอกจากตัวเอง
“ผมอ่านแล้ว แต่ผมไม่เข้าใจมันเลย”
“ไม่เข้าใจ?”
“ใช่ ไดอารี่นั่นมันเป็นลายมือของผมก็จริง แต่ผมจำไม่ได้ว่าผมไปเขียนข้อความพวกนั้นไว้ตั้งแต่เมื่อไร และ...ผมนึกไม่ออกเลยว่าคิบอมเป็นใคร”
“เขาคือคนที่อยู่ในรูปถ่ายไง” ฮยอกแจพยายามอธิบาย แต่ทงเฮกลับยกมือขึ้นกุมศีรษะของตัวเองไว้แน่น เหมือนเขากำลังปวดหัวและคิดอะไรบางอย่าง
ทงเฮอาจจะไม่ได้คิด
แต่ภาพมากมายวูบวาบไปมาจนทำให้เขาปวดหัวและอยากเป็นบ้า เกิดอะไรขึ้นกับเขากันแน่ มันเป็นคำถามที่ทงเฮให้คำตอบกับตัวเองไม่ได้เลย
“คุณยังไม่ต้องเชื่อก็ได้ แต่ผมจะกลับไปเอาของทั้งหมดมาให้คุณดู”
ฮยอกแจลุกขึ้นเพื่อจะกลับบ้าน แต่มือเรียวของทงเฮกลับรั้งเขาเอาไว้
“มันดึกแล้ว คุณนอนพักที่นี่เถอะ พรุ่งนี้ค่อยเอาของพวกนั้นมาให้ผม เพราะผมก็อยากรู้เหมือนกันว่าเรื่องราวทั้งหมดมันเป็นยังไง”
ทงเฮเอ่ยบอก ฮยอกแจลังเลอยู่ครู่หนึ่งเพราะกลัวว่าคนที่บ้านจะเป็นห่วง แต่เมื่อหันไปดูนาฬิกาที่แขวนบนผนังก็พบว่ามันเป็นเวลาตีสองกว่าๆ แล้ว
เขาจะนอนที่นี่
แต่พรุ่งนี้เช้าเขาจะรีบกลับไปที่บ้านและนำของทุกชิ้นกลับมาให้ทงเฮโดยเร็วที่สุด
เช้าวันต่อมา
ฮีชอลเห็นลูกค้าชายคู่หนึ่งเดินเข้ามาในร้าน เสียงหวานกำลังจะเอ่ยต้อนรับด้วยคำพูดสุภาพ แต่เมื่อทั้งสองคนเข้ามาใกล้ ดวงตาคู่สวยก็เป็นประกายอย่างยินดี
“ยองอุน!” ฮีชอลเอ่ยทักทาย คิม ยองอุนเป็นเพื่อนสมัยมัธยมของเขา
“ไม่เจอกันนานเลยนะ” ร่างหนาบอกพลางตบไหล่บางของฮีชอลเบาๆ ตามนิสัยห้าวๆ ของเขาเอง
“นายนั่นแหละที่หายไปเป็นปี” ยองอุนยิ้ม แต่ไม่ได้ตอบว่าเขาหายไปไหนมา มันไม่จำเป็นที่จะต้องเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้ฮีชอลฟัง
“ฉันพาแฟนมาเช่าชุดแต่งงานน่ะ”
“เช่าทำไมล่ะ งานแต่งงานทั้งที...ตัดชุดไปเลย”
“เราอยากแต่งงานกันให้เร็วที่สุดน่ะครับ”
เสียงหวานของคนข้างๆ เอ่ยตอบแทนยองอุน ฮีชอลจึงหันไปมอง เขาเพิ่งรู้ว่าผู้ชายคนนี้คือคนที่เขาไปวัดตัวถึงบ้านเมื่อหลายสัปดาห์ก่อน ฮีชอลกำลังจะเอ่ยทักแต่ก็รู้ดีว่ามันไม่สมควร ในขณะที่คยูฮยอนเบนสายตาหนีไปทางอื่นราวกับจำฮีชอลไม่ได้
“อืม...งั้นก็ตามใจ เชิญเลือกชุดแต่งงานทางด้านนี้เลยครับ”
ฮีชอลผายมือให้คยูฮยอนเดินไปยังมุมหนึ่งของร้าน มีชุดสูทแต่งงานสำหรับเช่าหลากหลายแบบ ตอนแรกฮีชอลจะยืนดูเผื่อลูกค้าต้องการจะสอบถามอะไร แต่เขากลับเดินออกมาพร้อมกับคิดเกี่ยวกับแฟนหนุ่มหน้าหวานของยองอุน
ทำไมคนเราถึงเปลี่ยนใจเร็วนักนะ
ในขณะที่ฮีชอลกำลังคิดอยู่นั้น ร่างโปร่งก็สะดุ้งเฮือกเมื่อจองซูเปิดประตูเข้ามาในร้าน
ฮีชอลไม่อยากให้จองซูได้พบกับยองอุนเลย
“ฮีชอล เมื่อคืนฮยอกแจไม่กลับบ้าน” จองซูเอ่ยบอกเจ้าของร้านอย่างไม่สบายใจ
“แล้วมาบอกฉันทำไม?” ฮีชอลเอ่ยถามเสียงห้วนๆ แต่ในใจกลับนึกเป็นห่วงลูกจ้าง ฮยอกแจไม่เคยไปนอนค้างที่อื่นโดยที่ไม่บอกครอบครัว
“ฉันจะทำยังไงดี หรือว่า...จะเกิดอะไรไม่ดีกับฮยอกแจ”
“ใจเย็นๆ ก่อนได้ไหม ฮยอกแจโตแล้วนะ” นี่อาจจะเป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่ฮีชอลพูดปลอบใจจองซู แม้จะเป็นคำปลอบใจที่ดูไม่อบอุ่นนักก็เถอะ
“ฉันกลัว...” เสียงสั่นเครือของจองซูทำให้ใครบางคนหันมามอง ร่างหนาเบิกตากว้างก่อนจะเอ่ยทักขึ้น
“จองซู!”
“ย...ยองอุน” จองซูเรียกชื่อคนตรงหน้ากลับไปเช่นกัน ก่อนจะหันกลับมามองฮีชอลอีกครั้ง จองซูพบว่าตอนนี้สีหน้าของฮีชอลไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว
“ฉัน...พาคนรักมาเลือกชุดแต่งงานน่ะ” ดูเหมือนคำพูดของยองอุนจะทำให้สถานการณ์มันดีขึ้น
แต่เปล่าเลย...
“ไหนล่ะคนรักของนาย ขอดูหน้าหน่อยสิ”
ยองอุนกำลังจะสะกิดเรียกคนรักของตัวเองให้หันมา ทว่าคยูฮยอนกลับยืนก้มหน้าหันหลังนิ่งๆ แต่ถึงอย่างนั้นจองซูก็ยังคุ้นตาร่างโปร่งมากเหลือเกิน
“พี่จองซูครับ มีลูกค้ามาที่ร้าน”
ร่างสูงของใครบางคนปรากฏตัวขึ้นทางหน้าร้าน ทุกคนหันไปมองตามต้นเสียงนั้นกันหมด ไม่เว้นแม้กระทั่งคยูฮยอน ทุกๆ คนในร้านรู้จักผู้ชายคนนั้นกันหมด แม้กระทั่งฮีชอลก็ยังรู้ว่าร่างสูงตรงหน้าคือคนรักของผู้ชายหน้าหวานคนนั้น
“อืม...เดี๋ยวพี่ตามไป” จองซูบอก พลางพยายามผลักซีวอนกลับไปด้วย
แต่ซีวอนเอาแต่จ้องมองคยูฮยอนนิ่ง
“ไปสิซีวอน”
จองซูออกแรงดันให้ซีวอนออกไปนอกร้านเร็วขึ้น ซีวอนเหลือบมองคยูฮยอนแวบหนึ่ง ก่อนจะตัดสินใจหันหลังกลับไปราวกับไม่ได้คิดอะไร ทว่าเมื่อลับสายตาของทุกคนแล้ว สายตาของซีวอนก็เปลี่ยนเป็นหดหู่
เขาอยากจะบอกคยูฮยอนว่า...ยินดีด้วยนะ
แต่การจะพูดคำนั้นออกไปได้มันต้องใช้ความพยายามมากเหลือเกิน
ฮยอกแจตื่นสายกว่าที่คิด เขารีบกลับไปบ้านเพื่อเอาของในถุงขยะมาให้ทงเฮ พี่ชายออกไปทำงานแล้ว ส่วนน้องคนเล็กก็คงออกไปเรียนตั้งแต่เช้า แม้จะรู้สึกผิดที่เมื่อคืนไม่ได้กลับบ้าน แต่ฮยอกแจก็รีบร้อนเกินกว่าจะแวะไปหาจองซูที่ร้าน
เมื่อกลับมาถึงบ้านทงเฮอีกครั้ง ฮยอกแจพบว่าทงเฮเปิดประตูรอเขาอยู่ วันนี้คิบอมไม่โผล่มาให้เห็นเลย แต่มันก็ดีเหมือนกันที่เขาจะไม่ต้องตกอกตกใจไปมากกว่านี้
“นี่ของของคุณ” ฮยอกแจยื่นถุงสีดำไปให้ ทงเฮรับไว้ ก่อนจะเดินไปนั่งที่โซฟา เขาค่อยๆ หยิบของออกมาจากถุงทีละชิ้น กรอบรูป อัลบั้มรูปถ่ายทั้งสองเล่ม และของขวัญอีกหลายชิ้นทั้งตุ๊กตาหมี และกล่องช็อคโกแลตที่คิบอมใส่แหวนมาให้เขาในวันไวท์เดย์
“มันเป็นของผมจริงๆ เหรอ?”
“แล้วมันใช่หน้าของคุณหรือเปล่าล่ะ?” ฮยอกแจย้อนถามเมื่อทงเฮกำลังมองดูภาพถ่ายของตัวเอง ทงเฮไม่ได้ปฏิเสธ ทุกๆ คนที่อยู่ในรูปถ่ายคือตัวเขาเอง จนกระทั่งมาถึงรูปหนึ่ง...
ทงเฮมองปราดเดียวก็รู้ว่าเขากำลังเปลือยท่อนบน แม้ว่าจะมีผ้าห่มปกปิดเอาไว้ แต่ก็ยังพอเดาได้ ในขณะที่ผู้ชายอีกคนกลับไร้อาภรณ์ใดๆ เช่นกัน
“รูปเหมือนผมเพิ่ง...”
“ก็คุณเป็นแฟนกับเขา มันก็ไม่ได้แปลกนี่ถ้าคุณจะ...” ฮยอกแจเงียบลง ทั้งคู่มองหน้ากัน รู้ดีว่าหมายถึงอะไร แต่ทงเฮก็ยังไม่รู้จักอยู่ดีว่าผู้ชายคนนี้เป็นใคร
เขาจำอะไรไม่ได้เลย
มันเหมือนกับว่าความทรงจำของเขาหายไปช่วงหนึ่ง
“ผมไม่อยากคิดอะไรแล้ว มันทำให้ผมอึดอัด ผมหาคำตอบให้กับตัวเองไม่ได้” ทงเฮกุมขมับ แต่ฮยอกแจจะไม่ปล่อยไปแบบนี้ เขาใจร้อนจนอยากให้ทงเฮเข้าใจเรื่องทุกอย่างได้ภายในวันเดียว
“คุณต้องฟังนะทงเฮ อย่างน้อยเราก็ต้องรู้ว่าทำไมคิบอมถึงไม่มีตัวตน”
“ไม่ ผมไม่อยากรู้แล้ว ไม่อยากรู้อะไรทั้งนั้น”
“ทงเฮ...คุณจำเป็นต้องรู้” ฮยอกแจดึงแขนเรียวของทงเฮออก อยากให้ทงเฮฟังคำพูดของเขาบ้าง แต่ทงเฮเอาแต่ส่ายหน้ารัวอย่างไม่ยอมรับความจริง
“ผมไม่อยากฟังอะไรจากคุณอีก ตลอดทั้งเดือนผมได้แต่แปลกใจว่าทำไมเวลาถึงเดินเร็วไปแบบนี้ ผมข้ามมิติมาในอนาคตหรือยังไง ผมไม่เข้าใจเลย ทุกๆ สิ่งในชีวิตของผมดูเหมือนจะหายไปหมด”
ฮยอกแจอึ้ง ทงเฮบอกว่าเวลาเดินเร็วไปอย่างนั้นเหรอ เข็มนาฬิกาไม่เคยโกหกมนุษย์ และ...เวลาในความรู้สึกของฮยอกแจยังเคลื่อนไปข้างหน้าด้วยอัตราเร็วเท่าเดิม
“คุณคิดว่าตอนนี้มันปีอะไรล่ะ”
“2009”
คำตอบของทงเฮทำเอาฮยอกแจพูดอะไรไม่ออก ทงเฮยังมีดวงตาหวั่นวิตกกับทุกสรรพสิ่งรอบตัว มันยากเหลือเกินที่เขาจะใช้ชีวิตต่อไป มันช่างยากเย็นเหลือเกิน
ทงเฮไม่รู้ด้วยซ้ำว่าต่อจากนี้ชีวิตของเขาจะเป็นอย่างไร จนกระทั่งฮยอกแจเอ่ยขึ้น
“ตอนนี้ปี 2011 แล้วนะ”
“ไม่จริงหรอก เป็นไปไม่ได้ ความทรงจำสองปีที่ผ่านมาของผมไม่มีเลยได้ยังไง”
“คุณ...อาจจะความจำเสื่อม” ฮยอกแจพยายามข่มเสียงของตัวเองให้ปกติ ในขณะที่ทงเฮปล่อยให้น้ำตาไหลออกมาเป็นสาย มันน่าอึดอัดที่เขาจำอะไรไม่ได้เลย มันน่าอึดอัดและน่ากลัวมากเหลือเกิน
“ไม่ต้องกลัวนะทงเฮ ผมจะช่วยคุณเอง”
To be continue
ความคิดเห็น