ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [The Last Fic SJ] ----oooo 'หลงรัก' >>> EunHae, WonKyu

    ลำดับตอนที่ #2 : Chapter 1 จดหมาย

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 4.05K
      5
      2 ต.ค. 54

     

    Chapter 1

    จดหมาย

     

                จากวันนั้นจนถึงตอนนี้ มันผ่านมาปีกว่าแล้วที่ฮยอกแจไม่ได้ติดต่อกับจีฮโยเลย แม้ว่าในช่วงแรกๆ เขาจะเสียใจที่เธอไปมีผู้ชายคนใหม่ แต่ฮยอกแจก็ประมาณตนเองดีว่าเขาไม่ได้คู่ควรกับเธอขนาดนั้น

     

                “ฮยอกแจ...มาพอดีเลย ไปสระผมให้คุณนายคิมหน่อยสิ”

     

                “ครับพี่จองซู”

     

                ฮยอกแจโค้งศีรษะเล็กน้อย เขาเป็นผู้ชายที่ถ่อมตนและสุภาพเสมอ จองซูยังจำภาพเด็กผู้ชายตัวเล็กๆ เมื่อหนึ่งปีก่อนได้แม่นยำ ฮยอกแจเข้ามาในร้านด้วยสภาพที่เปียกปอนไม่ต่างจากลูกหมา ในวันที่ฝนตกหนัก วันที่ไม่มีลูกค้าเข้ามาในร้านตัดผมของจองซูเลย

     

                “ผมขอร้องล่ะครับคุณ ให้ผมได้ทำงานที่นี่เถอะ ผมไม่มีที่พึ่งอีกแล้ว”

     

                ในวันนี้จองซูเหวี่ยงฮยอกแจออกไปนอกร้านอย่างไม่เหลือเยื่อใย จนกระทั่งฝนหยุดตกแล้วออกมายกผ้าใบกันฝนขึ้นนั่นแหละ จองซูถึงได้รู้ว่าฮยอกแจยังนั่งอยู่หน้าร้านไม่ไปไหน

     

                “ร้านของฉันไม่ได้ใหญ่โตมากมาย แล้วถ้าตำรวจรู้ว่าฉันจ้างเด็กอายุไม่ถึงสิบแปดเข้ามาทำงานในร้าน ฉันคงได้ไปนอนกินข้าวแดงอยู่ในคุกแน่ๆ”

     

              “แต่ว่า...ผมไม่รู้จะไปทำงานที่ไหนแล้วจริงๆ ครับ”

     

                ในที่สุดจองซูก็ใจอ่อนและรับเด็กผู้ชายในวันนั้นเข้ามาทำงาน ในช่วงแรกๆ จองซูก็ให้ฮยอกแจเก็บกวาดร้านและสระผมให้ลูกค้าบ้าง เปลี่ยนน้ำในเครื่องอบไอน้ำบ้าง รวมถึงออกไปซื้ออาหารกลางวันให้เขา หากแต่ฮยอกแจเป็นคนขยันและเรียนรู้งานเร็วมาก ตอนนี้เด็กหนุ่มจึงสามารถทำงานทุกอย่างในร้านแทนจองซูได้อย่างคล่องแคล่ว

     

                “ลูกน้องคุณจองซูหน้าตาดีจังเลยนะคะ อายุเท่าไรแล้วเราน่ะ”

     

                คุณนายคิมที่นอนให้ฮยอกแจสระผมอยู่เอ่ยขึ้นหลังจากที่เธอเห็นฮยอกแจตั้งแต่ตอนที่เดินเข้ามาในร้าน จองซูหันมายิ้มๆ ในขณะที่ฮยอกแจเบิกตากว้าง

     

                “ถามผมเหรอครับ?”

     

                “จ้ะ ฉันถามเธอนั่นแหละ”

     

                “ผมอายุสิบสี่ปีแล้วครับ”

     

                ฮยอกแจบอกก่อนจะหยิบผ้าขนหนูมาเช็ดผมให้คุณนายคิม ก่อนจะพาเดินมานั่งยังเก้าอี้กลางร้าน ฮยอกแจไม่ได้ซื่อจนไม่รู้ว่าคุณนายคิมทำอาชีพอะไร เธอเป็นผู้หญิงที่คุมไนต์คลับอยู่ในบริเวณนี้ นอกจากจะเป็นไนต์คลับธรรมดาแล้ว เธอยังมีกิจการค้าเด็กผู้ชายหนุ่มๆ อีกด้วย

     

                “หน้าตาอย่างนี้คงเรียกลูกค้าได้เยอะ สนใจจะไปทำงานกับฉันไหมล่ะ”

     

                คุณนายคิมมองผ่านกระจกเพื่อถามฮยอกแจ หากแต่จองซูกลับเดินมาข้างหลังเธอแล้วเอ่ยขึ้น

     

                “ฮยอกแจไม่ได้เป็นอย่างที่คุณนายคิดหรอกครับ เขาชอบผู้หญิง”

     

                “งั้นเหรอ? น่าเสียดายจังเลยนะ”

     

                เธอหลับตาชังใส่จองซูที่ขัดคอขึ้นมา ทว่าจองซูกลับไม่ได้ใส่ใจมากนัก เขาพยักเพยิดให้ฮยอกแจไปทำงานอย่างอื่น ก่อนจะหันมาไดร์ผมให้คุณนายคิมต่อไป ทว่าในระหว่างที่กำลังคิดเงินค่าทำผมอยู่นั้น คุณนายคิมก็แอบเดินเข้ามาหาฮยอกแจจนได้

     

                “ถ้าอยากมีเงินใช้ก็โทรหาฉันได้นะ”

     

                เธอยื่นนามบัตรให้ฮยอกแจ ในนั้นมีทั้งชื่อไนต์คลับและเบอร์โทรศัพท์ติดต่อ ฮยอกแจรับมาก็เก็บใส่กระเป๋ากางเกงอย่างรักษาน้ำใจของคนตรงหน้า จนกระทั่งคุณนายคิมเดินออกไปจากร้าน เขาก็ลืมไปแล้วว่ายังเก็บนามบัตรนั่นเอาไว้

     

                บางทีสวรรค์อาจจะกำหนดชะตาของฮยอกแจให้เป็นแบบนี้

     

     

                “ไอ้เกิง หลวงพ่อเรียก!

     

                เด็กวัดคนหนึ่งวิ่งมาหาหาน เกิงที่นั่งอ่านหนังสืออยู่ใต้ต้นไม้ เกิงปิดหนังสือลงแล้วเงยหน้าขึ้นมอง หลวงพ่อคงจะเรียกให้เขาไปนวดขาอีกตามเคยสินะ

     

                เด็กชายวิ่งทะเล่อทะล่าเข้าไปในศาลา ก่อนจะหยุดขาแทบไม่ทันเมื่อเห็นหญิงชายคู่หนึ่งกำลังนั่งสนทนากับหลวงพ่อซึ่งเป็นเจ้าอาวาส เกิงค่อยๆ คลานเข้าไปหา ในขณะที่ชายหญิงคู่นั้นกลับหันมามองเขาแล้วยิ้มเป็นประกาย

     

                “มาใกล้ๆ ฉันสิเกิง”

     

                ผู้หญิงคนหนึ่งพูดภาษาจีนด้วยสำเนียงแปล่งๆ เธอหน้าตาไม่เหมือนคนจีน แต่ดูเหมือนคนญี่ปุ่นหรือเกาหลีมากกว่า เกิงหันไปมองหลวงพ่อสลับกับผู้หญิงคนนั้น ก่อนที่หลวงพ่อจะพยักหน้าช้าๆ เด็กชายจึงยอมเข้าไปนั่งข้างๆ หญิงสาว

     

                “นี่คือพ่อกับแม่ของเธอ เขาจะพาเธอไปอยู่ที่เกาหลี ไปอยู่บ้านใหม่”

     

                คำพูดของหลวงพ่อทำให้เกิงช้อนตาขึ้นมองด้วยความตกใจ เขาเคยคิดอยากจะไปจากที่นี่ อยากออกไปจากนรกที่ต้องโดนกลั่นแกล้งไปวันๆ อยากจะเป็นคนที่มีค่าในสายตาของคนอื่นๆ บ้าง

     

                ในที่สุดวันนั้นก็มาถึงแล้ว

     

                “ฉันจะเป็นแม่ที่ดีของเธอนะ เรียกฉันว่า แม่สิจ๊ะ”

     

                “...แม่...”

     

                เกิงเอ่ยคำด้วยน้ำเสียงเกรงใจ มือเรียวของหญิงสาวลูบศีรษะกลมอย่างเอ็นดู ส่วนผู้ชายอีกคนก็หันมายิ้มด้วยรอยยิ้มที่เหมือนกับหลวงพ่อไม่มีผิด เกิงไม่ได้คิดอะไรไปมากกว่าการที่ได้ออกไปจากวัดแห่งนี้ เขาอยากมีชีวิตที่สุขสบาย ไม่ต้องทนอยู่กับความเจ็บปวดอีกต่อไปแล้ว

     

                “ไม่ว่าจะไปอยู่ที่ไหน อย่าลืมคำสอนของหลวงพ่อนะเกิง พ่อกับแม่เขาอยากได้เราเป็นลูก เราก็ต้องมีความกตัญญู แล้วก็ต้องมีความเมตตาต่อเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน เข้าใจไหมเกิง?”

     

                เด็กชายพยักหน้าหงึกหงึกแทนคำตอบ ทว่าริมฝีปากบางกลับกระตุกยิ้มอย่างสะใจ เพราะในขณะที่เขามีครอบครัวชาวเกาหลีพาไปอยู่ต่างประเทศ พวกเด็กวัดที่มันเคยรังแกเขาก็ยังเป็นได้แค่เด็กวัดกระจอกๆ อยู่วันยังค่ำ

     

                หลังจากนี้ไป หาน เกิงจะทำให้คนอื่นเจ็บปวด เขาจะไม่ยอมเป็นแค่สัตว์เลี้ยงเพื่อความสนุกของใครอีกต่อไปแล้ว

     

                ทุกคนมันจะต้องเจ็บ...ทรมาน...และกลายเป็นสัตว์เลี้ยงของเขา

     

     

                หลังจากเลิกงานแล้ว ฮยอกแจก็เดินกลับมายังห้องเช่าของตัวเอง ตะกระหวายใบหนึ่งถูกวางอยู่หน้าประตูห้องนอนของเขา ในทีแรกขาเรียวตั้งใจว่าจะเขี่ยตะกร้าใบนั้นออกไป หากแต่ความรู้สึกบางอย่างกลับดลใจให้ฮยอกแจก้มลงไปมองดู

     

                “แอ้...แอ้...”

     

                เด็กทารกตัวเล็กๆ นอนร้องอ้อแอ้อยู่ในตะกร้าหวายใบนั้น ฮยอกแจมองซ้ายมองขวาอย่างหวาดระแวง ใครกันที่นำลูกมาทิ้งไว้แบบนี้ แล้วทำไมต้องนำมาวางทิ้งไว้ในห้องของเขาด้วย

     

                “แอ้...แอ้...”

     

                เด็กน้อยยื่นมือมาไขว้คว้าอากาศราวกับต้องการให้ใครบางคนโอบอุ้มตัวเองเอาไว้ด้วยความรัก ฮยอกแจส่ายหน้าช้าๆ เขาไม่เคยอุ้มเด็ก ไม่ได้คิดจะอุ้มเด็กที่ไม่ใช่ลูกของตัวเอง มือหนาเลื่อนตะกร้าออกไปวางไว้ยังห้องพักฝั่งตรงข้าม ทว่าเสียงเด็กน้อยกลับร้องไห้ดังลั่น

     

                “แง!!!!!!!!!!

     

                “อย่าทำกับฉันแบบนี้สิ”

     

                ฮยอกแจบอกเสียงสั่น เด็กน้อยมองเขาด้วยสายตาที่ขอร้อง ฮยอกแจตัดใจเดินหันหลังกลับเข้าไปในห้องของตัวเอง บางทีพ่อแม่ตัวจริงของเด็กคนนั้นอาจจะมาตามหาลูกก็ได้ ทว่าเขาไม่ใช่คนใจร้ายขนาดนั้น

     

                ถ้าหากเด็กคนนี้กำลังหิวนมน่ะ

     

                ถ้าหากเด็กคนนี้กำลังหนาว

     

                ถ้าหากเด็กคนนี้ไม่มีพ่อแม่

     

                อี ฮยอกแจจะปล่อยให้เด็กคนนี้ตายไปได้อย่างไร

     

                ในที่สุดฮยอกแจก็ตัดสินใจยกตะกร้าเข้าไปไว้ในห้อง วินาทีนั้นเขาสังเกตเห็นว่ามีจดหมายอยู่ในตะกร้าด้วย อาจจะเป็นพ่อหรือแม่ของเด็กน้อยคนนี้สินะที่เขียนจดหมายทิ้งไว้

     

                ถึงฮยอกแจที่รักของพี่ ฝากดูแลอี ทงเฮด้วยนะ พี่หวังว่านายจะรับผิดชอบในคำพูดของตัวเอง ได้โปรดเลี้ยงดูทงเฮ...ลูกชายของเราด้วย จาก... ซง จีฮโย

     

                ฮยอกแจแทบจะหยุดหายใจเมื่ออ่านข้อความจบ มือหนาปล่อยให้กระดาษให้ลอยออกไปตามลม อี ทงเฮเป็นลูกชายที่เกิดจากการกระทำของเขาอย่างนั้นเหรอ ฮยอกแจอายุเพียงสิบสี่ปีเท่านั้น แล้วเขาจะเลี้ยงลูกได้อย่างไร

     

                มือหนารีบควานหากระดาษนามบัตรที่เขาจำได้ว่าอยู่ในกระเป๋ากางเกงสักข้าง ฮยอกแจไม่เคยทำอะไรลุกลี้ลุกลนขนาดนี้มาก่อน เขากดเบอร์โทรศัพท์ผิดๆ ถูกๆ รอจนกระทั่งสัญญาณดังและมีคนรับสาย

     

                [คิม ชินยองพูดค่ะ]

     

                “ค...คุณนายคิมครับ ผมอยากจะทำงานนั้น ผมอี ฮยอกแจอยากทำงานที่คุณนายเสนอครับ”

     

                ฮยอกแจตื่นเต้นจนทำอะไรไม่ถูกเลย แม้แต่จองซูที่เป็นเสมือนญาติผู้ใหญ่คนเดียวของเขาในตอนนี้ ฮยอกแจก็ไม่ทันนึกถึง อี ฮยอกแจคิดสั้นๆ เพียงว่า...

     

                จะทำอย่างไรให้เด็กคนหนึ่งที่เป็นลูกชายของเขามีชีวิตอยู่ต่อไปได้

     

                ฮยอกแจจะทำทุกวิถีทาง...

     

                “อี ทงเฮ...ลูกชายของพ่อ”

     

     

    Talk with Lee Seen

                เอามาลงให้ก่อนจะหนีไปรับน้องที่ต่างจังหวัด เดี๋ยววันอาทิตย์จะกลับมาอัพเดทนะค้า...

    ขอบคุณทุกๆ คนที่ให้ความสนใจกับฟิคเรื่องนี้ ตอนนี้ไม่มี NC แต่ chapter 5 จะเริ่มแรงขึ้นๆๆๆ

    เรื่องนี้มันอีโรติกจริงๆ รอให้ทงเฮโตก่อนเถอะ คนที่ว่าแรงเจอทงเฮแล้วจะหนาว

     

    ส่วนคู่วอนคยู ขอดองไว้ก่อนนะคะ ตอนนี้ซีวอนก็น่าจะยังเป็นวุ้นอยู่

    ล้อเล่นค่ะ ที่จริงซีวอนอายุประมาณฮยอกแจ เรื่องนี้คนอื่นๆ อายุประมาณ 30 หมดเลย

    ยกเว้นทงเฮที่จะอยู่ในช่วงวัยรุ่น อ้อ...มีพี่เย่ด้วยที่อยู่รุ่นราวคราวเดียวกันกับทงเฮ

    เอาไว้ติดตามตอนต่อไปค่ะ

     

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×