ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [The Last Fic SJ] ----oooo 'หลงรัก' >>> EunHae, WonKyu

    ลำดับตอนที่ #12 : Chapter 11 โหยหา

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.55K
      6
      26 ก.ค. 54

     

    Chapter 11

    โหยหา

     

                เปลือกตาหนักอึ้งค่อยๆ ลืมตาขึ้นมา ก่อนจะหรี่มองร่างโปร่งที่น่าจะอยู่บนเตียงนอนเดียวกัน ทว่าเมื่อพบเจอเพียงความว่างเปล่า ร่างสูงก็รีบผุดลุกขึ้น

     

                คยูฮยอนหายไปไหน?

     

                ซีวอนยกมือแกร่งขึ้นกุมหน้าผากของตัวเองอย่างใช้ความคิด เขาทำร้ายคยูฮยอน ทำร้ายด้วยคำพูดแย่ๆ ของตัวเอง ทั้งๆ ที่รู้สึกผิดต่อคนรัก แต่เพราะความรู้สึกผิดนั่นเอง ความหวาดหวั่นว่าจะถูกคยูฮยอนจับได้ว่าเขาไปทำอะไรไม่ดีมา มันทำให้ซีวอนไม่สามารถควบคุมตัวเองได้

     

                มนุษย์ทุกคน...อย่าได้มีการโกหกครั้งแรกเชียว

     

                เพราะมันหมายความว่าการโกหกครั้งที่สอง...สาม...จะค่อยๆ ตามมาด้วย

     

                ซีวอนลุกออกจากเตียงไปส่องกระจกในห้องน้ำ ผู้ชายคนนี้ใช่ไหมที่เคยบอกว่ารักโจ คยูฮยอนหมดหัวใจ แต่ทำไมกัน ทำไมผู้ชายคนนี้ถึงได้ทำร้ายคนที่ตัวเองพร่ำบอกว่ารัก หัวใจที่อยู่หน้าอกข้างซ้ายมันบีบแน่นราวกับมีใครมากดทับ ซีวอนกำหมัดแกร่งง้างขึ้นเตรียมชกใบหน้าที่สะท้อนออกมาจากกระจกเงา

     

                อย่านะซีวอน

     

                เสียงคุ้นเคยของคยูฮยอนที่ดังก้องอยู่ในห้วงความคิดทำให้ซีวอนลดกำปั้นลง เขาเท้าแขนลงบนอ่างล้างหน้าเพื่อพยุงตัวเองให้ยืนอยู่ได้ ทำไมร่างกายมันถึงได้อ่อนแอแบบนี้

     

                ซีวอนเปิดประตูออกไปนอกห้องนอน กวาดตามองหาคนรักที่คิดว่าน่าจะยังอยู่ในบ้าน ก่อนจะเหลือบมองเห็นแผ่นหลังบางที่นั่งอยู่หลังผ้าม่านที่สั่นไหว

     

                เขาเปิดประตูระเบียงออก และดูเหมือนว่าคยูฮยอนจะไม่รู้ว่ามีใครอีกคนยืนอยู่ด้านหลังของตัวเอง ดวงตาคู่สวยยังคงเหม่อมองออกไปไกลแสนไกล มองหาอดีตที่เคยสวยงาม มองหาอนาคตที่เคยวาดฝันไว้ แต่คยูฮยอนก็รู้ดีว่าคนเรามีชีวิตและความรู้สึกอยู่กับปัจจุบันได้เท่านั้น

     

                อนาคต...เป็นสิ่งที่ไม่มีใครล่วงรู้

     

                และอดีต...มันก็ไม่มีทางกลับมาได้อีกแล้ว

     

                “คยูฮยอน” มือหนาวางบนไหล่บางเบาๆ อย่างกริ่งเกรง เพียงแค่ชั่วข้ามคืนที่ซีวอนทำความผิด เขากลับรู้สึกห่างเกินกับคยูฮยอนได้มากถึงเพียงนี้เชียวหรือ

     

                “ตื่นแล้วเหรอ? หิวหรือเปล่า เดี๋ยวฉันไปทำอะไรให้กินนะ”

     

                คยูฮยอนหันมาเอ่ยขึ้นเสียงเรียบ ไม่ได้ต่อว่าหรือแสดงความน้อยใจเกี่ยวกับเรื่องเมื่อเช้าเลยสักนิด แต่แววตาก็ยังวูบไหวอยู่เสมอเวลามองหน้าคนรัก

     

                “ผมยังไม่หิวหรอก อย่าเพิ่งไปไหนเลย” ซีวอนรั้งข้อมือเรียวที่กำลังจะเดินผ่านไป คยูฮยอนหยุดกึก เพียงแค่ซีวอนพูดอ่อนโยนกับเขาแบบนี้ หัวใจของคยูฮยอนก็โอนอ่อนตามคำหวานหูนั้นแล้ว

     

                “ขอโทษนะ ที่ตอนเช้า...”

     

                “...ฉันเข้าใจซีวอนเสมอ เข้าใจว่าดีซีวอนเหนื่อยและต้องการการปรนบัติจากภรรยา ฉันต่างหากที่ทำตัวแย่”

     

                ปลายเสียงสั่นไหวจนซีวอนต้องดึงร่างบางเข้ามากอด มือแกร่งกดศีรษะได้รูปเข้ากับไหล่หนาของตัวเอง คยูฮยอนไม่เข้าใจหรอก ถ้าคยูฮยอนเข้าใจ คยูฮยอนคงไม่ร้องไห้หนักขนาดนี้ แขนเรียวโอบรอบเอวสอบของซีวอนด้วยร่างกายที่สั่นสะท้าน

     

                อย่าไปไหน...อย่าหายไปไหนนะซีวอน คยูฮยอนร่ำร้องอยู่ในหัวใจเช่นนี้ แม้จะไม่ได้พูด แต่ซีวอนก็รับรู้ได้เป็นอย่างดีว่าคนรักรู้สึกอย่างไร

     

                “ผมขอโทษ อย่าร้องไห้เลยนะที่รัก ผมขอโทษจริงๆ”

     

                ฝ่ามือใหญ่ที่แสนอบอุ่นลูบเรือนผมนุ่มอย่างปลอบโยน ร่างทั้งสองร่างเบียดชิดกอดกันแน่นอยู่ริมระเบียง ซีวอนบอกกับคนในอ้อมกอดอยู่ในใจของเขา จะไม่มีการทำผิดเป็นครั้งที่สองอีกแล้ว

     

                ไม่ว่าจะด้วยความรู้สึกลุ่มหลง หรือด้วยอารมณ์ปรารถนาชั่ววูบก็ตาม...มันจะไม่เกิดขึ้นอีก

     

                “ซีวอนอย่าทิ้งฉันไปนะ หัวใจของฉันยกให้ซีวอนเพียงคนเดียว อย่าทิ้งฉันไป” เสียงเครือเอ่ยขึ้นปานจะขาดใจ ซีวอนพยักหน้าแล้วกดคางลงบนไหล่ที่สั่นเทาของคนรัก

     

                “ผมรักคยูฮยอนเพียงแค่คนเดียวเท่านั้น ได้โปรดอย่าร้องไห้เลย”

     

                คยูฮยอนไม่อยากค้นหาความจริงอีกแล้วว่าคำพูดของซีวอนเป็นความจริงหรือไม่ เขาจะเชื่อในคำพูดของคนรัก เชื่อในสิ่งที่หัวใจที่ปวดร้าวสั่งให้เชื่อ

     

                “ตอนนี้ผมไม่ได้รู้สึกเหนื่อยอีกแล้ว ผมต้องการใช้เวลาอยู่กับภรรยาที่น่ารักของผม คืนนี้...เราไปดินเนอร์กันนะ”

     

                ซีวอนผละออกแล้วเอ่ยชวน มีหรือที่คยูฮยอนจะปฏิเสธในเมื่อมันเป็นสิ่งที่เขารอคอยมาโดยตลอด แม้ซีวอนจะเย็นชามากแค่ไหน แต่คยูฮยอนก็รู้ว่าซีวอนรักเขา มีเพียงเขาคนเดียวเท่านั้น

     

     

    Loading-------------20%

     

                “ป๊า ทงเฮไม่อยากนอนในห้องแคบๆ เลย ทงเฮอยากออกไปเดินเล่นข้างนอก”

     

                คนป่วยที่นอนพลิกตัวไปมาอยู่บนเตียงเอ่ยบอกกับผู้เป็นพ่อ ทงเฮไม่อยากอุดอู้อยู่ในห้องนี้ เขารู้สึกหายใจไม่ออกแม้จะมีเครื่องช่วยหายใจวางอยู่ข้างๆ ตัวตลอดเวลา อยากพบหน้าใครสักคน ใครคนนั้นที่ทำให้เขาถวิลหามาตลอดหลายชั่วโมง

     

                “ฝนกำลังจะตก ป๊าไม่อยากให้ทงเฮไปเจออากาศชื้นๆ อยู่ในห้องนี่แหละดีแล้ว”

     

                “ออกไปเดินเล่นตรงทางเดินในอาคารก็ได้ ออกไปดูผู้คนไงครับ”

     

                ทงเฮเขย่ามือพ่อเบาๆ ฮยอกแจมองดูลูกชายที่นับวันจะไม่เชื่อฟังเขา แต่จะโทษใครก็ไม่ได้ เพราะตอนที่ฮยอกแจอายุเท่ากับลูก เขาก็ดื้อรั้นและถือความคิดตัวเองเป็นใหญ่เช่นกัน ไม่ว่าจองซูตักเตือนหรือแนะนำอะไร ฮยอกแจก็ไม่เคยปฏิบัติตามเลยสักนิด

     

                “ข้างนอกมีแต่คนป่วย ไม่มีอะไรน่ามองหรอก”

     

                “งั้นทงเฮก็ไม่น่ามองสิ ตอนนี้ทงเฮก็เป็นคนป่วยเหมือนกัน” ใบหน้าซีดเซียวงอง้ำราวกับต้องการให้พ่อพูดจาเยินยอตัวเองอยู่ ฮยอกแจยิ้มกว้างแล้วเอ่ยขึ้นตามสิ่งที่ในใจของลูกชายปรารถนา

     

                “ลูกชายของป๊าเป็นคนป่วยที่น่ามอง ไม่เหมือนคนอื่น ลูกดีกว่าคนอื่น อย่าเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับคนป่วยพวกนั้น”

     

                ฮยอกแจลูบผมของทงเฮด้วยความรัก ทงเฮยิ้มกว้าง เพราะฮยอกแจพูดถูก ถ้าหากเขาไม่น่าพิสมัย คุณหมอก็คง...

     

                คิดเพียงเท่านั้นใบหน้าหวานก็แดงเรื่ออย่างขวยเขิน จนป่านนี้แล้วยังอดคิดเรื่องเมื่อคืนไม่ได้ แม้จะเป็นความอ่อนไหว แต่ผู้ชายคนนั้นเขาจะคิดเหมือนกับเราหรือเปล่านะ

     

                แล้วทำไมเขาไม่มาดูแลทงเฮบ้างเลย เขาไม่สนใจทงเฮแล้วหรือไง...คุณหมอใจดี

     

                “นอนพักผ่อนให้มากๆ เถอะ เผื่อพรุ่งนี้หมอจะใจดีอนุญาตให้ทงเฮกลับบ้าน” ฮยอกแจว่าเพียงแค่นั้น ใบหน้าสดใสของทงเฮเมื่อครู่ก็แปรเปลี่ยนเป็นหม่นหมอง

     

                “พรุ่งนี้เหรอครับ?”

     

                “ทำไมทำหน้าเหมือนไม่ดีใจเลย”

     

                “ใครว่าไม่ดีใจล่ะครับ ดีใจมากๆ เลยต่างหาก ทงเฮอยากกลับไปนอนเตียงนุ่มๆ ที่บ้าน อยากกลับไปกินอาหารที่ป๊าทำให้ เบื่ออาหารจืดชืดของโรงพยาบาลจะแย่อยู่แล้ว”

     

                พอพูดจบก็พลิกตัวหันหลังให้คนเป็นพ่อ ทงเฮแสดงความวิตกกังวลออกมาทางสีหน้าอย่างชัดเจน เขาคนนั้นจะมาที่นี่อีกไหม จะมาอยู่เป็นเพื่อนจนกว่าทงเฮจะหลับหรือเปล่า จะกลับมามอบสัมผัสวาบหวามให้อีกครั้งหรือไม่ ทงเฮพรั่งพรูคำถามออกมามากมาย

     

                ใบหน้าที่แสนมีเสน่ห์ภายใต้ความมืดมิดยังฉายชัดราวกับว่ามันเพิ่งเกิดเมื่อไม่กี่นาทีที่แล้ว ทงเฮหลับตาพริ้มลงช้าๆ จินตนาการถึงสัมผัสวาบหวามว่ากำลังได้รับจากคุณหมอใจดีอีกครั้ง...และอีกครั้ง

     

     

                ทงเฮตื่นขึ้นมาอีกครั้งก็ตอนหัวค่ำ คนเป็นพ่อยังนั่งเฝ้าอยู่ข้างเตียงไม่ยอมห่าง มือหนาพลิกหงายแตะหน้าผากคนเป็นลูกทั้งๆ ที่รู้ดีว่ามือของคนเราไม่สามารถอุณหภูมิได้เลย

     

                “ป๊ารีบมาที่นี่จนลืมเอาเสื้อผ้ามาเปลี่ยน แต่ถ้าจะกลับบ้านไปก็กลัวว่าทงเฮตื่นมาแล้วไม่เจอใคร” ฮยอกแจกุมมือลูกชายมาจับไว้ เขาทำตัวไม่ถูก รู้สึกเหมือนทงเฮไม่ใช่ลูกชายของตัวเอง ยิ่งทงเฮโตขึ้นมากเท่าไร ใบหน้าก็ห่างไกลจากหน้าตาของคนเป็นพ่อมากเท่านั้น

     

                หลายครั้งที่ทงเฮถามว่าทำไม...

     

                ฮยอกแจก็ได้แต่บ่ายเบี่ยงว่า...เพราะลูกหน้าตาเหมือนแม่มากกว่าพ่อ ดีแล้วที่เหมือนแม่ ลูกผู้ชายเหมือนแม่จะไม่อาภัพ

     

                แต่ทงเฮก็ไม่ได้มีหน้าตาเหมือนแม่เสียทีเดียว มีเพียงดวงตาเท่านั้นที่ได้รับมาจากแม่เต็มๆ ส่วนองค์ประกอบอย่างอื่นคงเหมือนพ่อ และมันทำให้ฮยอกแจคิดไปว่า...พ่อของทงเฮคงหล่อเหลาเอาการ ไม่อย่างนั้นคงไม่ให้กำเนิดลูกชายที่หน้าตาน่ารักเช่นนี้

     

                “แล้วป๊าจะกลับบ้านตอนนี้เลยเหรอครับ” ฮยอกแจพยักหน้าอย่างกล้าๆ กลัวๆ กลัวว่าลูกจะไม่อยากอยู่คนเดียว กลัวว่าลูกจะน้อยใจคิดว่าเขาทิ้งให้อยู่เพียงลำพัง

     

                “ถ้าทงเฮไม่อยากอยู่คนเดียว ป๊าจะตามจงอุนมาอยู่เป็นเพื่อน”

     

                “ไม่ครับ ทงเฮจะอยู่คนเดียว ความจริงป๊าจะกลับไปนอนบ้านเลยก็ได้นะ เตียงที่โรงพยาบาลมันแคบ แล้วอีกอย่าง...หมอกับพยาบาลก็เต็มไปหมด ทงเฮไม่กลัวหรอก”

     

                ฮยอกแจเงียบสนิท รู้สึกเหมือนโดนคนเป็นลูกขับไล่กลายๆ แต่ก็ยังเป็นกังวลอยู่ลึกๆ ว่าทงเฮจะหลับได้ไหม ทงเฮชอบให้เขาลูบผมไปเรื่อยๆ จนกว่าจะหลับ เมื่อคืนนี้เพราะความอ่อนเพลียทำให้ลูกหลับไปได้ง่ายๆ แต่วันนี้ล่ะ ถ้าไม่มีฮยอกแจ...ทงเฮจะเป็นอย่างไร

     

                “ป๊าจะรีบกลับมา” เสียงทุ้มบอก สร้างสีหน้าไม่พอใจจากคนเป็นลูกขึ้นมาในทันที

     

                “แต่ว่า...ทงเฮโตแล้ว ทงเฮไม่อยากรบกวนป๊า” ทงเฮเริ่มร้อนรน เขาจะทำอย่างไรดีให้พ่อไม่อยู่เฝ้า ถ้าคืนนี้มีคนอยู่ที่ห้อง คุณหมอใจดีจะต้องไม่มาหาทงเฮแน่ รู้ทั้งรู้ว่าไม่สมควรจะคิดอกุศลเช่นนี้ เราเป็นคนไข้ และเขาเป็นหมอที่รักษาคนไข้

     

                ไม่น่ามีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งต่อกันเลย

     

                แต่อารมณ์หวั่นไหวยังคงค้างเติ่งและต้องการอยู่ร่ำไป ใช่แล้ว มันคือความโหยหา มันแตกต่างจากตอนที่เขาคบกับยูชอน นั่นคือการแย่งชิง

     

                แต่กับซีวอน...ทงเฮคิดว่ามันอาจจะคล้ายกับความรัก

     

                ความรักคือ...

     

                ความโหยหาเมื่อเขาไม่อยู่ใกล้ๆ

     

                “ทำไมทงเฮถึงพูดแบบนี้ หรือคืนนี้ยูชอนจะมาเฝ้า?” ทำไมฮยอกแจจะไม่รู้ว่าลูกชายของตัวเองกำลังคิดอะไรอยู่ การที่ไล่เขากลับบ้านไม่ใช่เรื่องปกติแน่ๆ ทงเฮไม่มีวันที่จะอยากอยู่เพียงลำพัง

     

                “ไม่ใช่นะครับ พี่ยูชอนไม่ได้มา”

     

                “แล้วเพราะอะไรทงเฮถึงได้ไล่ป๊ากลับบ้าน”

     

                ทงเฮส่ายหน้ารัว คิดว่าตัวเองคงจะต้องยอมแพ้ต่อผู้เป็นพ่อแล้ว ทงเฮรู้ว่าพ่อไม่ได้ทำอะไรผิดที่ขัดใจเขา แต่การขัดใจครั้งนี้ก็ทำให้ทงเฮเกิดอาการหงุดหงิดขึ้นมา แค่คิดว่าคืนนี้ต้องนอนแห้งเหี่ยวบนเตียงผู้ป่วยทั้งคืน มันก็แสนจะน่าเบื่อแล้ว

     

     

                ในที่สุดฮยอกแจก็รีบเดินทางจากโรงพยาบาลกลับไปบ้านเพื่อเก็บเสื้อผ้าและของใช้ที่จำเป็นไปนอนเฝ้าลูก สมองของฮยอกแจถูกใช้ความคิดอย่างหนัก ทำไมลูกถึงได้ทำท่าทางแบบนั้น อยากจะถามออกไป แต่ก็พอจะเดาสายตาของทงเฮได้

     

                ทงเฮไม่อยากเล่าให้เขาฟัง

     

                การเก็บของใช้เวลาเพียงแค่สิบนาทีเท่านั้นเอง ร่างโปร่งรีบออกมาจากบ้านโดยที่ไม่ลืมคล้องกุญแจหน้าบ้านเอาไว้อย่างแน่นหนา หากแต่ยังไม่ทันที่จะเดินไปขึ้นแท็กซี่ รถยนต์สีดำคันหนึ่งก็เคลื่อนเข้ามาจอดขวางทางเอาไว้

     

                ชายร่างยักษ์สองคนกระโดดลงมาจากรถ พร้อมกับล็อกแขนแกร่งของฮยอกแจไว้แน่น คนพวกนั้นพาฮยอกแจเดินไปขึ้นรถ หากแต่ฮยอกแจกลับขืนตัวเอาไว้

     

                “ปล่อยนะ พวกแกจะพาฉันไปไหน?”

     

                “ไปให้เจ้านายของฉันไง” หนึ่งในนั้นตอบเสียงเหี้ยม เจ้านายงั้นหรือ เขาไม่เคยเกี่ยวข้องกับใครมาก่อน ไม่เคยรู้จักผู้มีอิทธิพลหรือไปสร้างความเดือดร้อนให้ใคร แล้วทำไมจู่ๆ ถึงมีคนมาจับตัวเขา

     

                “ปล่อยนะเว้ย ฉันไม่ไป เจ้านายของแกเป็นใคร” ฮยอกแจโวยลั่นเมื่อถูกเหวี่ยงตัวเข้าไปนั่งในรถ แรงกระแทกที่บั้นท้ายทำให้ฮยอกแจฉุกคิดได้ว่าเจ้านายที่คนเหล่านี้พูดถึงคือใคร

     

                “รู้จักคุณฮันกยองไหม เขาซื้อแกออกมาจากไนต์คลับนั่นแล้ว”

     

                ร่างกายของฮยอกแจกระตุกวาบ เขายิ้มเย้ยหยันให้กับตัวเอง ควรจะดีใจใช่ไหมที่จู่ๆ ก็มีคนฉุดเขาออกมาจากขุมนรกนั่น แต่ทำไมน้ำตามันถึงคลออยู่เต็มหน่วยตา

     

                หรือเพราะ...

     

                พอได้ออกมาจากขุมนรก ฮยอกแจกลับต้องออกไปอยู่ขุมนรกที่เลวร้ายกว่าเดิม

     

                “ปล่อยฉันลงเดี๋ยวนี้!” เสียงของฮยอกแจตะโกนลั่น ร่างโปร่งตัวสั่นเทา แค่คิดว่าจะโดนทารุณเหมือนเมื่อคืนก็แทบจะลมจับ จะมีทางหนีไปไหนได้อีก แล้วทงเฮที่รอเขาอยู่ที่โรงพยาบาลล่ะ ลูกจะกังวลแค่ไหนถ้าเขาหายไปนาน

     

                “ฉันปล่อยแกไม่ได้หรอก มันเป็นคำสั่งของเจ้านาย”

     

                “ฉันบอกให้ปล่อย หยุดรถแล้วเปิดประตูเดี๋ยวนี้!!!

     

                แทนที่คนขับรถจะทำตามคำสั่งของเขา รถยนต์กลับทะยานออกไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วมากขึ้น ฮยอกแจนั่งคอตก ทำไมเขาถึงได้เกิดมาเป็นผู้ชายที่อ่อนแอนัก เขาไม่เคยสู้กับใครได้เลย ริมฝีปากสั่นระริก ได้แต่ขอโทษคนเป็นลูกซ้ำแล้วซ้ำเล่า

     

                ขอโทษ...ที่พ่อคนนี้ดีไม่พอ

     

                ขนาดตัวพ่อยังเอาตัวเองไม่รอด พ่อจะมีหน้าไปปกป้องลูกที่พ่อรักได้อย่างไร

     

     

    Loading-------------45%

     

                ก่อนที่จะถึงบ้านหลังหนึ่งประมาณห้านาที ฮยอกแจก็ถูกนำผ้ามาปิดตาเอาไว้ มันเป็นผ้าดิบสีขาวที่พับทบเพียงชั้นเดียว ราวกับคนผูกผ้าต้องการให้เขาเห็นลางๆ บ้าง คำถามคือ...เพื่ออะไรกัน

     

                นอกจากนี้แล้วข้อมือสวยยังถูกคล้องด้วยกุญแจมือ มันเป็นอุปกรณ์ที่แสดงให้เห็นว่าคนๆ นั้นมีรสนิยมที่เพศที่ป่าเถื่อนมากเช่นไร

     

                เมื่อรถยนต์จอดลง ฮยอกแจก็ถูกพาเดินเข้าไปในบ้านหลังใหญ่หลังหนึ่ง แสงเทียบวิบวับที่สาดเข้ามากระทบดวงตาทำให้ฮยอกแจตัวสั่นเทามากขึ้น มันไม่ใช่บรรยากาศที่โรแมนติกเลยสักนิด มันน่ากลัว น่ากลัวเหมือนตกอยู่ในเขาวงกตที่มืดมิดและไม่มีทางออก

     

                “มาแล้วเหรอ?” เสียงเย็นเบือกเอ่ยขึ้น ในขณะที่เสียงฝีเท้าของชายสองคนนั้นก็ค่อยๆ เดินจากไปและประตูก็ปิดลง หูของฮยอกแจยังใช้การได้ดี คนตรงหน้า...เขาจำน้ำเสียงของคนตรงหน้าได้แม่น

     

                ฮันกยอง

     

                “โอ๊ย!” ฮยอกแจร้องเสียงหลงเมื่อจู่ๆ เขาก็ถูกอะไรบางอย่างสาดเข้าใส่ ใช่แล้ว มันคือน้ำตาเทียน ดวงตาคมมองเงาตะคุ่มผ่านผ้าปิดตา ผู้ชายคนนี้เป็นโรคจิต เขาไม่ได้ต้องการความรัก แต่ต้องการมองเห็นความเจ็บปวดของใครสักคน

     

                และตอนนี้เหยื่อคนนั้น...คือเขา

     

                “รู้ไหมว่าค่าตัวมันแพงจนซื้อบ้านได้หลังหนึ่งเชียวนะ”

     

                “ปล่อย...ปล่อยผมไปเถอะ ผมต้องกลับไปหาลูก” ฮยอกแจยกมืออ้อนวอนคนตรงหน้า เสียงหัวเราะทุ้มใหญ่และมีพลังกระแทกเข้ามาในโสตประสาทจนฮยอกแจทรงตัวไม่อยู่ มือหนาบีบคางของเขาไว้แน่น

     

                “ลูกเหรอ? ผู้หญิงหรือผู้ชายล่ะ” ริมฝีปากหยักรีบเม้มแน่น เขาไม่น่าหลุดปากออกไปเลย ไม่น่าพูดถึงทงเฮ ถ้าหากฮันกยองสืบจนรู้ว่าเขามีลูก ทงเฮจะเป็นอย่างไรบ้าง

     

                “ปะ...เปล่า ผมไม่มี ไม่มีใครทั้งนั้น”

     

                “หึ เรื่องนั้นเอาไว้ก่อนเถอะ มีเรื่องที่น่าสนใจกว่านั้นอีกตั้งเยอะ” เรียวลิ้นร้อนโลมเลียตั้งแต่แก้มขาวเนียนไล้ต่ำไปจนถึงลำคอระหง ฟันซี่เล็กๆ ขบกัดจนเนื้อสีขาวกลายเป็นสีม่วง ก่อนจะผลักร่างโปร่งหงายหลังไปกับสถานที่ที่เขาเตรียมไว้

     

                “โอ๊ย! ปล่อย...ปล่อยผมนะ...”

     

                ฮยอกแจดิ้นพล่าน แต่ยิ่งดิ้นมากแค่ไหนมันก็ยิ่งลื่นมากเท่านั้น พื้นที่เขานอนอยู่นั้นเป็นพื้นที่เต็มไปด้วยน้ำแข็งมากมาย เสื้อผ้าถูกฉีกขาดและโยนออกไปคนละทิศละทาง ฮยอกแจพยายามจะลุกขึ้นนั่ง แต่ข้อมือที่ถูกพันธนาการเอาไว้ทำให้มันดูยากเสียเหลือเกิน

     

                “ไม่ชอบเหรอ มันน่าตื่นเต้นออกนะ” ฮันกยองคำรามอยู่ในลำคอด้วยความสะใจ น้ำตาเทียนถูกสลัดมาทางที่นอนอยู่บนน้ำแข็ง

     

                แผ่นหลังเปลี่ยนเป็นสีแดงเพราะความเย็น

     

                ในขณะที่ด้านหน้าก็กลายเป็นสีแดงเพราะความร้อน

     

                มันช่างทรมานจนคิดว่าจะต้องตายในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า แต่ยัง...เขายังไม่ตาย สมองยังรับรู้ความเจ็บปวดทุกชั่วขณะ

     

                ฮยอกแจเห็นเงาสูงใหญ่ของฮันกยองยืนคร่อมอยู่บนศีรษะของเขา ร่างสูงใส่รองเท้าเพื่อป้องกันความเย็นเอาไว้ ก่อนจะค่อยๆ โน้มต่ำลงมาเพื่อให้ส่วนแข็งแกร่งเข้ามาในปากของฮยอกแจ

     

                “ทำ...ทำสิ!

     

                “อึก...อึก...” ฮยอกแจส่งเสียงอึกอักอย่างทรมานเมื่ออวัยวะส่วนนั้นของฮันกยองถูกกระแทกเข้ามาในโพรงปากของเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่า ของเหลวกลิ่นคาวสัมผัสที่ปลายลิ้นทำให้ฮยอกแจแทบอาเจียน แต่ไม่มีทางเป็นไปได้ สิ่งนั้นยังคงกระแทกมาอีกครั้ง...และอีกครั้ง

     

                ฮยอกแจนอนนิ่งด้วยหัวใจสลาย ฮันกยองโค้งตัวไปด้านหน้าแล้วยัดบางสิ่งเข้ามาในช่องทางคับแคบทางด้านหลังของฮยอกแจด้วย มันเป็นเซ็กส์ทอยชนิดหนึ่งที่ฮยอกแจไม่รู้ว่ามันมีหน้าตาอย่างไร

     

                แต่มันกำลังทำให้เขาบิดเร่าอย่างทรมาน ของเล่นชิ้นนั้นมันมีขนาดใหญ่ และทุกครั้งที่สอดใส่เข้ามา มันก็ทำให้ฮยอกแจกำมือแน่น

     

                นรก...ที่นี่มันคือนรกชัดๆ

     

     

    Loading-------------60%

     

                ซีวอนและคยูฮยอนเดินออกมาจากร้านอาหารอิตาลีในเวลาเกือบสามทุ่ม พวกเขาไม่ได้คล้องแขนเอาไว้เหมือนคนรักชายหญิง แต่ระยะห่างของทั้งสองก็ไม่ได้ไกลกันเกินไป

     

                อย่างน้อยซีวอนก็ยังยืนอยู่ข้างๆ กัน

     

                “ผมยังไม่อยากกลับบ้าน” ซีวอนเปรยขึ้นเมื่อเข้ามานั่งในรถ คยูฮยอนหันไปแล้วแสดงสีหน้าแกรงใจ แค่นี้เขาก็ขอบคุณมากแล้วที่ซีวอนเอาใจเขา

     

                “ซีวอนไม่เหนื่อยเหรอ พรุ่งนี้ต้องไปทำงานแต่เช้านะ”

     

                “ถ้าการออกมากับคยูฮยอนเป็นสิ่งที่เหนื่อย งั้นการทำงานที่โรงพยาบาลก็คงเป็นสิ่งที่เหนื่อยมากๆ”

     

                คำตอบของซีวอนทำให้เรียวปากสวยคลี่ยิ้มกว้าง ผู้ชายคนนี้สินะที่คยูฮยอนต้องการ คือคนที่คยูฮยอนเลือก และเป็นคนที่คยูฮยอนเลือกไม่ผิดด้วย

     

                “เราไปแม่น้ำฮันกันนะ”

     

                คยูฮยอนพยักหน้าแล้วปล่อยให้คนรักทำอะไรตามใจชอบบ้าง ร่างสูงสตาร์ทรถแล้วขับออกไปเรื่อยๆ เขาไม่ได้จอดรถในบริเวณที่มีผู้คนพลุกพล่าน ตรงกันข้าม ซีวอนกลับเลือกที่จะจอดในบริเวณที่เงียบสนิท มีแสงไฟจากตึกสูงที่อยู่ไกลๆ ออกไปเท่านั้นที่พวกเขามองเห็น

     

                “จอดรถตรงนี้ไม่มีอะไรสวยๆ ให้ดูหรอกนะ” คยูฮยอนเอ่ยเย้า แล้วทำท่าจะเปิดประตูลงไปจากรถ หากแต่ซีวอนกลับคว้ามือบางเอาไว้

     

                “ทำไมจะไม่สวยล่ะ ดวงดาวตรงนี้สวย และคนที่นั่งข้างๆ ผมก็สวย”

     

                “สวย...เหรอ? ฉันเป็นผู้ชายนะ” มือเรียวฟาดท่อนแขนแกร่งเบาๆ แต่ซีวอนกลับฉวยมือนั้นไปกุมเอาไว้ เขาจับมือนุ่มของคยูฮยอนค่อยๆ เลื่อนไปทาบทับหน้าอกด้านซ้ายของเขา

     

                ซีวอนอยากให้คยูฮยอนรับรู้ว่าหัวใจดวงนี้เป็นของใคร

     

                มันเป็นของคยูฮยอนมานานแล้ว...และมันจะเป็นของคยูฮยอนต่อไปเรื่อยๆ

     

                “ผมรักคยูฮยอน” คยูฮยอนไม่ได้พูดอะไรต่อจากนั้น เขาเงียบและฟังเสียงหัวใจของซีวอนที่ส่งผ่านมาทางมือเรียวของตัวเอง ซีวอนเอื้อมมืออีกข้างไปลูบใบหน้าหวานของคยูฮยอนอย่างอ่อนโยน

     

                ความรู้สึกผิดกดทับหัวใจขึ้นมาอีกครั้ง

     

                เขาทำให้คนน่ารักต้องมีน้ำตาได้อย่างไรกันนะ

     

                “ผมขอโทษ” เสียงทุ้มพูดซ้ำอีกครั้ง แต่คยูฮยอนกลับส่ายหน้าไปมา

     

                “ลืม...ลืมว่ามันไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ฉันจะจำแค่ด้านดีๆ ของซีวอนเท่านั้น”

     

                ซีวอนเลื่อนมือจากแก้มใสค่อยๆ อ้อมไปกดท้ายทอยของคยูฮยอนเข้าหาตัวเอง เขาปรับองศาแล้วกดจูบริมฝีปากสวยได้รูป คยูฮยอนเองก็เชิดหน้าขึ้นตอบรับรสจูบของคนรักเช่นกัน มือเรียวที่ทาบทับหน้าอกแกร่งในตอนแรกเปลี่ยนมาเป็นลูบไล้ด้วยความหลงใหล

     

                “...ฮือ...” คยูฮยอนครางเสียงสั่น พวกเขาค่อยๆ ส่งลิ้นร้อนมากระหวัดฟาดฟันกับอีกฝ่ายอย่างหยอกล้อ เสียงหัวเราะคิกคักดังจากริมฝีปากของคยูฮยอนเมื่อเขาถอยหนีแล้วซีวอนตามเข้ามา

     

                ซีวอนทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว

     

                “ที่นี่...ได้ไหม?” เขาอาจจะดูเป็นคนเห็นแก่ตัวที่วันๆ คิดแต่เรื่องอย่างว่า แต่คยูฮยอนตอนนี้สวยกว่าแสงดาวหรือแสงจันทร์บนท้องฟ้าเสียอีก คยูฮยอนงดงามที่สุดในดวงตาของเขา

     

                คยูฮยอนไม่ได้พูดอะไรออกมา ใบหน้าหวานก้มงุดอย่างเอียงอาย ซีวอนจึงถือว่านั่นเป็นคำยินยอมจากคนรัก เขาปรับเบาะให้เอนไปด้านหลัง ก่อนจะโน้มตัวขึ้นไปทับบนเรือนร่างที่เขาปรารถนา

     

                บางที...สิ่งที่ซีวอนทำในวันนี้อาจจะเป็นการลบล้างสัมผัสของทงเฮออกไปจากเขาก็ได้

     

                ถ้าความรู้สึกมันสามารถลบไปได้ง่ายๆ

     

                ซีวอนก็อยากจะให้คยูฮยอนเป็นคนลบความรู้สึกนั้น

     

     

                ทงเฮนอนกระสับกระส่ายอยู่บนเตียงสีขาวในห้องสี่เหลี่ยมแคบๆ เพียงลำพัง ร่างบางกดโทรศัพท์ไปหายูชอนหลายครั้ง แต่ก็พบว่ามันรอสายอยู่ เขาคงมีคนอื่น

     

                ทงเฮไม่ได้รู้สึกเสียใจมากนักที่ยูชอนจะมีใคร เขาแค่หงุดหงิดที่ตอนนี้ต้องอยู่คนเดียว พยายาลที่เข้ามาเจาะเลือดตอนห้าทุ่มบอกว่าวันนี้คุณหมอชเวไม่ได้เข้าเวร ยิ่งทำให้ทงเฮอึดอัดแทบบ้า

     

                พ่อก็หายตัวไป...

     

                บางทีพ่ออาจจะไปทำงานที่ไนต์คลับเหมือนคนอื่นบอกมา เรื่องนี้ทงเฮก็ยังตัดออกไปจากความคิดได้ง่ายๆ ร่างกายของทงเฮโหยหาแต่คุณหมอ ตอนนี้เขาต้องการคุณหมอชเวคนเดียวเท่านั้น

     

                ตอนเที่ยงคืนตรง พยาบาลผู้หญิงเดินเข้ามาแล้วบอกให้ทงเฮนอนได้แล้ว เธอปิดไฟโดยไม่สนใจคำทัดทานของเขาเลยสักนิด ทงเฮกำหมัดแน่นจนหลังมือบางห้อเลือดเพราะเข็มน้ำเกลือกดลึกเข้าไป

     

                สักพักประตูก็เปิดออก

     

                คุณหมอ!

     

    ทงเฮผุดลุกขึ้นนั่ง แต่กลับเห็นบุรุษพยาบาลเดินเข้ามาเปลี่ยนน้ำเกลือ ใบหน้าหวานแสดงท่าทางสลดลง ก่อนจะเอนตัวลงไปนอนอีกครั้ง

     

                “ยังไม่นอนอีกเหรอครับ?” เสียงนุ่มเอ่ยถาม เขาน่าจะมีอายุไม่เกิน 25 ปีด้วยซ้ำ ทงเฮไม่ได้ตอบ ร่างบางทำเพียงแค่พยักหน้ากลับไป

     

                “รีบเข้านอนนะครับ จะได้หายป่วยเร็วๆ”

     

                เขาบอกหลังจากเปลี่ยนขวดน้ำเกลือให้ทงเฮเรียบร้อย ร่างสูงโปร่งหันมายิ้มอีกครั้ง ก่อนจะเดินกลับออกไป ถึงทงเฮจะไม่ได้จ้องมองเขาตลอดเวลา แต่ทงเฮก็คิดว่าเขาจัดเป็นบุรุษพยาบาลที่หน้าตาใช้ได้เลยทีเดียว

     

                “เดี๋ยวครับ!” ร่างบางร้องเรียกไว้ บุรุษพยาบาลหันมาพร้อมกับยิ้มกว้างอีกครั้ง

     

                “มีอะไรให้ผมช่วยเหรอครับ?”

     

                “เอ่อ...คุณ...คุณช่วยจูบผมได้ไหม?”

     

                ทงเฮคิดว่าเขาต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ ที่พูดออกไปอย่างนั้น บุรุษพยาบาลเกาะมือตรงปลายเตียงเช่นเดิม เขามีสีหน้าตกใจเล็กน้อยที่ทงเฮพูดขึ้น หากแต่ขาเรียวกลับเดินมาข้างๆ เตียงผู้ป่วยอย่างง่ายดาย

     

                “ทำไมถึงอยากให้ผมจูบล่ะ”

     

                “คือผม...แค่อยากรู้ว่า...ผมเป็นคนใจง่ายหรือเปล่า”

     

                ทงเฮอยากรู้ อยากรู้ว่าเขาสามารถทำแบบนั้นกับใครก็ได้หรือไม่ บุรุษพยาบาลคนนั้นไม่รอให้ทงเฮได้ลังเลอยู่นาน ใบหน้าคมโน้มลงมากดจูบที่ริมฝีปากซีดเซียวของทงเฮอย่างหนักหน่วง ทงเฮทำหน้าบิดเบี้ยว เขารู้สึกรังเกียจผู้ชายคนนี้ มือข้างหนึ่งผลักอกแกร่งออกห่างจากตัวเอง แต่อีกข้างหนึ่งที่ต้องให้น้ำเกลือกลับรู้สึกชา

     

                “พะ...พอ...” ทงเฮพยายามจะเอ่ยทัดทาน แต่เขากลับกวาดลิ้นร้อนเข้ามาเรื่อยๆ จากความรู้สึกที่ต้องการค้นหาแปรเปลี่ยนเป็นหวาดผวา ทงเฮดิ้นพล่านอยู่บนเตียงด้วยความตกใจ บุรุษพยาบาลรุกล้ำเสียจนเขาหายใจไม่ออก

     

                มันไม่ใช่ความผิดของคนตรงหน้า

     

                เขาต่างหากที่เชื้อเชิญ

     

                ทงเฮต่างหากที่เอาแต่คิดถึงหน้าตาหล่อเหลาของคุณหมอชเว เขาแค่อยากหาใครสักคนมาเติมเต็มความรู้สึกอัดอั้นทรมานให้หายไป แต่ทงเฮก็รู้แล้วว่าเขาไม่ได้เป็นเช่นนั้น

     

                ไม่ใช่ใครก็ได้...

               

                แต่ต้องเป็นคุณหมอชเว ซีวอนเท่านั้น

     

     

    Talk with Lee Seen

                ครบ 100% แล้วค่ะ โฮกกกกกก

    เหนื่อยอ่ะ ตอนนี้สั้นกว่าตอนที่แล้วอีก แต่ว่าใช้พลังงานเยอะกว่า

    ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน

    ตอนนี้แล้ว คนอ่านคง...หึหึ ตอนนี้ก็คง...หึหึหึ

    แล้วเจอกันตอนหน้านะค้า...

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×