ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic SJ] Erotic Drama [EunHae & HaeEun]

    ลำดับตอนที่ #5 : chapter 4 เหตุผล

    • อัปเดตล่าสุด 4 มี.ค. 54


     

    4

    เหตุผล

     

                รถไฟค่อยๆ มุ่งหน้าออกจากทะเลฮวาจินโปไปสู่ปูซาน อึนฮยอกขยับตัวบ่อยครั้งด้วยความเมื่อยล้า ทั้งๆ ที่สองสามวันที่ผ่านมาก็ไม่ค่อยได้ทำอะไรมากนัก เขากำลังรู้สึกหายใจไม่ทั่วท้อง บางทีมันอาจเกิดจากความหวาดกลัวต่อบางสิ่งบางอย่างก็เป็นได้

     

    คนตัวเล็กมองตามสายตาของพี่ชายที่เหม่อมองออกไปนอกหน้าต่าง ชายหาดของทะเลฮวาจินโปยังคงทอดยาวให้เห็นสุดลูกหูลูกตา แม้อึนฮยอกจะยังสามารถมองเห็นทะเลที่เขาชอบ ทว่าวันนี้เกลียวคลื่นเหล่านั้นมันช่างดูโศกเศร้ามากเหลือเกิน อึนฮยอกละสายตาจากคนเป็นพี่แล้วมองตงไห่ที่นั่งหลับคอพับอยู่ตรงข้ามกัน

     

                ตงไห่

     

                มือเรียวเอื้อมไปแตะแก้มของคนตรงข้ามอย่างนึกสงสาร ถ้าหลับในสภาพแบบนี้ ตื่นมาต้องปวดคอแน่ๆ ฮยอกแจหันกลับเข้ามาด้านในเมื่อได้ยินเสียงของน้องชาย ก่อนจะยิ้มบางๆ เมื่อเห็นภาพของตงไห่ที่หลับอย่างไม่รู้เรื่องรู้ราว อึนฮยอกขยับตัวลุกขึ้นยืน ทว่ามือหนาของฮยอกแจกลับเหนี่ยวรั้งเอาไว้

     

                จะไปไหน? เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงดุๆ แต่แฝงความเป็นห่วงอยู่ในที

     

                จะไปนั่งกับตงไห่ครับ ผมสงสารเขา

     

                ไม่ต้องหรอก เดี๋ยวพี่ย้ายไปนั่งฝั่งนั้นเอง

     

                ฮยอกแจดึงน้องชายให้นั่งลงที่เดิม เขาเปลี่ยนไปนั่งฝั่งตรงข้ามแล้วจับศีรษะของคนที่กำลังหลับใหลให้เอนมานอนซบบนไหล่หนาของตน ทว่าตงไห่คงคิดว่านี่เป็นที่นอนชั้นเยี่ยม เขาจึงทิ้งตัวลงมานอนทับบนตักกว้างอย่างสบายใจ

     

                เขาดูขี้เซาจังเลยนะครับ

     

                พี่ว่าเขาเหมือนนายไม่มีผิด ทั้งขี้อ้อน ขี้เซา แล้วก็ยิ้มเก่ง ฮยอกแจทำท่าจะเอื้อมมือไปสัมผัสเรือนผมของน้องชาย หากแต่ที่นั่งมันอยู่ห่างกันเกินไป อึนฮยอกเลยยื่นหน้าเข้ามาหาพี่ชายอย่างขี้อ้อน แต่เดี๋ยวนี้น้องชายของพี่ไม่ค่อยยิ้มแล้ว

     

                มือเรียวจับมือของพี่ชายมาแนบไว้ข้างแก้ม เขาไม่ได้พูดอะไรออกมาอีก อึนฮยอกทำเพียงมองหน้าพี่ชายด้วยแววตาเรียบเฉย ถ้าเทียบกันแล้ว เขายังยิ้มมากกว่าฮยอกแจเสียอีก บางทีอึนฮยอกก็อยากเห็นรอยยิ้มที่อบอุ่นของพี่บ้าง รอยยิ้มที่ไม่มีความกังวลใจใดๆ ซ่อนอยู่เบื้องหลัง อึนฮยอกอยากเห็นเช่นนั้น

     

                นายเองก็ควรจะพักผ่อนนะ ถึงปูซานแล้วพี่จะปลุกเอง

     

                ไม่ครับ ผมอยากนั่งเป็นเพื่อนพี่ฮยอกแจ อึนฮยอกบอกอย่างดื้อรั้น ฮยอกแจรู้สึกเหน็ดเหนื่อยเกินกว่าจะต่อว่าน้องชายได้ เขาจึงทำเพียงนั่งอยู่เฉยๆ เหม่อมองท้องฟ้าด้านนอกเป็นระยะ บางครั้งก็จับศีรษะของตงไห่ไม่ให้ร่วงลงจากตักของตัวเอง

     

                อึนฮยอกมองผู้คนที่เดินไปเดินมาอยู่บนรถไฟ เขาเห็นกลุ่มอันธพาลยืนเป็นกลุ่มใหญ่อยู่ด้านหลังฮยอกแจ ดวงตากลมโตจึงรีบหลุบลงต่ำด้วยความหวาดกลัว ทว่าถัดจากกลุ่มอันธพาลเหล่านั้นไปด้านหลัง ร่างสูงโปร่งของใครบางคนทำให้อึนฮยอกเงยหน้าขึ้นมองอีกครั้ง

     

                ผู้หมวดทงเฮ

     

                เสียงใสกู่ร้องอยู่ในใจ อึนฮยอกเริ่มขยับตัวอย่างลนลานเมื่อรู้ถึงชะตากรรมที่จะเกิดขึ้นข้างหน้า เขาเบนสายตาหลบตำรวจหนุ่มนั่น ทว่าผู้หมวดทงเฮกลับมองเห็นเขาแล้ว

     

                มานี่!”

     

                อึนฮยอกมองริมฝีปากที่กำลังขยับเป็นคำพูด เขามองหน้าฮยอกแจอีกครั้ง ก่อนจะหันกลับไปมองใบหน้าคมคายที่จ้องเขาด้วยท่าทางถมึงทึง

     

              ผมบอกให้มานี่

     

                ผม...ไป...ไม่...ได้... อึนฮยอกขยับปากพูดตอบออกไป เหงื่อหลายเม็ดผุดพรายลงมาที่ขมับจนฮยอกแจสังเกตเห็น

     

                อึนฮยอก ทำไมเหงื่อออกมากขนาดนั้น เป็นอะไรหรือเปล่า

     

                อะ...อากาศมันร้อนน่ะครับ เดี๋ยวผมไปล้างหน้าก่อนนะครับ อึนฮยอกลุกพรวดพราดออกจากที่นั่งของตัวเอง ทำไมฮยอกแจจะไม่รู้ว่าน้องชายของตัวเองกำลังปกปิดอะไรไว้อยู่ หน้าคมหันไปมองด้านหลัง ทว่าอึนฮยอกกลับเดินหายเข้าไปในห้องน้ำสุดทางเดินเสียแล้ว ร่างสูงทำท่าจะลุกขึ้นตามออกไป หากแต่ตงไห่ที่กำลังนอนอยู่บนตักทำให้เขาไม่สามารถขยับตัวไปไหนได้เลย

     

     

     

                 แขนเรียวถูกกระชากหายเข้าไปในห้องน้ำพร้อมกับประตูที่ปิดลงไปด้วยความรวดเร็ว ใบหน้าที่เคยมีสีเลือดฝาดกลับหน้าซีดเผือดเมื่ออยู่ใกล้อีกฝ่ายมากขนาดนี้

     

                คุณรู้ใช่ไหม

     

                ครับ?อึนฮยอกถามเสียงสูงพลางสะบัดหน้าไปมาอย่างแรง แผ่นหลังบางถูกดันไปยืนแนบชิดกับประตูเย็นเฉียบ ก่อนที่มือหนาจะยกแขนทั้งสองข้างของอึนฮยอกขึ้นสูง คุณทงเฮจะทำอะไรครับ

     

                ทำให้คุณยอมรับไงล่ะผู้หมวดทงเฮไม่ได้ไขความกระจ่างออกมาเลยสักนิด เขาทำเพียงซุกไซร้สันจมูกโด่งไปที่ละคอระหง อึนฮยอกขบฟันแน่น ได้แต่ยืนปล่อยให้น้ำตาอุ่นไหลพรากอย่างปวดร้าว เขาไม่รู้ว่าทงเฮกำลังพูดถึงอะไร ไม่รู้ว่าทงเฮกำลังต้องการอะไรจากเขา

     

                ทว่าสัมผัสที่มีความสุขเช่นนี้

     

                อึนฮยอกเต็มใจที่จะยอมรับมัน

     

                อื้อ~” เสียงครางฮืออยู่ในลำคอดังขึ้นพร้อมกับเปลือกตาบางที่ปรือลงไปอย่างเกิดอารมณ์ มือหนาของทงเฮปล่อยให้ข้อมือของอึนฮยอกเป็นอิสระ แต่แทนที่ร่างบางจะผลักอกแกร่งออกห่าง เขากลับโอบลำแขนของตัวเองไปคล้องคอของคนตรงหน้าเอาไว้ ก่อนที่พี่ชายของผมจะมา คุณรีบทำให้มันเสร็จเถอะครับ

     

                หืม? เดี๋ยวนี้ไม่กลัวผมแล้วเหรอ? ทงเฮถามด้วยน้ำเสียงขี้เล่น ทว่าแววตาที่ดุดันเมื่อจ้องมองร่างเล็กทำให้อึนฮยอกก้มหน้าหลบสายตานั้น มือหนาของตำรวจหนุ่มจับคางมนไว้อย่างนุ่มนวล ก่อนจะค่อยๆ บีบแน่นจนอึนฮยอกเจ็บปวดไปหมด น้ำตาหยดหนึ่งร่วงลงบนมือหนาทำให้ทงเฮรู้ตัวว่าเขาทำผิดพลาดไปอีกแล้ว

     

                อี ทงเฮจะไม่ทำร้ายผู้ชายคนนี้อีก

     

                แต่เขาก็จะไม่มีทางรักผู้ชายคนนี้เช่นเดียวกัน

     

                ความรักระหว่างตำรวจอนาคตไกลกับน้องชายของคนร้ายในคดีอาชญากรรม...มันเป็นไปไม่ได้

     

                ที่ฉันถามว่ารู้ใช่ไหม ผู้หมวดเริ่มเปิดประเด็นขึ้นมาอีกครั้ง ...หมายถึงคนที่เดินทางร่วมกับพวกนาย เขาเป็นใคร แล้วมารู้จักอี ฮยอกแจได้ยังไง

     

                อึนฮยอกย่นคิ้วด้วยความงุนงง ร่างเล็กไม่เข้าใจว่าทงเฮกำลังพูดถึงเรื่องอะไรกันแน่ ตงไห่เป็นคนที่พี่ชายเขาแนะนำให้รู้จักชื่อเท่านั้น แต่ไปพบกันได้ที่ไหนอย่างไร อี อึนฮยอกไม่เคยรู้เรื่องเหล่านั้นเลย

     

                ผมไม่รู้ครับตอบเสียงซื่อ ทว่าปฏิกิริยาที่ได้รับกลับเป็นการส่ายหน้าของอีกฝ่าย

     

                อย่ามาโกหก พี่ชายของคุณรู้จักเขา คุณก็ต้องรู้สิ

     

                อึนฮยอกช้อนตามองผู้หมวดด้วยท่าทางตัดพ้อ สนใจคนอื่นทั้งๆ ที่เขาอยู่ตรงหน้าได้อย่างไรกัน ทำไมถึงอยากจะรู้จักกับคนอื่น แต่ไม่เคยถามเขาเลยว่าเป็นอย่างไรบ้าง เมื่อคืนนอนหลับสบายดีไหม เจ็บปวดตรงไหนบ้างหรือเปล่า ทำไมทงเฮถึงไม่สนใจเขาบ้าง

     

                ผมไม่รู้จริงๆ ครับ ถ้าคุณเรียกผมมาเพื่อเรื่องนี้ ผมขอตัวพูดจบก็ทำท่าจะเปิดประตูออกไปด้านนอก หากเสียงแข็งกร้าวของทงเฮกลับเป็นเครื่องเหนี่ยวรั้งได้เป็นอย่างดี

     

                งั้นผมก็ขอโทษคุณล่วงหน้าแล้วกันถ้าผมจะจับพี่ชายของคุณเข้าคุกวันนี้

     

                คุณทงเฮ!” อึนฮยอกหันกลับมาเรียกชื่ออีกฝ่ายอย่างตกใจ เมื่อวานเราตกลงกันแล้วไม่ใช่เหรอ ถ้าผมยอมคุณ คุณก็จะไม่จับพี่ฮยอกแจ

     

                เมื่อวานผมเจออี ฮยอกแจ และผมก็ไม่ได้ทำอะไรเขา เพราะฉะนั้นเราก็หายกันแล้ว

     

                คุณนี่มัน!” อึนฮยอกพูดอะไรไม่ออกเลยเมื่อเห็นความเจ้าเล่ห์ของนายตำรวจทงเฮ อาจเป็นเพราะว่าทงเฮฉลาดที่จะหลอกมีอะไรกับเขา หรืออาจจะเป็นเพราะอึนฮยอกโง่เกินไปจึงโดนหลอกซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่บางทีก็อาจจะเป็นเพราะว่า...อึนฮยอกเต็มใจที่จะยอมให้ผู้หมวดทงเฮหลอกลวงเขาเช่นนั้น

     

                เพื่อที่จะปกป้องพี่ชายของตัวเองเอาไว้

     

                และเพื่อที่จะกลับมาพบกับอี ทงเฮอีก

     

                เจ้าของใบหน้าหล่อเหลาเลื่อนมาใกล้อึนฮยอกมากขึ้น ก่อนจะโน้มลงมาจุมพิตที่ริมฝีปากอิ่มสวย กดทับซ้ำแล้วซ้ำเล่า ส่งลิ้นร้อนเข้าไปกวัดแกว่งช่วงชิมความหวาน ส่วนมือหนาก็ลูบไล้ไปทั่วผิวขาวเนียนใต้เสื้อตัวบาง

     

                ร่างสองร่างยืนกอดก่ายกันอยู่ในห้องน้ำ เสพสมตามความปรารถนาของอารมณ์ คนหนึ่งยอมเพราะรัก อีกคนทำร้ายเพราะรัก...ไม่รู้ตัว

     

     

     

                ฮยอกแจเริ่มร้อนใจเมื่อเห็นน้องชายหายไปนาน เขาปลุกตงไห่ให้ตื่นขึ้นมา ก่อนจะทำท่าจะลุกขึ้นไปตามหาคนเป็นน้อง หากแต่ชายร่างกำยำคนหนึ่งกลับยืนขวางทางเอาไว้

     

                ถ้าไม่อยากตาย ถอยไป!”

     

                ฮยอกแจส่งเสียงลอดไรฟันอย่างไม่พอใจ ตงไห่ที่งัวเงียจึงรีบยืนขึ้นเพราะเข้าใจสถานการณ์เหล่านี้ดี พวกเขาถูกแก๊งอันธพาลเข้ามาหาเรื่องเสียแล้ว

     

                หึ ผอมแกร็นแบบนี้ จะทำอะไรฉันได้ เจ้าของร่างยักษ์เอ่ยขึ้น แถมยังก้าวเข้ามาร่างโปร่งเรื่อยๆ จนฮยอกแจถอยร่นหนี ตงไห่รีบเดินไปหลบอยู่ข้างหลังฮยอกแจด้วยความหวาดกลัว แต่ก็ยังอดไม่ได้ที่จะมองคนตรงข้ามเป็นระยะ ใบหน้าโหดเหี้ยมและน่ากลัวแสยะยิ้มกลับมาทำให้ฮยอกแจที่อยู่ในอารมณ์เป็นห่วงน้องชายชักปืนออกมาจากทางด้านหลัง

     

                ก็แค่เหนี่ยวไก ครั้งเดียวแกก็กลายเป็นศพแล้ว

     

                ปากกระบอกปืนจ่อที่หน้าผากของร่างสูงใหญ่อย่างไม่เกรงกลัว ผู้โดยสารที่ไม่เกี่ยวข้องรีบย่องหนีไปยังโบกี้อื่นเมื่อเห็นปืนอยู่ในมือของร่างโปร่ง อันธพาลร่างใหญ่ถอยกรูดพร้อมกับยกมือขึ้นทั้งสองข้างอย่างยอมแพ้

     

                คราวนี้จะถอยไปได้หรือยัง         ฮยอกแจถามอีกครั้งอย่างเหนือกว่า หากแต่สถานการณ์กลับพลิกผันเมื่อลูกน้องอีกหลายคนของชายร่างยักษ์วิ่งกรูกันเข้ามาที่เกิดเหตุ แต่ละคนมีมีดยาวและไม้หน้าสามกันครบมือ บอกไว้ก่อนนะว่าฉันไม่อยากมีเรื่อง

     

                แต่ฉันอยากมี!” หัวหน้าใหญ่ตะโกนลั่นอย่างยั่วอารมณ์ ฮยอกแจจึงหันกลับไปคว้ามือของตงไห่มากุมไว้แน่น ก่อนจะพาเดินฝ่ากลุ่มอันธพาลออกไปทางห้องน้ำ และปืนกระบอกสั้นก็ยังกราดซ้ายขวาเพื่อขู่อีกฝ่ายอยู่ตลอดเวลา ทว่ายังไม่ทันที่จะเดินพ้นไป ใครบางคนก็ยื่นเท้าออกมาทำให้ฮยอกแจสะดุดเกือบล้ม

     

                แฟนแกเหรอวะ น่ารักดีนี่ ขอนอนด้วยซักคืนได้ไหม ฮ่าๆๆตงไห่หันกลับไปมองอย่างอับอาย ฮยอกแจเม้มปากแน่น ก่อนจะหันกลับไปเหนี่ยวไกใส่ขาของคนที่ยื่นขามาขวางทางเขาเมื่อครู่

     

                โอ๊ย!” ชายตัวเล็กคนหนึ่งร้องเสียงหลง พร้อมกับทรุดลงไปกุมหน้าแข้งที่มีเลือดสีแดงฉานไหลออกมา คนที่เหลือจึงวิ่งเข้ามาหาฮยอกแจและตงไห่ด้วยความรวดเร็ว

     

                วิ่งเร็ว!” เสียงทุ้มบอกเพียงแค่นั้น ก่อนจะจับมือร่างเล็กให้วิ่งหนีออกไปให้เร็วที่สุดเท่าที่ขาทั้งสองข้างจะเอื้ออำนวยได้ แก๊งอันธพาลนับสิบคนวิ่งตามพวกเขามาเรื่อยๆ จนฮยอกแจต้องยิงปืนขู่ไปอีกครั้ง

     

    ปัง!

     

                ได้ผลชะงักเมื่อคนเหล่านั้นหยุดวิ่งตามฮยอกแจและตงไห่มา ทว่าใครคนหนึ่งกลับล้มลงไปนอนคว่ำอยู่ที่พื้น เสียงกรี๊ดร้องของผู้หญิงท้วมคนหนึ่งดังขึ้นด้วยความตกใจ และทั้งรถไฟโบกี้นั้นก็เกิดความโกลาหลอย่างช่วยไม่ได้

     

                คุณฮยอกแจ มะ...มีคนถูกยิง...กลางหน้าผาก... ตงไห่บอกอย่างไม่มีสติ ฮยอกแจมองปืนพกที่อยู่ในมือของตัวเอง เขาไม่ได้ตั้งใจจะยิงฝ่ายนั้น ฮยอกแจแค่ขู่หรือไม่ก็ให้โดนขาของใครคนหนึ่งเพื่อให้คนพวกนั้นวิ่งตามเขาและตงไห่ไม่ทัน เสียงอื้ออึงกลายเป็นเงียบลงราวกับปล่อยให้ฮยอกแจตกอยู่ในห้องความคิด เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยบนรถไฟวิ่งตามมายังที่เกิดเหตุ ทำให้ตงไห่ฉุดรั้งข้อมือหนาออกไป

     

                ไปไม่ได้ ฮยอกแจบอกเสียงเบาบาง ตาคมยังคงมองภาพชายหนุ่มที่จมกองเลือด อึนฮยอกยังอยู่บนนี้ เราต้องเจออึนฮยอกก่อน

     

                แต่ถ้าไม่หนีไป เราจะโดนจับนะครับตงไห่บอกอย่างร้อนใจ รถไฟค่อยๆ ชะลอความเร็วเพื่อจอดรับผู้โดยสารที่สถานีเล็กๆ ในเมืองหนึ่ง เมื่อตงไห่เห็นคนในเครื่องแบบสองคนกำลังวิ่งมาทางพวกเขา ร่างบางก็ฉุดฮยอกแจให้กระโดดหนีลงจากรถไฟไปพร้อมกันทันที

     

                ทั้งคู่วิ่งหนีตายกันอย่างทุลักทุเลไปตามทางที่รถไฟแล่นเพิ่งผ่านมา ฮยอกแจดึงมือตัวเองออกจากอีกฝ่าย ก่อนจะหยุดเดินเสียดื้อๆ

     

                หยุดเดินทำไมล่ะครับตงไห่หันกลับมาสะบัดเสียงถาม

     

                แล้วนายจะวิ่งไปถึงไหนล่ะ ปลายทางของเราอยู่ที่ไหน...นายรู้เหรอ? คำถามนั้นทำให้ตงไห่ส่ายหน้าช้าๆ เขารู้เพียงแค่ว่าตัวเองต้องหนีออกมาจากการจับกุม เขาไม่อยากให้ฮยอกแจต้องเข้าคุก อี ฮยอกแจเป็นแสวงสว่างเดียวที่ทำให้ตงไห่อยากมีชีวิตอยู่ต่อไป

     

                แล้วเราจะทำยังไงกันดีครับ แล้วอึนฮยอก?

     

                เมื่อได้ยินชื่ออึนฮยอกขึ้นมา ฮยอกแจก็เดินไปนั่งอยู่ใต้ต้นไม้แห่งหนึ่งอย่างใช้ความคิด ตงไห่เดินตามมานั่งลงข้างๆ กัน ก่อนจะซบศีรษะลงบนไหล่หนาของฮยอกแจด้วยความเหนื่อยล้า

     

                ผมขอโทษที่พาคุณฮยอกแจหนีมาแบบนั้น ขอโทษนะครับ ตงไห่บอกอย่างรู้สึกผิด หากแต่ฮยอกแจได้แต่นิ่งเงียบ ถ้าหากพวกเขาทั้งสองเริ่มรู้ตัวว่าหลงรักอีกฝ่ายแล้ว การนั่งอยู่ใต้ร่มไม้ใหญ่ข้างรางรถไฟคงเป็นความโรแมนติกแบบพิลึกน่าดู

     

                ตงไห่เห็นว่าฮยอกแจเงียบไปนาน เขาจึงผละศีรษะออกไปแล้วจ้องมองเสี้ยวหน้าคมของฮยอกแจพลางขมวดคิ้วมุ่น

     

                คุณจะไม่ยกโทษให้ผมเหรอครับเสียงหวานเอ่ยถามอย่างเศร้าสร้อย ฮยอกแจจึงหันกลับไปมองแล้วกุมมือของตงไห่มากุมไว้หลวมๆ

     

                ฉันไม่ได้โกรธนาย เพียงแต่... ฮยอกแจเงียบเพื่อทบทวนว่าสิ่งที่ตัวเองคิดนั้นไม่ผิดพลาดไป อึนฮยอกอาจจะอยู่กับตำรวจคนนั้น

     

                ตำรวจ? คนเมื่อคืนน่ะเหรอครับ ฮยอกแจพยักหน้าขึ้นลงช้าๆ แทนคำตอบ ทงเฮกลืนน้ำลายอึกใหญ่ลงคออย่างยากลำบาก ก่อนจะเอ่ยถามอีกครั้ง ทำไมเขาต้องตามเรามาด้วย เขาจะมาจับใครหรือเปล่าครับ

     

                ไม่ใช่หรอก

     

                แล้วทำไม?

     

                มีสองเหตุผลที่ไอ้เลวนั่นยังตามเรามา หนึ่ง...มันรักอึนฮยอก ตงไห่เบิกตาโพลงกับเรื่องที่ได้ยิน ฮยอกแจจึงเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้ร่างเล็กฟัง แม้ว่าผู้หมวดทงเฮจะหาเรื่องเขาและขู่ว่าจะจับเขา แต่ทุกครั้งที่ปรากฏตัวมา ผู้หมวดทงเฮก็มักจะเลือกทำร้ายจิตใจของอึนฮยอก

     

                เป้าหมายของทงเฮคือ...อึนฮยอก

     

                แล้วอีกเหตุผลล่ะครับ? ตงไห่ถามซ้ำอีกครั้ง ฮยอกแจจึงกุมมือบางนั้นแน่นขึ้นไปอีก เขาจุมพิตเบาๆ ที่ริมฝีปากบาง ก่อนจะจ้องตาตงไห่อย่างจับผิด

     

                เพราะนายไงล่ะ!”

     

     

     

     

     

     

    Talk with Lee Seen

              หายไปนาน แล้วก็มาต่อให้ซะงั้น ตอนแรกบอกว่าจะไปอ่านหนังสือ

    แต่ขี้เกียจอ่านอ่ะ อยากแต่งฟิกมากกว่า ใกล้สอบทีไร ฟิกชั่นหลอกหลอนทุกทีเลย

    อีกสามตอนเรื่องนี้จะจบแล้วนะคะ ซีนจะเปิดจองเร็วๆ นี้แล้ว

    หวังว่าทุกคนจะให้ความรักกับฟิกเรื่องนี้มากๆนะคะ

    ซีนรักทุกคนค่ะ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×