ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic SJ] Kiss the Rain [HaeEun, WonKyu]

    ลำดับตอนที่ #12 : Chapter 11

    • อัปเดตล่าสุด 9 พ.ย. 55


     

     

    Chapter 11

     

                ตั้งแต่ออกไปจับหมึกสำหรับทำอาหารเย็นวันนี้ คยูฮยอนยังไม่ได้สนใจใคร่รู้เลยว่าโทรศัพท์และกระเป๋าสตางค์ของเขาอยู่ที่ไหน คยูฮยอนรู้สึกว่าซีวอนเป็นยิ่งกว่าทุกอย่างสำหรับเขา

                เวลามองดูซีวอนที่ก้มลงไปจับหมึกในโคลนอย่างคล่องแคล่ว คยูฮยอนก็อ้าปากค้างด้วยความตะลึงพรึงเพริดกับความสามารถระดับนั้น

                “ฉันไม่คิดว่านายจะเก่งเรื่องอย่างนี้ด้วย” คยูฮยอนเอ่ยบอกกับร่างสูงที่ถลกแขนเสื้อเชิ้ตขึ้นมาครึ่งหนึ่ง และท่อนแขนมากกว่าครึ่งก็เต็มไปด้วยโคลนสีน้ำตาลออกดำ

                “นายก็ลองมาทำบ้างสิ ไม่ยากหรอก” ซีวอนเอ่ยชวนแล้วยื่นมือมารับคยูฮยอนที่เอาแต่ยืนนิ่งอยู่กับที่

                “ไม่เอา ฉันกลัว”

                “กลัวอะไร?”

                “ฉันกลัวปลาหมึกเวลามันดิ้นในมือของฉัน”

                “ตอนที่นายกินมันสดๆ นายยังไม่เคยกลัวเลย มาเถอะ ฉันจะช่วยนายเอง”

                ซีวอนยื่นมือมาตรงหน้าอีกครั้ง แต่เมื่อคยูฮยอนไม่ยอมเดินไปหาเขา ร่างสูงโปร่งจึงเดินมาคว้ามือบางของคยูฮยอนให้ก้าวตามออกไป สองตายายที่จับหมึกอยู่อีกมุมหนึ่งหันมามองทั้งสองคนแล้วก็หันกลับไปยิ้มให้กันราวกับรู้อะไรบางอย่าง

                “อ๊าก! ซีวอน หมึก...หมึกมันอยู่ใต้เท้าฉัน ฮือๆ” คยูฮยอนร้องลั่นและกระโดดโหยงเหยงอย่างตกใจ หมึกที่อยู่ใต้เท้าของคยูฮยอนก็พยายามดิ้นหนีเอาชีวิตรอด คยูฮยอนก็ยิ่งวิ่งไปทั่วจนฉุดซีวอนให้ล้มลงไปด้วยกัน

                “ระวัง!
                “โอ๊ย
    !” ซีวอนเตือนอีกฝ่ายไม่ทันเมื่อคยูฮยอนวิ่งวุ่นไปทั่วจนคว่ำหน้าล้มคะมำใส่ซีวอนเต็มๆ อีกฝ่ายที่ตั้งรับไม่ทันก็หงายหลังตามไปด้วย

                เป็นภาพที่ตลกมากสำหรับสองตายายเมื่อชายหนุ่มสองคนล้มคว่ำนอนทับกันอย่างกับในละคร แผ่นหลังของซีวอนเต็มไปด้วยโคลน แต่ว่าคยูฮยอนเองก็เปื้อนไปทั้งตัวไม่แตกต่างกันเลยสักนิด

                “เปื้อนหมดเลย!” คยูฮยอนบ่นในขณะที่พยายามจะทรงตัวยืนขึ้น

                “นายเจ็บหรือเปล่า?” ซีวอนถาม

                “ไม่ นายล่ะ?”

                ซีวอนส่ายหน้าแทนคำตอบ คยูฮยอนนั่งลงข้างๆ ทำหน้าบูดบึ้งที่เขาช่วยคนอื่นไม่ได้ยังไม่พอ ยังเป็นตัวถ่วงสำหรับทุกคนอีก คยูฮยอนเท้ามือข้างหนึ่งไปที่พื้น เขาตั้งใจจะกลับไปรอที่ฝั่งแล้ว

                ทว่า...

                “ซะ...ซะ...ซีวอน!

                “เกิดอะไรขึ้น มีอะไร...นาย...ทำไม?”

                “หมึก...หมึกอยู่ใต้มือฉัน!!!” คยูฮยอนหวีดร้องเสียงดังลั่น ก่อนจะชูหมึกตัวใหญ่ที่เขาจับติดมือขึ้นมา ทั้งดีใจทั้งตกใจกลัว ในขณะที่ซีวอนรีบเอาถังพลาสติกมารับหมึกตัวนั้นไปเก็บไว้

                “เห็นไหม? ฉันบอกแล้วว่านายต้องทำได้” ซีวอนยิ้มละมุนละไมและชื่นชมอีกฝ่าย คยูฮยอนยิ้มกว้างจนดวงตาสว่างไสวแข่งกับแสงประกายของดวงอาทิตย์ รอยยิ้มที่ซีวอนหลงรักมาตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็น

                “ฉันทำได้จริงๆ”

                คยูฮยอนบอกกับตัวเองอย่างภาคภูมิใจ

                บางอย่างที่คิดว่าทำไม่ได้ บางทีมันก็อาจจะไม่ยากอย่างที่คิดก็ได้ ขึ้นอยู่กับว่าเขากล้าที่จะเริ่มทำหรือเปล่าต่างหาก

                ซีวอนดึงแขนคยูฮยอนเข้าไปใกล้ๆ ทีละนิด ก่อนจะโอบศีรษะของคยูฮยอนให้มาซบไหล่ข้างที่ไม่เปื้อนของตัวเอง คยูฮยอนผละออกแล้วจ้องหน้าอีกฝ่ายด้วยความงงงัน ซีวอนจึงเอ่ยขึ้น

                “หน้านายเปื้อนโคลนน่ะ”

                “อ่อ งั้น...งั้นเองเหรอ?” คยูฮยอนพูดอย่างตะกุกตะกัก ชั่วขณะหนึ่งเขาเกือบจะคิดไปแล้วว่าซีวอนกับเขายังเป็นแฟนกัน คยูฮยอนคิดแบบนั้นจริงๆ

     

                เช้าวันนี้ก็เป็นเหมือนทุกวันที่ทงเฮต้องขับรถไปส่งฮยอกแจไปทำงาน แต่เพราะความที่นอนหลับเพลินไปหน่อย ฮยอกแจจึงไปทำงานสายเกือบสิบโมง

                ทงเฮไม่รู้ว่าเขาเห็นแก่ตัวมากเกินไปไหม

                เขาตื่นมาตอนหกโมงเช้าแล้วครั้งหนึ่ง แต่พอเห็นว่าฮยอกแจยังหลับสนิท เขาก็ไม่คิดจะปลุก ความจริงถ้าหากฮยอกแจหลับไปแล้ว ทงเฮไม่จำเป็นต้องกอดฮยอกแจไว้ก็ได้

                แต่เขาก็ยังจะทำ

                ไม่มีใครบังคับเขา แต่เขาอยากทำมันด้วยตัวเอง

                ตัวฮยอกแจนุ่มนิ่มเหมือนที่เขาเคยจินตนาการเอาไว้

                เอ๊ะ! นี่เขาไปจินตนาการว่าอยากกอดฮยอกแจตั้งแต่เมื่อไรกัน

                แต่ก็นั่นแหละ เพราะฮยอกแจแท้ๆ ที่ทำให้เขาอยากจะหลับต่อจนพากันตื่นสายด้วยกันทั้งคู่ ทงเฮขับรถอย่างหัวเสียไปตลอดทาง

                ทั้งหมดนั้นก็เพราะ...อี ฮยอกแจนั่นเอง

                ก่อนจะถึงที่ทำงานของฮยอกแจ เสียงข้อความโทรศัพท์ของทงเฮก็ดังขึ้น

                เราเลิกติดต่อกันสักพักนะ ถ้าฉันรู้สึกดีเมื่อไร ฉันจะติดต่อกลับไปหานายเอง จาก...คยูฮยอน

                ทงเฮคิดว่านั่นเป็นผลดีกับพวกเขาทั้งสอง บางทีเขาก็ได้แต่พูดว่ารักคยูฮยอน แต่การกระทำที่ผ่านมา เขาไม่เคยแสดงความรักให้คยูฮยอนเห็นเลย แม้แต่ตอนนี้ ทงเฮก็ยังเย็นชาเหมือนไม่รู้สึกอะไรหลังจากอ่านข้อความจบ

                “เรื่องของคยูฮยอนน่ะ” ทงเฮเอ่ยขึ้นเมื่อรถยนต์จอดหน้าบริษัท แต่ฮยอกแจรีบตัดบทเพราะไม่อยากจะฟังเรื่องนี้อีกแล้ว

                “ฉันต้องรีบไปทำงานแล้วล่ะ เจอกันเย็นนี้นะ”

                “เดี๋ยว!” ทงเฮกระชากแขนเรียวกลับมานั่งที่เดิม แล้วโน้มแขนมาโอบรอบฮยอกแจไว้ไม่ให้หนีเขาไปไหน

                “นายจะทำอะไรน่ะ ที่นี่มันหน้าที่ทำงานของฉันนะ”

                “เราต้องคุยกันให้รู้เรื่องก่อน”

                “เอาไว้คุยตอนเย็นก็ได้นี่” ฮยอกแจพูดจบก็กลอกตาไปมา ถึงรถของทงเฮจะติดฟิล์มสีดำทึบ แต่ก็ใช่ว่าเขาจะไม่รู้สึกเขินอายกับการกระทำนี้

                ที่จริงแล้ว มันไม่เกี่ยวกับคนอื่นเลยต่างหาก

                แต่การที่ทงเฮโน้มมากั้นไม่ให้เขาไปไหนแบบนี้ ทำให้ใบหน้าของทงเฮอยู่ห่างไม่ถึงคืบ ฮยอกแจรู้สึกว่ามันใกล้เกินไปจนหัวใจของเขาเต้นผิดจังหวะ

                “ฟังฉัน!” ทงเฮออกคำสั่ง “ฉันยอมรับว่าฉันแต่งงานกับนายก็เพื่อคยูฮยอน แต่นายเองก็บอกไม่ใช่เหรอว่าจะเอาชนะใจฉันให้ได้ ทำไมนายถึงล้มเลิกง่ายๆ ซะล่ะ”

                “นะ...นาย...หมายความว่ายังไง?”

                ฮยอกแจเบิกตากว้าง และเหมือนตอนนั้นที่ทงเฮจะหลุดออกจากภวังค์ บ้าที่สุด เขาพูดแบบนี้กับฮยอกแจออกไปได้ยังไง อยากให้ฮยอกแจอยู่กับตัวเองต่อไปอย่างนั้นเหรอ

                หรือว่าเขาจะชอบฮยอกแจเข้าแล้ว

                ไม่สิ...อี ทงเฮไม่ใช่คนใจโลเลแบบนั้นนี่ แต่ทำไมคำที่พูดออกไปถึง...

                ...ช่างน่าอาย

                ทงเฮกลับไปนั่งหลังพวงมาลัยเหมือนเดิม ทำให้ฮยอกแจเป็นอิสระ แต่ร่างบางกลับไม่สามารถเปิดประตูลงจากรถไปตอนนี้ได้อย่างใจนึกเลย ทำไมกันนะ ทำไมถึงอยากนั่งในนี้อีกต่อไปเรื่อยๆ

                “คือฉัน...”

                “คือว่า...” ทั้งสองคนพูดออกมาพร้อมกัน ทงเฮจึงเอ่ยขึ้นมาอีก “นายพูดมาก่อนสิ”

                “นายมีอะไรจะพูดเหรอ?” ฮยอกแจหันมาถามด้วยแก้มแดงปลั่ง แน่นอนว่าฮยอกแจกำลังเขิน แต่ทงเฮกลับชอบแก้มสีอมชมพูแบบนั้น หน้าหวานๆ ของฮยอกแจดึงดูดเขามากเหลือเกิน

                “ฉันแค่อยากบอกว่า...” ทงเฮกลืนคำที่อยากจะบอกว่า...อย่าคิดมากเกี่ยวกับเรื่องเขาและคยูฮยอนอีก เขาคิดว่าคำพูดนั้นมันจะทำให้ตัวเองกลายเป็นคนเลวโดยสมบูรณ์แบบ ทงเฮจึงเอ่ยคำอื่นออกไป “ตอนเที่ยงฉันจะมารับนายไปกินข้าวนะ”

                “จริงเหรอ?!” ฮยอกแจตะโกนลั่นด้วยความดีใจ

                “อืม”

                “สองต่อสองหรือเปล่า?” ส่งเสียงดังถามอีกครั้งจนทงเฮแสบแก้วหูไปหมด แต่ทงเฮก็ยังพยักหน้าแทนคำตอบส่งให้ “นายน่ารักที่สุดเลยอี ทงเฮ!

                ฮยอกแจรีบชิงขโมยหอมแก้มทงเฮ ก่อนวิ่งพรวดพราดออกไปจากรถ ฮยอกแจอยากจะทำแบบนี้มาตั้งนานแล้วล่ะ พอได้หอมแก้มทงเฮครั้งเดียวก็หายเข้าไปในบริษัททันที ทิ้งให้ทงเฮนั่งลูบแก้มของตัวเองช้าๆ

                “คิดว่าฉันนอนกอดคืนเดียวแล้วจะทำอะไรก็ได้หรือไง ทำท่าดีใจอย่างกับเด็กได้ขนมอย่างงั้นแหละ”

     

                ก่อนเวลาพักเที่ยงเพียงสิบนาที ฝนก็เทลงมาชุดใหญ่จนฮยอกแจที่ก้มมองดูนาฬิกาข้อมือถึงกับใจเสีย คิม ฮีชอลเดินออกมาจากห้องทำงานส่วนตัว เขาเดินตรงมาที่โต๊ะของฮยอกแจอย่างตั้งใจพลางเอ่ยขึ้น

                “ฮยอกแจ”

                “ครับ?”

                “ออกไปกินข้าวเที่ยงกับผมหรือเปล่า?” ใบหน้าของฮีชอลดูแวบเดียวก็รู้ว่าไม่ได้ชวนตามมารยาทเลย เขาจ้องมองฮยอกแจอย่างมีความหวังว่าฮยอกแจจะให้โอกาสกับเขาบ้าง

                ...สักนิดหนึ่งก็ยังดี

                “ฝนตกนี่ครับคุณคิม”

                “อื้อ ผมรู้!

                “วันนี้คุณคิมเอารถอะไรมาล่ะครับ?” ฮยอกแจถามอย่างรู้ทัน ก็เจ้านายของเขาน่ะเหมือนคนอื่นเสียที่ไหนกัน ถึงจะทำตัวเนี้ยบๆ ต่อหน้าพนักงานคนอื่นก็เถอะ แต่ตอนเช้ากลับบิดมอเตอร์ไซด์มาจากบ้าน ช่างไม่เข้ากันกับชุดสูทหรูหราเอาเสียเลย

                “รถมอไซด์”

                “งั้นก็เปียก”

                “แต่ผมมีเสื้อกันฝนสองตัวนะ คุณไม่ต้องห่วง ถ้าไปกับผม คุณไม่มีทางเปียกแน่” ฮีชอลยังคงเซ้าซี้ แต่พูดไปก็เท่านั้น เพราะฮยอกแจเริ่มยิ้มกว้างอย่างอารมณ์ดีแล้วลุกขึ้นยืน

                “ไม่ได้หรอกครับเจ้านาย วันนี้สามีของผมจะมารับไปทานข้าวข้างนอกเหมือนกัน”

                “โธ่! แล้วทำไมคุณไม่บอกให้ผมรู้ตั้งแต่แรกเล่า หลอกให้ผมดีใจไปคนเดียวอยู่ได้” ฮีชอลหน้ามุ่ยแล้วขยี้ผมฮยอกแจเพื่อแก้แค้น

                “อย่าสิครับ” ฮยอกแจเบี่ยงตัวหลบแล้วหัวเราะร่า “ก็คุณคิมเป็นแบบนี้ ผมก็อยากแกล้งน่ะสิ”

                “คุณอย่าแกล้งผมแบบนี้อีกนะ หัวใจผมอ่อนแอ”

                ฮีชอลแกล้งจับหน้าอกข้างซ้ายของตัวเองแล้วกระพริบตาปริบๆ อ้อนวอนฮยอกแจ ฮยอกแจคว้ากระเป๋าสะพายแล้วเดินออกไปด้านนอก แต่ก่อนจะออกไป เขาก็หันไปหาเจ้านายแล้วเอ่ยขึ้น

                “คุณคิมก็เลิกชอบผมซักทีสิครับ”

     

                พอออกมาถึงด้านนอก ฮยอกแจก็ควานหาร่มในกระเป๋าของตัวเอง แล้วก็นึกขึ้นมาได้ว่าวันนั้นเขาให้ทงเฮยืมร่มไป แล้วแบบนี้จะเดินออกไปรอทงเฮได้ยังไงกันล่ะ

                ฮยอกแจยืนหลบฝนอยู่ด้านในตัวอาคาร คิดว่าพอทงเฮมาถึงก็น่าจะโทรมาตามเขาให้ออกไป หรือไม่ก็อาจจะเอาร่มเดินมารับถึงข้างในก็ได้

                เขาเอาแต่คิดเข้าข้างตัวเอง

                บางครั้งก็เข้าข้างมากจนเกินไป จนเหมือนว่า...ฮยอกแจคิดไปเองอยู่ฝ่ายเดียว

                ทำไมยังไม่มาอีกนะ

                ฮยอกแจเริ่มร้อนใจต่างจากสายฝนเย็นเยียบที่อยู่ด้านนอก หรือว่าทงเฮจะหลอกให้เขาดีใจอีกแล้ว หรือว่าทงเฮไปหาคยูฮยอน หรือทงเฮอาจจะลืมว่านัดเขาเอาไว้

                ฝนเริ่มตกแรงขึ้นกว่าเดิมมากจนฮยอกแจยกแขนขึ้นมากอดตัวเองเอาไว้แน่น เที่ยงครึ่งแล้วแต่ทงเฮก็ยังไม่มา ไม่แม้แต่จะโทรมาบอกเขาเลยสักนิดว่าตอนนี้อยู่ที่ไหนทำอะไรอยู่

                ฮยอกแจคอตกมองพื้นอย่างสิ้นหวัง...

    ทงเฮคงจะไม่มาแล้วสินะ

                ร่างบางหันหลังเพื่อเดินกลับไปที่โต๊ะทำงานของตัวเอง แต่แล้วในที่สุดเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นมา

                “ทงเฮ!

                [นายจะไปไหน?] ทงเฮเอ่ยถามราวกับยืนอยู่ข้างหลังนี่เอง ฮยอกแจรีบหันกลับไปมองทันที แล้วเขาก็ได้พบว่าทงเฮยืนอยู่ข้างในบริษัทจริงๆ ด้วย

                “ฉัน...ฉันนึกว่านายจะไม่มาแล้ว”

                ฮยอกแจเอ่ยบอกในขณะที่ยังถือโทรศัพท์ค้างไว้ในมือบาง

                “ถนนลื่นมาก เลยเกิดอุบัติเหตุก่อนที่ฉันจะมาถึง”

                “นายไม่เป็นอะไรใช่ไหม?” ฮยอกแจถาม

                “ไม่ใช่รถฉันหรอก เป็นรถของคนอื่น”

                “ฉันคิดว่านายจะไม่มาแล้วจริงๆ” ฮยอกแจบอกด้วยเสียงเจือเศร้า ทงเฮลดโทรศัพท์ในมือลง ในขณะที่ฮยอกแจเองก็ทำเช่นนั้น มือหนาของทงเฮแตะไหล่บางของฮยอกแจเอาไว้แน่นแล้วโน้มมากระซิบบอก

                “ก็นัดไว้แล้ว จะไม่มาได้ไงล่ะครับ...คุณภรรยาขี้แง!

     

     

    Talk with Lee Seen

                อ๊ากกกก เพิ่งแต่งตอนที่ 12 เสร็จ(ต่อจากตอนนี้)

    บอกว่าจะมาอัพตอนสองทุ่ม แต่ช้าไปตั้ง 25 นาที ขอโทษด้วยนะคะ

    ตอนนี้ไม่รู้ว่าจะหวานถูกใจหรือเปล่า

    ขอให้คนอ่าน อ่านแล้วเขิน อ่านแล้วมีความสุขด้วยเถิด สาธุ!

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×