คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #12 : Chapter 11
Chapter 11
ตั้งแต่ออกไปจับหมึกสำหรับทำอาหารเย็นวันนี้ คยูฮยอนยังไม่ได้สนใจใคร่รู้เลยว่าโทรศัพท์และกระเป๋าสตางค์ของเขาอยู่ที่ไหน คยูฮยอนรู้สึกว่าซีวอนเป็นยิ่งกว่าทุกอย่างสำหรับเขา
เวลามองดูซีวอนที่ก้มลงไปจับหมึกในโคลนอย่างคล่องแคล่ว คยูฮยอนก็อ้าปากค้างด้วยความตะลึงพรึงเพริดกับความสามารถระดับนั้น
“ฉันไม่คิดว่านายจะเก่งเรื่องอย่างนี้ด้วย” คยูฮยอนเอ่ยบอกกับร่างสูงที่ถลกแขนเสื้อเชิ้ตขึ้นมาครึ่งหนึ่ง และท่อนแขนมากกว่าครึ่งก็เต็มไปด้วยโคลนสีน้ำตาลออกดำ
“นายก็ลองมาทำบ้างสิ ไม่ยากหรอก” ซีวอนเอ่ยชวนแล้วยื่นมือมารับคยูฮยอนที่เอาแต่ยืนนิ่งอยู่กับที่
“ไม่เอา ฉันกลัว”
“กลัวอะไร?”
“ฉันกลัวปลาหมึกเวลามันดิ้นในมือของฉัน”
“ตอนที่นายกินมันสดๆ นายยังไม่เคยกลัวเลย มาเถอะ ฉันจะช่วยนายเอง”
ซีวอนยื่นมือมาตรงหน้าอีกครั้ง แต่เมื่อคยูฮยอนไม่ยอมเดินไปหาเขา ร่างสูงโปร่งจึงเดินมาคว้ามือบางของคยูฮยอนให้ก้าวตามออกไป สองตายายที่จับหมึกอยู่อีกมุมหนึ่งหันมามองทั้งสองคนแล้วก็หันกลับไปยิ้มให้กันราวกับรู้อะไรบางอย่าง
“อ๊าก! ซีวอน หมึก...หมึกมันอยู่ใต้เท้าฉัน ฮือๆ” คยูฮยอนร้องลั่นและกระโดดโหยงเหยงอย่างตกใจ หมึกที่อยู่ใต้เท้าของคยูฮยอนก็พยายามดิ้นหนีเอาชีวิตรอด คยูฮยอนก็ยิ่งวิ่งไปทั่วจนฉุดซีวอนให้ล้มลงไปด้วยกัน
“ระวัง!”
“โอ๊ย!” ซีวอนเตือนอีกฝ่ายไม่ทันเมื่อคยูฮยอนวิ่งวุ่นไปทั่วจนคว่ำหน้าล้มคะมำใส่ซีวอนเต็มๆ อีกฝ่ายที่ตั้งรับไม่ทันก็หงายหลังตามไปด้วย
เป็นภาพที่ตลกมากสำหรับสองตายายเมื่อชายหนุ่มสองคนล้มคว่ำนอนทับกันอย่างกับในละคร แผ่นหลังของซีวอนเต็มไปด้วยโคลน แต่ว่าคยูฮยอนเองก็เปื้อนไปทั้งตัวไม่แตกต่างกันเลยสักนิด
“เปื้อนหมดเลย!” คยูฮยอนบ่นในขณะที่พยายามจะทรงตัวยืนขึ้น
“นายเจ็บหรือเปล่า?” ซีวอนถาม
“ไม่ นายล่ะ?”
ซีวอนส่ายหน้าแทนคำตอบ คยูฮยอนนั่งลงข้างๆ ทำหน้าบูดบึ้งที่เขาช่วยคนอื่นไม่ได้ยังไม่พอ ยังเป็นตัวถ่วงสำหรับทุกคนอีก คยูฮยอนเท้ามือข้างหนึ่งไปที่พื้น เขาตั้งใจจะกลับไปรอที่ฝั่งแล้ว
ทว่า...
“ซะ...ซะ...ซีวอน!”
“เกิดอะไรขึ้น มีอะไร...นาย...ทำไม?”
“หมึก...หมึกอยู่ใต้มือฉัน!!!” คยูฮยอนหวีดร้องเสียงดังลั่น ก่อนจะชูหมึกตัวใหญ่ที่เขาจับติดมือขึ้นมา ทั้งดีใจทั้งตกใจกลัว ในขณะที่ซีวอนรีบเอาถังพลาสติกมารับหมึกตัวนั้นไปเก็บไว้
“เห็นไหม? ฉันบอกแล้วว่านายต้องทำได้” ซีวอนยิ้มละมุนละไมและชื่นชมอีกฝ่าย คยูฮยอนยิ้มกว้างจนดวงตาสว่างไสวแข่งกับแสงประกายของดวงอาทิตย์ รอยยิ้มที่ซีวอนหลงรักมาตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็น
“ฉันทำได้จริงๆ”
คยูฮยอนบอกกับตัวเองอย่างภาคภูมิใจ
บางอย่างที่คิดว่าทำไม่ได้ บางทีมันก็อาจจะไม่ยากอย่างที่คิดก็ได้ ขึ้นอยู่กับว่าเขากล้าที่จะเริ่มทำหรือเปล่าต่างหาก
ซีวอนดึงแขนคยูฮยอนเข้าไปใกล้ๆ ทีละนิด ก่อนจะโอบศีรษะของคยูฮยอนให้มาซบไหล่ข้างที่ไม่เปื้อนของตัวเอง คยูฮยอนผละออกแล้วจ้องหน้าอีกฝ่ายด้วยความงงงัน ซีวอนจึงเอ่ยขึ้น
“หน้านายเปื้อนโคลนน่ะ”
“อ่อ งั้น...งั้นเองเหรอ?” คยูฮยอนพูดอย่างตะกุกตะกัก ชั่วขณะหนึ่งเขาเกือบจะคิดไปแล้วว่าซีวอนกับเขายังเป็นแฟนกัน คยูฮยอนคิดแบบนั้นจริงๆ
เช้าวันนี้ก็เป็นเหมือนทุกวันที่ทงเฮต้องขับรถไปส่งฮยอกแจไปทำงาน แต่เพราะความที่นอนหลับเพลินไปหน่อย ฮยอกแจจึงไปทำงานสายเกือบสิบโมง
ทงเฮไม่รู้ว่าเขาเห็นแก่ตัวมากเกินไปไหม
เขาตื่นมาตอนหกโมงเช้าแล้วครั้งหนึ่ง แต่พอเห็นว่าฮยอกแจยังหลับสนิท เขาก็ไม่คิดจะปลุก ความจริงถ้าหากฮยอกแจหลับไปแล้ว ทงเฮไม่จำเป็นต้องกอดฮยอกแจไว้ก็ได้
แต่เขาก็ยังจะทำ
ไม่มีใครบังคับเขา แต่เขาอยากทำมันด้วยตัวเอง
ตัวฮยอกแจนุ่มนิ่มเหมือนที่เขาเคยจินตนาการเอาไว้
เอ๊ะ! นี่เขาไปจินตนาการว่าอยากกอดฮยอกแจตั้งแต่เมื่อไรกัน
แต่ก็นั่นแหละ เพราะฮยอกแจแท้ๆ ที่ทำให้เขาอยากจะหลับต่อจนพากันตื่นสายด้วยกันทั้งคู่ ทงเฮขับรถอย่างหัวเสียไปตลอดทาง
ทั้งหมดนั้นก็เพราะ...อี ฮยอกแจนั่นเอง
ก่อนจะถึงที่ทำงานของฮยอกแจ เสียงข้อความโทรศัพท์ของทงเฮก็ดังขึ้น
เราเลิกติดต่อกันสักพักนะ ถ้าฉันรู้สึกดีเมื่อไร ฉันจะติดต่อกลับไปหานายเอง จาก...คยูฮยอน
ทงเฮคิดว่านั่นเป็นผลดีกับพวกเขาทั้งสอง บางทีเขาก็ได้แต่พูดว่ารักคยูฮยอน แต่การกระทำที่ผ่านมา เขาไม่เคยแสดงความรักให้คยูฮยอนเห็นเลย แม้แต่ตอนนี้ ทงเฮก็ยังเย็นชาเหมือนไม่รู้สึกอะไรหลังจากอ่านข้อความจบ
“เรื่องของคยูฮยอนน่ะ” ทงเฮเอ่ยขึ้นเมื่อรถยนต์จอดหน้าบริษัท แต่ฮยอกแจรีบตัดบทเพราะไม่อยากจะฟังเรื่องนี้อีกแล้ว
“ฉันต้องรีบไปทำงานแล้วล่ะ เจอกันเย็นนี้นะ”
“เดี๋ยว!” ทงเฮกระชากแขนเรียวกลับมานั่งที่เดิม แล้วโน้มแขนมาโอบรอบฮยอกแจไว้ไม่ให้หนีเขาไปไหน
“นายจะทำอะไรน่ะ ที่นี่มันหน้าที่ทำงานของฉันนะ”
“เราต้องคุยกันให้รู้เรื่องก่อน”
“เอาไว้คุยตอนเย็นก็ได้นี่” ฮยอกแจพูดจบก็กลอกตาไปมา ถึงรถของทงเฮจะติดฟิล์มสีดำทึบ แต่ก็ใช่ว่าเขาจะไม่รู้สึกเขินอายกับการกระทำนี้
ที่จริงแล้ว มันไม่เกี่ยวกับคนอื่นเลยต่างหาก
แต่การที่ทงเฮโน้มมากั้นไม่ให้เขาไปไหนแบบนี้ ทำให้ใบหน้าของทงเฮอยู่ห่างไม่ถึงคืบ ฮยอกแจรู้สึกว่ามันใกล้เกินไปจนหัวใจของเขาเต้นผิดจังหวะ
“ฟังฉัน!” ทงเฮออกคำสั่ง “ฉันยอมรับว่าฉันแต่งงานกับนายก็เพื่อคยูฮยอน แต่นายเองก็บอกไม่ใช่เหรอว่าจะเอาชนะใจฉันให้ได้ ทำไมนายถึงล้มเลิกง่ายๆ ซะล่ะ”
“นะ...นาย...หมายความว่ายังไง?”
ฮยอกแจเบิกตากว้าง และเหมือนตอนนั้นที่ทงเฮจะหลุดออกจากภวังค์ บ้าที่สุด เขาพูดแบบนี้กับฮยอกแจออกไปได้ยังไง อยากให้ฮยอกแจอยู่กับตัวเองต่อไปอย่างนั้นเหรอ
หรือว่าเขาจะชอบฮยอกแจเข้าแล้ว
ไม่สิ...อี ทงเฮไม่ใช่คนใจโลเลแบบนั้นนี่ แต่ทำไมคำที่พูดออกไปถึง...
...ช่างน่าอาย
ทงเฮกลับไปนั่งหลังพวงมาลัยเหมือนเดิม ทำให้ฮยอกแจเป็นอิสระ แต่ร่างบางกลับไม่สามารถเปิดประตูลงจากรถไปตอนนี้ได้อย่างใจนึกเลย ทำไมกันนะ ทำไมถึงอยากนั่งในนี้อีกต่อไปเรื่อยๆ
“คือฉัน...”
“คือว่า...” ทั้งสองคนพูดออกมาพร้อมกัน ทงเฮจึงเอ่ยขึ้นมาอีก “นายพูดมาก่อนสิ”
“นายมีอะไรจะพูดเหรอ?” ฮยอกแจหันมาถามด้วยแก้มแดงปลั่ง แน่นอนว่าฮยอกแจกำลังเขิน แต่ทงเฮกลับชอบแก้มสีอมชมพูแบบนั้น หน้าหวานๆ ของฮยอกแจดึงดูดเขามากเหลือเกิน
“ฉันแค่อยากบอกว่า...” ทงเฮกลืนคำที่อยากจะบอกว่า...อย่าคิดมากเกี่ยวกับเรื่องเขาและคยูฮยอนอีก เขาคิดว่าคำพูดนั้นมันจะทำให้ตัวเองกลายเป็นคนเลวโดยสมบูรณ์แบบ ทงเฮจึงเอ่ยคำอื่นออกไป “ตอนเที่ยงฉันจะมารับนายไปกินข้าวนะ”
“จริงเหรอ?!” ฮยอกแจตะโกนลั่นด้วยความดีใจ
“อืม”
“สองต่อสองหรือเปล่า?” ส่งเสียงดังถามอีกครั้งจนทงเฮแสบแก้วหูไปหมด แต่ทงเฮก็ยังพยักหน้าแทนคำตอบส่งให้ “นายน่ารักที่สุดเลยอี ทงเฮ!”
ฮยอกแจรีบชิงขโมยหอมแก้มทงเฮ ก่อนวิ่งพรวดพราดออกไปจากรถ ฮยอกแจอยากจะทำแบบนี้มาตั้งนานแล้วล่ะ พอได้หอมแก้มทงเฮครั้งเดียวก็หายเข้าไปในบริษัททันที ทิ้งให้ทงเฮนั่งลูบแก้มของตัวเองช้าๆ
“คิดว่าฉันนอนกอดคืนเดียวแล้วจะทำอะไรก็ได้หรือไง ทำท่าดีใจอย่างกับเด็กได้ขนมอย่างงั้นแหละ”
ก่อนเวลาพักเที่ยงเพียงสิบนาที ฝนก็เทลงมาชุดใหญ่จนฮยอกแจที่ก้มมองดูนาฬิกาข้อมือถึงกับใจเสีย คิม ฮีชอลเดินออกมาจากห้องทำงานส่วนตัว เขาเดินตรงมาที่โต๊ะของฮยอกแจอย่างตั้งใจพลางเอ่ยขึ้น
“ฮยอกแจ”
“ครับ?”
“ออกไปกินข้าวเที่ยงกับผมหรือเปล่า?” ใบหน้าของฮีชอลดูแวบเดียวก็รู้ว่าไม่ได้ชวนตามมารยาทเลย เขาจ้องมองฮยอกแจอย่างมีความหวังว่าฮยอกแจจะให้โอกาสกับเขาบ้าง
...สักนิดหนึ่งก็ยังดี
“ฝนตกนี่ครับคุณคิม”
“อื้อ ผมรู้!”
“วันนี้คุณคิมเอารถอะไรมาล่ะครับ?” ฮยอกแจถามอย่างรู้ทัน ก็เจ้านายของเขาน่ะเหมือนคนอื่นเสียที่ไหนกัน ถึงจะทำตัวเนี้ยบๆ ต่อหน้าพนักงานคนอื่นก็เถอะ แต่ตอนเช้ากลับบิดมอเตอร์ไซด์มาจากบ้าน ช่างไม่เข้ากันกับชุดสูทหรูหราเอาเสียเลย
“รถมอ’ไซด์”
“งั้นก็เปียก”
“แต่ผมมีเสื้อกันฝนสองตัวนะ คุณไม่ต้องห่วง ถ้าไปกับผม คุณไม่มีทางเปียกแน่” ฮีชอลยังคงเซ้าซี้ แต่พูดไปก็เท่านั้น เพราะฮยอกแจเริ่มยิ้มกว้างอย่างอารมณ์ดีแล้วลุกขึ้นยืน
“ไม่ได้หรอกครับเจ้านาย วันนี้สามีของผมจะมารับไปทานข้าวข้างนอกเหมือนกัน”
“โธ่! แล้วทำไมคุณไม่บอกให้ผมรู้ตั้งแต่แรกเล่า หลอกให้ผมดีใจไปคนเดียวอยู่ได้” ฮีชอลหน้ามุ่ยแล้วขยี้ผมฮยอกแจเพื่อแก้แค้น
“อย่าสิครับ” ฮยอกแจเบี่ยงตัวหลบแล้วหัวเราะร่า “ก็คุณคิมเป็นแบบนี้ ผมก็อยากแกล้งน่ะสิ”
“คุณอย่าแกล้งผมแบบนี้อีกนะ หัวใจผมอ่อนแอ”
ฮีชอลแกล้งจับหน้าอกข้างซ้ายของตัวเองแล้วกระพริบตาปริบๆ อ้อนวอนฮยอกแจ ฮยอกแจคว้ากระเป๋าสะพายแล้วเดินออกไปด้านนอก แต่ก่อนจะออกไป เขาก็หันไปหาเจ้านายแล้วเอ่ยขึ้น
“คุณคิมก็เลิกชอบผมซักทีสิครับ”
พอออกมาถึงด้านนอก ฮยอกแจก็ควานหาร่มในกระเป๋าของตัวเอง แล้วก็นึกขึ้นมาได้ว่าวันนั้นเขาให้ทงเฮยืมร่มไป แล้วแบบนี้จะเดินออกไปรอทงเฮได้ยังไงกันล่ะ
ฮยอกแจยืนหลบฝนอยู่ด้านในตัวอาคาร คิดว่าพอทงเฮมาถึงก็น่าจะโทรมาตามเขาให้ออกไป หรือไม่ก็อาจจะเอาร่มเดินมารับถึงข้างในก็ได้
เขาเอาแต่คิดเข้าข้างตัวเอง
บางครั้งก็เข้าข้างมากจนเกินไป จนเหมือนว่า...ฮยอกแจคิดไปเองอยู่ฝ่ายเดียว
ทำไมยังไม่มาอีกนะ
ฮยอกแจเริ่มร้อนใจต่างจากสายฝนเย็นเยียบที่อยู่ด้านนอก หรือว่าทงเฮจะหลอกให้เขาดีใจอีกแล้ว หรือว่าทงเฮไปหาคยูฮยอน หรือทงเฮอาจจะลืมว่านัดเขาเอาไว้
ฝนเริ่มตกแรงขึ้นกว่าเดิมมากจนฮยอกแจยกแขนขึ้นมากอดตัวเองเอาไว้แน่น เที่ยงครึ่งแล้วแต่ทงเฮก็ยังไม่มา ไม่แม้แต่จะโทรมาบอกเขาเลยสักนิดว่าตอนนี้อยู่ที่ไหนทำอะไรอยู่
ฮยอกแจคอตกมองพื้นอย่างสิ้นหวัง...
ทงเฮคงจะไม่มาแล้วสินะ
ร่างบางหันหลังเพื่อเดินกลับไปที่โต๊ะทำงานของตัวเอง แต่แล้วในที่สุดเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นมา
“ทงเฮ!”
[นายจะไปไหน?] ทงเฮเอ่ยถามราวกับยืนอยู่ข้างหลังนี่เอง ฮยอกแจรีบหันกลับไปมองทันที แล้วเขาก็ได้พบว่าทงเฮยืนอยู่ข้างในบริษัทจริงๆ ด้วย
“ฉัน...ฉันนึกว่านายจะไม่มาแล้ว”
ฮยอกแจเอ่ยบอกในขณะที่ยังถือโทรศัพท์ค้างไว้ในมือบาง
“ถนนลื่นมาก เลยเกิดอุบัติเหตุก่อนที่ฉันจะมาถึง”
“นายไม่เป็นอะไรใช่ไหม?” ฮยอกแจถาม
“ไม่ใช่รถฉันหรอก เป็นรถของคนอื่น”
“ฉันคิดว่านายจะไม่มาแล้วจริงๆ” ฮยอกแจบอกด้วยเสียงเจือเศร้า ทงเฮลดโทรศัพท์ในมือลง ในขณะที่ฮยอกแจเองก็ทำเช่นนั้น มือหนาของทงเฮแตะไหล่บางของฮยอกแจเอาไว้แน่นแล้วโน้มมากระซิบบอก
“ก็นัดไว้แล้ว จะไม่มาได้ไงล่ะครับ...คุณภรรยาขี้แง!”
Talk with Lee Seen
อ๊ากกกก เพิ่งแต่งตอนที่ 12 เสร็จ(ต่อจากตอนนี้)
บอกว่าจะมาอัพตอนสองทุ่ม แต่ช้าไปตั้ง 25 นาที ขอโทษด้วยนะคะ
ตอนนี้ไม่รู้ว่าจะหวานถูกใจหรือเปล่า
ขอให้คนอ่าน อ่านแล้วเขิน อ่านแล้วมีความสุขด้วยเถิด สาธุ!
ความคิดเห็น