คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : Intro
Intro
“พ...พี่ครับ...ช่วยผม...ด้ว...”
เสียงแหบพร่าขาดห้วงเมื่อหมัดหนักๆ กระทุ้งเข้าเต็มท้อง ชายฉกรรจ์สองคนกำลังช่วยกันขึงตัวเขาไว้กับพื้นเย็นเฉียบ อึนฮยอกไม่มีเรี่ยวแรงที่จะต่อสู้เลยแม้แต่นิด กางเกงขายาวถูกร่นจนเผยให้เห็นเรียวขาสวย ร่างบางบิดเร่าหวังว่าแรงอันน้อยนิดอาจจะทำให้ตัวเองรอดพ้นจากเงื้อมมือของคนเลวไปได้
“เรียกฉันว่า ‘ที่รัก’ สิ แล้วฉันจะทำให้นายมีความสุข”
เสียงกระซิบที่ฟังแล้วขนลุกขนพองทำให้อึนฮยอกเบือนหน้าหนี แต่นั่นกลับทำให้คนชั่วโน้มลงมาเสพหาความสุขจากร่างกายของเขา น้ำตาอุ่นไหลพรากราวกับจะขาดใจ จนกระทั่งเสียงผลักประตูดังขึ้น
“ทำอะไรกันน่ะ!!?!”
เจ้าของเสียงกร้าวตะโกนออกมาท่ามกลางความมืด พวกคนร้ายทั้งสองผงะเมื่อเห็นกระบอกปืนมันปลาบเล็งมายังตน ก่อนจะวิ่งหนีหายออกไปทางหลังบ้าน ทิ้งให้อึนฮยอกค่อยๆ ชันตัวลุกขึ้นนั่งด้วยความอับอาย
“ขอบคุณครับ...อึก...”
เสียงสะอื้นยังเล็ดลอดออกมาเบาๆ ให้ได้ยิน ตำรวจหนุ่มย่างเข้ามาใกล้ ภายใต้แสงจันทร์สีนวลที่สาดส่องเข้ามาทางหน้าต่างเพียงเล็กน้อย อึนฮยอกกลับเห็นใบหน้าขาวใสของเขาอย่างชัดเจน ‘ขอบคุณ’ คำๆ นี้ดังก้องเป็นล้านๆ ครั้งอยู่ในใจของอึนฮยอก นายตำรวจค่อยๆ กระคองร่างที่สั่นเทาออกมาจากบ้านร้างหลังนั้นพลางเอ่ยถามขึ้น
“บ้านคุณอยู่ไหน?”
“อยู่ที่...”
อึนฮยอกเอ่ยชื่อหมู่บ้านสลัมที่อยู่ถัดไปไม่กี่ซอย นายตำรวจหนุ่มพาร่างบางไปซ้อนมอเตอร์ไซด์และขับทะยานออกไปยังถนนแคบๆ จนกระทั่งมาหยุดอยู่ที่หน้าหมู่บ้าน
“ต้องเดินเท้าเข้าไปน่ะครับ คุณ...ส่งผมแค่นี้ก็พอ”
“แล้วถ้าโจรพวกนั้นมันกลับมาอีกล่ะ?”
ตำรวจหนุ่มร่างสูงโปร่งเอ่ยถามขึ้นเสียงเรียบ แต่เพียงแค่นั้นก็ทำให้อึนฮยอกขนลุกซู่แล้ว ในที่สุดก็จำยอมให้คนแปลกหน้าเดินไปส่งจนถึงหน้าบ้านจนได้
บ้านหลังเล็กๆ เก่าๆ ที่อยู่เกือบสุดซอยมีกลิ่นน้ำครำโชยมาตลอดเวลาจนตำรวจต้องยู่หน้า สภาพบ้านที่ทรุดโทรมขนาดนี้ยังจะกล้าเรียกว่า ‘บ้าน’ ได้อีกเหรอ ร่างโปร่งตามเข้าไปด้านในอย่างไม่รู้ตัว เมื่ออึนฮยอกเปิดหลอดไฟเก่าๆ ขึ้นมา เขาจึงสังเกตเห็นว่าเสื้อที่คนตัวเล็กใส่ถูกฉีกจนขาดวิ่น รวมทั้งมีร่องรอยของสิ่งมีคมกรีดไว้จนเห็นเลือดไหลเป็นแนวยาว
“ค...คุณ...มีเลือดนี่”
“ครับ? อ๋อ...ฝีมือของพวกนั้น”
“รีบล้างแผลสิ เดี๋ยวก็เป็นบาดทะยักหรอก”
อึนฮยอกมองที่หน้าอกด้านซ้ายของตัวเองอย่างไม่ยี่หระ เขาถอดเสื้อยืดตัวบางออกแล้วปาทิ้งไปมุมใดมุมหนึ่งของห้องแคบๆ เดินไปหยิบกระป๋องน้ำที่มีน้ำเหลืออยู่เพียงก้นขวดแล้วเทราดไปที่ลำตัวของตัวเอง มือบางลูบไล้เลือดที่จับตัวเป็นก้อนให้หลุดออก ก่อนจะหันมาหาคนแปลกหน้าแล้วเอ่ยคำ
“คุณ...เอ่...”
“ผมชื่ออี ทงเฮ หรือคุณจะเรียกว่าผู้หมวดอีก็ได้”
อึนฮยอกทำท่าเหมือนจะไม่สนใจคำพูดนั้น เขาหยิบเสื้ออีกตัวมาใส่อย่างลวกๆ ก่อนจะหันไปมองนาฬิกาที่แขวนอยู่บนพนัง
พี่ชายยังไม่กลับมาเลย
“คุณผู้หมวดไม่กลับบ้านล่ะครับ”
อึนฮยอกพูดประชดประชัน ไม่มีท่าทางเหมือนคนเพิ่งผ่านการ(เกือบ)ถูกข่มขืนเลยสักนิด เป็นเพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกของเขา มันเกิดขึ้นตั้งแต่อาศัยอยู่กับพ่อบุญธรรมแล้ว ชีวิตที่ถูกข่มขืนมาตั้งแต่ตอนอายุ 12 ปี เขาชินชากับมันเสียแล้ว
“ผมจะอยู่เป็นเพื่อนคุณก่อน”
ผู้หมวดทงเฮจ้องมองใบหน้าที่ขาวใสอย่างไม่กระพริบตา เขารู้แล้วว่าทำไมชายหนุ่มคนนี้จึงถูกข่มขืน ใบหน้าที่ดูเหมือนจะยั่วยวนทุกคนที่ได้พบเห็นเช่นนี้ไงล่ะ เหมือนในตอนนี้ที่อี ทงเฮเข้าใจไปว่าอึนฮยอกกำลังยั่วเขาอยู่
ร่างโปร่งเดินดุ่มๆ เข้าไปกอดอึนฮยอกไว้แน่น จมูกโด่งซุกไซร้ไปตามซอกคอขาวจนอึนฮยอกหวาดผวา มือบางพยายามจะดันหน้าอกกว้างออกจากตัวเอง หากแต่คำกระซิบที่อยู่ข้างหูกลับทำให้ร่างกายของเขาอ่อนระทวย
“ผมไม่เหมือนคนอื่นหรอก ไม่ต้องกลัว ผมจะดูแลคุณเอง
ทงเฮยอมรับว่าเขาดื่มเหล้าก่อนที่จะออกมาปฏิบัติหน้าที่ แต่มันก็เพียงแค่นิดเดียวเท่านั้น ร่างกายที่ร้อนรุ่มในเวลานี้ไม่สามารถจะลดลงไปง่ายๆ เสียงครวญครางที่ดังขึ้นมาอย่างเจ็บปวดยิ่งปลุกเร้าอารมณ์ของผู้หมวดอีให้คุกรุ่นมากขึ้นไปอีก
“...อึก...สุดท้าย...คุณ...ก็จะเป็น...เหมือน...คนอื่น...”
อึนฮยอกยืนตัวแข็งทื่อ เขากำหมัดแน่นด้วยความทรมาน แม้ว่าสมองจะต่อต้านผู้ชายคนนี้มากสักเพียงใด แม้จะยังหวาดกลัวต่อการกระทำอันโหดร้าย แต่กับผู้ชายคนนี้ เขากลับต้านทานไม่ได้เลย ราวกับมีแรงดึงดูดบางอย่างเรียกร้องสัมผัสที่ร้อนแรงเช่นนั้น
“ไม่มีทาง!”
ทงเฮปฏิเสธเสียงแข็งก่อนจะดันร่างบางให้นอนราบลงไปกับพื้น ตำรวจหนุ่มรังเกียจบุคคลชั่วช้าเหล่านั้น คนเลวที่สมควรจะถูกกฎหมายลงโทษ แต่ในเวลานี้เขากลับกลายเป็นคนเลวเสียเอง มือสากลูบไล้เข้าไปภายใต้สาบเสื้อตัวบาง สัมผัสกับเนื้อเนียนละเอียดด้วยแรงปรารถนา ก่อนจะเลิกเสื้อของอึนฮยอกขึ้นจนถึงไหปลาร้าแล้วโน้มลงไปขบเม้มยอดอกสีชมพูที่กำลังตั้งชัน
“อ๊ะ!”
อึนฮยอกเผลอส่งเสียงครางออกมาอย่างห้ามไม่ได้ เพราะเขาอยู่ในเครื่องแบบของผู้พิทักษ์สันติราช เพียงแค่นั้นหรือที่อึนฮยอกสมยอมเขา หรือเป็นเพราะหน้าตาที่หล่อเหลาของเขาดูแตกต่างจากโจรชั่ว มันเป็นเพราะอะไรกันแน่ร่างกายถึงตอบสนองเขากลับไปเช่นนั้น
“ต้องการผมหรือไง?”
ผู้หมวดหนุ่มถามเสียงเข้ม แต่อึนฮยอกกลับส่ายหน้ารัว หัวใจของเขาไม่ได้เรียกร้อง ร่างกายต่างหากที่กำลังทรยศและแอ่นกายยั่วยวนออกไป
นิ้วเรียวเกี่ยวขอบกางเกงให้ร่นออกจนหมด ร่างเล็ดบิดเร่าด้วยความอับอาย เพราะร่างกายที่ไม่บริสุทธิ์เช่นนี้ไม่ควรจะปรากฏแก่สายตาของคนอื่น มันไม่ใช่ความรู้สึกหวาดกลัว แต่เป็นความรู้สึกที่เขินอายซึ่งอึนฮยอกก็ไม่เข้าใจในความรู้สึกที่กำลังเกิดขึ้นเลย
“หยุดเถอะครับ”
“ผม...หยุดไม่ได้ คุณอย่าคิดว่าตัวเองกำลังถูกข่มขืนสิ แค่หลับตาลงแล้วรู้สึกไปกับมัน และคุณก็จะมีความสุข”
อึนฮยอกมองคนที่นอนทาบทับตัวเขาด้วยดวงตาสั่นระริก เปลือกตาบางค่อยๆ ปิดลงไป สัมผัสที่ส่วนอ่อนไหวนั้นทำให้สะโพกมนกระตุกเบาๆ ผู้หมวดหนุ่มจับร่างบางให้พลิกตัวหันหลัง ก่อนจะสอดท่อนเนื้อที่ตื่นตัวเต็มที่เข้าไปในช่องทางตอดรัดด้านหลัง มันคับพอดีแต่ก็ไม่ได้แน่นเสียทีเดียว
พวกเขาเสพสมโดยที่ไม่ได้จูบกัน ไม่มีเหตุผลที่จะต้องจูบกับคนที่ไม่ได้รัก...
“คุณชื่ออะไร?”
“อื้อ...อึน...ฮยอก...อา...”
อึนฮยอกหยิบเสื้อตัวเก่าที่เขาเพิ่งถอดออกไปไม่นานมากัดไว้แน่น ร่างเพรียวบางสั่นสะท้านไปทั้งตัว ภาพที่ถูกผู้ชายมากมายรุมทำร้าย ทั้งหนึ่งคน สองคน และมากกว่าห้าคน แต่ละภาพวนเวียนเข้ามาในหัวซ้ำไปซ้ำมา วงจรชีวิตที่ดำมืดเช่นนี้ จะมีสักวันไหมที่อึนฮยอกได้โผล่หัวไปพบกับแสงสว่าง จะมีบ้างไหม
“อึนฮยอก...อา...อึนฮยอก...”
สถานที่แห่งหนึ่งทั้งสกปรกและอับชื้น แต่ทว่านักท่องเที่ยวกลับหลั่งไหลเข้ามาไม่ขาดสาย ที่ชั้นบนสุดของอาคารมีห้องนอนแคบๆ เรียงรายกันเป็นแถว แต่ละห้องถูกจับจองเอาไว้เกือบหมดแล้ว รวมทั้งห้องที่อยู่ด้านในสุดก็ด้วย
“ผมต้องไปแล้ว”
เสียงนุ่มเอ่ยขึ้นในขณะที่ติดกระดุมเสื้อเชิ้ตเม็ดสุดท้าย เขาหันกลับไปมองหญิงสาวที่นอนเปล่าเปลือยอยู่บนเตียงกว้าง หุ่นของเธอจัดว่าเพอร์เฟ็คเลยทีเดียว แต่เขากลับไม่ชอบสีลิปสติกที่เธอเป็นใช้ประจำ เขารังเกียจลิปสติกสีนั้นยิ่งกว่าอะไรดี
“อยู่ต่ออีกนิดเถอะฮยอกแจ ฉันจองตัวคุณมาสองชั่วโมงเชียวนะ”
“คุณโกหก มันถึงเวลาเลิกงานแล้ว”
ฮยอกแจยิ้มมุมปากอย่างรู้ทัน เขาโน้มลงไปจูบที่กกหูของเธอ ก่อนจะไล่ลงมายังซอกคอหอมหวาน ทำให้เธอเคลิบเคลิ้มได้ที่แล้วผละออกอย่างทันทีทันใด
“ผมต้องไปแล้วล่ะครับ ขอบคุณที่ใช้บริการ”
“แต่ว่า...”
“โอกาสหน้าแวะมาใช้บริการใหม่นะครับคุณผู้หญิงซอน เยจิน”
ฮยอกแจแทบจะวิ่งออกมาจากห้องนั้นก่อนที่เธอจะรั้งตัวเขาเอาไว้อีก เยจินเป็นผู้หญิงที่มาติดพันหนุ่มบริการอย่างเขา เธอมาบ่อยครั้งจนพนักงานคนอื่นพากันตั้งฉายาว่า ‘เมียของฮยอกแจ’ ไปเสียแล้ว เธอเป็นผู้หญิงที่หุ่นดี เซ็กซี่ และลีลาเด็ด แต่ถ้าเธอเปลี่ยนสีลิปสติก ฮยอกแจอาจจะชอบเธอมากกว่านี้
ฮยอกแจกลับมายังหมู่บ้านสลัมในเวลาเกือบตีหนึ่ง มือข้างขวาถือโจ๊กรอบดึกที่ซื้อมาฝากน้องชาย น้องชายของเขาที่ชื่อว่าอี อึนฮยอก แม้อายุจะห่างกันเกือบสองปี แต่หน้าตากลับคล้ายคลึงกันจนใครหลายคนทักผิดอยู่บ่อยๆ
“อ...อื้อ...”
เสียงที่ดังออกมาจากในบ้านทำเอาขาเรียวหยุดกึกในทันที มือที่ถือถุงโจ๊กกำแน่น ‘จะทำยังไงดี’ นั่นคือคำถามที่ผุดขึ้นมาในความคิดแรกของเขา แต่ยังไม่ทันที่สมองจะได้ประมวลคำตอบ ฮยอกแจก็ผลักประตูเข้าไปอย่างรวดเร็ว หน้าตาที่เจ็บปวดของอึนฮยอกทำให้หัวใจของเขาแทบสลาย
“พะ...พี่...”
“ไอ้เลว...”
ฮยอกแจส่งเสียงออกมาจากในลำคออย่างโมโห ชายหนุ่มในเครื่องแบบตำรวจหยุดการกระทำทุกอย่างแทบจะในทันที เขาดึงกางเกงขึ้นแล้วหันมามองฮยอกแจด้วยความตกใจ ก่อนจะปรับสายตาคมกริบให้เป็นปกติแล้วยืนนิ่งงัน
“...พี่ครับ...ฮึก...”
อึนฮยอกพยายามยกมือขึ้นห้ามปราม แต่ฮยอกแจกลับคิดไปว่าน้องชายกำลังขอความช่วยเหลือ เขาปรายตามองดูคนเป็นน้อง ก่อนจะคว้าไม้หน้าสามที่ซ่อนอยู่หลังประตูขึ้นมาง้างใส่ร่างสูง
“เฮ้ย! คุยกันก่อนสิ”
“ตำรวจชั่วๆ แบบนี้ อยู่ไปก็มีแต่จะทำให้แผ่นดินต่ำลง”
ฮยอกแจฟาดไม้หน้าสามเข้าเต็มท่อนแขนของผู้หมวดทงเฮ อึนฮยอกค่อยๆ คลานมาเกาะขาคนเป็นพี่ และเมื่อพี่ชายก้มลงไปมองน้อง ตำรวจหนุ่มจึงได้โอกาสหลบหนีออกไป
“พี่ฮยอกแจ...อย่าทำร้ายเขา!”
อึนฮยอกอ้อนวอนคนเป็นพี่อีกครั้ง ฮยอกแจจึงนั่งลงข้างๆ น้องชายของตัวเอง เสื้อยืดที่เลิกขึ้นทำให้ฮยอกแจเห็นคราบเลือดที่หน้าอกด้านซ้ายของอึนฮยอก มือสากลูบไล้แผ่นอกขาวที่กระเพื่อมขึ้นลงอย่างเหนื่อยหอบ ก่อนจะเบนสายตาหนีไปทางอื่น อึนฮยอกค่อยๆ ชันตัวลุกขึ้นนั่ง เขาใส่กางเกงให้เรียบร้อยแล้วเอ่ยบอกพี่ชาย
“ไม่ใช่เพราะเขาหรอกครับ แต่เป็นเพราะไอ้สองตัวนั้น”
ฮยอกแจหับขวับอย่างรู้ดี ดวงตาคมปลาบจ้องมองออกไปนอกหน้าต่าง พอถึงพรุ่งนี้เช้าพวกมันสองคนก็จะไม่มีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้อีกแล้ว ส่วนเขาและน้องชายก็คงจะต้องย้ายบ้านหนีตำรวจกันอีกครั้ง ชีวิตที่มืดมนเหมือนตัวละครที่อยู่หลังฉาก แม้แสงอาทิตย์จะสาดส่องมาสักเพียงใด แต่ก็มีเพียงเงาเท่านั้นที่ปรากฏให้สังคมได้เห็นและได้รับรู้
Talk with Lee Seen
ในที่สุด หลี่ตงไห่ก็ไม่โผล่ออกมาในตอนอินโทรจนได้
แต่ไม่เป็นไรค่ะ ตอนที่ 1 จะเปิดตัวให้นางเอกของเราอย่างงดงามเลยทีเดียว
ช่วยติดตามกันด้วยนะคะ
ความคิดเห็น