คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : " 1 "
1
“มินโฮ มินโฮ” เสียงของใครบางคนดังขึ้นในขณะที่ผมกำลังเดินตามหลังคนตัวเล็กไปที่โรงรถของคณะ
“ครับ”ผมตอบรับพลางหันหน้าไปหาเจ้าของเสียงก็เจอเข้ากับรุ่นพี่อูฮยอน
“พี่มีเรื่องจะคุยด้วยหน่อยน่ะ” รุ่นพี่อูฮยอนพูดพลางเดินเข้ามาหาผมแต่สายตาทั้งคู่จับจ้องไปที่คนตัวเล็กที่ยืนหน้ามุ่ยหลบหลังผมอยู่
“เรื่องอะไรหรอครับ”
“เรื่องส่วนตัวน่ะ นายตามพี่ไปที่ห้องดนตรีได้มั้ย”
“ได้ครับ”ผมตอบรับก่อนที่จะหันหน้ามาหาคนตัวเล็กในขณะที่รุ่นพี่อูฮยอนเดินจากไป
“ฉันไปคุยธุระก่อนนะ รอแปบนึงนะคิบอม”
“อื้อ!เร็วๆนะมันร้อน”คนตัวเล็กบอกผมพลางขมวดคิ้วเป็นปม
“ขมวดคิ้วอีกแล้วเดี๋ยวตีนกาขึ้นนะโว้ย!”ผมพูดแซวพลางขยี้ผมนุ่มอีกคน
“ไอ้บ้า!!แกสิตีนกาขึ้น”คนตัวเล็กด่าผมเสียงดังพลางปัดมือผมออก
“ยังไงฉันก็ยังหล่ออยู่ดี จริงมั้ยคีย์”ผมถามพลางจ้องเข้าไปในดวงตาคู่เรียวของคนตัวเล็ก
“รีบไปเลยนะ อย่าให้ฉันรอนาน นายก็รู้นิว่าฉันขี้วีนมากแค่ไหน”
“รู้ครับรู้”ผมรีบเดินออกมาจากโรงรถทันทีเพราะกลัวคนตัวเล็กจะอารมณ์เสียแล้วกลับหอพักไปก่อน
ผมรู้ว่าคีย์เอาแต่ใจมากแค่ไหน รู้ว่าคีย์ขี้โวยวาย แล้วก็รู้ดีว่าคีย์ขี้น้อยใจ แต่เพราะเป็นคีย์ผมเลยต้องยอมตามใจและเอาใจทุกๆอย่าง แต่เหตุผลเดียวที่ทำให้ผมยอมตามใจ ยอมเอาใจคนที่ไม่มีเหตุผลอย่างคีย์ ก็คือ ‘ความรัก’
“ฮยองมีอะไรหรอครับ”ผมถามรุ่นพี่อูฮยอนทันทีที่เข้ามาถึงห้องดนตรี
“คือ พี่จะไม่อ้อมค้อมนะ”
“ครับ”
“พี่ชอบคีย์ว่ะ” คำพูดของรุ่นพี่อูฮยอนเหมือนมีก้อนหินหนักๆลอยมากระแทกเข้ากับใบหน้าของผมอย่างจัง ‘รุ่นพี่คนสนิทของผม ตกหลุมรักคนที่ผมรักอย่างนั้นหรอ?’
“นายพอจะช่วยพี่ได้มั้ยวะ มินโฮ”
“ไม่ได้ครับ”
“ทำไมวะ?”
“เพราะผมรู้ว่าพี่เจ้าชู้มากแค่ไหน ผมรู้ว่าพี่ได้แล้วทิ้ง ผมไม่อยากให้เพื่อนผมเป็นของเล่นของพี่” ครับ ผมไม่อยากให้คีย์เป็นของเล่นของใครทั้งนั้น แต่ผมอยากให้คีย์เป็นของผม
“พี่สัญญาว่ะ! พี่จะมีแค่คีย์คนเดียวถ้าแกช่วยให้พี่สมหวัง”
“ผมไม่รู้ว่าผมจะช่วยพี่ยังไงก็ในเมื่อ....” ผมหยุดประโยคไว้เพียงแค่นั้นเพราะในใจของผมมันดันตะโกนก้องไปทั่วทั้งหัวใจว่าผมก็ชอบคีย์เหมือนกัน
“ในเมื่ออะไรวะ”รุ่นพี่อูฮยอนถามพลางจ้องหน้าผม
“ในเมื่อผมบังคับจิตใจคีย์ไม่ได้”
“แค่นี้เอง ไม่เป็นไรหรอกน่า เพียงแค่แกเชียร์ให้คีย์ชอบพี่ก็พอ ที่เหลือพี่จะจัดการเอง”
“งั้นก็ได้ครับ ผมจะพยายาม”
“ดีมากไอ้น้องรัก อยากได้สาวๆสวยๆไปสักคนมั้ยวะคืนนี้เดี๋ยวพี่จัดให้” รุ่นพี่อูฮยอนถามผมอย่างอารมณ์ดี
“ไม่เป็นไรครับ”
“ทำไมวะ สงสัยจะติดใจเคะน่ารักๆแล้วล่ะสิ เอาไปแก้เหงาสักคืนมั้ยวะ พี่จัดให้แกได้นะ”
“ช่วงนี้ผมไม่มีอารมณ์จะอะไรกับใครครับฮยอง”
“อย่างนั้นก็ได้ ไว้แกอยากได้เมื่อไหร่บอกฮยองนะ”
“ครับ ผมขอตัวนะครับ” พูดจบผมก็เดินออกมาจากห้องดนตรีก่อนที่จะมุ่งหน้าไปหาคนตัวเล็กที่ยืนรออยู่
ใบหน้าสวยหันมามองผมทันทีที่ผมเดินมาถึงหน้าโรงรถก่อนที่จะขมวดคิ้วเป็นปม ‘อารมณ์เสียอีกแล้วสินะ’ แต่นั่นก็ทำให้ผมเลือกที่จะส่งยิ้มกลับไปให้กับคนตัวเล็กก่อนที่จะก้าวเท้าเดินต่อ
“พี่มินโฮคะ”เสียงของผู้หญิงคนนึ่งดังขึ้นทำให้ผมต้องละสายตาที่เอาแต่มองคนตัวเล็กไปมองเจ้าของเสียงที่เรียกผมเมื่อครู่
“ครับ”ผมตอบรับพลางส่งยิ้มให้กับสาวน้อยที่ยืนหน้าแดงอยู่
“ให้พี่มินโฮค่ะ”เธอพูดก่อนที่จะยื่นกล่องหัวใจสีชมพูมาตรงหน้าผม
“ช็อกโกแล็ตค่ะ ฉันทำให้พี่มินโฮเองกับมือ ช่วยรับไว้ด้วยนะคะ” เสียงหวานๆกับสาวน้อยบวกกับใบหน้าที่ฉีดสีแดงระเรื่อยด้วยความอายทำให้ผมยิ้มกว้างออกมาด้วยความเอ็นดูเด็กสาวที่อยู่ตรงหน้าทันที
“ขอบคุณนะครับ”ผมตอบรับก่อนที่จะรับเอากล่องรูปหัวใจจากมือของสาวน้อย
“ฉัน ซน นาอึน ปี1ค่ะ”พูดจบสาวน้อยก็รีบวิ่งหายไป
ผมยืนมองคนตัวสูงที่เอาแต่ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ตามหลังเด็กสาวที่ปี1ที่วิ่งหายไปในขณะที่หัวใจผมมันกำลังบีบแรงขึ้นด้วยความรู้สึกเจ็บปวดขึ้นทุกที ‘มินโฮชอบเด็กผู้หญิงคนนั้นหรอ?’
“ขอโทษนะที่ให้รอนาน”คนตัวสูงที่พึ่งเดินเข้ามายืนอยู่ตรงหน้าผมพูดขึ้น
“ไม่เป็นไร รีบกลับเถอะ”ผมบอกพลางหันหน้าหนีอีกคน
“โกรธที่ฉันมาช้าอย่างนั้นหรอ?”
“เปล่า”
“แล้วเป็นอะไร”
“ไม่ต้องมาสนใจฉันหรอกน่า! ฉันอยากกลับห้องแล้ว มินโฮ!”ผมหันหน้าไปหาคนตัวสูงก่อนที่จะเผลอตะโกนใส่หน้าอีกคนอย่างลืมตัว การกระทำของผมควรที่จะโดนอีกคนไม่พอใจแต่ผมกลับได้รอยยิ้มจากอีกคนกลับมา
“เดี๋ยวเย็นนี้พาไปเลี้ยงไอติมนะ อย่าโกรธฉันเลยนะ คิบอม”บอกพลางเอื้อมมือมาลูบหัวผมเบาๆด้วยความอ่อนโยน
“พอได้แล้วน่า บอกว่ารีบไม่ได้ยินหรือไง”ผมปัดมือหนาของอีกคนออกทันทีด้วยความอายก่อนที่จะเดินออกมารออีกคนอยู่หน้าโรงรถ
มินโฮขับเวสป้าคู่ใจที่มีผมซ้อนท้ายอยู่ประจำออกมาก่อนที่จะจอดรถอยู่ข้างๆตัวผม
“หมวกกันน็อคครับผม”มินโฮบอกพลางยื่นหมวกกันน็อคสีชมพูอ่อนให้กับผม
“ไม่เอา ไม่ใส่”อาจเป็นเพราะผมรู้สึกไม่พอใจที่มินโฮรับของกับเด็กสาวคนนั้นมันเลยทำให้ผมอยากจะงอแงเพื่อเรียกร้องความสนใจจากอีกคน
“ไม่ใส่ไม่ได้นะคีย์”คนตัวสูงบอกพร้อมกับขมวดคิ้วทันทีด้วยความไม่พอใจ
“ทำไมจะไม่ได้!”ผมเริ่มเสียงดังด้วยความไม่พอใจเมื่อเห็นอีกคนขมวดคิ้วแบบนั้น
“ไม่เอาน่า อยู่ดีๆก็งอแงขึ้นมาซะอย่างนั้น”มินโฮส่ายหัวเบาๆพลางลงจากเวสป้าคันสวยก่อนที่จะเดินตรงเข้ามาหาผมที่ยืนขมวดคิ้วอย่างเอาแต่ใจ
“เป็นอะไรไปน่ะคิบอม ทำไมวันนี้เอาแต่ใจบ่อยๆ”ถามพลางสวมหมวกกันน็อกลงบนหัวผม
“เรื่องของฉัน นายจะสนใจอะไรล่ะ”
“สนใจสิ” ตอบผมเสียงเรียบพลางสบตาผม
“เพราะมันเป็นเรื่องของนายไง ฉันเลยต้องสนใจ”คำตอบของมินโฮทำเอาหัวใจที่บอบบางทั้งดวงของผมกระตุกสั่นไหวทันที ‘มินโฮพูดแบบนี้หมายความว่ายังไงกัน?’
“ขึ้นรถได้แล้ว คิบอม”คนตัวสูงที่กลับไปนั่งบนรถตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้หันหน้ามาบอกพลางส่งยิ้มมาให้ ทำเอาผมสะดุ้งทันทีก่อนที่จะเรียกสติที่หลุดลอยไปกลับมา
ผมเดินไปนั่งซ้อนท้ายเวสป้าที่คนตัวสูงเป็นคนขับเหมือนเคยทันที
ระหว่างผมกับมินโฮ เราเป็นเพื่อนกันตั้งแต่ปี1 จนตอนนี้ขึ้นปี2 เราทั้งคู่ยังคงใช้ภาษาสุภาพต่อกัน ไม่เหมือนกับภาษาพื้นๆที่ใช้กับเพื่อนๆคนอื่น ‘เพราะอะไรกันนะ ผมกับมินโฮถึงไม่ยอมหยาบคายต่อกันในแบบที่ทำกับเพื่อนๆคนอื่นบ้าง?’
อาจเป็นเพราะเราทั้งคู่สุภาพต่อกันหรือเปล่านะ มันเลยทำให้มินโฮต้องคอยตามใจผมอยู่ตลอดเวลา ต้องคอยตามมาเอาใจ ต้องคอยตามง้อเวลาที่ผมงอนทั้งๆที่เพื่อนคนอื่นก็ไม่ทำแบบนี้กับผม เพราะอย่างนี้ ผมเลยรู้สึกหวงทุกครั้งที่มีคนเข้ามาจีบมินโฮ เพราะผมกลัวที่จะเสียมินโฮไป
“คิดอะไรอยู่น่ะ”เสียงของคนตัวสูงที่ขับรถอยู่ดังขึ้น
“ป เปล่านิ่” ผมรีบตอบกลับไปทันที
“แน่ใจนะ”
“แน่ใจสิ! นายถามทำไม!”
“ก็เห็นนายเงียบๆไป ก็นึกว่าคิดอะไรอยู่ในใจ”
ผมถอนหายใจก่อนที่จะขมวดคิ้วด้วยความไม่พอใจที่คนตัวสูงรู้ทันความคิดของผมที่กำลังพร่ำเพ้ออยู่คนเดียวมาตลอดทาง
“เด็กคนนั้นเป็นใครหรอ?” ผมตัดสินใจถามถึงผู้หญิงที่เอากล่องหัวใจให้มินโฮวันนี้
“คนไหน”
“มีหลายคนงั้นสิ”
“ที่นั่งเงียบอยู่นานเพราะคิดเรื่องนี้หรอ?”
“เปล่า ก็บอกว่าไม่ได้คิดไง ก็แค่ถาม ไม่ได้หรือไง!?”
“ได้สิ ฉันไม่มีอะไรต้องปิดบังนายอยู่แล้วนิ่”
“แล้วเด็กผู้หญิงที่เอาของมาให้นายเป็นใคร”
“ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่เขาแนะนำตัวกับฉันแล้วนะ บังเอิญจำไม่ได้ ทำไมหรอ?”
“เขาชอบนายหรอมินโฮ”
“คงงั้นมั้ง”
ผมรู้สึกหนักไปทั้งตัวเมื่อรู้ว่ามีใครอีกคนเข้ามาตกหลุมรักมินโฮเพิ่มขึ้นมาอีกคน ทั้งๆที่หัวใจของผมควรจะชินชากับสาวๆที่เข้ามาตกหลุมรักมินโฮคนแล้วคนเล้า แต่หัวใจของผมมันไม่ด้านพอที่จะยอมรับเรื่องพวกนี้ได้ ‘อาจเป็นเพราะผมหวงมินโฮมากไป’เลยทำให้ผมยังไม่พร้อมที่จะเปิดรับความรู้สึกของคนอื่นที่มีให้มินโฮ
ผมค่อยๆกอดเอวคนตัวสูงที่ขับรถอยู่ก่อนที่จะแนบใบหน้าลงบนแผ่นหลังหนาของมินโฮ ‘มินโฮจะเป็นของคีย์ได้หรือเปล่านะ?’
ผมยิ้มกว้างออกมาทันทีกับการกระทำของคนตัวเล็กที่นั่งซ้อนท้ายอยู่ข้างหลัง ‘คีย์ทำให้หัวใจของผมเต้นรัวไม่เป็นจังหวะ’ ที่ทำกับผมแบบนี้ หัวใจของคีย์มีให้ผมบ้างหรือเปล่า? หรือที่ทำเพราะคิดกับผมแค่เพื่อนสนิทจริงๆ?
“ง่วงหรอ”ผมถามขึ้นพลางขับรถให้ช้าลงเพราะอยากให้คนตัวเล็กกอดผมอยู่อย่างนี้นานขึ้น
“อื้ม”
“งั้นกอดแน่ๆล่ะ เผลอหลับเดี๋ยวจะหล่นเอา”
“แล้วถ้าฉันหล่นลงไปจริงๆ นายจะทำยังไง?”
“ฉันไม่ยอมให้นายเป็นอะไรไปหรอกน่า” ผมปล่อยมือที่จับแฮนรถเวสป้าข้างนึงก่อนที่จะกุมเข้ากับมือบางของคนตัวเล็กที่นั่งกอดผมจากข้างหลังเบาๆ ‘มีความสุขอย่างบอกไม่ถูกเลยล่ะครับ’
“ให้ฉันเข้าไปอยู่ห้องนายก่อนได้มั้ยมินโฮ”คนตัวเล็กที่ยืนอยู่หน้าห้องตัวเองซึ่งอยู่ตรงข้ามห้องผมถามขึ้น
“อื้ม ได้สิ ทำไมจะไม่ได้ล่ะ” ผมตอบพลางอมยิ้ม
“เย่!”คนตัวเล็กกระโดดจากหน้าห้องตัวเองมาเกาะแผ่นหลังผมด้วยความดีใจทันที
ผมยิ้มกว้างเพราะความน่ารักของคนตัวเล็กที่ยืนยู่ปากอยู่ข้างหลังผมก่อนที่จะไขกุญแจออกก่อนที่จะเปิดประตูเข้าไปภายในห้อง
“เตียงมินโฮ ย๊าก!!! ตุ๊บ!!” คนตัวเล็กที่วิ่งตรงดิ่งไปที่เตียงผมร้องออกมาเสียงดังก่อนที่จะกระโดดขึ้นไปนอนบนเตียงผมเหมือนทุกครั้งที่ได้เข้ามาภายในห้องนี้
“ชอบเตียงฉันขนาดนั้นเลยหรอคีย์”ผมถามพลางเดินไปนั่งลงบนเตียง
“ชอบสิ เตียงนายนุ่มกว่าเตียงห้องฉันเยอะเลย”
“ก็ย้ายมาอยู่ด้วยกันสิ นายจะได้นอนเตียงนี้ทุกวันไง”ผมบอกก่อนที่จะล้มตัวนอนลงข้างๆคนตัวเล็ก
“ไม่เอาด้วยหรอก”คีย์บอกพลางแลบลิ้นออกมาก่อนที่จะกลิ้งไปอีกฝั่งของเตียง
ผมได้แต่ยิ้มพลางมองตามอีกคนที่กำลังรื้อค้นของที่อยู่ข้างเตียงผม ‘แค่ได้อยู่ใกล้ๆแบบนี้ก็ทำให้ผมมีความสุขมากเกินพอแล้ว ..... ผมยังต้องการอีกในเมื่อคนตัวเล็กยังอยู่ข้างๆผมตอนนี้ไม่ได้ไปไหน’ ผมอมยิ้มพลางหลับตาลงช้าๆ
“มินโฮ!!นายมีของพวกนี้ได้ยังไง!!??”เสียงของคนตัวเล็กดังขึ้นทำให้ผมที่กำลังจะเคลิ้มหลับต้องลืมตาขึ้น
“อะไรหรอ”ผมถามพลางหันหน้าไปมองอีกคน
คนตัวเล็กเปลี่ยนจากนอนเป็นลุกขึ้นนั่งบนเตียงก่อนที่จะยื่นกล่องสีขาวในมือมาให้ผมทำให้ผมต้องลุกขึ้นนั่งบนเตียงบ้าง ‘แต่ในกล่องในมือของคีย์มันคือกล่องถุงยางอนามัยของผมนิ่ครับ’
“อ๋อ”ผมรับกล่องมาจากมือของคีย์ก่อนที่จะวางมันลงบนเตียงข้างๆตัวผม
“นายมีของพวกนี้ได้ยังไงกัน มินโฮ!”คนตัวเล็กถามผมเสียงดังอีกครั้ง
“คีย์ นายต้องเข้าใจนะ ฉันเป็นผู้ชาย ต้องมีของพวกนี้เป็นธรรมดา”
“ฉันก็เป็นผู้ชาย ไม่เห็นจะมีแบบนายเลยด้วยซ้ำ!”
“นายกับฉัน เราไม่เหมือนกันนะคีย์”
“ไม่เหมือนกันยังไง?”
“นายก็รู้นิ่ว่าเราไม่เหมือนกันยังไง” ผมบอกพลางจ้องตาอีกคน
“ไม่ชอบ!”คนตัวเล็กบอกออกมาด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น แต่นั้นก็ทำให้หัวใจของผมกระตุกสั่นได้
“ไม่ชอบอะไร?”
“ไม่ชอบที่นายเที่ยวพาคนอื่นมามีอะไรในห้องนายไงล่ะ!”
“ฉันไม่เคยพาใครมาทำอะไรในห้องนี้ แล้วเตียงนี้ก็ไม่เคยมีใครมานอนนอกจากนายนะ คิบอม!”ผมบอกกับคนตัวเล็กด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่นพลางมองหน้าคนตัวเล็กนิ่ง
“ฉันกลับล่ะ”คนตัวเล็กบอกผมเสียงเบาก่อนที่จะลุกขึ้นจากเตียง
“คีย์....”ผมเรียกพลางมองตามคนตัวเล็กที่กำลังเดินมุ่งหน้าไปที่ประตูห้อง แต่แล้วเจ้าของชื่อกลับเมินเสียงผมก่อนที่จะหายออกไปจากห้องผม
ผมถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนที่จะขว้างกล่องเจ้าปัญหาลงพื้นด้วยความโมโห ‘ผมไม่ชอบให้คีย์เดินหนีผมดื้อๆแบบนี้เลย!’ ผมควรจะปล่อยให้คีย์ใจเย็นลงก่อนแล้วค่อยไปง้อคนขี้งอนอีกที
ผมนอนซึมอยู่บนเตียงดัวยความรู้สึกที่ผิดหวังในตัวมินโฮ ทั้งๆที่ผมก็รู้ว่ามินโฮเป็นผู้ชายก็ต้องมีเรื่องอย่างว่าเป็นธรรมดา แต่แล้วผมยังคงงี่เง่าไม่อยากให้มินโฮทำแบบนั้นกับคนอื่นอยู่ดี
เพราะผมรู้ดีว่าตัวผมเองเป็นอะไร ผมเลยทำอย่างมินโฮไม่ได้ แต่ถ้าผมทำอย่างมินโฮได้ก็คงดี เพราะถ้าทำแบบนั้นผมคงไม่ต้องมานั่งคิดถึงจิตใจใครเหมือนที่มินโฮเป็น แต่มินโฮก็ไม่ผิดหรอกใช่มั้ยที่ทำแบบนั้นเพราะมินโฮก็คงไม่รู้ว่าผม ‘หวง’ มินโฮมากแค่ไหน
อยู่ๆน้ำตาแห่งความอ่อนแอของผมก็คลอที่ดวงตาทั้งคู่ของผมทันที ที่มินโฮไม่ตามมาง้อผมเหมือนเคย คงเป็นเพราะเบื่อที่จะต้องตามง้อคนเอาแต่ใจอย่างผม อีกอย่าง ผมคงไม่สำคัญพอที่มินโฮจะต้องคอยตามง้อคนงี่เง่าอย่างผมอยู่ทุกเวลา ‘แค่คิดว่าตัวเองไม่สำคัญก็ปวดร้าวไปทั่วหัวใจแล้ว’
“ก๊อก ก๊อก ก๊อก”เสียงเคาะประตูดังขึ้นจากหน้าห้องผม ทำเอาผมสะดุ้งด้วยความตกใจทันที
ผมค่อยๆลุกขึ้นจากเตียงด้วยความอ่อนล้าก่อนที่จะเดินไปเปิดประตูห้องออก
“น้องคีย์” เสียงทักทายจากคนที่รออยู่หน้าห้องดังขึ้นพร้อมกับรอยยิ้มที่ดูอบอุ่นของคนตรงหน้าปรากฏขึ้นทันทีที่ประตูห้องผมถูกเปิดออก
“อูฮยอน ฮยอง!”ผมทักทายรุ่นพี่คนสนิทของมินโฮด้วยความประหลาดใจ ‘ทำไมอูฮยอน ฮยองมาอยู่หน้าห้องผมได้ล่ะ?’
ความคิดเห็น