ตอนที่ 13 : ตอนที่ 7 ตอนปลาย
เสิ่นเหลียงแม้รู้สึกเจ็บใจอยากฉีกสตรีที่เดินจากไปเป็นชิ้นๆ แต่เพื่อบรรลุเป้าหมายที่มาครั้งนี้นางจึงกลืนความโกรธทั้งหมดลงท้อง เสิ่นเหลียงค่อยๆ ช้อนสายตาหวานใช้มือเกาะแขนอีกฝ่าย
“พี่ชาย” หญิงสาวกำลังจะอ้าปากพูดสิ่งที่ตัวเองต้องการแต่ไม่ทันพูดอะไรอีกฝ่ายก็กล่าวแทรกขึ้นมา
“อีกสองวันฮ่องเต้สั่งให้ข้าพาหนิงเอ๋อร์เข้าวัง อยากจะขอยืมตัวแม่นมอู๋มาช่วยจัดการดูแล ไม่ทราบว่าเหลียงเอ๋อร์จะพอคุยกับแม่นมอู๋ให้ได้หรือไม่”
“พี่ชายให้ข้าช่วยก็ได้อย่าได้เกรงใจ ยามเข้าวังแม่นางหนิงคงกังวลและทำตัวไม่ถูก ข้าติดตามไปด้วยแม่นางหนิงจะได้รู้สึกไร้กังวล” เสิ่นเหลียงตาลุกวาวเมื่อรู้ว่าจะมีโอกาสได้พบหน้าฮ่องเต้
“จะดีหรือ?” ฉินหลิงทำหน้าลำบากใจ
“ดียิ่ง ข้าอยากช่วย” เสิ่นเหลียงรีบขันอาสา
“เช่นนั้นต้องฝากเหลียงเอ๋อร์แล้ว”
เสิ่นเหลียงแม้จะไม่พอใจเย่หนิง แต่เมื่อนางเป็นบันไดให้นางได้เหยียบเพื่อได้พบฝ่าบาท นางก็พร้อมจะทำดีด้วยชั่วคราว
ระหว่างอีกฝ่ายกำลังหมกมุ่นกับความคิดของตนเอง ฉินหลิงยกยิ้มที่มุมปาก เรื่องที่ควรจัดการก็จัดการแล้ว หวังว่าพี่ใหญ่จะจัดการเรื่องหลังจากนี้ได้
เย่หนิงเดินตัวปลิวตามสาวใช้ไปยังเรือนนอนที่อีกฝ่ายเตรียมไว้ให้ตนเอง หน้าเรือนมีนกกระจอกตัวเล็กร้องจิ๊บๆ อยู่บนต้นไม้ หญิงสาวหันไปมองยังเจ้านกน้อยก่อนจะยกนิ้วให้เจ้านกตัวน้อยเกาะ
เมื่อนกกระจอกบินลงมาเกาะยังนิ้วของเย่หนิง นางแกะจดหมายที่มัดติดกับขานกน้อยออกมาอ่าน นางคลี่ยิ้มเย็นออกมาก่อนจะปล่อยให้มันบินกลับไปหาเจ้าของ
“ประมุขหนิงไม่เขียนจดหมายตอบอีกฝ่ายกลับไปหน่อยหรือ” เสียงคุ้นเคยดังขึ้นด้านหลังของหญิงสาว
“ชี้ช่องทางให้เช่นนี้ รองแม่ทัพไม่กลัวข้าหนีไปหรือไร?”
“หากประมุขคิดหลบหนีคิดว่าทหารจวนข้าก็ไม่อาจขัดขวางได้” ฉินหลิงตอบ
หลังจากชายหนุ่มส่งคุณหนูเสิ่นขึ้นเกี้ยวกลับจวนราชครูเขาก็เดินมาทางเรือนของอีกฝ่าย ไม่คิดว่าจวนที่เขาวางค่ายกลแน่นหนาจะมีช่องว่างให้คนด้านนอกสื่อสารกับคนข้างในได้ ครั้งนี้หากไม่สังเกตความผิดปกติก็คงไม่รู้ว่าค่ายกลของตนเองมีช่องโหว่ใหญ่ขนาดนี้
“คุณชายหลิงคุยกันแบบตรงไปตรงมาดีกว่า การลักพาข้าครั้งนี้มาแท้จริงมีเรื่องอันใดต้องการไหว้วานพรรคมารฟ้า”
“ถูกคุณหนูดูออกเช่นนี้ก็คงไม่อ้อมค้อม” ชายหนุ่มเดินนำอีกฝ่ายเข้าไปยังเรือนด้านใน
เย่หนิงเดินตามอีกฝ่ายเข้าไปยังด้านในเรือน ด้านในเรือน สาวใช้รู้งานเป็นอย่างดีจึงพากันปลีกตัวหลบออกมาจากเรือน
ชายหนุ่มเดินมายังโต๊ะรับแขกก่อนจะเชื้อเชิญอีกฝ่ายนั่งคุยกัน
“ข้าไปยังหุบเขาของท่านครั้งนี้ที่จริงเป็นเพราะต้องการสืบความเคลื่อนไหวเท่านั้น แต่ดันไปหลงอยู่ในค่ายกลจนได้บาดแผลเช่นที่ท่านเห็น” ชายหนุ่มกล่าวเหมือนเรื่องที่เกิดมิใช่เรื่องใหญ่
“ระยะหลังวังหลวงไม่ปลอดภัยมีนักฆ่ากลุ่มหนึ่งพยายามบุกเข้าไป เราสงสัยเป็นคนของพรรคมารฟ้า”
“พรรคข้าแม้รับจ้างฆ่าคนแต่คนๆ นั้นต้องไม่ใช่ฮ่องเต้ พวกข้าไม่โง่พอที่จะรับงานกำไรต่ำความเสี่ยงสูงเช่นนั้น”
“เมื่อเดือนที่ผ่านมาหากจำไม่ผิดคนของพรรคมารฟ้าพึ่งแอบเข้าวังหลวงขโมยของฝ่าบาทหนีมา” คดีครั้งนั้นทำเอาเขากับพี่ใหญ่ต้องเปิดศึกกับพรรคมารฟ้า
“ขโมยของเล็กน้อยเท่านั้นอย่าได้เอามาเป็นเรื่องใหญ่ถือสาผู้น้อยเช่นพวกข้า”เย่หนิงรีบรื้อความทรงจำเจ้าของร่าง
“ก็เล็กน้อยแต่สิ่งที่พวกประมุขขโมยดันเป็นของในห้องบรรทมของฝ่าบาท” ทันทีที่อีกฝ่ายกล่าว เย่หนิงถึงกับหัวใจตกไปที่ตาตุ่ม
ห้องบรรทม เจ้าพวกไร้ความคิดไม่กลัวตายขโมยอะไรไม่ขโมยดันไปขโมยของในห้องนอนของฮ่องเต้ ถึงว่าฮ่องเต้ผู้นั้นถึงสั่งแม่ทัพฉินตามไล่ล่าพวกนางมาร!
“เกิดเป็นบุรุษอย่าได้เจ้าคิดเจ้าแค้น อะไรผ่านไปก็ให้ผ่านเลยอย่าได้นำกลับมาคิด ปล่อยวางไงปล่อยวาง”
“เพราะนักฆ่ากลุ่มนั้น ฝ่าบาทจึงสั่งให้ไปจับตาดูพรรคมารฟ้า”
“พวกข้าไม่ได้รับงานลอบฆ่าฮ่องเต้จริงๆ นะ”
“ข้าเชื่อว่าท่านไม่ได้รับงานลอบฆ่าฝ่าบาท เพราะเหตุนั้นจึงไม่ได้ปิดล้อมเผาหุบเขา”
เผาหุบเขา! นางตระหนกจนเหงื่อออกฝ่ามือ
“ที่จริงก็คิดว่าหลังจากตรวจสอบเรื่องทั้งหมดจบจะส่งประมุขกลับหุบเขา เพียงแต่ยังคงมีเรื่องไหว้วานพรรคของประมุขอีกเล็กน้อย”
ยามนี้หากเย่หนิงไม่รู้จุดประสงค์ของอีกฝ่ายก็โง่เต็มทน นางจึงเข้าเรื่องอย่างรวดเร็ว
“เงินถึงงานก็ไป”
ชายหนุ่มอดเอ็นดูอีกฝ่ายไม่ได้ ขนาดกริยาท่าทางหน้าเงินยังน่ารัก ไม่รู้ว่าทำไมเมื่อก่อนเขาจึงมองว่านางเป็นสตรีน่าเบื่อไปได้นะ
“อีกสองวันท่านจะได้พบกับฝ่าบาท”
เย่หนิงตกใจจนหันไปมองอีกฝ่าย ในเรื่องไม่ใช่ว่านางเอกได้พบกับฮ่องเต้เพราะรองแม่ทัพฉินพาเข้าวังเพื่อพบน้องสาว ฮ่องเต้หลงใหลนางเอกทันที แต่โชคไม่ดีที่วันนั้นอ๋องจ้าวเฉินก็พบนางเอกเช่นกัน นั่นเป็นจุดเริ่มต้นกระตุ้นให้อ๋องจ้าวเฉินเร่งก่อกบฎเพื่อชิงตัวของนางเอก
เนื้อเรื่องทำไมถึงเปลี่ยนไปเช่นนี้ หรือนางจำเนื้อเรื่องในนิยายผิด
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

เงินถึงงานไป หลอกใช้อีก คิดดอกไหมลูก
เงืนมาาาาาาา มีคนสายเปย์แถวนี้้้้