ตอนที่ 11 : ตอนที่ 6 ตอนปลาย
“ข้าบอกให้เจ้าสืบความเคลื่อนไหวของพรรคมารฟ้าว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับอ๋องจ้าวเฉินไม่ใช่ให้ลักพานางมาจากพรรค” ฉินกู๋ใช้นิ้วมือนวดขมับของตน
“หนิงหนิงยังไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับอ๋องจ้าวเฉิน ข้าเกรงว่าไม่ช้าอ๋องจ้าวเฉินจะนึกเรื่องทัพและกำลังลับของนางได้...จึงชิงมาไว้ในมือเสียก่อน” ชายหนุ่มกล่าวอย่างไม่สะทกสะท้าน
“ทำเช่นนั้นได้เช่นไร เจ้าเป็นถึงน้องของข้า เจ้าควรได้สตรีที่งดงามทั้งหน้าตาและมารยาทไม่ใช่เช่นนาง”
“พี่ใหญ่ ก่อนข้ากลับเข้าเมืองหลวงได้พบกองกำลังลับ ฝีมือนักฆ่าพวกนั้นไม่ต่างกับองครักษ์หลวง” ทันทีที่ฉินหนิงเอ่ยใบหน้าของฉินกู๋เคร่งเครียดทันที
“เจ้าแน่ใจ” ฉินกู๋ถามน้องชาย
“ที่จริงก็อยากเก็บหลักฐานมาให้พี่ใหญ่สอบสวน...แต่นางลงมือหนักไป หลักฐานมีชีวิตพวกนั้นจึงตายเรียบ”
ตายเรียบ...น้องชายของข้าเจ้าพูดเรื่องน่าสยองได้อย่างยิ้มแย้ม สมองเจ้าโดนนางมารทำลายไปแล้วใช่หรือไม่!
“พี่ใหญ่ท่านดูร่างกายของข้า โรคที่กัดกินสุขภาพข้าถูกรักษาหายภายในเดือนเดียว เป็นเรื่องจริงที่ไม่อาจหลอกตัวเองได้ ข้าเป็นหนี้ชีวิตนาง” ฉินหลิงยิ้ม
เขานึกถึงวันที่อยู่ในหุบเขา สมองน้อยๆ ของนางคงคิดหาวิธีไล่เขาลงจากหุบเขามากมาย เขาพอจะเดาความคิดตื้นเขินของนางออกมานานแล้ว แต่ก็ไม่เข้าใจเหตุจูงใจที่นางรักษาเขาแทนที่จะใช้เขาต่อรองกับพี่ใหญ่ นางกุลีกุจอรีบให้คนรักษาเขา ช่างน่ารักเหลือเกิน
“อาจเป็นแผนร้ายของนาง” ฉินกู๋สงสัย
“เพราะฉะนั้นพวกเราควรพานางไว้ข้างกาย ป้องกันแผนร้ายขั้นต่อไปของนางและอ๋องจ้าวเฉิน” ฉินหลิงยืนยันกับพี่ชาย
ฉินกู๋มองหน้าน้องชายก็ถอนหายใจก่อนพยักหน้าตกลง
“เหตุที่พี่ใหญ่รีบกลับออกจากชายป่าเป็นเพราะอ๋องจ้าวเฉิน?”
“สิบคืนก่อนหน้ามีนักฆ่ากลุ่มหนึ่งลอบเข้าไปในวังหลวงหมายสังหารฝ่าบาท แต่ถูกจับได้เสียก่อน พวกมันชิงกินยาพิษตายหมดเสียก่อนถูกสอบสวน พวกขุนนางฝ่ายอ๋องจ้าวเฉินกดดันให้โยกย้ายองครักษ์หลวง ข้าจึงต้องรีบกลับเมืองหลวง”
“พี่ใหญ่ ข้าคิดว่าเรื่องนี้มีเบื้องหลัง”
ฉินกู๋พยักหน้า ระหว่างที่ทั้งคู่กำลังวางแผนเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น
“เรียนคุณชายใหญ่ คุณชายรอง คุณหนูเสิ่นเหลียงมาขอพบขอรับ”
“เจ้าออกไปดูน้องเสิ่นเถอะ ข้าไม่อยากเจอนาง”
ฉินกู๋ไม่ค่อยถนัดรับมือสตรีน่ารำคาญเช่นลูกพี่ลูกน้องนางนี้ ดุหน่อยก็เป็นลม เจอผีเสื้อตายก็ร่ำไห้ ร่างกายของนางราวทำจากเครื่องเคลือบ
ฉินหลิงพยักหน้า เขาจัดชุดให้เรียบร้อยก่อนปั้นหน้ายิ้มแย้มเช่นทุกครั้งเดินออกจากห้องของพี่ชาย เมื่อเขาก้าวเข้ามาถึงห้องโถงก็พบท่านย่าที่เก้าอี้ประธาน เย่หนิง และเสิ่นเหลียงนั่งมองหน้ากัน เสิ่นเหลียงเมื่อเห็นชายหนุ่มก็คลี่ยิ้มหวานพร้อมเอ่ยเสียงหวาน
“พี่หลิง”
ฮูหยินผู้เฒ่าฉินเมื่อเห็นหลานชายเดินเข้ามาก็ลุกขึ้นขอตัวเข้าไปพักผ่อนในห้องนอน ไม่ใช่ว่านางเกลียดเด็กสาวตรงหน้า เพียงแต่กาลเวลาที่ผ่านมาทำให้นางเห็นมารยามากมายจึงเข้าใจทันทีถึงสิ่งที่อีกฝ่ายต้องการ
เรื่องที่เสิ่นเหลียงต้องการไม่ใช่เรื่องผิด เพียงแต่นางไม่มีมารยาทที่คิดหลอกใช้หลานชายของนางปีนป่ายไม่พอยังคิดทิ้งตะกอนที่ไม่อาจลืมในใจ เรื่องเช่นนี้หากหลานชายของนางไม่ฉลาดหาทางข้ามพ้นไปได้ก็คงต้องแล้วแต่เวรกรรมของหลานชาย นางหันไปมองสตรีอีกคนที่นั่งอยู่ด้านข้างก็อดนึกบางเรื่องขึ้นมาได้
“ว่าที่หลานสะใภ้ หากเจ้าเหนื่อยก็อย่าได้เกรงใจใคร จวนนี้ก็เปรียบเสมือนบ้านของเจ้า จะเดินไปไหนหรือเข้านอนทันทีก็ไม่มีใครว่า และหากมีใครรังแกเจ้าก็ให้มาบอกยายแก่เช่นข้า ข้าจะจัดการให้ทันที”
“หา!” เย่หนิงถึงกับอ้าปากค้าง
นางนั่งชมงิ้วตรงหน้าอยู่ดีๆ ไฉนดึงนางเข้าไปร่วมเล่นด้วยละ!
ยามแรกที่นางพบเสิ่นเหลียงก็ชวนตกใจหัวหงอกไปรอบ นางไม่นึกว่านางร้ายเช่นนางจะได้พบนางเอกของนิยายเร็วเช่นนี้ ขอนางเป็นคนคอยชมอยู่วงนอกไม่ได้หรือ ท่านย่าไม่เห็นหรือไงหลานชายของท่านหลงใหลชื่นชมแม่ลูกพี่ลูกน้องคนนี้ยิ่งนัก อา นางอยากหนีออกจากตรงนี้เหลือเกิน
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

น้องงงงง โดนหลอกซ้ำไปมา
มาต่อนะค๊าาา ชอบนางเอกน่ารักแบบงงๆ +55 ขำท่านแม่ทัพแย่งข้าวกับนาง
ขอแบบฮากว่านี้ได้อีกไหมมมมม