ตอนที่ 7 : ซ้อมรบ ตอนต้น
เช้าวันนี้เย่หนิงยอมตื่นแต่เช้ามาแต่งตัวเพื่อติดตามอ๋องลี่หยางไปค่ายทหาร เพื่อไม่ให้เกิดความวุ่นวายเธอแต่งตัวเป็นหนุ่มน้อยหน้าใสขี่ม้าตัวเดียวกับอ๋องลี่หยาง
“พี่หยางค่ายของท่านตั้งติดชายป่าเลยหรือ?” หญิงสาวไม่เคยเห็นค่ายทหารยุคโบราณจึงตื่นเต้นไม่น้อย
“แค่ค่ายชั่วคราว ครั้งนี้เราฝึกการจู่โจมในป่าจึงต้องตั้งค่ายที่นั่น”
อ๋องลี่หยางเมื่อพยายามทำความเข้าใจกับสมองของนางมารน้อย เขาก็เริ่มรู้สึกดีกับนางมากขึ้น นางน่ารำคาญน้อยกว่าสตรีนางอื่น ไม่เรื่องมาก ไม่โวยวาย ที่สำคัญกินนอนง่ายเช่นเดียวกับบุรุษ
“พี่หยางแล้วยามปกติพวกท่านประจำการกันที่ไหน?”
“สามีเจ้ามีหัวเมืองที่ต้องดูแลอยู่ด้านทิศเหนือของแคว้น ปกติจะอาศัยที่เมืองหลวงเพียงปีละ 3 เดือน ระหว่างนี้ต้องพาทหารส่วนหนึ่งเข้ามาเมืองหลวงเพื่อรายงานตัว เจ้าถูกแต่งมาตอนเราเข้ามาเมืองพอดี”
“แปลว่าอีกไม่นานพวกเราต้องไปจากเมืองหลวง?”
“ใช่”
ม้าสีดำเดินไปหยุดที่พักม้าริมชายป่า อ๋องหนุ่มกระโดดลงจากหลังม้าก่อนจึงค่อยๆอุ้มหญิงสาวลงจากม้า ทหารทั้งหลายแอบเมียงมองนายเหนือหัวกับเด็กหนุ่มข้างๆตัว
“ท่านอ๋องทหารกองอินทรีย์พร้อมจะฝึกแล้วขอรับ” แม่ทัพเจาวิ่งออกมารายงานผู้บังคับบัญชา
“ดี” อ๋องหนุมพยักหน้า
“คนผู้นี้คือ?” แม่ทัพเจาหันมามองหน้าหนุ่มน้อยที่ยืนยิ้มยิงฟัน
“เด็กรับใช้” อ๋องลี่หยางพูดตัดบท
“ข้าน้อยเย่หนิงขอรับ” แม่ทัพเจารู้สึกคุ้นหน้าเจ้าหนุ่มหน้าใสคนนี้เหลือเกินเหมือนเคยเห็นที่ไหนซักแห่ง
“เย่หนิงห้ามเจ้าอยู่ห่างเรา ชายป่าถึงจะมีคนของเราอยู่แต่สัตว์ป่าดุร้ายก็มีเช่นกัน”
“ขอรับ”
“…” ท่านอ๋องดูจะเป็นห่วงคนรับใช้เกินไปหรือไม่ขอรับ แม่ทัพเจาแอบสงสัยในใจ
กองทหารถูกแบ่งออกเป็นสองส่วนให้จำลองการต่อสู้ ฝั่งใดถูกชิงธงได้ก่อนให้จบการต่อสู้ เย่หนิงผู้ไม่เคยเห็นการฝึกทหารมาก่อนตาลุกวาว
“พึ่งรู้ว่าเจ้าสนใจเรื่องพวกนี้ด้วย” อ๋องลี่หยางอดแปลกใจไม่ได้ สตรีทั่วไปแค่พูดถึงฝึกทหารก็เบ้หน้าหนี
“ข้าสนใจพวกการทำค่ายกลดักล่อและจู่โจม” เย่หนิงเผลอพูดความสนใจสมัยตอนเป็นโปรแกรมเมอร์
“อยากลองเป็นกุนซือดูไหม?”
“ได้จริงๆหรือ!” หญิงสาวตื่นเต้น นี่เป็นการต่อสู้จริงไม่ใช่บนจอคอมพิวเตอร์
“ได้ แต่คนละฝ่ายกับเรา”
“ท่านอ๋อง!” แม่ทัพเจาถึงกับตกใจ ท่านอ๋องจะลงบัญชาทัพเองแข่งกับเจ้าหนุ่มคนนี้!
“ท่านจะไม่ดูเอาเปรียบข้าเกินไปหรือท่านอ๋อง” เย่หนิงนั่งดีดลูกคิดในใจ เธอไม่มีประสบการณ์จริงมีหรือจะชนะคนมากประสบการณ์ได้
“เช่นนั้นเรายกแม่ทัพเจาให้ไปก็แล้วกัน” เย่หนิงยิ้มแฉ่ง เช่นนี้ซิถึงจะพอฟัดพอเหวี่ยง
“…” แม่ทัพเจายืนอ้าปากค้าง
“แม่ทัพเจาข้าเชื่อใจท่าน” เย่หนิงขยิบตา
ทันทีที่เห็นหน้าของอีกฝ่ายชัดๆแม่ทัพเจารู้ทันทีทำไมเขาจึงรู้สีกคุ้นหน้าน้องชายผู้นี้นัก ใบหน้าละม้ายเสนาบดีนั่นเอง! หรือว่าเด็กหนุ่มนี้จะคือพระชายาปัญญาอ่อนที่ล่ำลือกัน
“พระชายา...” แม่ทัพเจากลืนน้ำลาย
“ชู่ ท่านอย่าเอะอะไป” ทำไมเรื่องแดงไวจังนะ หรือว่าเธอแต่งเป็นชายไม่เหมือน
“พระชายางานนี้มันอันตรายนะขอรับ!” ถึงแม้พระชายาจะอยู่เป็นกุนซือแต่ก็มีโอกาสพลาดบาดเจ็บได้
“อย่าให้ถึงตายข้ารับได้” เย่หนิงคึกคักยิ่งนัก
“…” แม่ทัพเจาน้ำตาไหล
พระชายาขอรับไม่ใช่แค่ท่านอ๋องจะหั่นข้าเป็นชิ้นๆยังมีบิดาท่านกับพระสนมด้วยนะขอรับ! แม่ทัพเจารู้สึกช่วงนี้ชะตาตกหรือไงทำไมอยู่ๆรู้สึกจะเห็นท่านยมเรียกหาไวๆ
ช่วงนี้มาช้าหน่อยนะคะรีดทุกท่านเนื่องมาด้วยกำลังทำเรื่องซื้อบ้านและย้ายบ้าน ต้องขออภัยรีดทุกๆท่านมากมาย อย่างไรการลงต่อเนื่องจะกลับมาอีกทีหลังวันที่8เม.ย.61นะคะ อย่างไรระหว่างนี้เชิญติดตามผลงานเก่าของทุรคาไปพลางๆก่อนนะคะ
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

ถ้าตัวเป็นแผลนี่จะตื่นจากฝันไหม?
5555แม่ทัพเจาน่าสงสาร5555