ตอนที่ 7 : ชายเหนือชายคือยอดชาย! ตอนปลาย
ไม่เพียงฝูชิงที่กำลังรับมือกับความวุ่นวายที่กำลังเกิดกับจวนแม่ทัพเวิน ฝั่งของแม่ทัพเวินในร่างองค์หญิงสิบก็วุ่นวายไม่แพ้กัน
“องค์หญิงเพค่ะทรงรอหม่อมฉันด้วย” นางกำนัลประจำตัวองค์หญิงสิบร่วมสิบนางถกกระโปรงยาววิ่งตามองค์หญิงที่บัดนี้เดินก้าวเร็วราวกับเหาะเหินไม่ปาน
“พวกเจ้าจะตามข้ามาเป็นขบวนทำไมมากมาย กลับไปซะ!” แม่ทัพเวินรู้สึกรำคาญขบวนตามเสด็จไม่น้อย เขาแทบไม่มีเวลาเป็นส่วนตัวตั้งแต่เข้ามาอยู่ในร่างนี้ เช้าต้องเสียเวลาให้พวกนางกำนัลแต่งตัวร่วมสองชั่วโมง! เที่ยงวันกว่าจะได้กินอะไรก็ลองยาพิษแล้วยาพิษอีกถึงว่าองค์หญิงผู้นี้เอวบางราวกิ่งไม้ ตกบ่ายก็ยังต้องถูกลากไปตำหนักนู้นตำหนักนี้ปะทะคารมกับพวกสตรีว่างงานแก่ทึนทึก วันนี้ละเขาทนไม่ไหวต่อไปแล้ว อย่างไรก็ต้องคุยกับลูกพี่ลูกน้องของเขาให้รู้เรื่องให้ปรับปรุงความผาสุกชีวิตวังหลัง
“เรียนองค์หญิงฮ่องเต้กำลังทรงงานอยู่ในห้องอักษรเกรงว่า...” ทหารเฝ้าห้องพระอักษรเห็นองค์หญิงสิบกำลังเดินบุกเข้าไปห้องพระอักษรก็รีบเข้าไปห้าม
“ให้องค์หญิงสิบเข้ามา” กงกงหน้าห้องพระอักษรให้ทหารปล่อยองค์หญิงสิบเข้ามาตามคำสั่งของฮ่องเต้ที่ทรงสั่งไว้ก่อนหน้านี้ แม่ทัพเวินเดินจ้ำๆลากชุดหนักร่วมสิบกิโลเข้าเฝ้า เรื่องชุดนี่ก็เช่นกันเขาต้องทูลขอให้ยกเลิกชุดโคตรหนักแถมไร้ประโยชน์นี้ เขาคิดว่าที่พวกสนมวังหลังเดินอืดอาดทำตัวราวเต่าชุดนี้ก็มีส่วน
“ฉาน...” แม่ทัพเวินเกือบลืมตัวเรียกชื่อตามความเคยชิน เขาหยุดปากก่อนแล้วทบทวนความทรงจำขององค์หญิงว่านางเรียกฉานหยวนว่าอะไร
“เสร็จพี่” เขาอยากอ๊วกที่ต้องมาเรียกขานเช่นนี้กับฉานหยวน
เดิมฮ่องเต้กับแม่ทัพเวินถูกเลี้ยงมาด้วยกัน ด้วยความสนิทสนมกันมากจึงมักให้เรียกขานกันด้วยชื่อเฉพาะยามอยู่ด้วยกัน
“น้องหญิงมีเรื่องอะไรถึงรีบร้อนเข้ามาเช่นนี้” ฮ่องเต้ฉานวางฎีกาต่างๆลง เขารักน้องสาวที่เหลือเพียงคนเดียวผู้นี้ไม่น้อย ไม่มีสิ่งใดที่เขาประทานให้นางไม่ได้ยกเว้นใจแม่ทัพเวินซึ่งก็เป็นพี่น้องที่เขารักเช่นกัน
“น้องอยากไปจวนแม่ทัพ” แม่ทัพเวินไม่อ้อมค้อมพูดในสิ่งที่ต้องการออกไป ฮ่องเต้ฉานยกหัวคิ้วขึ้น นี่น้องสาวเขาเป็นคนพูดอะไรตรงๆแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ กริยาก็ดูโผงผางคล้ายเวินเข้าไปทุกทีหรือนี่เรียกว่ากลยุทธ์ใหม่พิชิตใจเวิน
“เจ้าถูกสั่งกักบริเวณอยู่”
“เสด็จพี่!” กักบ้าบออะไรเขาจะอกแตกตายอยู่แล้ว ไม่รู้เจ้าบ้าฉู่มันไปทำอะไรร่างกายของเขาบ้าง
“อีก 2 วันเท่านั้น”
“แต่”
“คำสั่งเรากล้าไม่ทำตาม”
“เกล้ารับคำสั่ง” แม่ทัพเวินรีบคุกเข่าตามความเคยชินขุนนาง ฮ่องเต้ฉานเอียงศีรษะมององค์หญิงสิบเล็กน้อย นี่น้องเขาแปลกไปจริงๆ ปกติเมื่อเขาพูดเช่นนี้แปลว่าหากจะแอบออกไปก็อย่าให้จับได้ หรือถ้าถูกจับได้ก็จะแกล้งรินน้ำตาให้เขาใจอ่อนไม่ลงโทษเพิ่มเท่านั้น
“หมอหลวง!” ฮ่องเต้ฉานเห็นท่าไม่ดีจึงตะโกนเรียกหมอหลวงให้เข้ามาตรวจดูอาการน้องหญิง หรือว่านี่คืออาการข้างเคียงการกระโดดน้ำฆ่าตัวตายครั้งก่อน
“ฉาน!...เสด็จพี่” แม่ทัพเวินอยากเอาหัวโขกพื้นตอนนี้เสียเหลือเกิน
นางกำนัลประจำตัวองค์หญิงสิบแอบยัดเงินทหารวังให้นำเรื่ององค์หญิงสิบป่วยหนักส่งไปยังจวนแม่ทัพเวิน นางเป็นหนึ่งในข้ารับใช้ที่หวงกุ้ยไท่เฟยส่งมาในตำหนักองค์หญิงเพื่อคอยสอดส่องและรายงานพระนางทุกฝีก้าว
“จำได้หรือไม่ว่าข้ากล่าวว่าอะไร” นางกำนัลซักทวนคำอีกครั้ง
“องค์หญิงสิบล้มป่วยหนักต้องการพบท่านแม่ทัพเวิน” ทหารวังทวนคำอย่างหนักแน่น
“ดีมาก เจ้าทำอย่างไรก็ได้ให้ท่านแม่ทัพมาเยี่ยมองค์หญิงในวันนี้ หากทำได้รับรองหวงกุ้ยไท่เฟยประทานรางวัลให้เจ้ามากมาย” ทหารผู้ส่งสารพยักหน้าก่อนจะกระโดดขึ้นควบม้าเร็วหายออกวังไป
ทหารส่งสารคิดคำพูดหลอกล่อมากมายเพื่อให้ท่านแม่ทัพเวินผู้ขึ้นชื่อไม่แยแสสตรีหลงกลตามตนเข้าวังมาให้ได้แต่พอถึงเวลาแม่ทัพเวินเห็นหน้าเขาก็รีบลากคอเขาขึ้นม้าเข้าวังโดยไม่ต้องบอกกล่าวสิ่งใด ถุงทองคำหล่นใส่มือเขาทันทีที่นำเรื่องเข้าไปรายงานหวงกุ้ยไท่เฟย
“เจ้าทำดีมาก” หวงกุ้ยไท่เฟยหัวเราะอย่างมีความสุข แผนที่วางไว้ตอนงานเลี้ยงทูตแคว้นตะวันตกถึงแม้ต้องล้มเลิกไปเพราะองค์ชายฉู่วิปริตนั่น แต่ธิดาของเธอต้องไม่พ่ายแพ้องค์ชายต่างแคว้น ต้องชนะรักครั้งนี้! ครั้งนี้เธอจะใช้แผนน้ำตาลใกล้มด เรือนใกล้พระจันทร์ ชายหญิงใกล้กันทุกวันถึงแม่ทัพเวินไม่อยากแต่งก็ต้องแต่ง
ทางด้านหนุ่มสาวที่ถูกวางแผนก็กำลังนั่งจ้องหน้ากัน ไม่นานฝูชิงก็อดปล่อยเสียงหัวเราะออกมาไม่ได้
“โดนยาไปกี่ขนานละแม่ทัพเวิน” เธอมองไปยังแม่ทัพเวินที่นั่งบนเตียงด้านข้างมีกองยามากมายวางอยู่
“ฝูชิง!” แม่ทัพเวินหน้าแดง ช่วงหลังเขาอารมณ์ขึ้นลงง่ายคงเป็นเพราะอยู่ในร่างกายสตรีภายในจึงไม่เป็นปกติ
“เอาละเอาละ คนส่งข่าวท่านก็มาพอดีทำให้ข้าหาเวลาปลีกตัวจากองค์ชายฉู่ได้”
“เล่ามา ขอสั้นๆ”
“สั้นๆ หาที่ซ่อนตัวจนกว่าจะจัดการพี่น้องได้หมด”
“สงครามภายในแคว้นตะวันตกเริ่มแล้วซินะ” แม่ทัพเวินเคาะนิ้วกับเตียง
“ท่านอยากก่อสงครามตอนนี้ไหม?” ฝูชิงถาม ถึงแม่ทัพจะตอบพร้อมแต่เธอไม่พร้อม
“ไม่...องค์ชายฉู่คงได้ขึ้นเป็นรัชทายาทไม่ช้า คนเช่นเขาบุญคุณต้องทดแทนแค้นต้องชำระ เมื่อเราให้ที่พักขณะก่อสงครามภายในเขาย่อมไม่ก่อสงครามกับเราอีกนาน” สงครามไม่ใช่สิ่งดี ชาวบ้านตาดำๆล้วนได้ผลกระทบตามกันไป หากไม่มีสงครามเกิดขึ้นซักรัชสมัยย่อมเป็นสิ่งประเสริฐ
“หากท่านยอมพลีกายเป็นชายาองค์ชายฉู่...ข้าว่าเขาคงยุติสงครามถาวรไปเก้าชั่วโคตร” แม่ทัพเวินปาหมอนใส่ฝูชิงที่นั่งหัวเราะจนปวดท้อง
“ฮา ฮา ฮา คิดมากไปทำไม ชายเหนือชายคือยอดชาย” ครั้งนี้ไม่ใช่แค่หมอนที่ถูกปาใส่ฝูชิงแต่มีห่อยามากมายลอยตามมาด้วย
ด้านนอกห้องขันทีและนางกำนัลแอบร่ำไห้ด้วยความปิติที่องค์หญิงสิบสุขภาพดีขึ้นเรื่อยๆขนาดส่งเสียงดังกับแม่ทัพเวินได้
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

502 ความคิดเห็น
-
#36 หนอนหนังสือ^0^ (จากตอนที่ 7)วันที่ 24 มีนาคม 2560 / 09:52ฮามากค่ะ แหวกแนวชอบมากๆนะคะ#360
-
#35 hanani (จากตอนที่ 7)วันที่ 24 มีนาคม 2560 / 00:04สนุกมากคะ><.#350
-
#34 Phatranooch Piyanirun (จากตอนที่ 7)วันที่ 23 มีนาคม 2560 / 23:46ขอบคุณค่ะ#340
-
#33 lookkaewfin (จากตอนที่ 7)วันที่ 23 มีนาคม 2560 / 19:01เพล้ง เพล้ง โยนๆๆ เหมือนสตรีไปได้#330
-
#32 แฝดจอมซน (จากตอนที่ 7)วันที่ 23 มีนาคม 2560 / 18:50ข้าก็ไม่ได้ป่วยตั้งแต่แรกอยู่แล้วโว้ยยยย!! //องค์หญิงสิบไม่ได้กล่าวไว้ 5555#320