คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : เพลิงสีดำที่ลุกโชน และปริศนาของชายชุดดำ
ณ ป่าแห่งความฝัน
ที่ซากวิหารเก่าที่อยู่ทางทิศเหนือของป่านั้นเอง หนังสือแห่งสัญญาสีขาวได้เปิดออกที่บรรทัดเขียนไว้ว่า
“Mage Neverlost transbreak,Accessory Assotik”
ใช่แล้วมันคือชื่อที่ตี๋ได้บันทึกไว้ แต่ตอนนี้มันมีตัวอักษรสีทองอีกอันนั้นทับซ้อนอยู่เขียนว่า
“Resurrection 7%”
ประโยคนี้มันความหมายอะไรกับตี๋หรือเปล่าน่า
แต่ที่กลางป่าแห่งความฝันนั้น ณ จุดที่แท่นหิน3กษัตริย์ตั้งอยู่
ชายชุดดำที่ปรากฏมายืนอยู่บนแท่นหิน3กษัตริย์ สายตาของทุกคนที่อยู่ในป่าแห่งความฝันจับจ้องไปที่เขา
“ผู้บุกรุก”
ลัลทราพูดแล้วกระโดดเข้าจู่โจมด้วยความเร็วสูงเพียบช่วงพริบตาก็ไปอยู่ข้างหลังของชายชุดดำ
“หยุดนะ ลัลทรา!!”
เมย์ตะโกนห้ามลัลทราที่กระโดดเข้าไปโจมตีชายชุดดำที่ยืนอยู่แท่นหิน3กษัตริย์ แต่ว่ามันกลับสายเกินไป
ลัลทราใช้ง้าวของเธอฟันเข้าไปที่ชายชุดดำด้วยความเร็วที่มองแทบไม่ทัน แต่ชายคลุมดำกลับหลบอย่างง่ายดายเพียบแค่โยกตัวหลบเล็กน้อยแล้วจับที่ด้ามง้าวของลัลทรา แล้วชายชุดดำก็ใช้มืออีกข้างตวัดด้วยความเร็วสูงจนตัวลัลทราปลิวไป
ตรึง!!
ร่างของลัลทราลงกระแทกพื้นอย่างแรงจนเธอสลบไป ชายชุดดำปานง้าวของลัลทราไปปักไว้ข้างๆตัวเธอก่อนที่มันจะสลายหายไป
ในตอนนี้ทุกคนตั้งท่าเตรียมโจมตีกันหมด เหลือแต่เมย์ที่ยืนมองจ้องไปที่ชายชุดดำนั้นโดยท่าทีของเธอที่เปลี่ยนไปจากทุกที
“ไม่ต้องเกร็งกันขนาดนั้นก็ได้ ข้าแค่จะมาดูหน้าผู้ที่ครอบครองมังกรโลหะเท่านั้นเอง”
ชายชุดดำพูดท่าทีที่ดูสบายๆ และปล่อยจิตสังหารที่หนักหน่วงออกมา
เจสันยืนนิ่งจนไม่กล้าขยับทั้งๆที่อยากจะเข้าไปยิงแทรกหน้ามันสักนัด2นัด แต่ก็เข้าใจดีในท่าทีที่ชายชุดดำบอก เพราะว่าฝีมือเขาถือว่าเป็นผู้ใช้ลมขั้นสูงได้ แต่ก็ยังอ่อนกว่าลัลทราที่ใช้ความสามารถของธาตุลมได้อย่างเต็มที่
ส่วนไคเลอร์เมื่อเห็นลัลทราโดนเล่นงานจนสลบไป ก็เกิดบันดาลโทสะจะเข้าไปสู้ด้วยแต่ชาร์คห้ามเอาไว้
แต่ตี๋กลับเป็นคนที่ดูท่าจะกลัวที่สุด เพราะถึงเขาจะเป็น1ในกลุ่มs.s. แต่เขาก็ยังไม่ได้เรียนรู้วิธีการใช้เวทมนต์ต่างๆเลย
“เมย์ เกิดอะไรขึ้นเหรอ เขาคนนั้นก็พวกเราเหรอ”
ตี๋พูดถามเมย์ที่ ทำหน้าแปลกๆมาตั้งแต่เมื่อกี้ แต่เมย์ก็ไม่ได้ตอบอะไรกลับมา
“เจ้างั่ง แกดูสถานกาณ์ตอนนี้ไม่ออกเหรอไง”
จู่ๆเสียงแหบๆของเจ้าหัวกะโหลกดังขึ้นมา โดยที่ไม่มีไฟลุกท่วมมาแบบก่อนๆตี๋จึงหันไปมองรอบๆก็ไม่พบตัวของเจ้าหัวกะโหลก
“ดูที่มือแกสิเจ้าเซ่อ”
เสียงแหบๆนั้นดังขึ้นอีก แต่ตี๋ก็ยังทำตาม โดยยกมือของตัวเองทั้งข้างขึ้นมาดูก็พบแต่แหวนรูปหัวกะโหลกกับกำไลโซ่สีดำ
“ข้าอยู่นี้”
ตี๋สะดุ้งด้วยความตกใจ ที่แหวนรูปหัวกะโหลกของตนนั้นขยับปากพูดได้
“แกคือเจ้าหัวกะโหลกติดไฟตัวนั้นเหรอ”
ตี๋เอ่ยถามเจ้าหัวกะโหลกที่ตอนนี้อยู่ในรูปร่างแหวนของเขา ดูๆไปก็เหมือนคนบ้าคุยกับแหวนตัวเอง
“เรียกข้าว่า แอค นี้ไม่ใช่เวลามาล้อเล่นพวกของเจ้าตอนนี้สู้ไอ้หมอนั้นไม่ได้หรอก”
เจ้าหัวกะโหลกหรือแอคได้พูดเสร็จแล้ว ก็เรืองแสงสีม่วงออกมาจากตากะโหลกที่แหวน
แล้วทุกอย่างก็มืดลงเหลือเพียงตี๋เพียงคนเดียวในความมืดนั้น ไฟสีดำลุกไหม้เบื้องหน้าตี๋ปรากฏโครงกระดูกที่มีดวงไฟสีม่วงอยู่ที่กลางอกก่อนที่ควันไฟจะรวมกันเป็นผ้าคลุมปกคลุมตัวมัน
“แอคที่นี้มันที่ไหน?”
ตี๋พูดพลางทำหน้างง
“ที่นี้คือภายในจิตใจของแกไง เนว”
แอคพูดแล้วชี้ไปทางตี๋ ที่อยู่เบื้องหน้าเขา
“พลังที่เจ้าเหลืออยู่ก็อย่างที่เห็นอยู่ นั้นก็คือความมืดไงล่ะ ข้าจะสอนเจ้าใช้พลังแห่งความมืดที่นี้”
แอคพูด แล้วจุดไฟสีดำขึ้นที่มือ
“กำลังรอช่วงนี้อยู่เลย จัดมาได้เลย”
ตี๋พูดรับคำของแอคโดยง่ายไม่รู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่เหมือนกันน่า
แต่ในป่าแห่งความฝันตอนนี้ทุกคนยังยืนนิ่งค่อยดูสถานการณ์กันอยู่
เมย์หันไปมองตี๋ที่นั่งนิ่งอยู่ในท่าคุกเข่า เพราะสัมผัสจิตที่เปลี่ยนไปได้
“กระแสจิตเปลี่ยนไป”
เมย์พูดในใจ แล้วกลับไปมองที่ชายชุดดำอีกครั้ง
“โอ้นั้นนะหรอก ผู้ครอบครองมังกรโลหะแต่ดูท่าไม่เอาไหนเลยนะ ข้าล่ะเศร้าใจนึกว่าจะได้เล่นอะไรสนุกๆซะอีก”
เสียงของชายชุดดำที่พูดด้วยน้ำเสียงที่ธรรมดา ก่อนจะปล่อยจิตสังหารออกมาแรงกว่าเดิม จนทุกคนเข่าอ่อนกันหมด แต่บ้างคนก็ถึงกับคุกเข่าลงไปเลยที่เดียว มีเพียบแต่เมย์ที่ยืนนิ่งอยู่
“โฮ สมกับเป็นเอวาเจริน ผู้ที่ได้รับเลือกจากวิญญาณแห่งจันทรา”
ชายชุดดำพูดแล้วตบปรบมือให้
“ท่านคิดจะมาทำอะไรที่นี้อีก ทั้งๆที่ท่านก็ออกจากที่นี้ไปแล้ว”
เมย์พูดด้วยน้ำเสียที่เปลี่ยนไปจนฟังแล้วรู้ได้เลยว่าเธอกำลังโกรธ ออร่าสีฟ้าอ่อนของเธอแพร่ออกมาในลักษณะเหมือนไฟที่กำลังลุกไหม้ไปทั้งร่างของเธอ
“ไม่เห็นต้องโกรธกันแบบนั้นเลย ก็บอกไปแล้วนิว่าข้ามาดูหน้าเจอหนุ่มคนนั้นที่ถูกเลือกโดยมังกรโลหะ”
ชายชุดดำพูดแพลางชี้ไปทางตี๋ ที่นั่งนิ่งอยู่
เจสันที่พึ่งเรียกผ้าคลุมออกมากันจิตสังหารนั้น เห็นท่าไม่ดีแล้ว
“เอวาหยุดนะ เธอห้ามสู้กับเขาเด็ดขาด!!”
เจสันตะโกนออกมาดังลั่นไปทั้งป่า ด้วยเหตุผลที่เขารู้อยู่คนเดียวทุกคนรอบข้างเขานั้นหันมามองด้วยความสงสัยเพราะว่าในกลุ่มนี้เอวามีพลังเวทสูงที่สุดก็น่าจะสู้กับชายชุดดำได้
ทันใดนั้นเองบรรยากาศรอบข้างนั้นเปลี่ยนไป ความกดดันจากจิตสังหารหายไปทุกคนรู้สึกราวกับสิ่งรอบข้างนั้นว่างเปล่า
“ถ้างั้นฉันจะจัดการไอ้หมอนั้นเอง”
เสียงของตี๋ที่ดังขึ้น ในขณะที่เขาค่อยๆยืนขึ้น ตัวของเขากำลังลุกไหม้ไปด้วยเพลิงสีดำแล้วกองตัวเป็นเสื้อโค้ดสีดำแบบรูดซิบที่ปิดสนิท คอเสื้อปิดมาถึงบริเวณจมูก กางเกงสีดำและรองเท้าบูทสีดำ มือของเขาที่ลุกไหม้ด้วยไฟสีดำกลายเป็นถุงมือ เขาเรียกไฟสีดำออกมาที่มือซ้ายแล้วลุกไหม้ไปในแนวยาว ปรากฏเป็นดาบคมเดียวแบบญี่ปุ่นที่ไม่มีสกัดดาบ คมดาบสีน้ำเงินคราม ด้ามดาบที่เป็นเหล็กและปลายเป็นหัวกะโหลก ออร่าลักษณะไฟสีดำแพร่ไปทั่วกลายเขา แล้วดวงตาเขาก็กลายเป็นสีม่วง
“ตะ ตี๋”
เมย์หันไปมองตี๋ด้วยความตกใจ ด้วยท่าที่ของเขาที่เปลี่ยนไปเหมือนเป็นคนละคน
“โอ้โฮ พลังเวทมนต์สูงจนผิดปกติเลยแหะ ชักคันไม้คันมือแล้วสิ”
ชายชุดดำพูดพลางบีบมือของตัวเอง แล้วลอยตัวขึ้น
“Blade Collection”
เสียงร่ายมนต์ของชายชุดดำ ปรากฏดาบเวท3เล่มเบื้องหลังเขา ดาบทางขวาเป็นดาบสีเงิน ดาบทางซ้ายเป็นดาบสีทอง
แล้วตรงกลางเป็นดาบขนาดใหญ่สีดำเหมือนควันไฟ
“พร้อมกันหรือยัง”
เสียงของชายชุดดำที่ดังก้องเข้าไปถึงในหัว เหมือนพูดด้วยกระแสจิต
“เนว ข้าถ่วงไว้ได้แค่10นาทีนะ”
เสียงของแอคพูดขึ้นในขณะที่ดวงตายังเรืองแสงสีม่วง
“ได้แค่10นาที ก็พอแล้ว”
ตี๋พูดตอบกลับแอค แล้วหันไปทางเมย์
“เมย์ เธอช่วยพาทุกคนไปหลบก่อนได้ไหม เพราะแอคจะช่วยดูดจิตสังหารได้แค่10นาทีเท่านั้น”
ตี๋พูดกับเมย์ด้วยน้ำเสียงที่ดูจริงจังแต่กลับให้ความรู้สึกที่อ่อนโยน
“อือ ได้สิแล้วฉันจะรีบกลับมาช่วยนะ”
เมย์พูดก่อนจะจ้องมือโมโนที่อยู่แถวนั้นไปด้วย
“ชุดเท่มากเลยพวก”
โมโนพูดทิ้งท้ายด้วยน้ำเสียงที่เฉยเมยเช่นเคยก่อนจะโดนเมย์ลากไป
เมย์ได้วิ่งไปบอกให้ทุกคนรีบออกจากบริเวณนี้ ทุกคนก็รีบวิ่งข้ามธารน้ำไป ไคเลอร์วิ่งไปอุ้มร่างของลัลทราพาดบ่าแล้วก็วิ่งตามทุกคนไป ปล่อยให้ตี๋ยืนประจันหน้ากับชายชุดดำเพียงลำพัง
“ใจกล้าจริงนะ ที่คิดจะสู้กับข้าแบบตัวต่อตัว”
ชายชุดดำพูดพลางมองไปที่เมย์ที่กำลังพาทุกคนหนีไป
“นั้นเป็นความต้องของแกเองไม่ใช่หรือไง”
ตี๋พูดพลางเอาดาบชี้ไปทางชายชุดดำ ก่อนร่างของเขาจะสลายเป็นผงสีดำแล้วจางหายไป แล้วโผล่อีกที่ ที่เบื้องหน้าของชายชุดดำโดยเพียงช่วงพริบตาดาบคมสีครามฟาดเข้าไปโดยไม่รีรอ
แคร้ง!!
ดาบของตี๋ต้องหยุดชะงักด้วยดาบแสงสีทองที่กันเอาไว้ โดยที่มือของชายชุดดำไม่ได้จับต้องมันเลยสักนิด มันสลัดดาบของตี๋ออกไปแล้วสลายเป็นประกายสีทองรอบๆตัวชายชุดดำ
ตี๋โดยแรงสลัดจากดาบแสงสีทองลงมาที่พื้น ชายชุดดำได้ใช้มือของตนจับดาบแสงสีเงินแล้วพุ่งเข้าใส่ตี๋จากกลางอากาศ
ตรึง!!
ตี๋ใช้ดาบกันไว้ได้แต่พื้นที่ยืนอยู่ถึงกับแตกออก ร่างของตี๋สลายหายไปอีกครั้ง แล้วไปอยู่ข้างหลังชายชุดดำแล้วตวัดดาบใส่ในช่วงอึดใจ
แคร้ง!!
ดาบของต๋โดยหยุดอีกครั้งโดยดาบสีทองทีคิดว่าสลายไปแล้ว แล้วมันก็สลัดตี๋ออกมาอีกครั้ง จนเกิดระยะห่างกับชายชุดดำพอควร ก่อนดาบแสงสีทองจะจะสลายหายไปอีก
ชายชุดดำได้โบยมือขึ้นมา1ครั้ง ปรากฏดาบสีทองหลายสิบเล่มล้อมรอบตัวตี๋ไว้ ทุกเล่มเตรียมพร้อมจะพุ่งแทงตัวเขาได้ทุกเมื่อ ตี๋หาได้กลัวจำนวนของมันมือขวาของเขาลุกไหม้ด้วยไฟสีดำก่อนที่เขาจะต่อยมันลงพื้น
ตรูม!!
เสียงระเบิดจากการปะทุของไฟสีดำควันสีดำสนิทเหมือนก้อนเมฆที่กำลังจะมีพายุคุ้งกระจายไปทั่ว แล้วมันก็ไหลย้อนกลับไปควันสีดำที่ปกคลุมค่อยๆหายไป ปรากฏหัวกะโหลกที่ด้ามดาบของตี๋กำลังดูดควันสีดำนั้นเข้าไป และเมื่อปากของมันปิดลงคมดาบสีครามได้เปลี่ยนเป็นสีดำสนิทก่อนนะมีไฟสีดำลุกท่วมคมดาบ
“Assertive”
เสียงที่แผ้วเบาในร่ายมนต์บทแรกของตี๋ (ร่ายเวทเสียงดังศัตรูก็รู้หมดสิ)
“โฮะโฮ พึ่งต่อสู้ครั้งแรกก็สามารถใช้พลังสายความมืดได้ถึง100% สนุกไม่เลวจริงๆ”
ชายชุดดำพูดด้วยน้ำเสียงที่สมใจอยาก แล้วจับดาบสีเงินที่ลอยอยู่ข้างๆอีกครั้ง
“มาต่อกันอีกสักยกดีกว่า”
ชายชุดดำพูดท้าทายก่อนเอาปลายดาบชี้ไปทางตี๋
ทางด้านเมย์ที่พวกพรรคพวกที่หนีข้ามมาฝั่งเขตป่ากันหมดแล้ว
“ทุกคนรออยู่นี้นะ ฉันจะกลับไปช่วยเนเวอร์ลอส”
เมย์พูดพลางจะวิ่งกลับไปช่วยตี๋ แล้วเจสันกลับห้ามไว้
“หยุดนะเอวา!! เธอห้ามไปสู้กับชายชุดดำนั้นเด็ดขาด”
เจสันพูดตะโกนดังลั่น จนพวกที่นั่งพักอยู่หันมามอง
“ทำไม ถึงห้ามไม่ให้ฉันไปช่วยเขาล่ะ นายเองก็รู้ไม่ใช่เหรอว่าชายคนนั้นมีพลังมากขนาดไหน แล้วจะให้คนที่พึ่งใช้มนต์ได้ไปสู้ก็มีแต่ตายกับตายอยู่แล้ว”
เมย์พูดด้วยน้ำเสียงที่ออกเศร้าๆ
“มาสเตอร์ ความกลัวที่มีต่อผู้ชายคนนั้นมันบังตาเธออยู่เหรอ”
ชาร์คเดินมาจับไหล่เจสัน แล้วพูดกับเมย์
“เด็กหนุ่มคนนั้น ใช้พลังสายความมืดไม่ผิดแน่”
บุปผาพูดขึ้นในขณะนั่งพักอยู่
“พลังสายความมืดคือความสามารถในการดูดกลืนแล้วนำมาใช้”
เจสันพูดพลางหันไปมองไคเลอร์ (เพราะพลังในการเปิดช่องมิติก็จัดอยู่ในสายความมืดด้วย)
ตรูม!!
เสียงระเบิดดังสนั่นมาจากแท่นหิน3กษัตริย์ ทำให้ยังไงเมย์ที่พึ่งจะอารมณ์เย็นลงก็อดเป็นห่วงไม่ได้
“ยังไงฉันก็จะไป”
เมย์พูดยืนยันคำเดิมอยู่ดีแต่ด้วยท่าทีที่สงบลงมาก
“ok งั้นฉันจะไปกับเธอด้วย”
เจสันพูดพลางเรียกปืนของเขาออกมาอีกครั้ง แล้วทุกคนก็นั่งพักอยู่ก็ลุกขึ้น
“ฉันเป็นผู้เฝ้าป่าแห่งนี้ยังไงก็ต้องไปทำหน้าที่ให้เรียบร้อย”
ชาร์คพูดแล้วหยิบลูกกลมสีทองๆออกมาแล้วทำอะไรยุกยิกๆ กลายเป็นกระบองสีทองออกมา
“ยังไงก็ไปกันหมดนี้ไม่ใช่เหรอ”
บุปผาพูดก่อนจะยืนขึ้นมาแล้วทำท่าบรรจุกระสุนเข้าที่ปืนเธอ
“แล้วแกล่ะไคเลอร์”
เจสันตะโกนเรียกไคเลอร์ที่นั่งเฝ้าลัลทราที่นอนสลบอยู่
“ถามมาได้ ยังไงฉันไม่ยอมให้คนที่ชอบทำร้ายผู้หญิงลอยนวลไปได้อยู่แล้ว”
ไคเลอร์ยืนขึ้นมาแล้วดึงถุงมือให้กระชับ
“งั้นฉันขอไปยืนสังเกตการนะ หากถ้าตายหมดฉันจะได้เอาไปฝังให้ หิหิ..”
เสียงพูดของโมโนที่ชวนขนหัวลุก แต่ทุกคนไม่ได้เศร้าใจในคำพูดของโมโนแต่กลับมีกำลังใจมากขึ้นจนยิ้มออกมาก
“สั่งมาได้เลย มาสเตอร์”
เจสันพูดให้เมย์ออกคำสั่งปฏิบัติการ
“งั้นทุกคนจงฟัง ขอให้ทุกคนไปช่วยเนเวอร์ลอส และกำจัดศัตรูให้ได้”
เมย์พูดด้วยน้ำเสียงที่ดูจริงใจ ที่เหมือนไม่ได้พูดมานาน
“รับทราบ!!”
ทุกคนพูดรับคำสั่งพร้อมกันแล้ววิ่งกลับไปเกาะกลางน้ำอีกครั้ง
เมื่อมาถึงดาบสีดำที่มีไฟลุกท่วมลอยมาปักหน้าทุกคน ก่อนไฟจะดับลงแล้วกลายเป็นดาบสีคราม ทุกคนพยายามมองหาตี๋กับชายชุดดำแต่ก็ไม่พบ แล้วร่างของตี๋ก็พลิ้วมาแต่เขาทรงตัวไว้ได้แล้วไหลมาตามจับดาบของเขาพอดี
“นี้พวกนายมาอยู่ที่นี้ได้ยังไง ก็ให้หนีไปแล้วไม่ใช่เหรอ”
ตี๋พูดเหมือนกับทุกคนมาจะขัดขว้างการต่อสู้ของเขา
“แล้วที่นี้มีนายอยู่สู้เป็นอยู่คนเดียวหรือไง”
เมย์พูดด้วยท่าทางไม่พอใจ จนตี๋ไม่กล้ามองสบตา
“เนวเหลือแค่3นาทีเท่านั้นนะ”
เสียงของแอคพูดขึ้นมา (ช่วยชีวิตตี๋ไว้พอดี)
“คุณไลเคอร์ เปิดประตูมิติได้ใช่ไหม ช่วยเปิดที่ๆส่งไปไกลๆให้หน่อยได้ไหมครับ”
ตี๋ตัดบทไปพูดกับไคเลอร์ แล้วจับดาบสีครามของเขาขึ้นมา
“ทุกคนช่วยสนับสนุนด้วยนะครับ เราจะส่งแขกกันแล้ว”
ตี๋พูดแล้ววิ่งไปด้วยความเร็วสูง จนเห็นเขาเป็นแค่เงารางๆ ทุกคนพยายามมองตามไปก็พบชายชุดดำกำลังลอยอยู่กลางอากาศกับดาบแสงสีทองจำนวนมากที่อยู่ข้างหลังเขา และดาบแสงสีเงินที่อยู่ในมือของเขา
เจสันกับบุปผาตั้งท่ายิงสะกัดดาบสีทองไว้ให้เพื่อเปิดโอกาสโจมตี
ไคเลอร์เรียกบอลเวทสีดำ2ลูกออกมา ผสานกันแล้วตบลงบนพื้น เมย์กับโมโนเรียกอาวุธออกมาค่อยป้องกันไคเลอร์ พื้นกลายเป็นข่ายเวทสีดำแล้วเป็นอุโมงค์มิติขึ้นบนพื้น
“ช่วยรีบกันหน่อย ฉันเปิดให้ได้แค่3นาทีเท่านั้นนะ”
ไคเลอร์พูดด้วยสีหน้าเหนื่อยอ่อนจากการใช้พลังเวทมาก
ตี๋วิ่งขึ้นไปตามแท่นหิน3กษัตริย์แล้วกระโดดขึ้นไปจะโจมตีใส่ชายชุดดำ แต่ดาบแสงสีทองก็มาค่อยป้องกันไว้อยู่แล้ว
ปัง ฟริ้ว~เพล้ง!
เสียงยิงปืนไรเฟิลของบุปผา แล้วลูกกระสุนก็วิ่งผ่านอากาศมาโดนดาบสีทองจนแตกเหมือนเป็นกระจก
ช่องทางการโจมตีของตี๋ถูกเปิดออก เขาโจมตีโดยไม่รีรอแต่ชายชุดดำก็เอาดาบสีเงินมากันไว้ได้แล้วเหวี่ยงตัวตี๋กระเด็นออกเลย แต่สิ่งที่ไม่น่าเชื่อก็เกิดขึ้นมีเงาขาววิ่งมาจากทางด้านหลังที่เมย์ยืนอยู่ แล้วเหยียบที่ไหล่ของชาร์คด้วยความฝีเท้าที่เบาจนแทบไม่รู้สึก แล้วมาอยู่ข้างหลังชายชุดดำนั้นคือ ลัลทรา ที่ซึ่งน่าจะนอนสลบอยู่ที่อีกฝั่งป่าชายโน้น
“แค้นนี้ฉันคืนให้”
ลัลทราพูดแล้วฟัดง้าวของเธอโดนชายชุดดำอย่างจัง จนเขาตกลงมาเข้าไปในประตูมิติพอดี ไคเลอร์จึงรีบปิดประตูมิติ แต่ระหว่างที่ประตูค่อยๆปิดลง ตัวของลัลทราก็กำลังจะตกเข้าไปในประตูมิติเช่นกัน
ชาร์คจึงใช้เปียผมของเขา ตวัดไปพันกับแขนของลัลทราไว้แล้วดึงกลับเขามา
“เป็นไง ฉันชนะแล้วไงจนได้ ฮ่าๆ”
ลัลทราพูดแล้วก็นอนหลับไป ทำให้คนอื่นมองดูด้วยความมึนงง
“ไม่เป็นอะไรมาก เธอแค่ละเมอน่ะ”
ชาร์คพูดให้ทุกคนเข้าใจ แล้วหน้าตาของทุกคนบอกว่าไม่น่าเชื่อ
ทุกคนเริ่มผ่อนคลายความเครียดหลังจากไล่ชายชุดดำออกไปได้ เหมือนพวกเขาจะลืมตี๋ที่กระเด็นปลิวไปไหนก็ไม่รู้
มีแต่เมย์เท่านั้นที่ออกไปหาตี๋ ก็พบว่าตี๋นั้นไปนอนหลับอยู่บนต้นไม้ โดยที่สภาพกลับมาอยู่ในชุดปกติแล้ว
เมย์ส่ายหัวแล้วถอนหายใจอย่างโล่งอก...
ในอีกด้านหนึ่งของโลกที่ไหนสักแห่ง ในที่แห่งนั้นเป็นเวลายามค่ำคืนแล้ว
ณ ตึกที่สูงใหญ่และภายในอาคารตกแต่งอยากหรูหราในห้องที่ตกแต่งเหมือนห้องระดับvipด้วยพรมสีแดงและอุปกรณ์เครื่องไม้อย่างดี
ชายชุดดำได้เปิดประตูแล้วเดินเข้ามาในห้องนั้น และในห้องนั้นเองก็มีผู้ที่ใส่ชุดผ้าคลุมสีดำอยู่อีก2คนแต่ดูอ่อนวัยกว่ามาก
“ไปไหนมาเหรอค่ะ ท่านซิลเวอร์”
เสียงเด็กผู้หญิงดังเอ่ยถามชายชุดดำที่พึ่งเข้ามา
“ไปหาอะไรทำแก้เบื่อ มานิดหน่อย”
ชายชุดดำที่ถูกถามได้ตอบกลับไป ก่อนนะไปนั่งพักบนโซฟา
“เชมิ เอส หลังจากนี้ของให้พวกเธอค่อยจับตาดูพวกB.C.กับG.C.ไว้”
ชายชุดดำที่นั่งอยู่บนโซฟาออกคำสั่งให้แก้อีก2คนที่อยู่ที่นั้น
“แล้วS.S.ล่ะเราจะทำยังไงกับพวกมัน”
เสียงของชายหนุ่มเอ่ยถามขึ้นมา
“S.S.ข้าจะจัดการเอง”
ชายชุดดำที่ดูจะเป็นหัวหน้าใหญ่ของสถานที่นั้นเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงที่บอกว่า คนเหล่านั้นต้องแย่แน่ๆ.....
ความคิดเห็น