ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Aeon ตำนานดินแดนไม่สิ้นสุด

    ลำดับตอนที่ #4 : หัวใจที่แตกสลาย

    • อัปเดตล่าสุด 19 มี.ค. 49


    ในที่สุดศึกใหญ่ที่ร็อควิลล์ก็จบลง บ้านเรือนและข้าวของเสียหายไปมาก โดยเฉพาะกำแพงหมู่บ้านที่พังทลายชนิดที่ต้องสร้างใหม่หมด โชคยังดี ที่ชาวบ้านไม่มีใครเสียชีวิต และทหารที่ต่อสู้และตายไปก็มีเพียงแค่ไม่กี่สิบคนเท่านั้นเอง

    ตอนนี้ผู้ที่ยังมีชีวิตและยังแข็งแรงดี ต่างช่วยกันแบกหามผู้ที่บาดเจ็บไปรักษาการปฐมพยาบาล โดยสองคนในจำนวนนั้นก็คลาวด์กับอาริโนะ อาริโนะเองไม่ได้บาดเจ็บมากมาย เพียงแต่อ่อนเพลียเนื่องจากการใช้พลังมากเกินไป แต่คลาวด์ที่โดนระเบิดลำแสงเข้าไปเต็มๆ เรียกได้ว่าเจ็บค่อนข้างสาหัสอยู่ บาดแผลตามตัวมีรอยไหม้จางๆและ กระดูกแขนข้างหนึ่งก็หัก ซึ่งเจ้าตัวเพียงให้เหตุผลว่า

    คงโดนหินกระแทกใส่ตอนระเบิดละมั้ง

    ซึ่งทำให้วินส์ฟาลต้องรับภาระในการออกคำสั่งต่างๆแทนทั้งสองคน เธอให้เหล่ากองกำลังหลักทำหน้าที่ตรวจดูทุกฝีก้าวในระยะร้อยเมตรจากหมู่บ้าน โดยให้เน้นไปทางตะวันออกซึ่งเธอได้ยินเสียงคำรามของสัต.ว์ป่า และให้อีกส่วนหนึ่งดูแลคนบาดเจ็บ ซึ่งงานก็ดำเนินไปอย่างรวดเร็ว

    ดูเหมือนว่าพวกโจรพวกนี้จะเป็นไลแคนโทรปทั้งหมดเลยเธอเอ่ยขึ้นเมื่อมองดูซากศพของเหล่าโจรที่จัดการได้ และพบว่าพวกนี้เป็นครึ่งคนครึ่งสัต.ว์ทุกตัว มีทั้งม้า หมี เสือ และอีกหลายๆอย่างจนนับไม่หมด

    (ทำไมไลแคนโทรปถึงจู่โจมมนุษย์ได้ล่ะ) ความคิดของหญิงสาวผุดขึ้นมาในสมอง

    ท่านวินส์ฟาลครับ เราพบคนๆหนึ่งในป่าทางตะวันออกครับนายทหารนายหนึ่ง วิ่งเข้ามาเพี่อรายงานสถานการณ์ ทำให้เธอละจากความคิดนั้น

    ใครกันวินส์ฟาลเอ่ยถามด้วยความสงสัย แต่พอนายทหารพาตัวเขาซึ่งอยู่ในสภาพบาดเจ็บหนักเข้ามา เธอก็ตกใจ


    ท่านรู้จักหรือครับทหารอีกคนถามเธอขึ้น

    ยังไม่ทันจะตอบเขาก็กระอักเลือดออกมาทั้งที่ยังสลบอยู่ ทำให้พวกเธอตกใจมาก

    เพื่อนฉันเอง รีบพาไปรักษาก่อน เร็ววินส์ฟาลเอ่ยอย่างรีบร้อน และเธอได้เพียงหวังว่ามันจะยังไม่สายเกินไป

    _____________________

     

    มนุษย์หมาป่าสีเงินกวัดแกว่งดาบเข้าต่อสู้...

    หญิงอันเป็นที่รักถูกผลักลงเหว....

    และดาบสีดำพุ่งเข้าปลิดชีพ...

    เฮือก

    มันเป็นเพียงแค่ความฝันของชายหนุ่ม ชาเร็ต วูล์ฟกัง นอนอยู่บนเตียงที่ทำจากฟางในห้องสี่เหลี่ยมแคบๆซึ่งทำด้วยไม้ เขายันตัวลุกขึ้นมาและเอามือกุมขมับ ตัวของเขาเองไม่เข้าถึงสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืน ต้องเรียกว่า เขาจำอะไรไม่ได้เลยต่างหาก ราวกับว่าความทรงจำหายไปชั่วขณะหนึ่ง

    เขาตะโกนเพื่อให้เสตียร์ปล่อยเลสเตอร์....

    จู่แสงก็วาบขึ้น แล้วสิ่งที่เขาเห็นก่อนจะสลบไปก็คือ เสตียร์หายไปแล้ว....

    ประตูห้องถูกเปิดผางออกด้วยการถีบเบาๆ ทำเอาชาเร็ตสะดุ้ง ก่อนจะพบว่ารีเฟลคในชุดเสื้อแขนสั้นและกางเกงขาสั้นสีฟ้าอ่อนเดินถือกระบะน้ำและผ้าเช็ดตัวเข้ามา

    อ้าว ตื่นแล้วนิพี่ชายเด็กหนุ่มเอ่ยกับเขาด้วยท่าทีออกทึ่งนิดๆ

    ที่นี่.....

    เมืองสตาร์ฟอลรีเฟลคเอ่ยตอบทันที เพราะรู้อยู่แล้วว่าจะถามอะไร อยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของร็อควิลล์น่ะ เดินทางจากที่นั่นสามวันก็ถึง

    นี่ฉันหลับไปสามวันเชียวเหรอชายผู้มีตาสีส้มถึงกับตกใจกับอาการบาดเจ็บของเขา

    ถ้าพูดให้ถูกก็……5 วันรีเฟลคพูดด้วยท่าทางไม่ค่อยแน่ใจว่าใช่ แต่แค่นั้นก็ทำให้ชาเร็ตงงเป็นไก่ตาแตก

    “ 5 วัน!?” เป็นคำอุทานที่หลุดออกมาจากปากเขาทันทีที่ได้รับคำตอบ

     

    ว่าแต่ เลสเตอร์อยู่ที่ไหนกันชาเร็ตถามต่ออีกครั้งแต่คราวนี้คนตอบได้แต่นิ่งเงียบแล้วเปลี่ยนเรื่อง

    เอาล่ะ ไหนๆก็หายแล้ว แต่งตัวแล้วลงไปสูดอากาศข้างนอกหน่อยเป็นไรไปไม่พูดปล่าว รีเฟลคโยนชุดผ้าฝ้ายแบบเดียวกับที่เขาใส่ให้ รูปแบบและลวดลายของมันไม่ต่างจากที่รีเฟลคสวมเองมากนัก เพียงแค่เป็นเสื้อแขนสั้นสีม่วงอ่อนๆ กับกางเกงขายาวสีน้ำตาลแทน ยังไม่ทันที่ชายหนุ่มจะถามต่อ เขาก็ปิดประตูแล้วเดินออกไป

    สังหรณ์อันแม่นยำในจิตใจของหนุ่มผมดำ ทำให้รู้สึกว่ามีอะไรเกิดขึ้นกับเลสเตอร์แน่ๆ เขาก็ได้แต่ภาวนาจะไม่เป็นจริงดังที่เขาคิดเท่านั้น แม้ว่าจะรู้คำตอบจากสีหน้าของเด็กหนุ่มแล้วก็ตาม


    โอ้โห เข้ากันจริงๆแฮะ เท่สุดๆรีเฟลคถึงกับออกปากชมชาเร็ตทันทีที่เขาเดินลงบันไดจากห้องนอนชั้นสอง ความจริงแล้วหากคนชมเป็นผู้หญิงก็คงจะรู้สึกดีกว่านี้ แต่นี่มันผู้ชายนะนั่น

    แล้วจาเคียกับ....เอ่อ...อีกคนล่ะชาเร็ตเองถามถึงสาวน้อยจิ้งจอก และอลิเซียซึ่งเขาเองจำชื่อไม่ได้

    โห สงสัยยัยนั่นจะได้แฟนเป็นมนุษย์จริงๆแฮะ ถามถึงทันทีเลยวุ้ยเด็กหนุ่มผมกระเซิงพูดหยอกล้อ ทำเอาชาเร็ตหน้าแดงปี๊ด ก่อนที่ประตูบ้านจะเปิดผางออก ผู้ที่อยู่หน้าบ้านคือเด็กสาวที่มีผมทรงหนูแทะสีส้มและมีหูกับหางจิ้งจอกสีน้ำตาล รีเฟลคเองแค่เห็นหน้าเธอตอนนี้ ก็ซีดเป็นไก่ต้ม ซึ่งเรื่องจะลงเอยอย่างไรนั้นก็คงไม่ต้องบอก

    แกบอกว่าชั้นเป็นแฟนเจ้าหมอนี่เหรอ วันนี้ชั้นจะเอาแกให้ตายยยยยยยยจาเคียหักข้อนิ้วดังเป๊าะๆแบบเดียวกันกับที่ทำที่ร็อควิลล์ด้วยสีหน้าโมโหสุดขีด

    อะ จะแว้กกกกกกกกกก ล้อเล่นว้อย ล้อเล่น ชั้นเป็นพี่เธอตั้งปีนึงนะ อย่าทำอย่างนี้ แว้กกกกกคราวนี้รีเฟลคไม่ต้องหนีอีกแล้วเพราะว่าคุณเธอเล่นกระโจนมาแบบไม่ต้องทันตั้งตัว ชายหนุ่มเองก็ไม่รู้ว่าจะห้ามยังไง

    ตีกันอยู่พักใหญ่ อลิเซียซึ่งเดินออกมาจากห้องอีกห้องในชุดกันเปื้อน พอเห็นเท่านั้นแหละคุณเธอก็ร่ายเขตอาคมจับทั้งสองแยกกันทันที

    นี่ โตแล้วนะ ทั้งคู่! หยุดซักทีได้มั้ย!เธอเอ่ยเสียงกร้าว แม้เสียงของเธอจะไพเราะในยามปกติ แต่คราวนี้ฟังดูน่ากลัวจนจาเคียกับรีเฟลคสะดุ้งเฮือก อยู่ต่อหน้าแขก จะทำอะไรให้มันรู้บ้าง

    เอ่อ....คือ...ชาเร็ตเอ่ยอย่างเก้ๆกัง แต่ยังไม่ทันจะพูดอะไรก็โดนแหวซะแล้ว

    เธอเองก็เหมือนกัน ใช้เวทอาคมเป็นก็ช่วยจับแยกให้บ้างไม่ได้รึไง ต้องให้ชั้นมาห้ามพวกนี้เนี่ย

    อ่าว กลายเป็นว่าเขาผิดซะงั้น

    สาวเจ้าไม่พูดอะไรอีก เธอคลายเขตอาคม ก่อนจะเดินเข้าไปในห้อง แล้วปิดประตูดังปัง ชาเร็ตเห็นภายในแวบหนึ่ง ถึงได้รู้ว่าเป็นห้องครัวนี่เอง

    เอาเถอะมันคงจะไม่แย่เท่าไหร่หรอกนะ

     

    ดูเหมือนว่านายจะไม่เป็นไรแล้วนี่จาเคียเอ่ยกับชายหนุ่มตาสีส้มที่กำลังอึ้งกับคำพูดของอลิเซียเมื่อตะกี้นี้ ทำให้สติพุ่งพรวดกลับมาอีกครั้งหนึ่ง

    อ่าฮะ ดูเหมือนจะไม่เป็นไรแล้วเขาเอ่ยตอบแล้วหมุนแขนเป็นวงกลมเป็นเชิงพิสูจน์ น่าแปลกที่อาการบาดเจ็บภายในของเขาหายไปจนแทบไม่เหมือนอะไรเกิดขึ้น ที่สำคัญยังเหมือนกับว่าร่างกายจะเบาขึ้นด้วย ว่าแต่นอกจากเธอแล้วอีกสองคนนี่ ใครอะ

    อ่อ ผมยังไม่ได้บอกชื่อสินะเด็กหนุ่มเอ่ยขึ้น พลางขยี้หัวตัวเอง แก้มแดงช้ำเนื่องจากโดนจาเคียหยิกเอา

    ผมชื่อ รีเฟลค คาโอจิ แล้วพี่ผู้หญิงคนตะกี้ชื่อ อลิเซีย โรเซนไพล์เขาพูดเสร็จก็เพยิดหน้าไปทางห้องครัวให้รู้ว่าอยู่ในนั้นส่วนจาเคียพี่ชายคงรู้จักแล้ว

    ชั้น ชาเร็ต วูล์ฟกังชาเร็ตตอบพร้อมด้วยสีหน้ายิ้มเจื่อนๆ ยินดีที่ได้รู้จัก

    ไปเดินเล่นกันก่อนเหอะ กว่าพี่อลิเซียจะทำอาหารเสร็จอีกนานรีเฟลคจูงทุกคนออกไปสูดอากาศข้างนอก แต่ชายหนุ่มไม่เคลื่อนที่ตามก่อนจะยิงคำถามหนึ่งออกจากปาก

    “.....ตกลงเกิดอะไรขึ้นกับเลสเตอร์

    มันเป็นความเงียบที่ยาวนานหลายนาที

    บอกมาเถอะ ชั้นอยากรู้...ชายหนุ่มเอ่ยอีกครั้งหนึ่ง แม้ว่าภายในใจจะไม่ได้เป็นอย่างที่พูด

    “...ฟังให้ดีนะ...จาเคียพูดขึ้นช้าๆ ราวกับว่าต้องการให้เวลาทำใจชั้นจะพูดครั้งเดียว

    หมอนั่นตายแล้ว......คำตอบหลุดออกจากปากเด็กสาว

    ชาเร็ตนิ่งอึ้งไป แทบจะเรียกว่าเกือบจะสลบไปอีกครั้งหนึ่ง ความคิดในสมองตีกันยุ่งเหยิง

    ไม่จริงน่ะ...เขาพูดเพื่อย้ำอีกครั้ง เผื่อว่าจาเคียจะล้อเขาเล่น

    หมอนั่นไม่หายใจอีกแล้วตอนที่ชั้นดู

    ความหวังสุดท้ายพังทลาย

    “....ชั้นขออยู่คนเดียวชายหนุ่มเอ่ยด้วยสีหน้าที่อธิบายไม่ได้ เขาเปิดประตูวิ่งออกไป จาเคียหันกลับเพื่อจะวิ่งตามแต่รีเฟลครั้งแขนเธอไว้และส่ายหน้าช้าๆ เป็นเชิงห้าม

    เธอได้เพียงแต่มองตามหลังของชายหนุ่มไป

    _________________

    ชายหนุ่มผมสีดำผู้มีตาสีส้ม เดินอย่างเหม่อลอยท่ามกลางผู้คนครึ่งสัต.ว์ในเมืองมากมาย

    บ้านหลายๆหลังในสตาร์ฟอลล้วนแต่เป็นบ้านตามธรรมชาติ บางหลังก็สร้างขึ้นภายในต้นไม้ใหญ่ บางหลังก็อยู่ในถ้ำหินเล็กๆซึ่งมีอยู่ตามธรรมชาติ แต่ก็มีบางส่วนที่เป็นบ้านแท้ๆเช่นเดียวกับหลังที่จาเคียและรีเฟลคอยู่

    ถนนหนทางนั้นไม่ได้ถูกปูด้วยอิฐหรือกระเบื้อง แต่เป็นเพียงดินลานที่สีตัดกับขอบหญ้าริมทางเท่านั้น

    ชาเร็ตเดินอย่างเลื่อนลอยไปเรื่อยๆอย่างไร้จุดหมาย ก่อนที่เขาจะเดินมาถึงลานใหญ่ที่มีน้ำพุอยู่ตรงกลาง

    น้ำพุนี้คงเป็นอีกสิ่งที่ไม่ได้เกิดขึ้นตามธรรมชาติ โดยรอบน้ำพุมีเก้าอี้ที่ทำง่ายๆโดยการเอาหินมาเรียงกัน นอกจากนี้ ก็มีร้านค้าต่างๆตั้งล้อมเป็นวงกลมอยู่มากมาย แต่เนื่องจากว่าเย็นมากแล้วจึงทำให้ร้านต่างๆปิด และทำให้ที่นี่ไร้ซึ่งผู้คน

    ชายหนุ่มเดินจนเหนื่อยแล้วจึงนั่งพักลงบนก้อนหินที่เรียงไว้เป็นเก้าอี้ก้อนหนึ่ง พลางมองไปรอบๆอย่างไร้จุดหมาย

    ...ถ้ากลับไปฉันขอต่อยหน้านายพลซักทีได้ไหมเนี่ย...

    (ได้เลย ถ้านายต้องการ) ชายหนุ่มหลับตาลงเมื่อเสียงในอดีตผุดขึ้นมา

    ...นายยิ้มอะไรของนาย...

    (ฉันยิ้มที่นายยังอยู่กับฉันละมั้ง) เสียงของเลสเตอร์ยังผุดขึ้นมาเรื่อยๆ

    ...เออ สังหรณ์แกมันแม่นจริง...

    (ถ้าแม่นมากขนาดนั้นละก็นายก็คงไม่ตายหรอกจริงไหม) เขาตอบแม้จะรู้ว่าเจ้าตัวไม่อยู่แล้วก็ตาม

    ชั้นขอโทษ....ที่ช่วยนายไม่ได้ชาเร็ตเอ่ยพึมพำ ดวงตาสีส้มมีน้ำใสๆเอ่อล้น แต่มันไม่มากพอจะไหลลงมาตามใบหน้าเนื่องจากเขากลั้นมันเสีย

    แสงอาทิตย์ยามเย็นค่อยๆลดหายไปราวกับไว้อาลัย ให้กับความเศร้าของชายหนุ่ม


    _____________________

    อาหารมากมายถูกจัดวางอย่างเรียบร้อยบนโต๊ะสี่เหลี่ยมที่ทำด้วยไม้โอ้กสีน้ำตาลเข้ม อาหารพวกนี้เป็นผลงานของอลิเซียซึ่งฝีมือระดับเชฟภัตตาคารเลยทีเดียว

    แต่แม้ว่าอาหารจะอร่อยแค่ไหน ทว่ามันกลับไม่ได้ถูกแตะต้องเลยแม้แต่น้อย แม้ว่าจาเคีย รีเฟลคและอลิเซียจะนั่งกันเรียบร้อยแล้วก็ตาม แต่เก้าอี้ตัวหนึ่งยังคงว่างอยู่

    หมอนั่นหายไปนานมากเลยนะจาเคียเอ่ยขึ้น ถึงเธอจะไม่ชอบเขาแค่ไหน แต่ว่าการที่จู่ๆคนก็หายไปนานๆแบบนี้มันก็ทำให้เธอเป็นห่วงได้เหมือนกัน

    ทำไมต้องมานั่งรอพี่ชาเร็ตด้วยรีเฟลคบ่นด้วยความรู้สึกไม่ค่อยพอใจเรากินไปก่อนแล้วเก็บไว้ให้ก็ได้นี่ซึ่งนั่นทำให้อลิเซียอ้าปากจะตักเตือนเด็กหนุ่ม แต่ว่าเธอยังไม่ทันจะพูดอะไร เด็กสาวเองก็พูดขัดขึ้นมาซะก่อน

    ถ้าเขาไม่ช่วยเราเพื่อนเขาจะตายแล้วเขาจะเป็นอย่างงี้เหรอ ยังไงก็รอเขาหน่อยน่าคำพูดของจาเคียทำให้รีเฟลคเงียบลง ตัวเขาเองก็เข้าใจถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเหมือนกัน

    “.....งั้นชั้นไปตามให้ก็ได้เด็กสาวพูดขึ้นอย่างกระทันหัน แล้วเดินออกจากบ้านไป

    ทำไมจาเคียถึงเป็นแบบนั้นน่ะรีเฟลคเอ่ยอย่างไม่เข้าใจแต่ก็ได้คำตอบจากอลิเซีย

    เพราะเขาอาจจะคล้ายกันกับตัวเธอเองก็ได้

    เด็กสาวเดินไปตามถนนดินลาน แม้ว่าตอนนี้จะเป็นเวลากลางคืนแล้ว แต่แสงสว่างก็ไม่ได้หมดไปเนื่องจากแสงของหิ่งห้อยบินออกจับคู่ในยามกลางคืนตามธรรมชาติ แสงสีเขียวอ่อนดูสวยสะดุดตา แต่เด็กสาวเองเคยเห็นจนชินตาจึงไม่ได้สนใจ เธอเดินไปเรื่อยๆ จนในที่สุดก็พบเขา

    ขาเร็ตนั่งอยู่ตรงกลางแท่นน้ำพุซึ่งหยุดพุ่งไปแล้ว เขามองดวงดาวบนฟ้าสีน้ำเงินเข้มอย่างเหม่อลอยและไม่ใส่ใจสิ่งรอบข้าง สีหน้าที่ไร้อารมณ์ทำให้เห็นว่าเขาช็อคแค่ไหนกับเรื่องที่เกิดขึ้น

    เด็กสาวเห็นดังนั้นก็ไม่ได้พูดอะไร เธอเพียงแต่เดินเข้าไปใกล้ๆ แล้วปีนขึ้นไปนั่งข้างบนกับเขาด้วย ซึ่งก็ทำให้ชายหนุ่มหันมามอง

    “.....มีอะไรหรือเปล่า...ชาเร็ตถามเธอ เขาไม่คิดว่าจาเคียจะมานั่งข้างเขาใกล้ๆอย่างงี้ เพราะที่ผ่านมาเธอดูเหมือนว่าจะไม่ญาติดีกับเขาเสียเลย แต่ถึงจะมีสาวสวยน่ารักมานั่งข้างๆ มันก็ไม่ได้ช่วยให้เขารู้สึกดีขึ้น เพราะจิตสำนึกภายในยังคอยย้ำว่าเขาทำให้เพื่อนต้องตาย

    เปล่า ก็แค่มาดูดาวเด็กสาวตอบพลางนั่งกอดเข่าอยู่ข้างๆ หางสีน้ำตาลสะบัดขึ้นลงเบาๆ แต่ดูเหมือนว่าเธอเองไม่ได้คิดจะมาดูแค่ดาวอย่างที่พูด เพราะตัวเธอเองก็ไม่ต่างกัน

    ชายหนุ่มเอนตัวลงนอนกับแท่น ต่างคนต่างมีเรื่องคิดอยู่ในใจ ทำให้ทั้งสองไม่ได้พูดอะไรกันเลย แต่มันก็ทำให้บรรยากาศหดหู่ของเขาดีขึ้นและกลายเป็นความสงบ

    และแล้วความเงียบก็ถูกทำลายลงเมื่อสาวน้อยจิ้งจอกพูดขึ้น

    “....นายน่ะไม่ต่างจากชั้นหรอกนะคำพูดนี้เบนความสนใจของชาเร็ตทำให้เขาหันมามองเธออีกครั้ง แต่จาเคียเองไม่ได้หันมามอง สายตาคู่คมสีน้ำตาลกลับจ้องมองเหล่าดาราบนท้องฟ้า

    ชั้นก็มีเพื่อนคนหนึ่ง สนิทกันแบบนายกับเขานี่แหละเธอเอ่ยต่อ ชายหนุ่มก็ฟังอย่างตั้งใจ ราวกับว่ามันจะช่วยเบนเขาออกจากความเศร้าโศกได้บ้าง

    เธอชื่อว่าเฟร่า เป็นจิ้งจอกแบบชั้น ยัยนั่นน่ะ ทั้งกวนประสาท ทั้งไม่เรียบร้อย แถมยังชอบแกล้งชั้นอยู่บ่อยๆ ทำให้โมโหจนตีกันทุกทีแววตาของจาเคียแฝงความเศร้าเอาไว้ระหว่างที่พูดแต่เราก็เป็นเพื่อนรักที่ตายแทนกันได้

    ไม่รู้ทำไมน้ำเสียงที่กะโตกกะตากของเธอถึงกลายเป็นเสียงไพเราะของเด็กสาวอายุสิบหกไปเสียได้

    แล้วตอนนี้เธอไปไหนแล้วชาเร็ตถามในขณะที่ใช้แขนยันตัวขึ้น ในใจพอจะรู้คำตอบอยู่แล้ว เพียงแค่ถามเพื่อให้แน่ใจเท่านั้น

    ไม่อยู่แล้วล่ะคำตอบเรียบได้ใจความ แต่ดวงตาคู่นั้นกลับยิ่งฉายแววหดหู่มากกว่าเดิม ซึ่งเขาเองไม่ได้ตกใจมากนัก เพราะว่าเท่าที่ฟังก็พอเดาออก

    ตอนนั้นชั้นยังแปลงร่างไม่ได้เลย เราถูกมอนสเตอร์ตัวนึงบุกเข้าจู่โจมระหว่างที่เล่นกันอยู่ในป่า ถ้าตอนนั้นชั้นแปลงร่างได้ละก็คงจะพาเฟร่าหนีมารอดมาได้อยู่แล้วจาเคียพูดพลางหลบหน้า ดูเหมือนว่าตาของเธอจะเริ่มมีน้ำไหลรินออกมาเล็กน้อย แต่เธอก็ปาดมันทิ้งไป

    งั้นเหรอ.....ชายหนุ่มตอบรับเบาๆ ในใจเขาจะอยากให้เธอหยุดพูดซะ เพื่อว่าเธอจะได้กลับไปสดใสเหมือนเดิมแต่อีกใจหนึ่ง กลับปล่อยให้เธอพูดต่อ

    ชั้นเองตอนแรกก็เศร้าแบบเดียวกับนาย เอาแต่โทษตัวเองจาเคียพูดต่อ หลังจากปาดน้ำตาเสร็จแต่ว่าการเอาแต่เศร้ามันไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้นหรอกนะ เลสเตอร์จะไม่ฟื้นขึ้นถึงแม้นายจะฆ่าตัวตายก็ตาม

    คำพูดที่ออกจากปากเด็กสาวทำให้ชายหนุ่มเองชะงัก ไม่ใช่แค่คำพูด แต่แววตาที่ฉายแววมุ่งมั่นของเธอก็เช่นกัน ซึ่งเขาเองก็ไม่ได้พูดตอบ เพียงแต่ก้มหน้าหลบตา

    เอาเถอะ ถ้านายไม่ฟังล่ะก็ จะนั่งต่อไปก็ได้ ชั้นจะได้ไปบอกพี่อลิเซียว่านายไม่กินข้าวเธอพูดพลางลุกขึ้นก่อนจะกระโดดลงมาจากแท่นน้ำพุ ชายหนุ่มเงียบอยู่พักหนึ่ง ท่ามกลางจิตใจที่สับสน เขามองเด็กสาวเดินห่างออกไปแล้วตัดสินใจตะโกนเรียกในที่สุด

    เดี๋ยวสิ

    จาเคียหันกลับมามองเขา ราวกับว่าเธอรอให้เขาเรียกอยู่แล้ว

    ถ้าเธอไม่นำทางแล้วชั้นจะกลับไปยังไงล่ะ

    รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนหน้าของทั้งสองก่อนที่ชาเร็ตจะลุกขึ้นจากนั้นก็กระโดดลงมา แล้ววิ่งไปเดินข้างจาเคีย

    ชายหนุ่มแอบมองหน้าเธอระหว่างที่เดินคู่กันราวกับว่าอยากจะพูดอะไรซักอย่าง

    (ขอบใจนะ)

    แต่เขาก็ไม่ได้พูดออกไป เพียงแค่เก็บมันเอาไว้ในใจเท่านั้น

    _____________________

     

    มนุษย์หมาป่าสีเงินกวัดแกว่งดาบเข้าต่อสู้...

    หญิงอันเป็นที่รักถูกผลักลงเหว....

    และดาบสีดำพุ่งเข้าปลิดชีพ...

    เฮือก

    มันเป็นเพียงแค่ความฝันของชายหนุ่ม ชาเร็ต วูล์ฟกัง นอนอยู่บนเตียงที่ทำจากฟางในห้องสี่เหลี่ยมแคบๆซึ่งทำด้วยไม้ เขายันตัวลุกขึ้นมาและเอามือกุมขมับ ตัวของเขาเองไม่เข้าถึงสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืน ต้องเรียกว่า เขาจำอะไรไม่ได้เลยต่างหาก ราวกับว่าความทรงจำหายไปชั่วขณะหนึ่ง

    เขาตะโกนเพื่อให้เสตียร์ปล่อยเลสเตอร์....

    จู่แสงก็วาบขึ้น แล้วสิ่งที่เขาเห็นก่อนจะสลบไปก็คือ เสตียร์หายไปแล้ว....

    ประตูห้องถูกเปิดผางออกด้วยการถีบเบาๆ ทำเอาชาเร็ตสะดุ้ง ก่อนจะพบว่ารีเฟลคในชุดเสื้อแขนสั้นและกางเกงขาสั้นสีฟ้าอ่อนเดินถือกระบะน้ำและผ้าเช็ดตัวเข้ามา

    อ้าว ตื่นแล้วนิพี่ชายเด็กหนุ่มเอ่ยกับเขาด้วยท่าทีออกทึ่งนิดๆ

    ที่นี่.....

    เมืองสตาร์ฟอลรีเฟลคเอ่ยตอบทันที เพราะรู้อยู่แล้วว่าจะถามอะไร อยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของร็อควิลล์น่ะ เดินทางจากที่นั่นสามวันก็ถึง

    นี่ฉันหลับไปสามวันเชียวเหรอชายผู้มีตาสีส้มถึงกับตกใจกับอาการบาดเจ็บของเขา

    ถ้าพูดให้ถูกก็……5 วันรีเฟลคพูดด้วยท่าทางไม่ค่อยแน่ใจว่าใช่ แต่แค่นั้นก็ทำให้ชาเร็ตงงเป็นไก่ตาแตก

    “ 5 วัน!?” เป็นคำอุทานที่หลุดออกมาจากปากเขาทันทีที่ได้รับคำตอบ

     

    ว่าแต่ เลสเตอร์อยู่ที่ไหนกันชาเร็ตถามต่ออีกครั้งแต่คราวนี้คนตอบได้แต่นิ่งเงียบแล้วเปลี่ยนเรื่อง

    เอาล่ะ ไหนๆก็หายแล้ว แต่งตัวแล้วลงไปสูดอากาศข้างนอกหน่อยเป็นไรไปไม่พูดปล่าว รีเฟลคโยนชุดผ้าฝ้ายแบบเดียวกับที่เขาใส่ให้ รูปแบบและลวดลายของมันไม่ต่างจากที่รีเฟลคสวมเองมากนัก เพียงแค่เป็นเสื้อแขนสั้นสีม่วงอ่อนๆ กับกางเกงขายาวสีน้ำตาลแทน ยังไม่ทันที่ชายหนุ่มจะถามต่อ เขาก็ปิดประตูแล้วเดินออกไป

    สังหรณ์อันแม่นยำในจิตใจของหนุ่มผมดำ ทำให้รู้สึกว่ามีอะไรเกิดขึ้นกับเลสเตอร์แน่ๆ เขาก็ได้แต่ภาวนาจะไม่เป็นจริงดังที่เขาคิดเท่านั้น แม้ว่าจะรู้คำตอบจากสีหน้าของเด็กหนุ่มแล้วก็ตาม


    โอ้โห เข้ากันจริงๆแฮะ เท่สุดๆรีเฟลคถึงกับออกปากชมชาเร็ตทันทีที่เขาเดินลงบันไดจากห้องนอนชั้นสอง ความจริงแล้วหากคนชมเป็นผู้หญิงก็คงจะรู้สึกดีกว่านี้ แต่นี่มันผู้ชายนะนั่น

    แล้วจาเคียกับ....เอ่อ...อีกคนล่ะชาเร็ตเองถามถึงสาวน้อยจิ้งจอก และอลิเซียซึ่งเขาเองจำชื่อไม่ได้

    โห สงสัยยัยนั่นจะได้แฟนเป็นมนุษย์จริงๆแฮะ ถามถึงทันทีเลยวุ้ยเด็กหนุ่มผมกระเซิงพูดหยอกล้อ ทำเอาชาเร็ตหน้าแดงปี๊ด ก่อนที่ประตูบ้านจะเปิดผางออก ผู้ที่อยู่หน้าบ้านคือเด็กสาวที่มีผมทรงหนูแทะสีส้มและมีหูกับหางจิ้งจอกสีน้ำตาล รีเฟลคเองแค่เห็นหน้าเธอตอนนี้ ก็ซีดเป็นไก่ต้ม ซึ่งเรื่องจะลงเอยอย่างไรนั้นก็คงไม่ต้องบอก

    แกบอกว่าชั้นเป็นแฟนเจ้าหมอนี่เหรอ วันนี้ชั้นจะเอาแกให้ตายยยยยยยยจาเคียหักข้อนิ้วดังเป๊าะๆแบบเดียวกันกับที่ทำที่ร็อควิลล์ด้วยสีหน้าโมโหสุดขีด

    อะ จะแว้กกกกกกกกกก ล้อเล่นว้อย ล้อเล่น ชั้นเป็นพี่เธอตั้งปีนึงนะ อย่าทำอย่างนี้ แว้กกกกกคราวนี้รีเฟลคไม่ต้องหนีอีกแล้วเพราะว่าคุณเธอเล่นกระโจนมาแบบไม่ต้องทันตั้งตัว ชายหนุ่มเองก็ไม่รู้ว่าจะห้ามยังไง

    ตีกันอยู่พักใหญ่ อลิเซียซึ่งเดินออกมาจากห้องอีกห้องในชุดกันเปื้อน พอเห็นเท่านั้นแหละคุณเธอก็ร่ายเขตอาคมจับทั้งสองแยกกันทันที

    นี่ โตแล้วนะ ทั้งคู่! หยุดซักทีได้มั้ย!เธอเอ่ยเสียงกร้าว แม้เสียงของเธอจะไพเราะในยามปกติ แต่คราวนี้ฟังดูน่ากลัวจนจาเคียกับรีเฟลคสะดุ้งเฮือก อยู่ต่อหน้าแขก จะทำอะไรให้มันรู้บ้าง

    เอ่อ....คือ...ชาเร็ตเอ่ยอย่างเก้ๆกัง แต่ยังไม่ทันจะพูดอะไรก็โดนแหวซะแล้ว

    เธอเองก็เหมือนกัน ใช้เวทอาคมเป็นก็ช่วยจับแยกให้บ้างไม่ได้รึไง ต้องให้ชั้นมาห้ามพวกนี้เนี่ย

    อ่าว กลายเป็นว่าเขาผิดซะงั้น

    สาวเจ้าไม่พูดอะไรอีก เธอคลายเขตอาคม ก่อนจะเดินเข้าไปในห้อง แล้วปิดประตูดังปัง ชาเร็ตเห็นภายในแวบหนึ่ง ถึงได้รู้ว่าเป็นห้องครัวนี่เอง

    เอาเถอะมันคงจะไม่แย่เท่าไหร่หรอกนะ

     

    ดูเหมือนว่านายจะไม่เป็นไรแล้วนี่จาเคียเอ่ยกับชายหนุ่มตาสีส้มที่กำลังอึ้งกับคำพูดของอลิเซียเมื่อตะกี้นี้ ทำให้สติพุ่งพรวดกลับมาอีกครั้งหนึ่ง

    อ่าฮะ ดูเหมือนจะไม่เป็นไรแล้วเขาเอ่ยตอบแล้วหมุนแขนเป็นวงกลมเป็นเชิงพิสูจน์ น่าแปลกที่อาการบาดเจ็บภายในของเขาหายไปจนแทบไม่เหมือนอะไรเกิดขึ้น ที่สำคัญยังเหมือนกับว่าร่างกายจะเบาขึ้นด้วย ว่าแต่นอกจากเธอแล้วอีกสองคนนี่ ใครอะ

    อ่อ ผมยังไม่ได้บอกชื่อสินะเด็กหนุ่มเอ่ยขึ้น พลางขยี้หัวตัวเอง แก้มแดงช้ำเนื่องจากโดนจาเคียหยิกเอา

    ผมชื่อ รีเฟลค คาโอจิ แล้วพี่ผู้หญิงคนตะกี้ชื่อ อลิเซีย โรเซนไพล์เขาพูดเสร็จก็เพยิดหน้าไปทางห้องครัวให้รู้ว่าอยู่ในนั้นส่วนจาเคียพี่ชายคงรู้จักแล้ว

    ชั้น ชาเร็ต วูล์ฟกังชาเร็ตตอบพร้อมด้วยสีหน้ายิ้มเจื่อนๆ ยินดีที่ได้รู้จัก

    ไปเดินเล่นกันก่อนเหอะ กว่าพี่อลิเซียจะทำอาหารเสร็จอีกนานรีเฟลคจูงทุกคนออกไปสูดอากาศข้างนอก แต่ชายหนุ่มไม่เคลื่อนที่ตามก่อนจะยิงคำถามหนึ่งออกจากปาก

    “.....ตกลงเกิดอะไรขึ้นกับเลสเตอร์

    มันเป็นความเงียบที่ยาวนานหลายนาที

    บอกมาเถอะ ชั้นอยากรู้...ชายหนุ่มเอ่ยอีกครั้งหนึ่ง แม้ว่าภายในใจจะไม่ได้เป็นอย่างที่พูด

    “...ฟังให้ดีนะ...จาเคียพูดขึ้นช้าๆ ราวกับว่าต้องการให้เวลาทำใจชั้นจะพูดครั้งเดียว

    หมอนั่นตายแล้ว......คำตอบหลุดออกจากปากเด็กสาว

    ชาเร็ตนิ่งอึ้งไป แทบจะเรียกว่าเกือบจะสลบไปอีกครั้งหนึ่ง ความคิดในสมองตีกันยุ่งเหยิง

    ไม่จริงน่ะ...เขาพูดเพื่อย้ำอีกครั้ง เผื่อว่าจาเคียจะล้อเขาเล่น

    หมอนั่นไม่หายใจอีกแล้วตอนที่ชั้นดู

    ความหวังสุดท้ายพังทลาย

    “....ชั้นขออยู่คนเดียวชายหนุ่มเอ่ยด้วยสีหน้าที่อธิบายไม่ได้ เขาเปิดประตูวิ่งออกไป จาเคียหันกลับเพื่อจะวิ่งตามแต่รีเฟลครั้งแขนเธอไว้และส่ายหน้าช้าๆ เป็นเชิงห้าม

    เธอได้เพียงแต่มองตามหลังของชายหนุ่มไป

    _________________

    ชายหนุ่มผมสีดำผู้มีตาสีส้ม เดินอย่างเหม่อลอยท่ามกลางผู้คนครึ่งสัต.ว์ในเมืองมากมาย

    บ้านหลายๆหลังในสตาร์ฟอลล้วนแต่เป็นบ้านตามธรรมชาติ บางหลังก็สร้างขึ้นภายในต้นไม้ใหญ่ บางหลังก็อยู่ในถ้ำหินเล็กๆซึ่งมีอยู่ตามธรรมชาติ แต่ก็มีบางส่วนที่เป็นบ้านแท้ๆเช่นเดียวกับหลังที่จาเคียและรีเฟลคอยู่

    ถนนหนทางนั้นไม่ได้ถูกปูด้วยอิฐหรือกระเบื้อง แต่เป็นเพียงดินลานที่สีตัดกับขอบหญ้าริมทางเท่านั้น

    ชาเร็ตเดินอย่างเลื่อนลอยไปเรื่อยๆอย่างไร้จุดหมาย ก่อนที่เขาจะเดินมาถึงลานใหญ่ที่มีน้ำพุอยู่ตรงกลาง

    น้ำพุนี้คงเป็นอีกสิ่งที่ไม่ได้เกิดขึ้นตามธรรมชาติ โดยรอบน้ำพุมีเก้าอี้ที่ทำง่ายๆโดยการเอาหินมาเรียงกัน นอกจากนี้ ก็มีร้านค้าต่างๆตั้งล้อมเป็นวงกลมอยู่มากมาย แต่เนื่องจากว่าเย็นมากแล้วจึงทำให้ร้านต่างๆปิด และทำให้ที่นี่ไร้ซึ่งผู้คน

    ชายหนุ่มเดินจนเหนื่อยแล้วจึงนั่งพักลงบนก้อนหินที่เรียงไว้เป็นเก้าอี้ก้อนหนึ่ง พลางมองไปรอบๆอย่างไร้จุดหมาย

    ...ถ้ากลับไปฉันขอต่อยหน้านายพลซักทีได้ไหมเนี่ย...

    (ได้เลย ถ้านายต้องการ) ชายหนุ่มหลับตาลงเมื่อเสียงในอดีตผุดขึ้นมา

    ...นายยิ้มอะไรของนาย...

    (ฉันยิ้มที่นายยังอยู่กับฉันละมั้ง) เสียงของเลสเตอร์ยังผุดขึ้นมาเรื่อยๆ

    ...เออ สังหรณ์แกมันแม่นจริง...

    (ถ้าแม่นมากขนาดนั้นละก็นายก็คงไม่ตายหรอกจริงไหม) เขาตอบแม้จะรู้ว่าเจ้าตัวไม่อยู่แล้วก็ตาม

    ชั้นขอโทษ....ที่ช่วยนายไม่ได้ชาเร็ตเอ่ยพึมพำ ดวงตาสีส้มมีน้ำใสๆเอ่อล้น แต่มันไม่มากพอจะไหลลงมาตามใบหน้าเนื่องจากเขากลั้นมันเสีย

    แสงอาทิตย์ยามเย็นค่อยๆลดหายไปราวกับไว้อาลัย ให้กับความเศร้าของชายหนุ่ม


    _____________________

    อาหารมากมายถูกจัดวางอย่างเรียบร้อยบนโต๊ะสี่เหลี่ยมที่ทำด้วยไม้โอ้กสีน้ำตาลเข้ม อาหารพวกนี้เป็นผลงานของอลิเซียซึ่งฝีมือระดับเชฟภัตตาคารเลยทีเดียว

    แต่แม้ว่าอาหารจะอร่อยแค่ไหน ทว่ามันกลับไม่ได้ถูกแตะต้องเลยแม้แต่น้อย แม้ว่าจาเคีย รีเฟลคและอลิเซียจะนั่งกันเรียบร้อยแล้วก็ตาม แต่เก้าอี้ตัวหนึ่งยังคงว่างอยู่

    หมอนั่นหายไปนานมากเลยนะจาเคียเอ่ยขึ้น ถึงเธอจะไม่ชอบเขาแค่ไหน แต่ว่าการที่จู่ๆคนก็หายไปนานๆแบบนี้มันก็ทำให้เธอเป็นห่วงได้เหมือนกัน

    ทำไมต้องมานั่งรอพี่ชาเร็ตด้วยรีเฟลคบ่นด้วยความรู้สึกไม่ค่อยพอใจเรากินไปก่อนแล้วเก็บไว้ให้ก็ได้นี่ซึ่งนั่นทำให้อลิเซียอ้าปากจะตักเตือนเด็กหนุ่ม แต่ว่าเธอยังไม่ทันจะพูดอะไร เด็กสาวเองก็พูดขัดขึ้นมาซะก่อน

    ถ้าเขาไม่ช่วยเราเพื่อนเขาจะตายแล้วเขาจะเป็นอย่างงี้เหรอ ยังไงก็รอเขาหน่อยน่าคำพูดของจาเคียทำให้รีเฟลคเงียบลง ตัวเขาเองก็เข้าใจถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเหมือนกัน

    “.....งั้นชั้นไปตามให้ก็ได้เด็กสาวพูดขึ้นอย่างกระทันหัน แล้วเดินออกจากบ้านไป

    ทำไมจาเคียถึงเป็นแบบนั้นน่ะรีเฟลคเอ่ยอย่างไม่เข้าใจแต่ก็ได้คำตอบจากอลิเซีย

    เพราะเขาอาจจะคล้ายกันกับตัวเธอเองก็ได้

    เด็กสาวเดินไปตามถนนดินลาน แม้ว่าตอนนี้จะเป็นเวลากลางคืนแล้ว แต่แสงสว่างก็ไม่ได้หมดไปเนื่องจากแสงของหิ่งห้อยบินออกจับคู่ในยามกลางคืนตามธรรมชาติ แสงสีเขียวอ่อนดูสวยสะดุดตา แต่เด็กสาวเองเคยเห็นจนชินตาจึงไม่ได้สนใจ เธอเดินไปเรื่อยๆ จนในที่สุดก็พบเขา

    ขาเร็ตนั่งอยู่ตรงกลางแท่นน้ำพุซึ่งหยุดพุ่งไปแล้ว เขามองดวงดาวบนฟ้าสีน้ำเงินเข้มอย่างเหม่อลอยและไม่ใส่ใจสิ่งรอบข้าง สีหน้าที่ไร้อารมณ์ทำให้เห็นว่าเขาช็อคแค่ไหนกับเรื่องที่เกิดขึ้น

    เด็กสาวเห็นดังนั้นก็ไม่ได้พูดอะไร เธอเพียงแต่เดินเข้าไปใกล้ๆ แล้วปีนขึ้นไปนั่งข้างบนกับเขาด้วย ซึ่งก็ทำให้ชายหนุ่มหันมามอง

    “.....มีอะไรหรือเปล่า...ชาเร็ตถามเธอ เขาไม่คิดว่าจาเคียจะมานั่งข้างเขาใกล้ๆอย่างงี้ เพราะที่ผ่านมาเธอดูเหมือนว่าจะไม่ญาติดีกับเขาเสียเลย แต่ถึงจะมีสาวสวยน่ารักมานั่งข้างๆ มันก็ไม่ได้ช่วยให้เขารู้สึกดีขึ้น เพราะจิตสำนึกภายในยังคอยย้ำว่าเขาทำให้เพื่อนต้องตาย

    เปล่า ก็แค่มาดูดาวเด็กสาวตอบพลางนั่งกอดเข่าอยู่ข้างๆ หางสีน้ำตาลสะบัดขึ้นลงเบาๆ แต่ดูเหมือนว่าเธอเองไม่ได้คิดจะมาดูแค่ดาวอย่างที่พูด เพราะตัวเธอเองก็ไม่ต่างกัน

    ชายหนุ่มเอนตัวลงนอนกับแท่น ต่างคนต่างมีเรื่องคิดอยู่ในใจ ทำให้ทั้งสองไม่ได้พูดอะไรกันเลย แต่มันก็ทำให้บรรยากาศหดหู่ของเขาดีขึ้นและกลายเป็นความสงบ

    และแล้วความเงียบก็ถูกทำลายลงเมื่อสาวน้อยจิ้งจอกพูดขึ้น

    “....นายน่ะไม่ต่างจากชั้นหรอกนะคำพูดนี้เบนความสนใจของชาเร็ตทำให้เขาหันมามองเธออีกครั้ง แต่จาเคียเองไม่ได้หันมามอง สายตาคู่คมสีน้ำตาลกลับจ้องมองเหล่าดาราบนท้องฟ้า

    ชั้นก็มีเพื่อนคนหนึ่ง สนิทกันแบบนายกับเขานี่แหละเธอเอ่ยต่อ ชายหนุ่มก็ฟังอย่างตั้งใจ ราวกับว่ามันจะช่วยเบนเขาออกจากความเศร้าโศกได้บ้าง

    เธอชื่อว่าเฟร่า เป็นจิ้งจอกแบบชั้น ยัยนั่นน่ะ ทั้งกวนประสาท ทั้งไม่เรียบร้อย แถมยังชอบแกล้งชั้นอยู่บ่อยๆ ทำให้โมโหจนตีกันทุกทีแววตาของจาเคียแฝงความเศร้าเอาไว้ระหว่างที่พูดแต่เราก็เป็นเพื่อนรักที่ตายแทนกันได้

    ไม่รู้ทำไมน้ำเสียงที่กะโตกกะตากของเธอถึงกลายเป็นเสียงไพเราะของเด็กสาวอายุสิบหกไปเสียได้

    แล้วตอนนี้เธอไปไหนแล้วชาเร็ตถามในขณะที่ใช้แขนยันตัวขึ้น ในใจพอจะรู้คำตอบอยู่แล้ว เพียงแค่ถามเพื่อให้แน่ใจเท่านั้น

    ไม่อยู่แล้วล่ะคำตอบเรียบได้ใจความ แต่ดวงตาคู่นั้นกลับยิ่งฉายแววหดหู่มากกว่าเดิม ซึ่งเขาเองไม่ได้ตกใจมากนัก เพราะว่าเท่าที่ฟังก็พอเดาออก

    ตอนนั้นชั้นยังแปลงร่างไม่ได้เลย เราถูกมอนสเตอร์ตัวนึงบุกเข้าจู่โจมระหว่างที่เล่นกันอยู่ในป่า ถ้าตอนนั้นชั้นแปลงร่างได้ละก็คงจะพาเฟร่าหนีมารอดมาได้อยู่แล้วจาเคียพูดพลางหลบหน้า ดูเหมือนว่าตาของเธอจะเริ่มมีน้ำไหลรินออกมาเล็กน้อย แต่เธอก็ปาดมันทิ้งไป

    งั้นเหรอ.....ชายหนุ่มตอบรับเบาๆ ในใจเขาจะอยากให้เธอหยุดพูดซะ เพื่อว่าเธอจะได้กลับไปสดใสเหมือนเดิมแต่อีกใจหนึ่ง กลับปล่อยให้เธอพูดต่อ

    ชั้นเองตอนแรกก็เศร้าแบบเดียวกับนาย เอาแต่โทษตัวเองจาเคียพูดต่อ หลังจากปาดน้ำตาเสร็จแต่ว่าการเอาแต่เศร้ามันไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้นหรอกนะ เลสเตอร์จะไม่ฟื้นขึ้นถึงแม้นายจะฆ่าตัวตายก็ตาม

    คำพูดที่ออกจากปากเด็กสาวทำให้ชายหนุ่มเองชะงัก ไม่ใช่แค่คำพูด แต่แววตาที่ฉายแววมุ่งมั่นของเธอก็เช่นกัน ซึ่งเขาเองก็ไม่ได้พูดตอบ เพียงแต่ก้มหน้าหลบตา

    เอาเถอะ ถ้านายไม่ฟังล่ะก็ จะนั่งต่อไปก็ได้ ชั้นจะได้ไปบอกพี่อลิเซียว่านายไม่กินข้าวเธอพูดพลางลุกขึ้นก่อนจะกระโดดลงมาจากแท่นน้ำพุ ชายหนุ่มเงียบอยู่พักหนึ่ง ท่ามกลางจิตใจที่สับสน เขามองเด็กสาวเดินห่างออกไปแล้วตัดสินใจตะโกนเรียกในที่สุด

    เดี๋ยวสิ

    จาเคียหันกลับมามองเขา ราวกับว่าเธอรอให้เขาเรียกอยู่แล้ว

    ถ้าเธอไม่นำทางแล้วชั้นจะกลับไปยังไงล่ะ

    รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนหน้าของทั้งสองก่อนที่ชาเร็ตจะลุกขึ้นจากนั้นก็กระโดดลงมา แล้ววิ่งไปเดินข้างจาเคีย

    ชายหนุ่มแอบมองหน้าเธอระหว่างที่เดินคู่กันราวกับว่าอยากจะพูดอะไรซักอย่าง

    (ขอบใจนะ)

    แต่เขาก็ไม่ได้พูดออกไป เพียงแค่เก็บมันเอาไว้ในใจเท่านั้น

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×