คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : อดีตและสายลม
เปลวเพลิงลุกโหมกระหน่ำเผาผลาญกระท่อมที่ทำจากไม้ แสงสีแดงของมันส่องแสงรับกับดวงอาทิตย์ซึ่งคล้อยต่ำลองในยามอัสดง สายฝนตกลงมายังพื้นเบื้องล่างราวกับหวังว่าจะดับไฟร้อนลงได้ แม้ว่าจะเพียงแค่ทำให้มันไหววูบเมื่อต้องกับหยดน้ำจากฟ้า
ทุกอย่าง...เริ่มต้นจากที่นี่...
Page1 - Calm wind of the wood
แคร้ง!
ดาบใหญ่สองเล่ม สีดำและขาวฟาดฟันตอบโต้กันอย่างรวดเร็ว เสียงโลหะกระทบกันดังก้องไปทั่วบริเวณโดยรอบ ร่างของมนุษย์หมาป่าสองร่าง ต่อสู้กันท่ามกลางฝนที่กระหน่ำลงมาไม่หยุดหย่อน ร่างสีเดียวกับดาบในมือ เปียกชุ่มด้วยหยาดเหงื่อและหยดน้ำจากฟากฟ้า
ใกล้ๆกัน หญิงคนหนึ่งยืนดูการต่อสู้นี้อยู่ห่างๆ พลางกระชับเด็กทารกในอ้อมแขนไว้แน่น ข้างหลังของเธอเป็นหน้าผาสูงชันซึ่งมีแม่น้ำอยู่ด้านล่าง กระแสน้ำไหลแรงเนื่องจาก
_____________________
"ชาเร็ต! ชาเร็ต! "
เสียงเรียกปลุกให้เด็กหนุ่มกลับสู่ความเป็นจริง ถึงแม้ว่าเขาจะหลับอยู่ใต้เงาร่มไม้ของสวนสาธารณะ แต่มันก็ร้อนจนเหงื่อที่ไหลย้อยเนื่องจากอากาศยามบ่ายทำให้ผมสีเทาเข้มของเขาลู่ลงเนื่องจากน้ำหนัก
"อือ รู้แล้วน่า" ชาเร็ตตอบผู้เรียกอย่างไม่ค่อยใส่ใจ ดวงตาสีส้มกระพริบเพื่อปรับให้เข้ากับแสงแดดจ้า
ภาพเขาที่เห็น ก็คือหนุ่มผมขาวในเสื้อคลุมฮู้ดสีน้ำตาล
เด็กหนุ่มผมขาวพูดขึ้น สีหน้าเรียบๆ "มีงานใหม่มา"
"เข้าใจแล้ว เลสเตอร์" ชาเร็ตยันตัวลุกขึ้นอย่างช้าๆ ก่อนจะหยิบดาบใหญ่ที่พิงไว้กับต้นไม้มาสะพายไว้ด้านหลังเอว เขามองไปข้างๆ อย่างไร้จุดหมาย ในขณะที่เลสเตอร์ดูการกระทำของเพื่อนสนิทอย่างไม่เข้าใจ
".........มัน...ก็แค่ฝันล่ะนะ" เด็กหนุ่มตาสีส้มเอ่ยพืมพำขึ้นเบาๆ
"หมายความว่าไง" เด็กหนุ่มผมขาวถาม ดวงตาสีน้ำตาลดำส่อแววสงสัยกับคำพูดของชาเร็ต "เมื่อกี้นายฝันอะไร"
เด็กหนุ่มผมดำไม่ตอบอะไรทั้งสิ้น ก่อนที่จะเดินออกไปโดยไม่รอ
"อ่าว เฮ้ยๆ" เลสเตอร์เอ่ยอย่างสับสน ก่อนจะถอนหายใจ แล้วใช้มือข้างหนึ่งขยี้ผมที่ยุ่งอยู่แล้วให้ยุ่งขึ้นอีกอย่างเบาๆ
"เอ้อ....ช่างมันเถอะ" และวิ่งตามไปอย่างรวดเร็ว
_____________________
เมืองเอนเทลเป็นเมืองที่อยู่ใจกลางของทวีปอีอัน และเป็นก็ถือได้ว่าเป็นเมืองหลวงที่คับคั่ง แม้กระทั่งยามเช้าตรู่ก็ยังมีเหล่าพ่อค้าแม่ค้ามาตั้งขายของอยู่เต็มไปหมด แล้วก็มีคนซื้อเยอะเสียด้วยสิ ทำเอาเมืองเอนเทลดูแคบไปถนัดตา ทั้งที่เอนเทลเองมีเส้นผ่านศูนย์กลางร่วม
ศูนย์กลางของเมืองเอนเทลเป็นที่ตั้งของสมาคมทหาร ซึ่งจะคอยทำหน้าที่ปกป้องคุ้มครองเมืองนี้ นอกจากที่นี่จะรับคำสั่งและขึ้นตรงจากรัฐบาลของเมืองแล้ว ก็ยังรับงานของผู้คนทั้งจากแดนใกล้และไกล และมอบหมายงานให้กับผู้ที่มีความประสงค์ แล้วหลังจากพวกเขาทำงานเหล่านี้เสร็จแล้ว ทางสมาคมก็จะรับค่าจ้างจากผู้จ้างวานแล้วหักส่วนหนึ่งเข้าสมาคม และอีกส่วนมอบให้แก่ทหารผู้ทำงานที่ได้รับ ทำให้ที่นี่เป็นศูนย์รวมใหญ่ๆของเหล่านักรบผู้แสวงหาเงิน ชื่อเสียง และการต่อสู้ทั้งหลาย
วันนี้ที่สมาคมก็ยังคงคึกคักเช่นเดียวกับตลาดในเมืองใหญ่แห่งนี้ เต็มไปด้วยผู้คนหลายคน บ้างก็กำลังขอรับภารกิจอยู่ที่เคาเตอร์รับภารกิจ ซึ่งมีมากจนไม่ต้องห่วงว่าจะต้องต่อคิว บ้างก็กำลังรับเงินรางวัล หรือบางคนก็คุยกันอยู่แถวบริเวณที่พักของผู้มาติดต่อ
ชาเร็ตในเสื้อสีแดงขลิบเหลืองเปิดประตูของสมาคมเข้ามา สายลมอ่อนๆจากภายนอกพัดเข้ามาด้านใน ทำให้ผมสีดำตัดสั้นของเขาพลิ้วไหว หลายคนหันไปมองแต่ส่วนใหญ่ก็ทำกิจวัตรของตัวเองต่อ เพราะเป็นเรื่องปกติที่จะมีคนเข้าๆออกที่นี่อยู่แล้ว
ชายมอซอคนหนึ่งเดินชนชาเร็ตเบาๆ
"อ...โทษทีนะพี่ชาย"
มือของชายหนุ่มผมดำคว้าหมับเข้าที่ข้อมือซ้ายของชายมอซอ ดวงตาสีส้มจ้องชายคนนั้นจนน่ากลัว แล้วเขาก็ออกแรงบีบข้อมืออย่างแรง จนของสีดำที่อยู่ในมือร่วงหล่นตกลงมา
มันคือกระเป๋าเงิน
..
"คราวหน้า...." ชาเร็ตเอ่ย "ดูให้ดีก่อนว่าคนที่แกจะล้วงน่ะ จะหักข้อมือแกทิ้งไหม"
ชายมอซอหน้าซีด ชักมือออกตามสัญชาตญาณ แต่ไม่ทันเสียแล้ว
กร๊อบ! เสียงกระดูกหักดังลั่นทั่วห้องโถง เสียงร้องโอดครวญของนักล้วง ทำให้คนในสมาคมทุกคนถึงกับเงียบไปทันที
"เฮ้ แกน่ะ" ชาเร็ตพูดกับชายนักล้วงที่นั่งกุมมือ "จะไปไหนก็ไปซะ" และมองด้วยสายตาเหยียดหยาม ชายมอซอพอได้ยินก็ลุกลี้ลุกลนวิ่งออกไป เลสเตอร์ที่อยู่ด้านหลังหลบให้กับนักล้วงคนนั้นก่อนจะปิดประตู
พอประตูปิดดังปัง ความอึกทึกของที่นี่ก็เริ่มขึ้นอีกครั้ง ชายหนุ่มทั้งสองเดินตรงไปยังเคาเตอร์ติดต่อที่อยู่ด้านหน้า
"คุณ....ชาเร็ต วูล์ฟกัง กับคุณเลสเตอร์ วอร์ลิค เหรอคะ" พนักงานที่อยู่ตรงเคาเตอร์ย้ำกับทั้งสองอีกครั้ง เลสเตอร์พยักหน้าน้อยๆ เป็นเชิงตอบรับ ก่อนที่พนักงานจะเงยหน้าขึ้นจากสมุดบัญชีบนโต๊ะ แล้วส่งแฟ้มสีน้ำตาลให้ปึกหนึ่ง
"นายพลแกรนซ์ฝากนี่ไว้ให้พวกคุณค่ะ" เธอพูดด้วยสีหน้าเรียบๆ "ท่านฝากบอกว่าติดภารกิจอยู่เลยมาพบด้วยตนเองไม่ได้"
ชาเร็ตไม่พูดอะไร เพราะปกติแล้ว หัวหน้าของพวกเขา นายพลแกรนซ์ รอยด์ ก็ไม่ค่อยจะพบกับพวกเขาอยู่แล้ว เขาเพียงแต่เปิดซองของตนออก ด้านในของซองเต็มไปด้วยเอกสารของภารกิจมากมาย
"คราวนี้ ไปที่ไหนล่ะ" เลสเตอร์เอ่ยถาม ชาเร็ตนิ่งอ่านอยู่พักหนึ่งก่อนจะเงยหน้าตอบช้าๆ
"......วู้ดดาเรีย"
------------------------------
อากาศร้อน...
ป่าไม้เขียวชอุ่ม....
และ...เหงื่อที่ไหลชุ่ม....
"ถ้ากลับไปแล้วขอต่อยหน้าของนายพลซักทีได้ไหมเนี่ย" เลสเตอร์พูดพลางปาดเหงื่อพลาง ระหว่างที่เขากับชาเร็ตมุ่งหน้าไปยังจุดหมายที่อยู่ในเอกสาร ป่าวู้ดดาเรียในช่วงหน้าร้อน ด้วยความชื้นของอากาศของที่นี่ บวกกับอุณหภูมิที่สูง แทบจะทำให้ที่นี่เป็นเตาอบขนาดยักษ์ไปเลย
"ช่วยไม่ได้ อยากใส่ชุดหนาๆนั่นมาทำไมเล่า" ชาเร็ตเอ่ยขำๆกับท่าทางของเลสเตอร์ ซึ่งเหงื่อท่วมตัว ความจริงแล้วอากาศในตอนนี้เป็นช่วงที่ใกล้จะเย็นแล้ว ดังนั้นจึงไม่ร้อนเท่ากับตอนบ่ายแก่ๆ แต่ด้วยเสื้อคลุมฮู้ดสีน้ำตาลตัวหนาที่เขาใส่อยู่ ทำให้เลสเตอร์เหงื่อไหลเป็นน้ำ
ภารกิจครั้งนี้ จุดหมายอยู่ที่หมู่บ้านร็อควิลล์ซึ่งตั้งอยู่ในบริเวณชายป่าวู้ดดาเรีย ทางหมู่บ้านขอความช่วยเหลือผ่านมาทางสมาคมทหาร จุดมุ่งหมายก็คือ การขับไล่กลุ่มโจรซึ่งกำลังโจมตีที่นี่อยู่ออกไป ความจริงแล้วร็อควิลล์หากนับระยะทางจากเอนเทลแล้ว ไม่ไกลมาก แต่เนื่องจากมันตั้งอยู่ในป่าใต้ที่ค่อนข้างรกชักจึงไม่สามารถเดินทางด้วยรถม้าได้ จำเป็นจะต้องเดินเท่านั้น
"ต้องเดินอีกนานเท่าไหร่ล่ะเนี่ย" เลสเตอร์บ่นอีกครั้ง ชาเร็ตเองเริ่มรำคาญเพื่อนคนนี้แล้ว จึงหยิบแผนที่กับเข็มทิศออกมา
แซ่กๆๆๆ!
เสียงจากพุ่มไม้ใกล้ๆ ทำให้ทั้งสองชะงักกึก เลสเตอร์ชักปืนลูกซองจากข้างเอว ส่วนชาเร็ตหยิบดาบออกจากฝักที่หลัง
พุ่มไม้ด้านหน้าสั่นไหว ท่ามกลางความตึงเครียดหลายวินาที และแล้วสิ่งนั้นก็ออกมา
หมาจิ้งจอกรูปร่างเพรียวสีน้ำตาลเดินออกมาจากดงไม้ที่สั่นไหวเมื่อครู่ มันเอียงคอมองมาทางพวกเขาด้วยดวงตากลมโตน่ารัก เห็นแล้วทำให้อยากจะวิ่งไปกอดเสียจริงๆ
"โธ่เอ๊ย ก็แค่หมา" ชาเร็ตเอ่ยพลางถอนหายใจ "ก็นึกว่ามีตัวอะไรน่ากลัวอยู่แถวนี้ซะอีก"
เกิดเสียงดังปึดขึ้นเบาๆ แต่เลสเตอร์กับชาเร็ตไม่ได้ยิน
เจ้าหมาน้อยเอียงคอเล็กน้อยก่อนมันจะหาวหวอดแล้วบิดขี้เกียจ เลสเตอร์เองเห็นว่าเป็นเจ้าหมาก็โล่งใจ นั่งลงบนก้อนหินก้อนที่อยู่ข้างๆ ชาเร็ตเดินเข้าไปใกล้มัน ก่อนที่จะนั่งลงลูบหัวมันอย่างเอ็นดู
"ว่าไงเจ้าหมาน้อย" เขาเอ่ยด้วยนิสัยรักสัต.ว์ของเขา
"ชั้นไม่ใช่หมานะยะ -*- "
" !! " .............เพียะ!
ชาเร็ตตบหน้าตัวเองหนึ่งที ส่วนเลสเตอร์อึ้งกิมกี่ เมื่อกี้เจ้าหมานั่นมันพูด
เจ้าหมาจิ้งจอกสะบัดขนตัวเองอย่างรำคาญ จากนั้นมันก็สะบัดขาหน้าให้สิ่งหนึ่งกลิ้งกลุกๆ ออกมา
บึ้ม! ควันสีเทากระจายฟุ้งทั่วบริเวณอย่างรวดเร็ว บดบังทัศนียภาพทั้งหมด เหล่านกที่เกาะอยู่บนต้นไม้แตกตื่นบินขึ้นฟ้า ชาเร็ตงงกับสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างมาก พอดีกับที่มีมือข้างหนึ่งพุ่งเข้าหากระเป๋าสะพายเอว
หมับ! แต่มันก็ไม่มีโอกาสได้แตะต้อง เพราะเขาจับมือนั้นไว้อย่างแน่นหนา พอดีกับที่ควันจางหายไปและภาพของเจ้าของมือปรากฏขึ้น
ร่างของเด็กสาว ผู้มีผมสีส้มทรงหนูแทะ และดวงตาสีน้ำตาล ทำให้ชาเร็ตถึงกับตกใจ เธออยู่ในเสื้อแขนกุดสีเขียวใบไม้ และกางเกงขาสามส่วนสีกากีแม้ว่าร่างกายของเธอจะดูเหมือนเด็กสาวรุ่นหน้าตาสวยๆคนหนึ่ง แต่สิ่งที่ต่างไปก็คือ บนศีรษะของเธอมีหูสีน้ำตาลแบบของหมาจิ้งจอก แถมยังมีหางสีเดียวกันอีก
เขตอาคมสีเหลืองถูกคลายออกทันทีที่จาเคียทานซุปเสร็จ มันค่อยๆจางลง และหายไปในที่สุด เด็กสาวไม่เข้าใจการกระทำของชายหนุ่มเสียเท่าไหร่ เธอเองคิดเรื่อยเปื่อยหาคำตอบอยู่พักหนึ่งก่อนที่จะถูกขัด
เด็กสาวจ้องมองชายหนุ่มผมดำอย่างไม่อยากเชื่อในความเร็วของเขา ก่อนที่จะสะบัดมือออก แล้วยกขาวาดเตะเป็นวงกว้างใส่
"เธอ.....เป็นไลแคนโทรป...?" ชายหนุ่มถามเพื่อย้ำความรู้สึกตัวเองอีกครั้ง เขาหลบลูกเตะอย่างไม่ยากเย็น เด็กสาวรุกคืบต่อ ตามด้วยลูกเตะหมุนตัวจระเข้ฟาดหาง และหมัดตรงอีกหลายหมัด แต่เขาเองก็ยังหลบได้
ในขณะที่ชาเร็ตกำลังสู้อยู่กับเด็กสาวไลแคนโทรป ตอนนี้เลสเตอร์สลบไปเนื่องจากสันมือของเธอที่ท้ายทอยเมื่อตอนเจอระเบิดควันเรียบร้อยแล้ว
เด็กสาวออกอาวุธอีกหลายครั้ง ไม่ว่าจะเป็นหมัด ลูกเตะ ศอก เข่า หรือแม้กระทั่งเอาหัวโขก (-_-") แต่มันก็ไม่มีทีท่าว่าจะโดนชาเร็ตซักลูก ก่อนที่เธอจะตัดสินใจชักมีดที่อยู่ด้านหลังเข้าฟันตามแนวขวาง
คมมีดแหวกผ่านอากาศที่ไม่มีอะไรอยู่ ก่อนมันจะลอยหวือออกจากมือของเด็กสาว และชาเร็ตรับมันมาจ่อคอของเธอจากด้านขวา
"ยังไม่ดีหรอกนะ" เขาพูดกับเธอด้วยสีหน้าเรียบๆ แล้วขยับมือเป็นรูปอักขระเวทสีเหลือง มันกลายสภาพแปรเป็นเขตอาคมขนาดย่อมๆขังตัวเธอเอาไว้
"ปล่อยนะ!" เด็กสาวตะโกนด้วยน้ำเสียงโกรธเกรี้ยว ซึ่งแม้จะโกรธอยู่แต่น้ำเสียงใสๆก็แสดงให้เห็นถึงความเป็นเด็กของเธอ ชาเร็ตไม่พูดอะไรก่อนที่จะเดินไปปลุกเลสเตอร์
"สันดานเอ๊ย" เด็กสาวบ่นอุบอิบด้วยคำพูดที่ไม่น่าจะออกจากปากของเธอเท่าไหร่
"เลสเตอร์ เลสเตอร์ สงสัยงานนี้จะสลบเหมือดเลยแฮะ" ชายหนุ่มเอ่ยอย่างปลงๆ พลางเหลือบไปแสงแดดยามเย็นเริ่มที่จะสว่างน้อยลง เขาก้มลงดูนาฬิกาพกในกระเป๋า ส่ายหน้าน้อยๆ ก่อนจะพูดกับเด็กสาวสุนัขจิ้งจอก
"เย็นขนาดนี้แล้ว ชั้นแบกหมอนี่ไปด้วยไม่ไหวหรอก สงสัยจะต้องค้างคืนในป่าซักคืน" สายตาไม่ค่อยชอบใจมองมาทางเธอ "ยังไงชั้นก็ไม่อยากจะปล่อยเธอไปซะด้วยสิ อยู่เป็นเพื่อนชั้นซักคืนละกัน"
เด็กสาวเม้มริมฝีปากแน่นอย่างไม่พอใจ จนเผยให้เห็นเขี้ยวเล็กๆที่มุมปาก ก่อนจะหันกลับไปนั่งลงบนก้อนหินก้อนหนึ่งที่อยู่ในเขตอาคมสีเหลือง
"เอาล่ะ ไหนๆก็ต้องอยู่ด้วยกันแล้ว" ชายหนุ่มเอ่ย ทำเอาเด็กสาวสะดุ้งเฮือก
"ตกลงเธอชื่ออะไรน่ะ"
------------------------------
เปลวไฟสีแดงถูกจุดขึ้นอย่างง่ายๆ บนกองฟืนด้วยเวทมนตร์ของชาเร็ต แสงสว่างสีแดงไหววูบวาบตามลมแรงที่เปลี่ยนอากาศร้อนของป่าแห่งนี้ให้เย็นสบาย ชายหนุ่มเองหลังจากที่กางเต็นท์และจุดไฟแล้ว ก็ลงมือทำอาหารด้วยวัตถุดิบที่พกมา
ใกล้ๆกัน เด็กสาวจิ้งจอกเองก็นั่งอยู่ภายในเขตอาคมอย่างหัวเสีย จะไปไหนก็ไม่ได้ เพราะโดนขังไว้อยู่
"เบื่อเหรอ" ชายหนุ่มเอ่ยถามเธอ แต่เธอไม่ตอบ แถมยังเมินหน้าหนีอีก "เอาเถอะๆ ไม่อยากตอบก็ช่าง"
กลิ่นอาหารที่ถูกทำเสร็จแล้วลอยฉุนแตะจมูกของเด็กสาว เธอได้แต่พยายามอดกลั้นไว้ เพราะเธอไม่หวังว่าเขาจะเอามาให้เธอ
จานซุปใบเล็กๆ พร้อมกับช้อนอีกหนึ่งคัน ถูกยื่นผ่านเขตอาคมเข้ามา
"เอ้า นี่ เย็นแล้ว กินไรหน่อยสิ" ชาเร็ตเอ่ยยิ้มๆอย่างเป็นมิตร แม้ว่าจะรู้ว่าเจ้าตัวไม่เป็นด้วยก็ตาม
"ทำไมชั้นต้องกินด้วย" เด็กสาวพูดด้วยท่าทางไม่เชื่อใจ ราวกับกลัวว่าจะใส่ยาพิษเอาไว้ "มนุษย์อย่างพวกนายมันไว้ใจไม่ได้"
"อ่อ งั้นเธอไว้ใจได้งั้นสิ" ชายหนุ่มแหวกลับ แต่สีหน้าไม่มีอารมณ์โกรธ "เป็นขโมยแล้วยังจะพูดอีก"
เด็กสาวอ้ำอึ้งเถียงไม่ออก และได้แต่เมินหน้าหนีแล้วตอบว่า "ชั้นยังไม่หิว"
โครก~~~~
"ปากกับท้องไม่ตรงกันเลยนะ" ชาเร็ตเอ่ย แกมด้วยน้ำเสียงขบขันนิดๆ "ตกลงจะกินไหม" พร้อมกับยื่นชามซุปให้ เจ้าหล่อนมองถ้วยซุปอย่างลังเลอยู่พักหนึ่ง ก่อนจะรับไปทานอย่างหวาดๆ
"ไม่ได้ใส่ยาพิษไว้หรอกน่า หม้อเดียวกันน่ะแหละ" ชาเร็ตพูดเสร็จเขาก็ไปนั่งตรงก้อนหินที่อยู่อีกฟากของกองไฟ พร้อมกับตักซุปส่วนของตัวเองมาทานกับเขาด้วย
ทั้งสองตกอยู่ท่ามกลางความเงียบพักใหญ่ก่อนที่เธอจะเริ่มเอ่ยก่อน
"......จาเคีย ลูลูคิล"
"หืม" ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นเมื่อได้ยินเสียงเด็กสาวพูดก่อนเป็นครั้งแรก
"ชั้นชื่อจาเคีย ลูลูคิล" เด็กสาวพูดซ้ำอีกครั้งด้วยสีหน้าบึ้งตึง "อย่าให้ต้องพูดซ้ำอีก ชั้นไม่ชอบ"
"อ้า หลับสบายจริงๆ" เสียงหนึ่งดังขึ้นจากในเต็นท์ พร้อมกับเลสเตอร์ที่เดินออกมาด้วยท่าทางสลึมสลือ
"อ้าว ชาเร็ต กินข้าวแล้วเรอะ" ชายหนุ่มผมขาวพูดขึ้น สายลมโชยพัดให้ผมสีขาวยิ่งดูยุ่งขึ้นไปอีก ก่อนที่เขาจะหันไปเห็นจาเคีย
"หืม แล้วนั่นใครน่ะ"
_____________________
"อ่าว ไม่กลับบ้านหรือไง เจ๊" เลสเตอร์ถามจาเคีย ทำให้เธอยิ่งสงสัยเข้าไปอีก เขาได้ฟังเรื่องราวจากชาเร็ตเรียบร้อยแล้ว แต่กลับไม่โกรธเธอเอาเสียเลย เรียกได้ว่าผิดธรรมชาติมนุษย์ทั้งสองคน
"ทำไมถึง....ปล่อยชั้นไปง่ายๆ" เด็กจิ้งจอกสาว ถามทั้งสองอย่างไม่เข้าใจ ถึงแม้ความเกลียดมนุษย์ในตัวเธอจะสั่งให้เธอไปได้แล้วก็ตาม
"ถ้าอยากรู้ละก็....." ชาเร็ตตอบคำถามของจาเคียโดยไม่หันมามองพร้อมๆ กับเก็บอุปกรณ์ทำอาหารที่ล้างด้วยเวทย์น้ำของเลสเตอร์เสร็จเรียบร้อยแล้ว "...ก็เพราะว่าชั้นโดนแบบนี้เป็นประจำแล้ว ส่วนเจ้าเลสเตอร์มันก็โกรธผู้หญิงไม่เป็นหรอก (มันหูดำน่ะแหละ)"
จาเคียอึ้งกับคำพูดของหนุ่มตาสีส้ม เธอเริ่มยิ้มออกอย่างขำๆ ส่วนเลสเตอร์หน้าแดงและพยายามจะวิ่งไล่เตะชาเร็ตแทน
"เป็นมนุษย์ที่แปลกดีแฮะ" เด็กสาวเอ่ยขึ้น "จะไปที่ร็อควิลล์หรือไง"
"อ่าฮะ เรามาทำหน้าที่กำจัดพวกโจรที่นั่นน่ะ" เลสเตอร์หันกลับมาพูดก่อนจะวิ่งไปไล่เตะชาเร็ตต่อ
รอยยิ้มสวยๆ น่ารักของเธอปรากฏบนใบหน้าที่สวยอยู่แล้วยิ่งทำให้เธอยิ่งดูสวยขึ้นไปอีก ถ้าเมฆไม่บดบังแสงจันทร์ในตอนนี้ล่ะก็ เธอคงจะดูสวยมากแน่ๆ
แต่แล้วเธอก็หุบยิ้มลงเมื่อคิดถึงเรื่องที่ทำให้เธอเกลียดมนุษย์
"งั้นชั้นไปล่ะ" จาเคียเอ่ยพลางลุกขึ้นอย่างช้าๆ "ขอบใจสำหรับซุปนั่นละกัน"
แล้วเธอก็กระโดดหายไปในพุ่มไม้ข้างๆ
"เอาล่ะ เอาไงต่อ" ชาเร็ตถามเพื่อนสนิทที่ตอนนี้เลิกไล่เตะเขาแล้ว "จะรีบทำงานต่อ หรือว่ายังไง"
"ชั้นแล้วแต่นาย" เลสเตอร์เอ่ยตอบ เพราะเขาขี้เกียจตัดสินใจ "แต่ถ้าจะเดินทางตอนนี้มันก็ดี"
"?? ....มันดียังไงล่ะ" ชาเร็ตสงสัยกับคำพูดของเพื่อน เพราะว่าการเดินทางตอนกลางคืนมันย่อมลำบากกว่าตอนกลางวันเยอะ
"....ก็....อย่างน้อยอากาศตอนนี้ก็คงไม่ทำให้ฉันแทบจะบ้าตายแบบตอนกลางวันหรอก" เจ้าตัวคนถูกถามเอ่ยอย่างไม่ค่อยอยากตอบเท่าไหร่ ชาเร็ตตีหน้าเรียบๆ ก่อนจะถอนหายใจอย่างหน่ายๆ
จู่ความรู้สึกของเขาก็ทำให้เขาคิดถึงรอยยิ้มของจาเคีย เขามองไปทางที่เธอกระโดดหายไป
(...ตอนยิ้มก็น่ารักดีนี่นา) พลางทำให้เขายิ้มออก
"ยิ้มอะไรของนายน่ะ" เลสเตอร์ถามชายหนุ่มผมดำผู้มีตาสีส้มเมื่อเขาเห็นว่าเพื่อนของเขากำลังยิ้มคนเดียว
เขตอาคมสีเหลืองถูกคลายออกทันทีที่จาเคียทานซุปเสร็จ มันค่อยๆจางลง และหายไปในที่สุด เด็กสาวไม่เข้าใจการกระทำของชายหนุ่มเสียเท่าไหร่ เธอเองคิดเรื่อยเปื่อยหาคำตอบอยู่พักหนึ่งก่อนที่จะถูกขัด
"อ่าว ไม่กลับบ้านหรือไง เจ๊" เลสเตอร์ถามจาเคีย ทำให้เธอยิ่งสงสัยเข้าไปอีก เขาได้ฟังเรื่องราวจากชาเร็ตเรียบร้อยแล้ว แต่กลับไม่โกรธเธอเอาเสียเลย เรียกได้ว่าผิดธรรมชาติมนุษย์ทั้งสองคน
"ทำไมถึง....ปล่อยชั้นไปง่ายๆ" เด็กจิ้งจอกสาว ถามทั้งสองอย่างไม่เข้าใจ ถึงแม้ความเกลียดมนุษย์ในตัวเธอจะสั่งให้เธอไปได้แล้วก็ตาม
"ถ้าอยากรู้ละก็....." ชาเร็ตตอบคำถามของจาเคียโดยไม่หันมามองพร้อมๆ กับเก็บอุปกรณ์ทำอาหารที่ล้างด้วยเวทย์น้ำของเลสเตอร์เสร็จเรียบร้อยแล้ว "...ก็เพราะว่าชั้นโดนแบบนี้เป็นประจำแล้ว ส่วนเจ้าเลสเตอร์มันก็โกรธผู้หญิงไม่เป็นหรอก (มันหูดำน่ะแหละ)"
จาเคียอึ้งกับคำพูดของหนุ่มตาสีส้ม เธอเริ่มยิ้มออกอย่างขำๆ ส่วนเลสเตอร์หน้าแดงและพยายามจะวิ่งไล่เตะชาเร็ตแทน
"เป็นมนุษย์ที่แปลกดีแฮะ" เด็กสาวเอ่ยขึ้น "จะไปที่ร็อควิลล์หรือไง"
"อ่าฮะ เรามาทำหน้าที่กำจัดพวกโจรที่นั่นน่ะ" เลสเตอร์หันกลับมาพูดก่อนจะวิ่งไปไล่เตะชาเร็ตต่อ
รอยยิ้มสวยๆ น่ารักของเธอปรากฏบนใบหน้าที่สวยอยู่แล้วยิ่งทำให้เธอยิ่งดูสวยขึ้นไปอีก ถ้าเมฆไม่บดบังแสงจันทร์ในตอนนี้ล่ะก็ เธอคงจะดูสวยมากแน่ๆ
แต่แล้วเธอก็หุบยิ้มลงเมื่อคิดถึงเรื่องที่ทำให้เธอเกลียดมนุษย์
"งั้นชั้นไปล่ะ" จาเคียเอ่ยพลางลุกขึ้นอย่างช้าๆ "ขอบใจสำหรับซุปนั่นละกัน"
แล้วเธอก็กระโดดหายไปในพุ่มไม้ข้างๆ
"เอาล่ะ เอาไงต่อ" ชาเร็ตถามเพื่อนสนิทที่ตอนนี้เลิกไล่เตะเขาแล้ว "จะรีบทำงานต่อ หรือว่ายังไง"
"ชั้นแล้วแต่นาย" เลสเตอร์เอ่ยตอบ เพราะเขาขี้เกียจตัดสินใจ "แต่ถ้าจะเดินทางตอนนี้มันก็ดี"
"?? ....มันดียังไงล่ะ" ชาเร็ตสงสัยกับคำพูดของเพื่อน เพราะว่าการเดินทางตอนกลางคืนมันย่อมลำบากกว่าตอนกลางวันเยอะ
"....ก็....อย่างน้อยอากาศตอนนี้ก็คงไม่ทำให้ฉันแทบจะบ้าตายแบบตอนกลางวันหรอก" เจ้าตัวคนถูกถามเอ่ยอย่างไม่ค่อยอยากตอบเท่าไหร่ ชาเร็ตตีหน้าเรียบๆ ก่อนจะถอนหายใจอย่างหน่ายๆ
จู่ความรู้สึกของเขาก็ทำให้เขาคิดถึงรอยยิ้มของจาเคีย เขามองไปทางที่เธอกระโดดหายไป
(...ตอนยิ้มก็น่ารักดีนี่นา) พลางทำให้เขายิ้มออก
"ยิ้มอะไรของนายน่ะ" เลสเตอร์ถามชายหนุ่มผมดำผู้มีตาสีส้มเมื่อเขาเห็นว่าเพื่อนของเขากำลังยิ้มคนเดียว
เขตอาคมสีเหลืองถูกคลายออกทันทีที่จาเคียทานซุปเสร็จ มันค่อยๆจางลง และหายไปในที่สุด เด็กสาวไม่เข้าใจการกระทำของชายหนุ่มเสียเท่าไหร่ เธอเองคิดเรื่อยเปื่อยหาคำตอบอยู่พักหนึ่งก่อนที่จะถูกขัด
"อ่าว ไม่กลับบ้านหรือไง เจ๊" เลสเตอร์ถามจาเคีย ทำให้เธอยิ่งสงสัยเข้าไปอีก เขาได้ฟังเรื่องราวจากชาเร็ตเรียบร้อยแล้ว แต่กลับไม่โกรธเธอเอาเสียเลย เรียกได้ว่าผิดธรรมชาติมนุษย์ทั้งสองคน
"ทำไมถึง....ปล่อยชั้นไปง่ายๆ" เด็กจิ้งจอกสาว ถามทั้งสองอย่างไม่เข้าใจ ถึงแม้ความเกลียดมนุษย์ในตัวเธอจะสั่งให้เธอไปได้แล้วก็ตาม
"ถ้าอยากรู้ละก็....." ชาเร็ตตอบคำถามของจาเคียโดยไม่หันมามองพร้อมๆ กับเก็บอุปกรณ์ทำอาหารที่ล้างด้วยเวทย์น้ำของเลสเตอร์เสร็จเรียบร้อยแล้ว "...ก็เพราะว่าชั้นโดนแบบนี้เป็นประจำแล้ว ส่วนเจ้าเลสเตอร์มันก็โกรธผู้หญิงไม่เป็นหรอก (มันหูดำน่ะแหละ)"
จาเคียอึ้งกับคำพูดของหนุ่มตาสีส้ม เธอเริ่มยิ้มออกอย่างขำๆ ส่วนเลสเตอร์หน้าแดงและพยายามจะวิ่งไล่เตะชาเร็ตแทน
"เป็นมนุษย์ที่แปลกดีแฮะ" เด็กสาวเอ่ยขึ้น "จะไปที่ร็อควิลล์หรือไง"
"อ่าฮะ เรามาทำหน้าที่กำจัดพวกโจรที่นั่นน่ะ" เลสเตอร์หันกลับมาพูดก่อนจะวิ่งไปไล่เตะชาเร็ตต่อ
รอยยิ้มสวยๆ น่ารักของเธอปรากฏบนใบหน้าที่สวยอยู่แล้วยิ่งทำให้เธอยิ่งดูสวยขึ้นไปอีก ถ้าเมฆไม่บดบังแสงจันทร์ในตอนนี้ล่ะก็ เธอคงจะดูสวยมากแน่ๆ
แต่แล้วเธอก็หุบยิ้มลงเมื่อคิดถึงเรื่องที่ทำให้เธอเกลียดมนุษย์
"งั้นชั้นไปล่ะ" จาเคียเอ่ยพลางลุกขึ้นอย่างช้าๆ "ขอบใจสำหรับซุปนั่นละกัน"
แล้วเธอก็กระโดดหายไปในพุ่มไม้ข้างๆ
"เอาล่ะ เอาไงต่อ" ชาเร็ตถามเพื่อนสนิทที่ตอนนี้เลิกไล่เตะเขาแล้ว "จะรีบทำงานต่อ หรือว่ายังไง"
"ชั้นแล้วแต่นาย" เลสเตอร์เอ่ยตอบ เพราะเขาขี้เกียจตัดสินใจ "แต่ถ้าจะเดินทางตอนนี้มันก็ดี"
"?? ....มันดียังไงล่ะ" ชาเร็ตสงสัยกับคำพูดของเพื่อน เพราะว่าการเดินทางตอนกลางคืนมันย่อมลำบากกว่าตอนกลางวันเยอะ
"....ก็....อย่างน้อยอากาศตอนนี้ก็คงไม่ทำให้ฉันแทบจะบ้าตายแบบตอนกลางวันหรอก" เจ้าตัวคนถูกถามเอ่ยอย่างไม่ค่อยอยากตอบเท่าไหร่ ชาเร็ตตีหน้าเรียบๆ ก่อนจะถอนหายใจอย่างหน่ายๆ
จู่ความรู้สึกของเขาก็ทำให้เขาคิดถึงรอยยิ้มของจาเคีย เขามองไปทางที่เธอกระโดดหายไป
(...ตอนยิ้มก็น่ารักดีนี่นา) พลางทำให้เขายิ้มออก
"ยิ้มอะไรของนายน่ะ" เลสเตอร์ถามชายหนุ่มผมดำผู้มีตาสีส้มเมื่อเขาเห็นว่าเพื่อนของเขากำลังยิ้มคนเดียว
เขตอาคมสีเหลืองถูกคลายออกทันทีที่จาเคียทานซุปเสร็จ มันค่อยๆจางลง และหายไปในที่สุด เด็กสาวไม่เข้าใจการกระทำของชายหนุ่มเสียเท่าไหร่ เธอเองคิดเรื่อยเปื่อยหาคำตอบอยู่พักหนึ่งก่อนที่จะถูกขัด
"อ่าว ไม่กลับบ้านหรือไง เจ๊" เลสเตอร์ถามจาเคีย ทำให้เธอยิ่งสงสัยเข้าไปอีก เขาได้ฟังเรื่องราวจากชาเร็ตเรียบร้อยแล้ว แต่กลับไม่โกรธเธอเอาเสียเลย เรียกได้ว่าผิดธรรมชาติมนุษย์ทั้งสองคน
"ทำไมถึง....ปล่อยชั้นไปง่ายๆ" เด็กจิ้งจอกสาว ถามทั้งสองอย่างไม่เข้าใจ ถึงแม้ความเกลียดมนุษย์ในตัวเธอจะสั่งให้เธอไปได้แล้วก็ตาม
"ถ้าอยากรู้ละก็....." ชาเร็ตตอบคำถามของจาเคียโดยไม่หันมามองพร้อมๆ กับเก็บอุปกรณ์ทำอาหารที่ล้างด้วยเวทย์น้ำของเลสเตอร์เสร็จเรียบร้อยแล้ว "...ก็เพราะว่าชั้นโดนแบบนี้เป็นประจำแล้ว ส่วนเจ้าเลสเตอร์มันก็โกรธผู้หญิงไม่เป็นหรอก (มันหูดำน่ะแหละ)"
จาเคียอึ้งกับคำพูดของหนุ่มตาสีส้ม เธอเริ่มยิ้มออกอย่างขำๆ ส่วนเลสเตอร์หน้าแดงและพยายามจะวิ่งไล่เตะชาเร็ตแทน
"เป็นมนุษย์ที่แปลกดีแฮะ" เด็กสาวเอ่ยขึ้น "จะไปที่ร็อควิลล์หรือไง"
"อ่าฮะ เรามาทำหน้าที่กำจัดพวกโจรที่นั่นน่ะ" เลสเตอร์หันกลับมาพูดก่อนจะวิ่งไปไล่เตะชาเร็ตต่อ
รอยยิ้มสวยๆ น่ารักของเธอปรากฏบนใบหน้าที่สวยอยู่แล้วยิ่งทำให้เธอยิ่งดูสวยขึ้นไปอีก ถ้าเมฆไม่บดบังแสงจันทร์ในตอนนี้ล่ะก็ เธอคงจะดูสวยมากแน่ๆ
แต่แล้วเธอก็หุบยิ้มลงเมื่อคิดถึงเรื่องที่ทำให้เธอเกลียดมนุษย์
"งั้นชั้นไปล่ะ" จาเคียเอ่ยพลางลุกขึ้นอย่างช้าๆ "ขอบใจสำหรับซุปนั่นละกัน"
แล้วเธอก็กระโดดหายไปในพุ่มไม้ข้างๆ
"เอาล่ะ เอาไงต่อ" ชาเร็ตถามเพื่อนสนิทที่ตอนนี้เลิกไล่เตะเขาแล้ว "จะรีบทำงานต่อ หรือว่ายังไง"
"ชั้นแล้วแต่นาย" เลสเตอร์เอ่ยตอบ เพราะเขาขี้เกียจตัดสินใจ "แต่ถ้าจะเดินทางตอนนี้มันก็ดี"
"?? ....มันดียังไงล่ะ" ชาเร็ตสงสัยกับคำพูดของเพื่อน เพราะว่าการเดินทางตอนกลางคืนมันย่อมลำบากกว่าตอนกลางวันเยอะ
"....ก็....อย่างน้อยอากาศตอนนี้ก็คงไม่ทำให้ฉันแทบจะบ้าตายแบบตอนกลางวันหรอก" เจ้าตัวคนถูกถามเอ่ยอย่างไม่ค่อยอยากตอบเท่าไหร่ ชาเร็ตตีหน้าเรียบๆ ก่อนจะถอนหายใจอย่างหน่ายๆ
จู่ความรู้สึกของเขาก็ทำให้เขาคิดถึงรอยยิ้มของจาเคีย เขามองไปทางที่เธอกระโดดหายไป
(...ตอนยิ้มก็น่ารักดีนี่นา) พลางทำให้เขายิ้มออก
"ยิ้มอะไรของนายน่ะ" เลสเตอร์ถามชายหนุ่มผมดำผู้มีตาสีส้มเมื่อเขาเห็นว่าเพื่อนของเขากำลังยิ้มคนเดียว
เขตอาคมสีเหลืองถูกคลายออกทันทีที่จาเคียทานซุปเสร็จ มันค่อยๆจางลง และหายไปในที่สุด เด็กสาวไม่เข้าใจการกระทำของชายหนุ่มเสียเท่าไหร่ เธอเองคิดเรื่อยเปื่อยหาคำตอบอยู่พักหนึ่งก่อนที่จะถูกขัด
"อ่าว ไม่กลับบ้านหรือไง เจ๊" เลสเตอร์ถามจาเคีย ทำให้เธอยิ่งสงสัยเข้าไปอีก เขาได้ฟังเรื่องราวจากชาเร็ตเรียบร้อยแล้ว แต่กลับไม่โกรธเธอเอาเสียเลย เรียกได้ว่าผิดธรรมชาติมนุษย์ทั้งสองคน
"ทำไมถึง....ปล่อยชั้นไปง่ายๆ" เด็กจิ้งจอกสาว ถามทั้งสองอย่างไม่เข้าใจ ถึงแม้ความเกลียดมนุษย์ในตัวเธอจะสั่งให้เธอไปได้แล้วก็ตาม
"ถ้าอยากรู้ละก็....." ชาเร็ตตอบคำถามของจาเคียโดยไม่หันมามองพร้อมๆ กับเก็บอุปกรณ์ทำอาหารที่ล้างด้วยเวทย์น้ำของเลสเตอร์เสร็จเรียบร้อยแล้ว "...ก็เพราะว่าชั้นโดนแบบนี้เป็นประจำแล้ว ส่วนเจ้าเลสเตอร์มันก็โกรธผู้หญิงไม่เป็นหรอก (มันหูดำน่ะแหละ)"
จาเคียอึ้งกับคำพูดของหนุ่มตาสีส้ม เธอเริ่มยิ้มออกอย่างขำๆ ส่วนเลสเตอร์หน้าแดงและพยายามจะวิ่งไล่เตะชาเร็ตแทน
"เป็นมนุษย์ที่แปลกดีแฮะ" เด็กสาวเอ่ยขึ้น "จะไปที่ร็อควิลล์หรือไง"
"อ่าฮะ เรามาทำหน้าที่กำจัดพวกโจรที่นั่นน่ะ" เลสเตอร์หันกลับมาพูดก่อนจะวิ่งไปไล่เตะชาเร็ตต่อ
รอยยิ้มสวยๆ น่ารักของเธอปรากฏบนใบหน้าที่สวยอยู่แล้วยิ่งทำให้เธอยิ่งดูสวยขึ้นไปอีก ถ้าเมฆไม่บดบังแสงจันทร์ในตอนนี้ล่ะก็ เธอคงจะดูสวยมากแน่ๆ
แต่แล้วเธอก็หุบยิ้มลงเมื่อคิดถึงเรื่องที่ทำให้เธอเกลียดมนุษย์
"งั้นชั้นไปล่ะ" จาเคียเอ่ยพลางลุกขึ้นอย่างช้าๆ "ขอบใจสำหรับซุปนั่นละกัน"
แล้วเธอก็กระโดดหายไปในพุ่มไม้ข้างๆ
"เอาล่ะ เอาไงต่อ" ชาเร็ตถามเพื่อนสนิทที่ตอนนี้เลิกไล่เตะเขาแล้ว "จะรีบทำงานต่อ หรือว่ายังไง"
"ชั้นแล้วแต่นาย" เลสเตอร์เอ่ยตอบ เพราะเขาขี้เกียจตัดสินใจ "แต่ถ้าจะเดินทางตอนนี้มันก็ดี"
"?? ....มันดียังไงล่ะ" ชาเร็ตสงสัยกับคำพูดของเพื่อน เพราะว่าการเดินทางตอนกลางคืนมันย่อมลำบากกว่าตอนกลางวันเยอะ
"....ก็....อย่างน้อยอากาศตอนนี้ก็คงไม่ทำให้ฉันแทบจะบ้าตายแบบตอนกลางวันหรอก" เจ้าตัวคนถูกถามเอ่ยอย่างไม่ค่อยอยากตอบเท่าไหร่ ชาเร็ตตีหน้าเรียบๆ ก่อนจะถอนหายใจอย่างหน่ายๆ
จู่ความรู้สึกของเขาก็ทำให้เขาคิดถึงรอยยิ้มของจาเคีย เขามองไปทางที่เธอกระโดดหายไป
(...ตอนยิ้มก็น่ารักดีนี่นา) พลางทำให้เขายิ้มออก
"ยิ้มอะไรของนายน่ะ" เลสเตอร์ถามชายหนุ่มผมดำผู้มีตาสีส้มเมื่อเขาเห็นว่าเพื่อนของเขากำลังยิ้มคนเดียว
ความคิดเห็น