ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ยุ่งนัก..รักซะเลยย

    ลำดับตอนที่ #10 : ยุ่งนัก..รักซะเลย9

    • อัปเดตล่าสุด 31 มี.ค. 49


    "ป้า...วีอยู่ไหนเหรอครับ" กฤษณะเอ่ยถามป้าแม่ครัวที่ดูแลปฐวีมาตั้งแต่เด็ก ๆจนทุก คนในบ้านพากันนับถือ
    ว่าเป็นญาติของปฐวีคนหนึ่ง หญิงวัยกลางคนแหงนหน้ามองร่างสูงของกฤษณะและส่งยิ้มอ่อนโยนให้

    "นอนอยู่หลังบ้านล่ะค่ะที่สนามเหมือนเดิมแหละค่ะ...เห็นบ่นว่าเครียด ๆ ป้าก็ไม่รู้แกเครียดอะไรนักหนา..." ผู้ที่เลี้ยงปฐวีและมีหลายครั้ง
    ที่ต้องเลี้ยงคุณนะตัวโตด้วย เมื่อสมัยที่สองคนนี้ยังเด็ก เอ่ยบอกกับร่างสูง
    และกฤษณะก็โน้มตัวมากอดหล่อนเอาไว้ หอมแก้มเบา ๆ เป็นเรื่องปกติธรรมดาแล้วสำหรับหนุ่มคนนี้
    มาทีไรต้องหาเรื่องมาพัวพัน กับคนแก่อย่างหล่อนเรื่อย น่ารักจริง ๆ คุณนะ

    "ป้าาาาาาาา วีเป็นอารายอ่ะครับ...เครียดอะไรอ่ะ...นะเห็นวัน ๆ มันเอาแต่ปั่นหัวชาวบ้านเป็นว่าเล่น" กฤษณะก็แค่อยากจะไถ่ถาม
    อาการของไอ้เด็กปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมคนนั้น ที่มาปั่นหัวเขาเล่นจนหลงจนโงหัวไม่ขึ้นแล้ว ไม่สบายเป็นอะไรมากหรือเปล่า
    มีแผนจะแกล้งตั้งเยอะแยะ ไม่สบายแบบนี้ใครจะรังแกลงล่ะเนี่ย

    "ก็ดูเครียด ๆ ล่ะค่ะ ข้าวปลาก็ไม่ค่อยกิน เห็นเอาแต่อ่านหนังสือ...แกเครียดเรื่องเรียนหรือเปล่าป้าก็ไม่แน่ใจ ถามแกก็บอกว่าไม่เป็นไร ไม่เป็นไร
    กำลังอ่านหนังสือสอบ...แต่ป้าก็รู้หรอกค่ะ..ป้าไม่เคยเห็นคุณวีอ่านหนังสือเป็นบ้าเป็นหลั่งอย่างนั้นเลยล่ะค่ะ คุณนะไปแกล้งแหย่ ๆ แกหน่อยสิคะ
    ให้แกโวยวาย โวยวายเหมือนแต่ก่อนป้าว่ายังดูร่าเริงสดใสกว่าอีก....เป็นเด็กดีอยู่กับเหย้าเฝ้ากับเรือนแบบนี้..มันผิดปกติเกินไปแล้วล่ะค่ะ"

    หญิงวัยกลางคนเล่าเสียยืดยาว แต่ก็ทำให้กฤษณะได้ข้อมูลมาเยอะเลย
    หลายวันที่ไม่เจอหน้ากันก็คิดถึงมาก ๆ แต่แค่อยากรู้ว่าไอ้น้องวีมันจะทำยังไง
    ถ้าเขาทำเป็นเฉย ๆ ลืม ๆ ให้มันร้อนรนเล่น จะได้อยากแกล้งเขา แต่นี่ไม่มีเลย เงียบหาย จนเขาทนไม่ไหวต้องเป็นฝ่ายมาหามันซะเอง
    ไอ้เด็กป่วน มาแกล้งให้รักนี่แหละ มันร้ายนัก ร้ายกว่าแกล้งอย่างอื่นอีก

    "อือออออออออ เหรอครับ...งั้นเดี๋ยวนะไปดูมันก่อนนะป้า...นะซื้อขนมมาฝากป้าด้วยนะ..นี่ไงค้าบบบบบบบ" กฤษณะยื่นกล่องใส่ขนมใบใหญ่
    ให้กับหล่อนและยิ้มสดใส

    แหมคุณนะ....มีแต่คนเขาหลงลืมคนแก่ แต่คุณนะไม่เคยลืมเลย แถมเป็นยังไงก็เป็นอย่างนั้นตลอด
    นี่ถ้าคุณวีได้แต่งกับคุณนะก็คงดีหรอก
    แต่คงเป็นไปไม่ได้ เรื่องฝืนธรรมชาติแบบนั้น
    หล่อนคิดอย่างเสียดาย
    แต่หารู้ไม่ว่า เรื่องอะไรบนโลกนี้มันเป็นไปได้เสมอแหละ

    "เดี๋ยวนะไปดูวีมันก่อนนะครับป้า" ร่างสูงผุดลุกขึ้นยืนและวิ่งไปที่สนามหลังบ้าน

    เฮ่อออ คุณนะ....คุณวีน่ะ ตรอมใจ ทำไมป้าจะดูไม่ออก แต่ไม่รู้ว่ามีเรื่องอะไรให้ต้องตรอมใจขนาดนั้น คุณนะจัดการให้ป้าหน่อยเถอะ
    คุณวีจะได้กลับมาสดใสร่าเริงเหมือนเดิม
    หล่อนมองตามร่างสูงที่วิ่งออกไป แล้วก็หันมาจัดการเตรียมอาหารกลางวันต่อไป

    **************************
    พี่นะไม่เคยสนใจเลย ว่าผ่านไปกี่วันแล้ว และไอ้วีคนนี้แบกรับความเศร้าความเจ็บปวดไว้แค่ไหน
    ตั้งแต่วันนั้น พี่นะก็ไม่เคยติดต่อหาไอ้วีเลย ปล่อยให้ไอ้น้องวีหน้าโง่ ต้องนอนร้องไห้อยู่อย่างนี้ทุกวัน
    ทั้งที่พยายามตัดใจ ก็ตัดไม่ได้เสียที ไม่น่าเลย ไม่น่าหลงรักพี่นะเลย ทำไมมันเจ็บปวดหัวใจอย่างนี้
    ใครก็ได้ช่วยทีเถอะ ใครก็ได้ช่วยที

    ร่างเล็กบางวางหนังสือการ์ตูนอ่านเล่นที่วางเป็นปึกเป็นตั้งลงข้างตัว เขาอ่านการ์ตูนติดต่อกันไม่มีหยุด
    ถึงจะเจ็บปวดหัวใจ แต่ไอ้น้องวี คงไม่สามารถอ่านหนังสือเรียนได้
    มันยิ่งเครียดไปกันใหญ่น่ะสิ
    เลยต้องเอาการ์ตูนสอดไส้ไว้ในหนังสือเรียน ใครถามก็จะได้บอกว่าอ่านหนังสือเรียน จะได้ไม่มีใครมายุ่งด้วยอีก

    โธ่ไอ้น้องวีเอ๋ย ขนาดมันชอกช้ำหัวใจ มันยังมีแก่ใจมาเจ้าเล่ห์อีก
    จะสงสารมันดีไหมหนอ

    ว่าจะร้องไห้แบบว่า เดินท่ามกลางสายฝนเสียหน่อย ก็ไม่ไหว ดูเหมือนมันจะเป็นการเลียนแบบชาวบ้านจนเกินไป
    อยากจะไปเปิดน้ำฝักบัวให้รดทั้งตัวทั้งหน้า แบบมิวสิคคนอกหัก ก็ไม่เวิร์คอีก เปลืองน้ำ ก็เลยต้องมาทำซึ้งด้วยการ
    แบกหมอนแบกเสื่อมานอนอ่านการ์ตูนอย่างเศร้า ๆ อยู่ที่สนาม เหงาซึ้ง และมีการ์ตูนอ่านแบบนี้ จะได้ไม่เหมือนใครดี
    (วี...ช่างเป็นเด็กที่มีความคิดสร้างสรรค์ดีจริงนับถือ นับถือ)

    ฮือออออออ อยากร้องไห้อีกแล้วอ่ะ
    อยากเห็นหน้าพี่นะอ่ะ พี่นะของวีอยู่ไหน มาแกล้งไอ้บ้าวีคนนี้ก็ได้ ยอมแล้ว ยอมหมดใจเลย
    แต่งงานกับน้องออยน่ะ ไม่แต่งก็ได้ อยากแต่งกับพี่นะอ่ะ ฮืออออออออออ

    ความจริงปฐวีเศร้าแทบตาย แต่ทำเป็นคิดอะไรบ้า ๆ บอ ๆ กลบความเศร้าของตัวเองไป
    ไม่มีใครมาเข้าใจถึงความเจ็บปวดนี้หรอก ถ้าไม่หาทางเยียวยาหัวใจตัวเอง
    แล้วใครจะมาเยียวยาให้ได้กันล่ะ ยิ่งคิดก็ยิ่งเครียด
    ยิ่งเครียดก็ยิ่งร้องไห้ น้ำตามันไหลจนจะหมดตัวอยู่แล้ว
    แต่พอคิดขึ้นมาอีกก็อยากจะร้องไห้อีก

    ร่างบางหลับตาลง และปล่อยให้น้ำตามันไหลออกมาอีกรอบ
    ก็ถ้ามันร้องแล้วดีขึ้น ร้องให้มันพอในครั้งเดียวเลยก็ดี

    "ฮืออออออ พี่นะ.." ไอ้น้องวีสะอื้นเสียงเบา ปากก็เรียกคนที่ตัวเองไปหลงรักเขาข้างเดียว

    "มีไรวะวี...ไอ้เด็กบ้า.." เสียงที่คุ้นหูดังอยู่ใกล้ ๆ
    ทำให้ใบหน้าสวยหวานยิ้มอย่างดีใจ
    หลับแป๊บเดียวฝันเร็วจังเลย แต่ก็ดีที่เป็นแค่ฝัน อย่างน้อยก็ได้ฝัน ถึงแค่ฝันก็ยังดี

    "วีรักพี่นะ...พี่นะรู้มั้ย.." ไอ้วียังคงพูดต่อไป โดยไม่ได้ลืมตาดูเลยว่าใครคนนั้นมานั่งอยู่ข้าง ๆ มองร่างบางที่นอนเหยียดยาว
    บนเสื่อ ที่นอนร้องไห้พูดกับเขาออกมา โดยไม่ทันได้สนใจว่าใครคนนี้มานั่งฟัง แจ่มแจ้งชัดเจนเลย

    "พี่นะก็รักไอ้วี..." ร่างสูงตอบกลับส่งยิ้มให้คนตัวเล็กอย่างนึกเอ็นดู วีเอ๋ยวี.....ทำไมมันน่ารักน่าใคร่แบบนี้ว้าาาาาาา

    "วีก็รักพี่นะ...รักจังเลย.." ร่างบางพูดซ้ำอีกครั้งและพลิกกายเอียงข้าง ยิ้มออกมาอย่างดีใจ ไม่อยากจะตื่นจากฝันดีนี้เลย พี่นะครับ
    พี่นะของวีคนเดียว แต่มันก็แค่ฝัน แค่ฝันสินะ ยิ่งคิดก็ยิ่งอยากร้องไห้ หยาดน้ำตาไหลซึมลงมาอีกครั้งพร้อมกับเสียงสะอื้นไห้เบา ๆ ของร่างบาง

    ปลายนิ้วแกร่งเอื้อมแตะปาดน้ำตาที่หลั่งรินนั้นให้อย่างแผ่วเบา เห็นแล้วก็อดสงสารไม่ได้ รู้ว่าปล่อยให้ไอ้วีมันเศร้าขนาดนี้ มาหาตั้งแต่วันแรกแล้วแหละ
    ไม่ปล่อยให้มานอนร้องไห้แบบนี้หรอก

    ความรู้สึกมันใกล้ชิดมากจนเกินไป จนปฐวีรู้สึกได้ ฝันอะไรมันจะชัดเจนขนาดนี้
    และเมื่อดวงตากลมโตค่อยหรี่ปรือขึ้นและก็พบกับใครคนหนึ่งตรงหน้า
    เพราะความตกใจทำให้ปฐวีรีบผลุนผลันลุกขึ้นนั่ง ไม่รู้จะทำหน้ายังไงดี
    ไอ้บ้าวีเอาแล้วมั้ยล่ะ มิน่าล่ะฝันบ้าอะไรมันจะชัดเจนขนาดนี้ ไม่ฝันแล้วล่ะนี่ ตัวจริงเสียงจริงเลยล่ะที่มานั่งอยู่ตรงหน้า

    มือเล็ก ๆ รีบเช็ดน้ำตาตัวเองออกให้หมด และขยี้แรง ๆ จนกฤษณะต้องดึงมือเล็ก ๆ นั้นเอาไว้ และเอ็ดเสียงเบา

    "ตีมือหักเลยไอ้วี..ขยี้ตาได้ไงวะ..มือสกปรกแล้วเอาไปขยี้ตาไม่มีใครสั่งใครสอนหรือไง"

    ร่างสูงหยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าเสื้อออกมาซับให้เบา ๆ
    และคนตัวเล็กกว่าก็ยังเบือนหน้าหนี ไม่ยอมให้สัมผัสได้
    จนเขาต้องดึงปลายคางเล็ก ๆ นั้นไว้ ให้หันมา ไม่งั้นไอ้น้องวีมันก็ยิ่งหันหน้าหนีอีก

    "อย่ามายุ่งกับผมดีกว่า...น่ารำคาญว่ะ.." ปากที่พูดก็ไม่ได้ตรงกับใจเลยไอ้น้องวี คิดถึงเขาแทบตาย แต่พอเจอหน้าก็พูดตรงข้ามกับที่ใจคิดทุกที

    "ก็เออดิ...ทำให้ไม่รำคาญจะมาทำไมวะ...แกล้งมาก็ต้องแกล้งกลับดิ..เอาคืนไงไอ้วีเข้าใจคำว่าเอาคืนหรือเปล่า" รู้ทางแล้วล่ะ คำพูดไม่ตรงกับใจของปฐวีน่ะ
    แล้วตอนนี้เขาก็รู้แล้วว่าจะจัดการกับไอ้คำพูดตรงข้ามกับหัวใจของคนตัวเล็กน่ารักนี้ยังไง ยิ่งมันกวนประสาท
    เขาก็ยิ่งกวนกลับ ให้มันบ้ากันไปข้างหนึ่งเลย ดูดิไอ้น้องวีมันจะทำยังไง

    "อ๋ออยากแกล้งกลับเหรอ...จะเอาไงว่ะมาเลยดิ...ไม่เคยกลัวเลยนะเว้ยไอ้พี่นะ.." ดูมัน..พฤติกรรมสวนทางกับความคิดเสมอ อยากจะโดดกอดเขาด้วยความคิดถึง
    แต่กลับไปดึงแขนเสื้อขึ้น ทำเป็นเก่ง จะต่อยตีกับกฤษณะซะได้ พฤติกรรมแบบนี้มันยิ่งน่ารักสำหรับกฤษณะดีเหลือเกิน

    "เฮ้ยยยยย ไอ้วี..ต่อยมาพี่นะจูบกลับนะเว้ย..แลกกันคนละที..พี่นะมีแต่กำไรนะ..เอาหรือเปล่า" ร่างสูงยิ้มกริ่ม สบกับดวงตากลมโตที่ยังแดงเรื่อเพราะการร้องไห้นั้น

    "ไอ้พี่นะบ้า...กลับบ้านไปเลยไป๊..เกะกะน่ารำคาญ" จากที่ดึงแขนเสื้อทำท่าห้าวหาญ กลับกลายเป็นหน้างอหงิก เออสิวะ
    ได้กำไรตลอดแหละ อะไรก็เป็นกำไรตลอดแหละ ไอ้วีขาดทุนขนาดนี้ไม่เคยร้องขอสักคำ เคยเข้าใจกันมั่งมั้ยล่ะวะ
    ยิ่งคิดยิ่งอยากร้องไห้ นี่เขากลายเป็นคนอ่อนไหวง่ายขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน

    "รำคาญอะไรห๊า...รำคาญได้ไง...คืนนั้นยังนอนซุกอกเรา..เนื้อตัวสั่นระริกน่ารักกว่าวันนี้ตั้งเยอะ.." กฤษณะแกล้งเบียดกายกระแซะร่างบางที่หน้าแดงเถือกไปเรียบร้อยแล้ว
    และยังผลักให้เขาออกห่างอีก จนเขาต้องรวบมือเล็ก ๆ นั้นเข้าหาตัว

    "ซุกอะไรวะ...ใครซุกวะ..คนมันเมา..ใครเขาถือคนเมากันล่ะวะ..บ้าเหรอ.." ยิ่งร่างสูงเข้าใกล้ ปฐวียิ่งร้อน ๆ หนาว ๆ อยากจะเอนศรีษะซบกับไหล่กว้าง
    แต่ก็ต้องดิ้นรนออกห่าง ย้ำกับตัวเองเสมอ พี่นะเกลียดเขาถึงได้แกล้ง ถึงได้แหย่ ต้องทำให้พี่นะเกลียดอีก ให้เกลียดมากกว่านี้อีก
    ถึงจะเจ็บปวดแค่ไหนก็ยอม ขอแค่พี่นะเกลียดจนฝังใจก็พอแล้ว
    "หือออออออ อะไร..จะหนีเหรอ..หือ" ยิ่งร่างบางอยากดิ้นหนี ร่างสูงก็ดึงมือเล็ก ๆ เข้าหา ใช้ปลายจมูกแตะเล่น และดึงตัวคนตัวเล็กกว่าให้เข้ามากอดได้ถนัด ๆ

    "ตอนนั้นเมา แต่เมื่อกี้จะบอกว่าละเมอหรือไง..ที่บอกว่ารักพี่นะน่ะห๊า...ไหนบอกสิ..บอกพี่นะสิ" อยากจะแกล้งไอ้คนตัวเล็กปากแข็งชอบทำอะไรตรงข้ามกับความคิดนี้เหลือเกิน
    ดูมันนะ รักเขาจะเป็นจะตาย ยังมีหน้ามาปากเก่งใส่เขาอีก ไอ้น้องวีนี่มันจะทำให้เขารักไปถึงไหนกันล่ะเนี่ย

    "เออ..ผมละเมอ...อย่ามายุ่งกับผมเด่ะ..โอ้ยยยย อย่ากอดได้มั้ย...จะรัดให้กระดูกแตกตายหรือไงวะ" ไอ้น้องวีโวยวายลั่นดิ้นรนไปมาอย่างนั้นแหละ
    แต่พอสัมผัสกับอ้อมกอดอบอุ่นที่โหยหา
    ร่างกายมันกลับทำตามใจสั่งไปเสียได้
    พี่นะ .......... กอดวีให้แน่นกว่านี้อีกได้มั้ย กอดให้แน่นกว่านี้อีก ให้ไอ้วีได้รับรู้ความสุข แค่ตอนนี้เท่านั้นก็ยังดี

    ฝ่ามือแกร่งกดให้ศรีษะมนของคนตัวเล็กในอ้อมแขนซุกซบกับอกของตัวเอง และกอดรัดร่างบางไว้แนบอก

    "ยุ่งไปแล้วนี่หว่า....รักไปแล้วด้วยอ่ะ...พี่ไม่ได้เมาไม่ได้ละเมอเหมือนวีนะรู้ป่าว..ไม่ได้จะแกล้งจะอะไรด้วยแถมพูดสวนทางกับความคิด
    แบบใครบางคนก็ไม่เป็นด้วย...ทำไงดีวะไอ้วี...ไอ้เด็กปากเสีย.." กฤษณะหัวเราะเสียงเบา กับคำพูดของตัวเอง

    นั่นไงล่ะ คำตอบ ร่างสั่นไหวในอ้อมแขน พร้อมเสียงสะอื้นไห้นั่นหล่ะคำตอบ ไอ้วีมันปากแข็ง จะให้พูดต่อหน้ามันก็ไม่ยอมพูด
    ต้องรอให้เผลอมั่งล่ะ ละเมอมั่งล่ะ ถึงจะได้ยิน

    ร่างสูงลูบไล้ศรีษะมนเล็กของร่างที่สะอื้นไห้อยู่แนบอกไปมา อย่างหวงแหน
    ไม่ปล่อยแล้วไอ้วี ไอ้เด็กบ้า ที่ชอบแกล้งเขาเนี่ย
    เหลือก็แต่จะจัดการยังไง กับเรื่องหมั้นของไอ้น้องวีดี แล้วจะทำยังไงถึงจะให้ได้ไอ้น้องวีมาครอบครองเป็นของตัวเองโดยสมบูรณ์
    กฤษณะกอดรัดร่างบางเอาไว้
    ในสมองก็ใคร่ครวญคิดทบทวนไปมา
    ทำไงดี
    ทำยังไงดีนะ
    ทุกคนถึงจะยอมรับเรื่องนี้
    ยอมรับเรื่องที่เขากับไอ้น้องวีรักกัน

    ***********************

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×