ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    INFINITE #LeadNam : Vampire High School

    ลำดับตอนที่ #3 : Reason

    • อัปเดตล่าสุด 31 ต.ค. 57


     

    Vampire High School 

    - ตอนที่ 3.1 -

     

     

     

    ทั้งที่คิดว่าจะจบชีวิตลงอย่างเงียบสงบด้วยการอุทิศตนให้เป็นเหยื่อของแวมไพร์ เพราะอย่างน้อยวาระสุดท้ายของชีวิตจะได้ไม่ต้องโดดเดี่ยว แถมยังได้ทำบุญทำทานไปในตัวด้วย

     

    ทว่าชินอูฮยอนกลับโดนแวมไพร์ตัวดีมัดมือชก พาลากขึ้นซุปเปอร์คาร์ราคาแพงระยับ จับยัดลงที่นั่งข้างคนขับพร้อมคาดเข็มขัดให้เสียแน่นหนา จากนั้นก็พารถไต่ขึ้นทางด่วนด้วยความเร็วด่วนจี๋ก่อนจะแล่นออกนอกเมืองไปสัมผัสกับสายลมและธรรมชาติยามค่ำคืนของเขตชนบทด้วยอารมณ์ผ่อนคลาย

     

    อย่างไม่มีทีท่าว่าจะทำให้เขาตายแบบที่เคยตกลงกันไว้เลยสักนิด

     

    ก่อนที่คุณจะฆ่า คุณมักจะพาเหยื่อของคุณมาเที่ยวเล่นแบบนี้เสมอเหรอ อูฮยอนถามอย่างคาดหวังว่าอีกฝ่ายจะยังคงรักษาคำพูดของตัวเอง

     

    เจ้าเอาที่ไหนมาพูด นี่ข้าไม่ได้ฆ่าคนมานานนับศตวรรษแล้วเถอะ ซองกยูปฏิเสธหน้าตาย

     

    แต่คุณเป็นคนบอกเองว่าจะให้ผมได้สัมผัสกับวินาทีแห่งความตาย เด็กหนุ่มเอ่ยทวง

     

    ตอนที่เจ้าเสียเลือดมากจนหมดสติไปนั่นไง วินาทีแห่ง(ความเป็น)ความตาย แวมไพร์แถ

     

    งั้นแสดงว่าคุณก็ไม่ได้คิดจะฆ่าผมตั้งแต่แรกแล้วสินะ อูฮยอนสรุปความหน้ามุ่ย การที่ต้องมาโดนคนอายุมากกว่าหยอกเล่นในเรื่องที่เขาจริงจังแบบนี้ มันไม่ตลกเอาซะเลย

     

    บ้านเมืองมีขื่อมีแป จู่ๆจะมาใช้ให้ข้าฆ่าเจ้าง่ายๆได้ไงกัน พวกแวมไพร์ฮันเตอร์ได้หาเรื่องล่าพวกข้าหมดเผ่าพอดี อุตส่าห์ทำสัญญาสมานฉันท์กันมาได้เป็นร้อยๆปีแล้ว ซองกยูทำทีอ้างนู่นอ้างนี่ไปอย่างนั้น

     

    แวมไพร์ฮันเตอร์ที่ฝีมือพอสูสีกับเขาพากันซี้แหงแก๋ไปหมดตั้งแต่สมัยโชซอนยังไม่ล่มสลายด้วยซ้ำ พวกหน้าใหม่ก็มีแต่พวกเหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อทั้งนั้น แล้วจะเอาอะไรมาเล่นงานรัชทายาทแวมไพร์เลือดบริสุทธิ์อย่างเขาได้

     

    ถ้าฆ่าไม่ได้ แล้วมาให้ความหวังกันทำไม ในน้ำเสียงของร่างบางมีแววตัดพ้ออย่างชัดเจนจนคนฟังสะอึก

     

     

    sss

     

    ก็ได้ๆ ซองกยูยอมจำนน จริงๆแล้วไม่ใช่ว่าฆ่าไม่ได้ แต่ไม่อยากฆ่า เพราะเจ้ามีความสำคัญต่อข้าไงล่ะ

     

    “ …………….. เด็กหนุ่มเบิกตากว้างด้วยความรู้สึกอึ้งกับประโยคตรงไปตรงมาของอีกฝ่าย

     

    ข... ข้าหมายถึงสำคัญต่อปากท้องของข้าต่างหาก ... ปากท้องน่ะ เข้าใจมั้ย!?! ฝ่ายแวมไพร์รีบแก้ตัวเป็นพัลวัน เพราะเกรงว่าอีกคนจะเข้าใจผิดไป

     

    อูฮยอนไม่ได้ตอบคำถามของอีกฝ่าย เขาได้แต่นั่งนิ่งไปตลอดทางด้วยความสับสน การที่ได้รู้ว่าตัวเองมีความสำคัญกับใครสักคน ไม่ยักรู้ว่ามันจะทำให้หัวใจพองโตได้ถึงขนาดนี้

     

    ถึงจะแค่สำคัญต่อปากท้องก็เถอะ!

     

    …………………………………………………..…………..

     

    กว่าจะรู้ตัวล้อรถก็หยุดหมุน พร้อมกับทัศนียภาพด้านนอกที่เปลี่ยนไป จากข้างทางที่เต็มไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ก็กลับกลายเป็นย่านตัวเมืองที่มีแต่ตึกสูงระฟ้า สถานที่ปลายทางซึ่งปรากฏอยู่ตรงหน้าของอูฮยอนแทนที่จะเป็นบ้านของตัวเอง ก็กลับเป็นคลับหรูที่เด็กมัธยมปลายผู้น่ารักอย่างเขายังไม่เคยมีโอกาสได้เหยียบย่างเข้าไปสักที

     

    ‘ V – A – M – P ’ ร่างบางมองตัวอักษร 4 ตัวที่อยู่บนป้ายไฟตัวใหญ่หน้าร้านพร้อมกับอ่านออกเสียงในใจ

     

    ว้าว นั่นมันคนน่ารักเมื่อคืนนี่นา ชายหนุ่มหน้าตาดีจัดราวกับเดินออกมาจากนิตยสาร Vogue Korea ที่อยู่ในชุดกาวน์เอ่ยทักร่างบางด้วยน้ำเสียงเอ็นดูพร้อมกับปรี่เข้ามาลูบหัวลูบไหล่ราวกับสนิทสนมกันมาแรมปี

     

    อย่าทำรุ่มร่าม แอล!!

     

    แวมไพร์แยงกี้ที่อูฮยอนเจอเมื่อคืนปรามแวมไพร์คุณหมอเสียงเข้ม เป็นจังหวะดีให้ร่างบางหนีไปซ่อนตัวอยู่ด้านหลังของซองกยูด้วยความรวดเร็ว

     

    ซองกยู ไปเปลี่ยนชุดก่อนเถอะ ใกล้ถึงคิว ‘vampir’ เล่นแล้ว เดี๋ยวฉันดูแลทางนี้ให้เอง ไม่ต้องเป็นห่วง

     

    ผู้ชายหน้าหวานรูปร่างผอมบางท่าทางเป็นมิตรบอกกับเจ้าของชื่อในประโยคก่อนเดินตรงเข้ามาหาอูฮยอนโดยที่มีผู้ชายหน้าตาน่ากลัวอีกคนคอยตามประกบอยู่ไม่ห่าง

     

    สวัสดีเด็กน้อย ฉันอีซองจงนะ เรียกซองจงฮยองก็ได้ ซองกยูเล่าเรื่องนายให้พวกเราฟังแล้วล่ะ

     

    อีกฝ่ายพูดแนะนำตัวด้วยน้ำเสียงอ่อนหวานไม่ต่างจากหน้าตา พลางรั้งข้อมือเขาให้เดินตามตัวเองเข้าไปยังด้านหลังของคลับ

     

    อูฮยอนหันมองซองกยูอย่างไม่มีเหตุผลราวกับกำลังรอคำอนุญาตอย่างไรอย่างนั้น แต่พอนึกได้ว่าแวมไพร์ตัวดีก็อาจจะคิดแบบนั้นเหมือนกันเลยรีบเดินตามพี่ชายคนน่ารักไปก่อนที่อีกคนจะทันได้พูดอะไรออกมา

     

    ซองกยูอ้าปากค้างที่เห็นเด็กที่ตัวเองพามาไว้ใจคนอื่นง่ายดายเกินคาด จึงหันมาออกคำสั่งกับคนที่กำลังตั้งท่าจะทำเนียนเดินตามเด็กน้อยของเขาไปแก้เก้อ

     

    ไปแอล เจ้าก็ต้องเปลี่ยนเอาชุดกาวน์เน่าๆนั่นออกเหมือนกัน

     

    …………………………………………………..…………..

     

    ตรงนี้ถือเป็นทางเข้าบ้านของเราเลยล่ะ ต้องใช้การ์ดเท่านั้น ถ้าไม่มีก็เข้าไม่ได้เลยน้า

     

    ซองจงทำหน้าที่ประหนึ่งมัคคุเทศก์ที่กำลังพานักเรียนม.ปลายมาทัศนศึกษานอกสถานที่ ร่างผอมบางพาอูฮยอนเดินลัดเลาะอย่างคล่องแคล่ว พร้อมกับเปล่งเสียงใสๆแนะนำนู่นนี่นั่นให้เขาฟังไปตลอดทาง

     

    ถึงจะไม่เข้าใจว่าอีกฝ่ายกำลังจะพาเขาไปไหนก็เถอะ แต่ก็เพลินดี

     

    มัวแต่มองตามแผ่นหลังบางจนไม่ทันสังเกตว่าทัศนียภาพรอบข้างเปลี่ยนไปแค่ไหนแล้ว อูฮยอนจำได้ว่าอีกฝ่ายพาเขาผ่านประตูสีขาวบานที่มีป้ายสีทองแปะเอาไว้ว่า ‘Staff only’ ที่อยู่ตรงด้านหลังคลับ แล้วก็เดินลงบันไดที่ทอดยาวลงมาสู่ชั้นใต้ดิน จากนั้นก็ลงลิฟต์

     

    อูฮยอนไม่รู้จะให้คำจำกัดความสถานที่ซึ่งปรากฏอยู่ตรงหน้าตัวเองว่าเป็นปราสาทที่ดูคล้ายโรงแรม หรือโรงแรมที่มีลักษณะคล้ายปราสาทดี แต่ที่แน่ๆเขารู้ว่าที่นี่เป็นแหล่งกบดานของพวกแวมไพร์

     

    ที่นี่อยู่ต่ำจากพื้นดินกว่า 40 เมตร แต่ไม่ต้องห่วงเรื่องความปลอดภัยนะ เพราะผนังทุกห้องของที่นี่ทำขึ้นจากวัสดุที่ทนทาน สามารถกันน้ำรั่วซึมได้เป็นอย่างดี หมดห่วงเรื่องความชื้น อื้มอากาศอาจจะเย็นหน่อยนะ แต่เราก็มีเครื่องทำความร้อนนี่นา จะกลัวอะไรล่ะเนอะ  

     

    เอ่อ แล้วทำไมคุณต้องพาผมมาที่นี่เหรอครับ ซองจงฮยอง? อูฮยอนเรียก ฮยองได้ไม่เต็มปากเต็มคำนัก เพราะอีกคนดูหน้าเด็กมาก ซ้ำรูปร่างยังบอบบางเกินชายเสียจนเขาชักไม่แน่ใจว่าสรรพนามแทนตัวอีกฝ่ายที่ได้ยินมามันถูกต้องจริงๆหรือไม่    

     

    นึกว่าจะไม่ถามซะแล้ว ซองจงพูดกลั้วหัวเราะ ตอนนี้นายไม่มีที่ไปใช่มั้ยล่ะ

     

    ก็นิดหน่อยครับ แวมไพร์นั่นใช้หนี้ให้เขา แต่กลับยึดบ้านเอาไว้เสียเอง อูฮยอนจึงบอกไม่ถูกเหมือนกันว่าตัวเขาในตอนนี้ได้กลายเป็นพวกร่อนเร่เต็มตัวหรือยัง

     

    จริงๆซองกยูหวังให้นายเข้ามาอยู่ด้วยกันกับพวกเราน่ะ เขาถึงได้พานายมาที่นี่

     

    แต่เขาไม่ถามผมสักคำ จู่ๆก็ยึดบ้านผมไปเป็นของตัวเองซะงั้น เด็กน้อยมุ่ยหน้าตอบ

     

    ไม่ใช่ว่าเขาอยากเป็นเจ้าของร้านต๊อกโบกีหรอกนะ แต่ที่ทำแบบนั้นลงไป ซองกยูเองก็มีเหตุผล แล้วส่วนตัวฉันก็เห็นด้วยกับเหตุผลของเขานะ

     

    ห...เหตุผลอะไรเหรอครับ อีกฝ่ายเล่นพูดดักคอไว้ซะขนาดนั้น อูฮยอนจึงไม่กล้าค้านอะไรกลับไปอีก ได้แต่ปั้นหน้าเจี๋ยมเจี้ยมรอฟังคำตอบ

     

    ซองกยูอยากปกป้องนายน่ะ ซองจงตอบพร้อมรอยยิ้มสวย

     

    ปกป้อง? ผม? ” ร่างบางชี้หน้าตัวเองด้วยท่าทางเหรอหรา
     

    เคยได้ยินหรือเปล่า หากบ้านไหนเปิดต้อนรับแวมไพร์ตนหนึ่งเข้าไปแล้ว แวมไพร์ตนอื่นๆก็สามารถเข้าไปในบ้านหลังนั้นๆได้เหมือนกัน ซองกยูไม่ต้องการให้นายเป็นอันตรายน่ะ ถึงได้ไม่อยากให้กลับเข้าไปอยู่ที่นั่นอีก  แล้วที่สำคัญก็ไม่อยากให้เหงาด้วย นั่นแหละประเด็น

     

    อูฮยอนอยากจะขอบคุณแวมไพร์ซองกยูพอๆกับความรู้สึกอยากกล่าวโทษ เหตุผลคืออีกฝ่ายรู้ดีว่าเขาอยากตายจะแย่ แต่ก็ดันมายัดเยียดชีวิตใหม่ให้ ทั้งที่เขายังไม่ทันจะละสังขารเดิมเสียด้วยซ้ำ

     

    ถ้าคิดว่าเขาจะยอมรับการกระทำห่ามๆแบบนี้ได้ ก็คงโลกสวยเกินไปหน่อยมั้ง

     

    อยู่ที่นี่ด้วยกันกับพวกเราเถอะนะ อูฮยอน

     

    ทันทีที่เขาตัดสินใจว่าจะต่อต้านการกระทำของซองกยูให้ถึงที่สุดปุ๊บ ซองจงก็โผเข้ามาคล้องแขนรั้งเขาไว้ปั๊บ ราวกับรู้ความคิดอย่างไรอย่างนั้น

     

    เอ่อออ...

     

    ... นะๆๆ... น้า

     

    ...อ่า... ค ..ครับ...

     

    และแล้วอูฮยอนก็ต้องยอมตกปากรับคำอย่างเสียไม่ได้ ก็อีกฝ่ายเล่นใช้ดวงตาสวยๆกับน้ำเสียงหวานหยดออดอ้อนเขาถึงขนาดนั้น ใครมันจะไปทนใจแข็งอยู่ได้

     

    …………………………………………………..…………..

     

    อย่างน้อยที่สุดอูฮยอนก็รู้สึกขอบคุณซองกยูจากใจจริงที่ทำให้เขาได้พบกับคนดีๆอย่างอีซองจง

     

    ซองจงฮยองเป็นคนสวย แถมยังอ่อนโยนใจดีเหมือนนางฟ้า อีกฝ่ายลงทุนเข้าครัวทำอาหารให้เขาทานด้วยตัวเอง ทั้งที่ปกติจะมีพ่อบ้านคอยเตรียมให้ เจ้าตัวบอกว่าตั้งแต่มาอยู่ที่นี่ก็ต้องทานอาหารคนเดียวมาตลอด เพราะสมาชิกร่วมบ้านที่เหลือล้วนแต่เป็นแวมไพร์กันหมด

     

    สรุปแล้วซองจงเป็นมนุษย์เหมือนกับเขา ซึ่งก็หมายรวมถึงเป็นพวกเหนือกฎ นั่นด้วย คุยกันมาตั้งนาน อูฮยอนก็เพิ่งรู้

     

    ถึงว่า อีกฝ่ายถึงได้ยินดีกับการมาของเขานัก

     

    อาหารฝีมือซองจงอร่อยถูกปากเขาไม่แพ้ที่มิสกงเคยทำให้เลยทีเดียว อ่างน้ำของที่นี่ก็ใหญ่โตและสะดวกสบาย เตียงนอนก็กว้างและนุ่มมาก ทุกอย่างล้วนยอดเยี่ยม

     

    เพียงแต่อูฮยอนรู้ดี ตั้งแต่ก้าวแรกที่ย่างเข้ามา ณ ที่แห่งนี้ว่าที่นี่ไม่ใช่ที่ของเขา ...

     

    ร่างบางถอดชุดนอนแบบกระโปรงที่มีขอบระบายลูกไม้สีหวานน่ารักที่อีกฝ่ายใจดีให้ยืมใส่แก้ขัดออก ก่อนจะกลับไปอยู่ในชุดนักเรียนที่ติดตัวเขาตั้งแต่ตอนขามาเหมือนเดิม

     

    ขอโทษ แล้วก็ขอบคุณมากนะครับ ซองจงฮยอง อูฮยอนบอกคนที่นอนหลับสนิทอยู่บนเตียงในความมืด

     

     

    - To be Continued in ‘Vampire High School’ Part 3.2 -

     

     

     

     

     TALK:

    สำหรับตอน 3 ที่พล็อตไว้ พอแต่งออกมาคือยาวมาก เลยต้องตัดแบ่งเป็น 2 พาร์ท

    ก็ว่าไปนั่น จริงๆมันคือข้ออ้างแหละ 555555

    เพราะเหตุผลที่แอบซ่อนคือเราแค่อยากมีฟิคลงในวันเทศกาลกะเขาบ้างไรบ้างแค่นั้น(!?!)

    เนื้อหาตอนนี้เบาหวิวมาก ไม่มีอะไรเลย มันจะไปหนักเอาตอน 3.2 (...น่าจะนะ)

    ขอบคุณทุกท่านที่แวะเข้ามาอ่านมาคอมเมนท์มากๆเลยนะคะ

     

    สุดท้ายนี้ Happy Halloween ค่ะทุกคน   ‵(*>﹏<*)′

     

    © HK FreeTheme;}
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×