ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    INFINITE #LeadNam : I’m Not him เพราะผมไม่ใช่เขา -End-

    ลำดับตอนที่ #3 : ไม่ได้รัก

    • อัปเดตล่าสุด 25 เม.ย. 57


     

     

    -3-

     

    ไม่ได้รัก

     

     

     

    ผมค่อยๆช้อนร่างกายอ่อนปวกเปียกของอูฮยอนลงมาวางไว้บนเตียงของตัวเอง บาดแผลภายในที่เกิดขึ้นไม่ใช่เรื่องล้อเล่นเลย นอกจากจะเสียเลือดมากแล้วเขายังมีไข้สูงจัด ซ้ำยังถูกละเลย ไม่ได้รับการปฐมพยาบาลตั้งแต่เนิ่นๆเสียอีก

     

    ขอโทษนะ อูฮยอน ฮยองขอโทษ ผมพร่ำพูดขณะเช็ดตัวให้เขา อูฮยอนนอนตัวสั่นอยู่ตลอดเวลาเพราะพิษไข้ นัยน์ตาปิดสนิทแต่ลูกตากลับกรอกไปมาอยู่ภายในไม่หยุด คนตัวเล็กนอนกระสับกระส่าย ดูทรมานเสียจนผมยิ่งรู้สึกผิดมากขึ้นไปอีก

     

    เขาไม่มีสติพอที่จะลุกขึ้นมาทานยาได้ด้วยตัวเอง จนผมต้องป้อนให้ด้วยปาก ยาลดไข้และแก้อักเสบอย่างละเม็ดที่ผมหวังว่าจะทำให้เขารู้สึกดีขึ้น

     

    นายดูเจ็บมาก ฉันจะทำยังไงดี หลังเห็นสภาพของอูฮยอน ผมก็ทำใจให้สงบไม่ได้เลย ลมหายใจที่ตอนแรกหอบถี่พอผ่านไปหลายชั่วโมงเข้าก็เริ่มแผ่วลงเรื่อยๆจนน่ากลัวว่ามันจะหยุดลงในไม่ช้า ทำเอาผมหวั่นใจจนใกล้บ้า

     

    มือที่คอยแต่จะบิดไล่น้ำออกจากผ้าขนหนูสำหรับเช็ดตัวให้อูฮยอนอย่างขะมักเขม้นเริ่มแสดงอาการซีดจนปลายเล็บเองก็ยังกลายเป็นสีม่วงคล้ำ แต่อุณหภูมิร่างกายของอีกฝ่ายกลับดูเหมือนจะไม่ได้ลดลงเลยแม้แต่น้อย

     

    ฉันไม่สนอะไรอีกแล้ว ฉันจะพานายไปโรงพยาบาล อดทนไว้ก่อนนะ อูฮยอน

     

    ต่อให้ภาพลักษณ์ของวงอินฟินิทจะย่ำแย่ถึงขั้นวิกฤตเพราะอาจจะมีข่าวแพร่ออกไปว่านักร้องนำของวงโดนลีดเดอร์ข่มขืนอาการสาหัสจนต้องหามส่งโรงพยาบาล หรือแย่กว่านั้นก็อาจจะโดนยุบวง หรืออะไรก็ตาม แต่ผมก็จะไม่สนมันอีกต่อไป

     

    ตอนนี้ผมสนแค่นัมอูฮยอนจะต้องปลอดภัย เขาจะต้องไม่เป็นไร

     

    ---------------*---------------*---------------

     

    วินาทีนี้สิ่งที่ผมปรารถนาจะได้เห็นมากที่สุดคือดวงตากลมใสแป๋วที่จ้องตอบกลับมา ไม่ใช่แพขนตานิ่งสนิทที่แนบอยู่บนผิวเนื้อขาวซีดไร้ชีวิตชีวาแบบนี้

     

    หนึ่งวันเต็มๆที่อูฮยอนนอนแน่นิ่งอยู่บนเตียงของโรงพยาบาล ผ้าก๊อซปิดแผลที่กระจายอยู่ทั่วทั้งตัวทำเอาเขาดูน่าสงสารเสียจนผมอดน้ำตาไหลไม่ได้ทุกครั้งที่มอง เข็มสายน้ำเกลือที่แทบหาที่เจาะไม่ได้เพราะทุกพื้นที่ของร่างกายเต็มไปด้วยบาดแผลและรอยฟกช้ำก็ยิ่งทำให้ผมรู้สึกผิดหนัก

     

    ...ซองกยู...ฮยอง จู่ๆคนที่เอาแต่หลับมาตลอดก็พึมพำเรียกชื่อผม

     

    หื้ม นายฟื้นแล้วเหรอ อูฮยอน ผมขานรับพลางสอดฝ่ามือเข้ากุมมือเรียวของเขาเอาไว้อย่างดีใจ

     

    รักฮยอง ... ผมรักฮยอง

     

    หัวใจผมเหมือนถูกบีบรัด รู้สึกตกใจจนแทบหายใจไม่ออก ผมไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าเขาคิดกับผมแบบนั้น แน่นอนว่าผมไม่ได้รู้สึกดีใจ เพราะคนเดียวที่ผมจะมอบหัวใจให้มีเพียงลีซองยอลเท่านั้น

     

    ผมอาจจะโง่เองที่คิดไม่ถึงว่าข้อเสนอของอูฮยอนมันไม่ใช่แค่เรื่องปลอบใจแลกกับการปลดปล่อยอะไรนั่นหรอก ใครจะยอมเสนอร่างกายตัวเองให้คนอื่นง่ายๆยิ่งเฉพาะกับผู้ชายด้วยกัน ถ้านั่นไม่ใช่เพราะรัก

     

    ผม..รักฮยอง...รัก..รักซองกยูฮยอง...รัก...รัก... ผมมองริมฝีปากอิ่มที่พร่ำบอกรักผมทั้งที่ไม่มีสติด้วยความจุกแน่นในอก

     

    หากอย่างน้อยก็รู้สึกโล่งใจที่ประโยคเหล่านั้นเป็นแค่อาการเพ้อไข้ของเจ้าตัว แต่ก็รู้ดีเช่นกันว่ามันเกิดจากจิตใต้สำนึก ดังนั้นมันจึงเป็นความจริงอย่างไม่ต้องสงสัย

     

    นี่ไม่แปลว่าตลอดมาผมทำร้ายเขาลงไปโดยไม่รู้ตัวหรอกหรือ?

     

    อูฮยอนเป็นคนที่ผมใกล้ชิดที่สุด แต่ตลอดเวลาที่ผ่านมาสายตาของผมเอาแต่มองไปที่ซองยอล

     

    เวลาผมต้องการที่พึ่ง ผมเรียกหาแต่อูฮยอน หากในขณะที่เรามีเซ็กส์กัน ผมกลับเอาแต่เรียกชื่อซองยอล

     

    เพราะไม่ได้รัก และไม่อยากทำร้ายเขามากไปกว่านี้ บางทีคงถึงเวลาแล้วที่ผมควรจะเอาตัวออกห่างจาก นัมอูฮยอน เสียที

     

    ---------------*---------------*---------------

     

    ฉันขอโทษที่ทำนายแบบนั้น ฉันเมา นายคงเข้าใจฉันนะ ผมพูดขอโทษเขาสำหรับการกระทำของผม

     

    ฮะ ผมเข้าใจ อูฮยอนที่เริ่มอาการดีขึ้นจนพอจะลุกขึ้นนั่งได้แล้วรับคำขอโทษของผมเอาไว้ด้วยรอยยิ้ม

     

    ต่อไปนี้ ฉันอยากให้นายอยู่ห่างๆฉันเอาไว้ เพราะฉันไม่รู้ว่าจะเผลอทำร้ายนายอีกเมื่อไหร่ มันยากไม่ใช่เล่นที่ระหว่างพูดผมต้องคอยบังคับเสียงของตัวเองให้คงระดับความแข็งกร้าวไว้ตลอด

     

    แต่.. ” รอยยิ้มบนใบหน้าน่ารักของเขาเริ่มจางลง

     

    ไม่มีแต่ ผมหลุดเสียงดุออกไปจนแทบกลายเป็นการตะคอก อย่าดื้อ ต่อไปนี้เชื่อฟังฉันในฐานะหัวหน้าวง รีบหายแล้วกลับไปทำงานซะ วงเราไม่ได้มีเวลาให้ใครมานอนป่วยนานๆหรอกนะ

     

    แล้วผมจะรีบหายเร็วๆฮะ สีหน้าของอูฮยอนหมองลงขณะตอบรับ ดวงหน้าหวานก้มลงจนคางแทบชิดกับอก

     

    ผมอยากจะตบปากตัวเองนักที่จู่ๆก็ยกประเด็นเรื่องงานขึ้นมากลบเกลื่อน ทั้งที่อีกฝ่ายก็ใช่ว่าอยากจะป่วยเสียเมื่อไหร่ ความผิดของผมเองทั้งนั้น

     

    ด้วยความผิดที่ผมก่อ ทางบริษัทจึงลงโทษผมด้วยการพักงาน ให้มาทำหน้าที่เป็นคนเฝ้าไข้อูฮยอนจนกว่าจะหายดีแล้วจึงกลับไปทำงานพร้อมกัน

     

    ถือเป็นการลงโทษที่ไม่สาสมกับความผิดสักนิด ด้วยเพราะทางบริษัทไม่อยากให้เรื่องนี้แพร่งพรายออกไปจนกลายเป็นเรื่องอื้อฉาวในวงการเพลง จึงพยายามปิดเป็นความลับ ไม่ให้รู้แม้กระทั่งเมมเบอร์ในวง ดังนั้นการลงโทษจึงกระทำโดยโจ่งแจ้งมากไม่ได้

     

    ฮยองฮะ

     

    มีอะไร

     

    เรายังเป็นเหมือนเดิมใช่มั้ยครับ

     

    ใช่ ผมเว้นวรรคไปชั่วอึดใจก่อนเพิ่มคำอธิบาย เราจะเป็นเหมือนเดิมก่อนที่นายจะยื่นข้อเสนอนั่น

     

    หลังสิ้นประโยคของผม ทั้งห้องก็มีแต่ความเงียบงัน ไม่มีฝ่ายไหนกล้าเริ่มประโยคใหม่ขึ้นมาสักที จนผมอดรนทนความอึดอัดไม่ไหว

     

    ห...หิวมั้ย รู้สึกอยากจะตบปากตัวเองอีกแล้ว ทำไมผมถึงได้สมองฝ่อถามอะไรแบบนี้ออกไปนะ ถ้าไม่ใช่ว่าอีกฝ่ายเพิ่งจะทานมื้อกลางวันเสร็จไปเมื่อครู่ คำถามนี้ก็คงจะเข้าท่าดีอยู่หรอก

     

    ฮึก แต่อูฮยอนไม่สนจะตอบคำถามของผมเลยสักนิด เพราะเจ้าตัวกำลังพยายามกลั้นน้ำตาเอาไว้อยู่ แต่ถึงที่สุดก็ทนไม่ไหวต้องปล่อยให้มันร่วงลงมาบนตักของตัวเองเงียบๆ

     

    ผมมองภาพตรงหน้านิ่งด้วยความตกใจและมึนงงไปในชั่วขณะ อะไรทำให้เขาเสียใจถึงขนาดนั้น อูฮยอนหวงความสัมพันธ์ในแบบ คู่นอน ของพวกเรามากอย่างนั้นเลยหรือ?

     

    ---------------*---------------*---------------

     

    ผมมองไม่เห็นนัมอูฮยอนคนเดิมเลยสักนิด

     

    เขายังคงพูดคุยเล่นหัวกับเมมเบอร์ ยิ้มแย้มแจ่มใสเป็นปกติ ใช่!! ภายนอกดูเหมือนจะเป็นอย่างนั้น แต่พอลับตาคนอื่นทีไร สีหน้าของเขาก็มักจะกลับมาเรียบนิ่งเสียจนผมจับกระแสหม่นเศร้าในดวงตาคู่สวยนั้นได้

     

    ผมอยากกินแกงกะหรี่ฝีมืออูฮยอนฮยอง

     

    กว่าจะซ้อมเสร็จก็ห้าทุ่มเข้าไปแล้ว แต่มักเน่ประจำวงก็ยังมีอารมณ์จะเลือกกินได้อยู่อีก ผมเหลือบมองสีหน้าเหน็ดเหนื่อยของคนที่ถูกอ้างถึงในประโยคด้วยความเห็นใจ

     

    แค่งานในตารางกับการซ้อมประจำวันก็ทำเอาคนเพิ่งหายป่วยแทบลมจับแล้ว กลับถึงห้องยังต้องมาเหนื่อยใจกับนิสัยรบเร้าเอาแต่ใจของเจ้าเด็กแสบต่ออีก

     

    อูฮยอนฮยองเพิ่งหายไข้นะ นายความจำเสื่อมเหรอซองจง โฮวอนกัด

     

    แล้วทำไมโฮย่าฮยองต้องว่าผมแรงๆงี้ด้วยล่ะ ไม่รู้ล่ะเปิดโหวตๆ ซองจงมองค้อนกลับอย่างแสนงอน ก่อนจะรีบวิ่งไปเรียกคะแนนให้ฝั่งตัวเองจากซองยอลกับมยองซูในห้องโถงทันที

     

    ไม่เป็นไร ยังไงฉันก็โหวตให้เราหาอะไรซักอย่างที่มันง่ายๆมาลงกระเพาะมากกว่าให้นายต้องมาเหนื่อยทำเองอยู่แล้วล่ะ ดงอูหยิบยื่นความใจดีให้กับอูฮยอน คนเป็นน้องฉีกยิ้มกว้างรับน้ำใจนั้นอย่างยินดี

     

    ซองยอลฮยองกับมยองซูฮยองเลือกข้างผมล่ะ ครู่ต่อมา ซองจงก็เดินยิ้มร่ากลับเข้ามาในห้องครัวอย่างอารมณ์ดี

     

    นายบอกตัวเลือกสองคนนั้นว่าอะไร โฮวอนรีบซัก

     

    ก็บอกว่าจะกินอะไรระหว่าง แกงกะหรี่ทำใหม่ๆจากในครัว กับ ข้าวกล่องแช่เย็นแข็งโป๊กในตู้

     

    เด็กขี้โกง โฮวอนว่า แต่ซองจงกลับทำลอยหน้าลอยตาไม่สนใจ

     

    ดงอูฮยองกับโฮย่าฮยองเลือกข้างอูฮยอนฮยองใช่มะ รู้หรอกน่า ทีนี้ก็เหลือแค่ซองกยูฮยองเสียงสุดท้า

     

    ถ้างั้นเดี๋ยวฮยองออกไปซื้อเครื่องปรุงก่อนแล้วกัน ยังไม่ทันที่ซองจงจะพูดจบดี อูฮยอนก็ลุกขึ้นพร้อมกระเป๋าสตางค์ของตัวเองกำไว้ในมืออย่างรวดเร็ว

     

    เฮ่ นี่ไม่สนใจจะฟังความคิดเห็นของฉันบ้างหรือไง ผมทักท้วง

     

    ผมรู้ดีครับว่าฮยองจะเลือกอะไร ขณะพูดประโยคนี้ แววตาของอูฮยอนเต็มไปด้วยอารมณ์ตัดพ้อจนผมรู้สึกได้

     

    จริงอยู่ ถ้าไม่ใช่เพราะอูฮยอนเพิ่งออกจากโรงพยาบาลเมื่อเช้านี้ ผมคงจะเลือกตามซองยอลอย่างทุกทีแบบไม่ต้องคิด

     

    แต่นี่มันไม่ใช่ไง!!!

     

    ก็อยากจะแก้ความเข้าใจผิดอยู่หรอก แต่ติดที่ยังไม่ทันได้อ้าปาก เจ้าตัวดีก็เร่งฝีเท้าเดินรัวๆไปจนถึงหน้าห้องแล้วไง แล้วผมจะทำอะไรได้ นอกจากปล่อยให้อีกฝ่ายเข้าใจผิดต่อไป

     

    ---------------*---------------*---------------

     

    ฮยองจะไปด้วยกันเหรอฮะ อูฮยอนหันมาถามระหว่างทางเดินไปซุปเปอร์มาเก็ตที่อยู่ตรงหัวถนนด้วยสีหน้าประหลาดใจ

     

    อืม ว่าจะไปซื้อเบียร์มาตุนไว้เพิ่มน่ะ ในตู้เย็นมันใกล้จะหมดแล้ว ผมสังเกตเห็นใบหน้าน่ารักนั่นหงอยสนิทลงในทันทีที่ผมพูดจบประโยค ไม่บอกก็รู้ว่าเขาคงผิดหวังมาก

     

    พวกเราเดินห่างจากกันประมาณครึ่งศอก ใกล้พอที่จะได้กลิ่นแชมพูกับกลิ่นกายหอมอ่อนๆที่คุ้นเคยจากตัวอูฮยอนได้ชัดเจน กลิ่นที่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าลึกๆแล้วผมยังคงคิดถึงมันอยู่ในทุกเมื่อเชื่อวัน

     

    ไม่มีทางที่จะลืมได้ง่ายๆหรอก ในเมื่อก่อนหน้าเราเคยใกล้ชิดสนิทแนบกันเสียขนาดนั้น เซ็กส์อันหอมหวานที่เกิดขึ้นเกือบทุกวันจนหลังๆแทบกลายเป็นขาดไม่ได้ ร่างกายที่ผมเคยก่ายกอดอย่างเอาแต่ใจ ต้องการเสียจนรู้สึกว่าเท่าไหร่ก็ไม่เคยพอ ใครจะลืมได้ลง

     

    เสียงฝีเท้าสองคู่ย่ำผ่านเสาไฟต้นแล้วต้นเล่าอย่างเป็นจังหวะ ไม่มีประโยคสนทนาใดๆเกิดขึ้นระหว่างเราอีก ปกตินัมอูฮยอนไม่ใช่คนพูดน้อยขนาดนี้ ผมอึดอัดแทบบ้า แต่จนแล้วจนรอดก็พาตัวเองเดินมาถึงที่จนได้โดยที่สติยังไม่แตกไปเสียก่อน

     

    เดี๋ยวผมจะไปดูของสดตรงนั้น อูฮยอนเดินเร็วๆหายเข้าไปในบริเวณที่ว่าแทบจะทันทีที่เขาพูดจบ ไร้ซึ่งความสนใจผมโดยสิ้นเชิงราวกับจะบอกเป็นนัยๆว่าให้ผมจะไปไหนก็ไป

     

    ผมเลือกหยิบเบียร์ยี่ห้อประจำขึ้นมาหย่อนลงตะกร้าเสียสองแพ็คเป็นอันเสร็จธุระของผม จากนั้นจึงกวาดตามองหาอีกคนที่มาด้วยกัน

     

    ร่างเล็กของเมนโวคอลประจำวงกำลังเดินใจลอยอยู่หน้าตู้แช่ของสด ตะกร้าที่อยู่ในมือเรียวยังคงว่างเปล่า

     

    นี่มันก็ดึกแล้ว ไม่ใช่ว่านายต้องรีบเพราะมีคนรอกินของที่นายทำอยู่หรอกหรือไง ถึงจะรู้สึกติดใจในอาการแปลกๆของอูฮยอน แต่ผมก็ไม่สามารถแสดงความเป็นห่วงออกไปตรงๆได้เหมือนอย่างที่ผ่านมา

     

    ฮะ ผมจะรีบ เขาตอบรับปกติแต่ร่างกายกลับเริ่มโงนเงน จนในที่สุดตะกร้าก็ปลิวหลุดออกจากมือพร้อมกับร่างผอมบางที่ทรุดลงกับพื้น

     

    อูฮยอน!!! ผมรีบปรี่เข้าไปประคองในทันที ร่างกายที่อุ่นเกินพอดีของอูฮยอนเตือนให้ผมรู้ว่าอีกฝ่ายเริ่มอาการไม่ดีเสียแล้ว ไข้กลับเหรอเนี่ย ไม่ไหวทำไมไม่บอกกัน

     

    ผมไหว เขาพยุงตัวขึ้นยืนอย่างทุลักทุเล

     

    ถ้าไหวแล้วจะวูบไปแบบนี้เหรอ กลับได้แล้ว ไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้นแล้ววันนี้!! ”

     

    ผมไม่เป็นไร

     

    อยากเรียกร้องความสนใจ? อยากเป็นฮีโร่เหรอ ชอบฝืนทำอะไรเกินตัว นี่แหละคำจำกัดความของนัมอูฮยอน ผมล่ะเกลียดนิสัยข้อนี้ของเขาจริงๆสิพับผ่า!!

     

    ผมแค่ทำตามเสียงส่วนมาก ผมหงุดหงิดกับคำๆนี้พอสมควร มันเป็นเสียงส่วนมากที่อีกฝ่ายเข้าใจไปเองทั้งนั้น

     

    งั้นจะทำอะไรก็ทำ!! ” รู้สึกผิดที่กระแทกเสียงใส่อูฮยอนไปแบบนั้นอยู่เหมือนกัน ถึงผมจะโมโหเขา แต่กลับโมโหตัวเองมากกว่าที่มัวแต่ทำเป็นน้ำท่วมปาก

     

    ไม่ใช่ไม่อยากอธิบาย แต่อธิบายไม่ได้ต่างหากว่าแท้ที่จริงแล้วผมพร้อมจะเลือกข้างเขาตั้งแต่ต้น

     

    ณ เวลานี้ หากผมหยิบยื่นความใจดีให้อูฮยอน มันก็รังแต่จะทำร้ายเขาไปเปล่าๆ

     

     

     

    SQWEEZ
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×