คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : -Chapter 1-
ใสซื่อจนโดนล่อลวงได้ง่ายๆคือนิสัยนัมแท (ปล.ภาพไม่เกี่ยวกับเรื่องจ้า)
Male Pregnant
-Chapter 1-
ถ้าไม่มีผลงานก็คงเอาตัวรอดยาก ในยุคเศรษฐกิจตกสะเก็ดแบบนี้ คนตกงานมีกันให้พรึบพรับ บรรดามหาวิทยาลัยน้อยใหญ่หลายแห่งจึงมักสรรหากิจกรรมการประกวดต่างๆให้นักศึกษาได้ลงประชันฝีมือเพื่อเฟ้นหาบุคลากรที่มีผลงานอันโดดเด่นซึ่งจะถูกต่อยอดไปสู่การพัฒนาประเทศเกาหลีได้ต่อไปในอนาคต
มหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีคยองจูแห่งนี้ก็เช่นกัน ที่แม้ตอนนี้จะผ่านช่วงหัวค่ำมานานหลายชั่วโมงแล้ว แต่กลับมีกลุ่มนักศึกษาไฟแรงหลายกลุ่มที่ยังคงนั่งสุมหัวกันคิดสร้างสรรค์ผลงานของตัวเองอยู่ตามจุดต่างๆของมหาวิทยาลัยอย่างขะมักเขม้น
และหนึ่งในนั้น...
“ ย้าฮู้ววววว!!! เห็นมั้ยพวก ว่านี่อะไร ” นักศึกษาหนุ่มชั้นปีสุดท้ายหน้าตาดีแต่มีนิสัยกระตือรือร้นแบบแปลกๆไม่เข้ากับหน้าร้องตะโกนบอกพรรคพวกที่เหลือในห้องแล็ปพร้อมกับโบกขวดยาสีชาขนาดกลางในมือไปมาอย่างบ้าคลั่ง
“ ว้าวๆๆๆๆ พี่จินอู อย่าบอกนะว่า พี่ทำสำเร็จแล้วน่ะ ” คนที่เด็กที่สุดในกลุ่มหันมาถามอย่างตื่นเต้น
“ ใช่แล้ว เดาไม่ผิดหรอกเด็กน้อยเอ๋ย ด้วยสิ่งนี้แหละจะทำให้พวกเรากลายเป็นทีมที่เจ๋งที่สุดในโลกหล้า ฉะนั้นจงกราบกรานมันซะเถอะไอ้น้องเอ๊ย ” จินอูชูหลอดในมือขึ้นเหนือหัว ก่อนที่น้องชายตัวบางจะรับมุขด้วยการก้มลงคารวะขวดยานั่นปลกๆราวกับว่ามันคือเทพเจ้าในยุคนี้
“ เออ เดี๋ยวก่อนนะ แล้วใครจะเป็นคนกินมันไม่ทราบวะ ” ชายหนุ่มที่มีฟันซี่หน้าแสนโดดเด่นท่าทางขี้โวยวายถามขึ้นขัดพฤติกรรมบ้าจี้ของสองรุ่นพี่รุ่นน้อง ก่อนจะหิ้วแขนคนน่ารักให้ลุกจากพื้นขึ้นมายืนข้างตัวเอง
“ ไม่รู้ แต่ไม่ใช่ฉันแน่ๆล่ะ ” จินอูตอบปฏิเสธด้วยท่าทางสบายๆ โดยไร้เสียงคัดค้านจากคนอื่นๆในทีม ก็แน่ล่ะ คนเป็นหัวหน้าทีมคือเขา คนคิดโครงการก็คือเขา คนที่ทำตัวยาสำเร็จก็เขาอีก แล้วมันเรื่องอะไรที่จินอูยังจะต้องเอาตัวเองเข้าไปเสี่ยงเป็นหนูทดลองยาอีกเล่า
“ แล้วก็ต้องไม่ใช่ฮันบินแน่ๆด้วยล่ะ เพราะหนึ่ง น้องยังเด็ก สอง น้องตัวเล็กนิดเดียวร่างกายอ่อนแอ ” จีวอนตอบก่อนโอบร่างบางๆเข้าหาตัวเองอย่างหวงแหนเว่อร์ๆ
“ แหม ให้มันน้อยๆหน่อยเถอะ ไอ้คิมบับ ฮันบินมันเป็นน้องฉันนะได้ข่าว ” คนหน้าหวานที่สุดในทีมอดเอ่ยขัดด้วยน้ำเสียงหมั่นไส้ไม่ได้ที่เพื่อนตัวเองทำท่าทางเป็นห่วงเป็นใยน้องชายของเขาออกนอกหน้าพี่ชายคนนี้เสียเหลือเกิน
“ เออ ใช่ แกพูดขึ้นมาก็ดีแล้ว แกนั่นแหละไอ้แทแท กินเข้าไปเลย เพราะมีแค่แกคนเดียวเลยนะที่ยังไม่ได้ทำอะไรให้โครงการของเราเลย ” จีวอนตีมือตัวเองดังเพี้ยะอย่างนึกขึ้นได้ ก่อนรีบฉวยขวดยาในมือจินอูไปใส่ไว้ในมือเพื่อนรัก(?)ทันที
“ ฉันคนเดียวจริงดิ เฮ้ย ฮันบิน นายทำหน้าที่อะไรในนี้วะ ” แทฮยอนเลิกคิ้วด้วยความประหลาดใจ ก่อนหันไปโบ้ยถามฮันบิน เพราะแน่ใจว่าน้องชายติงต๊องของเขาที่เป็นแค่ตัวแถมในทีมก็คงไม่ได้ทำอะไรเหมือนกัน
“ เสียใจด้วยพี่แทฮยอน ผมเป็นฝ่ายสวัสดิการ คอยซื้อข้าวซื้อน้ำให้พวกพี่ๆ เพราะฉะนั้นก็คงมีแต่พี่แทฮยอนเท่านั้นแหละที่ไม่ได้ทำอะไรเลย” ฮันบินยิ้มร่าตอบ ทำเอาหน้าสวยของคนเป็นพี่ออกอาการขัดใจอย่างเห็นได้ชัด
“ อย่างที่น้องนายพูด เพราะงั้นก็รีบๆกินเข้าไปซะ จะได้มีประโยชน์กับเค้าซักที ” เสียงทุ้มพูดแทรกขึ้นก่อนที่ร่างสูงๆจะเดินออกมาจากมุมมืดของห้อง
“ นายหาว่าฉันไร้ประโยชน์รึไงห๊ะ ไอ้ซงมินโฮ ” ตาคมตวัดฉับไปที่ร่างสูงก่อนส่งเสียงโวยวายลั่นอย่างไม่ยอม
“ ก็รึไม่ใช่ ” มินโฮถามกลับ
“ ก็ไม่ใช่น่ะสิวะ ” ปฏิเสธไม่ยอมรับความจริงไปอย่างหน้าด้านๆ
“ หึ ” มินโฮส่งเสียงเยาะเบาๆในลำคอ ทำเอานัมแทฮยอนยิ่งรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นคนโง่เข้าไปทุกที
“ พี่แทฮยอนๆ พี่ยอมกินเข้าไปเถอะ ถ้าพี่ทำตัวมีประโยชน์แล้ว วันหลังพี่มินโฮจะได้ว่าพี่ไม่ได้อีกไง อีกอย่างถ้าพี่ยอมทำในสิ่งที่ไม่มีใครกล้า รับรองได้ว่า ดูแมนสุดๆล่ะ ” ฮันบินเดินไปมากระซิบบอกพี่ชายอย่างหวังดี(?)
“ อ่า นั่นก็จริงนะ ” แทฮยอนรับคำอย่างง่ายดาย “ เอาล่ะ ฉันจะกินมัน ทีนี้อย่ามาหาว่าฉันไร้ประโยชน์อีกล่ะ พวกนายน่ะ ”
สี่คนที่เหลือมองร่างบางกระดกตัวยาลึกลับที่ถือเป็นความสำเร็จก้าวแรกของโครงการด้วยความลุ้นระทึก คิ้วตกๆที่ขมวดเข้าหากันหลังจากลิ้นแตะเข้ากับรสชาติขมเฝื่อนของสิ่งที่อยู่ในขวด ทำเอาพวกที่เหลือใจคอไม่ดี กลัวว่าร่างบางจะหยุดกินเอากลางคัน แต่โชคดีที่ไม่เป็นอย่างนั้น เพราะนัมแทฮยอนกลับมีความรับผิดชอบในคำพูดของตัวเองมากพอที่จะฝืนกระเดือกยาน้ำรสชาติห่วยๆนั่นลงไปจนหมดขวด
“ ว้าวๆๆๆๆ พี่แทฮยอนแมนมากๆ ” ฮันบินยิ้มร่า กระโดดเข้าไปกอดคอพี่ชายตัวเองพร้อมกับร้องอวยอย่างตื่นเต้น
“ เป็นไงล่ะ พี่ชายนายเจ๋งใช่มั้ย ” แทฮยอนยักคิ้วให้น้องชายอย่างโอ่ๆ
“ แปะๆๆ เจ๋งมาก ฉันขอชื่นชมด้วยอีกคน ” มินโฮแกล้งตบมือให้ พลางยิงคำถามต่อ “ แต่ว่าก็ว่าเถอะ นายรู้รึเปล่าว่าไอ้ที่กินลงไปนั่นน่ะเป็นยาอะไร ”
“ ม...ไม่เห็นจำเป็นต้องรู้ เพราะไม่ว่าศัตรูจะเป็นใครก็ตาม ผู้กล้าอย่างฉันก็ต้องพร้อมรับทุกสถานการณ์อยู่แล้ว ” แทฮยอนทำทีเปรียบเปรยไปอย่างนั้น เพราะจริงๆเขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าไอ้ที่กินเข้าไปนั่น มันเป็นยาอะไร
“ โถ จริงๆก็ไม่ได้รู้เรื่องอะไรกับเขาเลยล่ะสินะ ” มินโฮถากถางพลางส่งรอยยิ้มเยาะเย้ยให้อีกฝ่าย
“ พี่แทฮยอนอะ อย่าโชว์โง่สิฮะ โครงการเราชื่อ ‘Male Pregnant’ นะฮะ พี่ต้องพอเดาได้สิว่ายานั่นคือยาอะไร ” ฮันบินว่า ดูเผินๆเหมือนเด็กน้อยไม่ต้องการให้ใครมาว่าร้ายพี่ชายตัวเอง แต่แทฮยอนกลับรู้สึกคล้ายกับกำลังโดนน้องชายของตัวเองหลอกด่ายังไงยังงั้น
“ …………….. ” แทฮยอนเกาหัวแกรกเพราะสมองกำลังประมวลผลถึงคีย์เวิร์ดสำคัญนั้นอยู่
“ อย่าบอกนะว่านายไม่รู้แม้กระทั่งคำแปลของชื่อโครงการ ให้ตายเหอะ นายจะทำให้ฉันขำไปถึงไหน ฮ่าๆๆ ” มินโฮพูดไปเอามือกุมท้องไป ทำเอาแทฮยอนชักรู้สึกหมั่นไส้ท่าทางแบบนั้นเสียเหลือเกิน
“ เออ แล้วมันแปลว่าไงล่ะวะ ‘Male Pregnant’ ห่าเหวอะไรนั่น ” แค่โง่อังกฤษไม่ได้แปลว่าโง่ แทฮยอนเข้าข้างตัวเองแบบนั้นในใจ ก่อนระเบิดคำถามแสดงระดับไอคิวของตัวเองออกไปโครมใหญ่
“ ถ้าแปลตามตัว มันก็แปลว่า ผู้ชายท้อง แล้วยาที่นายกระเดือกลงไปนั่นก็คือยาที่ทำให้ผู้ชายท้องได้ยังไงล่ะ แค่นี้ก็ไม่รู้ นายมันจะฉลาดน้อยเกินไปแล้วนะ แทฮยอน ” มินโฮตอบอย่างฉะฉาน ตบท้ายด้วยคำพูดแดกดันร่างบางอย่างที่ชอบทำจนเป็นนิสัย
“ ท้อง!?! เป็นผู้ชายจะอยากท้องไปทำไมวะ ” จริงๆจุดนั้นไม่ใช่ประเด็นที่แทฮยอนอยากได้คำตอบที่สุดหรอก แต่ตอนนี้สมองน้อยๆของเขามันตื้อไปหมดจนไม่รู้จะเริ่มตั้งคำถามจากตรงไหนแล้วต่างหาก
…ก็ตั้งแต่ตอนที่ได้ยินว่า ตัวเองต้องเป็นคนตั้งท้องนั่นล่ะ
“ แหม เพศที่สองที่สามเค้ามีกันออกเกลื่อน ชายรักชายเดี๋ยวนี้ก็มีเยอะแยะจะตาย ” จินอูพูดพลางปรายตาไปยังเพื่อนเหยินกับน้องเล็กของทีมที่นั่งกระหนุงกระหนิงกันอยู่บนโซฟามุมห้องนั่น “ เราก็แค่ให้วิทยาศาสตร์เป็นคำตอบของคนเหล่านั้นไง แล้วรับรองได้เลยว่า ยาที่ทำให้ผู้ชายท้องได้ ต้องยังไม่มีใครคิดได้แน่นอน แล้วที่หนึ่งของประเทศก็จะตกอยู่ในกำมือของเราล่ะ ฮุฮิฮุฮิ ฮิฮิฮุฮุ ” ตบท้ายด้วยเสียงหัวเราะเพื้ยนๆประจำตัวคนหน้าตาดีแต่มันสมองมีปัญหา(?)
“ แล้วทำไมแกไม่หาไอ้ตัวเพศที่สองที่สามของแกมาเป็นคนกินล่ะ ทำไมต้องเป็นฉันด้วยวะ ” แทฮยอนโวยวายอย่างขัดใจ
“ คิดจะเอาชนะทีมอื่น งานของเราก็ต้องเป็นความลับดิ เพราะงั้นนอกจากพวกเรา 5 คนแล้วจะให้ใครรู้อีกไม่ได้เด็ดขาด แล้วฉันก็คิดว่านายน่ะ เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดในทีมแล้ว เพราะนายสวยสุดไง แทฮยอน ” จินอูว่าเป็นเชิงเอาใจ
“ ชมกันอย่างนี้ดีใจตายหองเลยว่ะ ” แทฮยอนประชด ก่อนกระแทกตัวลงนั่งตรงกลางระหว่างจีวอนกับฮันบินอย่างอารมณ์เสีย “ แล้วนี่ต้องท้องไปอีกกี่เดือนวะเนี่ย ”
“ ไอ้บ้า แค่กินเข้าไปเฉยๆมันยังไม่ทำให้นายท้องได้ในทันทีหรอกนะ ” จีวอนรีบพูดดักคอเพราะพอจะเดาความคิดของเพื่อนผู้ไม่ประสีประสาในเรื่องเพศศึกษาออกได้ไม่ยาก
ด้วยการเลี้ยงดูที่ออกจะประคบประหงมจนเกินพอดีของที่ครอบครัว ทำให้แทฮยอนและฮันบินสองศรีพี่น้องที่น่ารักราวกับนางฟ้าค่อนข้างที่จะใสซื่อบริสุทธิ์กับเรื่องพรรค์อย่างว่าอยู่มากโขเลยทีเดียว
“ เอ้า! ไหนบอกยาที่กินเข้าไปทำให้ท้องไง ” ร่างบางถามหน้าซื่อ คนอย่างเขาไม่เคยสนใจหรอกว่าการจะทำให้เด็กเกิดมาสักคนหนึ่งต้องผ่านกระบวนการอะไรบ้าง
“ ก็ใช่ไง แต่แกต้อง... เอ่อ...ต้องซั่ม.... ” จีวอนรู้สึกกระดากใจเล็กๆที่จะต้องพูดเรื่องเพศต่อหน้าฮันบินที่แสนบริสุทธิ์ซึ่งนั่งอยู่ถัดไปจากแทฮยอน
“ พี่แทฮยอนต้องมีเพศสัมพันธ์กับผู้ชายก่อนไงล่ะ ถึงจะท้องได้ ผมเคยเห็นในหนัง ” จู่ๆฮันบินก็โพล่งขึ้นมา ทำเอาตาเล็กๆของจีวอนถึงกับเบิกโพลงอย่างไม่รู้ว่าจะดีใจหรือเสียใจดี เพราะคิดไม่ถึงจริงๆว่านางฟ้าน้อยๆที่น่ารักของเขาจะแอดวานซ์ถึงขั้นนี้แล้ว …ถึงภาษาที่ใช้มันจะฟังดูบ้านนอกไปหน่อยก็เถอะ
‘มีเพศสัมพันธ์’ สมัยนี้เขายังไม่เลิกใช้กันอีกเหรอเนี่ย!?!
“ ห๊ะ!!!! ” แทฮยอนอ้าปากค้าง ทำสีหน้าอับจนหนทางเหมือนนางฟ้าตกสวรรค์ นรกลงทัณฑ์อะไรประมาณนั้น
“ ใช่แล้วล่ะ ส่วนผู้ชายที่ว่านายคงต้องเลือกเอาจากแถวๆนี้แหละ เพราะอย่างที่จินอูมันว่า งานของเราต้องเป็นความลับน่ะนะ ” จีวอนแนะ
แทฮยอนกลืนน้ำลายลงคอไปอย่างฝืดๆ เมื่อหนึ่งนาทีที่แล้วเคยคิดว่าลำพังแค่ต้องมาตั้งท้องแบบผู้หญิงนี่มันก็เกินทนสุดๆแล้ว แต่นี่ยังต้องมาหาพ่อให้ลูกอีก มันจะไม่เกินไปหน่อยเหรอ ชีวิต
คิดพลางเหลือบมองผู้ชายที่เหลือนอกจากตัวเองอีก 4 คนไปพลางอย่างพิจารณา คนแรกที่จะตัดทิ้งแน่นอนคือไอ้ซงมินโฮคนนั้น เพราะนิสัยเข้ากันไม่ได้แบบสุดๆ ไม่อยากให้มันมาเข้าใกล้สุงสิงกวนใจอะไรทั้งนั้น
“ ไม่ต้องเลือกฉันนะเพื่อน เพราะฉัน...น้องแกอะ นะๆ ” จีวอนกระซิบเบาพลางส่งสายตาให้แทฮยอน ทำทีให้รู้กันว่าตัวเขาซัมติงอะไรกับฮันบินอยู่จนแทฮยอนนึกอยากจะด่ามันสองคนขึ้นมาติดหมัด เพราะเพิ่งนึกได้ว่าไอ้สองตัวข้างๆเขามันก็ไอ้ประเภทชายรักชายอย่างที่จินอูมันว่านั่นไง แล้วทำไมไม่ให้ฮันบินกินยานั่นแทนเขาตั้งแต่แรกล่ะวะ
ถ้าเป็นอย่างนั้น แทฮยอนจะยินดียกฮันบินให้เหยินเพื่อนรักมันเปิดซิงเสียบัดนาวได้เลย ตามสบาย ถ้าแลกกับการที่เขาจะไม่ต้องเสียเอกราชให้กับผู้ชายด้วยกันเองแล้วล่ะก็นะ มันก็คงคุ้มอยู่หรอก
“ แล้ว...กับน้องชายตัวเองได้มั้ยวะเนี่ย ” แทฮยอนบ่นพึมพำ หลังจากสมองน้อยๆเพิ่งฆ่าชื่อคิมจินอูทิ้งไปจากลิสต์อีกคนอย่างสดๆร้อนๆ เพราะคิดว่าคนที่บ้าการทดลองขนาดเอาแต่ขลุกอยู่ในห้องแล็ปทั้งวันและอยู่กับหลอดทดลองทั้งคืนอย่างหมอนั่น คงน่ากลัวเกินไปที่จะจับเอามาเป็นคู่นอนของเขา
“ อย่ามาบ้าเลย ไอ้แทฮยอน มีอะไรกับน้องตัวเอง ผิดศีลธรรมตายห่าเลยนะโว้ย ” จีวอนว่าอย่างไม่ได้ฉุกคิดเลยสักนิดว่าไอ้ตัว ‘ศีลธรรม’ ที่ตัวเองกำลังพูดอยู่นั่น มันคงโบกมือลาพวกเขาไปตั้งแต่วินาทีที่จินอูคิดโครงการนี้ขึ้นมาแล้วล่ะ
“ ใช่ๆ แถมลูกออกมามีเปอร์เซ็นต์เป็นเอ๋อสูงด้วยนะ พี่แทฮยอน ” ฮันบินรีบสนับสนุน เพราะนึกกลัวใจพี่ชายตัวเองขึ้นมาตงิดๆ
“ โอยยย ฉันทำไม่ได้ ฉันขอถอนตัวได้มั้ย ” แทฮยอนว่าเสียงเครียดก่อนจะยกแขนขึ้นก่ายหน้าผากตัวเองอย่างคิดหนัก
“ ยอมแพ้ง่ายจังนะนาย ไม่แมนเลยว่ะ ” มินโฮแกล้งแหย่ เพราะพอจะรู้จุดอ่อนของอีกฝ่ายอยู่บ้าง
“ ฉันแมน!! แมนมากๆ มากของมาก ” แทฮยอนตวาดแว้ด พลางส่งสายตาคมตวัดฉับจนมินโฮรู้สึกเสียวสันหลังวาบ ก่อนที่ใบหน้างามๆจะหันไปหาอีกคน “ จินอู นายไปกับฉันเร็วๆเลย ”
“ ป..ป..ไปไหน ” จินอูถามอย่างกล้าๆกลัวๆ
“ ก็ไปมีเพศสัมพันธ์กันไง ” แทฮยอนบอกคำตอบอย่างฮาร์ดคอร์ก่อนฉุดข้อแขนขาวๆที่ไม่ค่อยมีโอกาสได้เจอแสงเพราะมัวแต่หมกมุ่นอยู่กับการทดลองของจินอู ทั้งจูงทั้งลากท่านหัวหน้าทีมให้ออกจากห้องแล็ปไปอย่างบ้าคลั่ง
“ ไม่ได้ว่ะ ” จินอูสะบัดแขนทิ้ง
“ ทำไมล่ะวะ ” แทฮยอนได้แต่ทำหน้าสงสัย
“ ฉันเป็นหมัน ” จินอูพูดปด เพราะความจริงคือเขาทำใจกดเพื่อนตัวเองที่เห็นกันมาตั้งแต่เกิดไม่ได้มากกว่า
ถึงไอ้แทฮยอนมันจะทั้งขาวหมวย ทั้งสวยเอ็กซ์ ทั้งน่ารักน่ากอดแค่ไหนก็เถอะ แต่ถ้าจะให้จินอูไปกดมัน สู้บังคับให้ไปเขาไปเต้นกงงอยโชว์หน้ามหาลัยซักสิบรอบยังจะดีซะกว่า
“ ทำไมต้องมาเป็นหมันเอาตอนนี้ด้วยวะ ” แทฮยอนเริ่มเหวี่ยงแบบไร้เหตุผล
“ อ้าว ไอ้นี่หนิ เป็นหมันนะเว้ยไม่ได้เป็นเมนส์ มันถึงเป็นปุปปับกันได้ ” จินอูว่า
“ โอ๊ย แล้วจะให้ฉันทำไง ” แทฮยอนถามพลางใช้มือกุมหัวแน่นเหมือนสิ้นหวังแล้วกับชีวิตที่เหลืออยู่นี้
“ นายไม่มีทางเลือกแล้วล่ะแทฮยอน ” มินโฮแทรกขึ้น พลางเดินมาฉุดข้อมือเรียวให้เดินไปด้วยกัน
“ นี่ ปล่อยนะโว้ย จะพาฉันไปไหน ” แทฮยอนโวยวายถาม พลางรั้งตัวเองเอาไว้กับที่อย่างสุดความสามารถ
“ ก็ไปมีเพศสัมพันธ์กันไงจ๊ะ ” มินโฮหันมาฉีกยิ้มกว้างใส่อย่างล้อเลียนคำพูดที่อีกฝ่ายเคยใช้กับจินอู
“ ไม่โว้ย ทำไมฉันต้องมีกับแก ” แทฮยอนตวาดแว้ดใส่ทันที
“ โง่อีกแล้ว ก็ฉันเป็นคำตอบสุดท้ายของนายไง แทฮยอน ”
*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*
เที่ยงคืนกว่าๆ ณ ห้องๆหนึ่งที่อยู่ในหอพักนักศึกษาชายของทางมหาวิทยาลัย ท่ามกลางอุณหภูมิห้องที่เย็นฉ่ำจากเครื่องปรับอากาศคุณภาพดี ไฟที่เปิดไว้ให้พอเห็นเป็นแสงสลัวๆตรงหัวเตียง และผู้ชายสองคนบนเตียงนอนขนาดคิงไซส์
แล้วอะไรกำลังจะเกิดขึ้นหลังจากนี้!?!
“ อ๊า เจ็บบบบบ ” แทฮยอนกรีดเสียงร้องโวยวายขึ้น จนฝ่ายมินโฮที่เพิ่งทิ้งน้ำหนักตัวทาบทับลงไปบนร่างบางๆที่อยู่ข้างใต้ถึงกับสะดุ้ง
“ เฮ้ย ยังไม่ได้ทำอะไรเลย จะเจ็บได้ไง ” มินโฮว่า พลางผละออกมานอนด้านข้างก่อนเพื่อรอดูท่าทีของอีกคน
“ ก็นายตัวหนักอะ ฉันเจ็บ ” แทฮยอนประท้วงทั้งที่ความจริงแล้วก็ไม่ได้รู้สึกเจ็บอะไรหรอก แค่ถ่วงเวลามันไปอย่างนั้นแหละ
“ งั้นนอนตะแคงข้างเอาล่ะกัน ” มินโฮบอก ก่อนจะแตะลงไปบนเอวบางๆของอีกฝ่าย
“ ไม่เอา มันจั๊กจี้ ห้ามจับนะ ” แทฮยอนรีบปัดมือใหญ่ๆทิ้ง ก่อนพลิกตัวหนีไปหลบอยู่อีกฝั่งของเตียงทันที
“ โว้ย นั่นก็ไม่ดี นี่ก็ไม่ได้ แล้วจะเอากันยังไง ท่าไหนวะครับ ” มินโฮถามอย่างต้องการคำตอบจริงจัง เพราะแทฮยอนเอาแต่บ่ายเบี่ยงนั่นโน่นนี่ตั้งแต่ที่เขาบังคับพาอีกฝ่ายขึ้นเตียงมาจนผ่านมาเกือบชั่วโมงแล้วก็ยังไม่มีทีท่าว่าอะไรๆจะคืบหน้าไปเลยสักนิด
ถ้าเป็นแบบนี้ ชกเสยที่ลิ้นปี่ให้สลบ แล้วลักหลับเอาท่าจะง่ายที่สุด
“ วันหลังค่อยทำได้มั้ยอะ ” แทฮยอนถามเสียงอ่อย
“ วันหลังของนายเนี่ยเมื่อไหร่ คงไม่ได้คิดจะผลัดไปเรื่อยๆหรอกนะ ” มินโฮโต้กลับอย่างหัวเสีย
“ ฉ...ฉัน ฮึก...ฉัน ...ฮือๆๆๆ ” แทฮยอนที่เริ่มอับจนหนทางจนไม่รู้จะหนีจากสถานการณ์ตรงหน้าได้อย่างไรดี จึงเริ่มร้องไห้ออกมา
“ อย่ามาทำเป็นบีบน้ำตา ฉันรู้ว่านายแกล้งร้อง ” เสียงทุ้มว่าขึ้นอย่างรู้ทัน
“ อ้าว รู้ด้วยเหรอ ” แทฮยอนยิ้มแก้เก้อด้วยสีหน้าเหี่ยวแห้งเต็มทน
“ จะไม่รู้ได้ไง ฉันเห็นนายรับจ๊อบแสดงละครเวทีให้พวกสาขาการแสดงเป็นว่าเล่น จนคนทั้งมหาลัยเขาได้แต่นึกว่านายเรียนอยู่คณะนิเทศกันไปหมดแล้ว ” นั่นล่ะที่มาที่ทำให้นัมแทฮยอนเก่งในเรื่องการแสดงแต่ดันโง่วิทยาศาสตร์เป็นที่สุด ก็มันเล่นทำตัวเป็นเด็กกิจกรรมไม่ยอมเข้าเรียนแบบนี้ไงล่ะ
“ อื้อ แต่ยังไงก็เลื่อนไปวันหลังแล้วกันนะ วันนี้ฉันไม่พร้อมจริงๆ ” แทฮยอนแกล้งพูดรัวๆกะให้อีกฝ่ายฟังไม่ทันพร้อมกับเตรียมชิ่งหนีลงจากเตียง
“ ไม่ได้!!! นายไม่เห็นเหรอว่าคนอื่นเขาตั้งใจทำงานกันขนาดไหน นายจะมาเป็นตัวถ่วงของพวกเราไม่ได้ เข้าใจมั้ย!?! ” มินโฮตะคอกใส่ร่างที่กำลังจะก้าวลงจากเตียงเสียงเข้ม พลางใช้มือใหญ่ๆล็อคข้อเท้าอีกฝ่ายไว้แน่นหนาชนิดสะบัดยังไงก็ไม่หลุด
“ ไม่เอา!!! ยังไงฉันก็ไม่ยอมให้แกทำอะไรฉันหรอกนะ ไอ้ซงมินโฮ ” แทฮยอนผวาร้องลั่น ดิ้นสะบัดเต็มที่ขณะที่โดนร่างสูงๆรวบกอดเอาไว้แน่นกับอกแกร่ง
“ ถ้านายไม่ยอม ฉันจะข่มขืนซะ ” มินโฮขู่เสียงเหี้ยม
“ ไม่เอ๊า!!!!!!! ” แทฮยอนหวีดเสียงใส่หูมินโฮอย่างคนเริ่มคลั่ง พลางถีบแข้งถีบขา กางเล็บข่วนใส่อีกฝ่ายไม่ยั้ง
“ ดี!! ไม่ยอมก็ดี ลองโดนข่มขืนดูซักที ชีวิตของนายมันจะได้มีสีสันขึ้นไง ” มินโฮพูดพลางรวบมือทั้งสองข้างของแทฮยอนเอาไว้เหนือหัวกลมๆด้วยมือข้างเดียว ส่วนอีกข้างที่เหลือใช้ยึดคางเรียวเอาไว้มั่น ก่อนจะลดริมฝีปากของตัวเองขยี้ลงบนเรียวปากสีชมพูอิ่มสวยของอีกฝ่าย
แทฮยอนเบิกตาโพลงอย่างตกใจ เรี่ยวแรงขัดขืนหายไปหมดตั้งแต่สัมผัสได้ถึงอะไรสักอย่างที่อุ่นจนร้อนและมีความชื้นสูงกำลังบุกรุกเข้ามาในปากของตัวเอง คาดว่ามันน่าจะเป็น ลิ้น
ลิ้นของไอ้ซงมินโฮ อยู่ในปากของนัมแทฮยอน!?!... ยี้!!!!!!!!!!
“ อื้อๆๆๆ ...แฮ่ก...อ๊ะ!!..แฮ่ก ...” แทฮยอนได้แต่หอบ ไม่พูดอะไร ดวงตาสวยเบิกค้างเพราะยังอึ้งไม่หาย
“ เป็นไรไปอีกล่ะ ” มินโฮผละออกมาถามคนเรื่องมากที่เริ่มออกอาการน่าเป็นห่วงขึ้นมาอีกแล้ว
“ แฮ่กๆๆๆๆๆ ” แทฮยอนหอบหายใจถี่รัวจนหน้าเริ่มซีด
“ เฮ้ยยยย อย่ามาตายในห้องฉันนะเว้ย ” มินโฮตะโกนลั่นอย่างตื่นตระหนก เมื่อจู่ๆอีกฝ่ายก็หยุดหอบพลางทิ้งหัวฟุบลงกับหมอนแล้วแน่นิ่งไปเสียเฉยๆ
“ ……………….. ” ไร้เสียงตอบรับจากคนชื่อนัมแทฮยอน ทำเอามินโฮตกใจหน้าตาตื่น รีบเขย่าร่างสวยเป็นพัลวัน
“ แทฮยอน เฮ้ย แทฮยอนๆ ทำใจดีๆไว้นะ ” มินโฮตบแก้มขาวซีดเพื่อเรียกสติ
“ ฟรี้~ ” เสียงกรนเบาๆตอบกลับมา จึงถือว่าข้อสันนิษฐานที่คิดว่าอีกฝ่ายตกใจกับจูบของเขาจนช็อคหมดสติเป็นอันต้องปัดตกไป มินโฮจึงได้แต่ถอนหายใจยาวอย่างโล่งอก พลางตบหน้าอกตัวเองแรงๆเสียทีหนึ่งเป็นการเรียกขวัญและกำลังใจของตัวเองให้กลับคืนมา
ว่าแต่คนอะไรวะ โดนจูบแล้วตกใจจนวูบหลับ แปลกเหอะ!!! แปลกมากๆ
“ เกิดมาเพิ่งเคยเจอว่ะ คนบ้าแบบนี้ ” มินโฮพูดพลางเกลี่ยผมที่ปรกแก้มเนียนออกอย่างเบามือเพราะกลัวรบกวนคนหลับ เป็นการกระทำที่แม้แต่คนทำเองยังอดนึกแปลกใจในความอ่อนโยนผิดนิสัยปกติของตัวเองไม่ได้ ...ก็ปกติ ไอ้หล่อเลวอย่างซงมินโฮ เอาแต่ฟันแล้วทิ้งๆเป็นว่าเล่นเลยนี่หว่า ไม่เคยแคร์หน้าไหนหรอก ใครๆก็รู้
แสงที่ส่องมาจากหัวเตียงทำให้เห็นเค้าโครงและองค์ประกอบใบหน้าของแทฮยอนได้ค่อนข้างแจ่มชัด พอได้มองอยู่ใกล้ๆแบบนี้แล้วก็ปฏิเสธไม่ได้เลยจริงๆว่า คนตรงหน้าเขาดูไม่เลวเลยทีเดียว
ดวงตาเรียวสวย ขนตางอนยาว พวงแก้มขาวเนียน จมูกโด่งได้รูป ริมฝีปากบางเฉียบชมพูระเรื่อดูอิ่มเอิบ แถมมีคิ้วตกๆที่ทุกคนล้วนเห็นพ้องต้องกันว่าน่าเอ็นดูเป็นที่สุด ทุกอย่างมันไม่น่าจะรวมอยู่บนใบหน้าของผู้ชายได้เลยจริงๆสิ ให้ตายดาดดิ้นเถอะ
เห็นใครๆเขาก็ชอบพูดกันว่านัมแทฮยอนสวยอย่างนั้น น่ารักอย่างนี้ ตัวมินโฮก็เพิ่งจะมารู้เอาวันนี้เองนี่แหละว่าข้อมูลเหล่านั้น เป็นความจริงทุกประการ
“ ไม่ๆๆๆๆ ฉันไม่ใช่เกย์นะว้อยยยยย ” มินโฮสะบัดหัวไล่ความคิดแปลกๆรกสมองทิ้งไป
“ อื้ออ ” ดูเหมือนเสียงเขาจะดังไปนิด จนคนที่หลับอยู่ต้องขยับตัวเปลี่ยนท่าเล็กน้อยอย่างหงุดหงิดทำเอาเสื้อนักศึกษาตัวบางเลื่อนหลุดออกจากตำแหน่งเดิม เผยพื้นที่ผิวใสตรงหน้าอกขาวออกสู่สายตาคนดูที่มีเพียงหนึ่งเดียวคนนี้ได้มากยิ่งขึ้น
มินโฮกลืนน้ำลายลงคอดังเอื๊อก พลางรีบหันหน้าหนีภาพยั่วเย้าตรงหน้าเป็นพัลวัน
“ โว้ยยยย เดี๋ยวพ่อจับปล้ำซะเลยนี่ ไอ้แทฮยอนเอ๊ย ” ถึงจะพูดอย่างนั้น แต่มินโฮกลับลุกขึ้นจากเตียง ก่อนจะอพยพตัวเองไปทอดตัวนอนลงบนโซฟาท้ายห้อง ปล่อยให้อีกคนครอบครองเตียงนุ่มๆไว้แต่เพียงผู้เดียว
สุภาพบุรุษเว่อร์ๆเถอะซงมินโฮเอ๊ย
ถ้าตราบใดที่คนที่ชื่อนัมแทฮยอนยังไม่เลิกหวงแหนเวอร์จิ้นของตัวเองสักที และคนที่ชื่อซงมินโฮยังทำตัวสุภาพบุรุษไม่ถูกเวลาอยู่แบบนี้ กว่าโครงการ ‘ผู้ชายท้อง’ นี่จะสำเร็จ ก็คงจะต้องรอกันไปอีกนานแสนนานเลยทีเดียว
TBC
อยากรู้ว่าคนอ่านรู้สึกยังไงกับฟิคเรื่องนี้ คนแต่งขอเชิญชวนไปโฟ่ในทวิตกันเยอะๆที่ #นัมแทท้อง นะจ๊ะ >///<
◊ SQWEEZ
ความคิดเห็น