ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    INFINITE #LeadNam : I’m Not him เพราะผมไม่ใช่เขา -End-

    ลำดับตอนที่ #1 : คนปลอบใจ

    • อัปเดตล่าสุด 24 เม.ย. 57


     

    -1-

     

    คนปลอบใจ

     

     

     

     

     

    ซองกยูฮยองน่ะ ขาดคนอย่างนัมอูฮยอนไม่ได้หรอก

     

    ซองกยูฮยองที่ขาดฉันก็เหมือนตะเกียบที่ขาดช้อน ด้ายไม่มีเข็ม ว่าวไม่มีสายป่าน

     

    ยังจำได้ดีถึงคำพูดโปกฮาบ้าๆบอๆของตัวเองตอนออกรายการ sesame player ที่กล่าวถึงความสัมพันธ์ของผมกับบุคคลที่เป็นลีดเดอร์ของวง ตอนนั้นดงอูกับพี่ผู้จัดการถึงกับหัวเราะก๊ากลั่นคันรถพลางตบมือเปาะแปะกันอย่างถูกใจ

     

    แต่ความจริงมันไม่ได้เป็นเรื่องตลกขนาดนั้นหรอกครับ ไม่ตลกเลยสักนิด

     

    .

    .

    .

    .

     

    อูฮยอนนี่ เสียงทุ้มเรียกขึ้นที่ข้างหู พร้อมกับแรงสวมกอดที่โถมเข้ามาทั้งตัว ทำให้ผมต้องเงยหน้าจากแม็กกาซีนในมือขึ้นมอง

     

    มีอะไรฮะ ซองกยูฮยอง

     

    อยากร้องไห้ชะมัด เขาทำหน้าเบะ เกาะเอวผมแน่น พลางซุกหน้าลงกับไหล่ของผม เป็นท่าทางที่ทำเอาผมอมยิ้ม ผู้ชายตัวโตๆแต่ทำท่าเหมือนเด็กน้อย สำหรับผมมันก็น่าเอ็นดูดีอยู่หรอกนะ

     

    ผมกวาดสายตามองไปรอบห้องซ้อม ตรงมุมห้องพบแรพเปอร์ไลน์กับมักเน่กำลังนั่งจับกลุ่มวิจารณ์เพลงเกิร์ลกรุ๊ปเพิ่งออกใหม่กันอย่างเมามันส์จนเสียงลั่นห้อง

     

    ขณะที่อีกมุมมีคนที่รับตำแหน่งหน้าตาของวงกับเจ้าของฉายาเด็กประถมกำลังแชร์หูฟังกันคนละข้าง พลางแบ่งขนม ผลัดกันกินผลัดกันป้อนด้วยสีหน้าเปี่ยมสุข

     

    เสียงหัวเราะของมยองซูกับซองยอลที่คลอขึ้นเบาๆในบรรยากาศเป็นระยะๆทำเอาคนที่นั่งอยู่ด้านข้างของผมต้องเงยหน้าขึ้นมองสองคนที่เป็นต้นเสียงด้วยใบหน้าหม่นเศร้า

     

    มีผมอยู่ทั้งคน ฮยองจะร้องไห้ทำไม ผมใช้มือทั้งสองข้างแตะเข้าที่ข้างแก้มของอีกฝ่าย พร้อมส่งยิ้มร่าเริงไปให้

     

    ปลอบใจฮยองทีสิ อูฮยอนนี่

     

    อื้ม งั้นตามมาละกันฮะ

     

    เพราะรู้ถึงความนัยที่ซ่อนอยู่ในประโยคของอีกฝ่ายเป็นอย่างดี ดังนั้นก็คงไม่ต้องนั่งตีความหรือทำเป็นเหนียมอายให้ยุ่งยากใจอะไรอีก ก็คนมันเคยๆกันอยู่

     

    ---------------*---------------*---------------*---------------

     

    เสียงหวีดหวิวของสายลมในตอนกลางคืนยิ่งแจ่มชัดเมื่อที่ๆผมยืนอยู่คือดาดฟ้าอันเงียบสงัด ดึกดื่นขนาดนี้คงไม่มีใครมีธุระกับที่นี่ จะเว้นก็แต่ผมกับซองกยูฮยอง

     



    -ตามหาฉากขาดหายได้จากไบโอทวิตจ้า-







     

    นานมาแล้วกับความสัมพันธ์แบบ คู่นอน ระหว่างผมกับซองกยูฮยอง เราไม่ได้เป็นคนรักกัน เราไม่ได้รักกัน มีเพียงผมที่รักเขา กับ ซองกยูฮยองที่รักใครอีกคน

     

    อา ซองยอลลี่ ซองกยูฮยองครางเรียกชื่อใครอีกคนที่ว่าในจังหวะสุดท้ายที่เจ้าตัวดันเข้ามาจนสุดทางและปลดปล่อยความต้องการทั้งหมดที่มีต่อเจ้าของชื่อเข้ามาในร่างกายของผม

     

    น่าเห็นใจซองกยูฮยอง อีซองยอลที่เจ้าตัวแสนรักนักหนาดันมีเจ้าของหัวใจเป็นคนใกล้ตัวที่ชื่อคิมมยองซูเด็กผู้ชายหน้าตายนั่นไปเรียบร้อยแล้ว เรียบร้อยก่อนที่ฮยองเขาจะรู้ตัวว่าหลงรักซองยอลเข้าแล้วเสียอีก

     

    สุดท้ายก็เป็นผมเองที่แส่หาเรื่อง ผมทนไม่ไหวที่เห็นซองกยูฮยองที่ผมรักต้องซึมเศร้าเสียใจจนเอาแต่เมามายแทบไม่เป็นผู้เป็นคนทุกวี่วัน

     

    เมื่อไหร่ก็ตามที่ฮยองต้องเสียใจจากซองยอลลี่ ผมจะเป็นคนปลอบใจฮยองให้เอามั้ย

     

    แล้วนายจะได้อะไรจากฉัน

     

    เราเป็นผู้ชายเหมือนกันก็น่าจะเข้าใจนี่ บางทีผมก็อยากระบายออกบ้าง ถ้าเป็นรูมเมทอย่างฮยองมันก็สะดวกดี ก็แค่ give ang take ไม่เห็นต้องคิดมาก

     

    น่าจะพอเดากันได้ว่านั่นก็แค่ข้ออ้าง เพราะเหตุผลที่แท้จริงคือผมรักเขา รู้ตัวดีว่าต่อให้พยายามแทบตายก็คงไม่มีทางครอบครองหัวใจของเขาได้ เพราะผมเป็นแค่นัมอูฮยอนที่ไม่เคยอยู่ในสายตาของเขา แตกต่างกับลีซองยอลโดยสิ้นเชิง

     

    ดังนั้นขอแค่ได้ครอบครองร่างกายของคิมซองกยูเท่านั้นก็เพียงพอแล้วจริงๆสำหรับนัมอูฮยอน

     

    ---------------*---------------*---------------

     

    หลังเสร็จจากการฝึกซ้อมอันแสนเหน็ดเหนื่อย พวกเราก็ได้ฤกษ์เดินทางกลับหอกันเสียที เข็มสั้นบนหน้าปัดนาฬิกาจวนเจียนแตะเลขสิบสองเต็มทีแล้ว แต่ถึงจะเป็นแบบนั้นพวกเราก็ยังคงต้องการของมาเติมเต็มกระเพาะของเราอยู่ดี ไม่งั้นคงนอนไม่เป็นสุขเพราะต้องทนฟังเสียงท้องของตัวเองร้องประท้วงไปตลอดทั้งคืน

     

    อูฮยอนฮยอง ผมไม่อยากกินไอ้นี่ อีซองจงชูถุงกับข้าวเย็นชืดที่พวกพี่ผู้จัดการซื้อมาให้ตั้งแต่เย็นแต่พวกเรายังไม่มีโอกาสได้กินขึ้นพร้อมกับชักสีหน้าใส่ราวเหม็นเบื่อเสียเต็มประดา

     

    เข้าเวฟไปก็พอกินได้น่า แต่ถ้าไม่อยากกินจริงๆจะสั่งไก่ทอดมั้ยล่ะ

     

    ไม่เอา ไก่ทอดก็เบื่อแล้วเหมือนกัน อยากกินสปาเกตตี้ฝีมืออูฮยอนฮยอง เจ้าตัวเล็กว่าเสียงอ้อน

     

    ถ้าจะทำสปาเกตตี้ ก็ต้องออกไปซื้อวัตถุดิบอีก สั่งไก่ไปนั่นแหละ ดึกแล้วอย่าเรื่องมากน่า ซองจง พอผมทำท่าจะหยิบมือถือขึ้นมากดโทรออก อีกฝ่ายก็รีบรั้งข้อมือห้ามไว้ทันที

     

    งั้นผมจะเปิดโหวต ใครอยากกินสปาเกตตี้ฝีมืออูฮยอนฮยอง ยกมือขึ้น

     

    ฉัน ลีโฮวอนยกมือข้างหนึ่งขึ้นโบกขณะที่อีกข้างมีแก้วน้ำที่ดื่มค้างไว้

     

    เย่ โฮย่าฮยองเข้าข้างผม เจ้าตัวแสบร้องลั่นอย่างดีใจ

     

    ฉันยังพูดไม่จบเลย ฉันจะบอกว่าฉันอยากกินไก่ โฮย่าหัวเราะขบขันอย่างสะใจที่แกล้งซองจงให้ดีใจเก้อได้สำเร็จ

     

    ส่วนฉันโหวตไก่แล้วกัน มันดึกแล้วอะ ลำบากอูฮยอนเปล่าๆ ดงอูบอกทิ้งท้ายก่อนเดินเข้าห้องน้ำไป

     

    ไก่สามเสียงแล้วนะ ผมหันไปยักคิ้วกวนๆให้เจ้าตัวเล็ก

     

    ยังไม่ยอมแพ้หรอก ซองยอลฮยอง จะกินอะไร สปาเกตตี้ของอูฮยอนฮยอง หรือ ไก่ทอด ย้ำสปาเกตตี้ฝีมืออูฮยอนฮยองเชียวนะ ซองจงหาแนวร่วมจากกลุ่มที่นั่งอยู่ตรงหน้าจอทีวีในห้องนั่งเล่น เจ้ามักเน่ยังฉลาดพอที่จะเอาชื่อผมไปอ้างเป็นจุดขายเรียกคะแนนให้ข้างตัวเองเสียด้วย

     

    สปาเกตตี้ แน่นอนระหว่างไก่ทอดที่หากินได้ทั่วไป กับอาหารที่ทำเองกับมือ ซองยอลต้องเลือกอย่างหลังอยู่แล้ว

     

    แทบไม่ต้องรอคำตอบจากสมาชิกอีกสองคนที่เหลือ ผมก็เตรียมหยิบกระเป๋าสตางค์ไว้พร้อมแล้วในมือ

     

    หืม ยังถามไม่หมดทุกคนเลย ฮยองจะไปไหน

     

    ก็ไปหาซื้อของมาทำสปาเกตตี้ให้พวกนายกินไง

     

    ยังโหวตไม่ครบคนเลย ฮยองงอนป่ะเนี่ย อย่างอนดิ เพราะตีความท่าทีของผมไปแบบนั้น ซองจงจึงรีบเข้ามาประจบประแจงผมเป็นการใหญ่ เดี๋ยวให้โหวตกันครบคนก่อน ผมไม่อยากเอาเปรียบฮยองหรอกนะ

     

    ไม่ต้องโหวตอะไรแล้ว ถ้าไม่อยากให้งอน ก็ตามมาช่วยถือซะ ผมบอกน้อง ก่อนล่วงหน้าไปรออยู่หน้าประตู

     

    ทำไมผมจะไม่รู้ว่าผลโหวตจะออกมาเป็นแบบไหน มยองซูที่ตามใจซองยอลอย่างกับอะไรดี แน่นอนว่าต้องเลือกตามกันอยู่แล้ว กับอีกเสียงที่เหลือซึ่งเป็นตัวตัดสิน ซองกยูฮยอง

     

    เรื่องอะไรที่เขาจะต้องเลือกข้างผม สู้เลือกข้างซองจงเพื่อเอาใจคนที่เขารักไม่ดีกว่าเหรอ

     

    ผมคิดแบบนั้น สุดท้ายก็เลยมายืนอยู่ตรงนี้ไง

     

    ---------------*---------------*---------------

     

    ฉันยังจำความรู้สึกนั้นได้ดีเลย ซองยอลเข้ามาทีหลังพวกเรา 5 คน ตอนแรกที่ฉันเห็นเขา เด็กนั่นดูไม่มีสัมมาคารวะเอาซะเลย ในใจตอนนั้นรู้สึกต่อต้านแทบบ้า แต่ไหงตอนนี้ สายตาของฉันถึงเอาแต่มองตามเขาก็ไม่รู้

     

    เจ็บจนจุกทุกครั้งทีได้ยินซองกยูฮยองเอ่ยถึงคนที่เขารักด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนแบบนั้น แต่ก็ทำอะไรไม่ได้อยู่ดี

     

    ผมไม่เคยและไม่แม้แต่คิดจะบอกความรู้สึกในใจของตัวเองให้ใครรับรู้ ไม่ว่าเจ้าตัวหรือใครก็ตาม ไม่นึกอยากเขยิบความสัมพันธ์ไปให้ใกล้ชิดกว่านี้ ไม่อยากโลภ เพราะขลาดกลัวเกินกว่าจะยอมสูญเสียความสุขเล็กๆน้อยๆที่มีอยู่เพียงหยิบมือในตอนนี้ไป

     

    คู่นอน ถึงจะไม่ใกล้ชิด แต่ก็ไม่ไกลห่าง เป็นความสัมพันธ์กำลังดีที่คนมักน้อยอย่างผมพึงพอใจ

     

    เพราะฮยองเป็นโอตาคุซองยอลลี่ละมั้ง ฮ่ะๆ ผมส่งเสียงตอบจากเตียงชั้นบน พลางหัวเราะร่ากลบเกลื่อนความรู้สึกเจ็บช้ำข้างใน

     

    อูฮยอนนี่

     

    หื้ม

     

    อยากนอนกอด ซองกยูฮยองเอ่ยเสียงอ้อน

     

    นอนกอดเฉยๆน่ะเหรอ

     

    ถามมาได้ มันก็ต้องไม่ใช่แค่นั้นอยู่แล้วสิ

     

    รู้สึกสมเพชตัวเองชะมัด ผมเผลอถามอะไรแบบนั้นออกไปได้ยังไงนะ

     

    นั่นสินะ ผมปีนบันไดลงจากชั้นบนก่อนอ้อมมาทอดตัวนั่งข้างๆซองกยูฮยอง

     

    ฮยองเอาเปรียบนายรึเปล่า อูฮยอน อีกฝ่ายถามพลางโอบไหล่ผมให้โน้มตัวลงไปซุกอยู่กับแผ่นอกของเขา

     

    ไม่ซักนิดเลยฮะ ผมเต็มใจ ฮยองเต็มใจ เราก็เสมอภาคกัน ยิ้มรับฝ่ามืออุ่นที่ไล้ไปตามเส้นผมอย่างยินดี

     

    ผมของซองยอลจะนุ่มมือแบบนี้มั้ยนะ ประโยคลอยๆของซองกยูฮยองทำให้รอยยิ้มของผมเริ่มขาดหาย

     

    เราใช้แชมพูยี่ห้อเดียวกัน ก็คงจะไม่ต่างกันมากหรอกฮะ

     

    แล้วผิวของซองยอลจะเนียนอย่างนี้รึเปล่า เขาพลิกตัวขึ้นคร่อม พลางสอดฝ่ามือเข้ามาลูบไล้หน้าท้องของผมแผ่วเบา

     

    ในเมื่อไม่ได้อยากตอบอยู่แล้ว ผมจึงจงใจละเลยข้อความนั้นให้ลอยหายไปในชั้นบรรยากาศ นอนนิ่งให้เขากอดฟัด ซุกไซ้ไปทั่วร่าง ปลุกปั่นอารมณ์เอาตามแต่ใจต้องการ

     

    อื้ม.. ปลายลิ้นที่ซอกซอนเข้ามาอย่างเอาแต่ใจทำเอาผมครางเครือรับด้วยความรู้สึกเสียวซ่าน

     

    หวาน เขาเอ่ยชม พลางทำสีหน้าครุ่นคิด ริมฝีปากของลีซองยอลจะหวานอย่างนายรึเปล่านะ อยากรู้จริงๆ

     

    ปากของผมมีดีกว่าความหวานอีกนะ ผมเลี่ยงประเด็นเดิมอย่างมีเจตนาด้วยการเลื่อนตัวลงไปยังเบื้องล่าง ก่อนใช้ริมฝีปากขบเม้มส่วนอ่อนไหวผ่านเนื้อผ้าเบาบางของอีกฝ่าย

     

    “ …อึก..อา. เพียงแค่แตะเบาๆ ยังไม่สาแก่ใจ ผมจึงจัดการรูดกางเกงของเขาลง บริการเสิร์ฟออรัลเซ็กส์ในแบบที่เขาโปรดปรานให้อย่างถึงใจ

     

    หนทางยังอีกยาวไกล ระหว่างทางผมจึงช้อนตามองคนที่เป็นเจ้าของหัวใจ อยากรู้ว่าเขารู้สึกอย่างไร พอใจแค่ไหนกับสัมผัสของผม

     

    ใบหน้าหล่อแดงจัดมีเหงื่อซึมไปทั่วโคนผม ริมฝีปากเผยอออกหายใจหอบหนัก ดวงตาเรียวหลับพริ้มรับสัมผัสของผมด้วยความพึงพอใจ

     

    ไม่บอกก็รู้ว่าสิ่งที่ผมทำกำลังทำให้เขารู้สึกดีได้มากมายขนาดไหน

     

    อ่าซองยอล

     

    ชั่วพริบตาเดียว ความภาคภูมิใจของผมก็เหมือนโดนกระชากออกจากอกแล้วเหวี่ยงให้หลุดลอยไปไกล เพราะถึงจะทำดีแค่ไหน ลงท้ายก็ยังคงเป็นลีซองยอลอยู่ดีที่ครอบครองทุกอณูความคิดของคิมซองกยู

     

     

    SQWEEZ
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×