คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : คนปลอบใจ
-1-
คนปลอบใจ
ซองกยูฮยองน่ะ ขาดคนอย่างนัมอูฮยอนไม่ได้หรอก
“ ซองกยูฮยองที่ขาดฉันก็เหมือนตะเกียบที่ขาดช้อน ด้ายไม่มีเข็ม ว่าวไม่มีสายป่าน ”
ยังจำได้ดีถึงคำพูดโปกฮาบ้าๆบอๆของตัวเองตอนออกรายการ sesame player ที่กล่าวถึงความสัมพันธ์ของผมกับบุคคลที่เป็นลีดเดอร์ของวง ตอนนั้นดงอูกับพี่ผู้จัดการถึงกับหัวเราะก๊ากลั่นคันรถพลางตบมือเปาะแปะกันอย่างถูกใจ
แต่ความจริงมันไม่ได้เป็นเรื่องตลกขนาดนั้นหรอกครับ …ไม่ตลกเลยสักนิด
.
.
.
.
“ อูฮยอนนี่ ” เสียงทุ้มเรียกขึ้นที่ข้างหู พร้อมกับแรงสวมกอดที่โถมเข้ามาทั้งตัว ทำให้ผมต้องเงยหน้าจากแม็กกาซีนในมือขึ้นมอง
“ มีอะไรฮะ ซองกยูฮยอง ”
“ อยากร้องไห้ชะมัด ” เขาทำหน้าเบะ เกาะเอวผมแน่น พลางซุกหน้าลงกับไหล่ของผม เป็นท่าทางที่ทำเอาผมอมยิ้ม ผู้ชายตัวโตๆแต่ทำท่าเหมือนเด็กน้อย สำหรับผมมันก็น่าเอ็นดูดีอยู่หรอกนะ
ผมกวาดสายตามองไปรอบห้องซ้อม ตรงมุมห้องพบแรพเปอร์ไลน์กับมักเน่กำลังนั่งจับกลุ่มวิจารณ์เพลงเกิร์ลกรุ๊ปเพิ่งออกใหม่กันอย่างเมามันส์จนเสียงลั่นห้อง
ขณะที่อีกมุมมีคนที่รับตำแหน่งหน้าตาของวงกับเจ้าของฉายาเด็กประถมกำลังแชร์หูฟังกันคนละข้าง พลางแบ่งขนม ผลัดกันกินผลัดกันป้อนด้วยสีหน้าเปี่ยมสุข
เสียงหัวเราะของมยองซูกับซองยอลที่คลอขึ้นเบาๆในบรรยากาศเป็นระยะๆทำเอาคนที่นั่งอยู่ด้านข้างของผมต้องเงยหน้าขึ้นมองสองคนที่เป็นต้นเสียงด้วยใบหน้าหม่นเศร้า
“ มีผมอยู่ทั้งคน ฮยองจะร้องไห้ทำไม ” ผมใช้มือทั้งสองข้างแตะเข้าที่ข้างแก้มของอีกฝ่าย พร้อมส่งยิ้มร่าเริงไปให้
“ ปลอบใจฮยองทีสิ อูฮยอนนี่ ”
“ อื้ม งั้นตามมาละกันฮะ ”
เพราะรู้ถึงความนัยที่ซ่อนอยู่ในประโยคของอีกฝ่ายเป็นอย่างดี ดังนั้นก็คงไม่ต้องนั่งตีความหรือทำเป็นเหนียมอายให้ยุ่งยากใจอะไรอีก … ก็คนมันเคยๆกันอยู่
---------------*---------------*---------------*---------------
เสียงหวีดหวิวของสายลมในตอนกลางคืนยิ่งแจ่มชัดเมื่อที่ๆผมยืนอยู่คือดาดฟ้าอันเงียบสงัด ดึกดื่นขนาดนี้คงไม่มีใครมีธุระกับที่นี่ จะเว้นก็แต่ผมกับซองกยูฮยอง
-ตามหาฉากขาดหายได้จากไบโอทวิตจ้า-
นานมาแล้วกับความสัมพันธ์แบบ ‘ คู่นอน ’ ระหว่างผมกับซองกยูฮยอง เราไม่ได้เป็นคนรักกัน เราไม่ได้รักกัน มีเพียงผมที่รักเขา กับ ซองกยูฮยองที่รักใครอีกคน
“ อา ซองยอลลี่ ” ซองกยูฮยองครางเรียกชื่อใครอีกคนที่ว่าในจังหวะสุดท้ายที่เจ้าตัวดันเข้ามาจนสุดทางและปลดปล่อยความต้องการทั้งหมดที่มีต่อเจ้าของชื่อเข้ามาในร่างกายของผม
น่าเห็นใจซองกยูฮยอง อีซองยอลที่เจ้าตัวแสนรักนักหนาดันมีเจ้าของหัวใจเป็นคนใกล้ตัวที่ชื่อคิมมยองซูเด็กผู้ชายหน้าตายนั่นไปเรียบร้อยแล้ว …เรียบร้อยก่อนที่ฮยองเขาจะรู้ตัวว่าหลงรักซองยอลเข้าแล้วเสียอีก
สุดท้ายก็เป็นผมเองที่แส่หาเรื่อง ผมทนไม่ไหวที่เห็นซองกยูฮยองที่ผมรักต้องซึมเศร้าเสียใจจนเอาแต่เมามายแทบไม่เป็นผู้เป็นคนทุกวี่วัน
“ เมื่อไหร่ก็ตามที่ฮยองต้องเสียใจจากซองยอลลี่ ผมจะเป็นคนปลอบใจฮยองให้เอามั้ย ”
“ แล้วนายจะได้อะไรจากฉัน ”
“ เราเป็นผู้ชายเหมือนกันก็น่าจะเข้าใจนี่ บางทีผมก็อยากระบายออกบ้าง ถ้าเป็นรูมเมทอย่างฮยองมันก็สะดวกดี ก็แค่ give ang take ไม่เห็นต้องคิดมาก ”
น่าจะพอเดากันได้ว่านั่นก็แค่ข้ออ้าง เพราะเหตุผลที่แท้จริงคือผมรักเขา รู้ตัวดีว่าต่อให้พยายามแทบตายก็คงไม่มีทางครอบครองหัวใจของเขาได้ เพราะผมเป็นแค่นัมอูฮยอนที่ไม่เคยอยู่ในสายตาของเขา แตกต่างกับลีซองยอลโดยสิ้นเชิง
ดังนั้นขอแค่ได้ครอบครองร่างกายของคิมซองกยูเท่านั้นก็เพียงพอแล้วจริงๆสำหรับนัมอูฮยอน
---------------*---------------*---------------
หลังเสร็จจากการฝึกซ้อมอันแสนเหน็ดเหนื่อย พวกเราก็ได้ฤกษ์เดินทางกลับหอกันเสียที เข็มสั้นบนหน้าปัดนาฬิกาจวนเจียนแตะเลขสิบสองเต็มทีแล้ว แต่ถึงจะเป็นแบบนั้นพวกเราก็ยังคงต้องการของมาเติมเต็มกระเพาะของเราอยู่ดี ไม่งั้นคงนอนไม่เป็นสุขเพราะต้องทนฟังเสียงท้องของตัวเองร้องประท้วงไปตลอดทั้งคืน
“ อูฮยอนฮยอง ผมไม่อยากกินไอ้นี่ ” อีซองจงชูถุงกับข้าวเย็นชืดที่พวกพี่ผู้จัดการซื้อมาให้ตั้งแต่เย็นแต่พวกเรายังไม่มีโอกาสได้กินขึ้นพร้อมกับชักสีหน้าใส่ราวเหม็นเบื่อเสียเต็มประดา
“ เข้าเวฟไปก็พอกินได้น่า แต่ถ้าไม่อยากกินจริงๆจะสั่งไก่ทอดมั้ยล่ะ ”
“ ไม่เอา ไก่ทอดก็เบื่อแล้วเหมือนกัน อยากกินสปาเกตตี้ฝีมืออูฮยอนฮยอง ” เจ้าตัวเล็กว่าเสียงอ้อน
“ ถ้าจะทำสปาเกตตี้ ก็ต้องออกไปซื้อวัตถุดิบอีก สั่งไก่ไปนั่นแหละ ดึกแล้วอย่าเรื่องมากน่า ซองจง ” พอผมทำท่าจะหยิบมือถือขึ้นมากดโทรออก อีกฝ่ายก็รีบรั้งข้อมือห้ามไว้ทันที
“ งั้นผมจะเปิดโหวต ใครอยากกินสปาเกตตี้ฝีมืออูฮยอนฮยอง ยกมือขึ้น ”
“ ฉัน ” ลีโฮวอนยกมือข้างหนึ่งขึ้นโบกขณะที่อีกข้างมีแก้วน้ำที่ดื่มค้างไว้
“ เย่ โฮย่าฮยองเข้าข้างผม ” เจ้าตัวแสบร้องลั่นอย่างดีใจ
“ ฉันยังพูดไม่จบเลย ฉันจะบอกว่าฉันอยากกินไก่ ” โฮย่าหัวเราะขบขันอย่างสะใจที่แกล้งซองจงให้ดีใจเก้อได้สำเร็จ
“ ส่วนฉันโหวตไก่แล้วกัน มันดึกแล้วอะ ลำบากอูฮยอนเปล่าๆ ” ดงอูบอกทิ้งท้ายก่อนเดินเข้าห้องน้ำไป
“ ไก่สามเสียงแล้วนะ ” ผมหันไปยักคิ้วกวนๆให้เจ้าตัวเล็ก
“ ยังไม่ยอมแพ้หรอก ซองยอลฮยอง จะกินอะไร สปาเกตตี้ของอูฮยอนฮยอง หรือ ไก่ทอด ย้ำสปาเกตตี้ฝีมืออูฮยอนฮยองเชียวนะ ” ซองจงหาแนวร่วมจากกลุ่มที่นั่งอยู่ตรงหน้าจอทีวีในห้องนั่งเล่น เจ้ามักเน่ยังฉลาดพอที่จะเอาชื่อผมไปอ้างเป็นจุดขายเรียกคะแนนให้ข้างตัวเองเสียด้วย
“ สปาเกตตี้ ” แน่นอนระหว่างไก่ทอดที่หากินได้ทั่วไป กับอาหารที่ทำเองกับมือ ซองยอลต้องเลือกอย่างหลังอยู่แล้ว
แทบไม่ต้องรอคำตอบจากสมาชิกอีกสองคนที่เหลือ ผมก็เตรียมหยิบกระเป๋าสตางค์ไว้พร้อมแล้วในมือ
“ หืม ยังถามไม่หมดทุกคนเลย ฮยองจะไปไหน ”
“ ก็ไปหาซื้อของมาทำสปาเกตตี้ให้พวกนายกินไง ”
“ ยังโหวตไม่ครบคนเลย ฮยองงอนป่ะเนี่ย อย่างอนดิ ” เพราะตีความท่าทีของผมไปแบบนั้น ซองจงจึงรีบเข้ามาประจบประแจงผมเป็นการใหญ่ “ เดี๋ยวให้โหวตกันครบคนก่อน ผมไม่อยากเอาเปรียบฮยองหรอกนะ ”
“ ไม่ต้องโหวตอะไรแล้ว ถ้าไม่อยากให้งอน ก็ตามมาช่วยถือซะ ” ผมบอกน้อง ก่อนล่วงหน้าไปรออยู่หน้าประตู
ทำไมผมจะไม่รู้ว่าผลโหวตจะออกมาเป็นแบบไหน มยองซูที่ตามใจซองยอลอย่างกับอะไรดี แน่นอนว่าต้องเลือกตามกันอยู่แล้ว กับอีกเสียงที่เหลือซึ่งเป็นตัวตัดสิน… ซองกยูฮยอง
เรื่องอะไรที่เขาจะต้องเลือกข้างผม สู้เลือกข้างซองจงเพื่อเอาใจคนที่เขารักไม่ดีกว่าเหรอ
ผมคิดแบบนั้น สุดท้ายก็เลยมายืนอยู่ตรงนี้ไง
---------------*---------------*---------------
“ ฉันยังจำความรู้สึกนั้นได้ดีเลย ซองยอลเข้ามาทีหลังพวกเรา 5 คน ตอนแรกที่ฉันเห็นเขา เด็กนั่นดูไม่มีสัมมาคารวะเอาซะเลย ในใจตอนนั้นรู้สึกต่อต้านแทบบ้า แต่ไหงตอนนี้ สายตาของฉันถึงเอาแต่มองตามเขาก็ไม่รู้ ”
เจ็บจนจุกทุกครั้งทีได้ยินซองกยูฮยองเอ่ยถึงคนที่เขารักด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนแบบนั้น แต่ก็ทำอะไรไม่ได้อยู่ดี
ผมไม่เคยและไม่แม้แต่คิดจะบอกความรู้สึกในใจของตัวเองให้ใครรับรู้ ไม่ว่าเจ้าตัวหรือใครก็ตาม ไม่นึกอยากเขยิบความสัมพันธ์ไปให้ใกล้ชิดกว่านี้ ไม่อยากโลภ เพราะขลาดกลัวเกินกว่าจะยอมสูญเสียความสุขเล็กๆน้อยๆที่มีอยู่เพียงหยิบมือในตอนนี้ไป
‘ คู่นอน ’ ถึงจะไม่ใกล้ชิด แต่ก็ไม่ไกลห่าง เป็นความสัมพันธ์กำลังดีที่คนมักน้อยอย่างผมพึงพอใจ
“ เพราะฮยองเป็นโอตาคุซองยอลลี่ละมั้ง ฮ่ะๆ ” ผมส่งเสียงตอบจากเตียงชั้นบน พลางหัวเราะร่ากลบเกลื่อนความรู้สึกเจ็บช้ำข้างใน
“ อูฮยอนนี่ ”
“ หื้ม ”
“ อยากนอนกอด ” ซองกยูฮยองเอ่ยเสียงอ้อน
“ นอนกอดเฉยๆน่ะเหรอ ”
“ ถามมาได้ มันก็ต้องไม่ใช่แค่นั้นอยู่แล้วสิ ”
รู้สึกสมเพชตัวเองชะมัด ผมเผลอถามอะไรแบบนั้นออกไปได้ยังไงนะ
“ นั่นสินะ ” ผมปีนบันไดลงจากชั้นบนก่อนอ้อมมาทอดตัวนั่งข้างๆซองกยูฮยอง
“ ฮยองเอาเปรียบนายรึเปล่า อูฮยอน ” อีกฝ่ายถามพลางโอบไหล่ผมให้โน้มตัวลงไปซุกอยู่กับแผ่นอกของเขา
“ ไม่ซักนิดเลยฮะ ผมเต็มใจ ฮยองเต็มใจ เราก็เสมอภาคกัน ” ยิ้มรับฝ่ามืออุ่นที่ไล้ไปตามเส้นผมอย่างยินดี
“ ผมของซองยอลจะนุ่มมือแบบนี้มั้ยนะ ” ประโยคลอยๆของซองกยูฮยองทำให้รอยยิ้มของผมเริ่มขาดหาย
“ เราใช้แชมพูยี่ห้อเดียวกัน ก็คงจะไม่ต่างกันมากหรอกฮะ ”
“ แล้วผิวของซองยอลจะเนียนอย่างนี้รึเปล่า ” เขาพลิกตัวขึ้นคร่อม พลางสอดฝ่ามือเข้ามาลูบไล้หน้าท้องของผมแผ่วเบา
ในเมื่อไม่ได้อยากตอบอยู่แล้ว ผมจึงจงใจละเลยข้อความนั้นให้ลอยหายไปในชั้นบรรยากาศ นอนนิ่งให้เขากอดฟัด ซุกไซ้ไปทั่วร่าง ปลุกปั่นอารมณ์เอาตามแต่ใจต้องการ
“ อื้ม.. ” ปลายลิ้นที่ซอกซอนเข้ามาอย่างเอาแต่ใจทำเอาผมครางเครือรับด้วยความรู้สึกเสียวซ่าน
“ หวาน ” เขาเอ่ยชม พลางทำสีหน้าครุ่นคิด “ ริมฝีปากของลีซองยอลจะหวานอย่างนายรึเปล่านะ อยากรู้จริงๆ ”
“ ปากของผมมีดีกว่าความหวานอีกนะ ” ผมเลี่ยงประเด็นเดิมอย่างมีเจตนาด้วยการเลื่อนตัวลงไปยังเบื้องล่าง ก่อนใช้ริมฝีปากขบเม้มส่วนอ่อนไหวผ่านเนื้อผ้าเบาบางของอีกฝ่าย
“ …อึก..อา…. ” เพียงแค่แตะเบาๆ ยังไม่สาแก่ใจ ผมจึงจัดการรูดกางเกงของเขาลง บริการเสิร์ฟออรัลเซ็กส์ในแบบที่เขาโปรดปรานให้อย่างถึงใจ
หนทางยังอีกยาวไกล ระหว่างทางผมจึงช้อนตามองคนที่เป็นเจ้าของหัวใจ อยากรู้ว่าเขารู้สึกอย่างไร พอใจแค่ไหนกับสัมผัสของผม
ใบหน้าหล่อแดงจัดมีเหงื่อซึมไปทั่วโคนผม ริมฝีปากเผยอออกหายใจหอบหนัก ดวงตาเรียวหลับพริ้มรับสัมผัสของผมด้วยความพึงพอใจ
ไม่บอกก็รู้ว่าสิ่งที่ผมทำกำลังทำให้เขารู้สึกดีได้มากมายขนาดไหน
“ อ่า… ซองยอล ”
ชั่วพริบตาเดียว ความภาคภูมิใจของผมก็เหมือนโดนกระชากออกจากอกแล้วเหวี่ยงให้หลุดลอยไปไกล เพราะถึงจะทำดีแค่ไหน ลงท้ายก็ยังคงเป็นลีซองยอลอยู่ดีที่ครอบครองทุกอณูความคิดของคิมซองกยู
◊ SQWEEZ
ความคิดเห็น