คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #15 : f o u r d a y 4.3
Four Day 4.3
“แบคฮยอน”
“อ้าว ชานยอล! ไปไงมาไงเนี่ย เข้ามาข้างในบ้านก่อนสิ”
“เอ่อ...ไม่ล่ะ คือว่า...วันนี้วาเลนไทน์ มีของอยากจะให้”
“เห้ย นี่มันช็อคโกแลตยี่ห้อที่เราอยากกินนี่นา แต่ว่ามันหมดซะก่อนเพราะว่าช่วงนี้เป็นเทศกาลวาเลนไทน์ นายไปหาซื้อมาจากที่ไหนกันอะ *O*”
“อ่า...พอดีคุณน้าเอามาจากฝรั่งเศสน่ะ เลยเอามาฝากนาย”
“แล้ว...ปีนี้ไม่มีสาวๆคนไหนเอาช็อคโกแลตให้นายบ้างรึไง เดินตัวปลิวไม่มีดอกไม้หรือว่าช็อคโกแลตเหมือนปีก่อนๆเลยนะพ่อรูปหล่อ~”
“ไม่มีหรอก ปีนี้ใครๆเขาก็เปลี่ยนใจไปชอบเด็กที่ชื่อเซฮุนหมดแล้วล่ะ แล้วนายล่ะตัวเล็ก....ไม่มีใครเอาดอกไม้ให้บ้างหรอ?”
“แหะๆ ก็โดนตามอยู่เหมือนกันแหละ เลยรีบกลับบ้านมาก่อนนี่ไงล่ะ เซฮุนเขาก็เอากุหลาบให้ดอกนึงแหละ ขอบใจนายมากๆเลยนะสำหรับช็อคโกแลต ปาร์คชานยอลของแบคฮยอนน่ารักที่สุด!”
“อะ...เอ่อ ไม่เป็นไร ฮ่าๆ มาๆไหนๆก็เอาช็อคโกแลตของโปรดมาให้แล้วก็ขอกอดเป็นรางวัลหน่อยสิ~”
“ได้เลยเพื่อน >_<”
“เฮ้...นี่มันอะไรกันน่ะเซฮุน นาย...ล้อเล่นกับพี่ใช่ป้ะ?”
แบคฮยอนแทบไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเอง แขนเรียวกระชับกอดแขนแกร่งแน่นมากขึ้น มืออีกข้างก็กุมมือหนาเอวไว้มากกว่าเดิม มองดูชานยอลที่ก้าวลงจากรถลงมาอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตาสลับกับมองหน้าคนที่พาตัวเองมาที่นี่ นี่มันเรื่องอะไรกัน แบคฮยอนทั้งงงและสับสนไปหมด ชานยอลกับเซฮุนไปคุยกันตอนไหน แล้วเขาหนีมากว่าจะหาคนที่ตัวเองเฝ้ารอเจอก็แทบตาย สุดท้ายเซฮุนก็เป็นคนพาเขากลับมาส่งเองกับมือ...
นี่หรอเซอร์ไพรส์ของนาย...
“แบคฮยอน...นายอยู่ที่นี่? นายมาอยู่ตรงนี้...ได้ยังไง”
หลังจากรับสายแปลกเมื่อตอนเช้าก็พบว่าเป็นเซฮุนโทรมาหา บอกว่าแบคฮยอนอยู่กับเซฮุน ชานยอลเองก็ไม่อยากจะเชื่อ แต่ก็ไม่ทันเถียงอะไรไปเพราะเจ้าเด็กคนนี้ดันวางสายไปซะก่อน ไม่ทันจะได้บอกข่าวของแบคฮยอนให้เซฮุนได้รู้ โทรกลับไปเป็นสิบๆสายก็ไม่มีทีท่าว่าจะกดรับ บอกอย่างเดียวว่าจะพาแบคฮยอนมาส่งที่นี่ ชานยอลเองเลยลองเสี่ยงมาตามนัดดู เพราะก่อนที่สายจะตัดไป...ชานยอลได้ยินเหมือนเสียงของแบคฮยอนดังขึ้นมาจากปลายสาย
และคนที่เขาไม่คิดว่าจะเจอ ก็อยู่ตรงนี้แล้วจริงๆ แบคฮยอนยืนอยู่ตรงหน้าชานยอลแล้ว
บอกเขาที พระเจ้าเล่นตลกอะไรอยู่กันแน่
“เซฮุน...ไม่เอา นายอย่าทำแบบนี้กับพี่นะ....”
แบคฮยอนพูดน้ำเสียงสั่นเครือ ส่ายหน้าไปมาเหมือนกับเด็กๆโดนบังคับให้กลับบ้าน ส่งสายตาอ้อนวอนให้เซฮุนเปลี่ยนใจ แต่แววตาของเซฮุนไม่มีทีท่าว่าจะยอมอ่อนลงซักนิด มันว่างเปล่า....มองไม่เห็นแบคฮยอนสะท้อนอยู่ข้างในนั้นเลยแม้แต่นิดเดียว
“พี่แบคฮยอน พี่กลับไปเถอะ”
“ไม่เอา!! เรา...เรายังเดทกันไม่เสร็จเลยนะ พี่ยังไม่ได้ทำกับข้าวมื้อเย็นให้นาย เรายังไม่ได้ดินเนอร์กันเลย แล้วเราก็ยังไม่ได้ซื้อขนมไปฝากพี่ลู่หานด้วย มีอีกหลายอย่างที่พี่ยังไม่ได้ทำ ให้โอกาสพี่เถอะ...ฮึก..ได้โปรดเถอะเซฮุน”
เสียงพร่ำขอโอกาสต่างๆนานาถูกพูดออกจากปากแบคฮยอนไม่หยุดพร้อมกับน้ำตาที่ไหลลงมาเป็นสาย สิ่งที่ได้รับกลับมามีเพียงความเงียบและก็ความอึดอัด ไม่ใช่ว่าเซฮุนจะใจแข็งได้ตลอดรอดฝั่ง ร่างสูงอยากจะให้เรื่องนี้มันจบเร็วๆ ไม่อยากเห็นน้ำตาของคนที่ตัวเองรักอีกแล้ว เขาก็กำลังพยายามข่มตัวเอง...แต่ไม่ว่ายังไงเรื่องมันก็มาถึงขนาดนี้แล้ว จะให้ถอยกลับไปก็ไม่ได้เหมือนกัน ยังไงพี่แบคฮยอนก็ต้องกลับไปกับพี่ชานยอล
“ตัวเล็ก...กลับไปกับตัวโตเถอะนะ”
ชานยอลเองก็พอจะเข้าใจแล้ว จุดเชื่อมเรื่องราวต่างๆของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และก็พอจะหาวิธีแก้ไขให้เรื่องยุ่งๆมันกลับไปเป็นเหมือนเดิม เห็นน้ำตาของคนที่ตัวเองเฝ้าถนอมเฝ้ารักมาตลอดหลายปีนั้นมันช่างทรมานจริงๆ เหมือนมีใครเอามีดมากรีดไปทั่วตัว...ชานยอลก็ทำได้เพียงขอร้องดีๆให้แบคฮยอนเปลี่ยนใจกลับไปด้วยเท่านั้น
“ไม่กลับ เราไม่กลับไปกับชานยอลเด็ดขาด!! ได้โปรดชานยอล ปล่อยเราไป..”
“ถ้านายกลับไป เรื่องราวมันอาจจะแก้ไขได้นะ นายมาอยู่ตรงนี้ แล้วที่บ้านล่ะ...”
“มันแก้ไขอะไรอีกไม่ได้แล้วชานยอล! ผมเลือกทางของผมแล้ว..ฮือ.. มันไม่มีอะไรแก้ไขได้แล้ว”
“แล้วนายจะเป็นแบบนี้ตลอดไปงั้นหรอแบคฮยอน..นายจะแย่เอานะ เชื่อตัวโตเถอะนะตัวเล็ก”
“มันเรื่องของผม!!! เซฮุน...ฮึก...เรากลับห้องของเรากันเถอะนะ”
แขนเรียวพยายามลากและดึงเซฮุนให้กลับไปห้องของตัวเองอย่างสุดกำลัง น้ำหูน้ำตาของแบคฮยอนไหลลงมาไม่หยุด เสียงสะอื้นดังขึ้นเรื่อยๆ พยายามพาเซฮุนให้ออกมาจากที่ตรงนั้นอย่างสุดความสามารถ แต่แล้วร่างสูงก็ไม่ขยับไปไหนอยู่ดี คนที่เงียบมานานไม่พูดอะไรเหวี่ยงแขนให้คนที่ตัวเล็กกว่าลอยหวือไปยืนเซอยู่ข้างหน้าตน ถึงกับต้องหันหน้าหลบสายตาเมื่อแบคฮยอนเข้ามากอดแขนเอาไว้อีกครั้ง
มันทรมานจริงๆนะ เวลาเห็นคนรักของเราเจ็บปวด
ทั้งเซฮุนทั้งชานยอลตอนนี้ก็เจ็บปวดพอกัน....
ใบหน้าที่มีแต่น้ำตาผสมกับความเศร้าของแบคฮยอนมันกำลังฆ่าผู้ชายสองคนให้ตายทั้งเป็น
“พี่นั่นแหละกลับไปได้แล้วพี่แบคฮยอน! หมดเวลาของพี่แล้ว สี่วันแล้วครับ อย่ายื้อไปมากกว่านี้เลย พี่ชานยอล...มาเอาพี่แบคฮยอนออกไปจากผมที...มันเกะกะผมรู้มั๊ย ผมไม่อยากแกล้งทำเป็นรักพี่อีกแล้ว”
แต่ละคำที่เซฮุนพูดออกมามันก็เหมือนน้ำกรดดีๆที่สาดใส่แบคฮยอนให้เจ็บแสบถึงขั้วหัวใจ คนฟังเจ็บปวด คนพูดยิ่งเจ็บกว่าหลายเท่า ทั้งๆที่รักแต่ก็ต้องทำอะไรตรงข้ามกับหัวใจตนเอง เพื่อให้เรื่องทุกอย่างมันถูกต้องและกลับไปอย่างที่มันควรจะเป็น จะต้องมีคนเสียสละ และคนๆนั้น...จะเป็นเซฮุนคนนี้เอง
แค่นี้เอง....แค่ไม่มีพี่แบคฮยอน เซฮุนอยู่ได้
อยู่กับความเศร้าทุกวัน...ไม่เป็นอะไรหรอก เดี๋ยวก็ชินไปเอง
“ปล่อย!! ชานยอลปล่อยเรา ไม่เอา! ฮืออออ ชานยอลไม่...ม่ายยยยย!”
คนตัวเล็กโวยวายดิ้นไปมาเมื่อถูกชานยอลดึงให้ปล่อยออกจากแขนของเซฮุน แบคฮยอนดิ้นอย่างสุดกำลังเพื่อจะกอดแขนเซฮุนเอาไว้ไม่ให้หลุดจากมือ กัดฟันแน่นไม่ยอมแพ้ทั้งผลักทั้งดันทั้งเตะทั้งถีบให้ชานยอลออกไปไกลๆจากตัวเอง แบคฮยอนไม่เคยจะทำแบบนี้มาก่อน รู้สึกเสียใจที่ต้องทำกิริยาที่ไม่เหมาะสมแบบนี้กับเพื่อนที่ตนเองสนิทและรัก ชานยอลก็ไม่ยอมเหมือนกัน พยายามจับตัวแบคฮยอนเอาไว้ให้ได้แล้วดึงออกมา
เหลือเพียงปลายนิ้วมือทั้งสิบที่ยังจับแขนเซฮุนเอาไว้ได้อยู่
เซฮุนหลับตาแน่นแล้วยกมือมาจับมือแบคฮยอนแล้วกุมเอาไว้ ความอบอุ่นแผ่ส่งไปถึงแบคฮยอนที่ตอนนี้กำลังเสียใจอย่างสุดกำลัง ร่างเล็กยิ้มออกมาอย่างมีความหวัง เซฮุนอาจจะเปลี่ยนใจไม่ทิ้งเขาไปแล้วก็ได้ เซฮุนอาจจะกำลังช่วยให้เขาหลุดจากชานยอลก็ได้...
แต่แล้วมือข้างนั้นของเซฮุนก็เลือกทำในสิ่งที่แบคฮยอนเสียใจที่สุด
เซฮุนเลือกที่จะแกะมือของแบคฮยอนออกไป
เหมือนเหตุการณ์เดจาวูของเมื่อวาน ภาพของเซฮุนที่กระชากมือแบคฮยอนออกได้ฉายซ้ำเข้ามาในสมองของแบคฮยอนอีกครั้งหนึ่ง
“ไม่!!! เซฮุน อย่าทำแบบนี้ ได้โปรด... ฮืออออ พี่รักนายนะ พี่อยากอยู่กับนายจนวินาทีสุดท้ายจริงๆ...”
แบคฮยอนถูกชานยอลหิ้วแขนทั้งสองข้างจนตัวลอยแล้วลากไปยังรถที่จอดเอาไว้ เสียงขอร้องของแบคฮยอนแหบแห้งเหมือนคนใกล้หมดลมหายใจไปทุกขณะ แบคฮยอนเอื้อมมือออกไปหมายจะคว้าเสื้อเซฮุนเอาไว้อีกครั้งแต่ก็สายเกินไป สิ่งที่แบคฮยอนสัมผัสได้มีแต่เพียงอากาศเท่านั้น ขัดขืนชานยอลทั้งๆที่ไม่มีแรงจะสู้ เห็นเซฮุนเดินไกลออกไปหัวใจก็ยิ่งแหลกสลาย เสียงกรีดร้องปานจะขาดใจของแบคฮยอนยังดังก้องอยู่ในสมองของเซฮุน ทำให้ร่างสูงต้องรีบก้าวออกมาให้เร็วมากกว่าเดิม
เพราะเซฮุนไม่ได้หันหน้ากลับไปเลย...จึงไม่เห็นใบหน้าของแบคฮยอนเป็นครั้งสุดท้าย
เพราะเซฮุนไม่ได้หันหน้ากลับไปเลย...แบคฮยอนจึงไม่ได้เห็นน้ำตาลูกผู้ชายของเซฮุน
แด่ความโง่เขลาของตัวเอง...จงร้องให้กับความขี้ขลาดของตัวเองเถอะ
ร่างสูงเดินคนเดียวท่ามกลางความโดดเดี่ยวอยู่บนฟุตบาททางเดิมที่เคยเดินมากับใครอีกคน ที่ตอนนี้คนๆนั้นเขาก็ไปแล้ว เห็นม้านั่งตัวที่เคยนั่งพักกับใครอีกคนก็พาลจะเห็นภาพของเราสองคนนั่งอยู่ตรงนั้น เดินผ่านโรงหนังก็นึกถึงตอนที่เราดูหนังสยองขวัญด้วยกัน ร้านขายสัตว์เลี้ยงก็เหมือนกัน ถึงแม้ตอนนี้มันจะปิดร้านแล้วแต่ก็ยังเห็นภาพที่เขาสองคนยืนดูลูกหมาน่ารักๆอยู่ตรงหน้าร้าน พอนึกถึงสิ่งที่ได้ทำวันนี้มันก็ทำให้เซฮุนยิ้มออกมา
ยิ้มออกมาทั้งๆที่คราบน้ำตายังไม่หายไปจากใบหน้าตัวเอง
ฉันดูแลไมไหวไม่ใช่ว่าไม่รัก ก็ไม่ต้องการเห็นเธอลำบาก มันก็เลยต้องยอมกลับใจ
นึกย้อนไปเมื่อตอนเช้า ตอนที่พี่แบคฮยอนกำลังอาบน้ำ เขาตัดสินใจโทรไปหาพี่คยองซูเพื่อนของพี่แบคฮยอนแล้วขอเบอร์พี่ชานยอลมา เซฮุนเห็นตั้งแต่เมื่อวานแล้วว่าพี่ชานยอลมาที่โซล เห็นตั้งแต่ตอนที่ทำงานอยู่ในร้าน พี่แบคฮยอนดูร้อนรนแปลกๆแล้วก็ขอตัวรีบกลับห้อง ซึ่งเขาก็ทำเป็นเหมือนยังไม่เห็นพี่ชานยอล พี่แบคฮยอนกลัวว่าพี่ชานยอลจะเจอเข้าเลยให้เขาช่วยพี่ลู่หานอยู่หลังร้าน เขาลังเลอยู่เกือบๆห้านาทีจึงกดโทรออก ไม่นานปลายสายก็กดรับ
ให้เธอไปกับเขาจะเจ็บซักแค่ไหน แต่ถึงยังไงมันต้องยอมรับไหว ถ้าเธอเจอกับใครที่ฝัน
ตั้งแต่รู้เรื่องราวว่าพี่แบคฮยอนโดนทำร้าย มันทำให้เขารู้เลยว่าตัวเองเป็นคนที่ไม่ได้เรื่อง ปล่อยให้พี่แบคฮยอนได้รับอันตราย อยู่ปกป้องคนที่ตัวเองรักตลอดเวลาไม่ได้ มันรู้สึกแย่นะเวลาคนที่สำคัญเกิดเรื่องแต่เราทำอะไรไม่ได้ ที่นี่ไม่ปลอดภัยสำหรับพี่แบคฮยอน คนตัวเล็กของเขาอ่อนแอเกินกว่าจะรับสภาวะของคนละแวกนี้ไหว ถึงแม้จะอยู่ในโซลก็จริง แต่คนไม่ดีก็มาก มันไม่เหมือนกับสังคมชนบท ผู้คนแถวนี้ไว้ใจไม่ได้ ดังนั้นพี่แบคฮยอนจึงไม่ควรอยู่ที่นี่กับเขาเลย
แค่ได้รู้เธออยู่ข้างเขา ไม่ปวดร้าวเท่าอยู่ข้างฉัน ขอแค่นั้นให้ฉันได้ทำเพื่อเธอ...
บางที การที่พี่แบคฮยอนกลับไป แล้วเขาก็รักอยู่เหมือนเดิมแบบห่างๆก็คงจะดีที่สุดแล้ว...
“ยอโบเซโย? ปาร์ค ชานยอลพูดครับ”
“ผมเซฮุน”
“เซฮุน? นายเอาเบอร์พี่มาจากไหน?”
“พี่ไม่ต้องรู้หรอกว่าผมได้เบอร์พี่มายังไง ตอนนี้พี่แบคฮยอนอยู่กับผม พี่เขาหนีออกจากบ้านมา พี่ช่วยมารับที่สวนสาธารณะ K ตอนเย็นๆที...ผมจะพาพี่เขาไปส่งให้ถึงมือ”
“เฮ้ ล้อเล่นแบบนี้ไม่ตลกเลยนะ แบคฮยอนเคยหนีออกจากบ้านก็จริง แต่จะหนีมาอยู่กับนายได้ยังไง ในเมื่อ..”
“ผมไม่ได้ล้อเล่น ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องโกหก!!”
“ฟังนะเซฮุน แบคฮยอนน่ะเขา...”
“จะมาไม่มาก็เรื่องของพี่นะครับ พี่แบคฮยอนอาบน้ำเสร็จแล้ว ผมคงต้องวางก่อน”
แล้วเขาก็ตัดสายไปก่อนที่จะฟังพี่ชานยอลพูดให้จบ เขารู้ว่ามันดูเสียมารยาทที่ทำแบบนั้นกับคนที่มีอายุมากกว่า แต่ก็ไม่อยากคุยโทรศัพท์ให้มากกว่านี้ กลัวว่าตัวเองจะเปลี่ยนใจ กลัวว่าจะไม่อยากยกพี่แบคฮยอนให้กับใคร
ถึงแม้ว่าคนๆนั้นจะเป็นคู่หมั้นของพี่แบคฮยอนก็ตาม...
พี่แบคฮยอน...ผมขอโทษ ให้อภัยกับความไม่เอาไหนของผมด้วยเถอะ
รู้มั๊ยว่าทำไมผมถึงทำตัวเย็นชาใส่พี่ ไม่สนใจพี่ คอยไล่พี่ให้กลับไป ใจร้ายกับพี่ต่างๆนานา ก็เพื่อเวลานี้ไง เวลาที่เราต้องจากกัน เวลาที่พี่ต้องกลับไป ในวันที่เราต้องห่างกัน แผลหัวใจของเขาจะได้ไม่กว้างไม่ลึกและไม่เจ็บมากเกินไป ที่ทำก็เพื่อปกป้องหัวใจตัวเองไม่ให้บอบช้ำจนเกินจะทน เวลารักษาแผลใจจะได้ลดน้อยลง....
เซฮุนร้องไห้เหมือนเด็กขี้แย...เพราะว่ารอยยิ้มของพี่แบคฮยอนเขาเป็นคนทำมันหายไป
ร่างสูงตัดสินใจเดินเข้าผับแห่งหนึ่ง...เสียงอึกทึกครึกโครมจากเสียงเพลงดังก้องอยู่ในหู ดูเหมือนว่าคืนนี้เขาคงจะต้องเป็นฝ่ายโทรให้พี่ลู่หานมารับเหมือนเมื่อวาน แต่คราวนี้เปลี่ยนกันก็ตรงที่คนเมาเละคือเซฮุน
ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมใครๆก็เลือกที่จะดื่มน้ำเมาเวลาเศร้าใจกันทั้งนั้น
มันรู้สึกมึน...ทำให้คิดอะไรไม่ออก สมองโล่งและว่างเปล่า แต่ก็แค่ช่วงแรกแป๊บเดียว...รอยยิ้มและน้ำตาของพี่แบคฮยอนตามมาหลอกหลอนอีกจนได้ ทุกๆอย่างของพี่แบคฮยอนทำให้เซฮุนเสพติดจนถอนตัวไม่ขึ้น ยิ่งเมามายมากเท่าไหร่ก็ยิ่งจินตนาการถึงคนตัวเล็กหน้าตาจิ้มลิ้มชักเจนขึ้นทุกที น้ำเสียงหวานๆใสๆที่ทำให้ใจละลายเหมือนกำลังกระซิบอยู่ข้างหูเซฮุนด้วยซ้ำ นี่มันหนักกว่าตอนไม่ได้ดื่มอีก
หันไปสั่งบาร์เทนเดอร์ชงเหล้ามาเรื่อยๆ แก้วแล้วแก้วเล่าถูกยกขึ้นดื่มปล่อยให้ของเหลวสีอำพันไหลลงคอจนร้อนวาบ มีบ้างที่ผู้หญิงเข้ามานั่งใกล้ๆแล้วชวนคุย แต่เขาก็ไม่ได้มีทีท่าสนใจจนพวกหล่อนถอยกลับไป ได้แต่มองแก้วเครื่องดื่มแล้วพูดกับตัวเองเหมือนคนบ้า ด่าตัวเองต่างๆนานาให้มันเจ็บมากกว่าเดิม
ทำแบบนี้ดีแล้วรึยังนะ....
“คุณครับ...คุณเมามากแล้วนะ” เสียงบาร์เทนเดอร์เตือนสติของเซฮุนที่ตอนนี้เริ่มจะน้อยนิดลงไปทุกที
“ผมไม่เป็นอะไรหรอกครับ ผมยังรู้สึกตัวดี ขอบคุณที่เตือน”
“ดูเหมือนคุณมีเรื่องกลุ้มใจ อยากจะระบายมั๊ยครับ ผมชื่อเลย์นะ J”
บาร์เทนเดอร์หนุ่มหน้าหวานแนะนำตัวพร้อมกับยิ้มเป็นมิตรมาให้ รอยยิ้มที่กว้างทำให้เห็นลักยิ้มที่แก้มบุ๋มลงไปลึกจนเห็นได้ชัดเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว เซฮุนพยักหน้ารับไมตรีก่อนจะรับแก้วเหล้าที่ชงเสร็จแล้วมาถือไว้ สายตาเหม่อลอยไม่มองจุดใดเป็นพิเศษ รู้สึกอุ่นใจขึ้นเล็กน้อยที่ในตอนนี้เขาก็ไม่ได้เหงาอย่างโดดเดี่ยว
“คุณว่า...การทำสิ่งที่ถูกต้อง กับทำสิ่งที่ถูกใจ อันไหนมันจะดีกว่ากัน?”
เซฮุนหันไปถามบาร์เทนเดอร์ที่ยืนชงเหล้าให้ลูกค้ารายอื่นอยู่ ใบหน้าสวยทำท่าคิดซักพักแต่ใบหน้านั้นก็ยังยิ้มอยู่ เซฮุนรู้สึกแปลกใจและสนใจไม่น้อย บาร์เทนเดอร์ที่ชื่อเลย์คนนี้ทำอะไรก็ดูสง่าไปหมด เซฮุนรู้สึกว่าสบายใจเมื่อได้อยู่กับคนๆนี้ยังไงก็ไม่รู้ มันให้ความรู้สึกเป็นมิตร....
“ในความคิดผมนะ ถ้าทำสิ่งที่ถูกต้องแล้วมันถูกใจด้วย มันก็คงไม่เป็นปัญหา แต่ถ้าสิ่งที่ถูกต้อง มันสวนทางกับสิ่งที่ถูกใจ ผมว่า...เราควรทำสิ่งที่ถูกใจดีกว่านะ เพราะสิ่งที่ถูกต้องบางทีมันก็ไม่ได้ดีเสมอไปหรอก อันไหนที่คุณมีความสุข อันไหนที่คุณทำแล้วคุณยิ้มออกมาได้ ถึงแม้มันจะขัดกับความถูกต้อง คุณก็ควรจะทำ ดีกว่าปล่อยให้มันผ่านไป คุณเองนั่นแหละที่จะเป็นฝ่ายเสียดายภายหลัง ที่ผมพูดมามันก็เป็นเพียงความคิดเห็นของผมน่ะ แล้วคุณล่ะ จะตัดสินใจยังไง ^^”
“.........”
เป็นเซฮุนที่นิ่งไปเมื่อได้ยินคำแนะนำจากบาร์เทนเดอร์เลย์ คิดทบทวนสิ่งต่างๆนานาที่ผ่านมา นั่นสินะ การที่เขาได้อยู่กับพี่แบคฮยอนมันทำให้เขามีความสุข การที่เขาได้แกล้งพี่แบคฮยอนมันทำให้เขามีความสุข การที่เขาได้เดทกับพี่แบคฮยอนมันทำให้เขามีความสุข
แต่ตอนนี้...เขาได้ปล่อยความสุขลอยหายไปแล้ว...ด้วยมือของตัวเอง
“ผม...เลือกตอบไปแล้วล่ะ ดูเหมือนคำตอบของผมกับนายมันจะตรงข้ามกันนะ”
“อ่า...ถ้าคุณเลือกแล้ว...ก็ต้องยอมรับในการตัดสินใจของตัวเอง ผมเองก็ช่วยให้คำปรึกษาคุณได้ไม่มากหรอกนะ แต่ถ้ามีเรื่องไม่สบายใจต้องการที่ระบายล่ะก็ ผมยินดีให้คำปรึกษาครับ ^^”
ยอมรับการตัดสินใจของตัวเองงั้นหรอ...ไม่อยากเลย กลับไปเอาพี่แบคฮยอนคืนมาได้ไหม
“ขอบคุณครับ ผมขอเหมือนเดิมอีกแก้ว”
“ขออีกแก้วครับ”
“อีกแก้วนึง”
“อีกแก้ว”
“เอามาอีกแก้ว”
“....เอาอีก”
และอีกหลายๆแก้ววางเรียงรายอยู่บนเค้าท์เตอร์จนนับแทบไม่ถ้วน เซฮุนไม่คิดว่าตัวเองจะดื่มจัดขนาดนี้มาก่อน แต่มันหยุดไม่ได้ พอว่างจากการยกน้ำเมาเข้าปากภาพพี่แบคฮยอนจะลอยเข้ามาในหัวตลอด คิดว่ามันเป็นภาพหลอนแต่มันก็เหมือนจริงซะเหลือเกิน...เหมือนคนที่เขาคิดถึงกำลังยืนอยู่ตรงหน้า
แววตาของเซฮุนสั่นไหว การควบคุมตัวเองน้อยลงทุกทีตามปริมาณแอลกอฮอลที่ดื่มเข้าไป ดวงตาแดงก่ำเนื่องจากน้ำตาไหลรินลงมาไม่ขาด ถึงแม้มันจะไม่มากมายเหมือนกับน้ำตาของคนที่เขารัก แต่มันก็หลั่งออกมาจากหัวใจ น้ำตาที่เขาไม่เคยจะหลั่งให้ใครนอกจากคนในครอบครัวและคนสำคัญ คนสำคัญที่ไม่ใช่คนในครอบครัวเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น คือพี่แบคฮยอนคนเดียว
ก็แค่ผู้ชายหน้าตาบ้านๆคนนึง จะอะไรกันนักหนาเซฮุน หาเอาใหม่ก็ได้ หน้าตาแบบนี้มีเป็นร้อยเป็นล้านคน ไม่เห็นต้องแคร์
นิสัยก็ไม่เห็นจะดี เอาแต่ใจ ขี้อ้อน ชอบแกล้ง ทำตัวมุ้งมิ้งน่ารำคาญ เดี๋ยวจะหาใหม่ให้ดีกว่านี้เยอะเลยซักร้อยเท่า
เตี้ยก็เตี้ย หุ่นก็แบนตามฉบับผู้ชาย ออกจะอวบอีกต่างหาก จับนั่นโน่นนี่แล้วไม่เห็นจะเร้าอารมณ์ตรงไหน สู้ผู้หญิงอวบๆอึ๋มๆก็ไม่ได้
แล้วทำไมถึงลืมไม่ได้ซักทีวะ...หนึ่งปีก่อนมึงยังอยู่ได้ คราวนี้มึงก็ต้องอยู่ได้สิไอ้เซฮุน
ใบหน้าหล่อคมฟุบลงบนเค้าท์เตอร์บาร์ เริ่มสะอื้นหนักเรื่อยๆ เลย์เห็นท่าไม่ดีจะชักแก้วเหล้ากลับแต่ก็โดนดึงเอาไว้อีกต่างหาก เลย์เป็นบาร์เทนเดอร์ก็จริงแต่ก็ทนเห็นคนเมาหัวราน้ำไม่ไหวหรอก คนๆนี้มีเรื่องกลุ้มใจอะไรนักหนา อยากจะให้พูดอยากจะให้ระบายมากกว่าที่จะมาทนเก็บเอาไว้ในใจคนเดียวแบบนี้
“คุณ...คุณไม่ไหวแล้วนะ L”
“อือ...แก้วสุดท้ายแล้ว ชงมาเถอะ”
เลย์ถอนหายใจก่อนจะหยิบอุปกรณ์มาผสมกันอีกครั้ง คราวนี้แอบชงให้จางลงนิดหน่อยจะได้ไม่เมามาก เหลือบมองคนที่นอนฟุบอยู่บนเค้าท์เตอร์บ่อยๆเผื่อจะสลบคาแก้วเหล้าจะได้โทรให้ญาติของเขามารับกลับบ้าน ก็พอจะประคองสติได้อยู่ แต่มันก็เหลือน้อยนิดเต็มทนแล้วสติน่ะ พอชงเสร็จก็คว้าไปดื่มอึกๆอย่างกับน้ำเปล่า แบบนี้ไม่น่าเป็นห่วงก็ไม่รู้จะพูดยังไงแล้ว เมื่อเซฮุนวางแก้วในมือลงแล้วก็ควานหากระเป๋าเงินขึ้นมาจ่ายตังตามสัญญาว่าแก้วนี้เป็นแก้วสุดท้าย เดินขาเป๋ไปเป๋มาไปกลางฟลอร์ที่ผู้คนกำลังออกลวดลายกันปนไปหมด
“เฮ้...ขอให้โชคดีนะครับคุณ”
เซฮุนชูสองนิ้วให้เลย์เห็นเพื่อบอกว่ายังไหวก่อนจะหายเข้าไปกับฝูงชนที่กำลังแดนซ์ลืมอายุ ดีเจเปิดเพลงดังสนั่นชวนให้คนที่เมาได้ที่เลือดเริ่มเดือดพล่าน ออกลวดลายเร่าร้อนจนลืมหายใจ เต้นให้ลืมทุกสิ่งทุกอย่าง ละทิ้งความทุกข์ความโศกเศร้าไว้เบื้องหลัง สะบัดความเครียดให้ออกจากสมองเอากองไว้บนพื้น ไม่มีใครรู้จักกันทั้งนั้นแต่ทุกคนก็เต้นรวมกันแล้วมีความสุขดี เพลงแล้วเพลงเล่าที่ถูกเปิดขึ้นก็ได้รับความร่วมมืออย่างดีจากคนบนฟลอร์
ชั่ววูบหนึ่งที่เขาเห็นเหมือนพี่แบคฮยอนเดินผ่านหน้าเขาไป....
“คุณครับ จับแขนผมเอาไว้ทำไม?”
“เอ่อ...ขอโทษครับ ผมคงจำคนผิด”
แต่แล้วก็ไม่ใช่ ก็แค่คนหน้าคล้ายพี่แบคฮยอนเท่านั้น ก็บอกแล้วว่าคนอย่างพี่แบคฮยอนหน้าโหลจะตาย มือหนารีบปล่อยแขนก่อนจะขอโทษขอโพย ซึ่งอีกฝ่ายก็ไม่ได้ว่าอะไร ที่นี่ไม่ใช่สถานที่จะต้องมาถือเนื้อถือตัวอยู่แล้ว ทุกคนต้องการความสุข ทุกคนย่อมใส่หน้ากากรอยยิ้มเข้าหากันเพื่อความสำราญที่ฉาบฉวย กับคนที่เซฮุนไม่รู้จักบางคนที่เต้นอยู่ใกล้ๆร่างสูงก็คว้าเอวเข้ามาจูบ ไม่มีการขัดขืน มีแต่ความเต็มใจให้ความร่วมมือ พอถอนจูบเสร็จก็ทางใครทางมัน
ในค่ำคืนนี้...เซฮุนจะปล่อยตัวไปตามจังหวะและเสียงเพลง...ให้ลืมคนที่ชื่อแบคฮยอน
*******************************************
อัพแล้วค่ะสำหรับวันที่สี่จุดสาม
อยากขอบคุณที่ติดตามมาจนถึงทุกวันนี้นะ
คอยอยู่ด้วยกัน เติบโตไปด้วยกัน
อ่านคอมเม้นแล้วมีกำลังใจฮึดมากเลย! นี่พูดจริงนะ
เมื่อก่อนเป็นรีดธรรมดาๆที่อ่านแล้วก็ไม่ค่อยเข้าใจว่าทำไมต้องคอมเม้น
ตอนนี้รู้แล้วค่ะ ไรท์จะปรับปรุงฝีมือพัฒนาผลงานได้เพราะแรงผลักดันของรีดทุกคอมเม้น
ขอบคุณทุกคนอ่านเลยนะคะ ทั้งคนที่เข้าไปเม้นในทวิตเตอร์ไรท์ด้วยนะ
เรื่องนี้มันเศร้าจริงๆแหละ เตรียมทิชชู่เอาไว้นะ
#ฟิคสี่วันฮุนแบค
ขอบคุณทุกๆคนค่ะ เอนจอยรีดดิ้งนะ <3
ความคิดเห็น