ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [EXO] 4 Days Only Tears สี่วันนี้..รักพี่จะได้ไหม?[HunBaek]

    ลำดับตอนที่ #12 : t h r e e d a y 3.5

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.54K
      14
      12 เม.ย. 57

    Three Day 3.5

     

    “ย๊า!! อะไรกันเนี่ย ทำไมไม่ตอบไลน์มาซักที L

    “ตัวเล็กเป็นอะไรเอ่ย? ดูท่าจะอารมณ์ไม่ดีนะ”

    “ก็เซฮุนน่ะสิยอล เราทักไลน์ไปเป็นร้อยๆครั้งแล้วแต่ก็ไม่ตอบกลับ แรกๆก็อ่านอยู่หรอก แต่พอหลังๆมาก็ไม่เปิดอ่านไลน์เราเลย โทรไปก็ปิดเครื่อง L

    “อย่าอารมณ์เสียเลยนะคนเก่ง น้องเขาอาจจะไม่ว่างก็ได้”

    “ก็อยากให้เป็นอย่างนั้น กลัวว่าเซฮุนเขาจะเปลี่ยนเบอร์เปลี่ยนไลน์ เซฮุนคงไม่อยากคุยกับแบคแล้ว”

    “ไม่เห็นเป็นอะไรเลย ใครไม่อยากคุยกับตัวเล็กก็ปล่อยเขาไป ตัวเล็กยังมีตัวตัวโตไง ยังมีชานยอลอยู่ตรงนี้”

    “มาซะน้ำเน่าเชียว”

    “อะไรกัน ตัวเล็กรู้สึกแบบนั้นหรอ”

    “ก็รู้สึกนิดหน่อยว่ามันน้ำเน่า เหมือนพระรองพูดกับนางเอกเลย คิกๆ”

    “แล้วจะให้ตัวโตพูดยังไงให้ตัวเล็กฟังล่ะ”

    “ไม่ต้องพูดอะไรหรอก เห็นหน้านายทุกๆวันก็รู้แล้วว่ายอลจะไม่ทิ้งแบคไปไหน ^^

    “อื้อ ยอลจะอยู่กับแบคทุกวันเลย”

    “สัญญากันแล้วนะ นายเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดเลยชานยอลอ่า...”

    “อื้อ...เป็นเพื่อนนาย”

     

    แบคฮยอนก็ได้แต่นอนนิ่งๆไม่สามารถขยับตัวไปไหนได้....

    เปลือกตาหนักอึ้งพยายามลืมตาขึ้นมาต่อสู้กับความง่วงงุน อากาศหนาวบาดลึกเข้าไปถึงกระดูก

    เห็นหมดทุกอย่าง เห็นว่ากำลังโดนทำอะไรบ้าง แต่สมองไม่สามารถสั่งการร่างกายได้โดยทันทีเนื่องจากสมองขาดอากาศไปนาน คนใจร้ายที่ทำร้ายแบคฮยอนเห็นว่าคนตัวเล็กแน่นิ่งหมดฤทธิ์ต่อต้านไปก็ปล่อยมือออกจากลำคอสวย รีบจัดการกางเกงของแบคฮยอนพร้อมกับซับในแล้วร่นลงจนโผล่ขาขาวออกมาอวดสายตา จับขาเรียวของแบคฮยอนให้ตั้งขึ้นก่อนที่ผู้ชายคนนั้นจะหันไปจัดการกับกางเกงตัวเอง

    กลัว...ได้แต่นอนตัวสั่นอย่างไร้ทางหนี

    “เซ...ฮุน...ฮึก ชานยอล...อยู่ไหน ช่วยด้วย....”

    เสียงแหบแห้งแทบจะไม่ได้ยินถูกเปล่งออกมาจากลำคอที่ตอนนี้แดงเถือกขึ้นเป็นรอยมือช้ำ เรียกชื่อคนที่อยู่ในความทรงจำซ้ำไปซ้ำมาจนเสียงขาดหายเป็นห้วงๆ แผ่วเบาจนมันกลืนหายไปกับสายลมหนาวๆที่พัดผ่าน น้ำตาไหลลงมาเปรอะแก้มจนมันเปียกชุ่ม นอนรอสิ่งที่กำลังจะเกิดด้วยหัวใจที่กลัวเกินจะบรรยาย ต่อต้านอะไรไม่ได้เพราะแค่หายใจเต็มปอดยังลำบาก อยากจะตายไปให้พ้นๆ

    ภาพที่แบคฮยอนเห็นตรงหน้าทำเอาแบคฮยอนอึ้งตาค้าง...ขาเรียวเขยิบเข้ามาชิดกันปกปิดส่วนสำคัญของตัวเองที่ไม่เคยอวดให้ใครเห็นเอาไว้ ตื่นกลัวจนหายใจแทบสะดุด ผู้ชายคนนั้นจัดการกับกางเกงของตัวเองเสร็จก็หันมาจับขาขาวของคนไร้ทางสู้ให้ขยับแหกออกกว้างจนเห็นลึกไปไหนต่อไหน

    เขากำลังจะโดนทำเหมือนผู้หญิงคนเมื่อกี๊สินะ...

    เซฮุนก็ไม่อยู่...ชานยอลเขาก็เป็นคนหนีจากมาเอง...

    จะให้รอว่าตำรวจจะมาช่วยทัน ก็คงจะปาฏิหาริย์ไปหน่อย โชคคงไม่เข้าข้างแบคฮยอนถึงขนาดนั้น

    แบคฮยอนไม่เหลือใครแล้ว...ตอนนี้ไม่มีใครสามารถปกป้องแบคฮยอนได้

     

    หรือคราวนี้จะต้องรอรับชะตากรรมจริงๆ

     

    ไม่มีทาง

     

    แบคฮยอนรู้สึกได้ว่ามือหยาบกร้านกำลังยกสะโพกของแบคฮยอนลอยขึ้นเหนือพื้น แววตาที่จ้องมองลวนลามเขาทางสายตา ทำกับคนที่ไร้ทางสู้ ขาเรียวอ้าออกกว้างอย่างไม่สามารถต่อต้านอะไรได้ ทำเหมือนร่างกายของเขาเป็นตุ๊กตายางระบายความใคร่ ดวงตาเรียวหลับลงอย่างไม่ต้องการรับรู้สิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นในลำดับถัดมา

    แผลทั่วไปถึงแม้จะเหวอะหวะขนาดไหนก็ต้องหายซักวัน

    แต่รอยแผลในหัวใจ ทำยังไงมันก็คงเป็นเหมือนเดิม ยังคงจำและฝังใจไปจนวันตาย

    “ไม่...อย่าทำ...ได้โปรด ม่ายยยยยยยย!!!

     

     

    เฮือก!!!

    ฝัน? ฝันร้ายเองหรอกหรอเนี่ย

    เซฮุนผวาตื่นลุกขึ้นมานั่งตัวตรงท่ามกลางแสงสลัวๆของโคมไฟบนหัวเตียงของโรงแรม ใบหน้าชุ่มเหงื่อไปหมด ร่างสูงหายใจหอบแรงเหมือนกับไปวิ่งแข่งมา ยังตกใจกับความฝันประหลาดไม่หาย อะไรกันที่ทำให้เขาฝันร้ายได้ถึงขนาดนี้ หรือนี่จะเป็นลางบอกเหตุอะไรรึเปล่า...

     

    มองไปยังพี่ลู่หานที่ตอนนี้ก็ยังหลับสนิทอยู่...ก็ไม่มีอะไรผิดปกติ

     

    “คิดมากไปเองรึเปล่าวะไอ้เซฮุน มันไม่มีอะไรหรอก ก็แค่ความฝัน”

    ร่างสูงลูบหน้าตัวเองก่อนจะลุกไปล้างหน้าเอาคราบเหงื่อออก กลับมานอนต่อบนโซฟาก็ได้แต่พลิกตัวไปพลิกตัวมานอนไม่หลับซักที หัวใจมันเต้นแรงอย่างกับกังวลอะไรซักอย่างอยู่อย่างนั้น ในฝันเหมือนเซฮุนจะจำได้ลางๆว่าเขาเก็บลูกหมาได้หนึ่งตัว...เขาเลี้ยงดูมันอย่างดี และเขาก็เอ็นดูมันมาก แต่แล้ววันหนึ่งมันก็หายไป เขาตามหาที่ไหนๆก็ไม่เจอ พอกลับมาที่ห้องก็พบว่ามันถูกฆ่า...เลือดอาบเต็มที่นอนของมัน กลิ่นเลือดคาวคละคลุ้งไปทั่วห้อง คนฆ่าคงใจคอโหดเหี้ยมมากๆเพราะเซฮุนเองถึงกับทนมองสภาพของลูกหมาตัวนั้นไม่ได้

    อยู่ๆลูกหมาตัวนั้นก็ลุกขึ้นยืนแล้วเดินเข้ามาหาเซฮุนทั้งๆที่สภาพมันไม่น่าจะเดินได้...มันทั้งเห่า ทั่งหอน ทั้งครวญครางอย่างเจ็บปวดราวกับจะดุด่าว่าเขาหายไปไหนทำไมปล่อยให้มันถูกฆ่า เขาในฝันทำอะไรไม่ถูกได้แต่ล้มลงบนพื้นเพราะว่าแข้งขาอ่อนไร้เรี่ยวแรง พยายามจะพูดขอโทษให้มันอภัยเขา แต่เสียงมันไม่ออกมาจากลำคอเลยซักนิด

    ภาพสุดท้ายที่จำได้ในฝันก็คือลูกหมาตัวนั้นกระโจนเข้ามาหาอย่างมุ่งร้าย เสี้ยววินาทีนั้นเขาก็ตื่นขึ้นมาซะก่อน

     

    ต้องขอบคุณที่ตื่นทันเวลาก่อนที่เขาจะโดนลูกหมาตัวนั้นทำร้ายเอา....

     

    แต่ว่าเซฮุนยังรู้สึกไม่ดีอยู่เป็นระยะๆ พลางปลอบตัวเองว่าคงเก็บเรื่องต่างๆที่ได้เจอมาแล้วฝันเองเป็นตุเป็นตะ ก็แค่ฝัน ไม่ใช่ลางบอกเหตุ...ก็แค่คิดไปเอง

    ขอให้มันเป็นแค่เรื่องคิดไปเองด้วยเถอะ

     

     

    “อ๊ากกกกกกกกกกกก!!

    ผลั่ก!! ตุบ..ตุบ..

    เสียงใหญ่ร้องแสดงความเจ็บปวดออกมาเมื่อผู้ชายคนนั้นโดนแบคฮยอนคว้าก้อนอิฐที่วางระเกะระกะอยู่ใกล้มือทุบหัวอย่างแรงจนกลิ้งไปกับพื้น มันแรงมากจนหัวของคนๆนั้นแตกเลือดกระเด็นเปื้อนตัวแบคฮยอน ร่างเล็กถืออาวุธในมือไว้แน่นก่อนจะกัดฟันลุกขึ้นใส่กางเกงของตัวเองให้เรียบร้อยแล้วตามไปฟาดก้อนอิฐซ้ำๆอีกหลายทีจนผู้ชายคนนั้นแน่นิ่งไป

    ไม่รู้ว่าแบคฮยอนเอาเรี่ยวแรงมาจากไหน...เฮือกสุดท้ายก่อนที่จะโดนกระทำชำเราทางร่างกาย

    เวลาหมามันจนตรอก มันจะทำอะไรก็ได้เพื่อให้ตัวของมันรอด

    มันคือสัญชาติญาณพื้นฐานของสัตว์ทุกตัวและมนุษย์ทุกคน

    กว่าจะหยุดลงมือทำร้ายคนที่คิดจะเอาตัวเองเป็นที่ระบายความใคร่ เลือดก็เต็มมือแบคฮยอนจนชุ่ม ได้กลิ่นคาวของเลือดสดๆไหลทะลักออกมาจากบาดแผลน้อยใหญ่ตามร่างกายที่โดนก้อนอิฐในมือกระทำ ร่างเล็กมองคนที่นอนจมกองเลือดอย่างไม่เชื่อสายตาว่าจะเกิดจากฝีมือของตน คนที่เคยทำร้ายเขาตอนนี้มีแต่รอยแผล...

    “ผ...ผม..ผมไม่ได้ตั้งใจ...ผมแค่ป้องกันตัว...คุณไม่ได้ตายใช่ไหม!!

    พูดเองถามเองปลอบตัวเองไปแบบนั้น ไม่มีการตอบรับจากคนตรงหน้า แน่นิ่งไม่ไหวติง แบคฮยอนไม่กล้าแม้แต่จะเข้าไปเช็คชีพจร ไม่กล้าแม้แต่จะเข้าไปห้ามเลือดปฐมพยาบาลขั้นต้นให้ ริมฝีปากจิ้มลิ้มได้แต่พูดว่ามันเป็นอุบัติเหตุ ไม่ได้ตั้งใจ มันคือการป้องกันตัว สติเริ่มหลุดลอยเหมือนคนบ้า

    “ก้อนอิฐ...ต้องเอาไปทิ้ง มันจะเป็นหลักฐานมัดตัว...”

    แบคฮยอนเขวี้ยงก้อนอิฐในมือทิ้งไปในพุ่มไม้ใกล้ๆแถวนี้ มองดูมือขวาตัวเองสั่นไม่หยุดราวกับจับไข้ มือข้างนี้แหละที่กำก้อนอิฐเอาไว้แล้วทุบผู้ชายคนนั้นไม่หยุด ทุบแรงๆจนเลือดสาด ทุบจนอีกคนไม่มีโอกาสร้องขอความเห็นใจ แขนข้างซ้ายของแบคฮยอนกำแขนข้างขวาของตัวเองเอาไว้ราวกับกำลังบังคับให้มันหยุดสั่นเสียที สายตามองลอกแล่กไปมาเหมือนคนเสียสติเต็มทน

    เขากำลังตกใจ...ยังยอมรับไม่ได้ว่าตัวเองเป็นคนลงมือ

     

    แบคฮยอนเป็นฆาตกรงั้นหรอ!!?

     

    เขาฆ่าคนตาย

     

    เสียงก่นด่ามากมายดังขึ้นในหัวไม่หยุด เสียงตัดพ้อเสียใจและผิดหวังก็ตามมาไม่เว้นช่วง ร่างเล็กเขยิบถอยหลังออกห่างจากคนที่ไม่รู้ว่าเป็นหรือตายด้วยท่าทีตระหนก ยกมือเรียวขึ้นปิดหูทั้งสองข้างแน่น ช็อกจนประสาทหลอนสร้างเสียงบ่นเสียงด่าขึ้นมาเอง

    แบคฮยอนที่เป็นเด็กดีอยู่ในกรอบมาตลอด...ตอนนี้กลับลงมือฆ่าคน

    ฆาตกร

    ฆาตกร

    ฆาตกร

    แบคฮยอนเป็นฆาตกร!!

     

    “ไม่!! ผมไม่ใช่ฆาตกร ผมไม่ได้ฆ่าเขานะ ผมไม่ได้ตั้งใจ...ฮือ...”

    ตื่นกลัวจนหายใจหอบไปหมด ทั้งจิกทั้งดึงทึ้งผมตัวเองเพื่อระบายความกลัว ตอนนี้ใบหน้าแบคฮยอนเต็มไปด้วยเลือดเพราะมือของเขาเปื้อนเลือดจากการถือก้อนอิฐ แบคฮยอนล้มลงอย่างไร้เรี่ยวแรงแม้แต่จะยืน นั่งร้องไห้น้ำตาไหลเปื้อนแก้มใสอย่างสะอึกสะอื้น มองผู้ชายที่แบคฮยอนทุ่มก้อนอิฐใส่อย่างแรงไม่ยั้งมืออย่างเหม่อลอย นั่งมองอย่างนั้นเป็นเวลานานพอตัว

    หรือว่าจะมอบตัว...อีกไม่นานผู้หญิงคนนั้นคงพาตำรวจมา

    แต่ก็กลัว...กลัวว่าเขาจะทำให้พ่อแม่เสียใจ ทำให้พี่แบคบอมต้องอับอาย ทำให้ตระกูลบยอนเสื่อมเสียเกียรติ

    เดี๋ยวนะ เขาจะมาโผล่อยู่ที่นี่ได้ยังไง ต้องห้ามให้ใครรู้ ต้องไม่มีใครรู้ว่าเขาอยู่ที่นี่

     

    ไม่งั้นล่ะเรื่องใหญ่...

     

    จะต้องไม่ให้ใครเห็นแบคฮยอน จะต้องไม่มีข่าวว่าเจอเขาอยู่ที่นี่

     

    หนี...ต้องหนี...ต้องไปจากที่ตรงนี้

     

    แบคฮยอนลุกขึ้นยืนอีกครั้งด้วยแรงที่น้อยนิด ขาเรียวก้าวเดินอย่างไม่มั่นคง พยายามกลั้นใจเดินผ่านผู้ชายคนนั้นออกไป ภาวนาในใจว่าขอให้ตำรวจเจอคนๆนี้แล้วนำไปส่งรพ.ทันเวลา ขอให้เขาปลอดภัย และขอให้เขาอภัยในการกระทำของเขาด้วย...

    ร่างเล็กเดินออกไปด้วยท่าทีระแวดระวัง นับว่าเป็นโชคร้ายที่แถวนี้ค่อนค่างเปลี่ยวแต่ก็ถือเป็นความโชคดีเล็กๆของแบคฮยอนเช่นกัน หากมีคนเห็นว่าทั้งเนื้อทั้งตัวของแบคฮยอนเปื้อนเลือดก็คงไม่ดี ร่างเล็กเดินไปตามเส้นทางถนนอย่างเหม่อลอย คิดเพียงแต่จะหนีออกไปจากตรอกซอยนี้ให้พ้นๆ

     

    โดยที่ไม่ทันสังเกตว่ามีรถคันหนึ่งวิ่งสวนตรอกซอยที่แบคฮยอนเพิ่งเดินออกไปเมื่อซักครู่

     

    ชานยอลจอดรถใต้ต้นไม้ใกล้ๆกับหอพักของเซฮุนและลู่หาน หลังจากกลับมาจากคุยธุระกับพี่คริส ชานยอลก็ขับรถออกตามหาหอพักนี้ทันที ร่างสูงดับเครื่องยนต์จนจอดสนิทไร้เสียงใดๆ ก่อนจะหยิบเอากระดาษแผ่นหนึ่งออกมาดูว่าใช่กับที่สายข่าวเขาบอกมารึเปล่า หยิบรูปของหอพักออกมาเทียบดู ดูป้ายเลขที่ของหอพักก็ตรงกับในข้อมูลทุกอย่าง ชานยอลมองหอตรงหน้าอย่างพอใจว่าเขามาถูกที่แล้ว แต่จะให้ขึ้นไปรบกวนตอนนี้ก็คงจะไม่ได้เพราะดึกพอสมควร

    เมื่อแน่ใจแล้วชานยอลก็สตาร์ทรถก่อนจะขับกลับไปยังที่พักของตัวเอง

    รอให้ถึงพรุ่งนี้ก่อนก็แล้วกัน....

    “พรุ่งนี้พี่จะมาหานาย เซฮุน...หวังว่านายคงจะรับได้กับเรื่องของแบคฮยอน”

     

     

    เดินมาได้ตั้งไกลขาเรียวก็มาสะดุดล้มอยู่หน้าสนามเด็กเล่น โดยที่ไม่รู้จะไปไหนต่อดี แบคฮยอนก็เดินเข้าไปนั่งกอดเข่าอยู่ใต้กระดานลื่น กลัวไปหมด...กลัวว่าจะมีใครตามมารึเปล่า กลัวว่าจะมีใครรู้ว่าเขาอยู่ที่นี่ กลัวว่าคนๆนั้นจะตาย กลัวว่าเขาจะกลายเป็นฆาตกร...

     

    แต่คนๆนั้นก็เกือบจะฆ่าแบคฮยอนเหมือนกัน ยังจำสัมผัสนั้นได้เวลาที่มือใหญ่ของอีกคนบีบลงมาบนคอของเขา

     

    ไม่รู้ว่าตอนนี้เป็นเวลาเท่าไหร่แล้ว รอบๆกายมืดสนิท มีเพียงแสงสว่างจากหลอดไฟข้างทางเล็กๆที่ส่องลงมา ร่างเล็กได้แต่นั่งนิ่ง คิดไปคิดมาว่าจะทำยังไงต่อไปดี ทางเดียวที่นึกขึ้นได้ตอนนี้คือต้องเข้มแข็ง ต้องตั้งสติเอาไว้ให้มั่น นึกในทางที่ดีเอาไว้...

     

    ต้องกลับหอ...เผื่อเซฮุนจะกลับมาแล้ว

     

    แบคฮยอนวิ่งไปล้างคราบเลือดคราบดินโคลนที่ติดตามเสื้อผ้าและร่างกายออก ยืนล้างอยู่ในห้องน้ำสาธารณะใกล้ๆกับสนามเด็กเล่น มองดูตัวเองในกระจกที่ตอนนี้สภาพดูไม่ได้ ลำคอที่แดงเป็นรอยมือชวนผวาเสียทุกครั้งไป ถูล้างฝ่ามือไปมาซ้ำแล้วซ้ำเล่าล้างให้คราบเลือดที่แห้งเกรอะกรังนั้นหลุดออกไปจนหมด ตามด้วยใบหน้า ลำคอระหงส์ และเสื้อผ้าตามลำดับ แบคฮยอนเหมือนคนเพิ่งอาบน้ำทั้งๆที่ยังใส่เสื้อผ้า เปียกปอนตั้งแต่หัวจรดเท้า

    ความเย็นของน้ำไม่สามารถทำให้แบคฮยอนหยุดขยี้มือของตัวเองซ้ำไปซ้ำมา คราบเลือดหมดไปแล้วก็จริง แต่ภาพของเลือดยังติดตาแบคฮยอนอยู่ ทำยังไงก็ไม่สามารถลบออกไปจากใจได้...

     

    ร่างเล็กเดินกลับมาที่หออีกครั้ง คราวนี้เห็นรถพยาบาลและตำรวจจอดอยู่ที่ตรอกซอยนั้นสองสามคัน ร่างเล็กก็ยิ่งรีบก้าวขาเดินเข้าหอไปอีก กลัวว่าใครจะเห็นเข้า กลัวว่าจะโดนเรียกไปสอบปากคำในฐานะพยาน รถพยาบาลมาด้วยแบบนี้ผู้ชายคนนั้นคงจะยังไม่ตาย ก็ถือว่าเป็นโชคดีของเขา และโชคดีของแบคฮยอน...ที่ไม่กลายเป็นฆาตกรไปจริงๆ

    ปัง!!

    แบคฮยอนปิดประตูห้องอย่างแรง ไม่สนว่าตอนนี้กี่โมงกี่ยามและใครจะลุกขึ้นมาเคาะประตูห้องด่าเขาบ้างรึเปล่า ในห้องมืดสนิทเหมือนเดิม บ่งบอกว่าคนที่เขาเฝ้ารอยังไม่ย่างกรายเข้ามาในห้องเหมือนที่คิดเอาไว้ ร่างเล็กทรุดลงนั่งพิงประตูห้องอย่างหมดเรี่ยวแรง ซบหน้าลงบนเข่าของตัวเอง น้ำตาไหลออกมาอีกครั้งเหมือนคนที่หมดสิ้นกำลังใจ

    “ฮือ...เซฮุน...นายอยู่ไหน ฮึก...”

    นายจะรู้รึเปล่าว่าคืนนี้พี่ต้องเจออะไรบ้าง

    นายมัวไปทำอะไรอยู่....นายสัญญาแล้วนะว่าจะกลับมา

    หรือว่านายแค่สัญญาไปงั้นๆ เป็นแค่ลมปากให้พี่ปล่อยนายไปหาพี่ลู่หานใช่ไหม?

    อยู่กับพี่มันอึดอัดรำคาญใจมากเลยรึไง ทำไมไม่กลับมา...

     

    แค่สี่วันที่พี่จะอยู่กับนาย มันลำบากมากเลยสินะ...

     

    ร่างเล็กมองรอบๆห้องด้วยแววตาตัดพ้อ ทุกสิ่งทุกอย่างมันยังคงเหมือนเดิมก่อนที่เขาจะออกไป ผนังห้อง โพสอิท ทุกสิ่งทุกอย่างต่างอยู่ตรงที่เดิม ที่ๆเขาแปะเอาไว้ แต่คนที่เฝ้ารอให้กลับมาเห็นก็ยังไม่กลับมา ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมรูปคู่ของเรามันถึงมีฝุ่นเกาะเต็มไปหมด เพราะนายละทิ้งความผูกพันของเราไปแล้วนี่เอง...

     

    เพราะพี่มีตัวตนอยู่แค่ในอดีตของนายเท่านั้นเอง....

     

    ในตอนนี้พี่อ่อนแอเกินกว่าจะให้กำลังใจตัวเองแล้ว หลอกตัวเองมานานว่านายอาจจะรักพี่บ้าง ทุกสิ่งทุกอย่างที่ทุ่มเทไปมันคงไม่สามารถสั่นคลอนหัวใจที่กลายเป็นหินของนายได้แล้ว

    แต่ก็ไม่เสียใจที่ได้พยายาม....

    ไหนๆก็มาจนถึงขั้นนี้แล้ว ต่อให้นายทิ้งพี่ไปอีกกี่ครั้ง พี่ก็จะอยู่กับนายที่นี่จนถึงพรุ่งนี้...ตามที่พูดเอาไว้

     

    แบคฮยอนเผลอหลับไปทั้งๆที่ยังนั่งพิงอยู่หน้าประตูห้อง หลับไปทั้งๆที่คราบน้ำตายังไม่หมดไปจากแก้ม วันนี้แบคฮยอนเหนื่อย เหนื่อยจนไม่อยากขยับไปไหนทั้งสิ้น ก็ถือว่าโชคดีแล้วที่เซฮุนยังไม่มาเห็นสภาพที่ดูไม่ได้ของตัวเอง ยังไม่พร้อมอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นให้ฟังยังไงดี กลัวจะได้รับคำกระแทกแดกดันจากปากอีกคน

    สมน้ำหน้า...พี่อยากหาเรื่องเอง มันจะเป็นแบบนี้รึเปล่า

    ยังไม่อยากฟังแบบนี้

     

    หลายครั้งที่สะดุ้งตื่นขึ้นมาก็พบว่าตัวเองยังนั่งอยู่ที่เดิมจนเริ่มปวดหลัง พื้นที่เย็นเฉียบมันทำให้แบคฮยอนปวดร้าวไปหมดทั้งกาย ฝืนตัวเองลุกขึ้นเปิดไฟให้สว่างแล้วก้าวเดินไปชำระร่างกายในห้องน้ำให้มันสบายตัวขึ้นมาหน่อย หลับทั้งๆที่เสื้อผ้าชุดเดิมยังเปียกอยู่แบบนี้จะไม่สบาย ไหนๆเซฮุนเขาก็ไม่สนใจกลับมาอยู่แล้วเราก็ต้องสนใจตัวเอง ไม่สบายขึ้นมาจะกลายเป็นภาระของเซฮุนซะเปล่า ไม่อยากทำให้เซฮุนต้องลำบากไปมากกว่านี้

    ถอดเสื้อผ้าแต่ละชิ้นออกไปแล้วนำไปผึ่งไว้นอกระเบียง มองลำคอตัวเองแล้วถอนหายใจอีกครั้ง ขัดๆถูๆลำคอของตัวเองจนมันแดงเถือกไปหมด รอยมือหายไปแล้วทิ้งไว้แต่รอยจ้ำจางๆ อาบน้ำลางคราบดินต่างๆออกให้สะอาดก่อนจะเดินไปแต่งตัวแล้วลากขาอย่างไร้เรี่ยวแรงไปฟุบหน้าหลับอยู่บนโต๊ะอาหาร

     

    ไม่อยากขึ้นไปนอนบนเตียงโดยที่ไม่มีเซฮุน...

     

    นาฬิกาเดินหมุนไปเรื่อยๆตามหน้าที่ของมัน

     

    เวลาก็เดินไปเรื่อยๆเช่นกัน

     

    วันใดที่ถ่านของนาฬิกาหมด มันก็จะหยุดเดิน

     

    ก็เหมือนกับหัวใจของแบคฮยอน...เมื่อไหร่ที่หมดแรง มันก็จะหยุดเต้นไปเอง


     

    **********************************

    นี่คือบทสรุปค่ะว่าแบคฮยอนน้อยของเรารอดมาได้ยังไง
    ลงฟิคก่อนไปสาดน้ำค่ะ ร้อนมากเลย
    เอ็กโซโอป้าของเราปล่อยทีเซอร์มาแล้ว อย่าลืมไปช่วยกันปั่นวิวยูทูปนะ
    เที่ยวสงกรานต์สนุกและปลอดภัยนะคะ

    พรุ่งนี้วันสุดท้ายที่แบคฮยอนจะอยู่กับเซฮุนแล้วน้า
    ทำไมยังไม่เห็นวี่แววว่าจะลงเอยกันซะที me//ปาของใส่เซฮุนในฟิคอย่างโมโห

    มีทริคมาบอกค่ะ เอามาจากเพื่อน
    เวลาจะลบรอยคิสมาร์คหรือรอยดูดบนคอเนี่ยให้เอาเหรียญบาทขูดค่ะ
    แล้วก็อาบน้ำตามปกติ รอยจะจางลง #ย้ำว่าเหรียญบาทเท่านั้น
    ไม่รู้ว่าทำได้จริงรึเปล่า เพื่อนบอกมา ไรท์ก็ไม่เคยลอง 

    รักคนอ่านทุกคนนะจุ๊บ <3



     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×