คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #11 : t h r e e d a y 3.4
Three Day 3.4
“เรียกผมมาคุยแบบนี้มีอะไรหรอครับพี่ชานยอล?”
“เซฮุน พี่ไม่อ้อมค้อมนะ อีกสองวันพี่กับแบคฮยอนจะบินไปซัมเมอร์ที่อังกฤษ...กลับมาเราจะหมั้นกัน”
“หมั้น? แล้วพี่ชานยอลมาบอกผมทำไม ผมก็แค่น้องชายข้างหมู่บ้านของพี่แบคฮยอน”
“เพราะพี่รู้สึกได้ว่านายไม่ได้คิดกับแบคฮยอนแค่นั้น สายตาของเราเหมือนกัน นายก็น่าจะมองออก”
“หืม...คิดมากไปแล้วมั้งครับ ฮ่าๆๆๆๆๆ”
“แค่อยากจะมาบอกให้นายตัดใจจากแบคฮยอน พี่หวังดีกับนาย โชคชะตาแบคฮยอนถูกกำหนดไว้แล้ว”
“ผมไม่ได้รักพี่แบคฮยอนหรอกครับพี่ชานยอล”
“โกหกพี่นายอาจจะทำได้นะ แต่นายโกหกใจตัวเองไม่ได้หรอก”
“ถ้าอย่างนั้น...ผมฝากพี่แบคฮยอนด้วยนะครับ ดูแลพี่เขาให้ดีๆทำให้พี่แบคฮยอนมีความสุข..ผมขอร้อง”
“ไม่ต้องห่วง แบคฮยอนจะไม่เป็นอะไรตราบเท่าที่ชานยอลคนนี้อยู่ข้างๆ พี่ให้สัญญากับนาย”
เซฮุนจ่ายเงินแท็กซี่ก่อนจะก้าวลงมายืนอยู่หน้าผับที่ลู่หานบอกพิกัดมา พี่ลู่หานทะเลาะกับพี่อี้ฟานทีไรลำบากเซฮุนทุกทีสิน่า ถึงแม้จะรำคาญที่จะต้องคอยมาตามเก็บ แต่ทำไงได้ พี่ลู่หานก็สนิทกับเขามาก อีกทั้งก็อยู่ห้องใกล้ๆกัน ถ้าไม่พึ่งพาเขาแล้วจะไปพึ่งพาใคร
ยอมรับว่าเมื่อกี๊โมโหพี่แบคฮยอนไปไม่น้อย ไม่ใช่ว่าเขาไม่อยากอยู่ต่อหรืออยากจะออกมาข้างนอก แต่เป็นเพราะเขาต้องรับผิดชอบพี่ลู่หานตามที่รับปากพี่คริสเอาไว้ กลัวว่าพี่ชายหน้าหวานจะโดนสอยไปกินที่ไหนซักที่ เป็นไปได้เขาก็อยากจะกลับไปกินข้าวผัดฝีมือพี่แบคฮยอนให้อิ่มท้องเหมือนกัน
อยู่ๆก็มางอแงถามคำถามไม่มีที่มาที่ไป...พี่แบคฮยอนท่าจะเพี้ยน
ร่างสูงยื่นบัตรประชาชนให้การ์ดตรวจสอบ ทีแรกเกือบจะไม่ได้เข้าเพราะเซฮุนเพิ่งจะบรรลุนิติภาวะมาหมาดๆเมื่อเมษายนที่ผ่านมา แต่เป็นเพราะเขาชี้แจงว่ามารับพี่ชายกลับบ้าน การ์ดจึงยอมให้เข้ามาโดยดี สายตาคมสอดส่องหาไปทั่วจึงเดินวนไปรอบๆเพื่อหาคนที่จะรับกลับ
“เซฮุน~ เพ่อยู่นี่~ เฮ้~ ทางเน้~”
เสียงคุ้นหูดังขึ้นจากที่ไหนซักแห่ง เซฮุนมองไปมองมาก็ถึงกับร้องอ๋อว่าทำไมหาไม่เจอซักที ที่แท้พี่ลู่หานก็ยืนติดผนังแล้วมีคน ‘ยืนคร่อม’ เอาไว้นี่เอง
เซฮุนเดินเข้าไปกระชากคอเสื้อคนที่กำลังซุกไซร้คอของลู่หานออกไปก่อนจะดึงพี่ลู่หานให้ออกมาจากผนัง นักท่องราตรีคนนั้นไม่ได้ทำอะไรเพียงแต่ชี้หน้าเซฮุนก่อนจะเดินหลบไปแค่นั้น ใบหน้าของลู่หานตอนนี้ฉ่ำปรือไปด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์ แขนเรียวกอดขวดเหล้ายุโรปดีกรีปานกลางเอาไว้อย่างเหม่อลอย เสื้อผ้าหลุดลุ่ยกระดุมถูกแกะออกสองเม็ดทำเอาเกือบเห็นหน้าอกขาวๆ ท่าทางเหมือนคนสนุกสนานไปกับเสียงเพลงและเครื่องดื่ม แต่แววตาก็ซ่อนความเหงาความเจ็บเอาไว้ไม่มิด ทำเอาเซฮุนคิดถึงเอ็มวีเพลง Now – Trouble Maker ตอนฮยอนอาอยู่ในผับเลยจริงๆ พี่ลู่หานตอนนี้มองแล้วเซ็กซี่กว่าใคร
“พี่ลู่หาน ผมมารับแล้ว กลับหอกันเถอะ”
กอดคอพี่ชายเดินออกมาได้สองสามก้าวก็ถึงกับเซเพราะรับน้ำหนักของคนที่โถมไปกอดทั้งตัวเอาไว้ เซฮุนจึงพยายามเดินพยุงให้คนเมาเดินไปทีละก้าวอย่างใจเย็น แต่มันก็เป๋ไปเป๋มาจนดูไม่ได้ ให้ตายเถอะ! ทำไมเมาเละขนาดนี้ จะช้ำใจอะไรกันหนักหนา
“คนเจ้าชู้ว...คนหลายจาย...มีแค่คนเดียวยังไม่พอ...ฮืออออออออ...”
คนเมาแล้วชอบเพ้อ -_- บ่นอะไรต่างๆนานาเต็มไปหมด เซฮุนก็ทำได้เพียงแต่ตอบรับแบบขอไปที เมื่อไหร่จะออกไปพ้นผับนี่ซักทีวะ! ฟังคนเมาบ่นเพ้อเจ้อจนจะเมาเสียงบ่นไปอีกคนแล้วครับ
“กลับไปนอนพักที่หอให้สร่างเมาก่อนนะครับ...เฮ้อ”
“ไม่อาว ไม่กลับ ไม่อยากกลับไปเห็นอะไรที่เกี่ยวกับหมอนั่น ถ้ากลับไปพี่จะร้องไห้แน่ๆ..แง๊....”
“งั้นมานอนห้องผม”
“ไม่อาว เดี๋ยวก็ไปขัดนายกับแบคฮยอนน่ะสิ~ เอิ๊ก...”
“งั้นนอนข้างทาง -___-“
“เห็นพี่เป็นหมารึไงห้ะ! ไปเช่าโรงแรมอยู่ซักคืน...ไม่อยากกลับไปที่หอ ไม่อยากคิดถึงคนเจ้าชู้ -3-”
ลู่หานกระชากคอเสื้อเหมือนจะหาเรื่องเซฮุนก่อนจะกอดอ้อนเหมือนเดิม ซึ่งเซฮุนก็ไม่ได้ว่าอะไร คนเมามักจะทำอะไรโดยไม่รู้ตัวเสมอ มักจะควบคุมตัวเองไม่ได้ เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย ผีเข้าผีออกตลอดแหละพี่ลู่หาน
“เอาน่า กลับห้องไปพี่ก็หลับเป็นตายแล้วครับ อย่าเรื่องมากดิ -______-;”
“ไม่!!! ถ้างั้นก็กลับไปคนเดียวเลย นายมันใจร้ายว่ะเซฮุน พี่ไปเช่าโรงแรมอยู่คนเดียวก็ได้ เชอะ!”
เซฮุนถอนหายใจเฮือกใหญ่อย่างยอมแพ้ก่อนจะโบกแท็กซี่ไปโรงแรมใกล้ๆแถวนี้เมื่อสามารถพยายามลากพี่ชายหน้าหวานออกมานอกผับได้สำเร็จ ยอมตามใจไปก่อน โวยวายขึ้นมาฤทธิ์ก็มากเอาเรื่อง เดี๋ยวจะคุมไม่อยู่พอดี...
ภาวนาขออย่าให้พี่ลู่หานอ้วกแตกบนรถ...เดี๋ยวโดนแท็กซี่ไล่ แค่นี้ก็ปัญหาเยอะพออยู่แล้ว เซฮุนขอร้อง!
สี่ทุ่มกว่า....
เซฮุนบอกจะกลับมาแต่ก็ยังไม่เห็นวี่แวว
สี่ทุ่มครึ่ง...
ความหนาวเริ่มเข้ามาเกาะกุมหัวใจช้าๆ เริ่มกลัวว่าคืนนี้จะไม่ได้เห็นคนที่ตัวเองรอคอย
ห้าทุ่ม...
แบคฮยอนยังนั่งรออีกคนอยู่ในห้องครัว มองดูจานข้าวผัดที่ทำไว้สองชุดรอให้อีกคนกลับมาทานด้วยกันพร้อมหน้าพร้อมตา มองดูน้ำซุปแสนหอมที่ตอนนี้มันเย็นจืดชืดไปนานแล้ว หันไปมองรอบๆตัวด้วยความหม่นหมอง เหงา...แบคฮยอนไม่ชินที่จะอยู่ในห้องคนเดียวโดยที่ไม่มีเซฮุนนานๆ ทั้งๆที่แบคฮยอนก็จำได้ดีว่าเซฮุนสัญญาแล้วว่าจะกลับมาทานข้าวเย็นฝีมือของเขา
อยากให้เซฮุนกลับมากินข้าวด้วยกัน อยากให้เซฮุนกลับมาเห็นห้องที่เขาทำความสะอาดแล้วตกแต่งใหม่
ต้องรออีกนานแค่ไหน....
แบคฮยอนอยากร้องไห้...แต่ก็ร้องไม่ออก คงเป็นเพราะร้องไห้ในใจจนพอแล้วล่ะมั้ง
ร่างเล็กตัดสินใจหยิบเสื้อโค้ทผืนหนาขึ้นมาใส่อีกครั้ง ตั้งใจจะลงไปรอเซฮุนอยู่ข้างล่างหอ ก็ยังดีกว่านั่งรออยู่ในห้องปล่อยให้ความเหงาและอารมณ์คิดไปเองเล่นงาน แบคฮยอนล็อคห้องก่อนจะเดินลงไปข้างล่างอย่างช้าๆ ภาวนาให้เห็นเซฮุนกลับมาเร็วๆ เพราะเขาไม่อยากปล่อยเวลาอันมีค่าทิ้งไป อยากอยู่ใกล้ๆเซฮุนทุกวินาที...
แบคฮยอนลงมายืนอยู่หน้าหออยู่ประมาณห้านาทีก็เกิดอาการหนาวจนตัวสั่น ถูฝ่ามือหลายๆทีแล้วแนบมือลงกับหูตัวเองเพื่อคลายความหนาวเหน็บ ใบหน้าจิ้มลิ้มมองซ้ายทีขวาทีเผื่อจะเห็นเซฮุนกลับมาแล้วก็ได้ แต่เวลายิ่งดึกเท่าไหร่ผู้คนก็ยิ่งบางตาลง ถึงแม้จะอยู่ใกล้กับถนนสายหลักแต่ก็แทบจะไม่มีใครเดินผ่าน จนในที่สุดข้างล่างหอแห่งนี้ก็มีเพียงแบคฮยอนที่ยืนรอเซฮุนอยู่ตามลำพัง
“ย๊า....กลับมาซักทีสิตาแป๊ะยิ้ม L”
บ่นกับตัวเองเบาๆหวังจะคลายความเงียบลงไปได้บ้าง นี่ก็หนาวจนขาแทบสั่นอยู่แล้วยังจะเถลไถลไปไหนกันอีก แบคฮยอนยอมถอดใจว่าจะกลับไปรอบนห้องอย่างเคย อย่างน้อยก็คงจะไม่หนาวตายไปซะก่อน แต่พอหันหลังเดินเข้าหอไปสองสามก้าวก็ต้องชะงักเมื่อแบคฮยอนได้ยินเสียงโอดครวญอย่างน่าสงสารของหญิงสาวขอความช่วยเหลืออยู่ไม่ไกล
มะ...มันจะใช่พลังงานที่ตาเรามองไม่เห็นรึเปล่า =[]=!!
แบคฮยอนยืนตัวแข็งก้าวขาไม่ออก พยายามฟังเสียงให้ดีๆก็เริ่มรู้สึกว่ามันไม่น่าจะใช่ตามที่ตัวเองคิด เสียงต่อสู้ตุบตับได้ยินมาเป็นระยะ เมื่อคิดได้แล้วว่าไม่น่าจะใช่ผีหลอก แบคฮยอนก็เดินตามเสียงไปจนถึงตรอกซอยที่อยู่ไม่ไกลกับหอพักเท่าไหร่นัก เสียงยิ่งชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ แบคฮยอนค่อยๆย่องเบาๆแนบหลังติดกับผนังตึกเพื่อแอบดู
ภาพที่เห็นมันติดตาแบคฮยอน ผู้หญิงคนหนึ่งกำลังถูกข่มขืนอย่างทารุณ...
“ช่วย..ช่วยด้วย ใครก็ได้...ช่วยที โอ๊ย.... ฮือ...”
เสียงร้องขอความเห็นใจดังจากปากของผู้หญิงคนนั้นไม่ขาด ตามลำตัวมีรอยฟกช้ำเป็นจ้ำๆเนื่องจากคงถูกทำร้ายร่างกาย ชุดสวยของหล่อนเปื้อนดินไปหมดคงจะโดนลากมาทำมิดีมิร้ายที่นี่ ซาตานร้ายที่กำลังขืนใจผู้หญิงโชคร้ายคนนั้นมีรูปร่างสูงใหญ่กำยำ ใบหน้าแดงก่ำบ่งบอกว่าคงจะเมาจนขาดสติ แบคฮยอนยกมือปิดปากแน่นกลั้นเสียงไม่ให้ลอดออกไป ขาเรียวก้าวถอยหลังออกไปอย่างช้าๆ...
เดี๋ยวนะ เราจะปล่อยให้หล่อนคนนั้นโดนทำร้ายอยู่แบบนี้น่ะหรอ ผู้ชายประสาอะไรแบคฮยอน!
แต่ก็กลัว...เขาไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ จะเรียกให้ใครช่วยมันก็เปลี่ยวเกินไปไม่มีแม้แต่คนเดินผ่าน
ผู้ชายที่ปล่อยให้ผู้หญิงโดนทำร้ายตำตาโดยไม่ช่วยเหลือแบบนี้มันแย่ซะยิ่งกว่าแย่
ต้องปกป้องหล่อน ต้องพาหล่อนออกไปจากที่นี่ ต้องช่วยเหลือ....
วิญญาณสุภาพบุรุษเข้าสิงแบคฮยอน จากที่ก้าวถอยหลังกลับเดินไปข้างหน้าด้วยความมุ่งมั่นที่จะให้ความช่วยเหลือ คนเกาหลีด้วยกันก็ต้องไม่ทิ้งกัน ป๊ากับม๊าสอนให้เขาไม่เห็นแก่ตัว เจอใครเดือดร้อนต้องช่วยเหลือ นั่นคือสิ่งที่แบคฮยอนจำได้ขึ้นใจ
“สารเลว!! ทำอะไรกับผู้หญิง”
ผลั่ก!!
แบคฮยอนกำมือสองข้างเข้าด้วยกันแล้วทุบแหวกอากาศสุดแรงลงบนหลังของผู้ชายที่กำลังทำเรื่องอย่างว่าอยู่จนล้มเสียหลักลงไป แบคฮยอนรู้สึกร้าวไปทั้งแขนเพราะแรงกระแทกกลับจากตัวของผู้ชายคนนั้น ตามไปกระทืบอีกสองสามทีจนผู้ชายคนนั้นนอนขุดคู้ลุกไม่ขึ้น แบคฮยอนรีบวิ่งไปประคองให้หญิงสาวลุกขึ้นก่อนจะถอดเสื้อโค้ทให้หล่อนใช้คลุมกายปกปิด เสื้อผ้าเนื้อดีของหล่อนหลุดลุ่ยจนแทบไม่เป็นชิ้นเป็นทรง ร่างกายบอบช้ำกับเสียงร้องไห้ดังระงมไม่ขาดปาก
“ฮือ...เจ็บ..คุณช่วยฉันด้วยนะคะ เจ็บไปหมดเลย มันขมขืนฉัน พาฉันไปแจ้งความที”
แบคฮยอนมองเจ้าหล่อนด้วยแววตาสงสารและเห็นใจ ค่อยๆประคองให้เธอเดินไปช้าๆ เขาไม่อยากให้เธอเจ็บไปมากกว่านี้ แค่นี้ก็คงมากพอแล้วสำหรับเหตุการณ์ที่เลวร้ายในชีวิตของเธอ
“มึงจะไปไหน!!!”
มือหนายื่นออกมาจากความมืดคว้าหมับเข้าที่กลุ่มผมของแบคฮยอนแล้วดึงกลับจนร่างเล็กลอยหวือกลับเข้าไปในตรอกซอยอีกครั้ง เท้าใหญ่ถีบแบคฮยอนจนล้มกระแทกพื้นไม่เป็นท่า จุกเสียดจนเกินบรรยาย...
“กรี๊ดดดดดดด!! คุณคะ”
เสียงกรีดร้องอย่างตกใจของผู้หญิงคนนั้นดังขึ้นแต่ไร้วี่แววของคนที่จะได้ยิน หล่อนมองแบคฮยอนด้วยแววตาตื่นตระหนกเมื่อโดนเล่นงานกลับ ร่างอ้อนแอ้นทำท่าจะวิ่งเข้ามาช่วยแต่แบคฮยอนก็ตะโกนสวนกลับไป
“อย่าเข้ามา! คุณไปแจ้งตำรวจซะ! แล้วตามพวกเขามาช่วยผมนะครับ รีบไปสิ!!”
หญิงสาวพยักหน้าเข้าใจก่อนจะรีบหันหลังวิ่งออกไปอย่างไม่คิดชีวิต แบคฮยอนเห็นแบบนั้นก็เบาใจได้นิดหน่อยว่าผู้หญิงคนนั้นปลอดภัยแล้ว ก็เหลือแต่เขาเนี่ยแหละจะตายเพราะโดนถีบเต็มๆที่ท้อง ไม่น่าทำตัวเป็นพระเอกผิดเวลาเลยแท้ๆ ผู้ชายคนนั้นเดินเข้ามาใกล้เรื่อยๆด้วยแววตาเคียดแค้น แบคฮยอนก็ขยับถอยหลังเรื่อยๆจนเข้ามาลึกห่างจากปากซอยมากพอสมควร
“มึงเป็นใครวะ เสือกเรื่องของชาวบ้านแท้ๆ แส่ไม่เข้าเรื่อง!!” เสียงห้าวใหญ่ตวาดใส่แบคฮยอน
“ก็คุณทำร้ายผู้หญิง คุณเป็นคนผิด เดี๋ยวตำรวจจะมาที่นี่ ขอให้คุณยอมมอบตัวซะ”
“มึงเป็นใครมาสั่งกู! มึงทำกูค้าง มึงต้องรับผิดชอบ”
ได้ยินแบบนั้นแบคฮยอนก็เบิกตาค้างพลางถอยหนีอย่างรวดเร็วทันที ตอนนี้แม้แต่ลุกขึ้นยืนแบคฮยอนยังลำบาก จะให้เขารับผิดชอบเนี่ยนะ อย่าบอกนะว่าแบคฮยอนกำลังจะโดนทำแบบผู้หญิงคนนั้น เขาจะไม่ยอมหรอก!
“แต่ผมเป็นผู้ชาย...คุณหยุดซะเถอะ”
“ผู้ชาย...แล้วไง? เอาแล้วมันส์เหมือนกันแหละ มึงมานี่!!”
ขาเรียวถูกกระชากให้เข้าหาชายคนนั้นอย่างแรงจนแบคฮยอนร้องตกใจ กำปั้นน้อยๆชกสะเปะสะปะโดนบ้างไม่โดนบ้างแต่คราวนี้คนตรงหน้าไม่สะทกสะท้านเลย ทำให้แบคฮยอนรู้สึกถึงความแตกต่างของพละกำลัง ทำไมพระเจ้าต้องสร้างให้เขาเกิดมาทั้งเตี้ยทั้งตัวเล็กด้วยนะ สถานการณ์เริ่มเลวร้ายลงทุกขณะ หนึ่งวินาทีช่างยาวนานเหมือนกับจะแกล้งกัน เข่าแข็งๆทับลงบนขาของแบคฮยอนเพื่อหยุดการเตะการต่อยที่ดูเหมือนไร้ผล แต่แบคฮยอนก็สู้ยิบตาไม่ยอมแพ้หรอก
“ไอ้โรคจิต นี่แน่ะ!”
ดินเต็มๆสองกำมือถูกขว้างเข้าใส่ตาของผู้ชายใจร้ายอย่างจังจนขนด้านบนเสียจังหวะไป แบคฮยอนยิ้มกริ่มรู้สึกถึงลางดีก่อนจะพยายามผลักให้คนด้านบนออกไปซะที เสียงใหญ่สบถด่าแบคฮยอนต่างๆนานาทั้งๆที่ตอนนี้หลับตาแน่น
“ร้ายนักนะมึง อยากตายหรอวะ!!”
กำปั้นที่แข็งราวกับค้อนเหล็กถูกชกเข้ามากลางท้องร่างเล็กอย่างจังจนรู้สึกชาไปหมด แม้แต่เสียงที่จะร้องออกมาแบคฮยอนยังไม่สามารถทำได้ ตบท้ายด้วยมือใหญ่คว้าลำคอของแบคฮยอนแล้วบีบแน่นจนหายใจติดขัดไปหมด ดูท่าผู้ชายคนนี้คงถูกความโกรธครอบงำจนอยากจะฆ่าแบคฮยอนให้ตาย
“อะ...ไอ้สวะ! แค่กๆ”
มือเล็กทั้งจิกทั้งข่วนแขนแกร่งแต่ดูเหมือนจะไม่เป็นอะไรเลย แบคฮยอนกำแขนอีกคนแล้วบีบแน่นเผื่อจะทำให้เจ็บแล้วคลายแรงบีบลงไปบ้าง แต่ก็ไร้ประโยชน์ แรงบีบที่คอยิ่งทวีความแรงมากขึ้นเมื่อผู้ชายคนนั้นได้ยินคำที่แบคฮยอนพูดดูถูกออกไป นานเกือบครึ่งนาทีที่แบคฮยอนพยายามต่อสู้ จนในที่สุดแบคฮยอนก็เริ่มจะหายใจติดขัด ดวงตาเล็กเบิกกว้างขึ้นเริ่มเหม่อลอย สายตาพร่ามัวจนอยากจะปิดลงทุกขณะ แบคฮยอนจะไม่ไหวแล้ว...เขากำลังจะถูกบีบคอจนตาย
จนในที่สุดแขนเล็กก็ตกลงข้างตัวอย่างไร้แรงขัดขืน....
เหมือนเหตุการณ์เดจาวู...เรื่องแบบนี้เคยเกิดกับแบคฮยอนเมื่อปีก่อนตอนอยู่อังกฤษ...
ร่างเล็กวิ่ง...วิ่งหนีอย่างไร้จุดหมาย วิ่งจนขาเริ่มล้าไปหมด
ทั้งหมดก็เพื่อหนี...หนีจากเกมบ้าๆที่วัยรุ่นฝรั่งหัวรุนแรงพวกนี้เป็นคนตั้งขึ้นทั้งๆที่เขาไม่ได้อยากเล่น
เกมที่เสี่ยงถึงชีวิต...หากมันยังไม่โอเว่อร์ซะก่อน
ยิ่งวิ่งก็ยิ่งหลง ยิ่งหาก็ยิ่งไม่เจอ ยิ่งหนีก็ยิ่งทรมาน
เกมจะยังไม่จบหากยังไม่หมดเวลา...ถึงเที่ยงตรง
แบคฮยอนผู้ไม่รู้อิโหน่อิเหน่กำลังเดินเที่ยวอยู่กับชานยอลสบายๆในวันหยุด แต่แล้วก็ต้องถูกจับแยกจากกันพร้อมกับเป็นผู้ถูกล่าโดยไม่รู้ตัว ไม่มีชานยอลอยู่ข้างๆแล้วแบคฮยอนก็เหมือนกับลูกหมาที่ไม่มีเขี้ยวเล็บไร้การป้องกัน
คนเกือบห้าสิบคนไล่ล่าเพียงคนๆเดียว เป็นเหมือนเกมออนไลน์ทั่วๆไปที่เหล่าผู้เล่นจะไล่ล่าตามเก็บมอนส์เตอร์เพียงตัวเดียวที่ถูกเลือก แตกต่างกันก็ตรงที่มันเป็นชีวิตจริง ผู้เล่นก็คนจริงๆ เจ็บก็เจ็บจริงๆ และบางที...อาจจะตายจริง
ไม่ได้กะเอาให้ถึงตาย แต่ถ้าทนไม่ไหวเอง...ก็ช่วยไม่ได้
เพื่อนร่วมคลาสของเขาเป็นอะไรกันไปหมดก็ไม่รู้ แววตาสีเลือด กระหายการทำร้ายอย่างสัตว์เดรัชฉาน ต่างไปจากตอนปกติโดยสิ้นเชิง เป็นเพราะแรงกดดันจากสังคมหรือการเรียนที่จะต้องเป็นที่หนึ่งอยู่เสมอ เลยหาวิธีคลายเครียดแบบนี้ หาเหยื่อซักคนมาระบายอารมณ์ ความเครียด สิ่งที่อัดอั้น ไม่สามารถทำต่อหน้าผู้ใหญ่ได้ ทำในสิ่งที่ตนเองคิดว่าเป็นใหญ่ ไล่บี้หนูตัวเล็กๆให้จนมุมตามความพอใจ...และโชคร้าย หนูตัวนั้นก็คือแบคฮยอนคนนี้
“บิงโก! เจอเจ้าหนูแล้ว~”
เสียงตะโกนดังขึ้นราวกับเสียงมรณะจากซาตานร้ายดังขึ้นข้างหลังของแบคฮยอน เพื่อนร่วมคลาสผู้ชายคนนึ่งวิ่งตรงมาทำให้แบคฮยอนต้องเลี้ยวเข้าไปหลบในซอยเปลี่ยวอย่างจำเป็น ตามซอกตึกมีแต่คราบสกปรกเนื่องจากไม่มีคนดูแลมานาน รอยตะไคร้ขึ้นเขรอะทำให้มันเป็นศูนย์รวมแห่งเชื้อราแบคทีเรียทั้งหลาย แถมยังเปียกเฉอะแฉะเนื่องจากฝนเพิ่งตกหลงฤดูไปเมื่อสองสามวันก่อน แบคฮยอนหลบเงียบอยู่นานจนคิดว่าน่าจะพ้นแล้วจึงค่อยๆชะเง้อมองออกมา
“จ๊ะเอ๋~ พ่อหนุ่มเอเชีย ยูหนีไอไม่พ้นหรอก”
“อย่า...ได้โปรด อย่าทำ แค่นี้ผมก็เจ็บมากพอแล้ว ผมจะรายงานอาจารย์กับแจ้งตำรวจจับพวกคุณ!”
“ใครจะเชื่อยู พวกเราเป็นพยานให้กันได้ มีแค่ยูกับเดอะบอยปาร์คแค่สองคนคงทำไม่ได้หรอก”
แบคฮยอนเดินถอยหลังไปมือก็ปิดแผลค่อนข้างจะใหญ่พอดูที่แขนซ้ายไป ความจริงรอยแผลมีอยู่ทั่วตัว แต่ก็เล็กน้อยไม่ถึงกับบาดเจ็บมาก แสบไปถึงทรวงเพราะแต่ละแผลที่ได้มาถูกกรีดถูกทุบทั้งนั้น
“ทำร้ายผมทำไม...พวกคุณมันโรคจิต ทำไมต้องเป็นผม”
“เพราะยูเป็นคนเอเชียแต่ดันเรียนเก่งจนพวกไอโดนตอกหน้า เพราะพวกไอเป็นคนจากตระกูลสูงส่งของอังกฤษ พวกไอไม่ยอมรับคนเอเชียอย่างยู!! ทำไมต้องเป็นยูน่ะหรอ...คนเอเชียคนอื่นๆก็มี แต่เสียดาย...พวกไอจับฉลากได้ชื่อของยู ฮ่าๆๆ ไม่มีสิทธิ์ออกเสียง ไม่มีสิทธิ์ร้องขอ จงยอมให้พวกไอได้ไล่ล่าเถอะ!”
ร่างเล็กของแบคฮยอนถูกเหวี่ยงให้ล้มลงบนคราบน้ำคร่ำสีดำจนน่ากลัวบนพื้นสาก แสบผิวไปหมดเนื่องจากน้ำสกปรกพวกนั้นซึมเข้าสู่บาดแผลน้อยใหญ่นับร้อยที่กระจายอยู่ทั่วตัว ความกลัวแทรกซึมไปหมดเพราะคราวนี้หมดหนทางที่จะหนี แววตาร้องขอของแบคฮยอนไม่มีผลต่อคนที่ถูกความคิดชั่วร้ายครอบงำ มือใหญ่ของคนเชื้อชาติยุโรปกำรอบคอแบคฮยอนเอาไว้แน่นแล้วค่อยๆบีบเข้าหากันช้าๆมองดูคนที่โดนกระทำดิ้นเร่าอย่างสะใจ เนื่องจากขนาดร่างกายต่างกันมากทำให้แรงที่แบคฮยอนทั้งผลักทั้งดึงไม่มีผล คนตัวเล็กๆอย่างแบคฮยอนได้แต่นอนรอลมหายใจสุดท้ายเท่านั้น
“แค่ก....ปล่อย...ช่วยด้วย”
คำร้องขอความช่วยเหลือถูกพูดออกมาด้วยเสียงขาดๆหายๆเนื่องจากอากาศหายใจเริ่มหมดลงไปทุกที ใครเล่าจะได้ยินเสียงเล็กๆภายในตรอกซอยสกปรกโสมมเช่นนี้ ถึงแม้จะดูไร้ประโยชน์แต่ก็ดีกว่าไม่พยายามทำอะไรเลย ฝรั่งตัวโตบีบลำคอแบคฮยอนแน่นจนใบหน้าจิ้มลิ้มแดงเถือกไปหมด หูเริ่มอื้อ ตาลาย พยายามอ้าปากกว้างๆหายใจให้ได้เยอะๆ
ชานยอลอา...นายอยู่ไหนกัน ตัวเล็กกำลังจะตายแล้ว จะไม่ไหวแล้ว
ขอบคุณทุกๆสิ่งที่มอบให้กัน ขอบคุณช่วงเวลาดีๆที่นายมีให้ผม ถ้ามีโอกาส...ผมจะขอบคุณนาย
เซฮุนนา...พี่คงไม่ได้กลับไปเจอนายอีกแล้ว เพราะพี่โชคร้ายเจอเรื่องร้ายๆจนพี่ทนไม่ไหวอีกแล้ว
อีกนิดเดียวแบคฮยอนจะหมดลมหายใจ แขนเล็กคลายออกจากการยื้อยุดจนมันตกลงข้างๆตัว
ไม่นานแบคฮยอนก็หมดแรง...เปลือกตาปิดลงพร้อมกับความมืดมิดที่เข้ามาเยือน
“เจอตัวแล้ว ไอ้ฝรั่งแช่บ๊วย มึงทำอะไรแบคฮยอนของกู!”
เสี้ยววินาทีแห่งความเป็นความตาย เสียงของชานยอลดังขึ้นในโสตประสาทของแบคฮยอน แบคฮยอนไม่เห็นหรอกว่าชานยอลมาได้ยังไง ไม่รู้ว่าชานยอลเจอเขาที่นี่ได้ยังไง และก็ไม่รู้ด้วยว่าชานยอลจัดการผู้ชายคนนั้นยังไง
รู้แค่ว่าชานยอลช้อนตัวเขาขึ้นมาอุ้มไว้แนบอกก่อนจะวิ่งพาเขาไปส่งโรงพยาบาล...
“ยอลมาช่วยแบคแล้วนะ ตัวตัวมาช่วยตัวเล็กแล้วนะ...ฟื้นขึ้นมาให้ยอลเห็นหน่อยได้มั๊ย อย่าหลับนะแบค ตัวเล็กจะต้องปลอดภัยนะ...ฮึก...เค้าขอโทษนะ ยอลขอโทษนะแบค ตัวโตรักตัวเล็กนะ”
ชานยอลคงคิดว่าเขาหมดสติจนไม่ได้ยินอะไร แต่แบคฮยอนกลับได้ยินมันทุกคำ ทำให้แบคฮยอนรู้ว่าชานยอลคิดกับเขายังไง...นั่นมันทำให้แบคฮยอนวางตัวเอาไว้ภายใต้คำว่าเพื่อนให้ชัดเจนมากกว่าเดิม
อ้อมแขนของชานยอล...แบคฮยอนยังจำได้ไม่ลืม ชานยอลที่มีพระคุณช่วยชีวิตของแบคฮยอนเอาไว้
อ้อมแขนที่ทำให้แบคฮยอนอุ่นใจและไว้วางใจ...
“เอ้า! ถึงแล้วครับ นอนดีๆ”
ตุบ!
เซฮุนแบกลู่หานเอาไว้ข้างหลังเมื่อเห็นว่าพี่ลู่หานชักเดินเหมือนปูขาเป๋เข้าไปทุกที โรงแรมใกล้ๆแถวนี้ก็ถูกจองเต็มไปหมดทุกห้องเลยต้องบอกให้แท็กซี่วิ่งไปไกลอีกหน่อย กว่าจะเจอโรงแรมห้องที่พอจะอยู่ได้ก็ปาไปราวๆเกือบชม. เมื่อเปิดห้องเสร็จเซฮุนก็รีบแบกพี่ชายหน้าหวานขึ้นไปทันที กลิ่นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ลอยออกมาจากตัวร่างบางหึ่งไปหมด เดินเข้ามาในห้องก่อนจะวิ่งไปที่เตียงแล้วเหวี่ยงพี่ลู่หานลงไปนอนกองอยู่บนเตียงนุ่ม
เงินเปิดห้องน่ะเงินใคร...บอกเลยว่าเงินของพี่ลู่หานครับ
อย่ามองผมแบบนั้น ผมแค่ไม่ได้พกเงินมาด้วย อีกอย่างพี่ลู่หานก็บอกว่าจะเป็นคนออกเงินเอง.. - -;
คนที่มีอายุมากกว่าก็ต้องเป็นคนจ่าย...มันเป็นธรรมเนียม
พี่ชายหน้าหวานพลิกตัวไปมาสองสามครั้งเมื่อผิวกายสัมผัสถึงเตียงนอนนุ่ม ยกมือขึ้นบังแสงไฟที่ดูจะมากเกินไปสำหรับคนเมากึ่งหลับกึ่งตื่น เซฮุนเดินไปปิดไฟบนเพดานห้องแล้วเปิดไฟบนหัวเตียงให้มันสว่างสลัวๆแทน ลู่หานยิ้มอย่างพอใจพลางบ่นงุ้งงิ้งไปเรื่อยเปื่อยทั้งๆที่ยังหลับตา ร่างสูงยืนมองก่อนจะส่ายหัวช้าๆ
“ก็บอกว่าหัวถึงหมอนพี่ก็หลับแล้ว...จะเสียเงินเสียเวลาเปิดห้องโรงแรมทำไม”
เซฮุนถอดเสื้อตัวนอกออกก่อนจะเดินไปหยิบผ้าขนหนูผืนเล็กออกมาจากตู้เสื้อผ้าของโรงแรม เดินเข้าไปในห้องน้ำก่อนจะชุบผ้าขนหนูให้เปียกหมาดๆก่อนจะเช็ดหน้าเช็ดตัวให้กับพี่ลู่หาน แรกๆก็ปัดมือเซฮุนออกบ้างบอกไม่เอาบ้าง แต่พอสบายตัวหน่อยก็เงียบกริบปล่อยให้เซฮุนเช็ดตัวให้แต่โดยดี
เห็นมาหมดแล้วตั้งแต่เด็กๆ....แค่นี้ไม่เขินหรอก
แต่มันจะเหมือนกันรึเปล่า...ถ้าเซฮุนจะคิดว่าคนตรงหน้าเป็นพี่แบคฮยอน
ผิวจะนุ่มลื่นมือเหมือนกันมั๊ย จับแล้วจะเนียนนุ่มขนาดไหนกัน ถ้าคืนนั้นเขาไม่หยุด...คงจะได้พิสูจน์กันไปว่าจะเป็นอย่างที่จินตนาการไว้รึเปล่า
เดี๋ยวไอ้ฮุน นี่พี่หาน ไม่ใช่พี่แบคฮยอน สติครับสติ!!!
“บ้าปะวะกู...อยู่ๆก็คิดถึงเรื่องเมื่อคืนก่อน”
เซฮุนสะบัดหัวไล่ความคิดอกุศลออกไปจากหัวแรงๆก่อนจะเช็ดตัวให้พี่ลู่หานต่อจนเสร็จ เพิ่งนึกขึ้นได้ว่าสัญญากับคนที่รอเอาไว้ว่าจะกลับไปหา มือหนาคว้าโทรศัพท์ขึ้นมาแต่ก็พบว่าแบตฯหมดไปแล้วเหลือไว้เพียงหน้าจอสีดำสนิท คิดได้อีกครั้งว่าพี่แบคฮยอนไม่มีโทรศัพท์ซะหน่อย จะโทรไปได้ยังไงล่ะ ชักจะบ้าไปใหญ่แล้วเซฮุนเอ๊ย
เอาไว้ค่อยอธิบายพรุ่งนี้ก็ได้ มันเป็นเหตุสุดวิสัยนี่นา
พี่แบคฮยอนยังไงก็รออยู่ในห้องของเขาอยู่แล้ว ไม่มีทางหายไปไหนหรอก
พรุ่งนี้ยังไงพี่แบคฮยอนก็ไม่มีวันไปไหน
ยังมีวันพรุ่งนี้อยู่....
“อือ....ฮุนหรอ”
ดวงตากลมโตราวกับตากวางลืมขึ้นมามองคนที่นั่งเฝ้าติดกระดุมกลับเข้าไปที่เดิมหลังจากที่เพิ่งเช็ดตัวให้เสร็จไปหมาดๆ ขยับตัวเข้าไปหาคนที่กำลังนั่งอยู่ข้างเตียงช้าๆก่อนจะช้อนสายตาหวานขึ้นมอง
“ครับ ผมเอง ผมทำให้พี่ลู่หานตื่นหรอ ขอโทษ”
“เปล่าๆ...เซฮุนนา~ ก้มหน้าลงมาหน่อย”
คนนอนบนเตียงกระดิกนิ้วเรียกเล็กน้อยก่อนจะมองตาเซฮุนนิ่ง หรือจะมีความลับอะไรอยากจะพูด หรือว่ามีเรื่องอะไรอยากจะระบาย เซฮุนเองก็ได้แต่ขมวดคิ้วมองอย่างไม่เข้าใจก่อนจะก้มลงไปหาตามคำสั่งของพี่ชายหน้าสวย
“มีอะไรอะพี่....”
เสียงทุ้มยังไม่ทันพูดจบประโยคดีก็โดนริมฝีปากบางโฉบชิงลงมาประกบซะก่อน ล็อคคอเอาไว้กันอีกคนผละออกไปอีกต่างหาก แขนเรียวโอบรอบคอเซฮุนเอาไว้แล้วต้อนจูบอย่างเอาแต่ใจ กับเซฮุนที่ยังไม่ทันได้ตั้งตัวและมัวแต่ตกใจอยู่เลยได้แต่ยอมให้พี่ชายหน้าสวยเล่นลิ้นแลกน้ำหวานในปากต่อไปจนพอใจ
จูบแบบมีชั้นเชิงเหมือนคนมีประสบการณ์ รู้จักรับรู้จักอ้อนเพื่อให้อีกคนต้องการมากกว่านี้ ลู่หานเอียงคอจูบซับไปทั่วป้อนความสุขให้คนด้านบนผ่านทางริมฝีปากที่เชื่อมต่อกันและกัน ไม่นานเซฮุนก็เป็นฝ่ายรุกกลับไปบ้างอย่างลืมตัวว่าคนตรงหน้านี้คือใคร
จูบนานเข้าก็สั่นสะท้านไปทั้งร่าง กัดขบริมฝีปากของอีกฝ่ายเพื่อระบายความเสียวซ่านที่ต่างคนต่างมอบให้ รุนแรงด้วยกันทั้งคู่ เคลิ้มจนเซฮุนเผลอคิดไปว่ามันจะดีซักแค่ไหนถ้าพี่แบคฮยอนมีปฏิกิริยาตอบกลับแบบนี้กับเขาตอนที่เราจูบกัน...เผลอไผลจนเซฮุนคิดว่าเป็นพี่แบคฮยอน ส่วนลู่หานก็คิดว่าเป็นคริส...
ลืมตัวไปชั่วขณะว่าทั้งสองคนเป็นพี่ชายน้องชายที่สนิทกันเท่านั้น
กว่าเซฮุนจะรู้สึกตัวว่ากำลังทำเรื่องเกินเลยอยู่กับใครก็ตอนที่ร่างทั้งร่างคร่อมทับพี่ชายหน้าหวานไปหมดแล้ว ร่างสูงผละจูบออกก่อนจะลุกขึ้นไปนั่งข้างเตียงเหมือนเดิม เอื้อมมือปิดหน้าตัวเองเหมือนคนฟื้นสติ เสียงหวานของลู่หานดังขึ้นแต่ก็สั่นเครือไม่น้อยทำเอาเซฮุนต้องเงยหน้ามองพี่ชายอย่างเป็นห่วง
“เซฮุน...จูบพี่แล้วเป็นยังไงบ้าง รสชาติจูบของพี่ไม่เลวเลยใช่ไหม...หรือว่ามันยังไม่ดีพอ”
“พี่ถามอะไรน่ะ...เอ่อ...มันก็ดี พี่ก็จูบเก่งใช้ได้ แต่พี่ไม่น่าจูบผม มันผิดต่อพี่คริส”
แล้วก็ผิดต่อพี่แบคฮยอนด้วย
“ก็แค่อยากรู้...แค่อยากรู้ว่าพี่ไม่ดีตรงไหน ทำไมคริสถึงหนีไปมั่วผู้หญิงอื่น หรือว่าจูบพี่...ฮึก..มันแย่”
“ใจเย็นๆน่าพี่ลู่หาน ไหนลองเล่ามาสิครับ ระบายออกมา...ผมจะอยู่ข้างๆพี่เอง J”
มือใหญ่เอื้อมไปลูบผมนุ่มเบาๆราวกับจะปลอบโยนคนอ่อนแอ ลู่หานระเบิดน้ำตาออกมาอีกครั้งก่อนจะเล่าเรื่องตั้งแต่ตอนแรกมาจนถึงตอนที่ไปเจอคริสอยู่ในผับ เล่าซ้ำไปซ้ำมาตอกย้ำตัวเองบ้างด่าตัวเองบ้างจนไม่เหลือแรงจะร้องไห้ เพ้อไปทั่วมั่วไปเรื่อยตามประสาคนที่ยังไม่สร่างเมา คนเมาไม่โกหก...เซฮุนรู้ดี พี่ลู่หานคงจะบอบช้ำมากเมื่อเจอพี่อี้ฟานหักหลังเข้าให้ แต่เขามั่นใจว่าเรื่องราวมันต้องมากกว่านี้ คงจะต้องไปพูดคุยเคลียร์กันอีกต่อนึง เขาก็ไม่อยากเห็นพี่ลู่หานเสียน้ำตา ไม่อยากเห็นใครร้องไห้ เซฮุนแพ้น้ำตา... อยากจะให้ทุกๆคนรอบกายมีแต่รอยยิ้ม
ไม่นานพี่ชายหน้าหวานก็ผล็อยหลับไป เซฮุนเองก็ห่มผ้าให้ลู่หานก่อนจะบอกฝันดีเบาๆ เดินไปนอนบนโซฟาตามระเบียบ กลัวว่าถ้าพี่ลู่หานตื่นขึ้นมาแล้วจับเขาปล้ำข่มขืนขึ้นมาแล้วจะยุ่ง อีกอย่างเขาก็เป็นสุภาพบุรุษพอที่จะขึ้นไปนอนเตียงเดียวกับคนที่มีเจ้าของแล้ว
กับพี่แบคฮยอนก็มีเจ้าของแล้ว...แต่ทำไมยังกล้านอนด้วยวะไอ้ฮุน
หัวใจมันเรียกร้อง...ช่วยไม่ได้
ตอนนี้พี่จะเป็นยังไงบ้างนะพี่แบคฮยอน...ทำไมรู้สึกใจไม่ค่อยดีแบบนี้
ผมหวังว่าพี่จะหลับสบายดีอยู่ในห้องของผม...พรุ่งนี้ผมจะรีบกลับไปหา ไปขอโทษ...
ฝันดีนะครับ พี่หมาเตี้ยของแป๊ะยิ้ม
*****************************************
ครบแล้วค่ะ 100%
คืนนี้คงจะจบที่ 3.4 กันไปก่อน
แต่เรื่องมันยังไม่จบอะ กะว่าจะถึงแค่นี้แต่ก็ดันมีตอน 3.5 ต่อจนได้
คือเน้นมากจริงๆกับช่วงนี้ ไม่ค่อยโยนความซวยให้หนูบยอนเลย
สกรีมในทวิตเตอร์ได้ค่ะถ้าอึดอัด แท็กตามนี้เลยนะ
#ฟิคสี่วันฮุนแบค
ความคิดเห็น