คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : I'm Here - 7 -
I’m Here – 7 –
“เซฮุน แกจะทำตัวแบบนี้ไปจนถึงเมื่อไหร่?”
“ผมไม่ได้ทำอะไรนี่ครับพี่คริส”
“หยุดเศร้าเรื่องแบคฮยอนแล้วเปลี่ยนตัวเองใหม่เถอะ ทำแบบนี้ก็ไม่ได้มีอะไรดีขึ้นมาหรอก”
“พี่ลู่หานไม่เป็นผม พี่จะไปรู้อะไร..พวกพี่ไม่เข้าใจความรู้สึกของผมหรอก”
“ก็จริงที่พี่ไม่เข้าใจนายนะเซฮุน แต่นายเป็นแบบนี้พวกพี่ก็ไม่สบายใจ วันๆไม่ทำอะไรนั่งเหม่อนั่งกอดรูปแบคฮยอนแบบนี้คิดหรอว่าพวกพี่จะไม่เป็นห่วงนาย”
“ผมอยากอยู่กับพี่แบคฮยอน....อยากเจอ....”
“นายเครียดจนจะเป็นโรคจิตแล้วนะเซฮุน พี่จะพานายไปหาหมอ”
“ไม่ไป!!! ผมไม่เป็นอะไรทั้งนั้น”
“นายอาจจะป่วยก็ได้ นายไม่เคยเป็นแบบนี้เลย เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย”
“ผมไม่เป็นไรจริงๆครับ...ผมขอเวลาอีกนิด แล้วผมจะกลับไปเป็นคนเดิม”
หนึ่งอาทิตย์....
สองอาทิตย์....
หนึ่งเดือน...
เป็นเวลานานพอสมควรที่ใครซักคนจะลืมเรื่องบางเรื่องไป ป๋ายเซียนแทบจะจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าเมื่อเดือนก่อนมีจดหมายเลือดส่งมาถึงเขา
หวาดระแวงอยู่สามสี่วัน คอยเช็คอยู่ตลอดว่าแพคฮยอนจะเป็นอะไรรึเปล่า แต่ก็ไม่มีวี่แววอะไร ไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับแพคฮยอน ไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับเขา ไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับคนรอบกาย จดหมายขู่นั่นมีเพียงฉบับเดียวและก็หายไป ไม่มีอะไรอีกเลยนอกจากนั้น ป๋ายเซียนจึงสรุปในใจว่าคงเป็นจดหมายที่คนบางคนอาจจะไม่ชอบหน้าเขาแล้วส่งมาแกล้งก็ได้ แต่ก็ไม่เห็นจะลงมือทำอะไรจริงๆซักที
ทำให้ป๋ายเซียนไว้วางใจและลืมเรื่องราววันนั้นไปอย่างรวดเร็ว....
ชีวิตของเด็กมหาลัยปีหนึ่งกำลังราบรื่นไปด้วยดี...
งั้นหรอ?
“ป๋ายเซียน!!! ดูสิ พี่ชานยอลกับพี่เซฮุนขึ้นปกนิตยสารฉบับใหม่อีกแล้ว หล่อชะมัดเลย *0*”
แบมแบมวิ่งปราดเข้ามาในห้องพร้อมกับกางปกนิตยสารเล่มใหม่ล่าสุดของเดือนนี้ที่เพิ่งไปถอยมาใหม่ให้แพคฮยอนกับป๋ายเซียนดู แฝดพี่มองรอยยิ้มแฉ่งที่แสนมีความสุขของแบมแบมแล้วหัวเราะน้อยๆที่เพื่อนของตัวเองปลื้มและหลงใหลสองคนนี้เหลือเกิน อะไรจะคลั่งปานนั้น เขาเองก็ไม่เห็นจะกรี๊ดกร๊าดอะไรตรงไหน ก็แค่ผู้ชายธรรมดาๆ
ผู้ชายที่ชอบมาหยอดมุกหวานพร้อมกับพยายามลวนลามเขาทุกคืน
ถ้าบนปกนิตยสาร ชานยอลนั้นเป็นคนดีมีสเน่ห์สุภาพบุรุษให้คนหลงรักล่ะก็
ในพื้นที่สวนตัวของเขาก็คงจะเป็นซาตานจอมเจ้าเล่ห์ล่ะมั้ง
เขาเองก็เผลอหลงกลซาตานคราบเทพบุตรคนนั้นไปซะแล้วสิ แย่จัง
“หล่อไม่ได้ครึ่งเราหรอกน่า แบมอย่าไปชื่นชมตาบ้าหูกางให้มากเลย”
“หูย ทำไมป๋ายเซียนว่าแบบนั้นล่ะ เราก็ชอบของเรานะ T^T”
“ฮ่าๆ นั่นสิพี่ป๋าย อย่าไปว่าแบมเลยนะ พี่ชานยอลก็หล่อดีออก” แพคฮยอนเข้ามากอดโอ๋แบมแบมที่ทำหน้าร้องไห้กระซิกเกินจริงแล้วยิ้มร่า มองภาพพี่ชายทั้งสองคนบนปกนิตยสารยิ้มๆ
“อะแฮ่มๆ พี่เซฮุนของแพคฮยอนก็หล่อใช่ย่อยนะ ว่ามั๊ยแบม?”
“พี่ป๋ายบ้า พี่เซฮุนของผมอะไรทีไหนกันล่ะ -/-“
ป๋ายเซียนกระแอมก่อนจะพูดแซวคนเป็นน้องไปหนึ่งที แพคฮยอนเริ่มทำตัวไม่ถูกเลยค้อนพี่ชายไปหนักๆแล้วไปสนใจดูรูปภาพในนิตยสารกับแบมแบมต่อ
“อย่าเถียงกันเลยน่า พี่เซฮุนกับพี่ชานยอลอะของเราหมดเลยแหละ 55555”
“จ้าๆ ของแบมทั้งสองคนเลยยยย-__________-”
แพคฮยอนกับป๋ายเซียนร่วมใจกันพูดประชดแบมแบมทีเล่นทีจริงแล้วหัวเราะคิกคักกันสองพี่น้อง ไม่นานอาจารย์ก็เข้าห้องแล้วเรียนตามปกติ ตลอดเวลาเรียน ป๋ายเซียนแทบไม่วางมือจากโทรศัพท์ สาเหตุก็มาจากใครเป็นไม่ได้...ไลน์จากปาร์คชานยอล ผู้ชายคนหูกางที่เพิ่งเม้าท์มอยไปเมื่อกี๊นี่แหละ
‘คิดถึงป๋าย’
‘มาคิดถึงอะไร เน่า’
‘คิดถึงก็บอกว่าคิดถึงดิ อย่ามาเนียนด่าแก้เขิน’
‘ว่างมากป้ะเนี่ยพ่อนายแบบคนดัง งานการมีไม่ทำ’
‘ไม่อยากทำ เมื่อคืนนอนน้อย’
‘ก็เห็นนอนก่อนผมไม่ใช่รึไง?’
‘เล่นไล่จับกับนายในฝันอยู่น่ะสิ ตื่นมาเลยรู้สึกว่านอนไม่พอ’
“บ้า....ฮ่ะๆ”
ป๋ายเซียนด่าคนในหน้าจอทีเล่นทีจริงพร้อมกับหัวเราะเบาๆ พูดไปพี่ชานยอลคงได้ยินหรอก บ้าไปแล้ว เขาเนี่ยแหละบ้า ยิ้มทั้งวันยิ่งกว่าคนเสียสติซะอีก เห็นอะไรก็สดใสสีชมพูไปหมด กลายเป็นว่าตั้งแต่เช้ายันเย็น ป๋ายเซียนเรียนไม่รู้เรื่องเลยซักวิชา กลับไปคงต้องให้พี่ชานยอลช่วยติวเหมือนทุกทีซะแล้วสิ
นายควรจะพึ่งตัวเองให้มากกว่านี้นะป๋ายเซียน ถ้าไม่มีใครช่วยนายจะทำยังไงล่ะ
ปล่อยให้ตัวเองต้องพึ่งพาคนอื่นแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่
เสียชื่อลูกผู้ชายแดนมังกรหมด
วันเวลาหมุนเวียนไป...เดี๋ยวเช้า เดี๋ยวเย็น
ผ่านไปวันแล้ววันเล่า..ทุกชีวิตต่างต้องดำเนินต่อไป
“พี่ป๋าย! แบม! ทุกๆคน! ผมกลับก่อนนะครับ พี่เซฮุนมารับแล้ว J”
“กลับดีๆนะแพคฮยอนอา”
ทุกคนในร้านโบกมือลาแฝดน้องตัวเล็กที่กำลังวิ่งไปหาคนที่อยู่ในรถยนต์คันหรู เซฮุนเปิดประตูรถลงมาพร้อมกับกล่องของขวัญสีชมพูใบเล็กก่อนจะยื่นให้คนตัวเล็กยิ้มๆทำเอาคนที่เดินผ่านไปผ่านมาถึงกับร้องอิจฉา พวกพนักงานในร้านชานมเห็นเข้าก็ร้องโห่แซวกันเป็นทิวแถว ป๋ายเซียนมองภาพตรงหน้าอย่างสุขใจที่เห็นน้องตัวเองมีความสุข คิดว่าพี่เซฮุนคงจะสามารถดูแลน้องชายของเขาได้ อยากจะให้ทั้งสองคนได้คบกันไวๆ
กล่องของขวัญ...
เอ...กล่องของขวัญ
เหมือนจะเคยเห็นกล่องของขวัญแบบนี้ที่ไหนนะ...
จำไม่ได้แฮะ -*-
“พี่เซฮุนครับ นี่กล่องอะไรน่ะ...”
“เอาไว้แกะตอนกลับไปถึงห้องนะ แพคฮยอนน่าจะชอบ J”
“ครับ...”
แพคฮยอนพลิกกล่องของขวัญพลางเขย่าไปมาพยายามฟังเสียงแต่ก็ไม่รู้ว่ามีอะไรอยู่ข้างใน คิ้วเรียวขมวดมุ่นคิดไปต่างๆนานาว่าภายในกล่องมีอะไรซ่อนอยู่ ทุกๆวันพี่เซฮุนจะมีดอกไม้ติดมือมาให้แพคฮยอนเสมอ แต่วันนี้กลับเป็นกล่องของขวัญแทน จะต้องมีอะไรพิเศษแน่ๆ
ทั้งสองคนขึ้นลิฟต์พลางเดินไปจนถึงหน้าห้อง เซฮุนบอกให้แพคฮยอนหลับตา คนตัวเล็กถือกล่องของขวัญเอาไว้แน่นพลางหลับตาลงอย่างว่าง่าย เซฮุนแอบยิ้มกับความน่ารักของแพคฮยอนก่อนจะไขประตูห้องเข้าไป จับไหล่เด็กน้อยที่กำลังจะกลายเป็นคนสำคัญอีกไม่กี่นาทีข้างหน้าเดินเข้าไปก่อนจะปิดประตูอย่างแผ่วเบา ขายาวพาคนตัวเล็กเดินเข้าไปเรื่อยๆก่อนจะบอกให้หยุดเดินแล้วลืมตาขึ้นดู
“ว้าว...พ...พี่เซฮุน *0*”
“ชอบมั๊ย?”
แพคฮยอนพยักหน้าหงึกๆด้วยความตื่นเต้นพลางมองไปรอบๆกาย เขายืนอยู่ท่ามกลางดอกไม้และเทียนที่วางเรียงกันเป็นรูปหัวใจ ทั้งห้องถูกจัดใหม่มีลูกโป่งมากมายลอยอยู่ติดเพดาน ดอกไม้สวยๆหลากหลายชนิด แต่ที่หลักๆคงไม่พ้นดอกกุหลาบถูกวางเรียงกันเป็นช่อสวยงามตาทั่วห้อง กลิ่นเทียนหอมอ่อนๆลอยอบอวลชวนผ่อนคลาย แพคฮยอนคิดว่ามันเซอร์ไพรส์มากที่พี่เซฮุนทำแบบนี้
“ถ้าแพคฮยอนชอบพี่ งั้นเรามาคบกันมั๊ย?”
“บ...บ้า ผมบอกชอบพี่ตอนไหน -///3///-“
“เมื่อกี๊ไง”
“ใช่ที่ไหนกัน ผมบอกว่าผมชอบบรรยากาศในห้องต่างหาก พี่มั่วอะ”
“แล้วชอบพี่ป้ะล่ะ?”
“อื้อ ก็ชอบ ._____.”
“แกะกล่องของขวัญดิ อยากรู้ไม่ใช่หรอว่าอะไรอยู่ข้างใน”
ไวกว่าความคิด มือเรียวก็รีบแกะกล่องของขวัญอย่างไวเพราะอยากรู้มากๆว่าข้างในนั้นมีอะไรอยู่ ทันทีที่กล่องเปิดออกแพคฮยอนก็ต้องยิ้มออกมาอีกครั้ง...สร้อยนี่นา
“พี่เซฮุน...ผมชอบจัง *0*”
“มา พี่ใส่ให้”
มือหนาเอื้อมรอบคอคนตัวเล็กแล้วใส่สร้อยให้อย่างแผ่วเบา สร้อยเงินสลักคำว่าแพคฮยอนเป็นภาษาเกาหลีขนาดพอเหมาะถูกสวมใส่จับจองการเป็นเจ้าของคนๆนี้เอาไว้ แพคฮยอนช้อนตาขึ้นมองคนตัวสูงอย่างเขินอายที่ใส่สร้อยให้แล้วไม่ยอมถอยห่างออกไปซักที กลับจ้องสายตาคมมองกันราวกับว่าจะจ้องให้ทะลุไปข้างซะอย่างนั้น
“ขอบคุณนะครับ....ผมชอบมันมากเลย”
“แล้วจะคบกับพี่มั๊ย?”
“..............พี่เซฮุนรู้มั้ย ความจริงแล้วคือผมชอบพี่มากมาตั้งนานแล้ว แต่ที่ดูเหมือนผมไม่แสดงท่าทีอะไรมากมายก็เพราะผมอยากวางฟอร์มเฉยๆ รอพี่มาขอคบอยู่ตั้งนาน ._____.”
“หึ...ร้ายเหมือนกันนะเรา”
“งื้อ....ผมยุ่งหมดแล้ว อย่ายีผม....อื้อออ....”
แพคฮยอนยู่ปากเตรียมโวยวายเมื่อมือหนาเอื้อมมายีผมตัวเองจนมันยุ่งไปหมด อาการแบบนั้นมันทำให้เซฮุนทนไม่ได้ต้องโน้มตัวลงก้มประกบริมฝีปากจูบคนวางฟอร์มให้หายน่ารักซักหน่อย แขนกว้างโอบเอวเล็กเข้ามาประชิดแนบเนื้อผ้ากันและกันแทบจะทุกส่วน แรกๆแพคฮยอนดูจะขัดขึ้นเล็กน้อยเพราะตกใจแต่สุดท้ายก็ยอมโอนอ่อนผ่อนตามแต่โดยดี มือหนาอีกข้างเชยคางมนขึ้นอีกนิดก่อนจะบดจูบเร่าร้อนลงไปตามระดับ ดูดดึงประทับรอยแสดงความเป็นเจ้าของริมฝีปากนี้เอาไว้ซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนเกิดเสียงจ๊วบจ๊าบน่าอาย
“อืม...อือ”
ทั้งดูดทั้งกัดริมฝีปากบางเล่นจนเริ่มบวมเจ่อ ก่อนจะส่งลิ้นหนาเข้าไปทักทายสำรวจลิ้นเล็กของแพคฮยอนอย่างเอาแต่ใจ ตวัดรัดรึงจนแข้งขาอ่อนไปหมด แขนเรียวยกขึ้นโอบรอบคออย่างเผลอไผล กอดร่างระทวยอ่อนประสบการณ์กามให้แน่นมากขึ้นตามจังหวะของลิ้นร้อนที่รุกล้ำแย่งชิงอากาศ ดีฟคิสกันอยู่นานกว่าจะยอมผละออก
“แฮ่ก....พี่เซฮุน พี่จะฆ่าผมรึไง...”
“เปล่านี่ นายอ่อนเองต่างหากแพคฮยอน”
“ทำคนอื่นเขาเหนื่อยแล้วยังจะมาว่ากันอีก เอาเปรียบกันชัดๆ -3-“
“เดี๋ยววันหลังนายก็เก่งขึ้นเองแหละ”
-/////////////////-
“ตกลงจะคบไม่คบ?”
“ไม่คบ....”
“ถ้าไม่ยอมคบจะจับปล้ำจนกว่าจะยอม”
“บ้า! คบครับ เมื่อกี๊ล้อเล่นเฉยๆ ลามกอ่ะ” -/-
ยังคงติดใจไม่หาย...กล่องแบบนั้นที่พี่เซฮุนยื่นให้แพคฮยอน
เหมือนจะเคยเห็นที่ไหนซักครั้ง
ว่าแต่ที่ไหน เมื่อไหร่ ยังไง เห็นได้ยังไงล่ะ?
“ป๋ายเซียน เป็นอะไรเหม่อตั้งแต่เมื่อกี๊แล้วนะ”
เสียงของชานยอลดังขึ้นจากในครัวเรียกป๋ายเซียนที่พอกลับมาถึงห้องก็เอาแต่นั่งเหม่อครุ่นคิดอะไรอยู่เงียบๆมานานสองนาน ใบหน้าจิ้มลิ้มหันไปหาคนตัวสูงก่อนจะตะโกนตอบกลับไปว่ามีอะไร ก็คนกำลังใช้ความคิดอยู่จะให้มาเริงร่าปกติได้ยังไงเล่า
“หยิบมะเขือเทศในตู้เย็นให้หน่อย”
“ครับๆ”
ขาเรียวเดินไปเปิดตู้เย็นหยิบมะเขือเทศออกมาสองสามลูก เพ่งมองสีแดงสดของลูกมะเขือเทศอย่างพินิจพิเคราะห์ จู่ๆภาพบางอย่างในสมองก็เล่นวิ่งปราดเข้ามาในหัว ป๋ายเซียนสะดุ้งเฮือกก่อนจะวิ่งไปคว้าโทรศัพท์กดเบอร์หาน้องชายสุดที่รักทันที
Rrrrrrr Rrrrrrrr Rrrrrrrr
‘ครับพี่ป๋าย คิกๆ’
“แพคฮยอน ฟังพี่นะ พี่มีเรื่องจะบอก.....”
‘น้องแพคก็มีเรื่องจะบอกพี่ป๋ายเหมือนกันครับ’
“ร...เรื่องอะไรหรอ?”
พูดไปหอบไปราวกับว่าเพิ่งไปวิ่งมาหลายกิโลเมตร รอคอยจดจ่อฟังสิ่งที่แพคฮยอนกำลังจะพูดต่อหลังจากนี้ หัวใจเต้นรัวตื่นเต้นอย่างหวาดกลัว กลัวเหลือเกินกับคำตอบ...หวังว่าจะไม่ใช่...
‘ผมคบกับพี่เซฮุนแล้วนะครับ! ผมดีใจจังเลยพี่ป๋าย’
ลางสังหรณ์ของคู่แฝดเดาผิดซะเมื่อไหร่...
รู้สึกใจหายอย่างบอกไม่ถูก มันโหวงๆในอกยังไงก็ไม่รู้ ทั้งๆที่มันเป็นเรื่องน่ายินดี และเขาเองก็ควรยินดีและดีใจกับน้องชายที่มีแฟนเป็นตัวเป็นตนกับเขาซักที มีคนที่ดีคอยปกป้อง แต่ทำไม ไม่เข้าใจความรู้สึกของตัวเองเลยจริงๆ ทำไมรู้สึกกลัวแบบนี้...กลัวในสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น
กลัวเพราะไม่สามารถเดาได้ว่าพรุ่งนี้จะเป็นยังไง
“อ...อื้อ ดีใจด้วยนะน้องแพค”
‘แล้วพี่ป๋ายมีอะไรจะบอกน้องแพคหรอครับ?’
ยิ่งปลายสายถามกลับมาแบบนั้นก็ยิ่งเหมือนมีอะไรมาถ่วงปากของป๋ายเซียนเอาไว้ พูดออกไปก็ไม่ได้ จะบอกไปก็กลัวน้องเสียใจ แถมเรื่องจดหมายเลือดนั้นจะจริงรึเปล่าก็ไม่รู้ ไม่ควรตื่นตระหนกเกินไป ป๋ายเซียนสูดลมหายใจเข้าเต็มปอดอีกครั้งก่อนจะบอกแพคฮยอนไปว่า
“อ้อ...พี่จะบอกว่าน้องแพครักกับพี่เซฮุนให้นานๆนะ พี่ยินดีด้วยจริงๆ น้องชายของพี่โตขึ้นแล้ว”
‘ขอบคุณครับ ผมมีความสุขจังเลย ผม..งื้อ พี่เซฮุนอย่ากอดสิ ผมคุยโทรศัพท์อยู่นะ’
เสียงง้องแง้งปลายสายบ่งบอกว่าแพคฮยอนกับเซฮุนคงจะกำลังหยอกล้อกันเล่นอยู่เป็นแน่ คุยกันอีกสองสามประโยคก็ขอตัดสายไปเพราะไม่อยากรบกวนมากไปกว่านี้ เห็นน้องมีความสุขแล้วก็ดีใจ
แต่ทำไมในความดีใจมันมีความหนักใจปนอยู่ด้วยล่ะเนี่ย
“ป๋ายเซียน! บอกให้เอามะเขือเทศมาให้หน่อย ทำไมมาคุยโทรศัพท์แทนล่ะ?”
มือหนาเขกลงมาบนหัวเล็กอย่างไม่เบานัก ทำเอาป๋ายเซียนต้องหดคอหนีอย่างอัตโนมัติพร้อมกับยกมือกุมหัวตัวเองไปด้วย ลืมไปเลยว่าพี่ชานยอลบอกให้เอามะเขือเทศไปให้นี่นา ซวยล่ะ!
“ก..ก็คุยโทรศัพท์อยู่กับแพคฮยอน นี่พี่ชานยอล...แพคฮยอนคบกับพี่เซฮุนแล้วนะ”
“เห...จริงหรอ เร็วกว่าคู่ของเราได้ไงเนี่ย”
“อะ...อะไรของพี่ -/////-“
“เมื่อไหร่เราจะคบกันซักทีล่ะ?”
ไม่พูดเปล่า ร่างสูงดันคนตัวเล็กไปติดผนังห้องก่อนจะยกมือขังป๋ายเซียนเอาไว้ ก้มลงเอาจมูกคลอเคลียกับลำคอขาวอย่างเจ้าเล่ห์ เร่งเร้าอยากฟังคำตอบจากคนตัวบาง
“อย่ามาลามกนะพี่ชานยอล ._____./”
“เปล่าซะหน่อย ยังไม่ได้ทำอะไรที่เรียกว่าลามกเลยซักนิด”
เสียงเซ็กซี่แบบนั้นมันกำลังทำให้ผมใจสั่นนะรู้มั้ย แบบนี้เขาเรียกว่าลวนลามได้รึเปล่า มันจักจี้ชอบกล
ดวงตากลมโตที่ดูดีมีเสน่ห์นั่นอีก สะกดให้เขาไม่สามารถมองอย่างอื่นได้เลย
ท่าทางแบบนี้แหละที่เขาเรียกว่าลามก ไอ้พี่บ้า!
“ย...ยังไม่คบหรอกนะครับ รอดูไปอีกหน่อยสิ”
“ก็ได้ๆ แต่ขอบอกไว้ก่อนเลยว่าพี่อาจจะไม่อดทนพอ...ถ้าป๋ายเซียนยังทำตัวน่ารักน่ากดแบบนี้”
จะไม่ให้น่ากดน่ากอดได้ยังไง ใบหน้าก็จิ้มลิ้ม หุ่นก็บอบบาง ตัวก็เล็ก สเปคชัดๆ แถมเวลางอนทำแก้มป่องนี่ยิ่งน่าฟัดเข้าไปใหญ่ เด็ดสุดก็คงเป็นตอนนี้...ดวงตาลุกลี้ลุกลนหวาดกลัวราวกับกวางน้อยที่กำลังหาทางหนีจากราชสีห์ตัวใหญ่...มันน่าปราบพยศชะมัด
คิดถึงช่วงเวลาที่ได้กินเจ้ากวางตัวน้อยนี่สิ...อร่อยแน่ๆ หึหึ...
“พอเลยๆ ไปทำกับข้าวเลยครับ เดี๋ยวผมช่วยยยย”
มือเล็กดันอกแกร่งออกไปก่อนจะวิ่งแจ้นเข้าห้องครัวไปทำกับข้าวต่อ ชานยอลมองตามไปก็เอาแต่หัวเราะชอบใจ มีป๋ายเซียนอยู่ด้วยมันทำให้ชีวิตเขามีความสุขขึ้นมากจริงๆ
หัวใจที่แข็งแกร่งด้านชากำลังถูกความน่ารักสดใสของป๋ายเซียนกัดเซาะแทบละลาย
ป๋ายเซียนกำลังแทรกเข้าไปยึดพื้นที่หัวใจของชานยอลทีละนิด...
**************************************
มาอัพแล้วนะรีดดด
ตอนต่อไปจะเป็นยังไงล่ะเนี่ย ฝากลุ้นๆ
เอนจอยรีดดิ้งค่ะ
ความคิดเห็น