คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : I'm Here - 5 -
I’m Here – 5 –
“แพคฮยอนอา อย่าปีนต้นไม้ ลงมาเดี๋ยวนี้”
“ไม่เอา ผมก็อยากเล่น พี่ป๋ายเซียนยังปีนต้นสูงๆได้เลย”
“น้องแพคอย่าดื้อ เดี๋ยวตกลงมาจะเจ็บนะ”
“ไม่เอา น้องแพคอยากเล่น พี่ป๋ายก็ขึ้นมาด้วยกันสิฮะ”
“ไม่เอา พี่ป๋ายจะยืนอยู่ข้างล่างดูน้องแพค เผื่อน้องแพคตกต้นไม้จะได้รับไว้ทัน”
“พี่ป๋ายจะดูแลน้องแพคตลอดไปใช่มั๊ย อยู่กับน้องแพคตลอดไปเลยนะ”
“จะอยู่กับน้องแพคไปนานๆเลย”
“สัญญาสิฮะ ว่าจะอยู่กับน้องแพคตลอดไป”
“ไม่สัญญาหรอก”
“ทำไมอ้ะ? พี่ป๋ายไม่รักน้องแพคหรอ”
“เดี๋ยวโตขึ้นก็จะมีคนมาดูแลน้องแพคแทนพี่เองแหละ”
“ใครกันหรอฮะ?”
“ก็ไม่รู้สินะ...แล้วแต่สวรรค์จะลิขิต”
“ชานยอลเกอเก่อ”
“.........”
“เฮ้! เหม่อไปดาวไหนแล้วเนี่ย”
“หือ? เปล่านี่ เรียกเกอเก่อพี่ฟังแล้วไม่ชินหูอะ”
“งั้นผมจะเรียกบ่อยๆจะได้ชิน เกอเก่อ เกอเก่อ เกอเก่อ เกอเก่อ เกอเก่อ!”
ป๋ายเซียนตะโกนข้างๆหูชานยอลซ้ำๆหลังจากที่เรียกอีกคนตั้งนานสองนานแต่ก็ไม่สนใจตนซักที ท่าทางเหมือนคนเหม่อๆคิดอะไรอยู่ ถือหนังสือค้างเอาไว้แบบนั้นตั้งแต่ที่เขาเดินเข้ามาหาในห้อง
“ไม่เอาเกอเก่อสิ....เรียกชานยอลโอป้าได้มั๊ยล่ะ?หืม....”
ชานยอลหันมากระซิบข้างๆหูของป๋ายเซียนแทน ส่งผลให้ป๋ายเซียนหยุดชะงัก ความรู้สึกประหลาดแล่นริ้วขึ้นไปทั่วร่างกาย ไหลรวมกันบนใบหน้าทำให้แก้มใสแดงเถือกน่ามอง
“อ...โอป้าได้ไง แบบนั้นมันเด็กผู้หญิงเค้าเอาไว้เรียกพี่ชายหรือไม่ก็แฟนไม่ใช่หรอ...”
“นายน่ารักจะตาย เหมือนเด็กผู้หญิง”
“บ้า! ผมเป็นผู้ชายนะ”
“ถ้าเป็นผู้ชายแล้วเรียกโอป้าไม่ได้...งั้นก็มาเป็นแฟนพี่สิ จะได้เรียกโอป้าให้พี่ฟังทุกวัน”
“นั่นยิ่งบ้าไปกันใหญ่”
“นี่จริงจังนะ ขอจีบป๋ายเซียนได้รึเปล่า?”
จบคำของชานยอล ป๋ายเซียนแทบจะระเบิดตัวเองตั้งแต่ตอนนั้น ทำท่าจะผละออกไปแต่ก็โดนดึงตัวไว้ให้ล้มลงมานั่งตัก บังคับให้สบตากันนิ่ง แววตาของชานยอลเปิดเผยไม่ปิดบัง มั่นคงกับคำพูดของตัวเอง...แต่คนฟังแทบหัวใจพอโตคับอก แววตาสั่นระริกอย่างตกใจ อะไรนะ....
“มะ....เมื่อกี๊ว่าอะไรนะครับ”
“ขอจีบ ได้ป่าว?”
“..........”
“นะครับ” ชานยอลพูดเสียงอ้อนให้อีกคนยอมใจอ่อน กอดคนบนตักให้แน่นขึ้น ประคองลูกแมวในอ้อมแขนให้ยอมตามใจ แล้วดูเหมือนจะได้ผลซะด้วยสิ คนตัวเล็กเริ่มไม่มั่นใจ...เริ่มหวั่นไหวให้กับชานยอลทีละนิด ยิ่งสบตายิ่งสั่นคลอน ความมั่นใจในตัวเองเริ่มหายไป เริ่มเปิดใจให้กับชานยอลอย่างไม่ทันรู้ตัว
ราวกับว่ามีอะไรบางอย่างกำลังดึงดูดให้ทั้งคู่เข้าหากัน...
ป๋ายเซียนได้แต่นิ่งก้มหน้าคิด ไม่รู้ว่าอีกคนจะมาไม้ไหนกันแน่ ถ้าเป็นคนอื่นเขาคงไม่ไว้ใจและยอมให้ทำอะไรแบบนี้ แต่คนๆนี้ไม่เคยทำอะไรที่ไม่ดีเลยซักครั้ง แถมยังเป็นคนที่พ่อของเขาฝากให้มาดูแล ร่างกายก็ไม่ยอมทำตามสมอง เอาแต่เป็นทาสของหัวใจ ถึงได้ยังนั่งนิ่งอยู่แบบนี้ ป๋ายเซียนกำลังสับสน เขากำลังมึนงงกับสิ่งที่เกิดขึ้น กับสิ่งที่เรียกว่าขอจีบ ไม่เคย...ไม่เคยเลยที่จะมีคนมาทำแบบนี้กับเขา เป็นครั้งแรก...ก็ต้องตกใจเป็นธรรมดา
“เฮ้...มันเร็วไปรึเปล่า รู้จักกันยังไม่ถึงไหนเลย” เสียงใสเอ่ยออกมาอย่างไม่มั่นใจ ปลายนิ้วหนาเลื่อนไปหยุดไว้ก่อนที่เจ้าตัวจะพูดขึ้นมาสั่นคลอนหัวใจป๋ายเซียนอีกครั้ง
“จะจีบมันก็ต้องเริ่มตั้งแต่เจอกันสิ พี่ชอบนายจริงๆนะ...ให้โอกาสพี่ได้มั๊ย?”
“แบคฮยอนอา...ให้โอกาสผมได้มั๊ย?”
“พี่ชานยอลมั่นใจหรอครับว่าชอบผมจริงๆ?”
“ชานยอล ที่นายรู้สึกกับผมน่ะมันใช่ความรักจริงๆหรอ?”
“มั่นใจ พี่มั่นใจในความรู้สึกของตัวเองเสมอ”
“ตัวโตรักตัวเล็กจริงๆนะ นั่นคือความจริง ผมรู้คำตอบของหัวใจแล้ว”
“แต่....”
“คือ....”
“นะครับ....ตัวเล็ก”
ชานยอลจับมืออีกคนกุมไว้หลวมๆอ้อนวอนขอให้อีกคนยอมเปิดใจ ดวงตาคมเริ่มสั่นไหวเล็กน้อยเมื่อนึกถึงเรื่องราวในอดีต มันซ้อนทับ มันคล้ายกัน มันเหมือนกับเหตุการณ์นี้ได้เกิดขึ้นอีกครั้ง ความจริงที่เคยเกิดขึ้นมันทำให้เขากลัวจับใจ จะเป็นไปได้ไหมถ้าเขาจะขอโอกาสดูแลอีกซักครั้ง...ให้เขาได้มีโอกาสอีกซักครั้ง
“ไม่ได้หรอกชานยอล...เราเป็นแบบนี้ก็ดีอยู่แล้ว ผมไม่ได้รู้สึกแบบเดียวกับนาย”
ไม่ได้หรอก...
ไม่ได้....
ไม่...
ประโยคเดิมๆเมื่อหลายปีก่อนดังก้องกังวานอยู่ในหัว เหงื่อเม็ดโตเริ่มผุดขึ้นมาตามขมับเพราะตื่นเต้น รอคอยฟังคำตอบจากคนบนตักว่าจะเป็นอย่างไร ภาวนาขออย่าให้เป็นเหมือนคราวก่อนอีกเลย
ริมฝีปากอิ่มเม้มแน่นคิดตัดสินใจอยู่นานจนคนรอเริ่มจะหมดหวัง ในที่สุดคำตอบที่รอคอยมายาวนานก็พูดออกมาให้ได้ยินซักที.....
“ถ้าคิดว่าจีบผมติด....ก็ลองดูสิครับ”
พูดเสร็จก็ก้มหน้างุดซ่อนความอาย ชานยอลมองคนน่ารักอย่างหลงใหล...ก้มปลายจมูกโด่งกดลงไปบนแก้มใสอย่างหมันเขี้ยว
“อะไรเล่า! อย่ามาแต๊ะอั๋งผมสิ”
“ก็อนุญาตให้จีบแล้วนี่ แค่หอมแก้มเอง”
“ไม่รู้แหละ พี่ชานยอลบ้า”
ดิ้นออกจากอ้อมกอดขลุกขลักจนหลุดออกมาได้ก็รีบก้มหน้าวิ่งออกมาให้ห่างจากชานยอลมากที่สุด นี่แค่อนุญาตให้จีบนะยังจะขนาดนี้ ถ้าเป็นแฟนกันแล้วจะขนาดไหน ไอ้คนหื่นเอ๊ย!!
ชานยอลมองตามหลังคนตัวเล็กเดินไปยิ้มๆ ขอแค่นี้แหละ ขอแค่โอกาส....
รอมานานแล้วคนดี...รอเวลานี้มาตั้งเท่าไหร่
รอทำหน้าที่ๆไม่เคยได้มีโอกาสทำ กับคนที่เขาเคยสัญญาต่อหน้าพระเจ้าเอาไว้ว่าจะรักแค่เขาคนเดียวเท่านั้น
วันนี้โอกาสมาถึงแล้ว...พระเจ้าได้เปิดโอกาสให้คนอย่างเขาแล้ว
หนึ่งในความฝันของเขาที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลง...นั่นคือการได้ดูแลปกป้องแบคฮยอน
อยากโอบกอดแบคฮยอนเอาไว้ในอ้อมแขน ดูแลนางฟ้าตัวน้อยๆให้มีความสุขตลอดไป
อยากเป็นคนในสายตาของแบคฮยอนบ้าง....ซักครั้งก็ยังดี
รู้อยู่เต็มอกว่าคนตรงหน้านี้เป็นใคร คนที่เขาคิดถึงเป็นใคร แต่มันก็ห้ามไม่ได้ซักที ยังคงทำตามด้านมืดของหัวใจ ไม่ใช่ว่าไม่สงสารที่ป๋ายเซียนจะต้องกลายเป็นตัวแทนของแบคฮยอน แต่เขาก็สงสารตัวเอง...กับความคิดถึงที่มีมากเกินไป
คนในความเป็นจริง...กำลังจะกลายเป็นใครซักคนที่ไม่มีตัวตน
คนที่จับมือได้ เดินไปด้วยกันได้ กำลังจะกลายเป็นเงาของคนที่อยู่ในความทรงจำ
วินาทีนั้น...ถึงแม้จะยังมีลมหายใจ ก็เหมือนกับตายไปแล้วครึ่งนึง
บยอน แบคฮยอน...จะกลับมามีชีวิตอีกครั้ง
และในตอนนั้น...ป๋ายเซียน จะกลายเป็นใครซักคนบนโลกใบนี้ที่ไม่เคยมีตัวตนอยู่ในความทรงจำของชานยอล
โครม!!
“โอ๊ย!!”
“ป๋ายเซียน เป็นอะไรรึเปล่า!”
เพราะเขินเกินไปเลยเอาแต่ก้มหน้าไม่ยอมมองข้างหน้า แถมยังไม่ชินทางเลยทำให้หัวทุยของป๋ายเซียนโหม่งเข้ากับชั้นวางซีดีเข้าอย่างจัง ชานยอลรีบวิ่งเข้าไปดูคนตัวเล็กที่ยืนกุมหัวตัวเองอยู่ แผ่นซีดีตกกระจัดกระจายเต็มพื้นแต่ชานยอลก็ได้หาสนใจ ห่วงแต่คนซุ่มซ่ามต่างหาก...หัวโนเป็นไข่นกกระจอกเทศแล้วนั่น
“เจ็บ....”
นิ่วหน้าเหยเกด้วยความเจ็บสุดบรรยาย อยากจะโทษก็คงต้องโทษความซุ่มซ่ามของตัวเองนั่นแหละ เอาแต่เขินเดินไม่มองทางทำเอาตัวเองเจ็บเล่นๆ ยืนกุมหัวอยู่แบบนั้นอย่างทำอะไรไม่ถูก ความรู้สึกเหมือนโดนรถสิบล้อวิ่งทับหัวซ้ำไปซ้ำมา ตาลายไปหมด...
“ซุ่มซ่ามจริงๆ โอ๋ๆไม่เจ็บนะเดี๋ยวพี่เป่าให้ ฟู่วๆๆๆ”
สัมผัสแผ่วเบาของคนตัวสูงที่ลูบหัวของป๋ายเซียนไปมาเบาๆพร้อมกับพูดปลอบดังขึ้นต่อเนื่อง ใช่ว่าจะหายเจ็บแต่อย่างใด แต่มีสิ่งหนึ่งที่ป๋ายเซียนเองก็ไม่รู้ว่าทำไมสามารถทำให้เขาอบอุ่นหัวใจและยอมอยู่นิ่งๆได้ ความรู้สึกอบอุ่นแผ่ออกมาโอบกอดเขาเอาไว้ ความเป็นห่วงของชานยอลทำเอาป๋ายเซียนยิ้มดีใจออกมาโดยไม่รู้ตัว
“ไม่ใช่เด็กสามขวบนะพี่ชานยอล แค่นี้จะหายได้ยังไง -//////-“
“แต่พี่ใช้แล้วมันได้ผลนะ....”
“พี่ใช้กับใครล่ะ?”
“ก....ก็....ใช้กับ กับคนที่พี่รักตอนสมัยมัธยมโน่นน่ะ นานมาแล้วล่ะ ฮ่ะๆๆ”
ที่ไม่บอกไปว่าเคยรัก...เพราะตอนนี้ก็ยังรักอยู่
เพราะว่ารักแบคฮยอน...มาตลอด
เจอประโยคคำถามนี้เขาไปทำเอาชานยอลไปไม่ถูก มือหนาขยี้ผมตัวเองหัวเราะร่วนหวังจะให้ป๋ายเซียนรู้สึกว่าเป็นแค่เรื่องธรรมดาๆที่ผ่านมาแล้ว คนตัวเล็กยักไหล่เชิงว่าเข้าใจแล้วก่อนจะก้มลงเก็บแผ่นซีดีที่กระจัดกระจายขึ้นไปจัดให้เหมือนเดิม คนตัวสูงก็ก้มลงไปเก็บแล้วช่วยเก็บเอาไว้บนชั้นที่สูงๆ
แผ่นแล้วแผ่นเล่า...จนในที่สุดก็เหลือซีดีแผ่นสุดท้าย
เอื้อมมือออกไปหยิบพร้อมกัน เผลอกุมมือเล็กอย่างไม่ได้ตั้งใจ...
“เอ่อ....เดี๋ยวผมเก็บเองครับพี่ชานยอล”
เหมือนกับมีกระแสไฟแล่นผ่านมือของทั้งสอง ชานยอลเงอะงะไปซักพักก่อนจะดึงมือกลับ ไม่รู้ทำไม...บางครั้งชานยอลก็รู้สึกเหมือนว่าตัวเองกำลังประหม่า ทำตัวไม่ถูกไปเหมือนกัน
ราวกับว่าย้อนเวลากลับไปเป็นเด็กหนุ่มผู้ไร้เดียงสาในความรัก...
กำลังรู้สึกตื่นเต้น หัวใจเต้นแรง...กำลังตกหลุมรักอีกครั้ง
“นี่แผ่นซีดีอะไรน่ะ...”
ป๋ายเซียนหยิบแผ่นซีดีขึ้นมาพลิกดูเผื่อว่าจะเป็นหนังที่ตัวเองสนใจ หน้าปกของมันเป็นหนังซักเรื่องหนึ่งที่เขาไม่เคยดู พลิกไปพลิกมาอ่านพลอตเรื่องแผ่นซีดีข้างในกลับหลุดตกลงพื้นซะงั้น
“หวา ผมขอโทษครับๆ”
มือเรียวเอื้อมเก็บแผ่นซีดี แต่ก็ต้องชะงักมองตาค้างเนื่องจากซีดีแผ่นที่ว่ามันเป็น......ซีดีเอวีระดับท็อปของญี่ปุ่น
“เห้ย!! ป๋ายเซียนเก็บเลยนะ ห้ามดู”
ภาพนางเอกเอวีเด่นหราอยู่ตรงกลางแผ่น ชานยอลเองก็ตกใจอยู่เหมือนกันที่มีแผ่นซีดีแบบนี้อยู่ในห้อง จะว่าไปเมื่อเดือนก่อนจงอินมันหอบลังซีดีมาฝากเขาไว้เพราะกลัวคยองซูจับได้ว่าแอบดูหนังโป๊และมีเก็บไว้ในครอบครองเป็นลังๆ สงสัยเจ้าตัวคงจะเอามาเก็บไว้ในนี้แน่ๆ ไม่น่าเลยไอ้จงอิน เสียเครดิตผู้ใหญ่ใจดีหมด!
“พี่ชอบดูอะไรแบบนี้ด้วยหรอ?” -0-
“เอ่อ....คือว่า มันไม่....”
ชานยอลอยากจะโบกมือสะบัดปฏิเสธแทบตายแต่คนตัวเล็กก็คงจะไม่เชื่อ ดูจากสายตาแล้วคงคิดไปต่างๆนานาว่าขาเป็นคนลามกขนาดไหน ถ้าเป็นไปได้เขาอยากจะตบกบาลไอ้จงอินซักสิบรอบให้ตายเถอะ - -*
“คนแก่ลามก ชอบดูหนังโป๊”
“ผู้ชายยังไงมันก็ต้องมีบ้าง ไม่เห็นจะแปลกเลย”
ในเมื่อแก้ตัวไปยังไงก็ฟังไม่ขึ้น ก็หลักฐานมันตำตาขนาดนี้ก็คงต้องปล่อยเลยตามเลย หันไปยิ้มกรุ้มกริ่มใส่เจ้าแมวตัวน้อยที่ยืนทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ คนตัวเล็กมันน่าแกล้ง...อยากจะแกล้งให้เขินตายกันไปข้าง
“ผมยังไม่เห็นจะมีเลย”
“เพราะว่านายไม่จำเป็นต้องดูไง เดี๋ยวจะสอนให้ทุกอย่างเลย...”
ไม่พูดเปล่า สองเท้าก็เดินเข้าใกล้ป๋ายเซียนเข้าไปทุกขณะ ทำท่าหื่นๆใส่ให้อีกคนกลัวเล่นๆ ป๋ายเซียนทำตาเลิ่กลั่กหาทางหนีแต่ก็ไม่สามารถรอดพ้นมือหนาไปได้ แขนแกรงทั้งสองข้างต้อนป๋ายเซียนจนติดผนังแล้วยันผนังเอาไว้ กลายเป็นกรงขังอย่างสมบูรณ์แบบ
“สอนอะไร ผมไม่อยาก....งื่ออออออ”
แค่เพียงการหายใจรดต้นคือก็ทำให้ป๋ายเซียนต้องย่นคอหลบอย่างตื่นตกใจ อะไรกัน ผู้ชายคนนี้จะคุกคามเขามากเกินไปแล้วนะ อีกอย่าง หัวใจของเขาวันนี้ก็ทำงานหนักเกินไปแล้วด้วย
มันเต้นแรงทุกครั้งที่สบตากับพี่ชานยอล...
คำหวานทุกอย่างล้วนหลอกหล่อให้ผีเสื้อตัวน้อยติดกับ....
ลุ่มหลง ติดใจจนถอนตัวไม่ขึน
“แต่พี่อยากนี่....นะครับป๋ายเซียน”
ชานยอลอยากจะครอบครองริมฝีปากจิ้มลิ้มที่กำลังสั่นระริกอยู่ตรงหน้านี้ชะมัด แต่ก็ต้องข่มใจไว้ก่อนเพราะยังไม่เหมาะที่จะรุกมากเกินไปในตอนนี้ ยังไงซะป๋ายเซียนก็เป็นเพียงแค่เด็กปีหนึ่ง ยังไม่เจนจัดในเรื่องพวกนี้ เผลอๆอาจจะยังไม่เคยด้วยซ้ำ ยังไงคนๆนี้ก็ไม่หนีเขาไปไหนแน่นอน แล้วทำไมเขาจะต้องรีบ? เก็บไว้เล่นสนุกๆไปเรื่อยๆไม่ดีกว่ารึไง
ทั้งสองฝ่ายลงสนาม ต่างก็เป็นผู้เล่นตัวจริงด้วยกันทั้งคู่
ไม่มีใครรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น
บางที...อาจะเป็นป๋ายเซียนที่ตกหลุมรักชานยอลทั้งหัวใจ
หรือไม่ อาจจะเป็นชานยอลที่หลงมัวเมาป๋ายเซียนเสียเอง
มันเป็นเกม...ที่ใช้หัวใจเป็นเดิมพัน
และตัวแปรของเกมนี้....คือตัวตนของใครอีกคนที่จากไปแล้วไกลแสนไกล
ป๋ายเซียนยืนหลับตาปี๋ไม่กล้าแม้แต่จะหายใจแรงๆ ตัวสั่นเหมือนเจ้าเข้า จินตนาการถึงอนาคตอันใกล้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นยิ่งทำให้ฟุ้งซ่านไปกันใหญ่
คงจะไม่....จูบเขาเหมือนในหนังที่เคยดูใช่ไหม?
คนตัวโตเลื่อนใบหน้าเข้าไปใกล้ๆอย่างย่ามใจ มุ่งตรงไปยังกลีบปากอิ่ม ใกล้กันเพียงแค่กระดาษกัน รู้สึกได้ถึงลมหายใจของอีกฝ่ายรดพวงแก้ม เสี้ยววินาทีกลับเลื่อนขึ้นไปงับจมูกรั้นของป๋ายเซียนแทน
“โอ๊ย!!”
“ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆ”
“ขำอะไรเล่า -3-“
“ขำคนขี้กลัว คิดว่าพี่จะทำอะไรล่ะ?”
“ก็......”
“ก็...?”
“ก็...ก็จะไปรู้เรอะ ฮึ่ยยยย!”
มือเรียวผลักชานยอลออกเต็มแรงซึ่งอีกคนก็ผละออกมาอย่างง่ายๆ ปล่อยให้ป๋ายเซียนเดินออกไปข้างนอกห้อง ยังไงซะคืนนี้พวกเขาก็ต้องนอนด้วยกันอยู่แล้ว...ไม่เห็นเป็นไร หึหึ....
ป๋ายเซียนเดินกระทืบเท้ามาหยิบโทรศัพท์ในห้องนั่งเล่น จิ้มๆเลื่อนไปมาอย่างนึกโมโห ไม่โมโหอะไรหรอก โมโหตัวเองเนี่ยแหละ อีกคนเขาไม่ได้ทำอะไรเราซะหน่อย คิดไปซะไกล นี่ถ้าพูดหรือว่าทำอะไรออกไปคงจะหน้าแตกเป็นผุยผงไม่ต้องเย็บกันเลย
เสียงไลน์ดังขึ้น เปิดดูก็เห็นเป็นไลน์ของแพคฮยอน...
‘พี่ป๋าย เข้าชมรมฟุตบอลกับผมนะ แบมแบมลากผมเข้าชมรมฟุตบอลอ่า’
‘หืม...น้องแพคจะเข้าชมรมฟุตบอลหรอ ไหวหรอ?”
“ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าไหวรึเปล่า แต่ผู้จัดการชมรมเค้าใจดีมากเลยครับ หล่อด้วย *0*’
‘อ่า พี่ก็ยังไม่มีชมรมที่อยากเข้าพอดี งั้นพี่อยู่ด้วยนะ’
‘โอเคครับ อยู่ชมรมฟุตบอลกับผมนะ’
‘อื้อ’
‘เย้ๆ พี่ป๋ายเซียนน่ารักที่สุดเลย *0*’
‘แพคฮยอนอา...คือพี่....’
ป๋ายเซียนชะงักมือไปก่อนจะพิมพ์เรื่องราวในวันนี้บอกน้องชาย ไม่รู้ว่าจะบอกดีรึเปล่า แต่มันก็รู้สึกอยู่นิดๆว่าไม่ควรจะบอกอะไรในตอนนี้ กลัวแฝดคนน้องไม่สบายใจ เพราะแพคฮยอนติดเขามากจนไม่อยากแยกจากกันตามประสาเด็กแฝด อีกใจก็เขินเกินกว่าจะบอกอะไรกับใครให้ได้รุ้ ถึงแม้คนๆนั้นจะเป็นคนที่คลานตามกันออกมาติดๆก็เถอะ
เรื่องของหัวใจใครว่ามันตัดสินกันได้ง่ายๆกันล่ะ....
เอาเป็นว่ายังไม่บอกดีกว่า
‘พี่ครับ มีอะไรหรอ?’
‘อ่อ เปล่าๆ ไม่มีอะไร แค่นี้ก่อนนะพี่ต้องนอนแล้ว รีบนอนนะครับคนเก่ง ฝันดีนะ’
รอให้มั่นใจกว่านี้อีกซักหน่อยแล้วกัน....ค่อยบอกนะน้องรัก
*********************
ชะแว้บโผล่มาอัพอีกตอนแล้วค่ะ
ป๋ายเซียนจะลงเอยกับชานยอลยังไงน้า
ไรท์ก็ไม่รู้ รีดเองก็คงไม่รู้
รอลุ้นไปพร้อมๆกันนะคะ
เอนจอยรีดดิ้ง จุ๊บๆ
ความคิดเห็น