คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : t w o d a y 2.3
Two Day 2.3
“เซฮุน ถามหน่อยดิ นายกลัวอะไรมากที่สุดหรอ?”
“หืม ไม่กลัวอะไรนี่ ไม่มีอะไรต้องกลัว”
“แต่พี่มีบางอย่างที่กลัว”
“อะไรล่ะพี่หมาเตี้ย?”
“กลัวการนอนหลับ”
“ห้ะ นอนหลับเนี่ยนะ กลัวจะฝันร้ายรึไง”
“ฝันร้ายก็กลัว แต่กลัวหลับแล้วไม่ได้ตื่นมาอีก มีอะไรอีกตั้งหลายอย่างที่ไม่ได้ทำ คงเสียดายแย่...”
“ไม่ต้องกลัวหรอก ผมอยู่นี่ไง จะปลุกพี่เอง”
“แบคฮยอน โต๊ะเจ็ด”
“แบคฮยอน โต๊ะสาม”
“แบคฮยอน โต๊ะยี่สิบ”
“แบคฮยอน บลาๆๆๆๆ...”
และอีกหลากหลายเสียงมากมายเต็มไปด้วยความวุ่นวายภายในร้านชานมเล็กๆแห่งนี้ ช่วงเย็นลูกค้าแน่นขนัดจึงทำให้ออร์เดอร์เยอะมากเป็นพิเศษ บรรดาบาริสต้าต่างประจำที่ทำงานอย่างขยันขันแข็ง ผู้ช่วยอย่างแบคฮยอนจึงต้องรับหน้าที่ทั้งเสิร์ฟและเก็บเช็ดโต๊ะเพิ่มมากขึ้นสองสามเท่า แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่มีใครบ่นออกมาแม้แต่คำเดียว ทุกคนต่างทำหน้าที่และบริการลูกค้าอย่างเต็มใจ รอยยิ้มชวนมองถูกส่งให้ลูกค้าคนแล้วคนเล่าอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย
เนื่องจากวันนี้เป็นวันศุกร์และเป็นเวลาเลิกเรียนของนักเรียนนักศึกษา กลุ่มลูกค้าส่วนมากจึงเป็นเด็กนักเรียน เมนูเครื่องดื่มคงไม่พ้นชานมและน้ำปั่นต่างๆทำให้เทาและเซฮุนต้องทำงานเยอะกว่าบาริสต้าคนอื่นๆ แบคฮยอนเหลือบมองร่างสูงที่ตอนนี้สวมวิญญาณเป็นบาริสต้าชานมตั้งใจชงเครื่องดื่มอยู่ในบาร์ ท่าทางคล่องแคล่วหยิบโน่นจับนี่อย่างมั่นใจมันทำให้แบคฮยอนรู้สึกว่าเซฮุนมีเสน่ห์มากขึ้นไปอีกเมื่อเขาได้ทำในสิ่งที่ตัวเองชอบ
แบคฮยอนยืนพิงกระจกร้านแอบมองเซฮุนที่กำลังทำชานมเย็นอยู่ เซฮุนเริ่มตั้งแต่ต้มใบชาในน้ำร้อนเดือด นำใบชาที่ต้มแล้วใส่ลงในหม้อ กวนๆใบชาเพื่อให้กลิ่นหอมของใบชาออกไปละลายกับน้ำ และกรองกากใบออกจนหมด นำหม้อไปแช่ในถังน้ำแข็ง จะได้ชาดำเย็น ร่างเล็กยืนมองเซฮุนใส่น้ำตาลทรายขาวลงไปในชาดำเย็นแล้วคนเบาๆให้มันละลาย ใส่นมข้นหวานและนมข้นจืดในสัดส่วนพอเหมาะลงไปอย่างระมัดระวัง ร่างสูงทำทุกขั้นตอนอย่างตั้งใจ สมาธิจดจ่ออยู่กับออร์เดอร์ ใส่ใจทุกรายละเอียดไม่ให้ผิดพลาด จนในที่สุดชาดำเย็นก็กลายเป็นชานมเย็นแสนอร่อยชื่นใจที่พร้อมเสิร์ฟให้กับลูกค้า
“พี่แบคฮยอน ชานมเย็นโต๊ะแปดครับ”
เซฮุนกวาดสายตามองหาแบคฮยอนจนในที่สุดก็เจอร่างเล็กแอบยืนอู้พิงอยู่ที่กระจกร้าน เสียงทุ้มเรียกเบาๆให้แบคฮยอนนำออร์เดอร์ไปเสิร์ฟ ร่างเล็กทำตามอย่างว่าง่าย เดินถือถาดไปหาลูกค้าโต๊ะแปดอย่างยิ้มแย้ม วางเครื่องดื่มลงบนโต๊ะยิ้มๆ ได้ยินเสียงชมบาริสต้าชานมไม่ขาดปากจากหลายๆโต๊ะที่เขานำเครื่องดื่มไปให้
ก็นี่แหละน้า ว่าที่แฟนในอนาคตของเขา -/-
“แบคฮยอน ขนมในตู้หมดแล้ว เอาเซตใหม่ที่อยู่ในครัวมาใส่ได้เลย” เฉินสะกิดแบคฮยอนเบาๆให้ร่างเล็กเดินไปในห้องครัว หยิบถาดขนมปังหลายๆชนิดที่พี่ลู่หานอบไว้มาเรียงไว้ในตู้ขนม
ร้านพี่ซูโฮเป็นร้านที่ค่อนข้างอินเตอร์ แน่นอนการจัดตู้ขนมมีความสำคัญมาก
ในตอนเช้า ตู้ขนมจะจัดเต็มไปด้วย ครัวซอง และ มัฟฟิน ฝรั่งเค้าจะกินพวกนี้เป็นอาหารเช้า
พอสายหน่อยจะเริ่มเปลี่ยนขนมเป็นแซนด์วิช สลัด นี่เป็นมื้อก่อนเที่ยงของฝรั่งเค้ากินเบาๆ
พอเที่ยงๆ ขนมจะเป็นพวกPasty พวกพาย โรล พัฟ ต่างๆ อันนี้ฝรั่งกินเป็นมื้อเที่ยง หนักท้อง
พอบ่าย จะเปลี่ยนเป็นพวกขนมเค้กต่างๆ ชีทเค้ก เป็น Afternoon tea ของฝรั่งกินกับน้ำชา
พอเย็นๆ ขนมจะเริ่มเป็นพวกขนมปังต่างๆ กินเป็นมื้อเย็น
และตกดึกเป็นคุกกี้ กินก่อนนอน
ทุกอย่างต้องเป็นระเบียบมาก เป๊ะตั้งแต่หัวจรดเท้ายันความสะอาดของพื้นร้าน ทำให้แบคฮยอนรู้สึกว่าอาชีพนี้ต้องรักในการบริการอย่างสุดๆ รักสะอาดมากๆจนแบคฮยอนที่คิดว่าตัวเองสะอาดแล้วเมื่อตอนอยู่ที่บ้าน มาอยู่ที่ร้านพี่ซูโฮยังต้องอาย รู้สึกว่าตัวเองซกมกไปเลยด้วยซ้ำ
เซฮุนแอบเหลือบมองแบคฮยอนผ่านทางกระจกเงาของร้านอยู่บ่อยครั้ง แต่ก็ไม่เห็นแม้แต่เงาของร่างเล็ก นั่นมันทำให้เขาหงุดหงิดใจอยู่เบาๆ ไม่อยากให้คลาดสายตาไปไหน เกิดมีลูกค้ามาลวนลามจะทำยังไง พี่แบคฮยอนยิ่งเป็นคนที่ไม่มีปากมีเสียงเรียกร้องอะไรอยู่แล้วด้วย แต่ถึงแม้เซฮุนจะไม่เห็นว่าแบคฮยอนเดินไปไหนมาไหน เสียงเจื้อยแจ้วของอีกคนที่ได้ยินก็ทำให้เบาใจได้บ้างว่าตอนนี้แบคฮยอนกำลังทำหน้าที่ของตัวเองดีขนาดไหน
“เหนื่อยไหม?”
พี่ซิ่วหมินเดินมาตบบ่าแบคฮยอนเบาๆราวกับให้กำลังใจ ร่างเล็กพยักหน้าหงึกหงักเป็นคำตอบว่าเหนื่อยมากแถมทำหน้าเบ้เมื่อเหลือบมองเข้าไปหลังร้านเจอกองทัพถ้วยจานชามช้อนส้อมกองพะเนินรอล้างอยู่ ไม่รู้ว่าทุกๆคนในนี้ผ่านภาระงานที่หนักหนาขนาดนี้มาได้ยังไง เก่งกันจริงๆเลย
เวลาล่วงเลยมาจนถึงสองทุ่มกว่า แบคฮยอนถูกเรียกให้ไปล้างจานในห้องครัวกับลู่หานที่ประจำหน้าที่อยู่ก่อนหน้านี้แล้ว ตอนแรกๆถึงกับเข่าอ่อนเมื่อเห็นถ้วยจานกองยิ่งกว่าภูเขาลูกย่อมๆ แต่ก็ต้องปลงตกทำใจล้างไปเรื่อยๆทีละนิดๆจนมันเสร็จไป เหลือบมองนาฬิกาที่แขวนอยู่บนผนังอีกทีก็เกือบสามทุ่ม คงจะไม่มีลูกค้าเหลืออยู่แล้ว พวกหนุ่มๆที่อยู่ข้างนอกคงเก็บหน้าร้านเสร็จจนเกือบหมดถึงได้ส่งเสียงคุยกันดังอย่างกับปลดปล่อยความเครียดความเหนื่อยทั้งหมดออกมา
เอาแต่ยิ้มและบริการลูกค้าตั้งแต่เช้ายันค่ำ ก็คงมีเรื่องให้ระบายไม่มากก็น้อยล่ะนะ
“เซฮุนนา เก็บข้างหน้าร้านเรียบร้อยหมดแล้วหรอ?” ลู่หานถามร่างสูงที่เดินเข้ามาข้างหลังร้านเงียบๆ
“เรียบร้อยหมดแล้ว เหนื่อยรึเปล่าเหงื่อพี่ออกเยอะเลย”
มือหนาเอื้อมไปหยิบทิชชู่บนโต๊ะก่อนจะเอื้อมมือมาซับเหงื่อบนหน้าผากลู่หานให้อย่างแผ่วเบา การกระทำที่เหมือนว่าโลกนี้มีเพียงเราสองระหว่างเซฮุนกับลู่หานทำเอาคนที่กลายเป็นส่วนเกินจำเป็นอย่างแบคฮยอนต้องคว่ำปากหมันไส้ปนน้อยใจในการกระทำของร่างสูง กับพี่ลู่หานนี่อ่อนโยนจังเลย...
“แล้วพี่อะ เนี่ยๆเซฮุนดูสิเหงื่อก็ออกเยอะแยะเหมือนกับพี่ลู่หานเลยนะ L”
เรียกร้องความสนใจบ้างก่อนที่จะถูกลืมไปจริงๆ แต่สิ่งที่ได้มากลับเป็นเพียงสายตาที่เหลือบมองแว้บเดียวของเซฮุนเท่านั้น ไม่ได้จะสนใจอะไรเขาจริงจังเลย เซฮุนก็หันกลับไปซับเหงื่อให้กับลู่หานต่อไปราวกับแบคฮยอนไม่มีตัวตน
แต่ทำไมเดินมาเนิ่นนานไม่ถึงซักที แต่ทำไมมองดูเส้นทางเหมือนยาวออกไป...อยากรู้ว่าฉันต้องทำตัวอย่างไร
อีกไกลแค่ไหนจนกว่าฉันจะใกล้บอกที อีกไกลแค่ไหนเธอจะรักฉันเสียที
มีทางใดที่อาจทำให้เธอสนใจได้โปรด บอกกับฉันนั้นรู้ทีว่าสุดท้ายแล้วฉันยังมีความหมาย
หรือว่าเราควรจะพอจริงๆ...ควรหยุดดีรึเปล่า
ไม่ได้ๆแบคฮยอนต้องไม่ยอมแพ้ สงครามยังไม่จบอย่าเพิ่งนับศพทหารสิ!
บางทีเซฮุนอาจจะรักเขาในวินาทีสุดท้ายก็ได้...ใครจะไปรู้
“โอ๊ะ แสบตา...”
เพราะมัวแต่เหม่อคิดเรื่อยเปื่อยทำให้น้ำยาล้างจานกระเด็นเข้าตาร่างเล็ก แบคฮยอนหลังตาปี๋เอื้อมมือขยี้ตาทำให้มันยิ่งแสบกว่าเดิม ลู่หานเห็นเข้าจึงชี้ไม้ชี้มือให้เซฮุนเข้าไปช่วยเช็ดให้แบคฮยอน ร่างสูงคว้ากล่องทิชชู่ก่อนจะเดินเข้าไปประชิดตัวคนซุ่มซ่าม จับมือเรียวเอาไว้ให้หยุดขยี้ตาตัวเอง มืออีกข้างก็เอื้อมไปซับน้ำยาล้างจานออกให้อย่างแผ่วเบา...
“โง่รึไง มือก็เปื้อนน้ำยาล้างจานยังจะไปขยี้ตาอีก ไม่ระวังซะบ้าง คนซุ่มซ่าม”
ร่างเล็กที่โดนดุโดนว่าถึงกับนั่งนิ่งไม่ขยับตัวปล่อยให้ทิชชู่ซับคราบน้ำยาล้างจานออกเบาๆจนรู้สึกว่าอาการแสบตาลดลงเหลือแค่ระคายเคืองเล็กน้อย น้ำตาไหลเป็นทางเนื่องจากเป็นกลไกกำจัดสิ่งแปลกปลอมให้ออกจากร่างกาย
ใกล้กันอีกแล้ว...ใจเต้นอีกแล้ว
ตกหลุมรักคนๆนี้ครั้งที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้นับไม่ถ้วน...
แบคฮยอนถูกดึงแขนให้เดินไปนั่งพักทั้งๆที่หลับตาอยู่ ส่วนเซฮุนก็มาล้างจานในส่วนที่ร่างเล็กทำยังไม่เสร็จแทน ไม่นานการล้างจานก็เสร็จลงไป ทุกคนเริ่มทยอยกันมาเปลี่ยนชุดพนักงานมาเป็นชุดธรรมดาเพื่อกลับบ้าน แบคฮยอนเก็บชุดพนักงานเข้าไว้ในล็อคเกอร์ตามเดิม เดินออกไปก็เจอกับทุกคนที่ยืนรออยู่แล้ว
“อ้าว ทุกคนยังไม่กลับกันอีกหรอครับ?”
“ยังหรอก รอกลับพร้อมกันทุกคนเลยน่ะครับ พี่แบคฮยอนรออีกแป๊บนะ พี่ซูโฮทำบัญชีจะเสร็จแล้ว”
เทาบอกก่อนจะเดินเข้ามาชวนแบคฮยอนคุยนั่นโน่นนี่ ทำให้แบคฮยอนผ่อนคลายและรู้สึกสนิทสนมกับทุกคนมากขึ้น ได้รู้จักซิ่วหมินกับเฉินมากขึ้น ทำให้แบคฮยอนรู้สึกอบอุ่นในหัวใจที่ใครๆต่างก็อยากคุยกับเขา ทุกๆคนต่างใจดีและเป็นกันเองกับเขาสุดๆ
“รอนานรึเปล่า ทำบัญชีร้านเสร็จแล้ว” ใช้เวลาไม่นานซูโฮก็ปรากฏตัวขึ้น
“ไม่นานมั้งลูกพี่ ไก่โห่เตรียมจะตื่นนอนแล้วครับ” เทาได้ทีแซะเข้าให้
“เดี๋ยวเถอะไอ้เทา กวนอีกทีจะหักเงินให้เกลี้ยง - - แบคฮยอนอา~ วันนี้ถ้าร้านไม่ได้นายคงแย่เลย พี่ยกหนี้ให้ก็แล้วกันเห็นว่านายพยายามเต็มที่มาก ^^”
“ขอบคุณครับพี่ซูโฮ ถ้าไม่รังเกียจพรุ่งนี้ให้ผมมาช่วยงานอีกก็ได้นะครับ ^^”
“โอเค ถ้านายสะดวกก็มาเลย ยินดีต้อนรับ J”
ซูโฮยิ้มรับก่อนจะไล่ให้พนักงานทั้งหลายกลับบ้านกลับช่อง พี่ลู่หานอธิบายว่า ทุกคนจะกลับบ้านพร้อมกันเสมอ ซึ่งแบคฮยอนก็มองว่ามันดูอบอุ่นและเป็นกันเอง ทั้งหมดแยกย้ายกันไปคนละทาง วันนี้ก็เป็นอย่างเคย แบคฮยอนนั่งซ้อนท้ายจักรยานที่เซฮุนไม่ได้ขี่แต่เดินเข็นจักรยานไปพร้อมๆกับลู่หานแทน ร่างเล็กรู้สึกว่าตัวเองเป็นสิ่งของประกอบฉากรอบๆตัวของเซฮุนกับลู่หานอีกครั้งนึงแล้ว...
ทั้งสามคนมาถึงหอเวลาประมาณสี่ทุ่มกว่าๆ ก่อนจะแยกย้ายกันเข้าห้อง ลู่หานเอื้อมมือมาแตะไหล่แบคฮยอนพร้อมกับขยิบตาให้แฝงเป็นนัยเอาไว้ ทำให้แบคฮยอนร้องอ๋อในใจ
วิธียั่วของพี่ลู่หานสินะ....
คราวนี้จะสำเร็จมั๊ยล่ะเนี่ย แบคฮยอนกลัวซะแล้วสิ
“นายไปอาบน้ำก่อนเลย ดูท่าทางนายเหนื่อยๆนะเซฮุน”
“ก็นิดหน่อยครับ”
แบคฮยอนยิ้มหวานส่งให้ร่างสูงที่ตอนนี้เดินถือผ้าเช็ดตัวเดินเข้าห้องน้ำไปชำระร่างกาย ส่วนตัวเองก็เดินถือข้าวกล่องที่แวะซื้อจากร้านข้างทางไปอุ่นและจัดใส่จาน ตกแต่งหน้าด้วยผักเล็กน้อยดูน่ารักๆกำลังดี เย็นวันนี้ลูกค้าเยอะมากๆทำให้ทุกๆคนไม่มีเวลาปลีกตัวไปทานอะไรเลย ก่อนจะแยกจากกันพี่ซูโฮเจ้าของร้านแสนใจดีได้ให้เงินค่าข้าวกับพวกเรามาด้วยจำนวนหนึ่ง พี่ลู่หานเสนอว่าน่าจะซื้อพวกต๊อกหรือจาจังมยอนแถวๆร้านข้างทางดีกว่า พวกเขาก็ไม่ได้ขัดข้องตกลงกันตามนั้น มื้อเย็นวันนี้จึงกลายเป็นจาจังมยอนสุดแสนจะน่ากินมากๆ
ร่างเล็กชะงักไปนิดหนึ่งเมื่อนึกอะไรขึ้นมาได้ ใบหน้าจิ้มลิ้มหันไปมองบานประตูห้องน้ำอย่างชั่งใจ คิดคำนวณเวลาคร่าวๆ เซฮุนน่าจะยังไม่ออกจากห้องน้ำตอนนี้หรอก อย่างน้อยก็น่าจะอีกห้านาที ขาเรียวจึงรีบเดินไปยังกระจกบานโตหน้าโต๊ะเครื่องแป้ง หลับตาทำใจเมื่อมองเห็นในสิ่งที่กำลังจะเห็นอีกไม่กี่วินาทีถัดมา
ถ้าแบคฮยอนตาไม่ฝาดเมื่อตอนเที่ยงล่ะก็นะ...
นับหนึ่งสองสามในใจ ดวงตาเรียวค่อยๆลืมตาขึ้นก่อนจะจ้องมองไปยังกระจกใสบานโต เหลียวไปมองข้างหลังของตัวเอง กลับมามองภาพในกระจก เหลียวไปมองข้างหลังตัวเองอีกซ้ำๆไปมา ขยี้ตาตัวเองหลายๆทีแต่ผลก็ยังเหมือนเดิม เช็คอีกทีเพื่อความแน่ใจ มือเรียวโบกไปมาหน้ากระจกสองสามรอบก่อนจะพยายามเพ่งมองในกระจกดีๆ
คราวนี้ชัดเลย....สิ่งที่เขาเห็นในกระจกเมื่อตอนเที่ยงไม่ได้ตาฝาดแน่นอนร้อยเปอร์เซ็นต์
ใบหน้าจิ้มลิ้มสลดลงอย่างเห็นได้ชัด พยายามปลงตกก่อนจะเดินลากขาไปยังหัวเตียงในห้องนอน ยื่นแขนไปควานหาไดอารี่สุดหวงเล่มที่เซฮุนซื้อให้เป็นของขวัญวันเกิดเมื่อปีก่อนออกมา แววตาหม่นจ้องมองหน้าปกไดอารี่ก่อนจะเปิดออกไปยังกระดาษหน้าว่าง หยิบปากกาออกมานั่งบันทึกสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นในวันนี้ลงไปในสมุดไดอารี่แห่งความทรงจำ ไม่รู้ทำไม...ยิ่งเขียนไปใจก็ยิ่งหวิวไป...
“มากินข้าวได้แล้ว”
เซฮุนเปลี่ยนชุดนอนสบายๆก่อนจะเดินเข้ามาเรียกแบคฮยอนในห้องนอน เห็นร่างเล็กนอนตีขาไปมาพลางจรดปลายปากกาลงไปในไดอารี่เล่มนั้นอย่างขะมักเขม้น แบคฮยอนเงยหน้ามองยิ้มๆก่อนจะรีบเขียนบันทึกเรื่องราวลงไปให้เสร็จเรียบร้อย มือเรียวปิดไดอารี่ลงแล้วยัดมันเข้าไปใต้หมอนอย่างเดิม ก้าวเดินออกมาจากห้องนอนแล้วตรงไปที่โต๊ะอาหารเล็กๆในห้องครัว
“ทานละนะครับ~” เสียงใสเอ่ยบอกก่อนจะจัดการกับอาหารตรงหน้าอย่างเอร็ดอร่อย ทำไมก็ไม่รู้เหมือนกัน รู้สึกว่าอาหารมื้อนี้อร่อยจังเลยแฮะ
“เดี๋ยวก็ติดคอ” เซฮุนยื่นแก้วน้ำไปให้แบคฮยอน ดวงตาเล็กยิ้มรับก่อนจะหยิบไปดื่มอึกๆ
“เหมือนเรากำลังดินเนอร์กันเลยเน๊อะ ^O^”
“อย่ามโน”
“อาหารมื้อนี้อร่อยจัง สงสัยเพราะกินกับนายแน่ๆ”
“คิดไปเอง”
“เคี้ยวอาหารระวังๆนะ เดี๋ยวคำว่ารักของพี่จะติดคอนาย”
“มุกแป้ก”
“พี่จะแจ้งความ ตั้งแต่พี่เจอนาย หัวใจพี่ก็โดนขโมยไป”
“เสี่ยว”
“เห็นนายแล้วพี่ชอบเรอ เรอทัก รักเธอ”
“เพลีย”
“ถึงกับเพลียเลยหรอ บอกแล้วว่าเมื่อคืนให้เบาๆหน่อยพี่ขอโทษนะที่รุนแรงกับนายไปนิด”
“คิดไปได้”
“เห็นหน้านายแล้วพี่นึกว่าเป็นพ่อค้าขายผักนะเนี่ย”
“ทำไม?”
“พี่ว่าจะขอหอมซักหน่อย”
“ฝันเถอะ”
และอีกมากมายที่คนตัวเล็กจะสรรหามาหยอดให้เขาใจอ่อน มุกได้เรื่องบ้างไม่ได้เรื่องบ้าง กว่าจะกินข้าวเสร็จเซฮุนก็โดนหยอดเต็มๆไปหลายดอกเหมือนกัน แต่เขาก็ตอกกลับไปได้แทบทุกคราว ก้มหน้าก้มตากินได้สองสามคำคนตัวเล็กก็เริ่มมุกใหม่ตลอด ไม่รู้ว่าไปเอามาจากไหนเยอะแยะ
หยอดมุกเสี่ยวออกหน้าออกตาแบบนี้สงสัยตั้งใจจะจีบเขาจริงๆสินะ
และบางทีเซฮุนก็แอบเผลอ...เผลอยิ้มเล็กๆไปกับมุกจีบสาวของอีกคนเหมือนกัน
ปล่อยให้คนตัวเตี้ยๆหน้าตาน่ารักจิ้มลิ้มมาส่งมุกจีบแบบนี้คนหล่ออย่างเขาก็เสียชื่อแย่
“เซฮุนเซฮุนเซฮุนเซฮุนนี่”
“ครับ”
“อยากจะรู้นายรักพี่กี่เปอร์เซ็นต์แล้ว ‘=’”
เขาไม่ตอบ อีกคนก็จ้องไปสิ จ้องตัวเขาจนแทบจะทะลุอยู่แล้ว นี่ถ้าอ่านใจเขาได้ก็คงทำอย่างไม่ลังเล ร่างสูงลุกขึ้นเก็บจานของตัวเองและของอีกคนไปวางไว้ที่อ่างล้างจาน เปิดน้ำเบาๆแล้วล้างจานชามให้สะอาดก่อนจะนำไปเก็บ ใบหน้าคมหันมาสั่งแบคฮยอนเสียงเรียบ
“ไปอาบน้ำได้แล้วครับ มันเน่ามาก”
“แต่นายยังไม่ตอบพี่เลยนะ L”
“ไปอาบน้ำ” เซฮุนเน้นเสียงทีละพยางค์ช้าๆชัดๆทีละคำพร้อมกับส่งสายตาดุๆมาให้ด้วย
“รับทราบครับท่าน TAT”
จัดการคนดื้อเสร็จแล้วก็เดินไปนั่งดูทีวีไปพลางๆรอให้อีกคนอาบน้ำเสร็จ คนตัวเล็กวิ่งดุ๊กดิ๊กเข้าไปในห้องน้ำอย่างว่าง่ายเนื่องจากไม่อยากขัดคำสั่งของพ่อทูนหัว ไม่ลืมที่จะหยิบผ้าขนหนูกับเสื้อผ้าเข้าไปด้วย เสียงประตูห้องน้ำปิดลงพร้อมกับได้ยินเสียงใสๆของอีกคนฮัมเพลงเบาๆอาบน้ำชำระร่างกายอย่างสบายใจ
ร่างสูงถือรีโมตกดเปลี่ยนช่องไปมาอย่างไม่รู้จะดูอะไรดี สุดท้ายก็ลงเอยที่ช่องการ์ตูนซึ่งเรื่องโปรดของเขากำลังฉายอยู่พอดี ในหัวคิดทบทวนไปมาซ้ำๆถึงคำถามที่ร่างเล็กถามเอาไว้เมื่อกี๊
นั่นสิ เขารักพี่แบคฮยอนกี่เปอร์เซ็นต์แล้วนะ?
ร่างเล็กเดินออกจากห้องน้ำด้วยความสบายตัว กางเกงขาสั้นสีครีมอ่อนๆบวกกับเสื้อเชิ้ตตัวโคร่งของเซฮุนถูกสวมใส่ให้ลงมาปิดเรียวขาขาวแทบมิดชิด ความจริงเสื้อเชิ้ตนี่ไม่ใช่ตัวที่เซฮุนซื้อให้ตอนเช้าหรอก แอบใส่ของเซฮุนต่างหาก
พี่ลู่หานบอกว่านี่คือเทคนิคในการยั่วมัดใจเซฮุน..
หลังจากอาบน้ำเสร็จนายก็แอบไปหยิบเสื้อเชิ้ตของเซฮุนมาใส่นะ กางเกงน่ะใส่ขาสั้นๆได้ยิ่งดี มันจะดูเซ็กซี่
ใจจริงอยากจะวิ่งออกไปเคาะประตูพี่ลู่หานให้ดูชุดของเขาซะหน่อยว่ามันโอเคดีรึเปล่า แต่ก็ไม่กล้าพอ ตอนนี้น่ะแบคฮยอนรู้สึกอายมากจนแทบจะเอาหน้ามุดพรมเช็ดเท้ากลายร่างเป็นแมลงสาบให้รู้แล้วรู้รอด ไม่เคยเลยที่จะใส่อะไรแบบนี้ มันออกจะเย็นๆขา แถมถ้าขยับทีนี่ก็เห็นไปถึงไหนต่อไหน แม้ตนไม่ใช่ผู้หญิงที่จะต้องมาเอียงอายเผยขาอ่อนให้ผู้ชายเชยชมก็เถอะ แบคฮยอนก็เขินไม่ต่างจากผู้หญิงหรอก...
แต่ถ้าไม่กล้าทำ แล้วเมื่อไหร่เซฮุนจะหันมามองล่ะ...
ถึงแม้มันจะดูแย่ในสายตาคนอื่นก็เถอะ มันอาจจะมีผลเสียที่ไม่คาดคิดตามมาแต่ว่านะ...
อะไรที่มันดูจะมีโอกาส แบคฮยอนก็อยากจะลองทำดูซักครั้งในชีวิต
เอาน่า ปรมาจารย์ลู่หานให้คำแนะนำมาทั้งที มันต้องได้ผลสิ ดีกว่าทำเองตอนเช้าตั้งเยอะ
เสียงโทรทัศน์ดังออกมาจากห้องนั่งเล่น สงสัยเซฮุนกำลังดูการ์ตูนเรื่องโปรดอยู่ที่โซฟาแน่ๆ ตั้งแต่ตอนม.ปลายแล้วแต่เซฮุนก็ยังติดการ์ตูนเรื่องนี้งอมแงม มาจนถึงตอนนี้ก็ยังชอบเหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยน ขาเรียวเดินไปหาเป้าหมายอย่างช้าๆจากทางด้านหลัง ประกบชิดเป้าหมายก่อนจะก้มตัวลง แขนเล็กวาดโอบกอดรอบคอเซฮุนไว้หลวมๆ ใบหน้าจิ้มลิ้มฝังลงไปบนไหล่แกร่ง เอียงมองสันจมูกเป็นคมอีกคน หายใจรดต้นคอร่างสูงเบาๆที่ตอนนี้นั่งแข็งทื่อเป็นหินไปแล้ว
“ดูการ์ตูนอยู่หรอ พี่ดูด้วยคนได้มั๊ย?”
เสียงกระซิบดังอยู่ข้างหูพร้อมกับกลิ่นสบู่ผสมกลิ่นกายอ่อนๆลอยโชยออกมาเตะจมูกอีกคนอย่างไม่ได้ตั้งใจ หอมละมุนจนเคลิ้มตามได้ไม่อยาก รอยยิ้มหวานถูกส่งไปให้พร้อมกับสายตาที่หรี่ลงน้อยๆเป็นเชิงอ้อนเอาใจ
โอเซฮุนจะบ้าตาย! นี่มันอัพเกรดขึ้นเยอะเลยจากเมื่อเช้า
ทักษะยั่วเก่งขึ้นเยอะเลยนะพ่อคุณ...
“ค...ครับ” ร่างสูงถึงกับลมหายใจสะดุดเลยทีเดียว
กลิ่นหอมอ่อนๆจางลงไปเมื่อเจ้าของกลิ่นกายลุกขึ้นแล้วเดินมานั่งข้างๆแทน วินาทีนั้นเซฮุนมองแบคฮยอนอย่างเต็มๆตาอย่างไม่อยากจะเชื่อรอบที่สอง เสื้อเชิ้ตตัวโคร่งของเขาที่ยาวเลยมาปรกขาอ่อนๆของอีกคนจนแทบมองไม่เห็นกางเกงขาสั้นสีครีมที่ใส่ซ้อนไว้ภายใน เจ้าตัวยุ่งคงจะแอบเอาเสื้อของเขามาใส่เล่นอย่างไม่ต้องสงสัย สายตาเชิญชวนที่อีกคนมองมามันทำให้เขาอยากจะล้วงมือเข้าไปใต้เสื้อเชิ้ตสำรวจดูสักทีชะมัด...
อารมณ์หื่นขึ้นตาแล้วสิเซฮุน...
ก้นเล็กเขยิบเข้าไปหาเซฮุนทีละนิด เซฮุนก็เขยิบถอยออกทีละนิดเหมือนกัน เขยิบกันไปเขยิบกันมาก็สุดความยาวของโซฟา ก้นนิ่มของแบคฮยอนวางแปะอยู่ข้างๆตัว เซฮุนไม่รู้จะทำยังไงกับเหตุการณ์ไม่คาดคิดแบบนี้ดีจึงทำทีว่ากำลังสนใจการ์ตูนเหลือเกินเต็มประดา ตาคมจ้องแต่หน้าจอโทรทัศน์ที่ตอนนี้สติไม่ได้อยู่ตรงนั้นเลยแม้แต่นิดเดียว
“สนใจกันหน่อยสิ”
โอ้วแม่เจ้า คราวนี้ไม่ได้มาแค่ก้นแล้วครับ พี่แบคฮยอนเอนมาทั้งตัวซบกับไหล่ของเซฮุนแผ่วเบา ส่งนิ้วเรียวไปลูบท้ายทอยซึ่งเป็นจุดอ่อนของเขาจนขนลุกชันไปหมด แขนอีกข้างก็เอื้อมมากอดหน้าท้องแกร่งของเขาเอาไว้หลวมๆ เสียงใสพูดเจื้อยแจ้วขอให้เขาเลิกสนใจสิ่งที่อยู่ในโทรทัศน์แล้วมาสนใจตัวเองแทน สายตาเว้าวอนเหมือนลูกหมาตัวน้อยกำลังอ้อนให้เจ้าของมาเล่นด้วยถูกส่งมาแอคแทคเซฮุนจังๆ จนเขาเริ่มรู้สึกอ่อนยวบไปทั้งตัวและหัวใจ
แบคฮยอนรู้จักจับจุดว่าอันไหนคือจุดเด่นของตัวเอง ไม่ได้ดัดแปลงปรุงแต่งจนเกินไป แสดงความเป็นตัวของตัวเองออกมาให้เซฮุนหลงใหล ไม่ได้โอเว่อร์เหมือนเมื่อเช้า ใช้ความใสไร้เดียงสาของตัวเองบวกกับท่าทางเย้ายวนเล็กน้อยทำให้ดูน่าฟัดน่ากัดน่ากกกอดมากกว่าอะไร
เซฮุนกำลังพ่ายแพ้...กำแพงกั้นหัวใจกำลังพังทลายลงไปทีละนิด
เผลอแป๊บเดียวพี่หมาเตี้ยก็ย้ายบั้นท้ายนิ่มของตัวเองไปนั่งบนตักของเซฮุนเรียบร้อย
ใบหน้าจิ้มลิ้มชวนมองเลื่อนเข้ามาใกล้ใบหน้าคมของเซฮุนอีกนิด หัวทุยของแบคฮยอนพิงไปด้านหลังเอนตัวลงบนอกแกร่ง ใช้ตัวของเซฮุนเป็นเบาะพิงแสนอบอุ่น ปล่อยให้เบาะรองนั่งจำเป็นอย่างเซฮุนทดสอบความอดทนท่องยุบหนอพองหนอพุทธ – โธหายใจเข้าออกด้วยความเกร็ง
“ที่นั่งก็มีตั้งเยอะ...ทำไมไม่ไปนั่งดีๆ”
“ก็อยากนั่งตรงนี้ มันอบอุ่นดี” คงอุ่นจนร้อนเลยล่ะ...ไม่ใช่แค่เซฮุนที่เกร็ง แบคฮยอนก็กำลังเขินอยู่เหมือนกัน
สายตาของทั้งคู่จับจ้องไปยังรายการการ์ตูนบนหน้าจอโทรทัศน์อีกครั้ง แบคฮยอนหัวเราะออกมาอย่างมีความสุข ต่างจากอีกคนที่ตอนนี้การ์ตูนไม่ได้อยู่ในหัวอีกต่อไปแล้ว จะมีก็แต่กลิ่นแชมพูอ่อนๆบนหัวทุยของคนตรงหน้าเนี่ยแหละที่สะกดลมหายใจเขาเอาไว้ การ์ตูนจบไปแล้ว เซฮุนคงจะหลุดพ้นจากสถานการณ์ชวนเสียวนี่เสียทีถ้า...
“เซฮุนนา~ การ์ตูนเรื่องโปรดของนายจบแล้ว”
“กะ...ก็ไปนอนได้แล้วครับ”
“หืม...อยู่คุยกันหน่อยได้มั๊ยอะ พี่ยังไม่อยากนอนเท่าไหร่เลย”
แบคฮยอนใช้มุกอ้อนให้เซฮุนอยู่ต่อ สายตาหวานถูกส่งไปสะกดให้เซฮุนมองแต่แบคฮยอนเพียงสิ่งเดียว นิ้วเรียวเอื้อมขึ้นไปลูบไล้ตามสันกรามของอีกคนเล่นๆเป็นเชิงหยอกล้อ ลากวนนิ้วมือต่ำลงมาเรื่อยๆจนถึงต้นคอ เกลี่ยไปมาเบาๆให้ร่างสูงขนลุกชันก่อนจะวกขึ้นไปลูบผมอีกคนช้าๆ เรียวปากอิ่มยกยิ้มเล็กน้อยเมื่อเห็นอีกคนมีอาการนิ่งค้างตกใจ
“ผ..ผมคุยไม่สนุกหรอกครับ”
“ไม่ต้องคุยกันภาษาปาก...เราสองคนคุยกันด้วยภาษากายก็โอเคนะ ^^”
สิ้นคำพูด แบคฮยอนก็กดท้ายทอยเซฮุนลงมาพร้อมกับเชิดหน้าตัวเองขึ้นไปประกบริมฝีปากทันที แบคฮยอนหลับตาปี๋ส่วนอีกคนเบิกตากว้างไม่คิดว่าคนตัวเล็กจะกล้าทำอะไรอุกอาจขนาดนี้ ริมฝีปากนุ่มนิ่มกดย้ำลงมาซ้ำๆแตะๆเพียงริมฝีปากข้างนอกแผ่วเบาซักพักก็ถอนริมฝีปากออกไป ดวงตาเรียวเล็กของคนตัวเล็กหลุบลงต่ำไม่กล้ามองหน้าเซฮุนตรงๆ แบคฮยอนทำไปแล้ว ทำสิ่งที่น่าอายลงไปแล้ว เขา...จูบกับเซฮุน เป็นฝ่ายรุกก่อนอีกด้วย! -/-
“รู้ตัวรึเปล่าพี่ทำอะไรลงไป” เซฮุนถามเสียงดุ กล้ามากเลยนะพี่แบคฮยอน
“อื้อ”
“ตอบมาว่าเมื่อกี๊พี่ทำอะไร”
“พี่จูบนาย”
“พี่คิดจะยั่วผม?”
“อื้อ” โถ่เด็กน้อย...ใครถามอะไรก็ตอบหมดแบบนี้ยั่วภาษาอะไรกัน
“ถ้าพี่แบคฮยอนรู้ตัวว่าทำอะไรอยู่ก็ดี งั้นคืนนี้ก็ไม่ต้องนอน”
“อื้อ...”
ร่างเล็กเผลอตอบรับไปอย่างลืมตัว คราวนี้เป็นฝ่ายแบคฮยอนเบิกตากว้างบ้างเมื่อริมฝีปากอีกคนบดเบียดเข้ามา ในเมื่ออีกฝ่ายเสนอ เซฮุนก็จะสนองให้ สองแขนเรียวประสานคล้องคอคนตัวสูงเอาไว้ เซฮุนโน้มร่างลงมาแนบชิดกับผิวนุ่มลื่นมือจนแผ่นหลังเล็กแตะกับพนักโซฟา แทบไม่รู้สึกตัวเลยว่าตัวเองตกอยู่ใต้อาณัติของเซฮุนตั้งแต่เมื่อไหร่ ทุกความสนใจของแบคฮยอนมุ่งไปที่ริมฝีปากของทั้งสอง ปากอิ่มถูกรังแกจนแดงเห่อ ถูกริมฝีปากของเซฮุนดูดขบเม้มหนักๆอย่างจาบจ้วงจนเกิดเสียงน่าอายขึ้นเป็นระยะๆ คนไร้เดียงสาเกร็งแขนตัวเองเล็กน้อยเมื่อรู้สึกถึงอารมณ์บางอย่างปะทุขึ้นมา ริมฝีปากบนถูกงับดูดดึงอย่างเป็นจังหวะสลับกับริมฝีปากล่างไปมา ลมหายใจอุ่นร้อนของเซฮุนปัดเป่าอยู่ข้างแก้มเมื่ออีกคนปรับเปลี่ยนองศาการจูบให้มากยิ่งขึ้น
แบคฮยอนรู้สึกเหมือนตัวเองโดนสูบเรี่ยวแรงไปจนหมด ไม่รู้ว่าอะไรเป็นอะไร...
“อ้ะ...เอาลิ้นนายเข้ามาในปากพี่ทำไม?”
คนใต้ร่างถอนริมฝีปากออกพร้อมกับร้องประท้วงเมื่อเซฮุนแลบลิ้นเปิดโพรงปากอีกคนก่อนจะเข้าไปสำรวจความหวานภายใน คิ้วเรียวขมวดมองอย่างสงสัย นี่พี่แบคฮยอนคิดว่าจูบมันก็แค่ปากประกบปากแล้วก็จบรึไง? ความรู้สุขศึกษาของพี่แบคฮยอนนี่ระดับอนุบาลหมีน้อยชัดๆ!
“ดีฟคิสไง ไม่รู้จัก?”
“มะ...ไม่”
“งั้นก็อยู่เฉยๆ เดี๋ยวผมสอนให้ ห้ามกัดก็พอ”
ไม่รอให้ขาดช่วงนาน ริมฝีปากของทั้งคู่ก็แนบติดกันอีกครั้ง คราวนี้รุนแรงกว่าเดิมเนื่องจากไฟเริ่มจุดติด เรียวลิ้นแกร่งสอดแทรกเข้ามาในโพรงปากนุ่มสำรวจทุกซอกทุกมุม ชิมน้ำหวานจากอีกคนอย่างตะกรุมตะกราม แบคฮยอนรู้สึกแปลกๆจึงพยายามดันลิ้นอีกคนออกไปจากปากตนแต่กลายเป็นว่าลิ้นทั้งสองคนพันหยอกล้อกันโดยไม่ได้ตั้งใจ ค่อยๆสอนคนอ่อนประสบการณ์ทีละนิดๆจนเริ่มจับทางได้ มีบางทีที่ลิ้นเล็กหลบหนีไม่ยอมทำตามเกมแต่ก็ไม่เป็นปัญหาสำหรับเซฮุนเท่าไหร่นัก ลิ้นหนากวาดต้อนรัดดึงลิ้นอีกคนรัวจนหายใจหอบถี่ ดึงให้ลิ้นเล็กเป็นฝ่ายเยือนโพรงปากอีกคนบ้าง สอนให้อีกคนรู้จักหยอกล้อลิ้นเล่นไปมา ตวัดรัดจนไม่รู้ของใครเป็นของใคร น้ำหวานสีใสไหลย้อยลงเปื้อนเป็นทาง สอนให้อีกคนจนเริ่มชำนาญ หลงมัวเมาไปกับรสจูบมาราธอนจนแทบจะหมดลมหายใจตายคาอกกันไปข้าง
ครั้งแรกของชีวิตบยอนแบคฮยอนเลยทีเดียว...
นิ้วเรียวของร่างเล็กสอดเข้าไปจับกลุ่มผมสีบลอนด์ของคนด้านบนไว้แน่น มีบ้างที่เผลอทั้งจิกทั้งดึงเพื่อระบายความสุขที่มันจุกอยู่ตรงอกข้างซ้าย มีบ้างที่เผลอกดหัวอีกคนลงมาเมื่อรู้สึกว่าริมฝีปากร้อนของเซฮุนกำลังจะผละออกไป
แบคฮยอนกำลังคลั่ง...คลั่งลีลาการจูบแบบผู้ใหญ่ของเซฮุน
เสียงอื้ออึงในลำคอของคนตัวเล็กดังขึ้นอย่างไม่อาจควบคุม ไม่สามารถเปล่งออกไปได้ในเมื่อริมฝีปากของตัวเองถูกครอบครองไว้อยู่ สติเริ่มล่องลอยไปไกลแสนไกล เซฮุนชักนำให้เขาทำอะไรก็ไม่มีขัด ทำตามเหมือนตัวเองเป็นเด็กน้อยที่ผู้ใหญ่กำลังหัดสอนให้ใช้ชีวิต ริมฝีปากบวมเจ่อเนื่องจากถูกดูดดึงหนักหน่วง สีแดงสดราวกับว่ามันสามารถปริแตกได้ทุกเมื่อทุกเวลา
เสียงแบบนี้เหมือนเคยได้ยินที่ไหนนะ....คล้ายๆว่าตอนเช้าพี่ลู่หานก็ทำเสียงแบบนี้เป๊ะเลย
มารู้ตัวอีกทีก็ตอนที่ริมฝีปากร้อนของเซฮุนนาบทับอยู่บนซอกคอหอมกรุ่น สูดดมกลิ่นกายหอมอย่างกระหายอยาก รู้สึกแสบจี๊ดนิดๆเมื่ออีกคนประทับรอยไว้จนขึ้นรอยสีกุหลาบเต็มลำคอสวย มือหนากำลังล้วงเข้าไปใต้เสื้อเชิ้ตตัวหลวมของแบคฮยอน สำรวจผิวนุ่มลื่นเหมือนผิวเด็กไปมา มือเรียวของแบคฮยอนเอื้อมออกไปกำแขนเซฮุนไว้แน่นก่อนจะเอ่ยปากถามออกไปอีกครั้งหลังจากริมฝีปากได้รับอิสระ
“อ้ะ...เซฮุน นายล้วงเข้ามาในเสื้อของพี่ทำไม?”
“ผมกำลังจะสนองพี่ไง...ในเมื่อพี่ยั่ว ผมก็กำลังจะสนองความ’อยาก’ของพี่ไงครับ”
“นาย..ที่พี่ยั่วนายก็เพื่อให้นายรักพี่ต่างหาก พี่ไม่ได้อยากจะ..เอ่อ อยากจะมีอะไรกับนายซะหน่อย”
แบคฮยอนพูดตะกุกตะกัก อยากจะอธิบายให้อีกคนฟังมากกว่านี้แต่ก็ดูเหมือนจะไม่มีประโยชน์ แววตาแข็งกร้าวหยาบคายกำลังมองร่างกายของเขาราวกับจะกลืนกิน อีกฝ่ายเข้าใจเจตนาของเขาผิดไปไกล ความหมายของแบคฮยอนไม่ใช่แบบนี้ แบคฮยอนไม่ได้ต้องการแบบนี้ เขาอยากได้หัวใจเซฮุน ไม่ได้ต้องการมีอะไรกับเซฮุน...
แต่จะโทษเซฮุนก็ไม่ได้ ในเมื่อตัวเองเพิ่งตระหนักได้ตอนนี้ว่าสิ่งที่ตัวเองกำลังทำ ไม่ได้สื่ออะไรถึงสิ่งที่ต้องการจะแสดงให้เซฮุนเห็นความรู้สึกในใจสักนิด สิ่งที่แบคฮยอนทำ ก็คือการยั่วเย้าให้เซฮุนมีความหลง...เพียงแค่กาย
แบคฮยอนเข้าใจผิดเอง เข้าใจผิดมาตั้งแต่ต้น การยั่วไม่ใช่การเอาชนะใจ แต่เป็นเพียงแค่ได้กายของเขาเท่านั้น แบคฮยอนเข้าใจแล้ว เพิ่งเข้าใจเมื่อตอนลงมือทำไปแล้ว...โง่จริง เซฮุนจะมองเขายังไง L
“พี่จะบอกว่าที่พี่ทำมาทั้งหมดก็เพียงเพราะแค่อยากให้ผมรู้สึกรักพี่ที่หัวใจ ไม่ได้อยากให้ผมมีอะไรกับพี่?”
“พี่ก็แค่คิดว่าทำแบบนี้แล้ว...นายจะหลงรักพี่ พี่ไม่ได้คิดไปถึงขั้นนั้น ( . .)”
“ถ้าพี่ต้องการแบบนั้นก็ไม่ควรจะยั่วตั้งแต่แรก ไอ้การยั่วคนอื่นเพื่อให้อีกคนหลงรักโดยที่ไม่ได้คิดเกินเลยนี่มันไม่มีหรอกครับรู้ไว้ด้วย คำว่ายั่วของพี่กับคำว่ายั่วของคนอื่นมันไม่เหมือนกัน ผมจะบอกพี่ช้าๆชัดๆเอาไว้เลย ว่าการยั่วก็คือการเย้ายวนให้อีกคนอยากมีเซ็กส์ด้วย! โลกนี้มันไม่ได้สวยอย่างที่พี่จินตนาการ อย่ามาคิดตื้นๆแถวนี้”
เซฮุนอยากจะบ้าตาย ใครที่ไหนเขาคิดกันแบบนี้บ้างวะเนี่ย เกือบไปแล้วมั๊ยล่ะไอ้ฮุน นี่ถ้าไม่ห้ามตอนนี้แล้วปล่อยให้เลยไปอีกซักสองสามขั้นตอนถึงแม้ร้องไห้อ้อนวอนก็จะไม่หยุดแล้วนะ! ร่างสูงทึ้งผมตัวเองอย่างหงุดหงิด อยากจะตวาดให้อีกคนกลัวจนหัวหดเก็บของกลับบ้านไปซะ แต่นี่มันก็ดึกแล้วคงปล่อยไปไม่ได้ นี่ถ้าคิดลึกไปจนน้องชายตื่นนอนแล้วทำไง? ใครจะรับผิดชอบ!
“ขอ...ขอโทษ”
แบคฮยอนก้มหน้านิ่ง น้ำตาตกในเผาะๆ เซฮุนโกรธเขาอีกแล้ว คราวนี้โกรธอย่างไม่น่าให้อภัยเพียงเพราะความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของตัวเองแท้ๆ เซฮุนคงจะโกรธเพราะเขาไปยั่ว แต่ก็เสียใจไม่น้อยเหมือนกันที่อีกคนตีค่าความหมายในตัวของแบคฮยอนต่ำเหลือเกิน คนอย่างแบคฮยอนในสายตาของเซฮุนก็เป็นได้แค่เพียงคนมั่วเซ็กส์แลกความรักเพียงชั่วค่ำคืนรึไง แต่ก็โทษเซฮุนไม่ได้เพราะเขาเป็นฝ่ายแสดงออกไปแบบนั้นเอง ถึงแม้จะเป็นการเข้าใจผิดก็เถอะ...
ร่างสูงถอนหายใจออกมาอย่างสงบสติอารมณ์ก่อนจะลุกจากโซฟาเดินไปรับลมระเบียงข้างนอกแทน แบคฮยอนไม่รู้จะทำยังไงได้แต่นั่งกอดเข่านิ่งอยู่บนโซฟาตัวเดิม อยากจะเดินเข้าไปคุยไปง้อให้หายโกรธแต่ก็กลัวว่าเรื่องราวมันจะไปกันใหญ่ ซักพักเซฮุนก็เดินเข้ามาพร้อมกับพูดว่า
“เอาเถอะ เรื่องนี้ก็ปล่อยมันไป แต่พี่อย่าทำแบบนี้อีกเด็ดขาดไม่ว่าจะกับผมหรือว่ากับใคร คราวนี้ก็บอกผมมาว่าใครเป็นคนสอนพี่ยั่วแบบนี้ ลำพังพี่คงทำเองไม่ได้แน่ จริงไหม?”
คำถามพิฆาตถูกส่งออกมา แบคฮยอนหลบสายตามองนั่นโน่นนี่ไปมาอย่างกระวนกระวายใจ ถ้าเกิดเขาบอกไปว่าพี่ลู่หานเป็นคนสอนเขา เซฮุนจะพาลโกรธพี่ชายหน้าหวานไปด้วยรึเปล่านะ แบคฮยอนไม่มีความกล้าใดๆเลยที่จะพูดออกไป เซฮุนอยากจะรู้เหลือเกินว่าใครมันมาสอนให้หมาน้อยจอมเชื่องเมื่อก่อนให้กลายเป็นแม่เสือสาวจอมยั่วได้ถึงขนาดนี้ เรื่องมันต้องมีเบื้องหน้าเบื้องหลังแน่ๆเซฮุนฟันธง!
“.............” แบคฮยอนก็ยังก้มหน้าหลบตาคุยกับพื้นห้องต่อไป
“ถ้าไม่พูดก็เชิญออกไปจากห้องผมเลย ข้างนอกค่อนข้างจะหนาว ผมไม่อยากจะใจร้ายกับพี่หรอกนะครับ”
“.....คือ..พี่...พี่ลู่หานน่ะ”
หลังจากชื่อบุคคลที่สามที่เป็นต้นเหตุของเรื่องนี้ถูกเอ่ยขึ้นมาทำเอาเซฮุนถึงกับไขข้อข้องใจได้หมดเปลือก ไอ้พี่ชายหน้าหวานนี่เองที่เป็นตัวยุยงให้หมาน้อยของเขาออกลายกลายเป็นนางแมวจอมยั่ว แสบนักนะ! พรุ่งนี้จะไปเอาคืนซะให้เข็ดหลาบเลย หรือจะโทรไปฟ้องลูกพี่อู๋ให้มาจัดการก็ไม่เลวเหมือนกัน ฮึ!
“เซฮุนนา...พี่ไม่ได้ตั้งใจที่จะยั่วแบบนั้นจริงๆนะ พี่คิดมาตลอดว่าคนเราจะมีอะไรกันได้ก็ต่อเมื่อ...รักกัน”
“หึ พี่คิดแบบนั้นก็ได้ แต่ผมจะบอกให้พี่ลองมองดูอีกด้าน บางทีการที่เรามีอะไรกันก็ไม่จำเป็นจะต้องทำเพราะความรักเหมือนกัน คนเราไม่รักกันก็สามารถมีอะไรกันได้ เพียงแค่อยากก็หาอะไรมาสนองความอยาก เสร็จแล้วก็แล้วกันไป นี่ก็ดึกมากแล้วนอนกันเถอะ”
เซฮุนเอื้อมมือมายีผมร่างเล็กอย่างหมันเขี้ยวพร้อมกับยิ้มน้อยๆให้อีกฝ่ายรับรู้ว่าเขาไม่ได้ติดใจโกรธเคืองอะไรแล้วเดินจับมืออีกคนเข้าไปในห้องนอน แบคฮยอนทำตามอย่างว่าง่าย ร่างสูงปิดผ้าม่านปิดไฟให้เรียบร้อยก่อนจะล้มตัวลงนอนข้างๆคนตัวเล็ก ต่างคนต่างเงียบกันซักพัก แบคฮยอนรู้ว่าเซฮุนยังไม่หลับ อีกคนก็เหมือนกัน
“กอดได้ไหม?” แบคฮยอนพลิกตัวนอนเอียงข้างมองเสี้ยวหน้าของเซฮุนในความมืด ไม่รู้ว่าพูดออกไปแบบนั้นแล้วเซฮุนจะดุเขาอีกมั๊ยนะ ก็แค่อยากกอด...อยากกอดคนที่เรารัก แบคฮยอนติดหมอนข้างจะตาย
“ก็ไม่ได้ว่าอะไรนี่ครับ ขมวดคิ้วทำไม กอดก็กอดสิ”
แสงจันทร์สาดส่องลอดผ้าม่านเข้ามาทำให้เซฮุนมองเห็นลางๆว่าแบคฮยอนกำลังขมวดคิ้วยามที่ไม่มั่นใจอะไรซักอย่างอยู่ แขนแกร่งเป็นฝ่ายดึงอีกคนเข้ามาแล้วกอดอีกคนไว้หลวมๆ ซักพักแขนของอีกคนก็เอื้อมมากอดเอวเขาไว้อีกที เป็นอันว่าต่างคนต่างนอนกอดกัน
“พี่รักเซฮุนนะ...”
“ขอบคุณนะครับ นอนกันเถอะ ฝันดี”
มีเพียงคำบอกรักแผ่วเบาของแบคฮยอน และคำว่าฝันดีของเซฮุน ที่ทำให้ต่างคนต่างฝ่ายแอบยิ้มโดยที่คนข้างๆไม่รู้ตัว แบคฮยอนไม่รู้หรอกว่าเซฮุนรักเขาบ้างรึยัง เซฮุนไม่รู้หรอกว่าทำไมตัวเองต้องบอกฝันดี ทุกอย่างทั้งสองคนต่างทำออกมาจากความรู้สึกข้างใน จากหัวใจลึกๆของทั้งสองคนยังเชื่อมต่อกันเสมอ
ทั้งสองคนต่างก็หลับไปในอ้อมกอดของกันและกันจนถึงเช้าวันใหม่ที่กำลังจะมาถึง...
***********************************
มาแล้วค่ะ!!!
รอนานกันรึเปล่า ไรท์ไม่ค่อยว่างเลย
ไม่รู้จะถูกใจสื่ออารมณ์ได้ดีรึเปล่า แต่ตอนนี้ตั้งใจแต่งมากบอกเลย
ติชมคอมเม้นกันได้นะคะ ไรท์จะได้ปรับปรุงในตอนต่อไปเน๊อะๆ
รักทุกคนนะจุ๊บ <3
ขอขอบคุณข้อมูลบาริสต้าและสูตรทำชานมเย็นเจ๋งๆจาก
fb : สมาคมบาริสต้าประเทศไทย
www. : coffeeindy.com/สูตรชานมเย็น
ความคิดเห็น