คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : Im Here 4
I’m Here – 4 –
“แบคฮยอน ยืมปากกาหน่อยดิ”
“นายลืมเอาปากกามาหรอชานยอล?”
“อื้อ ลืมทั้งปากกาดินสอยางลบเลย”
“อ่า แย่เลยนะแบบนี้ ใช้กับเราก่อนก็ได้ มีตั้งหลายสีหลายแท่งแน่ะ”
“ขอบคุณนะ ตัวเล็กใจดีแล้วก็น่ารักที่สุดเลย”
“ใจดีก็พอไม่ต้องชมมากหรอกน่า เขิน”
“แน่ะ เขินด้วย คิดอะไรกับเค้าป้ะ? ฮ่าๆ”
“บ้า! ชานยอลพูดอะไร อยากยืมอะไรก็หยิบไปเลย ชอบพูดเล่นอยู่เรื่อย”
“คร้าบๆ”
“ป๋ายเซียน อาบน้ำนอนเร็ว พรุ่งนี้เปิดเทอมวันแรกนะ”
“อื้อ”
“ป๋ายเซียน อาบน้ำได้แล้ว ดึกแล้วเดี๋ยวพรุ่งนี้ตื่นสาย”
“อื้อ รู้แล้ว”
“ป๋ายเซียน ทำอะไรอยู่ อาบน้ำเลย”
“แป้บนึงน่า เดี๋ยวจบเกมนี้ก่อน”
หลังจากเรียกคนตัวเล็กหลายครั้งติดกันแต่ก็ไม่เห็นวี่แววว่าร่างเล็กจะทำตามคำสั่ง ชานยอลเลยต้องลุกจากโต๊ะทำงานกอดอกมาตามถึงห้องนั่งเล่น พบว่าเจ้าตัวยุ่งกำลังเล่นเกมบนสมาร์ทโฟนอย่างเอาเป็นเอาตาย ไม่สนใจสิ่งรอบข้างเลยแม้แต่นิด คนโตกว่าเก๊กหน้าขรึมแผ่รังสีดุออกไปแต่ป๋ายเซียนก็ไม่รู้สึกสะทกสะท้านซักนิด ดื้อชะมัด เดี๋ยวก็จับตีก้นซะให้เข็ด -.-
“นอนแป้บเดียวก็ได้ พรุ่งนี้เปิดเทอมวันแรกคงไม่ได้ทำอะไรมากหรอก”
“อย่าดื้อสิป๋ายเซียน ดึกแล้วอาบน้ำเลย”
“ก็เดี๋ยวก่อนได้มั๊ยเล่า เล่นเกมอยู่”
“ไม่ได้ ไม่งั้นพี่จะยึดโทรศัพท์ป๋ายเซียนนะครับ”
“พี่ชานยอลอ่ะ!”
“เข้าใจมั๊ยหื้ม?” ชานยอลก้มหน้าลงมาพูดใกล้ๆหูของป๋ายเซียนให้อีกคนสะดุ้งตกใจเล่น ซึ่งมันก็เป็นไปตามคาด คนตัวเล็กสะดุ้งหดคอหนีหลับตาปี๋ทันที ไม่ทันได้เห็นรอยยิ้มเอ็นดูของอีกฝ่าย
ซักพักป๋ายเซียนก็ยู่ปากก่อนจะตวัดสายตามองชานยอลอย่างงอนๆ ชานยอลเองก็จ้องตอบกลับไปอย่างไม่ยอมแพ้เหมือนกัน ซักพักคนตัวเล็กก็ลุกขึ้นยืนเดินกระแทกเท้าออกไปอย่างหงุดหงิด จะต้องให้ดุให้ว่าก่อนแล้วค่อยทำรึไงนะเจ้าเด็กคนนี้ นิสัยอย่างกับเด็กประถมชัดๆ ไม่อยากจะเชื่อว่าจะโตถึงขนาดเข้ามหาลัยแล้วด้วยซ้ำ
“ห้ามแอบดูนะ” ป๋ายเซียนเดินพาดผ้าขนหนูไว้บนบ่าก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำไป ไม่วายยังหันหน้ามาชี้นิ้วมองหน้าชานยอลอีกต่างหาก
“ใครจะดู มีอะไรให้ดู?” คนตัวสูงตอบกลับไปพร้อมกับยักคิ้ว เรียกเสียงขู่ฟ่อๆของป๋ายเซียนได้เป็นอย่างดี
เสียงประตูห้องน้ำปิดลงพร้อมกับเสียงน้ำที่ไหลออกจากฝักบัว หลังจากที่ป๋ายเซียนหายลับไปแล้วชานยอลเวอร์ชั่นมาดขรึมก็ต้องปล่อยฮาทันที เก๊กแทบตายกว่าจะบังคับป๋ายเซียนให้ไปอาบน้ำได้
เอื้อมมือไปกดดูภาพพักหน้าจอของป๋ายเซียนที่ทิ้งโทรศัพท์ไว้บนโซฟาเล่นๆ รูปของป๋ายเซียนกับแพคฮยอนเด่นหราอยู่ตรงหน้า รอยยิ้มที่เหมือนกัน ใบหน้าที่เหมือนกัน รูปร่างที่เหมือนกัน ติดอย่างเดียวคือนิสัยไม่ค่อยเหมือนกันเท่าไหร่ มองกี่ทีๆมองทีไรๆก็รู้สึกเหมือนกับก๊อปปี้แล้ววางยังไงอย่างนั้น
ยิ่งมองยิ่งเหมือนแบคฮยอน....
ก๊อกๆ
“ป๋ายเซียนอาบน้ำเสร็จแล้ว....”
พรวด!!
“พี่ชานยอล! ผมอุ่นนมไว้ให้อะพี่รีบไปกินนะ”
เสียงเคาะประตูยังไม่ทันเสร็จดี ชานยอลที่กำลังนั่งดูเอกสารอยู่ในห้องทำงานกำลังเอ่ยถามป๋ายเซียนไม่ทันจบ มือเรียวของเจ้าตัวยุ่งก็เปิดพรวดพราดเข้ามาโดยที่ไม่ได้รับอนุญาต ชานยอลแทบทำเอกสารหล่นเมื่อมองเห็นป๋ายเซียนในสภาพพันผ้าเช็ดตัวผืนเดียวไว้ที่เอวอย่างหมิ่นเหม่ ตามเนื้อตัวส่วนบนมีหยาดน้ำเกาะพราวไปทั่ว เส้นผมเปียกลู่แนบแก้มเนื่องจากเพิ่งสระผมมาใหม่ๆ ใบหน้าใส แก้มอมชมพู ริมฝีปากสีพีช ทุกๆอย่างมันทำให้ชานยอลหลงใหลนิ่งค้างไปชั่วขณะ แทบลืมจังหวะหายใจ มึนตื้อไปกับภาพจนแทบไม่รู้วิธีออกเสียง
“มองอะไร?” -*-
“นี่...ใครเขาพรวดพราดเข้ามา เสื้อผ้าก็ไม่แต่งให้เสร็จเรียบร้อย” ชานยอลดุอีกคนพลางทำเป็นก้มหน้ามองเอกสารในมือต่อ หวังว่าอีกคนจะไม่ทันสังเกต...ว่ามือของเขามันกำลังสั่น หัวใจของชานยอลก็กำลังสั่นไหวอยู่เช่นกัน
มันหวั่นไหว...
ไม่ได้หื่นหรืออะไร เป็นใครก็ต้องใจสั่นกันทั้งนั้น ผิวเนียนๆ กลิ่นหอมๆ แก้มใสๆ ใบหน้าจิ้มลิ้ม แถมยังนุ่งแค่ผ้าเช็ดตัวพันกายแค่ผืนเดียว ร้อยทั้งร้อยเป็นต้องแอบกลืนน้ำลาย
“ขอโทษ...ก็ตอนอยู่ที่บ้านทำแบบนี้บ่อยๆนี่นา พี่ชานยอลไม่ชอบผมก็จะไม่ทำ”
“อ่า...พี่ไม่ได้หมายความว่าไม่ชอบ พี่แค่ไม่ชิน นายควรจะแต่งตัวให้เรียบร้อย”
“ผู้ชายเหมือนกัน ไม่เห็นจะต้องเนี้ยบจัดเลย -3-“
“ไม่เหมือน”
“อะ....อะไร”
สิ้นเสียงชานยอล คนตัวสูงก็ลุกพรวดขึ้นเดินมาคว้าแขนคนตัวเล็กแล้วดึงเข้าหาตัว ทำเอาคนปากดีลอยหวือเข้าใกล้ สายตามองประสาน ริมฝีปากใกล้กันระยะประชิด ป๋ายเซียนเบิกตากว้างมองชานยอลอย่างตื่นๆ ยืนนิ่งไม่ขยับตัวเนื่องจากสมองยังประมวลผลที่เกิดขึ้นไม่ทัน ดวงตาเรียวส่องประกายสั่นระริกอย่างตกใจ เรียกรอยยิ้มจากชานยอลได้ไม่ยาก
รอยยิ้มที่ป๋ายเซียนมองแล้วรู้สึกร้อนๆหนาวๆ
“ไม่เหมือน....ตรงนี้...”
ก้านนิ้วคนตัวสูงลากผ่านตั้งแต่แก้มใสไล่ลงไปยังจมูกโด่งรั้น เลื่อนลงแตะริมฝีปากเล็กจิ้มลิ้มน้อยๆพอให้อีกคนสะดุ้ง ลากลงมาจับคางเรียวส่ายโยกไปมาเบาๆ สายตาคมยังไม่ละจากสายตาเรียวไปไหน จ้องมองอย่างกับกำลังล้วงความลับในใจของอีกคน
“ตรงนี้....”
เลื่อนมือรุกต่อไปยังที่ต่อไป ผิวเนียนบนหัวไหล่ กรีดนิ้วลงไปบนผิวนุ่มเบาๆ ลูบไล้ไปมาอย่างชอบอกชอบใจ ไหล่เล็กสั่นน้อยๆอย่างกับลุ้นว่าเขาจะทำอะไรต่อไป เด็กน้อยไร้เดียงสาทำได้เพียงแค่ยืนตัวเกร็งอยู่ตรงนั้น ทำอะไรไม่ได้ ไม่กล้า กลัว หรืออะไรก็ตามแต่ แค่ตอนนี้ป๋ายเซียนละสายตาไปจากดวงตาคมไม่ได้เลยจริงๆ....
สายตาคู่นี้น่าหลงใหลจริงๆ....
“ผม....ผมว่า ผมไปแต่งตัวดีกว่า ( . .)”
“หึหึ....”
ป๋ายเซียนรีบหลบสายตาคมก่อนจะผลักคนตัวสูงขี้แกล้งให้ออกไปยืนห่างๆ รีบวิ่งดุ๊กดิ๊กก้มหน้าเข้าห้องแต่งตัวไป ชานยอลเห็นนะ แก้มแดงๆของป๋ายเซียนมันน่ารักน่าฟัดจริงๆเลย
นี่ถ้าไม่ตัดบทไปแต่งตัวซะก่อน...คงมีสำรวจมากกว่านี้แน่ๆ
อืม...ไปกินนมป๋ายเซียนดีกว่า ป่านนี้คงจะอุ่นๆร้อนๆพอดีแล้วล่ะ J
รุ่งเช้า.....
รถสปอร์ตสีขาวเคลื่อนเข้ามาจอดหน้าตึกคณะที่แพคฮยอนเรียนอยู่ ประตูเปิดออกพร้อมกับร่างเล็กเดินลงไป มือเรียวกระชับกระเป๋าแน่นราวกับกลัวมันหาย ชะโงกหน้าเข้าไปในรถเอ่ยลาคนในนั้นอย่างขอบคุณปนเกรงใจ
“พี่เซฮุน...ขอบคุณที่มาส่งนะครับ”
“เย็นนี้ถ้าเลิกเรียนก่อนก็โทรบอก ไปรอพี่ที่ร้านชานม โอเคนะ”
“รับทราบครับ ขับรถดีๆนะฮะ ^^”
ปิดประตูเบาๆแล้วยืนอยู่ตรงนั้นมองตามรถสปอร์ตขี่หายไปจนลับตา โบกมือลาทั้งๆที่พี่ชายแสนดีคงมองไม่เห็น แพคฮยอนเดินดุ่มๆเข้าตึกเรียนไป จู่ๆโทรศัพท์ก็สั่นขึ้น เสียงไลน์ดังเตือนขึ้นมาทำให้แพคฮยอนต้องล้วงกระเป๋าหยิบมันขึ้นมาอ่าน
‘ตั้งใจเรียนนะ’
‘ครับ พี่เซฮุนก็ตั้งใจทำงานนะ’
รออยู่นานแต่ก็ไม่มีข้อความตอบกลับมา เซฮุนเพียงแค่อ่านไลน์ของแพคฮยอนเฉยๆ คงจะขับรถอยู่ ไม่ควรเล่นโทรศัพท์ เดี๋ยวจะเกิดอันตราย แพคฮยอนคิดได้อย่างนั้นจึงเก็บโทรศัพท์ไว้ในกระเป๋าเหมือนเดิม เดินไปเรื่อยเปื่อยเนื่องจากยังไม่ถึงเวลาเรียน
“แพคฮยอน!!! อรุณสวัสดิ์”
“แบมแบม อรุณสวัสดิ์ มาแต่เช้าเลยนะ ^^”
เสียงใสดังขึ้นเรียกแพคฮยอนจากด้านหลัง คนตัวเล็กหันกลับไปก็พบกับเพื่อนใหม่ที่คุยกันถูกคอภายในไม่กี่วันเดินตรงเข้ามาหา รอยยิ้มสดใสถูกส่งไปให้แบมแบมอย่างดีใจ คุยกันทางไลน์เมื่อคืนก่อนก็รู้ว่าเรียนคาบเดียวกัน ไปไหนไปด้วยกันแทบทั้งวันเลย โชคดีอะไรแบบนี้ อย่างน้อยก็ไม่ต้องไปเรียนคนเดียว
เพิ่งจะมาจากเมืองจีน ภาษาเกาหลีก็ยังไม่ค่อยแข็งแรง ถ้าจะให้ทำอะไรลุยเดี่ยวคงไม่ไหว...
ตอนนี้แบมแบมคือเพื่อนใหม่ที่ดีที่สุดของแพคฮยอนเลย
“มีคนแนะนำให้แพคฮยอนรู้จักด้วยล่ะ พี่เขาอยู่ชมรมฟุตบอล เพิ่งจะรู้จักเมื่อกี๊ พี่เขาชวนไปเข้าชมรมกีฬาน่ะ แพคฮยอนไปกับเรานะ นะครับนะๆๆๆๆๆ”
แบมแบมกอดแขนอ้อนเพื่อนคนตัวเล็กพอๆกันให้ยอมเข้าชมรมฟุตบอลด้วย เมื่อกี๊เขาบังเอิญเดินอยู่แถวๆสนามฟุตบอล ไม่ทันระวังเดินไปชนรุ่นพี่คนนึงเข้า ขอโทษไปขอโทษมาเลยโดนชวนเข้าชมรมฟุตบอลเป็นการไถ่โทษและชวนคนอื่นๆมาเข้าชมรมด้วย แบมแบมเองก็ได้แต่พยักหน้ารับอย่างงงๆกับวิธีการไถ่โทษของคนๆนี้ คิดได้ว่าจะต้องเข้าชมรมคนเดียวก็เกิดอาการกลัวขึ้นมา นึกขึ้นได้ว่าลองชวนแพคฮยอนดูดีกว่าเลยขอตัวออกมาตามหาคนที่ต้องการ
“ห้ะ...อะไรนะ อืม...เรายังไม่ได้คิดเลยอะว่าจะลงชมรมอะไรดี” แพคฮยอนได้แต่ตอบกระอักกระอ่วน มันกะทันหันเกินไป ไม่ให้เขาได้ตัดสินใจเลย ชมรมฟุตบอลเนี่ยนะ...เขาเองก็ไม่เคยเล่นซะด้วยสิ ตอนเด็กๆทำได้แต่มองพี่ป๋ายเซียนเล่นกับเพื่อนเฉยๆไม่เคยเล่นซักที มันจะเหนื่อยรึเปล่าก็ไม่รู้...
“นะๆไม่ต้องคิดแล้ว พี่เขาออกปากชวนทั้งที” แบมแบมเร่งให้แพคฮยอนตัดสินใจ แพคฮยอนใจอ่อนง่ายจะตาย..
“อื้อ...ถ้าแบมแบมอยากเข้า เราเข้าเป็นเพื่อนก็ได้”
เยส!!!!
คำๆนี้แบมแบมก็ได้แต่พูดแล้วกำหมัดชูขึ้นฟ้าอยู่ในใจ ในที่สุดก็เป็นไปตามแผน !
แพคฮยอนอดจะใจอ่อนกับคำขอร้องของเพื่อนคนนี้ไม่ได้ ไหนๆก็มีคนชวนแล้วลงชมรมไปเลยจะได้ไม่ต้องวุ่นวายหาชมรมทีหลัง รอยยิ้มบางๆถูกส่งไปให้แบมแบมอีกครั้ง เพื่อนตัวดีก็หันซ้ายหันขวาแล้วกวักมือเรียกให้ใครซักคนเข้ามา เสียงฝีเท้าดังขึ้นจากทางด้านหลังแพคฮยอนอีกครั้งจนเสียงเดินนั้นหยุดลงตรงหลังแพคฮยอนพอดี
“สวัสดีครับ คนนี้ใช่มั๊ยที่น้องชวนเข้ามาอยู่ชมรมด้วย?”
เสียงทุ้มฟังดูนุ่มหูดังขึ้น แพคฮยอนหันหลังกลับไปก็พบกับออร่าความหล่อกระแทกตาประดุจเทพเจ้า ผู้ชายรูปร่างสูง ผิวสีแทน ดูมีกล้ามเล็กน้อยพอดีๆเหมือนนักกีฬาออกกำลังกายเป็นประจำ ดวงตากลมโตดูคมมีเสน่ห์ กับผมที่ถูกเซตมาอย่างดีเข้ากับใบหน้า ทุกสิ่งทุกอย่างมันทำให้แพคฮยอนยืนนิ่งตกอยู่ในภวังค์ไปชั่วขณะ....
คนอะไรหล่อไม่บันยะบันยัง หล่อจนต้องมองเหลียวหลังคอแทบเคล็ด...
“คนนี้แหละครับพี่มินโฮ แนะนำตัวสิแพคฮยอนอา” เพื่อนตัวเล็กสะกิดให้แพคฮยอนหลุดจากภวังค์แนะนำตัว
“ค...ครับ ผมชื่อแพคฮยอน อยู่ปีหนึ่ง มาจากจีน...”
“หืม...ทำไมชื่อเป็นภาษาเกาหลีล่ะ?” มินโฮเลิกคิ้วถาม
“พ่อผมเป็นคนเกาหลีครับ ส่วนแม่เป็นคนจีน ครอบครัวผมอยู่ที่จีน เพิ่งจะย้ายมาเรียนต่อที่โซลได้ไม่กี่วัน...เอ่อ ถ้าผมไม่รู้อะไรรบกวนแนะนำด้วยนะครับ ( _ _)”
“พี่ชื่อมินโฮนะ เป็นประธานชมรมฟุตบอล อยู่ปีสาม เข้าชมรมแล้วต้องตั้งใจฝึกซ้อมล่ะแพคฮยอน นายชื่อแบมแบมใช่มั๊ย? เดี๋ยวพี่จะเอาใบสมัครมาให้ อย่าลืมชวนคนอื่นๆมาเข้าชมรมเยอะๆล่ะตัวเล็ก”
มือหนาของมินโฮวางแหมะอยู่บนกลุ่มผมนิ่มของแพคฮยอนแล้วขยี้เบาๆอย่างเอ็นดู แบมแบมที่ยืนอยู่ตรงนั้นเห็นเหตุการณ์ก็อดจะยิ้มไม่ได้ มันเป็นภาพที่น่ารักจริงๆ ผู้ชายที่หล่อ เท่ บาดตาบาดใจอย่างเทพบุตรกำลังยีผมเด็กผู้ชายตัวเล็กน่ารักจิ้มลิ้ม อยู่ๆก็รู้สึกได้ว่ามีรังสีความอบอุ่นแผ่ออกมา มันทำให้แบมแบมคิดว่า...
พี่มินโฮจะชอบแพคฮยอนรึเปล่านะ?
ถึงไม่แน่ใจแต่ก็แอบลุ้น คิดว่าจะต้องใช่แน่ๆ ถึงไม่แน่ใจเต็มร้อยแต่ก็ขอฟันธง!
“งั้นพวกผมขอตัวไปเรียนก่อนนะครับ” แพคฮยอนโค้งตัวบอกลารุ่นพี่เทพบุตรก่อนจะดึงแขนแบมแบมเดินตามไป อยู่ตรงนั้นไม่ไหวแล้ว รู้สึกเหงื่อจะแตก ตื่นเต้น แพคฮยอนไม่เคยเจอใครที่ดูดีแบบนี้มาก่อน ดูดีมากๆ
พูดแล้วก็นึกถึงพี่เซฮุน...อีกคนก็ดูดีไม่แพ้กัน แต่เป็นคนละแบบ
แล้วทำไมต้องนึกถึงพี่เซฮุนด้วยล่ะ?
พักนี้ไม่ค่อยเข้าใจการทำงานของสมองและหัวใจเลย รู้สึกไม่ค่อยสัมพันธ์กัน
เลิกเรียน....
“นี่ครับ ใบสมัครเข้าชมรม พวกผมกรอกเสร็จเรียบร้อยหมดแล้วครับ”
“โอเค อาทิตย์หน้านัดซ้อมนะครับ มาให้ตรงเวลาด้วยนะน้องๆ J”
“ครับ งั้นพวกผมขอตัวก่อนนะครับรุ่นพี่”
“กลับดีๆนะ”
หลังจากยื่นใบสมัครชมรมให้กับพี่มินโฮเสร็จ แพคฮยอนกับแบมแบมก็เดินออกมาจากห้องชมรม เดินเรื่อยเปื่อยไปตามฟุตบาทช้าๆอย่างไม่เร่งรีบ คุยกันสัพเพเหระไปตามประสา
“แพคฮยอนกลับบ้านยังไงหรอ?”
“อ่อ...เดี๋ยวพี่ที่รู้จักจะมารับ แล้วนายล่ะ?”
“เดี๋ยวนั่งแท็กซี่กลับเอาก็ได้ ห้องพักเราอยู่ไม่ค่อยไกลหรอก แต่ตอนนี้ยังเช้าอยู่เลย ไม่อยากกลับไปห้อง ไม่รู้จะไปที่ไหนดี”
“งั้นเอาอย่างนี้มั๊ย พี่ของผมจะมารับตอนเย็นๆ มานั่งเล่นอยู่ที่ร้านชานมก่อนก็ได้ พี่เขาบอกให้ผมไปรออยู่ที่ร้านชานมใกล้ๆมหาลัยน่ะ”
“โอเค งั้นไปกัน ^^”
ทั้งสองคนเดินกอดคอกันไปร้านชานมที่เซฮุนฝากฝังแพคฮยอนเอาไว้ คุยกันไปด้วยรอยยิ้มสนุกสนาน ชีวิตเด็กมหาลัยของพวกเขากำลังจะเริ่มต้นขึ้นที่นี่...ต้องเจอกับอะไรหลายๆอย่างที่พวกเขาไม่เคยได้เจอ
นิยามคำว่าเพื่อน...มันแตกออกไปได้หลายทาง
มันก็เหมือนเส้นทางๆหนึ่ง วันนี้เราเดินมาถึงทางแยก
วันนี้เราอาจจะยังจับมือกัน แต่วันพรุ่งนี้ หรือแม้แต่วินาทีถัดไป...เราจะปล่อยมือกันหรือไม่ก็ไม่มีใครรู้
อนาคต...เป็นสิ่งที่กำหนดไม่ได้
ใครจะรู้...เพื่อนรักในวันนี้ อาจจะกลายเป็นศัตรูในวันหน้าก็ได้
เพราะคนเรา...ย่อมมีความรัก ความเห็นแก่ตัวเป็นพื้นฐานทางจิตใจทั้งนั้น
กรุ๊งกริ๊ง....
“อ้าว พี่แบค...เอ้ยไม่ใช่...เอ่อ นายชื่อแพคฮยอนหรือว่าป๋ายเซียนอะ?”
เสียงกริ่งตรงประตูดังขึ้นทำเอาเทาที่กำลังยืนอยู่หน้าเค้าท์เตอร์เงยหน้ารับ พอเห็นใบหน้าแบบนี้เท่านั้นแหละปากมันก็ดันไปไวกว่าสมองทุกที เผลอเรียกไปแต่ไม่ได้เรียกทั้งหมด เกือบไปแล้วมั๊ยล่ะไอ้เทา
“อ่า...ผมแพคฮยอนครับ”
“น้องแพคฮยอนพาเพื่อนมานั่งก่อนสิ ดื่มอะไรมั๊ยเดี๋ยวพี่ชงให้”
เทาชวนแพคฮยอนกับเพื่อนเข้ามานั่งในร้านก่อนจะเอ่ยถามตามปกติทั่วไป ทั้งสองคนสั่งเครื่องดื่มคนละแก้ว ระหว่างที่รอเทาชงเครื่องดื่มให้ทั้งสองคนก็ชวนกันคุยหัวเราะคิกๆคักๆไปตามประสา สายตาคมดุจเหยี่ยวของแบมแบมก็สังเกตเห็นป้ายประกาศที่ติดอยู่หน้าร้านเข้า
“แพคฮยอนอา ร้านนี้พี่เขาติดป้ายรับสมัครพนักงานพาร์ทไทม์ด้วยล่ะ เราอยากสมัครอะ”
“ก็ลองสมัครดูสิ พี่ๆเขาก็ใจดีทั้งนั้น เราว่าก็ไม่เลวเหมือนกันนะ หาอะไรทำตอนเลิกเรียน J”
“เครื่องดื่มที่สั่งได้แล้วคร้าบบบบบบบ”
“พี่เทาครับ พี่ซูโฮเค้ารับสมัครพนักงานพาร์ทไทม์หรอครับ ผมกับเพื่อนสมัครได้มั้ยครับ?”
“นายไม่ต้องทำก็ได้แพคฮยอน นั่งรอให้ผู้ปกครองของนายมารับเฉยๆดีกว่า งานแบบนี้มันเหนื่อยนะ”
“พี่คนหล่อครับ คือผมอยากทำงานหาเงินเก็บเอาไว้น่ะครับ ให้ผมทำนะๆ” แบมแบมขอร้อง
“อ่า...นายไปกรอกใบสมัครสิ แพคฮยอนอา นายอยากจะทำจริงๆหรอ”
“ครับ...ผมมารอพี่เขาอยู่เฉยๆแบบนี้ก็ว่างน่ะ เลยอยากจะช่วยพี่ๆบ้าง ให้ผมสมัครเถอะนะครับพี่เทา”
เทายืนเครียดอยู่นานก็ยอมพยักหน้า พาแบมแบมกับแพคฮยอนเข้าไปสมัครงานข้างใน เห็นใบหน้าจิ้มลิ้มอ้อนวอนไม่ได้เป็นต้องใจอ่อนยวบทุกคราว แพ้ทางคนหน้าเหมือนพุดเดิ้ล TT
RRRRrrrrrrr
“ครับ...ผมอยู่ร้านชานมของพี่ซูโฮแล้วครับ”
“.........”
“อ่า...มาได้เลยครับ ผมจะรออยู่ในนี้แหละ”
“........”
“ครับ แล้วเจอกันครับพี่”
“พี่นายหรอแพคฮยอน?”
พออีกคนวางสายปุ๊บนักข่าวแบมแบมก็ถามทันที อยากเห็นจริงๆว่าพี่คนที่คอยดูแลเป็นผู้ปกครองให้กับแพคฮยอนจะหน้าตาเป็นยังไงกันนะ
“อื้อ...มาโน่นแล้วล่ะ”
รถสปอร์ตสีขาวเคลื่อนเข้ามาจอดหน้าร้านชานม แพคฮยอนรีบเก็บกระเป๋าเดินไปลาเทาแล้วกลับมาโบกมือลาแบมแบมอย่างอารมณ์ดี เปิดประตูออกไปหาคนไปรับไปส่ง เสี้ยววินาทีที่ประตูรถเปิดออก คนตัวเล็กที่นั่งอยู่ในร้านก็เห็นคนบางคน....ที่ไม่คิดว่าจะได้เจอตัวเป็นๆ
เหมือน...แบมแบมเหมือนจะเห็นเซฮุน!!
เสี้ยววินาทีเท่านั้นที่สมองจับภาพเอาไว้ในสมอง โครงหน้าเรียวผิวขาวราวกับคุณชายแบบนั้นเขาไม่น่าจะจำผิด ก็ดูรูปพี่เซฮุนทั้งวันทั้งคืนทำไมจะจำไม่ได้ หมายความว่ายังไง....แพคฮยอนคือคนที่เซฮุนดูแลอยู่อย่างนั้นหรอ?
มัวแต่มองอยู่แบบนั้นเลยทำให้ไม่รู้สึกตัวว่าเผลอทำแก้วเครื่องดื่มหลุดมือหกใส่เสื้อตัวเอง สะดุ้งรู้สึกตัวหาทิชชู่มาซับน้ำยกใหญ่ เงยหน้าขึ้นอีกทีรถสปอร์ตสีขาวก็หายลับตาไปซะแล้ว
ต้องถามแพคฮยอนให้รู้เรื่อง...
หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาไลน์ถามคนที่เพิ่งออกไปอย่างรีบร้อน ไม่สนว่าตอนนี้เสื้อผ้าจะเลอะขนาดไหน จะเป็นคราบอะไรบ้าง มือสั่นไปหมดด้วยความตื่นเต้น ขอให้ตาไม่ฝาด ขอให้ไม่คิดไปเอง ขอให้ไม่ใช่คนหน้าเหมือน ขอเป็นเป็นพี่เซฮุนคนนั้นจริงๆ คนที่เขาเฝ้าคิดถึงอยากเจออยากพบมาตลอดหลายปี ได้โปรด...
‘แพคฮยอน...นายไปกับใครหรอเมื่อกี๊ พี่นายน่ะ?”
‘อ่อ...พี่ชายที่พ่อรู้จักน่ะ’
‘หมายถึงเขาชื่ออะไรน่ะ’
‘อ่อ.......พี่เซฮุน’
เซฮุน...
โอ เซฮุน...
ใช่แล้ว ไม่ผิดจริงๆ เขาตาไม่ได้ฝาดไป ใช่พี่เซฮุนจริงๆ!!
โชคชะตาเล่นตลกกับคนๆนึงได้ถึงเพียงนี้เลยหรอนี่...ต้องเรียกว่าบุญหล่นทับสินะ
แพคฮยอนเป็นคนที่พี่เซฮุนรู้จัก คงจะรวมไปถึงพี่ชานยอลด้วยแน่ๆ แพคฮยอนช่างเป็นคนที่โชคดีอะไรแบบนี้ แล้วเขาก็โชคดีมากด้วยที่ได้มารู้จักกับแพคฮยอน ได้เป็นเพื่อนกับแพคฮยอน อีกไม่นานเดาได้ว่าแบมแบมคนนี้จะต้องได้เจอหน้าได้คุยกับพี่ชานยอลกับพี่เซฮุนแน่ๆ
แพคฮยอนอา...ช่วยทำให้ความฝันของเราเป็นจริงด้วยนะ
เพื่อนรัก...ช่วยทำให้ความรักของเขากับพี่เซฮุนเป็นจริงด้วยนะ
ต่อจากนี้ไป...เขาจะทำทุกอย่างเพื่อจะได้เข้าใกล้พี่เซฮุน
แม้แต่จะต้องหลอกใช้คำว่าเพื่อนกับแพคฮยอน...เขาก็ยอม
******************************
ครบร้อยเปอร์เซนต์แล้วนะ มาต่อแล้วค่ะไม่อยากให้ค้างนาน
ภาคนี้ทุกคนจะว่าอะไรมั๊ยคะถ้าจะมีฉากอย่างว่าเยอะนิดนึง
สนองนี๊ดเค้าด้วยแหละ อยากให้มี
ดราม่ามีแน่นอนค่ะ แต่ส่วนใหญ่จะเน้นไปทางใสๆน่ารักน่าแกล้งเน๊าะ
ถ้ามีฉากมากกว่ารักในตอนไหนจะบอกในต้อนท้ายของแต่ละตอนนะคะ
เอนจอยรีดดิ้งค่ะ
ความคิดเห็น