ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [EXO] I'm Here! Always By Your Side [HunBaek,ChanBaek]

    ลำดับตอนที่ #5 : [SF EXO] Boyfriend - HUNBAEK-

    • อัปเดตล่าสุด 29 ก.ค. 57


    Boyfriend

     

     

    คุณเคยมีแฟนแบบไหน...

    นิสัยดีขนาดไหน...

    เป็นคนยังไง...

    แล้วเขาทำอะไรให้คุณประทับใจบ้าง...

     

     

                    “ยอโบเซโย”

    “เซฮุนนา วันอาทิตย์นี้เราไปเที่ยวกันมั๊ย?”

    “อ่า....โอเคครับๆ แล้วจะไปเที่ยวกันที่ไหนล่ะ?”

    “ไปโซลทาวเวอร์กันมั๊ยๆ นะๆพี่อยากไป”

    “ตกลงตามนั้นครับพี่แบคฮยอน”

     

     

    เดท...เดท...เดท

     

    ย๊า!!!! แบคฮยอนกำลังจะไปเดทกับเซฮุนวันอาทิตย์นี้! >_<

     

    นิ้วเรียวกดวางสายจากคนรักแล้วกระโดดไปมาอย่างดีใจ นานๆครั้งที่เขาชวนคนรักอย่างเซฮุนไปเดทแล้วพ่อคนฮอตจะยอมตกลงง่ายๆแบบนี้ คบกันมาปีกว่าแทบนับครั้งได้ที่จะได้เจอกันแล้วก็อยู่ด้วยกันเป็นวันๆเหมือนคู่รักอื่นๆทั่วไป เซฮุนเด็กกว่าแบคฮยอนสองปี เพิ่งเป็นเด็กมัธยมปลายปีหนึ่ง ส่วนแบคฮยอนอยู่ม.หกแล้ว เซฮุนเป็นทั้งนักบาสแล้วก็นักร้องประจำโรงเรียน ส่วนเขาอยู่ม.หกแล้วก็ต้องอ่านหนังสือสอบเข้ามหาวิทยาลัย ยิ่งทำให้เขาเจอกันน้อยลงไปอีก

     

    แอบน้อยใจอยู่หลายครั้งเวลาที่เซฮุนไม่มีเวลาว่างให้...

     

    ซ้อมนั่น ซ้อมโน่น ซ้อมนี่จนไม่มีเวลาให้แฟนอย่างเขาเลย

     

    บางทีก็เย็นชาจนไม่รู้ว่าคิดอะไรอยู่ แอบกลัวว่าจะรำคาญที่ไปเกาะแกะอ้อนมากไป

     

    ก็เพราะว่ารัก เพราะว่าอยากให้สนใจ อยากให้เป็นคนสำคัญคนเดียว

     

    แต่ก็อดทนมาตลอด....เก็บอาการคิดมากเอาไว้เพราะเข้าใจว่าคนเราก็ไม่ได้มีเวลาว่างตรงกันบ่อยๆ

     

    จะรักก็ต้องอดทน และเข้าใจ...

     

    “อืม...จะทำอาหารอะไรดีนะ ข้าวกล่องต้องทำดีๆเซฮุนจะได้ชม อ่า...แค่คิดก็ตื่นเต้นแล้ว”

    คนตัวเล็กเดินไปเดินมาพูดไม่หยุด เปิดตู้เสื้อผ้าลองเสื้อตัวนั้นกางเกงตัวนี้อย่างกระตือรือร้น ทำอย่างกับจะไปเดทอีกไม่กี่สิบหน้าทีข้างหน้า ทั้งๆที่ยังเหลือเวลาอีกตั้งหลายวัน ริมฝีปากเล็กจิ้มลิ้มยกยิ้มไม่หยุด แค่คิดว่าจะทำอะไรบ้างในวันเดทก็มีความสุขจนตัวจะลอยขึ้นไปบนฟ้า

     

    ถึงจะเป็นแค่เดทเล็กๆ แบคฮยอนก็มีความสุข

     

    ไม่จำเป็นต้องยิ่งใหญ่หรูหรามากมาย แค่จับมือเดินด้วยกันทั้งวันก็เขินจะแย่แล้ว

     

          แบคฮยอนแค่อยากมีเซฮุนอยู่ข้างๆแค่นี้ก็พอ

     

    รื้อตู้เสื้อผ้าเสร็จก็ต้องเก็บเข้าตู้อีกครั้ง บ่นตัวเองในใจชอบทำให้ห้องรกซะเหลือเกิน มองนาฬิกาก็ห้าทุ่มกว่าแล้ว เก็บห้องเสร็จมือเรียวก็เอื้อมเจ้าตุ๊กตาที่เซฮุนซื้อให้เป็นของขวัญวันเกิดมากอดแน่น คว้าโทรศัพท์ขึ้นมาไลน์ถามเจ้าของตุ๊กตาทันที ก็คนมันคิดถึงนี่....

     

    เซฮุน ทำอะไรอยู่?

    นอนรึยังเนี่ย?

    เฮ้ ไม่อยู่หรอ ตอบไลน์พี่หน่อยสิ L

    นับหนึ่งถึงสาม ถ้าไม่ตอบจะงอนแล้วนะ

     

    รอนานหลายนาทีก็ไม่มีทีท่าว่าเซฮุนจะเปิดอ่าน แบคฮยอนก็ได้แต่นอนกอดตุ๊กตาจ้องหน้าจอโทรศัพท์อย่างน้อยใจ ริมฝีปากจิ้มลิ้มบ่นอุบอิบนินทาภาวนาให้คนที่เฝ้ารอมาตอบไลน์ซักที นี่ทำอะไรอยู่ถึงไม่ยอมดูโทรศัพท์เลยไอ้เด็กบ้าคนนี้
     

    ได้แต่น้อยใจแล้วน้อยใจอีก...

    ก็ไม่รู้ว่านอยด์ทำไม ในเมื่อคนที่อยากให้ง้อไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่ามีคนงอนอยู่

    คนรอรอจนแทบจะบ้า แต่คงไม่มีค่าอะไรถ้าคนอีกคนไม่รู้สึกตัว

    ก็เป็นแบบนี้ออกจะบ่อยไป...งอนจนหายงอน


     

    นับหนึ่ง...

    ผ่านไปห้านาที ก็ยังไม่ตอบ


     

    นับสองแล้วนะ...ให้เวลาอีกหนึ่งวินาทีสุดท้าย

    ยกโทรศัพท์ขึ้นมาจ้องอย่างเอาเป็นเอาตาย ไม่มีแม้แต่กดอ่านเลย

     

    “สงสัยจะซ้อมกีต้าร์อยู่ล่ะมั้ง....เฮ้อ...”

    ตอบพี่หน่อยสิเซฮุนนา

    รออยู่นะ
     

    พลิกซ้ายพลิกขวาจนหนังตาหนักอึ้ง วางโทรศัพท์ลงข้างๆหูเผื่ออีกคนตอบกลับมาแล้วจะได้อ่านทันที รออยู่อีกซักพัก...ก็หาวหวอดๆ แขนเล็กเอื้อมกอดตุ๊กตาแน่น จุ๊บหน้าผากเจ้าตุ๊กตาแทนตัวเจ้าของ ไม่นานคนตัวเล็กก็เผลอหลับไปทั้งๆที่ยังเปิดหน้าต่างสนทนาค้างเอาไว้อย่างนั้น

     

    ไม่เคยนับถึงสามซักที...เพราะอย่างนี้เลยไม่เคยงอนเซฮุนเลยซักครั้ง

     

    เพราะรอมาตลอด เผื่อว่าอีกคนจะตอบกลับมา เผื่ออีกคนจะสนใจในวินาทีสุดท้าย เลยรอ...

     

    เพราะว่ารอ เพราะว่าไม่กล้างอนออกนอกหน้าเกินไป ได้แต่เก็บไปงอนในใจ เลยทำให้อีกคนไม่รู้ตัวเลย...แทบจะลืมไปว่าต้องดูแลเทคแคร์คนตัวเล็กคนนี้

     

    เพราะเซฮุนคิดว่าแบคฮยอนไม่ใช่คนเรื่องมากคิดเล็กคิดน้อย เลยไม่จำเป็นต้องทำอะไรมาก

     

    เพราะคิดว่าแบคฮยอนเข้าใจ...เพราะคิดว่าคนตัวเล็กรู้ว่าเซฮุนไม่ค่อยมีเวลาว่างเหมือนคนอื่นๆ

     

    เพราะว่ามันเรียบง่ายเกินไป...เลยเกิดเส้นใยบางๆกั้นกลางเอาไว้

     

    อดทน....เลยประคับประคองกันมาได้ตลอดจนถึงทุกวันนี้ ไม่สนใจ ไม่ใส่ใจ ไม่มีเวลาให้ ก็แค่คิดว่าไม่เป็นไร เรื่องแค่นี้เอง...เพราะว่ารัก เลยยอมอดทนทุกๆอย่าง

     

    เซฮุนไม่เคยสังเกต...แบคฮยอนนั้นเปราะบางขนาดไหน

     

    และเป็นเพราะแบคฮยอนเอง...ที่ไม่เคยพูดอะไรออกไปให้อีกคนเข้าใจซักที ไม่เคยบอกความต้องการอะไรให้อีกคนได้รับรู้ เวลาเซฮุนถามก็กลัวทำให้คนตัวสูงลำบากใจ มีเพียงรอยยิ้มที่ส่งไปให้เท่านั้น

     

    ทำไมไม่เข้าใจ...ไอ้คำว่าไม่เป็นไรนั่นแหละแปลว่าเป็นมากๆ

     

    ทำไมไม่เข้าใจ...คำว่าช่างมันเถอะแปลว่าต้องมาง้อเดี๋ยวนี้เลย

     

    แค่นี้เซฮุนทำไมอ่านความคิดของแบคฮยอนไม่ออกนะ L

     

     

     

    ตี๊ด....ตี๊ด....ตี๊ด....

     

    พรึ่บ!

     

    เสียงนาฬิกาปลุกดังขึ้นทำเอาแบคฮยอนเขวี้ยงผ้าห่มสลัดชุดนอนออกจากตัวแทบไม่ทัน ลืมไปวันนี้นัดกับเซฮุนไว้นี่นา!!!!
     

    สปีดเข้าห้องน้ำล้างหน้าแปรงฟันออกจากห้องน้ำมาก็ต้องตบหน้าผากตัวเองหลายสิบที มองปฏิทินก็เพิ่งสำนึกได้ว่ายังไม่ใช่วันเสาร์ด้วยซ้ำ สงสัยคงเก็บมาคิดมากจนเกินไปเลยฝันว่ากำลังเตรียมตัวจะไปเดทกับเซฮุนอยู่น่ะสิ แบคฮยอนคนบ้าเอ๊ย
     

    “โถ่...ตื่นเต้นไปไหนไอ้แบค ฮ่าๆ ดีนะไม่มีใครเห็น ไม่งั้นหน้าแตกเลย”
     

    หัวเราะให้กับตัวเองแล้วหยิบชุดนักเรียนไปแต่งตัว ไม่นานคนตัวเล็กในชุดยูนิฟอร์มสีครามสวมทับเสื้อเชิ้ตสีขาวสะอาดตาก็เดินออกมา ไม่ลืมจะคว้าโทรศัพท์คู่ใจไปกดดูไลน์ นิ้วเรียวเลื่อนไปเลื่อนมาดูว่าเซฮุนตอบกลับมารึยัง


     

    ฝันดีนะครับ


     

    เซฮุนตอบไลน์กลับมาตอนประมาณตีหนึ่งกว่าๆ ซึ่งแน่นอนว่าตอนนี้แบคฮยอนหลับไปแล้วเลยไม่มีทางได้เห็นมัน รอยยิ้มเล็กๆถูกจุดขึ้นที่มุมปากแต่งแต้มให้ใบหน้าของแบคฮยอนดูน่ารักขึ้นเป็นสองเท่า พวงแก้มใสเกิดริ้วแดงๆขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่ ขอแค่เซฮุนตอบกลับมา...ขอแค่นี้จริงๆ

     

    ทักไปหลายสิบหลายร้อยพันประโยค...แค่ตอบกลับมาประโยคเดียว...แค่นี้ก็พอใจแล้ว

     

    แบคฮยอนไม่ต้องการอะไรอีกแล้วจริงๆ ไม่จำเป็นต้องตอบกลับมามากมาย ไม่ต้องหวานเลี่ยนจนน้ำเน่า ไม่ต้องมุ้งมิ้งตลอดทุกครั้ง ขอแค่คำเล็กๆสั้นๆอย่างเช่นคำว่าฝันดีก็พอแล้ว

     

    แน่นอน...แบคฮยอนยังหวังอยู่ในใจลึกๆ อยากฟังคำๆอื่นนอกจากคำว่าฝันดี

     

    อยากได้ยินคำว่ารัก...

     

    ตลอดที่คบกันมา เซฮุนไม่เคยพูดมันเลย เป็นแบคฮยอนเองที่เป็นฝ่ายบอกรักเซฮุนตลอด แต่ถึงอย่างนั้นแบคฮยอนคิดว่าเซฮุนคงจะเขินที่จะพูดมันออกมาบ่อยๆ เลยรอเวลาที่เซฮุนจะพร้อม รอเวลาที่คนรักของเขาจะกล้าพูดมันออกมา เวลานั้นแบคฮยอนจะอยู่นิ่งๆฟัง...และจำเอาไว้ให้ขึ้นใจ

     

     

    ขาเรียวเดินตามถนนฟุตบาทมาเรื่อยๆ เลี้ยวเข้าซอยข้างๆ เดินต่อไปอีกไม่นานก็หยุดอยู่หน้าประตูบ้านๆหนึ่ง กดกริ่งเรียกสองสามครั้งก็มีผู้หญิงวัยกลางคนมาเปิดประตูให้ แบคฮยอนโค้งสวัสดีอย่างจริงใจ
     

    “สวัสดีครับคุณน้า เซฮุนล่ะครับ?”
     

    “สวัสดีจ้ะแบคฮยอน เซฮุนเขาออกไปซ้อมกีต้าร์ตั้งแต่เช้าตรู่โน่นแล้วล่ะ นัดเอาไว้ว่าจะไปโรงเรียนด้วยกันใช่มั๊ย ใช้ไม่ได้เลยเซฮุนเนี่ย...กลับมาน้าจะตีให้เข็ด”
     

    “อ่า....คือผมไม่ได้นัดเอาไว้หรอกครับ อย่าดุเซฮุนเลยนะครับคุณน้าคนสวย งั้นผมไปก่อนนะครับ”
     

    แบคฮยอนโค้งลาคุณแม่ของเซฮุนแล้วเดินคอตกกลับไป วันนี้กะจะเดินมาหาเซฮุนแล้วเดินไปโรงเรียนด้วยกันซะหน่อยดันไปก่อนซะได้ ทั้งๆที่เมื่อก่อนก็ไปพร้อมกันแท้ๆเชียว


     

    หรือเซฮุนไม่เคยรอแบคฮยอนตั้งแต่แรกแล้วกันแน่...


     

    บนถนนเส้นนี้...มีแต่แบคฮยอนที่เดินตามหลังเซฮุน ใช่แบบนั้นรึเปล่า...

     

    เราเคยเดินไปด้วยกันบ้างมั๊ย...คำถามนี้ก็ได้แต่ถามตัวเองในใจ

     

    แบคฮยอนเข้าไปทักเซฮุนก่อน....แบคฮยอนชวนเซฮุนคุยก่อน

    แบคฮยอนตกหลุมรักเซฮุนก่อน...แบคฮยอนหยิบยื่นความรักให้เซฮุนก่อน

    โดยที่เซฮุนไม่ต้องทำอะไรเลย...เซฮุนถูกแบคฮยอนรักโดยที่ไม่ต้องทำอะไรมากมาย

     

    แบคฮยอนอยากจะเป็นฝ่ายถูกรักบ้าง...อยากให้เซฮุนแสดงความรักของเขาออกมาให้มากกว่านี้

     

    บางทีสถานะคำว่าแฟน ก็ไม่ได้หมายความว่ารักกันทั้งสองคนเสมอไปก็ได้

     

    “แบคฮยอนอย่าคิดมาก...มันไม่มีอะไรหรอก”
     

    ปลอบตัวเองไม่ให้ฟุ้งซ่าน ถอนหายใจแรงๆหนึ่งทีก่อนจะกระชับกระเป๋านักเรียนเดินมุ่งหน้าต่อไป ไม่อยากคิดเองคนเดียว บางทีอาจจะแค่บังเอิญที่เซฮุนมีนัดซ้อมกีต้าร์กับเพื่อนๆก็ได้ วันพรุ่งนี้ก็ยังมี รีบมาหาเซฮุนให้เร็วกว่านี้เดี๋ยวก็ได้ไปโรงเรียนด้วยกันเองแหละ


     

    พรุ่งนี้....พรุ่งนี้....พรุ่งนี้...อีกกี่พรุ่งนี้กันล่ะกว่าจะได้ไปโรงเรียนพร้อมกัน

     

    บางทีก็รู้สึกเหนื่อย...

     

     

    สองวันผ่านไป...แบคฮยอนก็ยังไปโรงเรียนคนเดียว

     

    ที่สนามฟุตบอลกลางโรงเรียน...เห็นเซฮุนเดินกับใครกันน่ะ

     

    ลู่หานใช่มั๊ยนะ...ทำไมดูสนิทกันจัง

     

    เซฮุนยิ้มออกมาแล้ว รอยยิ้มที่เขินอายแบบนั้น แบคฮยอนก็ได้มองตามอย่างหลงใหล

     

    แบคฮยอนไม่ได้เห็นรอยยิ้มแบบนี้ของเซฮุนมานานเท่าไหร่แล้วนะ ตั้งแต่เซฮุนขึ้นม.ปลายมา เขาก็ไม่เคยเห็นมันอีกเลย มีแต่คำว่ายุ่ง มีแต่คำว่าไม่ว่าง ทำตัวเป็นผู้ใหญ่จนเกินตัว

     

    ดีจังเลยนะ เซฮุนยิ้มออกมาแล้ว แต่เป็นยิ้มที่เกิดจากลู่หาน ไม่ใช่แบคฮยอน

     

    เขาก็ยืนอยู่ตรงนี้ทำไมมองไม่เห็นกันล่ะ ....หรือว่ามองใครไม่เห็นอีกเลยนอกจากลู่หาน คนมันเยอะเกินไปรึเปล่านะเลยทำให้มองไม่เห็นพี่...ท่ามกลางคนมากมายหลายร้อยพันยังมีคนๆนึงยืนอยู่ตรงนี้มองดูพวกนายอยู่นะ เซฮุน..ลู่หาน มองมาทางนี้หน่อยสิ แฟนนายยืนอยู่ตรงนี้นะเซฮุน
     

    ก็ได้แต่ยิ้ม...ยิ้มที่เซฮุนมีรอยยิ้ม
     

    แต่เป็นรอยยิ้มที่เจ็บพอตัว...ยิ้มทั้งๆที่รู้ว่าเซฮุนยิ้มให้กับใคร

     

    “แบคฮยอนอย่าคิดมาก...เขาก็แค่สนิทกันเท่านั้นแหละ ไม่มีอะไรหรอก...ไม่เป็นไร”
     

    คนตัวเล็กเดินเลี่ยงขึ้นตึกไปเรียนตามปกติ แต่ตอนนี้สติแทบไม่มีเหลือ สมาธิกลายเป็นศูนย์ ตอบโจทย์วิชาคณิตศาสตร์ไม่ได้แม้แต่ข้อเดียวทั้งๆที่ปกติทำได้สบาย นั่งเหม่อจนกระทั่งหมดคาบ ปลอบใจตัวเองซ้ำไปซ้ำมาว่าไม่มีอะไรหรอก ต้องเป็นอย่างนั้นอยู่แล้วล่ะ เซฮุนเป็นแฟนแบคฮยอนนะ
     

    ปลอบใจหรือหลอกตัวเองกันแน่...

     

    นึกถึงตอนเซฮุนบอกเลิกงั้นหรอ...ไม่เอาหรอกนะ ไม่อยากให้เป็นแบบนั้น

     

    มันเร็วเกินไปนะ ทำใจไม่ทันหรอก กะทันหันเกินไป

     

    แน่ใจหรอว่ากะทันหันน่ะ ไม่ใช่ว่ามีอาการมาตั้งนานแล้วหรอ

     

    ยิ้มกับคนอื่น อ่านไลน์ไม่ค่อยตอบ ไม่ว่างไปไหนมาไหนด้วยกัน ไปโรงเรียนก่อนตลอด ผิดนัดประจำ ลืมวันสำคัญต่างๆนานา แบบนี้เรียกว่าเป็นสัญญาณตั้งแต่เนิ่นๆแล้วใช่มั๊ย...

     

    ไม่ ไม่ ไม่ ไม่! ต้องเชื่อใจเซฮุนสิ เซฮุนไม่เคยนอกใจแบคฮยอนเลย...ห้ามคิดมากสิ

     

    คาบว่างแบคฮยอนเอาแต่เถียงกับตัวเองในหัว ฝ่ายดีกับฝ่ายชั่วมันตีกันจนหัวแทบจะระเบิด มือเรียวหยิบโทรศัพท์ออกมาพิมพ์ข้อความส่งไปหาเซฮุนอย่างที่เคยทำเป็นประจำ หวังว่าจะทำให้ลดความกังวลของตัวเองลงได้บ้าง

     

    เซฮุนนา รักเซฮุนนะ คิดถึงด้วย

     

    ไม่นานโทรศัพท์เครื่องสวยก็สั่นเป็นสัญญาณว่าเซฮุนตอบกลับมาแล้ว

     

    ครับผม

     

    แล้วเซฮุนล่ะรักพี่มั๊ย....ประโยคนี้ได้แต่พิมพ์ค้างเอาไว้แล้วก็กดลบไป ไม่กล้าถามอะไรตอนนี้ กลัวคำตอบเหลือเกิน...กลัวว่ามันจะรับไม่ไหว แต่อีกใจก็อยากจะรู้ ได้แต่พิมพ์ๆแล้วก็กดลบไปหลายร้อยรอบ สุดท้ายแล้วก็ไม่ได้ส่งไป...เปลี่ยนเป็นคำถามอย่างอื่นแทน

     

    เที่ยงนี้กินข้าวด้วยกันนะ เดี๋ยวพี่ไปหา ว่างรึเปล่า?

    ว่างครับ

     

    เป็นครั้งแรกที่คนตั้งใจเรียนอย่างแบคฮยอนนั่งนับเข็มนาฬิการอเวลาพักเที่ยงแทบใจจะขาด เสียงกริ่งดังขึ้นปุ๊บก็รีบเก็บของทันที วิ่งไปยังตึกเรียนของเซฮุนอย่างไม่คิดชีวิต ยิ้มน้อยๆเวลาวิ่งผ่านใครไป จะได้เจอเซฮุนแล้ว ไปกินข้าวด้วยกันตอนพักเที่ยง อย่างน้อยก็ได้เจอกันซักที ไม่ได้เจอตั้งสองสามวัน คิดถึงจะแย่...

     

    “เซฮุนนา!! รอพี่นานมั๊ยพี่มาหาแล้ววววว”
     

    เปิดประตูห้องของเซฮุนเสียงดังพร้อมกับตะโกนลั่น มองไปยังหลังห้องก็เจอกับกลุ่มเพื่อนๆของเซฮุนนั่งจับกลุ่มอยู่ตรงนั้น ไคยิ้มพร้อมกับโบกมือทักทายอย่างอารมณ์ดี เทารีบกวักมือเรียกพี่ชายตัวเล็กให้เข้ามาในห้อง แบคฮยอนเดินตรงดิ่งไปหาคนหน้านิ่งที่นั่งอยู่ตรงกลางกลุ่มอย่างดีใจ ทักทายน้องๆเพื่อนของเซฮุนทุกคนอย่างอารมณ์ดีก่อนจะเดินออกจากห้องไปพร้อมกับเซฮุน
     

    “เพิ่งพักเที่ยงห้านาที...พี่มาหาผมได้ยังไงกันน่ะ ตึกผมกับตึกพี่มันไม่ใช่ใกล้ๆกันเลยนะ”

    “เพราะว่าแรงรักมันเยอะไง อยากมาเจอเซฮุนเร็วๆ ฮ่าๆ”

    “หึ...พี่นี่ล่ะก็นะ รีบมากๆเดี๋ยวก็สะดุดหน้าทิ่มหรอก วันหลังไม่ต้องรีบก็ได้”
     

    มือหนาเอื้อมมายีผมคนรักตัวเล็กอย่างหมันเขี้ยว ถึงแม้เซฮุนจะพูดแบบนั้นแต่แบคฮยอนรู้ดีว่าเซฮุนเป็นห่วงเขาแค่ไหน เซฮุนเดินถือกระเป๋าให้แบคฮยอนจนมาถึงโรงอาหาร ตลอดทางแบคฮยอนยิ้มอย่างกับคนบ้า ดีใจที่เซฮุนเป็นห่วง เพราะแบบนี้ไงแบคฮยอนถึงได้รักเซฮุน ไม่ถอดใจไปรักใครอีกแล้ว...

     

    “ซื้อกับข้าวให้พี่ด้วยดิเซฮุน เดี๋ยวพี่ไปหาที่นั่งให้”

    “แล้วพี่อยากกินอะไร”

    “ของโปรดพี่ไง...”

    “ผมจำไม่ได้ พี่ชอบกินอะไรล่ะ?”
     

    แบคฮยอนชะงักก่อนจะหันมามองเซฮุนอย่างน้อยใจ ส่งแววตาตัดพ้อไปให้เซฮุนอย่างปิดไม่มิด คบกันมาปีกว่า...ทำไมจำไม่ได้ว่าเขาชอบกินอะไร นี่มันเป็นเรื่องพื้นฐานที่คนเป็นแฟนกันต้องรู้ไม่ใช่หรอ

     

    พี่ยังรู้เลยว่านายชอบกินอะไร...

     

    นี่จำไม่ได้จริงๆหรือว่าไม่ใส่ใจพี่กันแน่...

     

    “อ่า...พี่ก็ชอบกินเหมือนนายนั่นแหละ เอาเหมือนเซฮุนแล้วกันเน๊อะ ^^
     

    แบคฮยอนฝืนยิ้มก่อนจะตอบออกไป คนตัวสูงพยักหน้ารับอย่างไม่ติดใจอะไร เดินไปสั่งอาหารให้คนตัวเล็กอย่างไม่รู้เรื่องรู้ราว ปล่อยให้แบคฮยอนกลั้นน้ำตาอยู่ข้างหลัง เดินไปหาที่นั่งเงียบๆ...

     

    หรือว่าเซฮุนจะไม่รักเขา...หรือว่าเซฮุนจะคบเขาเพียงแค่เขารักเซฮุน

     

    ถ้ารักกันก็ต้องสนใจใส่ใจรายละเอียดกันบ้างสิ ไม่สนใจกันเลยรึไง...

     

    เห็นเขาเป็นใคร เห็นเป็นตัวอะไรกันแน่....ฮึก

     

     

     

    หลังเลิกเรียน...

     

    ขาเรียวเดินมาหาเซฮุนที่ตึกเรียนอีกครั้ง หวังจะกลับไปบ้านด้วยกัน แต่พอไปถึงที่ห้อง...ก็ไร้วี่แววคนที่ตามหาอย่างเคย
     

    “เซฮุนล่ะไค?”

    “รายนั้นออกจากห้องไปนานแล้วพี่ รีบไปไหนก็ไม่รู้”

    “อ่าๆ ขอบใจนะ”
     

    เดินคนเดียวกลับบ้านเหมือนกับวันก่อนๆ มองไปข้างหน้าก็เจอคู่รักเดินจับมือกันไปตามทางก็ได้แต่ก้มมองดูมือตัวเองไม่ได้ เมื่อไหร่เซฮุนจะกุมมือเราเอาไว้บ้าง...เมื่อไหร่จะเดินโอบไหล่เดินไปไหนมาไหนบ้าง

     

    อยากให้เซฮุนแสดงความเป็นเจ้าของบ้าง...

     

    แล้วสิ่งที่มองเห็นก็ต้องชะงักขาตัวเองเอาไว้ เหมือนกลายเป็นก้อนหินชั่วขณะ

     

    เจอเซฮุนเดินอยู่กับลู่หานอีกแล้ว...

     

    ไปไหนกันนะทั้งสองคน เดินเข้าอยู่ร้านดอกไม้....หน้าตายิ้มแย้มเชียว

     

    มีความสุขจัง...เซฮุนดูมีความสุข

     

    เคยมีคนบอกว่า เราควรยินดีที่คนที่เรารักมีความสุข

     

    แต่ทำไมน้ำตาถึงไหลไม่หยุด...

     

    เดินไปถามเลยดีมั๊ย...เอาให้เรื่องมันเคลียร์ไปเลยดีรึเปล่า ถามให้รู้เรื่องกันตรงๆไปเลยเถอะแบคฮยอน อย่าปล่อยให้เรื่องมันค้างคาในใจแบบนี้ เดินตรงไปสิ เดินไปหาเซฮุนกับลู่หานเลย...

     

    ร่างกายมันไม่ได้ทำอย่างนั้น...มือดันปาดน้ำตาทิ้ง เก็บความน้อยใจเสียใจลึกๆเอาไว้แล้วหันหลังกลับไป เดินไปยังบ้านของตัวเองแทน มันเหมือนกับกลไกปกป้องตัวเองจากความเจ็บปวด กำลังหลบหนีจากเรื่องที่โหดร้ายกับสภาพจิตใจ ยังรับไม่ได้...
     

    ขอเวลาอีกหน่อย...ขอเวลานะเซฮุน

     

     

    ตอนดึก...

     

    เซฮุนนา เย็นนี้กลับบ้านเร็วหรอ ไปหาที่ห้องไม่เห็นเจอ

    อื้อ ต้องรีบกลับไปซ้อมกีต้าร์

    กลับยังไงเนี่ย กลับคนเดียว?

    ก็กลับคนเดียวเหมือนทุกที

    จริงหรอ?

    อื้อ ถามทำไมหรอครับ?

    เปล่าๆ ไม่ได้กลับบ้านกับนายนานแล้วอ้ะเลยถามเฉยๆ

    พี่แบคทำอะไรอยู่?

    กำลังจะนอนอะ นอนพร้อมกันนะๆ

    นอนก่อนเลยครับ ผมซ้อมดนตรีอยู่

    ฝันดีนะเซฮุนนา พี่รักนายนะ

     

    ไม่มีการตอบกลับ...แค่อ่านเฉยๆ

     

    อืม...แค่นี้ก็รู้ละ
     

    ที่ถามเพราะอยากรู้เฉยๆว่าจะตอบยังไง...ไม่น่าจะโกหกกัน...

     

    แบคฮยอนหยิบรูปที่ถ่ายคู่กับเซฮุนบนหัวเตียงขึ้นมาดู มองคนในนั้นด้วยแววตาตัดพ้อ จะหมดแล้วนะสำหรับความอดทน...จะไม่เหลือแล้วนะสำหรับความเชื่อใจ ถ้าไม่มีอะไรทำไมต้องโกหกกัน ทำอะไรกันอยู่? ลับหลังพี่มีอะไรอยู่กันแน่ เซฮุนนายทำแบบนี้ทำไม...

     

    รู้สึกเหมือนโดนหักหลัง...เหมือนโดนหลอก

     

    ทุกครั้งทนได้...แต่ก็ใช่ว่าจะทนได้เสมอไป ทุกๆอย่างย่อมมีขีดจำกัดเสมอ

     

    ก้อนหินก้อนใหญ่ที่เคยคงทนมาตลอด...อีกไม่นานกำลังจะพังทลายลง

     

    เพราะคนบางคน...กำลังจะทุบมันเองกับมือ

     

     

    วันนี้วันเดทแล้วนะ....

     

    แบคฮยอนยืนรอเซฮุนอยู่ที่โซลทาวเวอร์ตั้งแต่เช้า กางเกงยีนส์สีซีดเสื้อยืดลายน่ารัก มือถือกล่องกับข้าวเอาไว้ด้วย ก็วันนี้วันเดทนี่นา จะขาดกับข้าวอร่อยๆฝีมือเขาได้ยังไง ถึงไม่ได้แต่งตัวอะไรมาก แต่ก็แอบตื่นเต้นไม่น้อย อยากให้เซฮุนเห็นเขาในชุดที่ดีที่สุด อยากให้เห็นว่าเขาดูดี แต่ผู้ชายตัวเล็กๆคนนึงทำได้อย่างมากก็แค่แต่งตัวออกมาแล้วน่ารัก...วันนี้แบคฮยอนน่ารักมากจริงๆ ก่อนออกจากบ้านคุณแม่ยังแซวอยู่เลย
     

    เซฮุนจะชอบมั๊ยนะ....
     

    เซฮุนจะชมเขามั๊ยนะ...
     

    อ่า...ไม่เอาละ ตื่นเต้น

     

    บ่อยครั้งที่เหลือบมองนาฬิกา เข็มของมันก็เดินไปเรื่อยๆตามหน้าที่ ไร้วี่แววว่าเซฮุนจะมาตามที่นัดเอาไว้

     

    คนนับร้อยนับพันเดินผ่านแบคฮยอนไป แต่แบคฮยอนก็ยังยืนอยู่ที่เดิม รอใครบางคนอยู่ตรงนั้น

     

    เดินไปนั่งรอที่เก้าอี้สาธารณะใกล้ๆ เหลียวซ้ายแลขวามองไปรอบๆเผื่อจะเจออีกคน

     

    “ฮัลโหล เซฮุน นายอยู่ไหนแล้ว?”

    “ผมอยู่สนามบาส พี่มีอะไรหรอ?”

    “วันนี้มีเดทของเรานะ...นายไปทำอะไรที่สนามบาส” แบคฮยอนแทบจะปล่อยโทรศัพท์หล่นจากมือ

    “จริงสิ ลืมไปเลย รอผมแป้บนะ ผมมีซ้อมบาสอะ...เดี๋ยวผมไปหาพี่นะครับ”

    “อื้ม จะรอนะ”

     

    ลืมไปเลย...

     

    ลืมไปเลย...

     

    เซฮุนลืมนัดเดทของเรา...

     

    เซฮุน ลืม เดท ของ เรา

     

    อืม....ทำไงได้ ก็ต้องรอน่ะสิ ได้แต่รอ...รอต่อไป นั่งรออยู่ที่นั่นคนเดียวไปอีกหลายชั่วโมง มองโทรศัพท์สลับกับนาฬิกาไปมา เลื่อนๆเล่นอินเทอร์เน็ตแก้เบื่อแล้วยังไม่มาซักที รอจนท้อ รอจนเหนื่อยใจ น้ำตาจะไหลอยู่รอมร่อเมื่อได้ยินประโยคที่เซฮุนบอกว่าลืมซ้ำไปซ้ำมา แอบคิดน้อยใจว่าเคยบ้างมั๊ย...เดทของพี่เคยสำคัญพอให้นายจำบ้างมั๊ย

     

    เคยสำคัญบ้างรึเปล่า....

     

    หรือแค่สำคัญตัวผิดไปเองตั้งแต่แรก

     

    “ฮัลโหลเซฮุน ว่าไง...มาได้รึเปล่า?”

    “ตอนนี้คงยังไม่ได้หรอกพี่ ขอเป็นบ่ายๆได้มั๊ยอะ พี่รอไหวมั๊ย?”

    “อื้อ....รอได้ๆ”

     

    จากตอนเที่ยงเลื่อนไปเป็นตอนบ่าย ตะวันคล้อยไปตามเวลา เงาของต้นไม้ทอดยาวไปเรื่อยๆ สายลมพัดเอื่อยๆชวนให้ง่วงนอน แบคฮยอนนั่งรอเซฮุนอยู่ตรงนั้นไม่ไปไหน สัปหงกอยู่ตรงม้านั่ง มือก็ถือกล่องข้าวเอาไว้ไม่ห่างกาย วันนี้ทั้งวันก็ได้แต่รอเซฮุน สะดุ้งตื่นขึ้นมาอีกทีก็ตอนค่ำเข้าไปแล้ว แสงแดดเริ่มหายลับขอบฟ้าไป ตัดสินใจโทรหาเซฮุนอีกครั้ง

     

    “เซฮุนนา อยู่ไหนแล้ว?”

    “เลิกซ้อมแล้วครับ ยังรออยู่รึเปล่า ถ้าไม่ไหวพี่กลับก่อนก็ได้นะ”

    “อ่า...พี่จะกลับแล้วแหละ ไม่ต้องมาก็ได้ มันเย็นแล้ว เซฮุนคงจะเหนื่อย พักผ่อนเถอะ”

     

    ใช่...พักผ่อนเถอะ แล้วตัวเองก็ควรพอได้แล้ว ให้หัวใจได้พักผ่อนบ้างแบคฮยอน

    เหนื่อยกับการวิ่งตามแล้ว ตามนายไม่ทันแล้วเซฮุน เราห่างกันเกินไปแล้ว

    รอมาทั้งวัน...สุดท้ายแล้วก็ไม่ได้อะไร

    ไม่รอ ไม่ทน ไม่สน ไม่ยุ่ง ไม่อะไรอีกแล้ว

     

    พอกันที...

     

    หมดแล้วความอดทน พี่ขอโทษ...พี่ไม่อยากเป็นแบบนี้อีกแล้ว กับการที่ต้องรอนายมาสาย กับการที่นายผิดนัด กับการที่นายลืมพี่ กับการที่นายมองข้าม และทุกๆอย่างที่เราไม่มีความสุข แบคฮยอนก็แค่เหนื่อยมามากแล้วสำหรับทุกสิ่งทุกอย่าง แล้ววันนี้แบคฮยอนก็ควรจะพอ

     

    หยุดรักเซฮุนแล้วรักตัวเองซะเถอะ....เหนื่อยพอแล้วหัวใจ

     

    “ฮึก...คนบ้า เซฮุนคนบ้า คนผิดสัญญา”

    “พี่แบค...พี่เป็นอะไร เฮ้...อย่าร้องไห้...”

    ไม่ทันที่จะฟังเซฮุนพูดให้จบประโยคก็วางสายไป ลุกขึ้นปาดน้ำตาที่ไหลลงมาไม่หยุด ปาดทิ้งยังไงๆก็ยังไหลลงมาอยู่ดี เดินถือกล่องข้าวลุกออกไปจากที่ตรงนั้น รีบกลับบ้านให้เร็วที่สุด แบคฮยอนไม่อยากอยู่ที่นี่ อยากกลับบ้าน ไม่อยากเจอใคร ไม่อยากให้ใครเห็นตนเองในสภาพแบบนี้

     

    อะไรที่เก็บเอาไว้มากๆพอถึงเวลามันก็จะระเบิดออกมา...

     

    และเมื่อถึงเวลานั้น...ก็อย่าหวังว่าอะไรๆมันจะเหมือนเดิม

     

    “พี่แบคฮยอน แฮ่กๆ เดี๋ยว รอผมก่อน!

    เสียงคุ้นหูตะโกนเรียกอยู่ไม่ไกล แบคฮยอนไม่แม้แต่จะหันกลับไปมอง เซฮุนเรียกอยู่อีกฝั่งถนนแต่ก็เหมือนแบคฮยอนไม่ได้ยิน รีบมองซ้ายมองขวาข้ามถนนมาหาคนตัวเล็กที่เอาแต่หลับหูหลับตาเดินก้มหน้าหนีเขาไป มือหนาดึงแขนเล็กเอาไว้ไม่ยอมปล่อยแม้ว่าแบคฮยอนจะสะบัดทิ้งแค่ไหนก็ตาม ดื้ออยู่ซักพักก็ยอมสงบลงแต่โดยดี
     

    “ไม่ต้องรีบมาก็ได้นี่เซฮุน...พี่กำลังจะกลับ...ฮึก...พอดี”

    “โอ๋ๆไม่เอาอย่าร้องไห้นะครับ ผมขอโทษ ผมก็มาแล้วนี่ไงครับคนเก่ง หยุดร้องไห้นะ”

    “อื้อ....หยุดร้องไห้ก็ได้”
     

    มือหนาเอื้อมมาเช็ดน้ำตาให้คนตัวเล็กอย่างทะนุถนอม น้ำตาเม็ดโตไหลผ่านมือไปหยดแล้วหยดเล่า จนในที่สุดก็หยุดไป ดวงตาแดงก่ำมองเซฮุนนิ่งไม่สื่ออารมณ์อะไรชวนให้เซฮุนใจหายอย่างบอกไม่ถูก ได้แต่ยิ้มเข้าสู้พลางชวนคนรักตัวเล็กคุยเรื่อยเปื่อย
     

    “เก่งมากครับพี่แบคฮยอน ดูสิตาช้ำหมดเลย”

    “อื้อ....”

    “วันนี้ผมรีบมาหาพี่เลยนะ ผมมีอะไรจะบอกด้วยล่ะ ผมว่าพี่จะต้องอยากฟังแน่ๆ”

    “พี่ก็มีอะไรอยากจะบอกเหมือนกัน....”

    “งั้นบอกพร้อมกันมั๊ยครับ...คิดว่าอาจจะเป็นคำๆเดียวกันก็ได้นะ” เซฮุนยิ้มให้แบคฮยอน

    “ก็เอาสิ...”

    “พี่แบคฮยอน ผมรักพี่ / เซฮุน เราเลิกกันเถอะ”
     

    ประโยคสองประโยคถูกเอ่ยออกมาพร้อมกันจากคนสองคน ความหมายมันช่างต่างกันเหลือเกินราวกับฟ้ากับเหว เซฮุนยืนนิ่งค้างไม่คิดว่าจะได้ยินประโยคนี้จากปากของคนตัวเล็ก ดอกไม้ช่อโตถูกยื่นค้างไว้แบบนั้น แบคฮยอนไม่ได้รับมันไปถือเอาไว้อย่างที่คิดไว้แต่แรก แบคฮยอนก็ไม่ได้คิดว่าเซฮุนจะพูดคำนี้ออกมา แบคฮยอนก็ได้แต่ก้มหน้าหลบตาคนตัวสูงก็เท่านั้น
     

    “ขอบคุณที่พูดคำนี้ให้พี่ได้ยินนะ...แต่พี่คิดว่ามันคงสายเกินไปแล้วล่ะ ขอบคุณสำหรับทุกๆอย่าง พี่เหนื่อย...พี่ไม่ไหวแล้วกับการเดินตามหลังนาย เซฮุนรู้มั๊ย...นายไม่เคยใส่ใจพี่เลย ไม่เคยเห็นพี่เลย ไม่เคยมองพี่เลยว่าพี่รู้สึกยังไงอยู่ เคยบ้างมั๊ยที่จะถามพี่ว่ารู้สึกยังไง เคยใส่ใจบ้างมั๊ยว่าพี่ชอบกินอะไรไม่ชอบกินอะไร เคยบ้างมั๊ยเทคแคร์ไปรับไปส่งพี่ เคยบ้างมั๊ยที่จะจับมือกันคุยกันเล่นๆก่อนนอนบอกฝันดีทุกคืน ...ทุกอย่างนายปล่อยละเลย...นายไม่เคยสนใจมัน พี่ขอโทษ พี่ผิดเองแหละทีอดทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว พี่คิดว่าพี่เหนื่อยเกินไป....”
     

    “พี่แบคฮยอน...ผม...ผมขอโทษ”

    “ต่อแต่นี้ไปดูแลตัวเองดีๆนะ พี่คงไม่มีโอกาสนั้นอีกแล้ว ลาก่อน”

    “ไม่!!!พี่แบคฮยอนรอเดี๋ยวก่อน อย่าทิ้งผมไป”

     

    เซฮุนทำได้เพียงตะโกนเรียกแบคฮยอนที่เดินห่างออกไปเรื่อยๆ แผ่นหลังของแบคฮยอนเล็กลงเรื่อยๆจนในที่สุดก็ลับสายตาไปโดยที่เซฮุนทำอะไรไม่ได้แม้เพียงคว้าเอาไว้ ได้แต่มองช่อดอกไม้ในมืออย่างเสียใจ คิดทบทวนต่างๆนานาว่าเขาผิดพลาดอะไรบ้างก็ได้คำตอบ ไม่เคยเลยที่จะใส่ใจคนตัวเล็กข้างกาย...เพียงเพราะคิดว่าคนตัวเล็กเข้าใจและคงจะอดทนได้มากกว่านี้ แต่เขาลืมไปว่าคนเราก็มีหัวใจย่อมต้องการการดูแลเอาใจใส่ ผิดเองที่เฉยชา ผิดเอง...เซฮุนผิดเอง

     

     

    เฮือก!!!!

     

    ร่างหนาโผลุกขึ้นจากเตียงเหงื่อท่วมตัว หันซ้ายหันขวาก็พบว่าตัวเองนอนอยู่ในห้องของตัวเองไม่ใช่ข้างฟุตบาทแต่อย่างใด นี่ฝัน? เซฮุนฝัน? ทำไมมันเป็นฝันที่เหมือนจริงอะไรแบบนี้ รู้สึกใจเสียจริงๆ....
     

    หรือจะเป็นฝันบอกเหตุ...

     

    ก๊อก...ก๊อก...ก๊อก....

    “เซฮุน...แบคฮยอนมาหาน่ะลูก รีบลงไปสิ”

    “ครับแม่”
     

    เซฮุนรีบอาบน้ำแต่งตัวแล้วลงไปข้างล่างให้เร็วที่สุด เห็นคนตัวเล็กคุ้นตากำลังนั่งคุยกับแม่ของตัวเองอย่างสนุกสนานก็โล่งใจ ความฝันมันก็แค่ความฝันล่ะนะ....
     

    แต่ก็ดีเหมือนกัน จะได้เตือนใจให้ดูแลเอาใจใส่คนข้างกายคนนี้บ้าง ก่อนจะเสียเขาไป....
     

    ไม่อยากเสียคนที่เป็นดั่งหัวใจของเขาไป...

     

    เดินออกจากบ้านแล้วไปโรงเรียนพร้อมกัน มือหนากุมมือเล็กเอาไว้ไม่ห่างพร้อมกระชับเอาไว้ตลอดจนแบคฮยอนอดมองไม่ได้ วันนี้เซฮุนเป็นอะไรกันเนี่ย แปลกแฮะ
     

    “พี่แบคฮยอน....มีอะไรจะบอก”

    “หืม...อะไรล่ะ?”
     

    ใบหน้าจิ้มลิ้มเอียงหูไปใกล้ๆเมื่อเซฮุนทำท่าเหมือนจะพูดอะไรที่เป็นความลับ เสียงกระซิบเบาๆทำเอาแบคฮยอนหน้าแดงเป็นลูกตำลึงสุกไม่ได้ ก็จะอะไรซะอีก...เซฮุนน่ะ....เซฮุนเค้า...
     

    “รักนะครับพี่แบคฮยอน อยู่กับผมตลอดไปเลยนะ”

    “อื้อ....คนบ้า -//////-“

     

    แบคฮยอนก็รักเซฮุนเหมือนกัน รักขนาดนี้จะให้ไปไหนได้ล่ะ

     

    เอาเป็นว่า ความฝันในครั้งนี้มันทำให้เซฮุนได้สติ ควรจะดูแลพี่แบคฮยอนให้ดี จะได้ไม่เสียคนที่รักคุณที่สุดไป แบคฮยอนมีเซฮุน เซฮุนมีแบคฮยอน ทุกวันนี้ก็โอเคแล้ว เราสองคนจะจับมือกันเดินไปด้วยกัน เซฮุนจะทำทุกอย่างเพื่อให้ได้อยู่กับแบคฮยอนได้มากที่สุด ทำทุกอย่างทดแทนวันเวลาที่เสียไป...

     

    อยู่ด้วยกัน...ไปนานๆเลยนะครับพี่แบคฮยอน ที่รักของเซฮุน

     

    รักนะครับหมาน้อย

     

    ถึงมันจะเป็นแค่ความฝัน....แต่ในความฝันย่อมมีจิตใต้สำนึกของคนเราเสมอนั่นแหละ ในที่สุดเซฮุนก็รู้ใจตัวเองและรู้ว่าควรเอาใจใส่คนข้างๆบ้าง เห็นความสำคัญของคนที่รักเราเสมอ

     

    เซฮุนพร้อมที่จะเป็นผู้ชายของพี่แบคฮยอนเต็มรูปแบบแล้ว

     

    ต่างคนต่างรักกันอย่างเสมอต้นเสมอปลาย...แบบนี้สิถึงจะเรียกว่าความสุข

     

    ความสุขเล็กๆที่มีกันและกัน

     

    แบคฮยอนมีเซฮุน เซฮุนมีแบคฮยอน...รักกันตลอดไป



     

    ***************************************


    เอาช็อตฟิคมาขัดดอกก่อนค่ะ 555555

    ช่วงนี้เค้าไม่ค่อยว่างนะ เปิดเทอมแล้ว เหนื่อยมากเลย

    ขออนุญาตดองนิดๆนะคะ 555555

    แต่เค้าไม่ทิ้งฟิคเรื่องนี้แน่นอนน้า จะพยายามมาอัพค่ะ

    เอนจอยรีดดิ้งค่ะ จุ๊บๆ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×