คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : o n e d a y 1.3
One Day 1.3
“พี่แบค กลับกับผมแบบนี้ไม่เป็นไรแน่หรอ?”
“วันๆนั่งแต่รถยนต์มันก็น่าเบื่อออก อยากซ้อนท้ายจักรยานมั่งไรมั่ง ประหยัดน้ำมันลดโลกร้อนไง”
“แต่ผมกลัวคุณลุงจะว่าเอา”
“ไม่หรอก ถ้าพ่อของพี่ดุนายพี่จะปลอบนาย ถ้าพ่อของพี่ตีนายพี่ก็จะทายาให้นาย พี่จะรับผิดชอบเอง”
“ผมกลัวคุณลุงจะดุพี่ต่างหากล่ะ ยิ่งเตี้ยๆอยู่ถ้าถูกดุถูกตีคงจะเตี้ยไปใหญ่ ฮ่าๆๆๆ”
“ว่าพี่หรอเซฮุน นี่แน่ะๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ”
“โอ๊ยๆๆอย่าหยิกเอวผมสิ ผมขี่จักรยานอยู่นะ ซนจริงๆ กอดเอวผมไว้จะได้ไม่ตก ทราบแล้วเปลี่ยน!”
“รับทราบแล้ว ไม่เปลี่ยน จะกอดนายไว้ให้แน่นๆเลยJ”
“อืม...สรุปก็คือพี่คนน่ารักคนนั้นรู้จักเซฮุน”
“ใช่ๆ เห็นลู่หานว่าอย่างนั้น แล้วนี่ก็มาตามจีบไอ้ฮุนด้วย”
“โห้ยยยย อะไรกัน ผมหล่อกว่าแยะเลย ฮุนแม่งเลวอะพี่เฉิน มันทำให้พี่คนนั้นชอบมันแทนที่จะเป็นผม T^T”
อ้าว นินทากันยังไม่พอยังจะมาด่าอีก เซฮุนแทบจะกระโดดถีบยอดหน้าหล่อๆของเทาที่กำลังนินทาใส่ร้ายป้ายสีเขาอย่างเกินจริง พี่เฉินก็อีกคนยังจะหัวเราะเออออห่อหมกไปกับมัน นี่ว่างกันนักสินะ - - เซฮุนจะฟ้องลูกพี่ซูโฮหักเงินเดือนทั้งสองคน ข้อหาทำร้ายคนอื่นทางวาจาโดยมิชอบ ผิดศีลด้วย
“น้อยๆหน่อยไอ้เทา กูได้ยินนะครับ”
เซฮุนกระแอมก่อนจะพูดแซะกลุ่มนินทาเบาๆทำเอาทั้งสองคนแตกกระจายกันไปคนละทิศละทาง ตอนนี้ก็เวลาสองทุ่มกว่าๆแล้ว พนักงานทุกคนเพิ่งจะได้พัก เนื่องจากช่วงเย็นลูกค้าจะเข้ามาเยอะมากหลายรุ่นหลายวัย บาริสต้าอย่างพวกเขาเลยต้องทำตัวกระฉับกระเฉงเป็นพิเศษ เพื่อให้ความต้องการของลูกค้าได้รับการบริการอย่างรวดเร็วและเป็นที่พึงพอใจ
มีอยู่บ้างที่ทำงานจนลืมไปว่ามีคนที่เขาอยากจะหนีไปมากที่สุดนั่งอยู่ในร้านด้วย
แต่ก็แค่แป๊บเดียว เพราะสายตาบ้านี่ชอบจะเหลือบมองตลอด หรือบางทีถ้าไม่เห็น คอก็ชะเง้อมองหาอีกต่างหาก
เซฮุนอยากจะควักลูกตาทิ้ง แต่ก็ไม่ได้ แล้วจะเอาอะไรมอง
อยากจะตัดคอทิ้ง ก็ไม่ได้ เดี๋ยวก็ตายกันพอดี
คนหล่อกลุ้มโว้ยครับ!!
ซิ่วหมินเดินเข้าไปหาลูกค้าโต๊ะสุดท้ายของร้าน ซึ่งนั่นก็คือแบคฮยอน เนื่องจากใกล้เวลาปิดร้านเต็มที แต่เจ้าตัวก็ยังนั่งอยู่ไม่ไปไหน เท่าที่ซิ่วหมินสังเกต แววตาของแบคฮยอนจะจับจ้องอยู่ที่เซฮุนเสมอตลอดเวลา ไม่ว่าร่างสูงจะทำอะไรแบคฮยอนจะมองตามไป มีบ้างที่เผลอสบตากันกับเซฮุนอย่างไม่ได้ตั้งใจ แบคฮยอนพยายามยิ้มให้เสมอ แต่เซฮุนก็ทำหน้าเมินเฉยใส่ตลอด ซิ่วหมินเองก็ไม่ได้รู้ตื้นลึกหนาบางเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของทั้งสองคนนี้ แต่ถ้าให้เดา เมื่อก่อนทั้งสองคนคงจากกันด้วยเหตุการณ์ที่ไม่ค่อยดีแน่ๆ
“คุณครับ คุณ คุณลูกค้าครับ”
“ค...ครับ”
นิ้วอวบเอื้อมไปสะกิดไหล่แบคฮยอนสองสามครั้งเมื่อพบว่าตัวเองเรียกเท่าไหร่ก็ไม่หันซักที ใบหน้าเรียวสะดุ้งตกใจก่อนจะหันมาพบว่ามีคนยืนอยู่ข้างๆเขา แบคฮยอนตอบกลับไปอย่างตะกุกตะกักเพราะกำลังคิดเรียบเรียงคำพูดไม่ทัน ใครจะไม่ตกใจบ้างเล่า จู่ๆก็โผล่มาอยู่ข้างๆแบบนี้
“ใกล้เวลาปิดร้านแล้วนะครับ”
ซิ่วหมินชี้ไปทีป้ายที่อยู่ประตูหน้าร้าน เวลาปิดของร้านคือสามทุ่ม แล้วตอนนี้ก็เวลาสองทุ่มครึ่งแล้ว แบคฮยอนเองก็พยักหน้าเข้าใจก่อนจะลุกขึ้นไปที่เค้าท์เตอร์คิดเงิน ซิ่วหมินมองตามยิ้มๆ ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเทาถึงได้ชมนักชมหนาว่าคนๆนี้น่ารัก ท่าทางที่ดูไร้เดียงสามองโลกในแง่บวกตลอด ยิ้มแย้มร่าเริง รูปร่างตัวเล็กน่ารัก ใบหน้าจิ้มลิ้ม ไม่ว่าคนๆนี้จะทำอะไรล้วนน่ามองไปหมด
ทำไมเซฮุนถึงไม่ชอบคนๆนี้กันนะ ก็ได้แต่คิดในใจ...
แบคฮยอนเปิดกระเป๋าสตางค์แล้วยื่นบัตรเครดิตให้ลู่หาน ซึ่งตอนนี้ทำหน้าที่เป็นพนักงานคิดเงิน ใบหน้าจิ้มลิ้มก็ชะเง้อมองหาเซฮุนไปทั่วร้าน ไม่อยากจะให้คลาดสายตาแม้วินาทีเดียว แต่ตอนนี้เซฮุนก็หายไปไหนแล้วก็ไม่รู้ หายตัวไวอย่างกับพ่อมดเลย L
“อ่า แบคฮยอน เครดิตใบนี้มันใช้ไม่ได้น่ะ”
เสียงหวานของลู่หานเรียกแบคฮยอน ใบหน้าจิ้มลิ้มหันมามองอย่างงงๆ มันจะใช้ไม่ได้ได้ยังไงกัน ก็ในเมื่อวงเงินในบัตรใบนี้มันน่าจะมีมากพอสำหรับค่าอาหารตลอดเดือนด้วยซ้ำ คิ้วสวยขมวดเป็นปมให้ยุ่ง มือเรียวค้นหาบัตรเครดิตอีกใบส่งไปให้ลู่หาน ผลก็ออกมาเป็นเช่นเดียวกับใบแรก ใช้ไม่ได้...
ใบที่สาม ใบที่สี ก็เป็นเหมือนกัน บัตรเครดิตใช้ไม่ได้ แล้วคนที่ทั้งชีวิตใช้แต่บัตรเครดิตตลอดจะทำยังไง?
ใครจะว่าลูกคุณหนูก็ช่างเถอะ ที่ผ่านมาแบคฮยอนถูกเลี้ยงอย่างตามใจมาตลอด การเงินก็ไม่เคยขาด หรือทุกทีถ้ามีปัญหา คนอื่นๆก็จะจัดการให้ ไปไหนมาไหนก็ใช้แต่บัตรเครดิตเพราะพกพาสะดวก ทำให้แบคฮยอนค่อนข้างจะทำอะไรไม่ถูกเมื่อเจอเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดเพียงลำพัง
ทำไม?????
“เอ่อ...คือผม ผมไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม มันน่าจะมีอะไรผิดพลาด..คือ...ทำไงดี” ( . .)
คำถามแรกผุดขึ้นมาในหัว คำถามที่สองสามสี่ห้าก็ตามมาติดๆ แบคฮยอนเริ่มใจเสีย คิดอะไรไม่ออก ก้มหน้าหลุบตาลงต่ำเหมือนทุกครั้งที่โดนดุหรือว่าทำอะไรผิด มันไม่เหมือนสมการคณิตศาสตร์ที่เวลามีปัญหาแล้วใช้สูตรมันก็จะแก้ได้ถูกต้อง นี่ไม่ใช่ข้อสอบที่เวลาทำผิดก็แค่หักคะแนนแล้วกลับไปทำใหม่ แต่นี่มันคือชีวิตจริงที่เราต้องเผชิญ ใบหน้าจิ้มลิ้มเหยเกอย่างกับจะร้องไห้เสียอย่างนั้น จนลู่หานเริ่มจะร้อนรนไปด้วย หันไปหาซิ่วหมินเพื่อขอความช่วยเหลือ ด้วยความที่เป็นพี่ใหญ่จึงตั้งสติได้ก่อนใคร ซิ่วหมินเลยถามแบคฮยอนไปว่า
“แบคฮยอนลองค้นกระเป๋าดูดีๆสิ พอมีเงินสดอยู่บ้างไหม?”
ได้ยินซิ่วหมินพูดอย่างนั้น แบคฮยอนถึงกับร้องอ๋อเลยทีเดียว ทำไมเรื่องง่ายๆแค่นี้ถึงคิดไม่ออกนะ
“แล้วทั้งหมดเท่าไหร่หรอครับ...พี่ลู่หาน”
“70,800 วอนครับ”
เป็นอีกครั้งที่มือเรียวของแบคฮยอนชะงักกึก ร่างเล็กพยายามค้นหาทุกซอกทุกมุมของกระเป๋าสตางค์จนแทบจะเทของออกมาทั้งกระเป๋า รื้อๆค้นๆอยู่นานจนคนรอคิดเงินเริ่มจะลุ้นตามไปด้วย สุดท้ายแล้วแบคฮยอนก็ถอดใจ หยิบธนบัตร 500 วอนออกมาจากกระเป๋าแล้ววางไว้บนเค้าท์เตอร์
“ผม...มีแค่นี้แหละครับ T^T”
ดวงตาเรียวเล็กเริ่มมีน้ำใสๆมาเกาะปริ่มคลอหน่วงอยู่ในนั้น ไม่เคยเลยที่จะเจอกับปัญหากินแล้วเงินไม่พอจ่าย ร่างเล็กที่เล็กอยู่แล้ว มาถึงตอนนี้ก็ยิ่งรู้สึกตัวเล็กลงไปอีก มือไม้เริ่มสั่นกลัวอย่างควบคุมไม่อยู่ ในหัวก็จินตนาการต่างๆนานาว่าตนจะเป็นอย่างไรบ้าง ตั้งเจ็ดหมื่นกว่าวอน แต่ทั้งเนื้อทั้งตัวเขามีปัญญาจ่ายแค่ห้าร้อยวอน แล้วหนี้ที่เหลือจะไปหามาจากไหน ไม่ใช่ว่าต้องเข้าคุกติดตารางหรอกนะ ในคุกมันมืด..แบคฮยอนกลัวผี
ทำไมรู้สึกว่าตัวเองสร้างแต่ปัญหา...
เกลียดความไม่เอาไหนของตัวเองที่สุดเลย
“มีอะไรกันหรอครับ?”
เซฮุนเดินออกมาจากหลังร้าน ร่างสูงเห็นคนมุงกันอยู่ตรงเค้าท์เตอร์จ่ายเงินก็เดินเข้าไปดู เห็นร่างเล็กคุ้นตากำลังก้มหน้าก้มตาคุยกับพื้นไม่ยอมสบตากับใคร เฉินที่หันมาเจอกับเซฮุนพอดีจึงกวักมือเรียกเข้าไปหา
“เหมือนน้องเขาโดนอายัตบัตรเครดิตน่ะ แล้วในกระเป๋าของน้องเขาก็มีเงินสดไม่พอจ่ายด้วย”
เซฮุนได้ยินดังนั้นจึงหันควับไปมองแบคฮยอนทันที ร่างสูงเดินเข้าไปหาแบคฮยอนก่อนจะตะคอกด้วยน้ำเสียงดุๆ
“พี่แบคฮยอน!! พี่ทำอะไร ต้องการอะไรกันแน่!!”
“คือพี่...พี่ก็ไม่รู้ เหมือนบัตรเครดิตจะถูกอายัต แล้วพี่ก็...”
“รู้รึเปล่าว่าพี่ไม่ควรมาที่นี่ตั้งแต่แรก ทั้งวันพี่ก็เอาแต่สร้างความกังวลให้คนอื่นรู้ตัวบ้างรึเปล่า”
“เซฮุน...ใจเย็นๆสิ” ลู่หานเดินเข้าไปจับไหล่เซฮุนเอาไว้ก่อนจะบอกให้อีกคนใจเย็นลงก่อน
“พี่แบคฮยอนกลับไปเถอะ อย่ามาทำตัวมีปัญหาแถวนี้” เซฮุนพูดเสียงเรียบก่อนจะหันหน้าไปทางอื่น
“ฟังพี่ก่อน.. อ้ะ! เซฮุนไม่เอา ปล่อยพี่”
คำพูดที่ไร้เยื่อใยถูกปล่อยออกมาจากปากคนที่แบคฮยอนรักที่สุด ก่อนที่ทุกคนในร้านจะตกใจมากขึ้นไปอีกเมื่อมือหนาของเซฮุนคว้าแขนเรียวของแบคฮยอนแล้วกึ่งเดินกึ่งลากร่างเล็กของอีกคนให้ออกไป แบคฮยอนขอร้องอ้อนวอนต่างๆนานา อีกทั้งพยายามยื้อยุดตัวเองเอาไว้ไม่ให้เดินไปตามที่อีกคนชักนำ แขนเรียวแดงช้ำไปหมดเนื่องจากแรงบีบ แบคฮยอนรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นแค่ขยะไร้ค่าที่อีกคนกำลังถือออกไปทิ้ง เซฮุนไม่แม้แต่จะหันมามองหรือฟังเสียงอ้อนวอนของเขาด้วยซ้ำ ไม่ว่าจะพูดอะไรยังไงผลมันก็แค่นั้น เป็นเหมือนอากาศที่ล่องลอยหายไป
ตลอดเวลาที่เซฮุนทำงานในร้านนี้ ทุกคนไม่เคยเห็นร่างสูงเป็นแบบนี้มาก่อน ถึงแม้จะดูนิ่งเงียบไม่พูดไม่จาอะไร แต่ก็ไม่คิดว่าเซฮุนจะใจร้ายได้ขนาดนี้ ซิ่วหมิน ลู่หาน เฉิน เทา ทุกคนกำลังตกใจกับเหตุการณ์ตรงหน้าอยู่ จนเมื่อได้สติก็รีบวิ่งออกไปหน้าร้านทันที เป็นจังหวะเดียวกับที่เซฮุนเหวี่ยงแบคฮยอนออกไปจนร่างบางล้มกระแทกพื้นไม่เป็นท่า ส่วนเจ้าตัวการก็เพียงแต่ยืนมองคนบนพื้นด้วยแววตาโกรธๆ
กับผู้ชายตัวเล็กๆแค่คนเดียวถึงกับต้องทำขนาดนี้เลยรึไง...
“พี่แบคกลับไปได้แล้วครับ ส่วนค่าใช้จ่ายผมจะจ่ายให้เอง แล้วก็ไม่ต้องมาที่นี่อีก อย่ามาก่อเรื่องที่นี่อีก!”
“เห้ยไอ้ฮุน กูว่ามึงทำเกินไปแล้วนะ” เป็นเทาที่เดินมากระชากไหล่เซฮุนให้หันมาทางตัวเอง แววตาของเทาตอนนี้ก็ไม่มีท่าทางจะล้อเล่น พี่แบคฮยอนก็ไม่เห็นจะทำอะไรผิดมากมายจนเกินอภัย แล้วทำไมไอ้บ้านี่จะต้องทำรุนแรงด้วย ทำเหมือนคนตัวเล็กๆนี่เป็นเหมือนหมูเหมือนหมา เห็นแบบนี้เทาก็รักความยุติธรรมนะครับ
ทางด้านลู่หานกับซิ่วหมินก็วิ่งไปประคองแบคฮยอนอีกแรง ช่วยกันพยุงคนตัวเล็กลุกขึ้นมาก่อนจะปัดฝุ่นออกให้ ซิ่วหมินกับลู่หานรู้สึกได้ว่าคนๆนี้ช่างเปราะบางเหลือเกิน แถมติดจะผอมเกินไปด้วยซ้ำ
“เกินไปตรงไหน กูทำถูกแล้วต่างหากไอ้เทา”
“ไปผลักพี่เขาล้มลงเนี่ยนะทำถูกแล้ว ถ้าพี่เขาเป็นอะไรขึ้นมาจะทำยังไงวะ”
เสียงทะเลาะกันระหว่างเทากับเซฮุนดังขึ้นเรื่อยๆ แบคฮยอนคิดว่าเป็นเพราะตัวเองเป็นต้นเหตุทำให้ทั้งสองคนทะเลาะกัน ถ้าเขาไม่มาที่นี่ ไม่มาก่อเรื่องที่นี่ ไม่มาหาเซฮุน ทุกๆคนคงจะไม่เดือดร้อนเพราะเขา น้ำตาใสไหลออกมาเป็นทางอย่างไร้เสียง เนื่องจากเจ้าตัวพยายามอย่างยิ่งที่จะกลั้นก้อนสะอื้นเอาไว้ ซิ่วหมินกับลู่หานเห็นท่าไม่ดี แต่ก็ทำได้แค่ลูบหลังปลอบให้แบคฮยอนหยุดร้องไห้ก็เท่านั้น เฉินเดินเข้าไปกั้นกลางระหว่างเซฮุนกับเทาไว้เพราะกลัวว่าทั้งสองคนจะทะเลาะชกต่อยกันเข้า
หน่วงจนเกินบรรยายแล้ว....บรรยากาศมันไม่ค่อยดีซะแล้วแฮะ
“ฮือ...พี่ขอโทษ พี่ไม่ได้ตั้งใจ แต่...พี่กลับบ้านไม่ได้หรอก”
แบคฮยอนเค้นเสียงพูดออกมาให้ดังที่สุด เสียงติดออกจะสั่นๆเนื่องจากเจ้าตัวพยายามกลั้นน้ำตา เซฮุนหันขวับมามองตาขวางๆก่อนจะกระแทกเสียงประชดประชัน
“อะไรอีกล่ะ! พี่มีปัญหาอะไรอีกล่ะ!”
เอาอีกแล้ว แบคฮยอนทำให้เซฮุนอารมณ์เสียอีกแล้ว
“พ...พี่ คือพี่..พี่หนีออกจากบ้าน!”
เสียงทะเลาะโหวกเหวกเงียบลงในพริบตา แบคฮยอนหลับตากลั้นหายใจพูดออกไป ทำเอาทุกคนอึ้งกิมกี่ไปหมด แบคฮยอนเม้มปากแน่นก่อนตัดสินใจพูดออกไปอีกว่า
“พี่กลับบ้านไม่ได้ พี่..พี่ละเลาะกับป๊าก่อนจะหนีออกมา โทรศัพท์ก็ไม่มี เสื้อผ้าก็ไม่ได้เตรียม พี่ออกมาแต่ตัวกับกระเป๋าตัง ป๊าคงโกรธพี่มากจนถึงกับอายัตบัตรเครดิตพี่จนหมด แล้วแบบนี้พี่จะกลับบ้านได้ยังไง คงต้องรอให้ป๊าอารมณ์เย็นลงก่อน...เอ่อ...ก็เลย ก็เลยไม่มีที่ไป”
“พี่พูดมานี่จริงหรอ? นี่คือเหตุผลจริงๆของพี่หรอ? เหอะ”
เซฮุนกระแทกเสียงประชดประชัน แบคฮยอนเองก็เอาแต่เงียบหลังจากอธิบายเหตุผลออกไป ไม่กล้าตอบว่าพูดจริงหรือโกหก กลัวพูดอะไรออกไปขัดใจเซฮุนอีก ร่างเล็กก้มหน้าลงพื้นนิ่ง พูดถึงขนาดนี้แล้วเซฮุนก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะใจอ่อน หัวใจของนายกลายเป็นหินไปแล้วรึไงนะ...
“แบคฮยอนอ่า...นายไม่น่าทะเลาะกับพ่อเลยนะ โอ๋ๆ พี่เชื่อนาย”
เป็นซิ่วหมินที่ลูบหัวปลอบแบคฮยอน ลู่หานเองก็พยักหน้าเห็นด้วย ตอนนี้แบคฮยอนดูน่าสงสารเป็นที่สุดในสายตาของซิ่วหมินกับลู่หาน เหมือนลูกหมาตัวน้อยที่น่ารักน่าสงสารและน่าปกป้อง
“แล้วนี่คืนนี้นายจะทำยังไง...ไปนอนห้องพี่ก่อนไหม?” ลู่หานถามด้วยความเป็นห่วง
“ผม...ก็ไม่รู้ครับ”
“พี่ลู่หาน อย่าไปหลงกลสิ” เซฮุนพูดแย้งออกมา ทำให้ได้รับสายตาอาฆาตจากคนสี่คนไป
เอาล่ะ เซฮุนไม่อยากจะยอมรับหรอก ตอนนี้พี่แบคฮยอนกลายเป็นผู้ชนะไปแล้ว ทุกคนเชื่อพี่แบคฮยอนกันหมด!
“เงียบไปเลยเซฮุน ใจร้ายยังไม่พอ นี่จะใจดำไม่ให้แบคฮยอนมีที่นอนเลยรึไง นายนี่นิสัยไม่ดีเลย”ลู่หานพูด
“ใช่ๆๆๆๆ” และหลายๆเสียงก็สนับสนุนลู่หานอย่างเต็มที่ เอาเลย ตอนนี้เซฮุนกลายเป็นปีศาจซาตานใจดำไปแล้ว
“ผม..ผมอยากอยู่กับเซฮุน...ได้ไหม”
“พี่แบคฮยอนจะไปอยู่กับไอ้คนใจร้ายทำไม มาอยู่กับผมดีกว่า”
แบคฮยอนพูดออกไป ซึ่งก็ไม่ได้รับการสนับสนุนเท่าที่ควร เทาที่ตอนนี้หมันไส้เซฮุนอยู่แล้วจึงเสนอให้แบคฮยอนไปนอนที่ห้องของตน ซึ่งเทาก็มั่นใจเป็นไหนๆว่าเขาจะต้องดูแลพี่หมาแบคฮยอนได้ดีกว่าเซฮุนมันอยู่แล้ว
“พี่....พี่อยากอยู่กับเซฮุน พี่ขอโทษนะเทา” ( . .)
หมันไส้! หมันไส้! ไม่ได้หมันไส้พี่แบคฮยอน เทาคนนี้หมันไส้เซฮุนโว้ย อยู่เฉยๆก็มีคนน่ารักมาชอบ T_T
ตอนนี้ทุกสายตากำลังมองกดดันไปที่เซฮุน ซึ่งร่างสูงเองก็ทำไม่รู้ไม่ชี้ปิดปากเงียบ เอาเท้าเขี่ยๆวาดพื้นเล่นอีกต่างหาก แบคฮยอนเริ่มปล่อยโฮออกมาอีกรอบ ทำให้สถานการณ์แย่ลงไปอีก
“ว่าไงเซฮุน”
เป็นลู่หานอีกครั้งที่พูดออกไป ไม่ได้กดดันอะไรหรอกนะ เพียงแค่ส่งสายตาจิกกัดไปให้เต็มพิกัดก็เท่านั้น อีกทั้งร้านก็ยังไม่ได้เก็บกวาด ดึกไปเรื่อยๆแล้ว ถ้าพี่ซูโฮมาแล้วเห็นว่าร้านยังไม่ได้ปิดให้เรียบร้อยล่ะก็โดนบ่นไปอีกสามชม.แน่ๆ ซิ่วหมิน เทา เฉิน เองก็ส่งสายตากดดันไปให้อีกเช่นกัน วินาทีนี้ในเมื่อเจ้าตัวเลือกแล้วว่าจะอยู่กับใคร ก็คงทำได้เพียงแต่บังคับให้เจ้าของห้องรับลูกหมาตัวน้อยๆตัวนี้ไปอยู่ด้วยก็เท่านั้น
“............. เออ ก็ได้วะครับ”
เซฮุนตัดสินใจอยู่นานหลายตลบ พอเงยหน้าขึ้นมาก็เจอสายตาของทุกคนอีก เลือกทางไหนไม่ได้ ก็ต้องจำใจรับไอ้พี่หมาเตี้ยไปอยู่ด้วยก็เท่านั้น
อยากหนีเท่าไหร่ก็หนีไม่พ้น เวรกรรมของโอเซฮุนจริงหนอ....
แบคฮยอนได้ยินดังนั้นก็เงยหน้าขึ้นมามองร่างสูงอย่างไม่เชื่อสายตาและไม่ค่อยอยากจะเชื่อหูตัวเองเท่าไหร่ ใบหน้าจิ้มลิ้มเริ่มร้องไห้อีกครั้ง แต่คราวนี้ร้องไห้เพราะดีใจ ตาเรียวเล็กยิ้มจนตาปิด ริมฝีปากรูปกระจับยกยิ้มขึ้นมากว้างจนโชว์ฟันขาวๆ มือเรียวปาดน้ำตาของตัวเองลวกๆก่อนจะเริ่มหัวเราะดีใจเหมือนคนบ้า ซิ่วหมินกับลู่หานเองก็มองภาพนี้ด้วยความดีใจที่เห็นแบคฮยอนยิ้มได้อีกครั้ง ลูบหลังปลอบเบาๆก่อนจะขอตัวไปปิดร้านซักที
“ขอบคุณนะครับทุกคน ไม่งั้นผมคงแย่...”
แบคฮยอนพูดขอบคุณออกมาอย่างจริงใจ ทุกๆคนดีกับเขามากเลย ทดแทนเท่าไหร่ก็ไม่หมด
“ไม่เป็นไรหรอก เรื่องค่าเครื่องดื่มกับขนมน่ะพรุ่งนี้พี่จะไปพูดกับพี่ซูโฮให้”
เฉินพูดพร้อมกับยกมือขึ้นมากอดไหล่แบคฮยอนเอาไว้ แบคฮยอนหัวเราะแหะๆก่อนที่มือปลาหมึกของเฉินจะโดนมืออวบๆของซิ่วหมินตีดังเพี๊ยะ เผลอไม่ได้จริงๆ หน้าตาออกจะธรรมมะแต่จิตใจมันทำไมราคะแบบนี้วะ
กว่าจะปิดร้านเสร็จก็ปาไปสี่ทุ่ม....ทุกคนแยกย้ายกันกลับบ้าน โชคดีที่วันนี้ซูโฮไม่เข้าร้านเรื่องราวเลยไม่ใหญ่โต ตอนนี้เหลือเพียงแบคฮยอน เซฮุน และลู่หาน
“กลับกันเถอะ ^^”
ลู่หานพูดก่อนจะเดินออกไปรอข้างๆร้านกับแบคฮยอน เซฮุนหายเข้าไปหลังร้านก่อนจะเดินออกมาพร้อมกับจักรยานคู่ใจ แบคฮยอนมองจักรยานคันนี้ด้วยสายตาที่คิดถึง มองแล้วนึกถึงความทรงจำที่เขากับเซฮุนเคยมีด้วยกัน นึกถึงตอนที่แบคฮยอนแอบกลับบ้านกับเซฮุนโดยให้อีกคนขี่จักรยานไปส่ง วันนั้นโดนป๊าดุยกใหญ่ แต่เขาก็ไม่ได้โกรธอะไร เพราะถือว่าได้ทำตามใจของตัวเองแล้ว
นึกไปนึกมาก็คิดถึงช่วงเวเลาแห่งความสุขเหล่านั้นชะมัด...
จักรยานมีแค่คันเดียว แต่คนมีสามคน จะต้องมีคนเดินหนึ่งคนสินะ...
“แบคฮยอนนั่งสิซ้อนท้ายเซฮุนสิ พี่เดินเอง”
ราวกับลู่หานเดาใจแบคฮยอนออก ลู่หานจึงพูดออกมา ร่างบางเดินนำลิ่วไปข้างหน้าโดยที่ไม่รอใคร แบคฮยอนเงยหน้ามองเซฮุนอย่างขอความคิดเห็น แต่แล้วเซฮุนกับทำหน้าเรียบๆส่งมาให้ แบคฮยอนเลยต้องก้มหน้างุดมองพื้นรอบที่ร้อยของวัน
“ขึ้นไปนั่งสิ...พี่ลู่หานรอด้วย!”
แบคฮยอนขึ้นไปนั่งที่ซ้อนท้ายจักรยานอย่างว่าง่าย แต่เซฮุนไม่ได้ขึ้นขี่ กลับเดินเข็นจักรยานตามลู่หานไปติดๆ ระหว่างทางแบคฮยอนนั่งเงียบฟังเซฮุนกับลู่หานคุยกันตลอดทาง ไม่รู้จะเอาตัวเองไปแทรกกลางระหว่างบทสนทนาของสองคนนั้นยังไงดี...เหมือนเป็นส่วนเกิน
ทั้งสองคนคุยกันจนลืมแบคฮยอนโดยสมบูรณ์แบบ
กลายเป็นสิ่งไม่มีชีวิตประกอบฉากของเซฮุนกับลู่หานไปซะแล้ว
นึกภาพว่าทุกครั้งเป็นลู่หานที่ได้ซ้อนท้ายจักรยานคันนี้กลับห้องพักกับเซฮุนทุกวัน เป็นอะไรที่ปวดตรงหัวใจจัง
ที่ตรงนี้เคยเป็นของเรานะ....
ที่ตรงนี้เป็นที่ของแบคฮยอนนะ แล้วคนขี่จักรยานก็เป็นเซฮุน ...แต่นั่นมันเมื่อก่อน
เฮ้อ...คิดแล้วเศร้า ไม่คิดจะดีกว่า หยุดทำร้ายตัวเองได้แล้วแบคฮยอน L
ใช้เวลาไม่นานก็ถึงหอพักของเซฮุนกับลู่หาน แบคฮยอนแปลกใจเล็กน้อยที่ลู่หานพักคนละห้องกับเซฮุน แต่ห้องทั้งสองคนอยู่ตรงข้ามกัน เซฮุนเปิดประตูเข้าไปในห้อง แบคฮยอนก็ยังยืนอยู่หน้าประตูนิ่ง
“เข้ามาสิ ห้องผมไม่ได้มีผีซะหน่อย หรือพี่อยากนอนข้างนอกห้อง?”
แบคฮยอนสะดุ้งเพราะคิดอะไรเพลินๆถึงกับรีบวิ่งเข้าห้องเซฮุนทันที แบคฮยอนมองสำรวจห้องเซฮุน ห้องรกชะมัด... นี่ไม่เก็บไม่กวาดเลยรึไงนะ
“นายไม่ได้อยู่ห้องเดียวกับพี่ลู่หานหรอ...”
“เปล่า”
แบคฮยอนพยักหน้าเข้าใจก่อนจะเดินเข้าไปในห้องนอน เซฮุนเข้าไปอาบน้ำทันทีที่กลับมา แบคฮยอนไม่รู้จะทำอะไรเลยเก็บกวาดห้องรอเจ้าของห้องอาบน้ำเสร็จ ไม่นานเซฮุนก็ออกมาจากห้องน้ำด้วยสภาพเปียกๆพันผ้าขนหนูตัวเดียว แบคฮยอนเลยรีบเบือนสายตาไปมองที่อื่นทันที
เซฮุนเห็นแบบนั้นเลยเผลอหลุดยิ้มโดยไม่รู้ตัว แต่พอรู้สึกตัวก็รีบตีหน้านิ่งไม่ให้อีกคนจับได้ ร่างสูงเดินไปที่ตู้เสื้อผ้ารื้อๆเสื้อตัวเล็กๆกับกางเกงมาให้ แบคฮยอนก็รับไว้แล้วรีบวิ่งไปอาบน้ำทันที
พอออกจากห้องน้ำมาก็พบว่าเซฮุนหลับไปแล้ว...คงจะทำงานหนัก เหนื่อยแย่เลย...
ร่างเล็กเดินเลียบๆไปแถวๆปลายเตียง เลือกไม่ถูกว่าต้องนอนตรงไหน หรือจะนอนโซฟาดีนะ บนพื้นก็ได้ ไม่อยากรบกวนเซฮุนไปมากกว่านี้ คิ้วเรียวขมวดมุ่นก่อนจะเดินไปเดินมา
“จะนอนก็นอนสิ กลัวผมปล้ำรึไง หุ่นแบบนี้ไม่ใช่เสปกผมหรอก”
เซฮุนพูดขึ้นทั้งๆที่หลับตา แบคฮยอนยู่ปากเล็กน้อยก่อนจะกระโดดขึ้นนอนบนเตียงกับเซฮุน ไอ้กลัวโดนปล้ำน่ะไม่กลัว กลัวตัวเองจะไปปล้ำนายนั่นแหละปัญหา... เอ๊ยไม่ใช่ แบคฮยอนใสใสนะครับ ( . .)
มือเรียวเอื้อมไปปิดไฟบนหัวเตียงก่อนจะล้มตัวนอนอีกครั้ง แบคฮยอนนอนพลิกไปพลิกมาเพราะไม่ค่อยคุ้นชินกับการนอนกับใคร ยิ่งเป็นเซฮุนด้วยแล้วยิ่งไม่คิดไม่ฝันไปใหญ่ หัวใจยิ่งเต้นแรงขึ้นเรื่อยๆเมื่อคิดได้ว่าคนที่นอนอยู่ข้างๆเป็นคนที่ตัวเองรัก
อ๊ากกกกกก แบคฮยอนขอกรีดร้องดังๆในใจนะครับ -/- ฟินเว่อร์
นอนไปนอนมาตาเริ่มจะหนักขึ้นเรื่อยๆ จนในที่สุดแบคฮยอนก็เข้าสู่ห้วงนิทราอย่างสมบูรณ์แบบ
***************************************
กว่าจะจบตอน เล่นเอาหอบไปเลยเหมือนกัน
5555555555555
ขอบคุณทุกคอมเม้นต์นะคะ อ่านแล้วชื่นใจมากเลย
ทั้งในเด็กดีแล้วก็ทวิตเตอร์เลยนะ
อยากรู้ว่าพรุ่งนี้จะเป็นยังไง ติดตามตอนต่อไปค่ะ <3
ความคิดเห็น