คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : SF MARKYUG - YOUR NAME CHAPTER2 END
YOUR NAME
“แม่ครับ มาร์คไปนอนก่อนนะครับ”
“รีบนอนแต่หัวค่ำเชียว”
“เอ่อ...ก็ผมง่วง ไปนะครับ”
หลังจากกลับบ้านมาเขาก็ถูกต้อนรับด้วยการเลี้ยงฉลองมื้อเย็นชุดพิเศษที่แม่เขาตั้งใจทำไว้รอ ทุกคนในครอบครัวมีความสุขมาก แม้แต่พ่อที่ไม่ค่อยยิ้มเท่าไหร่กลับยิ้มให้เขาตลอดมื้อเย็น ดีใจที่ไม่ทำให้พวกท่านผิดหวัง...
อยากรู้ว่าถ้าฉันบอกนายในฝันแล้วนายจะทำหน้ายังไง ไอ้หมูอ้วน...
มาร์ครีบซอยเท้าวิ่งขึ้นบันไดไปอาบน้ำเปลี่ยนเป็นชุดนอนแล้วล้มหัวลงหมอนทันที ไม่สนว่าตอนนี้จะกี่โมงกี่ยาม พลิกไปพลิกมาไม่นานร่างโปร่งก็จมเข้าสู่ความฝันที่แสนคุ้นเคยอีกครั้ง
“ยูคยอม!! นายอยู่ไหน”
เขาตะโกนหาคนบางคนที่ปกติจะมารอเขาอยู่ก่อนแล้ว แต่คืนนี้ไม่มี....
“เสียงดังอะไรเนี่ย ฉันอยู่นี่”
ร่างโปร่งหันกลับมาก็เจอกับเด็กน้อยคนเดิมที่ตอนนี้ตัวไม่น้อยเหมือนวันแรกแล้ว ยูคยอมโตขึ้นมาก เราโตขึ้นพร้อมๆกัน แต่ดูเหมือนยูคยอมจะสูงกว่าเขาไปสักเล็กน้อยล่ะมั้ง
ใบหน้ากลมตุ้ยนุ้ยหายไป ทำให้จมูกโด่งรั้นกับริมฝีปากชมพูเด่นขึ้น
ดวงตากลมโตขึ้นจากเดิมที่มีเท่าไม้ขีดไฟ
บอกไม่ถูก...ยูคยอมก็แค่น่ามองขึ้น รู้สึกว่าน่ารักขึ้น
ต่างจากมาร์คที่ยิ่งโต ใบหน้าก็ยิ่งคมเข้ม ผิวเริ่มสีน้ำผึ้งเล็กน้อยตามฉบับผู้ชายเล่นกีฬา
“หาไม่เจอรึไง ฉันตัวเล็กเหรอ” ยูคยอมพูดพลางหัวเราะน้อยๆ
“จำได้ว่าเมื่อก่อนฉันยังก้มมองนายอยู่เลย โตขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่”
“ก็นายโตช้าเองมาร์ค”
ยูคยอมพูดพลางยกมือขึ้นวัดความสูงทั้งๆที่ตอนนี้ก็ไม่ค่อยต่างกันเท่าไหร่ เป็นความจริงที่เมื่อก่อนมาร์คสูงกว่ายูคยอมมาก แต่พอถึงช่วงย่างเข้าวัยรุ่น 14 – 15 ปี ยูคยอมสูงขึ้นเรื่อยๆจนแทบจะแซงเขาไปไกลแล้ว
ให้ใบหน้าหล่อๆมาทำไมไม่ให้ส่วนสูงที่พอดีกับหน้าตามาด้วยล่ะครับคุณพ่อคุณแม่
“ฉันมีอะไรจะบอกนาย”
“มีอะไรเหรอมาร์ค” ยูคยอมหันไปมองอีกคนที่เอาแต่ยิ้มให้เขาอยู่นั่น
“วันนี้ประกาศผลสอบมหาลัย ฉันติดคณะที่ฉันอยากเรียนด้วย”
ยูคยอมเอาแต่ยิ้มแล้วเด็ดดอกไม้สีขาวกลิ่นหอมอ่อนๆยื่นให้ มาร์คที่ยังงงอยู่ว่าอีกฝ่ายยื่นดอกไม้ให้ทำไมก็เลยเก้ๆกังๆไม่ยอมรับดอกไม้ไปสักทีจนมือเรียวจับมือหนาแบออกแล้ววางดอกไม้ลงไป
“ดอกไม้แสดงความยินดีไง รับไปสิ”
“เอ่อ...อยู่ๆก็เอาให้ แบบว่ามันก็....”
“ไม่ชอบดอกไม้เหรอ“”
“เปล่า...ก็ชอบ ชอบทุกอย่างที่นายให้”
“งั้นเหรอ...แต่พอนายตื่น นายก็จำฉันไม่ได้อยู่ดีมาร์ค”
ดวงตาสวยมองใบหน้าคมด้วยแววตาเศร้าจนมาร์ครู้สึกถึงความรู้สึกยูคยอมได้ นั่นเป็นเรื่องที่มาร์คควบคุมตัวเองไม่ได้จริงๆ ไม่ว่าจะหลับตาฝันแล้วนึกถึงชื่อคนๆนี้สักกี่ครั้ง แต่เมื่อเขาตื่นขึ้นมา...ชื่อๆนี้ก็หายไปจากความทรงจำทุกที
“มันต้องมีสักทางสิ ฉันจะต้องจำชื่อนายให้ได้ยูคยอม”
“ฉันดีใจนะที่นายพยายามขนาดนี้ มันทำให้ฉัน...ใจเต้นแรงแปลกๆ” ยูคยอมก้มมองพื้นก่อนจะเขี่ยเท้าเล่นไปมาราวกับกำลังพยายามหลบสายตาที่มองเขาอยู่
“แปลกๆ...ยังไง“” มาร์คที่มองการกระทำของยูคยอมอยู่ถึงกับหลุดยิ้มออกมา ช่วงเวลาที่เราอยู่ด้วยกันในความฝันแบบนี้....ยูคยอมเป็นคนที่เขาอยู่ด้วยแล้วสบายใจ เพราะยูคยอมน่ารัก เพราะยูคยอมเป็นคนเดียวที่เขาใจเขาทุกอย่างรวมไปทั้งฟังเรื่องราวแย่ๆที่เขาเจอมาในชีวิตประจำวันแต่ก็ไม่เคยบ่นสักครั้งว่าเบื่อหรือน่ารำคาญ รวมไปถึงคำพูดที่ให้กำลังใจ นั่นทำให้มาร์ครู้สึก...รักยูคยอมคนนี้
บางทีก็เผลอคิดไกลเกินกว่าเพื่อน...แต่เพราะไม่รู้ว่ายูคยอมรู้สึกยังไงเลยไม่ได้ถามออกไป
แต่วันนี้ยูคยอมกลับทำให้มาร์คคิดเข้าข้างตัวเองว่าที่ผ่านมายูคยอมก็ชอบเขาเหมือนกัน
ถ้าเราจะรู้สึกเหมือนกัน...
“พักนี้ฉันมองหน้านายไม่ค่อยได้เลยมาร์ค มันรู้สึกหายใจติดขัด...เหมือนกับว่ากำลังวิ่งอยู่ หัวใจของฉันมันเต้นแรงมากจริงๆ”
“ลองมาจับหัวใจฉันดูมั๊ยยูคยอม...บางทีอาจจะเป็นเหมือนนาย”
“อ้ะ มาร์ค...”
ยูคยอมเบิกตากว้าง อยู่ๆมาร์คก็คว้ามือเขาหมับไปวางไว้ตรงตำแหน่งหัวใจ ใบหน้าน่ารักแดงก่ำเมื่อรับรู้ได้ว่าจังหวะการเต้นของหัวใจมาร์คก็เต้นแรงไม่แพ้กับตัวเองเลย
“รู้มั๊ยว่าฉันภาวนาให้นายมีตัวตนจริงๆในโลกของฉันทุกวัน ยิ่งเราเจอกันบ่อยๆทุกครั้งฉันก็ยิ่งสนิทกับนาย แล้วพอฉันสนิทกับนายมากๆเข้า ฉันก็เริ่มชอบนาย”
“ชอบ...ฉันงั้นเหรอ”
“อืม...ฉันคิดว่าฉันรู้สึกแบบนั้น แล้วนายล่ะยูคยอม”
“ฉันก็รอที่จะเจอนายบ่อยๆเหมือนกัน คิดว่าคงจะไม่ต่างจากนายหรอกมาร์ค”
“ถ้าอย่างนั้นเราก็มาคบกันสิ”
“ก็...อืม”
เสียงตอบรับของยูคยอมแผ่วเบาราวกับสายลมแต่มาร์คก็ได้ยินมันชัดเจน ไม่มีอะไรที่ยูคยอมเขินไปกว่าการสารภาพความรู้สึกสายฟ้าแลบอีกแล้วล่ะ
ตั้งแต่ที่เราสองคนเจอกันครั้งแรก...ยาวนานมาจนถึงตอนนี้มีอะไรที่เราสองคนผ่านมาด้วยกันมากมาย ความฝันเดิมๆ สถานที่เดิมๆกับคนเดิมๆที่มาร์คไม่เคยรู้สึกเบื่อ
ความฝันที่กินเวลานานหลายปี...ทำให้มาร์คและยูคยอมรู้สึกดีต่อกันโดยไม่รู้ตัว
มาร์ครู้สึกผูกพันกับยูคยอมมากถึงแม้ว่าจริงๆแล้วยูคยอมอาจจะเป็นแค่จินตนาการที่เขาสร้างขึ้น เป็นวิญญาณ เป็นเรื่องเหนือธรรมชาติอะไรก็แล้วแต่ แต่มาร์ครู้สึกกับยูคยอมแบบที่ผู้ชายคนนึงจะชอบคนๆนึงด้วยความจริงใจ มาร์คชอบยูคยอมมาก
มากจนอยากให้ยูคยอมเดินออกมาจากความฝันแล้วมากุมมือเขาในโลกความเป็นจริง
“นี่ เป็นแฟนกันแล้วก็ขอกอดหน่อยสิ...”
“อืม...”
ไม่ว่ามาร์คจะพูดอะไรยูคยอมก็ดูจะให้ความร่วมมือ ร่างของยูคยอมปลิวเข้าสู่อ้อมแขนของมาร์คตามด้วยวงแขนที่มีกล้ามอ่อนๆรัดเอวบางแน่นไม่ปล่อยให้หนีไปไหน ถึงแม้ยูคยอมจะสูงกว่ามาร์คก็เถอะ แต่เรื่องแค่นี้มาร์คไม่เป็นไร อีกเดี๋ยวตอนตื่นนอนจะพยายามกินนมและเล่นบาสเยอะๆ คิดว่าคงสูงตามได้แน่
มหาลัยก็ติด แฟนก็ได้ คิดว่ามาร์คมีความสุขแค่ไหนล่ะตอนนี้
“กอดแล้วไงต่อ....”
“อืม...เป็นแฟนกันก็ต้องมีจูบสิ”
“จูบเหรอ ด...เดี๋ยวมาร์ค...”
ไม่ทิ้งช่วงให้ยูคยอมประมวลผลนานริมฝีปากหนาก็พุ่งเข้าไปประกบริมฝีปากนุ่มทันที มาร์คไล่ต้อนจูบจนยูคยอมยอมอ่อนข้อให้แล้วเผยอริมฝีปากให้อีกฝ่ายรุกล้ำเข้าไปชิมความหวาน มือหนาล็อคท้ายทอยอีกฝ่ายให้โน้มลงมาประกบแนบชิดมากขึ้นแล้วเป็นฝ่ายไล่ต้อนลิ้นร้อนที่ไม่ประสีประสา เสียงอื้ออึงในลำคอของยูคยอมสั่นเครือน้อยๆเมื่อรู้สึกสูญเสียความเป็นตัวเอง ยอมตามเกมที่อีกฝ่ายเป็นคนเริ่มโดยไม่มีข้อแม้
“มาร์ค..พอ...อื้อ...”
มือเรียวหยิกเอวคนเอาแต่จูบจนอีกฝ่ายรู้สึกตัว ทั้งสองคนผละออกจากกันก่อนจะยืนนิ่งหลบสายตาด้วยความเขิน
จูบเก่งเป็นบ้าเลยมาร์คเนี่ย...
ตอนนี้หัวใจของมาร์คแทบจะเต้นแรงขึ้นกว่าตอนสารภาพรักอีกสองเท่า
ในขณะที่มาร์คกำลังมีความสุข...แต่ความรู้สึกของยูคยอมกำลังดิ่งลงเรื่อยๆ
มันก็ดีใจ...แต่ก็รู้สึกกังวลแปลกๆ
รู้สึกเหมือนจะไม่ได้เจอกันอีกแล้วงั้นแหละ
“มาร์ค...คราวนี้เราลองมาเขียนชื่อใส่ฝ่ามือดีมั้ย เผื่อตื่นขึ้นมาจะจำได้ไง” ยูคยอมพูดเสนอขึ้นก่อนจะหยิบปากกาเมจิกออกมาจากกระเป๋ากางเกง
ไปเอามาจากไหน....
ช่างเถอะ นี่มันความฝัน จะเอาอะไรออกมาตอนไหนก็ได้ทั้งนั้นแหละ
“นั่นสิ ฉันไม่เคยลองเลย อาจจะจำได้ก็ได้”
“งั้นฉันเขียนให้นายก่อนนะ แบมือมาสิ” ยูคยอมพูดจบมาร์คก็แบมือยื่นมาตรงหน้าคนน่ารัก ยูคยอมค่อยๆบรรจงเขียนชื่อตัวเองลงบนฝ่ามือหนาจนเสร็จ เป่าสองสามทีให้หมึกแห้งแล้วยื่นปากกาเมจิกให้อีกฝ่าย
“อย่าลืมชื่อของฉันนะมาร์ค...”
“ไม่ลืมหรอกน่า อย่าพูดอะไรเศร้าๆแบบนี้สิยูคยอม เอาล่ะแบบมือมา หาว....”
อยู่ๆมาร์คก็รู้สึกง่วงขึ้นมา สะบัดหัวสองสามทีก็ยังไม่หายง่วงสักที ยูคยอมมองอีกคนด้วยความเป็นห่วงก่อนจะเอื้อมมือไปจับไหล่มาร์คเอาไว้ แต่อีกคนก็ส่ายหน้ายิ้มๆบอกว่าไม่ได้เป็นอะไร
“แค่ง่วงน่ะ...สงสัยใกล้ตื่นแบบทุกทีนั่นแหละ”
“แต่ว่า....”
“แบมือมาสิยูคยอม”
มาร์คจับมือยูคยอมเอาไว้แล้วจิ้มปากกาเมจิกลงไปที่ฝ่ามือ โลกของมาร์ครู้สึกโคลงเคลงขึ้นเรื่อยๆแทบยืนไม่ไหว หนังตาหนักขึ้นเรื่อยๆ คำว่ามาร์คยังเขียนที่ฝ่ามือยูคยอมไม่เสร็จ ภาพในหัวของมาร์คก็ตัดไปดื้อๆ
ไม่ได้นะ...จะเป็นแบบนี้ไม่ได้นะ
ขอแค่เขียนชื่อของเขาให้เสร็จก่อน..
“มาร์ค!!!”
เสียงหวานๆของยูคยอมที่เรียกชื่อเขาดังอยู่ไกลๆก่อนที่ทุกอย่างจะกลายเป็นสีดำมืด
3 ปีผ่านไป....
“แล้วมึงก็ไม่ได้ฝันถึงเขาอีกเลยเนี่ยนะ”
“เออ....”
“เห้ยเหลือเชื่อว่ะ”
เจบีที่เข้ามาร่วมฟังบทสนทนาอดไม่ได้ที่จะพูดว่าเหลือเชื่อ เป็นรูมเมทกันมาสามปีตั้งแต่เข้ามหาลัยมา ไม่เคยเลยที่มาร์คจะพูดเรื่องนี้ แจ็คสันรูมเมทอีกคนก็นั่งฟังอย่างอึ้งๆแล้วหยิบขนมเข้าปากไปด้วย เหมือนกับมันกำลังนั่งฟังนิยายแฟนตาซีอยู่อย่างนั้นแหละ
แจ็คสันนั่งฟังอยู่ที่โซฟาพลางแกะขนมกินเรื่อยๆ
เจบีนั่งอยู่ที่โต๊ะอ่านหนังสือแล้วหันมามองมาร์ค
ส่วนมาร์คก็นั่งอยู่บนเตียงเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นในความฝัน
“แล้วตอนตื่นมามึงทำไงต่อ” แจ็คสันถามอย่างสนใจ
“กูก็รีบไปวาดรูปในความฝันกูเหมือนทุกวันแล้วเก็บไว้ในห้องนอนกูที่บ้าน”
“สรุปมึงจำชื่อเขาได้มั้ยวะ” เจบียิงคำถามต่อเนื่องให้มาร์คที่เป็นเจ้าของเรื่องขมวดคิ้วเครียดอยู่กลางเตียง
“ตอนนั้นกูจำได้ กูดีใจมากแล้วก็รีบวาดมือของกูที่มีชื่อของเขาเขียนติดไว้ เขียนไปพูดชื่อเขาไป แต่พอกูไปโรงเรียนกลับมา ภาพที่กูวาดเช้านั้นหายไปหมดเลย...ไม่รู้ไปอยู่ที่ไหน อีกวัน...กูก็จำชื่อเขาไม่ได้เหมือนเดิม”
“เรื่องคร่าวๆคือมึงชอบคนในความฝัน แล้วพอจูบกันเสร็จมึงก็ตื่น หลังจากนั้นมึงก็ไม่ฝันถึงเขาอีกเลยแถมจำชื่อเขาไม่ได้อีก” เจบีสรุปเรื่องย่อๆให้
“เออ...ก็อย่างนั้นแหละ” มาร์คพูดเสียงเศร้าๆแล้วล้มตัวนอนลืมตามองเพดาน
“อยู่ๆมาเล่าให้พวกกูฟังทำไม“” แจ็คสันแกะขนมอีกซองก่อนจะหันมาถามมาร์คที่นอนนิ่งไปแล้ว
“เมื่อคืนกูฝันถึงที่ๆกูเจอเขา...แต่ไม่มีเขาอยู่ แป้บๆกูก็ตื่น แล้วกูก็คิดมาก...เลยมาระบายให้พวกมึงฟัง มึงว่ากูบ้าป่ะ” มาร์คที่นอนอยู่บนเตียงพูดก่อนจะหันไปมองเพื่อนสองคน
“มึงไม่ได้บ้าหรอก หนึ่งคือมึงจินตนาการไปเอง พอโตขึ้นมึงก็เลิกจินตนาการ เขาเลยหายไปไง สองคือ...มึงต้องทำอะไรสักอย่างผิดพลาดจนมึงไม่สามารถฝันถึงเขาต่อได้”
“ทำห่าอะไร กูจะไปรู้เหรอ...เห้อ” มาร์คถอนหายใจยาวเมื่อฟังเจบีพูด
“อย่าคิดมากดิ ถ้าเขามีตัวตนจริงๆ สักวันอาจจะได้เจอเขาก็ได้ แบบใช้กระแสจิตคุยกันผ่านที่ไกลๆมาตั้งแต่เด็กงี้ กูเคยดูในหนัง มันมีนะเว้ยไอ้มาร์ค” แจ็คสันพูดเสริมปลอบ พยายามให้เพื่อนหายจากอาการดิ่งบ้าบอนี่สักที
“อืม...อยากให้เป็นงั้นเหมือนกันว่ะแจ็คสัน”
“กูจะออกไปเซเว่นหน่อย พวกมึงเอาอะไรมั้ย“” มาร์คพูดพลางสวมเสื้อยืดเดินไปหยิบกุญแจรถมอไซค์ที่ตัวเองใช้ขี่ไปมาใกล้ๆแล้วหันมาถามเพื่อนอีกสองคน
“เอาขนม” แจ็คสันสั่งขนมหลายอย่างจนมาร์คต้องเมมเอาไว้ในโน้ตมือถือ
“กูเอาแซนวิชกับเอ็มร้อยขวดนึง” เจบีพูดพลางยื่นเงินให้มาร์ค
“เดี๋ยวกูมาละกัน”
มาร์คพูดทิ้งท้ายก่อนจะเดินลงหอไป สตาร์ทมอเตอร์ไซค์แล้วขี่ไปจอดที่เซเว่นใกล้หอ เดินเรื่อยเปื่อยไปหยิบขนมตามรายการที่แจ็คสันและเจบีสั่ง ส่วนตัวเองก็หยิบข้าวกล่องเซเว่นมาหนึ่งอันแล้วเดินไปจ่ายตังค์
“เวฟเลยมั้ยคะ“”
“ครับ”
มาร์คยืนรอพนักงานเวฟข้าวกล่อง หางตาดันเห็นใครบางคนเดินผ่านเขาไป มาร์คเบิกตากว้างหันตามอย่างตกใจ
ไม่ให้ตกใจได้ไง...เมื่อกี๊เหมือนเขาเห็น...
เห็นยูคยอม
ได้แต่ถามตัวเองในความคิดซ้ำไปซ้ำมาว่าใช่เขาจริงๆเหรอ...
แต่มาร์คมั่นใจว่าเมื่อกี๊ตาไม่ได้ฝาด
ยูคยอมคนนั้นแหละ คนในฝันของเขา...
เดี๋ยวนี้เห็นอะไรก็มองเป็นยูคยอมไปหมด เพ้อหนักจริงๆเรา
คนๆนั้นยืนอยู่หลังเสา แถมหันหลังทำให้มาร์คมองไม่เห็นใบหน้า หัวใจมาร์คเต้นแรงแถมตื่นเต้นจนมือเย็นเฉียบ เตรียมก้าวขาไปหาคนๆนั้น
ความบังเอิญมีจริงงั้นเหรอ...“
ถ้าใช่ยูคยอมจริงๆจะทำยังไงต่อ...
“ข้าวกล่องได้แล้วค่ะ”
เสียงพนักงานเรียกมาร์คทำให้ร่างโปร่งชะงักก่อนจะหันมารับข้าวกล่องที่เวฟจนได้กลิ่นหอมๆ หันไปมองคนๆนั้นกลับไม่ได้ยืนอยู่ที่เดิมแล้ว กวาดสายตาหาทั่วเซเว่นก็ไม่เจอ แถมแจ็คสันไลน์เร่งให้เขากลับหอรัวๆเลยตัดใจรีบกลับหอทั้งๆที่ยังคาใจ
ไม่ใช่หรอกน่า...
จะเป็นยูคยอมได้ยังไง ก็ยูคยอมน่ะ มีจริงอยู่ในความฝันของเขานี่
ถ้านายจะหายไปก็อย่ามีเหตุการณ์อะไรทำให้ใจเต้นแบบนี้สิ
“อ่ะ กูซื้อมาให้แล้ว” มาร์คโยนขนมให้แจ็คสันที่นอนอยู่บนเตียงแล้วยื่นของที่เจบีสั่งให้ที่โต๊ะอ่านหนังสือ ก่อนจะเดินไปล้มตัวลงนอนเตียงของตัวเองบ้าง
“เห้ยอย่ามัวแต่นอนอืดดิ มีเรียนตอนบ่ายโมงครึ่งนะเว้ยไอ้มาร์ค มึงก็ด้วยแจ็คสัน หยุดกินได้แล้ว”
เจบีพูดขึ้นก่อนจะเดินไปเปลี่ยนชุดนักศึกษา มาร์คยันตัวเองลุกขึ้นแล้วไปเปลี่ยนชุดเตรียมตัวไปเรียน ส่วนแจ็คสันกำลังวิ่งไปอาบน้ำ รีบกินข้าวแล้วพากันออกจากห้องไป ทั้งสามคนเรียนคณะเดียวกัน แถมปีแก่ๆเซคเรียนก็เริ่มน้อยลงทำให้เรียนห้องเดียวกันแทบทุกคาบ เวลาไปไหนทีก็ต้องไปด้วยกันสามคนเป็นส่วนใหญ่
เดินลงหอทีนึกว่าบอยแบนด์ สามหนุ่มสามมุมประมาณนั้น
“วันนี้เอารถกูไปละกัน” เจบีพูดพลางกดรีโมตปลดล็อครถยนต์ที่จอดไว้ใต้หอ
“ดีเลย รถกูน้ำมันใกล้จะหมดพอดี” แจ็คสันเปิดประตูข้างหลังแล้วกระโดดเข้าไปนอนเหยียดขา มาร์คเลยต้องมานั่งข้างคนขับอย่างเจบีแทน
รถยนต์เคลื่อนที่ออกไปเรื่อยๆ วันนี้มาร์คไม่มีสมาธิเอาแต่คิดถึงเรื่องความฝันอยู่ตลอด ใบหน้าคมหันไปมองกระจกฝั่งซ้ายปล่อยให้ความคิดลอยไปไกล
จะมีตัวตนอยู่จริงรึเปล่า...
อยากเจอ...
เสี้ยววินาทีที่รถของเจบีกำลังขับผ่านผู้คนบนฟุตบาทในรั้วมหาลัย สายตาคมเห็นใครคนหนึ่งกำลังเดินอยู่บนฟุตบาท ใครคนนั้นที่ทำให้มาร์คหายใจแทบสะดุด
“เห้ย!!! ไอ้เจบีหยุดรถ”
“มีไรวะไอ้มาร์ค”
เจบีตบพวงมาลัยรถเข้าข้างทางแทบไม่ทันเมื่อเห็นมาร์คตาลีตาเหลือกบอกให้เขาหยุดรถ แจ็คสันถึงกับลุกขึ้นมานั่งอย่างตกใจเมื่อมาร์คกุลีกุจอปลดที่คาดเข็มขัดแล้วเปิดประตูกระโจนลงรถอย่างไว
ร่างโปร่งวิ่งบนฟุตบาทสวนกับผู้คนเพื่อที่จะไปหาใครคนนั้น ถ้าเขาตาไม่ฝาด...เขาเห็นคนในฝันของเขาเดินอยู่ ผู้ชายคนนั้น!
ใช่จริงๆ...ส่วนสูงชะลูดนั่นทำให้มองเห็นได้ง่าย
สามปีที่ผ่านมา แม้ว่าจะไม่ฝันเห็นเลยสักครั้ง แต่มาร์คก็จำใบหน้าน่ารักนั่นได้ดี
น่ารักเหมือนในรูปที่เขาวาดไม่มีผิดเพี้ยน
“คุณครับ”
“อ...เอ่อ ครับ“”
มาร์ควิ่งไปคว้าข้อมือเล็กจนอีกคนสะดุ้งตัวโยน ร่างสูงมองคนที่วิ่งมาคว้าแขนเขาอย่างตกใจจนพูดอะไรไม่ออก
“คุณ...คุณน่ะ แฮ่กๆ...”
ร่างสูงคิดหาเหตุผลว่าผู้ชายคนนี้มาทักเขาไว้ทำไม เมื่อนึกขึ้นได้ว่าวันนี้เขาลืมห้อยป้ายมาเรียนซึ่งผิดระเบียบของนักศึกษาปีหนึ่ง รุ่นพี่คงจะมาเตือนเขาล่ะมั้ง
“เอ่อ...ผมขอโทษครับรุ่นพี่ วันนี้ผมตื่นสายเลยลืมห้อยป้ายชื่อมาเรียน วันหลังผมจะไม่ลืมแล้วครับ”
“นาย...เอ่อ น้องจำพี่ไม่ได้เหรอ...”
มาร์คถามคนตรงหน้าด้วยความรู้สึกดิ่งอย่างรุนแรง ความหวังที่ว่าถ้าเจอกันแล้วเราจะรักกัน คิดว่านายจะจำฉันได้...มาร์คคงจะหวังมากไป
จำไม่ได้จริงๆเหรอ...มาร์คของนายไง
การที่คนๆนั้นมีตัวตนจริงๆก็เกินความหวังของมาร์คมาเยอะแล้ว
คนที่เขาเจอในฝัน...กลับมายืนอยู่ตรงหน้าเขาจริงๆ
ใบหน้านี้แหละที่เขาหลงรักมาตลอดและไม่เคยเปลี่ยนใจ ถึงแม้ตอนนั้นจะคิดว่าเขาเป็นแค่คนในฝันก็ตาม
โลกนี้คงมีอะไรที่เราคาดไม่ถึงอีกเยอะแยะ
การที่เราได้มาเจอกันก็เช่นกัน...
“เอ่อ...คือ เราเคยเจอกันงั้นเหรอครับ“” อีกฝ่ายพูดพลางเกาแก้มอย่างงงๆ
“...น...น้อง วันหลังอย่าลืมห้อยป้ายชื่อนะครับ”
เมื่อมาร์คคิดว่าอีกฝ่ายคงจำเขาไม่ได้จริงๆเลยเปลี่ยนเรื่องคุยแทน เด็กตัวสูงพยักหน้าหงึกๆเชิงเข้าใจก่อนจะก้มหน้านิ่งเพราะกลัวเขาดุ
“ผมมีเรียน...ผมขอตัวก่อนนะครับ”
เมื่อมาร์คไม่ได้พูดอะไรต่อ อีกคนเลยพูดขึ้นแล้วก้มเคารพก่อนจะเดินสวนกับมาร์คไป ใบหน้าคมหันตามไปมองแผ่นหลังของอีกฝ่ายกำลังห่างออกไปเรื่อยๆ
นายกำลังจะหายไปอีกแล้วเหรอ...
เราจะห่างกันอีกแล้วเหรอ โลกพาเรามาเจอกันทั้งที
เจอกันอีกครั้งในโลกของความเป็นจริง
มือหนาเอื้อมออกไปคล้ายกับกำลังจะคว้าอีกคนเอาไว้ ริมฝีปากหนาพยายามจะเปล่งชื่ออีกคนออกมา แต่แล้วปัญหาก็คือว่า...เขานึกชื่ออีกคนไม่ออก
นึกสิ...นึกให้ได้
อย่าปล่อยให้เขาหายไปอีกแบบนี้ รั้งเขาเอาไว้ให้ได้
มาร์คหลับตาลงนึกถึงความฝันครั้งนั้น วันที่อีกฝ่ายเขียนชื่อของตัวเองเอาไว้ในฝ่ามือของเขา
นึกให้ออกไอ้มาร์ค อ่านให้ออก ตัวหนังสือที่อยู่บนมือนั่นน่ะ
“โถ่เว้ย...นึกให้ออกสิ แม่งเอ้ย”
ร่างหนาสบถออกมาอย่างเจ็บใจ เพราะอะไรถึงจำไม่ได้สักที ดักดานมาตั้งแต่เด็กยันตอนนี้
“ยูคยอม...”
“ฉันชื่อยูคยอม”
“เมื่อไหร่จะจำชื่อของฉันได้สักที ไอ้คนซื่อบื้อ”
“ต้องให้ย้ำอีกกี่ทีว่าฉันชื่อยูคยอม”
ชั่ววูบของความคิด เสียงนุ่มๆของอีกฝ่ายลอยเข้ามา ชื่อที่เขาเรียกในความฝันตั้งแต่เด็กๆจนมัธยมปลาย ความทรงจำที่เขาเผลอลืมมันไปก็ย้อนมาทั้งหมด มาร์คจำได้ทันทีว่าอีกฝ่ายชื่ออะไร
“ยูคยอม!!!!!!!!!”
ตะโกนจนสุดเสียงเมื่อนึกชื่ออีกคนออก ใครอีกคนที่เดินจากไปไกลแล้วหันกลับมามองก่อนจะเอียงคอขมวดคิ้วเชิงถามว่ามีอะไร แต่มาร์คไม่ได้พูดได้แต่ยิ้มกว้างๆส่งให้เท่านั้น
“ฉันจำชื่อนายได้แล้วยูคยอม...”
ฉันจะจำชื่อนายเอาไว้
“แล้วเราจะได้เจอกันอีกแน่นอน น้องยูคยอมปีหนึ่ง”
ถึงแม้นายจะจำไม่ได้ก็ไม่เป็นไร
นายอาจจะไม่เคยฝันถึงกันเลยก็ไม่เป็นไร
ในชีวิตจริงนายอาจจะเป็นรุ่นน้องของฉันก็ไม่เป็นไร
แต่ฉันจะไม่มีทางปล่อยนายไปอีกแล้วยูคยอม
ถึงแม้จะต้องเริ่มจีบนายใหม่อีกกี่รอบ ฉันก็จะทำ
นายต้องเป็นแฟนของฉัน และฉันจะเป็นแฟนของนายให้ได้
เตรียมใจไว้เลยครับน้องปีหนึ่ง :)
END.
**************************************************************************************************************************
จบไปอีกเรื่อง *ถอนหายใจแรง*
ตอนคิดพล็อตยังไม่ได้ดูการ์ตูน YOUR NAME แต่พอดูแล้วก็เอามาปรับนิดหน่อย
ขอบคุณที่ติดตามนะคะ พิมพ์ผิดตรงไหน งงตรงไหนท้วงได้ค่ะ คนแต่งไม่ค่อยมีสติ ฮือออออ
ความคิดเห็น