ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [EXO] I'm Here! Always By Your Side [HunBaek,ChanBaek]

    ลำดับตอนที่ #16 : I'm Here - 14 -

    • อัปเดตล่าสุด 1 ม.ค. 59




    { Winter Dark Theme }

    I’m Here – 14 –




     

    แพคฮยอนอา.....

    ทำไมถึงเป็นนายที่ได้คนที่ฉันชอบไปครองล่ะ...

    นายมีอะไรดีกว่าฉันอย่างนั้นหรอ...

    นายทำยังไงถึงทำให้พี่เซฮุนรักนาย หลงนาย ยอมนาย...

    เพราะความใกล้ชิดอย่างนั้นหรอ...

    หรือเพราะว่านายเป็นคนที่พี่เซฮุนต้องการ...นายถึงได้พี่เซฮุนไปครองโดยที่ไม่ต้องลงแรงทำอะไร!!

     

    ป๋ายเซียน....

    นายมันก็โชคดีไม่แพ้น้องของนายเลยนะ...

    มีพี่ชานยอลอยู่ข้างๆ...ฉันล่ะอิจฉา อยากจะไปอยู่ตรงนั้นแทนนายใจแทบขาด

    ให้เดา..อีกไม่นานพวกนายสองคนก็คงตกลงคบกันใช่มั๊ยล่ะ

    แล้วฉันล่ะ...สุดท้ายแล้วจะเหลือใคร

     

    ไม่ใช่สิ...ตอนสุดท้ายแล้ว ฉันจะไปยืนอยู่ตรงนั้นแทนพวกแกเอง

     

     

     

    “ฮึก...แบมอ่า ฉันจะทำยังไงดี”

    แพคฮยอนนั่งโซฟาเอามือปิดหน้าสะอื้น ดวงตาแดงก่ำเนื่องจากน้ำตาไหลออกมาไม่หยุด เขาออกมาหาแบมแบมได้ซักพักแล้ว คิดว่าเพื่อนคนนี้ต้องให้คำปรึกษาและปลอบใจเขาได้ดีแน่ๆ เพื่อนตัวเล็กไม่รู้จะทำยังไงก็ได้แต่กอดแล้วยกมือขึ้นลูบหัวเบาๆคล้ายกับปลอบให้คนคิดมากหยุดร้องไห้

     

    ก็ใช่ที่เราพอจะรู้เรื่องราว แต่หัวใจเรายกให้เขาไปแล้ว รู้ความจริงวันนี้จะมีประโยชน์อะไร...

     

    เพราะยังไงก็เลิกรักพี่เซฮุนไม่ได้แล้ว

     

    “พี่เซฮุนใจร้าย ทำไมทำกับแพคแบบนี้” แบมแบมพูดเสียงเบา ไม่อยากตวาดให้แพคฮยอนต้องใจเสียไปมากกว่านี้ มองคนข้างๆที่กำลังกลั้นสะอื้นจนไหล่เล็กสั่นไหว

    “เขาไม่ได้รักเราเลยแบม เขารักคนที่หน้าเหมือนเรา แต่เรารักพี่เขาไปแล้ว ฮือออออ”

    พูดไปก็ร้องไห้ไป ตั้งแต่ที่รู้ความจริงก็คอยตอกย้ำตัวเองมาตลอด

    มันไม่ใช่ที่ของเราตั้งแต่แรก

    เราอาจจะไม่ได้เป็นเนื้อคู่ของเขาตั้งแต่แรก

    พี่เซฮุนรักคนอื่น...ที่ไม่ใช่เขาตั้งแต่แรก

     

    แพคฮยอนกลายเป็นตัวสำรองตั้งแต่ต้น ตั้งแต่ก้าวเข้ามาในชีวิตของพี่เซฮุน

     

    “แล้วแพคฮยอนจะทำยังไง”

    “คงจะคบต่อไปนั่นแหละ...พี่เขาไม่ผิดหรอก เราผิดเองที่ไปรู้เรื่องที่พี่เขาปกปิดเอาไว้ ถ้ามันทำให้พี่เซฮุนอยู่กับเรา เรายอมเป็นใครคนนั้นที่พี่เซฮุนรัก

    “ไม่ได้นะ!!!!” แบมแบมหันไปตวาดแพคฮยอนเสียงดัง

    “ก็เรารักพี่เซฮุนไปแล้ว....เราไม่เป็นไรจริงๆแบม” แพคฮยอนก้มหน้านิ่งพูดเสียงแผ่ว

    “แพคฮยอน นายก็รู้อยู่แก่ใจว่ายังไงพี่เซฮุนก็ไม่ได้รักนาย เขารักใครก็ไม่รู้ แล้วทำไมถึงจะต้องกลับไปทั้งๆที่นายไม่มีความสุข ฉันเป็นเพื่อนนาย ฉันเป็นห่วงนายนะ”

    “แต่ว่าฉันรัก...”

    “แพคฮยอน ถอยออกมาเถอะ มันอาจจะดีกว่าก็ได้” แบมแบมพูดแทรกขึ้นมาก่อนที่แพคฮยอนจะพูดจบประโยค เพื่อนตัวเล็กได้ยินแบบนั้นก็น้ำตาปริ่มอีกรอบ ความจริงก็ควรทำแบบนั้นล่ะ...

     

    มันไม่แฟร์เลยที่พี่เซฮุนจะมีความสุขอยู่แค่ฝ่ายเดียว

    ส่วนเขาก็ต้องมายิ้มไปร้องไห้ไปแบบนี้...

    มันคุ้มแล้วงั้นหรอ ที่จะแลกน้ำตากับความรักจอมปลอมที่เขาให้มา

     

    ทั้งๆที่รู้อยู่แก่ใจ...ว่าเขารักใครซักคนที่หน้าตาเหมือนเรา

    เราก็แค่ตุ๊กตาตัวใหม่สำหรับเขา ที่จะจับไปสมมติเป็นใครก็ได้ตามใจ

     

    “ยังไงก็ต้องเจอกันทุกวัน แล้วจะถอยออกมาได้ยังไง...”

    “ถ้ายังไม่พร้อมเจอหน้า ก็มาพักกับเราบ่อยๆได้นี่นา โกหกว่าทำรายงาน ทำโปรเจค ทำอะไรก็ได้ ถ้าโอเคแล้วค่อยกลับไป”

    “อ...อืม ขอบใจนะแบม” แพคฮยอนฝืนยิ้มออกมาทั้งๆที่ยังมีน้ำตาไหลอาบแก้ม รู้สึกดีที่มีเพื่อนคอยอยู่ข้างๆ เป็นกำลังใจและช่วยหาทางออกให้เขาเสมอ

     

     

    “แล้ว...ถ้าวันนึงแพคทำใจได้ จะบอกเลิกพี่เซฮุนรึเปล่า?” แบมแบมถามแล้วจ้องตาอีกคนนิ่ง

    นายจะเลิกกับพี่เซฮุนรึเปล่า....ฉันอยากรู้มากๆเลย

    ฉัน...อยากจะให้นายไปพ้นๆทางของฉันซักที

     

     

    “กะ...ก็ไม่รู้เหมือนกัน”

    “ถึงเวลานั้น แพคฮยอนคงจะรู้แหละ ว่าต้องทำยังไง สู้ๆนะเพื่อน ^^

    รอยยิ้มที่ไม่ดูฝืนมากเกินไปนักถูกแต่งแต้มบนริมฝีปากสวยของแพคฮยอน คนตัวเล็กโผเข้ากอดเพื่อนแทนคำขอบคุณสำหรับหลายๆเรื่อง แบมแบมเองก็เอื้อมมือมายีผมนุ่มของแพคฮยอนจนชี้ฟูไม่เป็นทาง นั่งขำกับท่าทางของลูกหมาน้อยกำลังอ้อนคุณแม่ที่แพคฮยอนแสดงออกมาโดยไม่รู้ตัว

     

    นายน่ะ สดใส อ่อนโยน...และบริสุทธิ์เหมือนกับแสงพระอาทิตย์ยามเช้า

    หัวใจของฉันมันกำลังเจ็บปวด ฉันไม่อยากหักหลังเพื่อนของฉัน

    แต่ฉันก็อยากจะได้สิ่งที่ฉันต้องการเหมือนกัน

    ฉันขอโทษนะ ที่บางครั้งฉันก็ลืมนึกถึงความเป็นเพื่อนของเรา

     

     

    Rrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrr

     

    “อ่า พ่อฉันโทรมา” แบมแบมมองหน้าจอโทรศัพท์ที่โชว์เบอร์พ่อของตัวเองอยู่

    “งั้นฉันกลับก่อนนะ ไว้จะมาค้างด้วยบ่อยๆ ขอบคุณมากนะ J

    แพคฮยอนลุกขึ้นก่อนจะเช็ดหน้าเช็ดตา เก็บกระเป๋าแล้วเดินออกจากห้องไป ทันทีที่ประตูห้องปิดลง สีหน้าของเพื่อนใจดีเมื่อกี๊ก็เปลี่ยนไปทันทีราวกับคนละคน ใบหน้าที่เคร่งขรึมราวกับไม่ใช่ตัวตนของตัวเอง

     

    “ครับ พ่อมีอะไร”

    “สบายดีมั๊ย อยู่ที่นั่นก่อเรื่องอะไรรึเปล่า”

    “ไม่มีอะไรทั้งนั้นแหละ ถ้าจะโทรมาบ่นเรื่องผมล่ะก็ขอวางสายนะครับ”

    “เดี๋ยว ชั้นจะโทรมาบอกแกว่าหมอมาร์คเขาย้ายไปอยู่ที่โซลพอดี แกจะได้ไม่ต้องไปรักษาโรคบ้าๆนั่นที่แอลเอ”

    “ผมไม่ได้เป็นอะไรแล้ว ผมปกติดี ผมไม่อยากเจอหน้าไอ้หมอนั่น!!

    “แกยังไม่หายหรอก แกต้องเชื่อฟังพ่อ”

    “หึ...พ่อไม่ได้เรื่อง แค่แม่คนเดียวยังปกป้องไว้ไม่ได้”

    “มันเป็นอุบัติเหตุ”

    “หรอ!! อุบัติเหตุ พ่อผลักแม่ตกบันใดนี่อุบัติเหตุมากมั้ย!!

    “ฉันไม่ได้ผลัก ฉันจะคว้าแม่แกเอาไว้ต่างหาก”

    “เหอะ ผมเห็นเองกับตา ถึงผมจะยังเด็ก แต่ผมก็จำได้ดี”

    “...นี่ฉันไม่ได้โทรมาเพื่อทะเลาะกับแกนะ ไปหาหมอมาร์คซะ”

     

    แล้วสายก็ตัดไป....

     

    เหอะ...ตลกดีชะมัด ตอนนั้นน่ะ...วันเกิดเขาแท้ๆ เขากำลังรอเป่าเค้กกับแม่แท้ๆ ทำไมไอ้พ่อบ้านี่ต้องเมาหัวราน้ำกลับบ้าน ทะเลาะกับแม่เรื่องเดิมๆ ตะโกนเสียงดังจนเขาทนไม่ไหว พ่อกับแม่ทะเลาะกันแรงขึ้นเรื่อยๆจนแม่ทนไม่ไหวเดินออกไปจากห้อง เตรียมจะลงบนไดหนี แต่แล้วพ่อก็เดินไปผลักแม่ตกบันไดตาย เขาเป็นคนเห็นทุกอย่าง...เห็นกับตา เห็นว่าพ่อของเขาเป็นฆาตกร!

     

    “ไอ้บ้าเอ๊ย!!! แกมันพรากแม่ไปจากฉัน!! แกทำให้แม่ของฉันตาย!

     

    เพล้ง!! ตุบ!!

     

    ร่างเล็กปัดมือกวาดข้าวของในห้องจนพังพินาศ ล้มโต๊ะกับข้าวทิ้งเพราะระงับอารมณ์โกรธไม่อยู่ หยิบกรอบรูปในห้องเขวี้ยงไปโดนกระจกโต๊ะเครื่องแป้งแตกกระจาย อาละวาดครั้งแล้วครั้งเล่าอย่างบ้าคลั่งจนหมดแรงนั่งฟุบลงกับพื้นที่มีข้าวของตกเกลื่อนกลาด

    น้ำตาที่ซ่อนเก็บเอาไว้ไหลออกมาอาบแก้มเมื่อคิดถึงคนที่ตัวเองรักมาตลอด

     

    “แม่...ฮึก...ผมอยากเจอแม่ อยากกอดแม่ อยากให้แม่กลับมารักผม ฮือออออ”

     

     

     

    แพคฮยอนกำลังนั่งเอื่อยๆอยู่ในสวนสาธารณะ...

     

    เขาอยากจะรู้มากกว่านี้ อยากรู้ว่าคนๆนั้นเป็นใคร...

    ถ้าหน้าตาเหมือนกันขนาดนี้ เป็นไปได้มั๊ยว่าจะเป็นญาติกัน...

    เขามีแฝดอีกคนรึเปล่านะ

    ใครล่ะ ถ้าเคยเป็นญาติพี่น้องกันก็ต้องเคยเห็นสิ พ่อเองก็ไม่เคยบอกเขากับพี่ป๋ายเลย

    มนุษย์เรามีความอยากรู้เป็นความต้องการพื้นฐานเสมอ...

    โทรไปถามพ่อดีมั๊ยนะ...

     

    นิ้วเรียวกดเบอร์คนที่ให้กำเนิดเขามา รอสายไม่นานก็มีเสียงคนที่คุ้นเคยดังขึ้น

     

    “ว่าไงแพคฮยอนลูกรัก สบายดีมั๊ยเอ่ย”

    “ครับพ่อ ผมสบายดี พี่ป๋ายก็ด้วย ^^

    “โทรมาหาพ่อนี่มีอะไรหืม อย่าบอกนะว่าเงินหมด ฮ่าๆๆๆ”

    “เปล่าครับ ผมไม่ได้ใช้จ่ายฟุ่มเฟือยนะ -3-

    “รึว่าเหงา อยากกลับมาบ้านแล้วใช่มั๊ย”

    “ผมคิดถึงพ่อกับแม่นะ แต่ผมไม่ได้งอแงอยากจะกลับบ้านซักหน่อย”

    “ฮ่าๆๆๆ น่ารักจริงๆเลยลูกของเรา จะคุยกับแม่หน่อยมั๊ย แม่กำลังอาบน้ำอยู่”

    “อ่า...ยังก็ได้ครับ คือผมจะโทรมาถามพ่อน่ะ...”

    มีอะไรหรอลูกรัก”

    “คือ...พ่อครับ พอจะรู้จักใครที่หน้าเหมือนผมบ้างมั๊ย...”

    “.............อะไรนะ ลูกไปเจอใครมางั้นหรอ”

    “คือผมเหมือนจะเห็นรูปคนที่หน้าเหมือนผมเป๊ะเลย เลยอยากถามพ่อว่าพ่อเคยเจอใครที่หน้าเหมือนผมกับพี่ป๋ายเซียนรึเปล่า”

    “อืม...ก็มีนะ คนๆนั้นเค้าเป็นอาของลูกๆ เขาตายไปนานแล้ว”

    “ต...ตายไปแล้วหรอครับ ถ้างั้นเค้าคนนั้นก็เป็นน้องชายของพ่อหรอ”

    ใช่แล้วล่ะ พ่อเคยพาลูกไปไหว้หลุมศพเขาตอนลูกกำลังเด็กๆ คงจะจำไม่ได้”

    “น่ะ...นั่นสินะครับ แล้วหลุมศพอาอยู่ที่ไหนหรอครับ”

    อยู่แถวๆชานเมืองน่ะ จะไปเยี่ยมอาหรอ”

    “ครับ...”

    “จริงๆลูกกับอาก็อายุไม่ต่างกันมากเท่าไหร่หรอก เรียกว่าพี่ก็ได้ พี่เขาชื่อแบคฮยอนนะลูก”

    “ครับ...พี่แบคฮยอนสินะ”

    “พ่อก็ไม่ได้ไปเยี่ยมเขานานแล้ว ฝากลูกไปทักทายด้วยนะ พ่อต้องวางสายก่อน แค่นี้นะลูกรัก”

    “บ๊ายบายครับพ่อ รักพ่อนะครับ”

     

     

    เป็นแบบนี้เองหรอ....

    มีคนที่หน้าเหมือนเขาและพี่ป๋ายเซียนจริงๆด้วย แถมยังเป็นน้องของพ่ออีกต่างหาก

    แบคฮยอน...ชื่อที่พี่เซฮุนคอยพร่ำบอกตลอดตอนที่เขานอนแล้ว

     

    พี่เซฮุน...รักพี่แบคฮยอนใช่มั๊ยครับ

     

    แค่ชื่อก็ยังคล้ายกันเลย...นี่พระเจ้าเล่นตลกอะไรกับเขากันแน่...

    อยากจะเกลียดพี่เซฮุน...ทำไมต้องทำให้เขาเป็นตัวแทนของคนที่ตัวเองชอบ

    ทำไมต้องให้เขาเป็นคนที่มีความทุกข์และความสุขที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกขนาดนี้ด้วย

     

    นิ้วเรียวจิ้มโทรศัพท์ไลน์ไปหาคนที่กำลังจะพยายามตัดใจ คิดทบทวนดีแล้วจึงกดส่ง

     

     

    วันนี้ผมไปร้านพี่ซูโฮนะครับ

     

     

    กรุ้งกริ๊งๆๆ.....

    ประตูร้านชานมดังขึ้นพร้อมกับคนตัวเล็กเดินเข้ามาในร้าน พนักงานทุกคนยิ้มต้อนรับกันอย่างดีใจที่แพคฮยอนมาหา เกือบอาทิตย์แล้วที่แพคฮยอนไม่ได้เข้ามาช่วยงานในร้านเพราะงานที่มหาลัยเยอะและก็เกิดเรื่องต่างๆมากมาย บรรยากาศร้านไม่ได้เปลี่ยนไปมากนัก พี่เทา พี่ซิ่วหมิน พี่เฉิน ยังคงทำหน้าที่เป็นบาริสต้าตามปกติ และแพคฮยอนคิดว่าพี่ซูโฮคงนั่งอยู่หลังร้านเพื่อทำบัญชีดูงบกำไรขาดทุนอยู่แน่ๆ

     

    “ไม่ได้แวะมานานเลยนะเรา คิดถึงจังเลย” รุ่นพี่ตัวเล็กแต่มีอายุมากที่สุดในร้านเอ่ยทักทายทั้งๆที่ในมือก็ทำออร์เดอร์ให้ลูกค้าไปด้วย

    “แพคฮยอนคนน่ารักของเรากลับมาแล้ว อยากกินอะไรมั๊ยเดี๋ยวพี่ทำให้” เฉินก็รีบทักทายตามมา ริมฝีปากที่คล้ายกับว่ากำลังยิ้มอยู่ตลอดเวลานั่นยิ้มกว้างขึ้นไปอีกเมื่อแพคฮยอนพยักหน้าตอบ

    “หายไปนานเลย ลูกค้าหนุ่มๆก็พลอยจะลดลงไปด้วย” เสียงเทาดังขึ้นมาจากตู้ขนม คงจะเอาขนมไปใส่ไว้ในตู้แน่ๆเลย อ่า...ขนมน่ากินชะมัด

    “ไม่หรอกครับพี่เทา ผมเป็นผู้ชายนะ ต้องลูกค้าผู้หญิงลดลงสิถึงจะถูก”

    แพคฮยอนพูดแซวกลับแล้วก็หัวเราะร่า เอากระเป๋าไปเก็บหลังร้านแล้วเดินออกมาช่วยเก็บแก้วเก็บจานบนโต๊ะที่ลูกค้าลุกออกไปแล้ว แต่ไม่ได้เปลี่ยนเครื่องแบบ

    “วันนี้จะมาช่วยงานเต็มวันมั๊ย จะบอกพี่ซูโฮให้” พี่ซิ่วหมินพูดพลางเหลือบมองเข้าไปในห้องที่พี่ซูโฮอยู่

    “ไม่หรอกครับ ผมมาหาพี่ป๋าย มาๆผมช่วยเช็ดโต๊ะนะ”

     

    “ป๋ายเซียนออกไปซื้อแป้งกับผงกาแฟมั้ง เดี๋ยวก็คงกลับมา” เฉินพูดก่อนจะยกชาร้อนแก้วเล็กที่ชงให้แพคฮยอนมาวางให้บนเค้าเตอร์

    “ครับ พี่แพคฮยอนก็อยู่ ลูกค้าผู้ชายคงไม่ลดลงอย่างที่พี่เทาว่าหรอกมั้ง คิกๆ”

    “ลูกค้าหนีกระเจิงสิไม่ว่า รายนั้นมันก็แก่นกะโหลกเกินไป พี่น้องกันแท้ๆทำไมนิสัยไม่เหมือนกันเลยนะ อย่างกับสีขาวสีดำ” เทาพูดพลางส่ายหัวอย่างเอือมระอา

     

    “นินทาอะไรผมครับพี่เทา ได้ยินนะ -____-“ จู่ๆคนที่กำลังถูกนินทาก็ปรากฏตัวขึ้นกะทันหัน ทำเอาขาเม้าท์แตกกระเจิงไปคนละทิศคนละทาง

    “เปล๊า! นี่ๆ แพคฮยอนมาหานายแน่ะป๋ายเซียน” เทารีบพยักเพยิดชี้นิ้วให้ป๋ายเซียนดูว่าแพคฮยอนมาหา

    “น้องแพคอ่า มากอดที คิดถึงจังเลยยยยยย” คนเป็นพี่วางถุงแป้งกับเนยลงแล้ววิ่งมากอดน้องรักด้วยความคิดถึงท่ามกลางเสียงหัวเราะและรอยยิ้มของคนในร้าน

    “คิดถึงจังเลยครับ ^^ พี่ยุ่งอยู่รึเปล่า ผมมีเรื่องจะคุยด้วย”

    “ไม่ยุ่งหรอก มีอะไรจะคุยหรอ ไปข้างหลังร้านกันดีกว่า”

    ป๋ายเซียนรีบกอดเอวแพคฮยอนเข้ามาหลังร้านแล้วปิดประตูอย่างแน่นหนา ยืนมองน้องชายยิ้มๆรอฟังสิ่งที่แพคฮยอนกำลังจะพูด

     

    “พี่ป๋าย...วันหยุดนี้ไปที่ๆหนึ่งกับน้องแพคได้มั๊ยครับ...”

    “หืม จะไปไหนล่ะเรา เดี๋ยวพี่ไปเป็นเพื่อน อยากไปเที่ยวหรอ”

    “เปล่าครับ...ไม่ได้จะไปเที่ยว คือ...จะไปเยี่ยมหลุมศพน่ะ”

    “หลุมศพ? ใครหรอ”

    “หลุมศพอาของพวกเราเองครับ...”

    “อา? ห้ะ อาคนไหน” ป๋ายเซียนยืนอึ้งกับสิ่งที่แพคฮยอนบอก พวกเขามีอาด้วยหรอเนี่ย

    “น้องชายของพ่อเราไงครับ อาเขาตายตั้งแต่ตอนที่พวกเราเป็นเด็กๆ พ่อบอกแบบนั้น...คือแพคโทรไปหาพ่อมา”

    “แล้วทำไมน้องแพคอยากไปเยี่ยมหลุมศพอาล่ะ”

    “น้องแพค...อยากไปพิสูจน์บางอย่าง...น้องแพคคิดว่า อาของพวกเรา...หน้าเหมือนพวกเรามากเลย”

    “ฮ่าๆๆ น้องแพคฝันรึเปล่า ยังไม่เคยเห็นหน้าอาของพวกเราเลย รู้ได้ไงว่าหน้าเหมือนพวกเรามาก”

    “น้องแพคถึงอยากไปพิสูจน์ไง วันหยุดนี้ไปกับน้องแพคนะพี่ป๋าย” แพคฮยอนพูดด้วยสีหน้าจริงจังจนทำให้คนเป็นพี่ขัดไม่ลง จำเป็นต้องตอบตกลงไปอย่างไม่มีข้ออ้าง

    “โอเคๆ พี่จะไปกับน้องป๋ายครับ^^

     

     

    ผมอยากจะ...ไปเจอคนที่เป็นญาติ...และเป็นทั้งคนรักของพี่เซฮุนซักครั้ง

    อยากไปเจอคนที่พี่เซฮุนรักเขาจริงๆ

    ถึงแม้...เขาคนนั้นจะไม่มีลมหายใจไปแล้วก็ตาม

     



    *******************************************************


    มาอัพฉลองปีใหม่ เย้ๆๆๆๆๆ จุดพลุ ฟิคนี้ดองข้ามปี ปีใหม่แล้วก็ยังแต่งไม่จบ 5555555555 สำหรับเรื่องอื่นๆยังไงก็รอหน่อยนะคะ จะทยอยอัพนะ เอนจอยรีดดิ้งค่ะ

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×